Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: zero ที่ พฤษภาคม 21, 2011, 19:40:36
-
สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ.ผมอยากขอคำแนะนำเลือกรถมือสองระหว่าง
pjs 3.2 ปี 09 กับ fortuner 3.0 v ปี 06 หน่อยครับ
ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงรุ่นไหนแพงกว่ากันครับแล้วเครื่อง 3.2 กินน้ำมันมากไหมครับ.
-
สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ.ผมอยากขอคำแนะนำเลือกรถมือสองระหว่าง
pjs 3.2 ปี 09 กับ fortuner 3.0 v ปี 06 หน่อยครับ
ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงรุ่นไหนแพงกว่ากันครับแล้วเครื่อง 3.2 กินน้ำมันมากไหมครับ.
โห มวยคนละปีเลยนะ
ถ้าคุณยกPJS คงได้เปรียบในเรื่องความสด แถมการใช้งาน ห้องโดยสารน่าจะได้กีกว่า
แต่ถ้าจะเอา น้องจูน เอ่อ ขอปีที่ไกล้เคียงกว่านี้ได้ไหม เพราะ ลำพังแค่เบรกนี่ PJSก็ ตบหัวกระเด็นแล้ว
-
Fotuner ปี06 ไม่แนะนำเลยครับ มีปัญหาเรื่องเบรค ช่วงล่างก็รับไม่ไหว
อย่างน้อยต้อง Minor Change แล้วครับ
-
ขอราคาเป็นตัวแนะนำด้วยนะ
-
จากมวยคู่นี้ถ้าเรื่องซ่อมบำรุงในช่วงระยะนี้ยังไง PJS ก็ได้เปรียบกว่ามากครับ
เพราะว่ารถยังค่อนข้างใหม่อยู่เลย แต่ก็ต้องดูไมล์ที่วิ่งด้วยนะครับ
ส่วน Fortuner นี่ก็อาศัยอะไหล่เทียบค่อนข้างเยอะเลยครับ ก็อาจจะช่วยประหยัดได้เหมือนกัน
แต่อายุรถประมาณ 5 ปี ก็คงได้ไล่เปลี่ยนพวกช่วงล่างหลายตัวอยู่เหมือนกัน(ประสบการณ์จาก Vios)
-
พวงมาลัย pjs หนักแน่น มั่นคงกว่า 140 ยังนิ่ง แต่ fjn เริ่มสั่น ช่วงล่าง pjs หนึบกว่า fjn นิ่มกว่า ที่นั่งหน้าสุด สบายพอกัน ที่นั่งแถวที่ 3 pjs กระเด้งกว่า fjn มาก เครื่อง 3.2 ของ pjs แรงโคตร ๆ แถมใช้โซ่ด้วย แต่เสียงก็ดังโคตร ๆ เหมือนกัน fjn เครื่องต่อเนื่องไหลลื่น ใช้สายพานไทม์มิ่ง เปลี่ยนทุก 150,000 กม. ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000-7,000 บาทมั้ืง จำไม่แม่น เกียร์ fjn ต่อเนื่อง ไหลลื่นดีกว่า แต่ ระบบขับเคลื่อน 4x4 pjs สลับซับซ้อนและน่าทึ่งกว่า เพราะ pjs มีขับ 2 ขับ4 full time (c/d lock) และมี 4 hi 4 low แต่ fjn มีแต่ ขับ 4 full time 4 hi 4 low เรื่องเข้าโค้ง เวลาคนนั่งเต็ม 7 ที่นั่ง pjs มั่นใจกว่ามาก fjn เหมือนมันเอียงข้างจนน่ากลัว ต้องผ่อนคันเร่งเลย เรื่องเบรค ต้องยอมรับว่า pjs ดีกว่าเลยคับ แต่ว่า fjn ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ เข้าไปที่ศูนย์ บอกว่าให้ตั้งเบรคหลังกระชับเพิ่มอีกหน่อย โดยดูจากระดับคันเบรคมือในรถ คือถ่้ากระชับพอเนี่ย เบรคมือจะตึงเร็วมาก (อธิบายไงดี คือ ดึงนิดเดียวก็สุดแล้วอ่ะคับ) เปลี่ยนผ้าเบรคหน้า เป็นแบบมีผงทองแดงอยู่ด้วย ส่วนเรื่องโช็คอัพ pjs ใช้ของ tokico รั่วเร็วมาก ของ fjn ทนกว่าพอสมควร (ตัว trd ใช้ tokico ตัวธรรมดา ใช้ kyb) ถ้าเข้าศูนย์ และซ่อมบำรุงตามคู่มือตลอด ทนทานทั้งคู่ครับ นึกอะไรออกแล้วจะมาบอกต่อ
-
ที่เคยตอบไปทีในกระทู้ท่านอื่นว่าผมซื้อ PJS, Everest และFortuner เข้าบริษัทตัวเองมาใช้อย่างละคัน
ขอตอบสั้นๆว่าตอนนี้ผมใช้แค่ PJS กับ Everest ส่วน Fortuner จอดทิ้งเรียบร้อย
ส่วนที่ถามมาไม่มี Everest ด้วยก็จะเหลือแค่ PJS
ข้อดีคือนั่งสบาย เกาะ เบรคดีกว่า
ส่วน Fortuner ไม่เห็นข้อได้เปรียบ
-
ถ้าซีเรียสเรื่อง ค่าซ่อมบำรุง และอัตราการบริโภคน้ำมัน
ผมว่า Pajero sport คงจะสู้ Fortuner ไม่ได้กระมังครับ :-\
-
ลองหาโดย Google ดู
Mitsubishi Pajero sport 3.2 ในเมือง 9 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 11 กิโลเมตรต่อลิตร
TOYOTA Fortuner 3.0V ในเมือง 8 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 11 กิโลเมตรต่อลิตร
ระยะยาวค่าซ่อมบำรุงรุ่นไหนแพงกว่ากัน?
TOYOTA Fortuner 3.0V แพงกว่าครับ อายุเยอะแล้วต้องเปลี่ยนเยอะครับ
ราคาต่างกัน Fortuner ถูกกว่า 100,000 บาท แต่อายุต่างกันถึง 5 ปี
Mitsubishi Pajero sport 3.2 ราคา 950,000 บาท
TOYOTA Fortuner 3.0V ราคา 850,000 บาท
ผมแนะนำ Mitsubishi Pajero sport 3.2 ใหม่กว่า ขับสบายกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียกลางทางครับ
;D ;D ;D
-
ที่บ้านมี fortuner 3.0 รุ่นแรกอยู่ครับ ปี 06-07 นี่แหละ จำไม่ได้
เบรคถ้ามาเร็วๆเอาไม่อยู่จริง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมอาศัยปรับตัวเอา ทิ้งระยะเยอะหน่อย
กินน้ำมันในเมือง 7-9 โลลิตร ก็เหมาะสมนะ ตัวใหญ่ขนาดนั้นจะให้จิ๊บๆก็เวอร์ไปหน่อย
ส่วนซ่อมบำรุง เข้าศูนย์ตลอด ยังไม่เจออะไรเสียหนักๆเลย ช่วงล่างยังอึดดีอยู่ส่วนนึงเพราะใช้ในเมืองไม่ได้เอาไปลุยที่ไหน
ถ้าได้ราคาดีตัวนี้น่าสนใจนะ แต่ถ้าเป็นคนขับรถเร็วถึงเร็วมากคันอื่นน่าจะเหมาะกว่า