Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Chanissara ที่ มิถุนายน 07, 2011, 16:51:34

หัวข้อ: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Chanissara ที่ มิถุนายน 07, 2011, 16:51:34
สีดำ สวย เข้ม ดูเท่ห์ ดุดัน กริ๊บ!
ยิ่งได้ล้างขัดเคลือบแล้วด้วยนะ แววม๊ากกกกกกกกกกก แววมากขนาดไหนเหรอค่ะ ขนาดเอาเสื่อนั่งข้างประตูรถส่องแต่งหน้าได้เลยอ่ะ ^0^

แต่.... คุณค่ะ.. ดูแลยากจัง

ตอนเธอเปื้อนด้วยอะไรนิดหน่อย เราเอามือปัดเบาๆ เธอยังเป็นรอยเลยอ่ะ มือเราก็อ่อนนุ่มนะ (คิดว่า 555) แล้วเวลาปัดเธอนะเราปัดเบามากเลยนะ เบาอย่างกะปัดก้นเด็กทารกเลยนะ...

ตอนไปขัดเคลือบที่ร้าน ร้านเช็ดไม่สะอาดบางจุดเห็นคราบน้ำยา เราก็อุตส่าห์หาผ้าที่นุ่มที่สุด ขุดหาจากทุกมุมในตู้เสื้อผ้า ขนาดเอาเสื้อแบรนด์เนมมาเช็ดเลยนะ แถมเป็นเสื้อที่ไม่ค่อยได้ใส่ เพราะไม่ค่อยได้ซื้อแบรนด์เนม (เสียดายตังค์ ประตูน้ำเริ่ดสุด) แต่.. ก็ยังเป็นรอย -_-"

ขนาดคนเดินผ่านรถตอนรถติด ไม่รู้ว่าอะไรโดน ก็เป็นรอย "ชัดทีเดียวเชียว" ตอนนี้เวลาติดไฟแดง รถมอไซค์ผ่านหรือคนเดินผ่านนี่กลายเป็นคนวิตกจริตไปเลย กลัวรถเป็นรอย... ซะงั้น -_-"

ไปล้างเคลือบสี ร้านก็บอกว่าราคาเคลือบสีดำแพงกว่าสีทั่วไปนะ สีอื่นๆ 400 สีดำ 500 ค่ะ.....อ่อ...... ขอบคุณค่ะ T^T

เพิ่งล้างเคลือบสีเสร็จ แป๊บเดียว ฝุ่นเกาะ ก็เห็นชัดอ่ะ

ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย ถ้าหากมันทำให้เธอต้องกลุ้มใจ .. ต่อไปนี้นะ จะไม่วุ่นวาย จะไม่มารบกวนหัวใจ ไม่มาให้เห็นเลย..

ชั้นจะไม่แตะต้องเธอ ไม่เอานิ้วแตะ ไม่เอาผ้าเช็ด จะทิ้งเธอไว้งั้นแหละ ให้ฝุ่นมันเกาะ ให้มันสกปรกอย่างงั้นแหละ สกปรกเต็มที่แล้วค่อยเข้าร้านละกันนะค่ะ

ขอโทษนะค่ะ จริงๆไม่มีอะไร มาบ่นเฉยๆ คราวก่อนก็บ่นรอบนึงแระเรื่องขัดแล้วสีด้านไปเลย ^0^ ทำใจแระ สีนี้ถ้าเคลือบอะไรก็คงต้องใช้แบบเคลือบพิเศษกว่าชาวบ้านเค้าหน่อยค่ะ ...

ไปทำงานต่อแระ แวะมาปลดปล่อย ^0^
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:10:33
สีดำต้องเละๆ ครับ บุบเยอะๆ ลักยิ้มแยะๆ รอยขูด ถูกำแพง ถลอก ถึงจะสวยแบบเถื่อนๆ  ;D
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: SP ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:13:30
สีดำต้องเละๆ ครับ บุบเยอะๆ ลักยิ้มแยะๆ รอยขูด ถูกำแพง ถลอก ถึงจะสวยแบบเถื่อนๆ  ;D

กด like เลยครับ สวยแบบเถื่อนๆ ;D ;D
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:14:56
สีดำต้องเละๆ ครับ บุบเยอะๆ ลักยิ้มแยะๆ รอยขูด ถูกำแพง ถลอก ถึงจะสวยแบบเถื่อนๆ  ;D

ผมก็สีดำเหมือนกัน ถอยมาเพราะไม่มีให้เลือก แต่ก็เอาเถอะครับ รถใช้งาน มอมๆ แมมๆ ก็ช่างมัน

ทำใจ แล้วก็เอาไปล้างบ่อยๆ หน่อย ส่วนพวกขนแมวก็ทำเป็นไม่เห็นเสีย
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:21:50
ผมชอบจังดำด้าน
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:39:48
โชคดีที่ซื้อสีเทา
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วร
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:42:01
เบื่อเหมือนกันคับ

