Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wiszard ที่ กรกฎาคม 15, 2011, 20:51:05
-
ขออนุญาตพี่จิมมี่นะครับ
พอดีวันนี้ได้มีโอกาสไปลอง Test drive Brio V/AT มาครับ เลยอยากจะ share ความรู้สึกให้ฟัง
จากที่ได้ลองขับมา ความรู้สึกแรกเลยคือ เครื่องยนต์เสียงเบามาก ตอน start เครื่องยัง งงว่าเครื่องติดแล้วเหรอ
พอขับไป ทำไมรู้สึกไม่ต่างจากขับ vios mazda 2 Fiesta เลยฟ่ะ (ในเรื่องทศนะวิสัย feeling ในการนั่งขับ และภายใน)
แต่อาจจะแตกต่างในเรื่องของสมรรถนะของตัวรถ โดยเฉพาะช่วงล่าง ที่รู้สึกไม่ดีเท่า mazda 2 และ Fiesta
แต่เนื่องจากผมไม่ได้ลองขับในย่านความเร็วสูง เลยไม่อาจจะอธิบายได้หมด แต่ก็รู้สึกมั่นใจเหมือนที่พี่จิมมี่บอกไว้จริงๆครับ
ผมรู้สึกว่า Brio เหมาะกับขับในเมืองมากๆ พวงมาลัยนิ่ม และเบามากครับขับสบาย ภายในเก็บเสียงค่อนข้างดีทีเดียว จะมี
เสียงจากล้อ และพื้นดังเข้ามาบ้าง เรื่องแอร์ผ่านครับ เย็นเร็วดีมากเลย ตอนแรกคิดว่าจะไม่ค่อยเย็นซะอีก
อัตราเร่งผมว่าใช้ได้นะ ไม่คิดว่านี่เหรอเครื่อง 1.2 อย่างที่บอก นึกว่า 1.5 ซะอีก เร่งดี แต่จะไม่กระชากมากนะ
มันจะค่อยๆ เร่งขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็ทันใจดีครับ เห็น sale บอกว่าถ้าเป็นเกียร์ MT จะตอบสนองดีกว่านี้อีก
ระบบเบรกทำงานดีมากครับ ผมชอบมาก เหมือน Fiesta เลยครับ คือไม่ใช่แค่แตะแล้วหัวทิ่ม แต่จะต้องเหยียบให้จมลงไป
มันถึงจะตอบสนองครับ ทำให้ขับนิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องหัวทิ่มเวลาเบรกครับ
โดยสรุปแล้ว ผมชอบมากครับ ไม่ผิดหวังที่คิดจะซื้อ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อตอนนี้แน่ๆ ครับ อยากจะอ่าน Full Review พี่จิมมี่ก่อน
และอยากรอฟัง defect จากผู้ใช้รถ lot แรกๆ ด้วยว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ไม่รีบครับ
แต่ที่เสียดายคือ ที่ศูนย์แจ้งวัฒนะไม่มีตัว MT ให้ลองขับ ไม่ทราบว่าใครพอจะมีศูนย์ไหนที่มีให้ลองบ้างครับ
อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ปล. เห็น sale บอกว่ามีชุดแต่งของ Brio ออกมาแล้วนะครับ เป็น skirt รอบคันของ Modulo ราคา 17,000 บาทครับ
ขอบคุณครับ
-
เท่าที่ทราบไม่มีนะครับ สำหรับตัว MT ที่จะให้ทดลอง
-
เท่าที่ดูมา ตัว test drive จะมีแต่ CVT นะครับ ต่างจังหวัด ก็แบบนี้เหมือนกัน
ผมเห็นด้วยนะครับ ว่า เครื่องยนต์ ตอบสนองใกล้เคียงเครื่อง 1500 มากๆ และช่วงล่างก็ firm ด้วย
-
วันนี้ได้ไปลองตัว V AT มาเหมือนกันคับ (ลองที่ ตจว.เลยได้ขับยาว ๆ) ได้ลองกดไปถึง 140 อัตราเร่งดีใช้ได้ ไม่อืดแน่ ๆ
ช่วงล่างโอเคดีกว่า March อย่างเห็นได้ชัด มาแนว หนึบ ๆ นุ่ม ๆ ลองเบรกแรง ๆ ก็เอาอยู่
ส่วนภายในตอนแรกคิดว่าแคบ ก็ไม่ได้แคบอย่างที่คิด ทั้งด้านหน้าและหลัง ตำแหน่งเบาะนั่งเนี่ยโอเคเลย แม้จะปรับสูงต่ำไม่ได้
ติอยู่อย่างเดียว และเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ น้ำหนักพวงมาลัย ผมว่าเบามาก ๆ ๆ เบาเกินไป ทำให้รู้สึกไม่มันใจในการขับเลยครับ แค่นั้นจิง ๆ
-
เรื่องน่าประหลาดคือ อัตราสิ้นเปลือง
เกียร์ธรรมดา ดันกินกว่า CVT และแน่นอนว่า ทั้งคู่ กินน้ำมันกว่า March
เพราะ ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองนั้น แพ้ March ชัดเจนครับ เพราะ Brio ทำได้ 16.69 กิโลเมตร/ลิตร ในรุ่น CVT
และ 16.03 ในรุ่น เกียร์ธรรมดา!!
