Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lexus ที่ มิถุนายน 07, 2011, 13:38:58
-
ควรจะล้างทุกกี่กิโล หรือกี่ปี่ครั้งครับ (soluna vios แม่ผม7ปี 80,000กว่าโล ยังไม่เคยล้างเลย)
แล้วล้างกับศูนย์ กับอู่นอกอันใหนดีกว่ากัน (และราคาต่างกันมากรึเปล่า)
แล้วการล้างมีกี่แบบครับ แล้วแต่ละแบบมีข้อดี-เสียอย่างไร เห็นมีแบบถอดตู้มาล้างกับไม่ถอด(ผมเข้าใจถูกรึเปล่า)
แล้วรถ7ปี 80,000กว่าโลมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนต้องซ่อมบ้างรึป่าวคับ จะเอารถไปเข้าสูนย์เย็นนี้แล้ว (จะได้เตรียมเงินถูก)
แล้วอีกนิดคือ ปกติผมจะเปิดแอร์แบบอากาศหมุนเวียนในรถ แต่ขับผ่านตรงที่เค้าเผาหญ้าข้างทางทำไมกลิ่นควันเข้ามาในรถครับ ตอนรถใหม่ๆไม่เป็น??
-
แล้วอีกอย่างที่ผมสังเกตุคือ เวลาเช้าๆอากาศชื้นๆ หรือหลังฝนตกใหม่ๆ เวลาถอยรถแล้วแตะเบรกจะมีเสียง อื๊ดดด...... อะครับ (ผิดปกติรึป่าว เป็นมานานจนชินไปแล้ว)
-
- ถ้าวิ่งในเมือง ส่วนมาก 1-2 ปี ล้าง
- ศูนย์เคยบอกราคาผมไว้ ถ้าล้างแบบถอดคอนโซล รื้อออกมาทั้งตู้ ราคา 4 พันกว่าบาท และต้องทิ้งรถไว้ 2 วัน
ส่วนร้านข้ัางนอก ทำแบบเดียวกัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,800-2,000 บาท ใช้เวลา 2-3 ชม.
- รถรุ่นนี้รื้อไม่ยาก ช่างแอร์ที่ไหนก็ทำได้ ขอแค่ถอดอย่างระมัดระวัง ก็ไม่มีปัญหา
ทำข้างนอก ถูกกว่า เร็วกว่า และได้ดูช่างถอดอย่างใกล้ชิด
- ล้างแบบถอดตู้ดีกว่าพวกล้างไม่ถอดเพราะมันจะสะอาดทั่วถึงกว่า
ล้างแบบไม่ถอด มันเหมาะสำหรับคนที่ล้างเป็นประจำทุกๆ ปี
- ส่วนรถ 7 ปี ส่วนมากก็เช็คทั้งระบบ ดูน้ำยา เปลี่ยนไดเออร์ เช็คการทำงานของคลัชคอมแอร์ เปลี่ยนโอริงตามจุดต่อ และ เช็ค-เปลี่ยนรีเลย์แอร์ (รถรุ่นนี้เกินแสน ส่วนใหญ่รีเลย์เสื่อม)
- บานพับช่องลม สลิงยึดไม่สนิท สามารถปรับตั้งได้ แต่ต้องรื้อคอนโซลออกมา
แนะนำให้ปิดตายไปเลย เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เปิดเอาอากาศภายนอกเข้ามาอยู่แล้ว
-
7ปี 8แสนกว่าโล :o
ขับประมาณปีล่ะแสนกว่า เดือนล่ะหมื่นโล เลยน่ะครับนั่น รถเซลยังวิ่งกันไม่ถึงขนาดนั้นเลย :o
แทบไม่เคยได้เห็นรถเบนซินเดิมๆวิ่งถึง 1ล้านเลย แถมยังอายุไม่ถึง10ปีอีก
ส่วนเรื่องล้างแอร์ไปร้านข้างนอกถอดล้างดีกว่าครับ ถ้าวิ่งมา 8แสนกว่าโลขนาดนี้แล้ว :P
-
พิมผิดครับๆ 80,000โลครับ 55555
-
ผมว่าเดี๋ยวนี้ศูนย์พยามยามเชียร์ให้ล้างตู้ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันไม่จำเป็นเลย