เบื่อออออออออออออออออออออออออที่สุด จนตอนนี้ปลงตกไปแล้ว

สวยแบบเถื่อนๆไปแล้วคับรถผมตอนนี้  ;D

เคลือบก็เดือนล่ะครั้งมากสุด มากกว่านี้เปลืองตัง !!
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:45:31
ต้องแยกออกระหว่างการเคลือบกับการขัดสีนะครับไม่เหมือนกันบางทีเราไปบอกร้านขัดเคลือบถ้าเป็นร้านประจะคงถามว่าจะขัดด้วยหรอไปเจแร้านที่
ไม่ได้สนใจอะไรมากพอบอกขักเคลือบก็โดนไปเพราะจริงๆไม่มีความจำเป็นถ้าผิวชั้นสีแล็กเกอร์ยังดีอยู่แค่เคลือบอย่างเดียวพอครับเพราะการขัดจะทำ
ให้ชั้นสีบางลงยิ่งทำบ่อยเท่าไหร่การป้องกันสีรถและชึ้นสีก็จะน้อยลงจนสีด้านในที่สุดครับเพราะฉะนั้นถ้าเป็นรอยตรงไหนก็ขัดแค่ตรงนั้นถ้ามันเยอะจริงๆ
เท่านั้นนะครับแต่ถ้าเล็กน้อยปล่อยมันไปเถอะครับเคลือบอย่างเดียวพอจริงๆแล้วถ้ามีดินน้ำมันสำหรับเอาคลาบต่างๆที่เกาะผิวออกสีจะดูสะอาดข้นมากครับ
โดยเฉพาะรถสีขาวแล้วตามด้วยการเคลือบส่วนฝุ่นเกาะอันนี้แล้วแต่คุณสมบัติของน้ำยานั้นๆครับบางยี่ห้อลื่นจนป้ายที่โฆษณาเวลาเราเติมน้ำมันวางบนฝากระโปรง
ยังวางไม่อยู่เลยครับถ้าเคลือบใหม่ๆนะส่วนยี่ห้อแล้วแต่ชอบเลยครับส่วนตัวผมชอบ Pinnacle สำหรับน้ำยาขจัดคราบและน้ำยาเคลือบส่วนพวกเคลือบเบาะกับภายใน
ชอบ meguiars ครับ น้ำยาล้างรถ Eagle one ครับ อีกยี่ห้อที่หลายคนว่าดีกันก็ Turtle Wax แต่หาใช้ยากน่าเสียดายทำตลาดมาก่อนที่กล่าวมาก่อนแบรนด์ดังๆในไทยหลายแบรนด์
แต่การตลาดน่าจะไม่ค่อยดีขายสู้เจ้าอื่นไม่ได้
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ มิถุนายน 07, 2011, 17:52:46
คุณออยลำบากหน่อย ตรงที่สีดำคันแรกก็ดันเป็นฮอนด้าเลย

จริงจริงอย่าไปเครียดมากขนาดนั้นครับ ถ้าเราเข้าใจลักษณะสีรถ เราก็จะดูแลมันได้ดีขึ้น
อย่างแรกที่ต้องรู้คือ สีฮอนด้าทำมาบาง และแลคเกอร์ก็ใจเสาะมาก อะไรนิดเดียวก็โบกมือลาทิ้งริ้วรอยไว้ให้แล้ว
ดังนั้น วิธีการดูแลรถต้องถือคติ ถ้าจะเลอะก็เลอะไปเลย ไม่ปัดทั้งสิ้น อาศัยล้างรถสัปดาห์ละครั้งก็พอ

อย่างที่สอง รอยขนแมว ยังไงก็เกิดครับ ไม่ว่าสีจะแข็งแค่ไหน เพียงแต่เกิดง่ายเกิดยากต่างกันเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าคุณออยล้างรถเอง ก็ต้องใช้ฟองน้ำนุ่มนุ่ม แล้วชุบน้ำพร้อมแชมพูบ่อยบ่อย
เพื่อที่จะล้างฝุ่นทรายที่ติดอยู่ในฟองน้ำออกไปให้ได้มากที่สุด รถจะได้ไม่เป็นรอย และการล้าง
ก็ล้างจากบนลงล่าง เพราะด้านล่างของตัวรถมีฝุ่นทรายเกาะติดอยู่มากกว่าด้านบนครับ

อย่างที่สาม การเช็ดแห้ง อย่าใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนมครับ เสียดายมันแพง
ไปเดินตามห้างแล้วหาซื้อผ้าชามัวร์สีเหลืองเหลือง เวลาใช้ก็ชุบน้ำให้มันอ่อนตัวแล้วก็เช็ดไล่ไปทั้งคันครับ
ผ้าแบบนี้จะไม่ทำให้รถเป็นรอยขนแมว เช็ดออกเบาเบาก็พอ