แต่อัตราเร่ง เกียร์ธรรมดา ถือว่าทำได้ดีครับ อัตราเร่ง เท่ากับ Vios และ City เกียร์อัตโนมัติ เลยเถอะ!!!
คลัชต์ ก็กำลังดี คันเกียร์ อาจจะโยกๆคลอนๆ สักหน่อยถ้าใช้งานหนักหน่วงมาเรื่อยๆ
เป็นรถที่ เหมาะจะขับคนเดียว ขับในเมือง และเหมาะกับคนที่คิดจะเอารถคันแรกในชีวิต
ไปแต่งต่อ เล่นต่อ ทำต่อ เพราะขับสนุกกว่า March แต่ความคุ้มราคานั้น บอกเลยว่า
ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่
ถ้าไม่ใช่กลุ่มข้างบนนี้แล้ว ซื้อ March เถอะครับ
-
แอร์เย็นเร็วแน่นอนครับ brio ใช้ แอร์ทั้งชุด จาก denso
-
wow พี่จิมมี่แอบเปิดเผยข้อมูลก่อน Full Review กันที่นี่เลย อิอิ
AT ประหยัดกว่า MT แบบนี้ผมคิดหนักเลยครับ เพราะอยากได้เกียร์ธรรมดามากกว่า
พี่จิมมี่พอจะแนะนำศูนย์ หรือวิธีที่จะได้ลองเกียร์ธรรมดาหรือเปล่าครับ อยาก Test มากๆ
แล้วที่คุณ Tuned by Pex บอกว่าพวงมาลัยเบาเกินไปนี่ แล้วเวลาขับเร็วๆ มันยังเบาอยู่
หรือหนักกว่าเดิมมากขึ้นหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
-
Test Drive จังหวัดผมก็มีแต่ตัว CVT แต่มี MT น่ะครับ แต่เป็นของลูกค้าสั่งจองมา :)
-
wow พี่จิมมี่แอบเปิดเผยข้อมูลก่อน Full Review กันที่นี่เลย อิอิ
AT ประหยัดกว่า MT แบบนี้ผมคิดหนักเลยครับ เพราะอยากได้เกียร์ธรรมดามากกว่า
พี่จิมมี่พอจะแนะนำศูนย์ หรือวิธีที่จะได้ลองเกียร์ธรรมดาหรือเปล่าครับ อยาก Test มากๆ
แล้วที่คุณ Tuned by Pex บอกว่าพวงมาลัยเบาเกินไปนี่ แล้วเวลาขับเร็วๆ มันยังเบาอยู่
หรือหนักกว่าเดิมมากขึ้นหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
เวลาขับเร็ว ๆ หนักขึ้นมานิดหน่อยคับตามความเร็ว แต่ยังถือว่าเบามากอยู่ครับ ลองถึง 140 km/hr คับ
-
ตอนนี้บริษัทรถเช่าหลายๆ ที่มีให้เช่าขับแล้วนะครับ
ผมได้ขับมาแล้ว 3 วัน 2 คืน
ผมลองวัดอัตราเร่งดูเล่นๆ ตัว CVT
จาก 0-145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประมาณ 30 วินาที ครับ
(นั่งคนเดียว เปิดแอร์ น้ำมันรู้สึกเขาจะเติม โซฮอล์ 91 ไว้ให้)
เรื่องการกินน้ำมัน ผมขับในเมือง และทางด่วน (คือที่ใช้งานหลักๆ คือในเมือง มีวิ่งดึกๆ ถนนโล่งๆ บ้าง)
ได้ประมาณ 13 กิโลฯ ต่อลิตรครับ
ส่วนเรื่องแอร์นี่เย็นฉ่ำ และถ้าฝนตกนี่ เย็นเฉียบ
ส่วนเรื่องพวงมาลัยเบา เห็นด้วยครับ
ขับแรกๆ จะไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะในช่วงความเร็วสัก 80 กิโลเมตรฯ ขึ้นไป รู้สึกว่าพวงมาลัยเบาเกินไปครับ
แรกๆ ต้องเกร็งนิดนึง ขับไปสักพักก็จะชินครับ
แล้วก็มีเรื่อง ไฟตก ครับ
อาการเดียวกับ Jazz แต่บริโอ้ จะเห็นได้ชัดเจนกว่าครับ