เมื่อก่อนบริษัทรถขายรถแบบไม่ใส่กรองแอร์มาให้ ทำให้แอร์ตันเร็วมาก ล้างตู้แอร์กันจนเป็นเรื่องปกติ
หลังๆลูกค้าบ่นกันเยอะ รถมีช่องใส่แต่ดันไม่ใส่กรองมาให้ เหมือนจงใจให้แอร์ตันเร็ว
บริษัทรถเลยใส่มาให้ตั้งแต่ออกรถกันเลย
ถ้ารถมีกรองแอร์แล้วเปลี่ยนกรองบ่อยๆ เปิดแอร์แล้วเย็นปกติ ไม่มีกลิ่นมารบกวนใจ ผมว่าไม่จะเป็นต้องล้างตู้แอร์เลยด้วยซ้ำ
รถผม Civic ES ตาเหยี่ยว 7 ปีกว่า วิ่งไปเกือบ 2 แสนโลแล้ว ยังไม่เคยล้างตู้เลยซักครั้ง ทุกวันนี้ยังเย็นปกติ
คันนี้ตอนออกมาใหม่ ไม่มีกรองแอร์มากับรถ ผมดัดแปลงเอาใส้กรองเครื่องฟอกอากาศมาใส่ เปลี่ยนทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่าลมแอร์เริ่มเบา
เคยไปเปลี่ยนคลัชของคอมแอร์ 1 ครั้งที่ราชันแอร์ ตอนประมาณ แสนห้า ช่างดูตู้แอร์บอกว่าไม่จำเป็นต้องล้างเพราะว่ามีกรองแอร์แล้ว ฝุ่นไม่เยอะ
ถ้าเป็นที่อื่นคงเชียร์ให้ล้างตู้แอร์ด้วย :P
ทุกครั้งที่ผมเอารถเข้าศูนย์พนักงานรับรถจะแชร์ให้ผมล้างตู้แอร์ประจำ จนหลังๆ ผมมักจะบอกว่าพึ่งล้างไปเมื่อคราวที่แล้ว
ล้างครั้งนึงไม่ใช่ถูกๆ นะ 1800 - 4000 เหมือนที่คุณ GUDJA-MAN บอกไว้
ผมคิดว่า vios ของ จขกท น่าจะใส่กรองแอร์ ได้เหมือนกัน ถ้าล้างแล้วใส่กรองไว้และหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ ผมว่าใช้ยาวเลย
-
ขอนอกประเด็นนิดนึง
รายงานความคืบหน้าคับ ขณะนี้อยู่ที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งเอารถมาเชคระยะ80000โล
ที่จริงต้องเชค85000 แต่ขณะนี้รถแม่ผม81000 พนักงานโทรมาบอกให้ไปเชคแล้วรอบนึงแต่แม่ผมบอกยังไม่ถึง85000โล เลยยังไม่เอามาเชค แต่ผ่านมาซักระยะก็โทรมาอีกบอกรถถึงเวลาที่ควรเข้าเชคได้แล้ว (84เดือน) แม่ผมเลยให้เอาเข้ามาเชควันนี้ พนง.ก็บอกราคาคร่าวๆมาที่6700บาท สำหรับการเชคระยะและการเปลี่ยนู่นนี่นั่น แต่พนง.ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดทั้งหมดว่าแต่ละอย่างราคาจริงๆเท่าใหร่ ให้ใบใบนึงมาเรวมค่าต่างๆแล้วในใบนั้นไม่ถึง3000 แต่พอไปถามบอกอันนี้เป็นใบราคาคร่าวๆ เด๋วเสร็จแล้วจะมีใบราคาจริงมาให้ดู ผมละงงเลย มีแบบนี้ด้วย (ไม่ได้รวมล้างแอร์นะครับ)
เพื่อนๆพี่ๆว่าแพงมั๊ย
ปล.ผมพกตังมาห้าพันห้าเอง
-
ผมว่าแพงนะ แต่ต้องดูรายละเอียดว่าทำอะไรบ้าง
ศูนย์รถเดี๋ยวนี้พยายามเชียร์ให้ทำโน้นทำนี่เกินความจำเป็น
ปกติผมยึดคู่มือรถเป็นหลักว่าเท่าไหร่ควรจะเปลี่ยนอะไรบ้าง
แล้วที่มาอ้างว่า 84 เดือนผมว่าแปลกๆ นะ ถ้ารถคุณพึ่งถ่ายน้ำมันเครื่องไปเมื่อเดือนที่แล้ว เดือนนี้จำเป็นต้องทำอีกเหรอ?