อย่างที่สี่ WAX มีหลายประเภทครับ ผมก็ไม่ค่อยสันทัดมาก เพิ่งจะได้ไปรับทราบจากกูรูมา
รถสีดำฮอนด้าข้อดีคือดำสนิท ดังนั้นเวลาสะอาดจะเงาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาเลือก WAX ให้เลือก
WAX ที่ไม่อมฝุ่นเข้าว่าจะดีกว่า พวกนี้จะทำให้ฝุ่นเกาะรถน้อยลง รถก็ดูสะอาดได้นานกว่าครับ
แนะนำให้เคลือบเดือนละครั้งก็พอ แล้วพอครบปีก็ขัดเคลือบลบรอยกันสักครั้งนึง

อย่างที่ห้า เปลี่ยนสถานที่ล้างรถครับ
รถบ้านผม Protege สีดำอายุ 9 ปีแล้ว และ Civic ES 2.0 สีดำเหมือนกัน อายุ 7 ปี
ไม่เคยเข้าคาร์แคร์ที่ไหนแล้วมีการบอกว่า สีดำขอคิดแพงกว่าปกติเลย เจ้านั้นขูดเลือดขูดเนื้อมากเลยครับ

แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลมากแล้วล่ะครับ

หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:25:51
สีดำเหมือนกันครับ เวลาล้าง+เคลือบแว๊กซ์เสร็จใหม่ๆนี่โอ้โหสวยจริง  :o

ขับไปข้างนอก1รอบกลับมาฝุ่นเกาะเริ่มหมอง

จอดทิ้งไว้อีกสองวันฝุ่นหนา มองเห็นได้

เอารถฝุ่นหนาไปขับเจอฝนปรอยๆ กลายเป็นคราบโคลนเห็นชัด

นั่งกุมขมับรอบหน้าไม่เอาแล้วสีดำ 

แต่พอไปเจอรถคันอื่น ใหม่ๆสวยๆสีดำเงาๆ แล้วก็อือหือ สีดำๆน่าจัดบ้างสวยจริงๆ
เสร็จแล้วกลับไปอ่านบรรทัดแรกใหม่ครับ :-X
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Life is a Highway ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:28:23
55 ผมเองก็ได้ยินอย่างนี้บ่อยๆเหมือนกัน จนตอนนี้ล้มเลิกไม่อยากได้สีดำไปเลย ถึงแม้มันจะเป็นสีถูกโฉลกที่สุดก็เถอะ  แต่

ถ้าอยากได้จริงๆคงจะเอาไปเคลือบคริสตัลล่ะครับ   ปัจจุบันผมใช้สีขาว ก็โอเคนะ โดนน้ำฝนแทบทุกวัน ลุยน้ำ โดนโคลนบ้าง

ดองไว้3อาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้แตะต้องอะไรเลย  โดยส่วนตัว ถ้าเทียบกับคันเก่าที่เป็นสีบรอนซ์แล้ว  สีขาวดูแลยากกว่าสี

บรอนซ์ ไม่มากเท่าไหร่เลย :      z,-uhgdup0  
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:31:19
ลงทุนซัก 2-3 หมื่อนเคลือบแก้วเลยครับครั้งเดียวยาวเลย
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:41:52
คิดจะใช้สีดำแบบเงางาม เหมือนคนอื่น ต้องศึกษาครับ

ซื้อสีดำมา ไม่เคยดูแล เข้าคาร์แคร์อย่างเดียว ก็ ไม่ได้เงาเหมือนคนอื่นหลอกครับ

แนะนำอีกวิธีครับ หาแฟนบ้าwax ครับ ^^ สะบาย แรง สะบายกระเป๋า รถเงาสมใจ

ถ้ายังหาไม่ได้ งบน้อย สีดำ ผมขอแนะนำ pas wax 3m เลยครับ 700 กว่าบาทใช้ได้เป็นชาติ

ลงง่าย ไม่กินแรง เช็ดออกก็ง่าย ฝุ่นก็น้อย ลงได้บ่อยๆ อาทิตย์ละ 2 ครั้งยังได้

ส่วนการล้างรถ เตรียมรถ ลองศึกษาดูนะครับแนะนำ www.thaiwashercarclub.com (http://www.thaiwashercarclub.com) ครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:46:51
ไม่ต้องอื่นไกล
ทุกวันนี้ ถ้าเป็นรถเดโม มาให้ลองขับ และเป็นสีดำ

ผมจะกลุ้มใจมาก

1. ฝนจะตกไหม รถจะเลอะไหม
2. จะถ่ายรูปยังไง.....ให้สวย

เพราะถ่ายยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เงาสะท้อน อย่างตูมมมมมม
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: naikai ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:59:25
เกือบไปเหมือนกันครับสีดำ