ลองหาที่มืดๆ หน่อย เปิดไฟในห้องโดยสาร สตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ไว้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยครับ
ผมว่าเป็นรถที่ขับดี และขับง่ายมากครับ เพราะคันเล็ก
แถมกระจกหลังบานใหญ่ กลายเป็นข้อดีตอนถอยจอด
เป็นรถเหมาะสำหรับขับในเมือง และใช้คนเดียวจริงๆ ครับ
จากการที่ได้ขับ ทั้งมาร์ช ทั้ง บริโอ้ แล้ว ส่วนตัวแล้วผมว่า
ถ้าเอาบริโอ้ให้ผม ผมยินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจและดีใจ เอาไว้ใช้เวลาไปไหนมาไหนคนเดียว หรือสองคน
แต่ให้ ซื้อ ผมไม่ซื้อครับ
เพราะซื้อแล้วเหมือนได้รถมาแค่ครึ่งคัน
คือครึ่งคันหน้าหนะ ออพชั่นเพียบ แต่ครึ่งคันหลัง ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีที่ปัดน้ำฝนไม่เท่าไหร่ยังพอทน แต่ไม่มีไล่ฝ้าให้ด้วยนี่ มันจะดูงกไปหน่อยรึเปล่า
ว่าจะทำ มินิรีวิว แต่ยังไม่มีเวลาเลยครับ
แต่ถ้าจะซื้อ แล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอา บริโอ้ หรือมาร์ช ผมแนะนำว่า
ลองเช่ามาขับสัก 2 วัน แล้วเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันดูครับว่า เหมาะกับเราหรือเปล่า
ยอมเสียเงินสัก 5000 บาท ดีกว่า เสียเงิน 5 แสน แล้วได้รถที่ไม่ถูกใจครับ
(ส่วนเช่าได้ที่ไหนนั้น ลองถามอากู๋ กูเกิ้ลดูนะครับ ถ้าหาไม่เจอ หลังแมว เอ๊ย หลังไมค์ ก็ได้นะครับ)
-
เพราะซื้อแล้วเหมือนได้รถมาแค่ครึ่งคัน
คือครึ่งคันหน้าหนะ ออพชั่นเพียบ แต่ครึ่งคันหลัง ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีที่ปัดน้ำฝนไม่เท่าไหร่ยังพอทน แต่ไม่มีไล่ฝ้าให้ด้วยนี่ มันจะดูงกไปหน่อยรึเปล่า
เหงด้วอย่างยิ่งคับ ความรู้สึกเหมือนตัดขายแค่ครึ่งคันเลยอ่ะ ;D
-
ไปลองขับทั้ง สองคันมาแล้ว ผมชอบ Brio นะครับ เครื่องดี เร่งมัน ขับสบาย พวงมาลัยเบาดี(แต่คนอื่นคงไม่ชอบ)
ผมใช้ในเมืองครับ เน้นวิ่งไม่เกิน 80 ครับ ผมว่า Brio น่าขับกว่าน้องมีนาครับ
น้องมีนา ผมว่าช่วงล่างนิ่มดีนะ พวงมาลัยผมว่าหนักกว่า Brio แต่ ผมไม่ชอบเครื่อง เร่งไม่ดีครับ
และผมไปดูมา รถทดลองขับ ไฟ ABS ขึ้นด้วย และผมว่ารถมันใช้งานยากมากๆ ปุ่มอะไรผมชอบ Brio มากกว่า ใช้งานง่ายๆดีครับ
-
ไม่รู้จะบรรยายไงดีแล้ว ที่ไล่ฝ้าก็ไม่มีอีก :P
(http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10739710/V10739710-80.jpg)
-
พระเจ้า ฝนตกที ด้านหลังมองไม่เห็นเลย จะไหวเหรอเนี่ย ยิ่งที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ถนนไม่ค่อยมีไฟ ท่าทางจะแย่