เขาควรยึดเวลาจากครั้งสุดท้ายที่ทำมากกว่า เวลาตั้งแต่ออกรถ
-
ผมว่าถ้าลมแอร์เริ่มเบา ก็ล้างเถอะครับ ล้างกับช่างข้างนอกดีกว่าครับ เร็วด้วย
วันก่อนล้างของสตราด้า ฝุ่นหนาเป็นแผ่นเลย ประมาณ 2 ชั่วโมงเสร็จ (ล้างเองนะครับ)
แต่หาร้านที่ดูมาตรฐานหน่อยนะครับ เพราะบางทีเขาอาจะฟันราคาพี่โดยทำทีว่าไอ้นั่นเสีย ไอ้นี่เสียได้นะครับ
---------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่รู้ว่าจะถูกรึเปล่า ;D ;D
-
ผมว่าเดี๋ยวนี้ศูนย์พยามยามเชียร์ให้ล้างตู้ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันไม่จำเป็นเลย
เมื่อก่อนบริษัทรถขายรถแบบไม่ใส่กรองแอร์มาให้ ทำให้แอร์ตันเร็วมาก ล้างตู้แอร์กันจนเป็นเรื่องปกติ
หลังๆลูกค้าบ่นกันเยอะ รถมีช่องใส่แต่ดันไม่ใส่กรองมาให้ เหมือนจงใจให้แอร์ตันเร็ว
บริษัทรถเลยใส่มาให้ตั้งแต่ออกรถกันเลย
ถ้ารถมีกรองแอร์แล้วเปลี่ยนกรองบ่อยๆ เปิดแอร์แล้วเย็นปกติ ไม่มีกลิ่นมารบกวนใจ ผมว่าไม่จะเป็นต้องล้างตู้แอร์เลยด้วยซ้ำ
รถผม Civic ES ตาเหยี่ยว 7 ปีกว่า วิ่งไปเกือบ 2 แสนโลแล้ว ยังไม่เคยล้างตู้เลยซักครั้ง ทุกวันนี้ยังเย็นปกติ
คันนี้ตอนออกมาใหม่ ไม่มีกรองแอร์มากับรถ ผมดัดแปลงเอาใส้กรองเครื่องฟอกอากาศมาใส่ เปลี่ยนทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่าลมแอร์เริ่มเบา
เคยไปเปลี่ยนคลัชของคอมแอร์ 1 ครั้งที่ราชันแอร์ ตอนประมาณ แสนห้า ช่างดูตู้แอร์บอกว่าไม่จำเป็นต้องล้างเพราะว่ามีกรองแอร์แล้ว ฝุ่นไม่เยอะ
ถ้าเป็นที่อื่นคงเชียร์ให้ล้างตู้แอร์ด้วย :P
ทุกครั้งที่ผมเอารถเข้าศูนย์พนักงานรับรถจะแชร์ให้ผมล้างตู้แอร์ประจำ จนหลังๆ ผมมักจะบอกว่าพึ่งล้างไปเมื่อคราวที่แล้ว
ล้างครั้งนึงไม่ใช่ถูกๆ นะ 1800 - 4000 เหมือนที่คุณ GUDJA-MAN บอกไว้
ผมคิดว่า vios ของ จขกท น่าจะใส่กรองแอร์ ได้เหมือนกัน ถ้าล้างแล้วใส่กรองไว้และหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ ผมว่าใช้ยาวเลย
เห็นด้วยเลยครับแอร์รถนี้จริงๆถ้าล้างไม่ถอดโอกาสจะอุดตันและไม่สะอาดสูงมากจริงเปลี่ยนกรองแอร์ประจำและถ้าไม่มีอาการอย่าไปยุ่งกะมันเลยครับ
-
วีออสใหม่มีกรองแอร์มาแล้วครับ ถ้าแอร์เบา เข้าศูนย์เบิกเปลี่ยนใหม่ได้ไม่แพง
ล้างแอร์ โตโยต้า อู่ทั่วไป อู่แท็กซี่ อย่างถูกสุดที่เคยเจอ และฝีมือไม่ได้แย่ด้วย 1600 ครับ นี่ล้างแบบรื้อคอนโซลหมดเลยนะครับ
ไม่แนะนำให้ล้างแบบไม่ถอดตู้ครับ อยู่ได้ไม่นานก็ต้องล้างอีก แถมอีกด้านที่ไม่ถูกล้างยังฝุ่นสะสมเยอะกว่าเดิม
-
การล้างแอร์ ผมว่าควรจะล้างทุกปีครับ