พอดีสีขาวมุกออกมาพอดี เลยเปลี่ยนใจครับ

ดูแลง่ายกว่ากันนิดหนึ่ง แต่สู้สีบรอนซ์เงินไม่ได้ ครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ มิถุนายน 07, 2011, 18:59:45
ถ้าไม่รักรถจริงๆอย่าใช้สีดำครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: keng. ที่ มิถุนายน 07, 2011, 19:24:26
ตอนนี้บ้านผมเลิกมองรถสีดำไปโดยปริยายครับ
เพราะดูแลยากมาก จ้างเขาล้างก็เป็นรอย ล้างเองก็ยังจะแอบเป็นอีกนะ
สรุปว่าต่อให้เราดูแลดีแค่ไหน มันก็เป็นรอยครับ แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของผู้ใช้ครับ
ต้องมีการขัด เคลือบ กันบ้าง ถึงจะช่วยไม่ให้รถมีรอยขนแมวเยอะจนเกินไปน่ะครับ :D
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ มิถุนายน 07, 2011, 19:50:05
ผมว่าจะถอยรถสีดำนะ แล้วเอาไปขูดเสาไฟฟ้าข้างละที สร้างรอยการใช้งาน แนวไปเลย  8)
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: diow_1991 ที่ มิถุนายน 07, 2011, 20:21:25
สีดำดูแลยากจริงๆ เรื่องรอยขนแมว กลายเป็นธรรมดาของสีดำอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Jae_156JR ที่ มิถุนายน 07, 2011, 20:40:12
ถ้าชอบสีเข้มจริงๆแนะนำเป็นโทน จำพวกเทาเข้มจะสวย

ส่วนผมสีดำโชคดีที่เป็นสีไม่ถูกโฉลก เลยรอดตัวไป

ปล.แต่ยอมรับ 1 เรื่องคือรถสีดำ เป็นรถที่ลง wax แล้วสวยมาก ถึงมากที่สุด

คนเล่น wax จะรู้ดีเลย

หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: nopper ที่ มิถุนายน 07, 2011, 21:33:59
ลองลงทุนจัด Pinnacle หรือไม่ก็ Blackfire Wet diamon พันกลางๆ จะหลงไหลสีดำเลยครับ แล้วฝุ่นในวันก็จะจับน้อยด้วย สีก็จะเข้มเงาจะก็ลื่นขึ้น นวลขึ้น ถึงแม้จะมีรอยแต่มันก็จะดูจางๆลง มันเซฟการเกาะแน่นของฝุ่นเวลาเราลูบด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: tg ที่ มิถุนายน 07, 2011, 21:37:17
รักที่จะสวยก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะครับ ผมก็มีรถสีดำเหมือนกันล้างมาทีดูดีได้ไม่เกิน2วัน
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: kritphakhin ที่ มิถุนายน 07, 2011, 22:33:57
นี่แหละครับมันคือศิลปะของการให้รถสีดำ ดูแลยากหน่อยแต่ก็ชอบครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Chimp ที่ มิถุนายน 07, 2011, 23:27:34
กลับกัน บ้านผม นี่ต้องสีดำทุกคัน เป็นอะไรที่ชอบกันมากครับ เวลามันเงาจัด คือ ถ้าคลั่งในสีดำนี้ ต้องขยัน ทำความสะอาดหน่อยครับ

แล้ว เคลือบ wax บ่อยๆ หน่อย ฝุ่นมันเกาะน้อยลง แต่อย่าได้ไปปัดเชียว ถ้ามีปั้มลม เอาใช้ลมเป่าเอาครับ ถ้าจะรักสีดำ ต้องอดมนครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มิถุนายน 08, 2011, 06:02:14
แต่ก่อนก็ใช้ทีด้าสีดำ ดูแลมันมาสองปี เครียดมากเพราะเผลอแป๊บเดียวก็ฝุ่นเกาะแล้ว
เลยขายให้น้องเพราะน้องชอบสีดำ มันก็ปล่อยรถมอมๆแมมๆ จนบางทีทนไม่ไหวต้องเอารถไปล้างให้ก็มี

ดังนั้นคงใช้รถสีดำต้องทำใจนิดนึงครับ ดูแลเอาใจใส่เขาหน่อย รถก็จะสวยงามเงาแว๊บ

ส่วนผมตอนนี้ขอแค่สีเทาเท่านั้นเลย
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: tawirup ที่ มิถุนายน 08, 2011, 09:13:27
ตั้งแต่มีรถสีดำ  (แต่ละคันไม่เล็กซะด้วยครับ) ผมก็มีงานประจำใหม่ทันทีครับ

นั่นคือล้าง+เคลือบสีรถครับ  สองคันผลัดกันทำสลับกัน  ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ด้วยแล้ว ฝนตกตรูล้างเลยครับ

บ่อยจนท่านผอ.(ที่บ้าน) มองค้อนแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มิถุนายน 08, 2011, 09:24:30
ตั้งแต่มีรถสีดำ  (แต่ละคันไม่เล็กซะด้วยครับ) ผมก็มีงานประจำใหม่ทันทีครับ

นั่นคือล้าง+เคลือบสีรถครับ  สองคันผลัดกันทำสลับกัน  ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ด้วยแล้ว ฝนตกตรูล้างเลยครับ

บ่อยจนท่านผอ.(ที่บ้าน) มองค้อนแล้วครับ
มองค้อนทำไมอ่ะครับ ก็รักษาของดีอยู่ไม่ใช่หรือครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Amj ที่ มิถุนายน 08, 2011, 09:27:33
โดยพื้นฐานแล้วรถสีดำไม่ได้ดูแลยากครับ แต่ต้องเข้าใจหัวใจของการดูแลสีดำ

ตัวผมไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่พอจะให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ครับ

รถสีดำต้องมีการวางพื้นฐานของสีรถที่ดี คือมีการเตรียมพื้นสีตัวรถที่ดี หากลงมือเองต้องใช้เครื่องมือ และพลังที่มากมาย
ผมขอแนะนำครั้งแรงที่ควรจะทำคือ  นำรถเข้าร้านคาร์แคร์ที่มีชื่อเสียง ให้เขาขัดและรบรอยขนแมวให้หมด และเคลือบสีให้เรียบร้อย
ผมคิดว่าราคาครั้งนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 1200-1500 แต่ไม่น่าเกิน 2400 บาทครับ บางคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วบอกแพงมาก
แต่จริงๆผมขอบอกเลยว่าไม่แพง ถ้าคุณดูแลรถเป็น ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ต้องเอารถมาเสียเงินครับ

หลังจากผ่านขั้นตอนด้านบนไปแล้ว หากเป็นไปได้ต่อจากนี้ควรล้างรถเองครับ โดยมีรายการที่คุณต้องหาซื้อคือ
1. แชมพูล้างรถ  
    ขอแนะนำให้หาของดีๆหน่อยครับ ไม่ขอบอกว่าเป็นตัวไหนบ้างคงจะเป็นการชี้นำที่ไม่ดี แต่ขอบอกพื้นฐานการเลือกน้ำยาแล้วกัน
    1.1 ต้องเป็นชนิดที่แห้งแล้วไม่ทิ้งคราบ
    1.2 ต้องเป็นชนิดที่ไม่ทำลายชั้นแว๊กซ์ที่เคยลงไว้
    1.3 ถ้าเป็นชนิดที่เขียนว่าเป็น Gloss ด้วยจะดีมากๆ เพราะสามารถล้างแล้วลงแว๊กซ์เคลือบได้เลย
2. ผ้าไมโคร ชนิดที่ดูดซับน้ำได้ดี
3. ผ้าไมโคร ชนิดที่ใช้เช็ดแว็กซ์
4. ฟองน้ำล้างรถ ขอที่เป็นแบบ เป็นปุ่มๆนะครับ ไม่เอาแบบผิวเรียบ
5. ถุงมือล้างรถ ถ้าให้ดีหาที่เป็นขนแกะ
6. แว็กซ์เคลือบรถ หรือ น้ำยาประเภท Sealant ครับ (แนะนำ sealant ครับ)
    เหตุผลที่แนะนำ sealant เพราะว่า sealant ไม่ใช่แว๊กซ์ (แล้วจะบอกทำไม) เพราะว่าถ้าเป็นแว๊กซ์เพียวๆ จะได้ความเงาฉ่ำ
    แต่แลกมาด้วยไฟฟ้าสถิตย์ที่ดูดพวกฝุ่นให้เกาะกับสีรถ แต่ sealant จะป้องกันฝุ่นได้ดีกว่า
7. เลือกซื้อน้ำยาประเภท cleaning ที่เป็น Gloss ด้วย
8. เลือกซื้อน้ำยาประเภท detailer ที่เป็นตัวเคลือบชั้นสุดท้ายมีคุณสมบัติต่อต้านการเกาะตัวของฝุ่นครับ
9. ถังใส่น้ำล้างรถ 2 ถัง
10. น้ำยาซักผ้าเด็ก เอาไว้ซักผ้าไมโคร
11. สบู่ก้อนซันไลน์ เอาไว้เช็ดคราบแว็กซ์ออกจากฟองน้ำ
     *** ฟองน้ำและผ้าไมโครหลังซักล้างแล้วควรตากในที่ร่มให้แห้งเท่านั้น เพื่อยืดเวลาการใช้งานและถนอมผ้าครับ ***