Honda ครับ ถ้า MC ช่วยใส่ใบปัดหลัง ไม่ก็ไล่ฝ้ามาหน่อยเถอะครับ (แต่ผมว่าเดี๋ยวก็มี เพราะงานนี้เจอ negative feedback เพียบแน่)
-
ไม่รู้จะบรรยายไงดีแล้ว ที่ไล่ฝ้าก็ไม่มีอีก :P
(http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10739710/V10739710-80.jpg)
เจอทัศนวิสัยแย่ๆแบบนี้เข้าไปจบเห่เลย..ของจำเป็นแบบนี้ใส่มาให้หน่อยเฮ้อ
-
ก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรนะ
ผมใช้รถตูดตัดมาเกือบแปดปี ใช้ที่ปัดน้ำฝนหลังประมาณ 3 ครั้งๆละ 2 นาทีมั้ง
ส่วนไล่ฝ้าหลังไม่เคยใช้เลย
ผมก็เลยมองว่าไม่จำเป็น
ไม่งั้นคนแต่งรถแล้วไปถอดออกก็คิดส้ันสิครับ
-
ก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรนะ
ผมใช้รถตูดตัดมาเกือบแปดปี ใช้ที่ปัดน้ำฝนหลังประมาณ 3 ครั้งๆละ 2 นาทีมั้ง
ส่วนไล่ฝ้าหลังไม่เคยใช้เลย
ผมก็เลยมองว่าไม่จำเป็น
ไม่งั้นคนแต่งรถแล้วไปถอดออกก็คิดส้ันสิครับ
ก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรนะ
ผมใช้ที่ปัดน้ำฝนหลัง บ่อยกว่า ABS
ขับรถมาสี่ปี ไม่เคยใช้ ABS เลย เพราะไม่มีให้ใช้ - -"
-
แต่สำหรับผม มองว่าใบปัดน้ำฝนหลังเป็นสิ่งจำเป็น และมองให้เห็นถึงผู้ผลิตรถซึ่งใส่ใจในความปลอดภัยของผู้บริโภคมาก่อนผลกำไรของบริษัท และมองว่ามีให้ใช้ดีกว่าไม่มีให้ใช้นะครับท่าน และถ้าเวลาฝนตกหนัก ผมขับรถไม่ถนัด และมอง
ข้างหลังไม่เห็นเลยถ้าไม่มีไล่ฝ้าและใบปัดน้ำฝนหลัง ;)
-
วันนี้ไปลองมาแล้วครับ อัตราเร่งถือว่าโอมากๆ กับรถเครื่องแค่นี้
แต่พวงมาลัยเบาไปจริงๆ ไม่มีแรงต้านเลย
และไม่ว่ายังไงก็รับภายในไม่ได้ครับ ดีแค่พวงมาลัยอย่างเดียว
ยิ่งออกจากซิตี้ไปนั่ยบริโอ้ทันทียิ่งเห็นความแตกต่าง
-
ก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรนะ
ผมใช้รถตูดตัดมาเกือบแปดปี ใช้ที่ปัดน้ำฝนหลังประมาณ 3 ครั้งๆละ 2 นาทีมั้ง
ส่วนไล่ฝ้าหลังไม่เคยใช้เลย
ผมก็เลยมองว่าไม่จำเป็น
ไม่งั้นคนแต่งรถแล้วไปถอดออกก็คิดส้ันสิครับ
บรรยายด้วยคนนะ ;D
ผมขับเก๋งซีดานมา15ปี ได้ขับมาก็หลายคัน หลักๆคันไหนที่มีไล่ฝ้าหลังก็ได้ใช้ทุกปีนะครับ ฝนตกหนัก หมอกลง น้ำค้างยามเช้า
มีให้ใช้ก็สะดวกดี และสนับสนุนให้มีในรถรุ่นใหม่ๆทุกคันเถอะครับ
แต่บางคันรุ่นประหยัดไม่มีให้ มันก็ขับได้แหละ แต่ก็เคยมีฝ้าจับหนาขับแล้วไม่สบายใจ ต้องจอดรถลงมายืนเช็ดกระจกหลังอยู่ตอนตี4 ริมถนนบางนา-ตราดมาแล้วครับ เสียวก้นมากๆ :D
-
ปกติถ้าปรับอุณหภูมิของแอร์ได้เหมาะสมก็จะไม่เกิดฝ้านี้ครับถ้าขับรถอยู่ แต่ถ้าจอดตากน้ำค้าง เกิดฝ้าต่อให้มีไล่ฝ้า ก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ไม่ทันใจ