เป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ เพราะยิ่งเราทิ้งสิ่งสกปรกไว้นานเกินไป อาจจะทำให้คอมผุได้นะครับ
;D
-
ผมล้างที่อู่นอก ราคาสองพันถ้วนครับ หลายปีมากๆถึงล้าง
ที่ล้างเพราะว่าตู้มันตัน ทำให้แอร์มันไปออกด้านล่างแทน (แอร์ออกที่ช่องเบา) แค่นั้นครับ
ช่างที่ล้างก็บอกไม่จำเป็นเช่นกัน ไว้มันตันค่อยล้างครับ แต่รถเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ตันกันง่ายๆ บางคนใช้จนขายไม่เคยล้างเลยก็มีครับ
-
บ้านผมขี้ร้อนครับเลยล้างปีละครังกลัวร้อนตายในรถเวลาแอร์เสีย เคยครั้งนึงแอร์เสียที่ประจวบ ต้องทนขับแบบไม่มีแอร์กลับกทม แถมเป็นรถตู้อีกผมเป็นคนขับเปิดหน้าต่างซะสุดลมโดนแต่แขน :'( คนนั่งข้างหลังหัวฟูเลย ;D อย่างเซ็งครับ อาจดูสิ้นเปลืองแต่เพื่อความสบายใจครับ
-
ถ้ามีกรองแอร์ก็เปลี่ยนแค่กรองก็พอ
แต่ถ้าไม่มีก็ต้องดูสภาพว่าแย่แค่ไหน
รถผมใส่กรองแอร์ 7.5ปีแล้วยังไม่ล้างแอร์ ไม่ทำอะไรกับระบบแอร์เลยเปลี่ยนแต่กรอง
-
โปรแกรมล้างตู้แอร์ ชุโปรโมชั่นแบบประหยัด 500 บาท มี ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1 ส่องกล้องเข้าไปดูตู้แอร์ก่อนล้าง
2 ล้างด้วยน้ำแรงดันสูง (เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ด้านหน้า หลุดออกก่อนใช้น้ำยาล้าง)
3 ฉีดน้ำยาย่อยสลายสิ่งสกปรกที่ฝังติดแน่น
( สูตรเฉพาะสำหรับรถยนต์โดยตรงไม่เป็นอันตรายต่อโลหะ ตู้แอร์ แผงแอร์)
4 ล้างออกด้วยน้ำแรงดันสูงต้องใช้เวลานานหน่อยเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารเคมีใดๆหลงเหลืออยู่
5 ล้างด้วยน้ำร้อนแรงดันสูง อุณภูมิสูงกว่า 60-80องศา
6 ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และฆ่าเชื้อโรค
7 ล้างพัดลม โบโว่ ที่ถอดออกมาจากตู้แอร์ ด้วยน้ำแรงดันสูง พร้อมเป่าลมแรงให้แห้งสนิท
8 ล้างแผงหน้าหม้อน้ำด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง โดยที่ครีบแผงไม่ล้มพับ
9 ตรวจเช็คน้ำยาแอร์ พร้อมตรวจหารอยรั่ว
(หากประสงค์ อบโอโซนด้วยเครื่อง กรุณาแจ้งพนักงาน บริการฟรีครับ)
ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือ 20,000 กม.เพื่อสุขภาพที่ดี
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.mengcaraudio.com/default.asp?content=home (http://www.mengcaraudio.com/default.asp?content=home)
ผลงานบางส่วนครับ
http://www.cefiro-ff-club.com/.../index.php?topic=32153.new#new (http://www.cefiro-ff-club.com/.../index.php?topic=32153.new#new)