วิธีการล้างรถสีดำ แบบเบื้องต้นนะครับ  
  ** ควรล้างรถในที่ร่ม ** (ป้องกันคนล้างรถผิวไหม้) เดี๋ยวเช็ดแห้งไม่ทันครับ
1. ควรล้างล้อให้เสร็จก่อน (ไม่ขอพูดถึงมากนะครับ มันจะพิมพ์ยาวมากๆขอพูดถึงแต่สีรถ)
2. ฉีดน้ำไล่เม็ดทรายออกให้ทั่วทั้งคันรถ
3. เตรียมถังใส่น้ำ 2 ถัง  ถังนึงใส่น้ำเปล่า อีกถังใส่น้ำผสมน้ำยาล้างรถ
    ให้เอาฟองน้ำจุ่มถังน้ำยาล้างรถ แล้วไปลูบที่ตัวรถ โดยไล่จากบนลงล่าง อาจจะเป็นล้างฝากระโปรงก่อน แล้วไปล้างกระจกรอบคัน
    หลังคา แล้วมาด้านข้าง ด้านหลัง ด้านหน้า ครับ โดยมีวิธีการไล่ลูบด้วยฟองน้ำดังนี้
    3.1 จุ่มฟองน้ำในน้ำยา แล้วไปลูปตัวรถ โดยให้ลูบไปทิศทางเดียว ห้ามลูบกลับไปกลับมา ห้ามลูบวนไปวนมา (มันจะเป็นรอยขนแมว)
          การลูบครั้งแรกกับตัวรถให้ลูบเบาๆอย่าลงน้ำหนักมือมาก เพราะฝุ่นโคลนยังหนาอยู่
    3.2 เอาฟองน้ำมาล้างฝุ่นโคลนออกในถังน้ำเปล่าใบแรกให้สะอาด
    3.3 นำฟองน้ำไปจุ่มในถังน้ำยา แล้วไปลูบตัวรถอีก ทำเหมือนข้อ 3.1
    3.4 ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตามข้อ 3.1-3.3 ให้ทั่วทั้งคันรถ  
          **** หัวใจของการล้างรถก็อยู่ตรงนี้แหละครับ อย่าลูบวนไปวนมา กลับไปกลับมา มันทำให้รถเป็นรอยขนแมวแบบวนๆ
                    อย่ากดถูรถแรงๆ ในขณะที่ถูรอบแรก ต้องอาศัยมือเบาๆในรอบแรกๆ ให้เอาโคลนออกสะอาดๆ ค่อยพอเพิ่มน้ำหนักมือได้ ***
4. ฉีดน้ำทำความสะอาดเป็นส่วนๆไปครับ คราบน้ำยาล้างรถจะได้ไม่มี (แต่ถ้าเลือกน้ำยาแบบไม่ทิ้งคราบจะไม่มีปัญหานี้)
5. ใช้ผ้าไมโครชนิดดูดซับน้ำเช็ดรอบคัน
6. ลงตัว clening ที่เป็นชนิด gloss  ลงเป็นส่วนๆ เช็ดออกเป็นส่วนๆไปครับ ด้วยผ้าไมโครชนิดที่ใช้สำหรับเช็ดคราบแว็กซ์
    ไม่ขอแนะนำยาว พิมพ์จะไม่ไหวแล้ว T___T
    ลงแล้วเช็ดออกให้ทั่วคัน
7. ลงตัว Sealant ครับ แล้วต้องทิ้งไว้ตามเวลาที่เขียนไว้ว่า ใช้เวลาทิ้งไว้ก่อนเช็ดออกกี่นาที
    การลง sealant นอกจากต้องทำตามเงื่อนไขเรื่องเวลาที่ทิ้งไว้ก่อนเช็ดออกแล้ว หัวใจสำคัญอยู่ที่ข้อนี้ด้วย
    เราสามารถลง sealant ทับกันได้หลายชั้น ยิ่งลงมากชั้นเท่าไหร่ สีตัวรถยิ่งทนต่อรอยขีดข่วนได้มาก แต่ cutting time ของการลงทับ
    จะใช้เวลานาน บางยี่ห้อต้องรอถึง 8 ชม. แต่บางยี่ห้อก็รอเพียง 30 นาที ครับ แล้วสามารถลงทับต่อได้
8. เมื่อลง sealant แล้วทิ้งให้เซ็ตตัวตามเวลาที่กำหนดแล้ว แล้วคิดว่าจะไม่ลงเพิ่มอีกแล้วให้ลงตัว Detailer ครับ
   ตัวนี้จะเป็นตัวเคลือบปิดท้ายชั้นบนสุด และมีคุณสมบัติ ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นครับ และบางยี่ห้อป้องกัน UV ให้อีก

หากทำได้ตามนี้บ่อยๆ เรื่อยๆ ชั้นแว๊กซ์จะหนาขึ้นเรื่อยๆ การเกิดรอยจะเกิดยากเมื่อเกิดรอยได้ยาก ก็ไม่ต้องกลับไปขัดสีอีก
แต่ทั้งหมดนี้ เป็นการแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น หากให้บอกกันละเอียดผมคงมือหยิกไปก่อน มีโอกาสคงได้แนะนำกันใหม่เป็นเรื่องๆไปครับ

** แก้คำผิดครับ

** เพิ่มวิธีการเลือกผ้าไมโครมาใช้งานแล้วกันนะครับ

มีเพื่อนๆ สอบถามถึงชนิดของผ้าไมโครไฟเบอร์ขอแนะนำวิธีเลือกซื้อเบื้องต้นแล้วกันครับ
โดยให้ดูจาก ค่าตัวนี้ครับ Polyester ที่ใช้เป็นส่วนผสมในเนื้อผ้าครับ
มีตั้งแต่ Polyester 70% , 80% , 85% , 90 % ครับ

ยิ่งค่า Polyester น้อยๆ ก็หมายความว่ามีความสามารถในการซับน้ำได้ดีครับ
ถ้าค่า Polyester มีค่ามากขึ้น ก็หมายความว่ามีความสามารถในการเช็ดพวกคราบแว็กได้ดีขึ้นครับ

ผ้าที่ขายกันโดยทั่วไปจะเป็นสูตร
Polyester 80%
Polyamide 20%

สนใจแต่ค่า Polyester ครับ สูตรข้างบนเป็นสูตรที่เขามีขายทั่วไปครับ
คุณสมบัติครึ่งๆกลางๆระหว่างซับน้ำกับเช็ดคราบแว็กครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Prachsaphol_yjd ที่ มิถุนายน 08, 2011, 09:38:26
คิดจะใช้สีดำแบบเงางาม เหมือนคนอื่น ต้องศึกษาครับ

ซื้อสีดำมา ไม่เคยดูแล เข้าคาร์แคร์อย่างเดียว ก็ ไม่ได้เงาเหมือนคนอื่นหลอกครับ

แนะนำอีกวิธีครับ หาแฟนบ้าwax ครับ ^^ สะบาย แรง สะบายกระเป๋า รถเงาสมใจ

ถ้ายังหาไม่ได้ งบน้อย สีดำ ผมขอแนะนำ pas wax 3m เลยครับ 700 กว่าบาทใช้ได้เป็นชาติ

ลงง่าย ไม่กินแรง เช็ดออกก็ง่าย ฝุ่นก็น้อย ลงได้บ่อยๆ อาทิตย์ละ 2 ครั้งยังได้

ส่วนการล้างรถ เตรียมรถ ลองศึกษาดูนะครับแนะนำ www.thaiwashercarclub.com (http://www.thaiwashercarclub.com) ครับ
ตามนี้ครับ
จะบอกว่าสาวๆ บ้า Wax ก็มีนะครับ แถมล้างรถเองลง Wax เอง ช่วยออกกำลังกายได้อย่างดี ช่วยละลายชั้นไขมัน.... ;D
หรือถ้ามีเวลาลองเข้าไปหาความรู้ตามเวป www.thaiwashercarclub.com (http://www.thaiwashercarclub.com) จะรู้วิธีดูแลรถอีกเพียบ ผมหมดตังกับค่าอุปกรณ์ประทินผิวรถไปประมาณ 3 พันละ พอล้างเป็น ล้างเอง Wax เองจนคล่อง จะเป็นคนชอบล้างรถไปเลยนะครับ......
แนะนำให้ล้างเองดีกว่าครับ ยังไงหากเราล้างเองแล้วเป็นรอยก็ยังดีกว่าไปให้ร้านล้างแล้วเป็นรอยนะครับ  ;)
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ มิถุนายน 08, 2011, 10:06:39
คุณ Amj ให้ความรู้ละเอียดมากๆ ขอบคุณครับ

กำลังจะเอารถไปขัดเคลือบสีพอดี จะลองดูแลให้ใกล้เคียงตามที่บอกดูครับ   :o

รบกวนคุณAmjเช็คกล่องข้อความหน่อยนะครับ มีเรื่องรบกวนสอบถามนิดหน่อย
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Amj ที่ มิถุนายน 08, 2011, 10:37:55
คุณ Amj ให้ความรู้ละเอียดมากๆ ขอบคุณครับ

กำลังจะเอารถไปขัดเคลือบสีพอดี จะลองดูแลให้ใกล้เคียงตามที่บอกดูครับ   :o

รบกวนคุณAmjเช็คกล่องข้อความหน่อยนะครับ มีเรื่องรบกวนสอบถามนิดหน่อย

มีเพื่อนๆ สอบถามถึงชนิดของผ้าไมโครไฟเบอร์ขอแนะนำวิธีเลือกซื้อเบื้องต้นแล้วกันครับ
โดยให้ดูจาก ค่าตัวนี้ครับ Polyester ที่ใช้เป็นส่วนผสมในเนื้อผ้าครับ
มีตั้งแต่ Polyester 70% , 80% , 85% , 90 % ครับ

ยิ่งค่า Polyester น้อยๆ ก็หมายความว่ามีความสามารถในการซับน้ำได้ดีครับ
ถ้าค่า Polyester มีค่ามากขึ้น ก็หมายความว่ามีความสามารถในการเช็ดพวกคราบแว็กได้ดีขึ้นครับ

ผ้าที่ขายกันโดยทั่วไปจะเป็นสูตร
Polyester 80%
Polyamide 20%

สนใจแต่ค่า Polyester ครับ สูตรข้างบนเป็นสูตรที่เขามีขายทั่วไปครับ
คุณสมบัติครึ่งๆกลางๆระหว่างซับน้ำกับเช็ดคราบแว็กครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ มิถุนายน 08, 2011, 11:02:32
ตั้งแต่มีรถสีดำ  (แต่ละคันไม่เล็กซะด้วยครับ) ผมก็มีงานประจำใหม่ทันทีครับ

นั่นคือล้าง+เคลือบสีรถครับ  สองคันผลัดกันทำสลับกัน  ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ด้วยแล้ว ฝนตกตรูล้างเลยครับ