ข้อดีของการล้างแอร์ด้วยเครื่อง
1. ไม่ต้องปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้ง เพราะการปล่อยน้ำยาแอร์ทิ้งจะทำให้น้ำมันคอมไหลออกมาด้วย
2. ไม่ต้องรื้อคอลโทรล เพราะการรื้อส่วนต่างๆอาจจะทำให้เกิดประกอบไม่เหมือนเดิม
3. ไม่ต้องเสียเวลานานๆ รอรับได้เลยไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
4. สามารถป้องกันเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในคอยล์เย็นได้ โดยแพทย์บ้างท่านจะให้ความสำคัญในการดุแลรักษาความสะอาดในรถมากจนบางครั้ง ต้องแนะนำให้คนไข้ลองมาล้างแอร์รถยนต์ เผื่ออาการระบบหายใจอาจจะดีขึ้นก็เคยมีมาแล้วครับ
5. สามารถล้างได้บ่อยๆไม่จำเป็นต้องรอให้ครบปี เพราะราคาไม่แพง ใช้เวลาน้อย
6. ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ไม่กัดกร่อนตู้แอร์และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
7. ยืดอายุตู้แอร์รถยนต์ หรือ คอยล์เย็นในรถที่ท่านรัก
8. พร้อมกล้องส่องดูความสะอาดทั้งก่อนล้างและหลังล้างเพื่อให้ท่านแน่ใจ
9. หลังล้างเสร็จมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ อีกครั้งทุกๆคันครับ
10. หากประสงค์ที่จะอบโอโซน กรุณาแจ้งพนักงานได้เลยครับบริการฟรี แต่กรุณาศึกษาตามลิ้งนี้ก่อนก็ดีนะครับ
เพราะผมไม่อยากให้เอาคำว่า โอโซน มาเป็นจุดเพิ่มยอดขาย หรือ บริการ ครับ
11. สะอาด 100% รับประกันผลงานหาก ตู้แอร์ตัน ลมไม่ออก ออกน้อย เพราะตู้แอร์สกปรก ล้างฟรีครับ
ข้อเสีย ของการล้างแอร์ด้วยเครื่อง ของทุกอย่างมีข้อดี ย่อมมีข้อเสีย
1. การล้างแอร์ด้วยเครื่อง ทำให้เราไม่สามารถ ปัดเป่าเช็ดถู ตามท่อส่งลมได้
2. การล้างแอร์ด้วยเครื่อง ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นตู้ได้ด้วยตาเปล่า นอกจากกล้องผ่านจอทีวีเท่านั้น
3. การล้างแอร์ด้วยเครื่อง ทำให้เราไม่สามารถทราบว่าตู้แอร์รั่วอยู่แล้ว หรือไม่ นอกจากถอดล้างเท่านั้น
ที่จะทำให้ช่างนำตู้ไปถ่วงน้ำเช็ครั่วได้ ก่อนประกอบครับ
***ข้อเสียที่ผมพอจะหาได้มีเพียงเท่านี้ครับ*
ติดตามข้อมูลได้ที่ ร้าน เม้งคาร์ออดิโอ 081-8480072,02-9664791
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ http://www.mengcaraudio.com/default.asp (http://www.mengcaraudio.com/default.asp)
แอร์ไม่เย็น ซ่อมแอร์รถยนต์ ล้างแอร์ด้วยเครื่อง 500บาท เติมน้ำยาแอร์ฟรี ร้านเม้ง
ล้างแอร์รถยนต์ ร้านเม้ง9 (http://www.youtube.com/watch?v=M2FOCIZGruk#ws)