บ่อยจนท่านผอ.(ที่บ้าน) มองค้อนแล้วครับ
มองค้อนทำไมอ่ะครับ ก็รักษาของดีอยู่ไม่ใช่หรือครับ
สงสัยเวลาทำการบ้านลดลงหรือเปล่าครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: CN16888 ที่ มิถุนายน 08, 2011, 11:15:29
แต่ รถสีดำ ถึงจะปล่อยให้ฝุ่นเกาะยังไง ถ้ามอง[ไกลๆ] ก็ยังสวยนะครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ มิถุนายน 08, 2011, 13:36:10
แต่ รถสีดำ ถึงจะปล่อยให้ฝุ่นเกาะยังไง ถ้ามอง[ไกลๆ] ก็ยังสวยนะครับ


ถ้าล้างใหม่ๆ เคลือบมาฉ่ำๆ มองใกล้ มองไกลก็สวยกว่าเยอะครับ

ที่เจอบ่อยๆคือพอฝุ่นเกาะเมื่อไร พอโดนน้ำ มันจะไปเกาะฝุ่นอีกที กลายเป็นคราบไคลครับ
ฝนตกหนักไปเลยยังดีซะกว่า โดนละอองฝุ่นเปาะแปะๆ ดูไม่จืดครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: benze ที่ มิถุนายน 08, 2011, 14:15:35
ไปเคลือบร้านไหนคิดสีดำแพงกว่า อย่าไปนะครับ -*-
ร้านผมคิดเท่ากันทุกสี พวกคิดมากกว่านี่ไม่ไหวนะครับ

ปล.สีดำต้องเคลือบบ่อยๆจะแก้ปัญหาเรื่องรอยขนแมวได้เยอะครับ
แนะนำ ของ แมกไกวเบอร์21นะครับลองไปหาๆดู

ปล.2 ขอไม่บอกชื่อร้านนะครับเดี๋ยวหาว่าโฆษณา-*-
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: toonnazaone ที่ มิถุนายน 08, 2011, 17:16:01
ลองลงทุนจัด Pinnacle หรือไม่ก็ Blackfire Wet diamon พันกลางๆ จะหลงไหลสีดำเลยครับ แล้วฝุ่นในวันก็จะจับน้อยด้วย สีก็จะเข้มเงาจะก็ลื่นขึ้น นวลขึ้น ถึงแม้จะมีรอยแต่มันก็จะดูจางๆลง มันเซฟการเกาะแน่นของฝุ่นเวลาเราลูบด้วยครับ
Pinnacle +1
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: TDCI ที่ มิถุนายน 09, 2011, 13:20:26
สีขาวก็ใช่ย่อยนี่!!!!

เห็นพรรคพวกบ่นพึ่มอยู่เหมือนกันว่าชักจะออกเหลืองๆ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: srattha ที่ มิถุนายน 09, 2011, 23:35:50
ผมล้างเองตลอดครับ สะอาดบ้างไม่สะอาดบ้าง แต่ก็ได้ดั่งใจ ไปเสียตังแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจ มันเลยเสียใจอ่ะครับ :)
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: tawirup ที่ มิถุนายน 10, 2011, 10:09:52
ตั้งแต่มีรถสีดำ  (แต่ละคันไม่เล็กซะด้วยครับ) ผมก็มีงานประจำใหม่ทันทีครับ

นั่นคือล้าง+เคลือบสีรถครับ  สองคันผลัดกันทำสลับกัน  ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ด้วยแล้ว ฝนตกตรูล้างเลยครับ

บ่อยจนท่านผอ.(ที่บ้าน) มองค้อนแล้วครับ
มองค้อนทำไมอ่ะครับ ก็รักษาของดีอยู่ไม่ใช่หรือครับ
สงสัยเวลาทำการบ้านลดลงหรือเปล่าครับ  ;D

ประมาณนั้นมั้งครับ 5555+
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: Chanissara ที่ มิถุนายน 10, 2011, 10:39:20
ขอบคุณทุกคำแนะนำและความเห็นนะค่ะ แต่ความคิดส่วนตัว สีดำยังเป็นสีที่โดดเด่นอยู่ดี มันวิ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฝุดๆๆๆ เลยอ่ะ ^0^

ไงก็จะพยายามรักษาให้ดีที่สุด เสียดายที่พักเค้าไม่ให้ล้างรถ ไม่งั้นจัดเต็มทุกอาทิตย์ ตอนนี้ได้แต่คาร์แคร์อย่างเดียวค่ะ

ขอบคุณค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: nopper ที่ มิถุนายน 10, 2011, 11:35:25
ให้คาร์แคร์ล้างและนํานํ้ายาแว๊กเราเองไปจ้างเขาลง สะดวกดีครับ
หัวข้อ: Re: ชั้นจึงตั้งจิตคิดอฐิษฐาน "ไม่เอาแล้วรถสีดำ".. Y-Y
เริ่มหัวข้อโดย: patzahut ที่ มิถุนายน 10, 2011, 12:03:18
สีบรอนเทาดีกว่า ไม่ล้าง 3 เดือนยังดูดีกว่า สีดำไม่ล้าง 2 อาทิตย์