Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 08, 2011, 18:45:56

หัวข้อ: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 08, 2011, 18:45:56
สืบเนื่องจาก http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2903:-low-cost-green-car-&catid=47:worlds-news&Itemid=55 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2903:-low-cost-green-car-&catid=47:worlds-news&Itemid=55)

รัฐบาลอินโดอยากจะสานฝันเป็นประเทศอุตสาหกรรมยานยนต์เบอร์ 1 ในอาเซียน ก็เลยผุดโครงการ Low Cost & Green Car ช่วงปลายปี 2009 มาประชันกับโครงการอีโคคาร์เมืองไทยที่

จำนวนการผลิตถือว่าสูงอยู่ ปีแรกทุกค่ายต้องทำให้ได้ปีละ 5 หมื่นคัน จนท้ายสุดต้องผลิตให้ได้ 1 แสนคันต่อปี

ต่อให้ประชากรอินโดจะมากแค่ไหน แต่เชื่อว่าแต่ละค่ายไม่สามารถขายรถ เดือนละ 5 พันคัน ในอินโดได้
อย่างมากรถโครงการนี้จะขายได้สูงสุดไม่เกิน 3 พันคัน/ยี่ห้อ

เพราะตลาดรถปัจจุบัน 4 ยี่ห้อที่ขายดีอย่าง Honda, Toyota, Nissan และ Suzuki แต่ละราย ขายได้เดือนละ 1.8-2 พันกว่าคันเท่านั้นเอง
นอกนั้นก็เดือนละ 100-400 คัน


และดูนโยบายค่ายรถร่วมโครงการ Low Cost&Green Car ทั้ง Daihatsu (ส่งออกรถในนาม Toyota), Suzuki และ Nissan ต่างพากันประกาศกลุ่มเป้าหมายว่าจะส่งออกในตลาด Asean แน่นอน

ดังนั้น มันก็มีความเป็นไปได้สูงเหมือนกันนะที่รถพวกนี้จะเข้ามาไทย ไม่งั้นค่ายรถจะเอายอดผลิตไปขายใครล่ะ? แต่เชื่อว่าค่ายรถจะจัดสรรรถเหล่านั้นให้ "ต่ำชั้น" กว่าอีโคคาร์อีกระดับ
เจาะตลาดล่างแบบสุด  ๆ นั่นแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: FlavorWheel ที่ สิงหาคม 08, 2011, 19:15:36
ถ้า จะผลิตรถ A-Car หรือ Sub-B Car แล้วจะนำเข้ามจากอินโดมาขายในไทย

จะสร้างรถใหม่เล็กกว่า Eco Car ของเรานิดหน่อย 
การออกแบบเพื่อให้ได้ ทั้ง ความสะดวก และ รูปทรง
ใน Package ที่จำกัดและ ถูกบีบด้วยต้นทุน ที่ต้องทำให้ต่ำกว่าไทย
(เพราะต้องบวกค่าขนส่งอีก ถึงจะ Tax 0% ก็เถอะ)
ให้ประสบความสำเร็จ ได้

นั่นก็หมายความว่า ต้องเกิด การเปลี่ยนอย่างมาก ของการซื้อรถของชาวอินโด
เพื่อให้เกิดผลต่อ Economy of Scale ที่จะมาสนับสนุนเหตุผลนี้

แต่ฮอนด้าคงไม่ไปรวมไวๆนี้เพราะ brio ที่ประกอบที่บ้านเราก็ A-Car แล้ว
หรือว่าในทางที่เลวร้ายจริงๆ(ยากหน่อย)  Brio ขายไม่ดี รุ่นถัดไปของ Brio ของอาจจะย้ายไปประกอบที่ อินโด
(แอะเราคิดมาไปหรือเปล่า)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ สิงหาคม 08, 2011, 19:16:27
ขายได้แน่ แต่ดูบลิโอ้ไว้ถ้าตัดอะไรมากกว่านั้นเลิกเถอะ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: Nookkiez ที่ สิงหาคม 08, 2011, 19:26:22
ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนบางกลุ่มที่ไม่มีฐานะร่ำรวยนักได้มีโอกาสมีรถเป็นของตัวเองครับ  :D
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 08, 2011, 19:31:56
ดูเหมือนทิศทางทั้ง 3 ค่าย Daihatsu, Suzuki และ Nissan เดินไปก็คือ

A-segment สำหรับ emerging market นั่นเอง

เพราะค่ายรถทั้ง 3 ไม่เอารถระดับเดียวกับอีโคคาร์ในไทยไปขายชนหรอกครับ
ไม่งั้นไม่มีตลาดส่งออก


นโยบาย Daihatsu กับ Nissan ชัดเจนว่าจะต้องพัฒนารถต้นทุนต่ำเจาะในนี้

ส่วน suzuki ไม่ได้มีข่าวมากนัก แต่เจ้าพ่อรถจิ๋วระดับนี้ไม่มีพลาด
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ สิงหาคม 08, 2011, 20:28:23
รถล้นโลก ที่จอดหายากขึ้น รถติดมากขั้น มลพิษมากขึ้น โลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย อากาศโลกแปรปรวน และภัยพิบัตคับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ สิงหาคม 08, 2011, 21:20:12
ผมเชื่อว่า เขาไม่สามารถทำตลาดในไทยได้แน่ ถึงเขตการค้าเสรีอาเซียนจะเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ภาษีจะไม่มี
สเป็กคงไม่หนี ทาทา มากนัก ซึ่งบริโอ้ ก็โดยด่าเยอะแล้ว ถ้ามาต่ำกว่านี้อีก จะเหลืออะไร?
ยังไงคงไทยก็ต้องการรถคุณภาพ ทุกวันนี้สเป็กโตโยต้าก็ต่ำมากพอแล้ว อย่าเอามาอีกเลย
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ สิงหาคม 08, 2011, 22:03:21
ตลาดแบบนี้ผมไม่อยากให้เกิดเลยครับด้วยความส่วนตัว
ตลาดรถ A-car ที่นึกภาพว่าใหญ่กว่าตุ๊กๆนิดนึงเนีย

เข้าใจว่าส่วนนี้จะเจาะกลุ่มรถคันแรกของครอบครัวที่มีรายได้ไม่มากนักแต่มีความจำเป็นต้องใช้รถ
เช่นมีครอบครัวมีลูกเล็กๆ ราคาซักสองแสนถึงสามแสนปลายๆ ผมมองว่ารถมือสองยังตอบโจทย์ได้ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: koruru ที่ สิงหาคม 08, 2011, 22:09:24
เราเคยสังเกตุไหม ถนนบางเส้น เมื่อ ประมาน 5-6 ปีก่อน ไม่เคยติด
เหยียบได้ 120 140 แต่ปัจจุบัน ขับได้ไ่ม่เกิน 60 80
และคนใช้รถสมัยนี้ อายุต่ำลงเรื่อยๆ 18 16 ก็ขับรถแล้ว

แต่ถนนของเรา เท่าเดิม เป็นหลุด เป็นบ่อ เหมือนเดิม
อีก 5-6 ปีข้างหน้า ไม่อยากจะคิดต่อเลย ถนนของเราจะเป็นอย่างไร
ในเมื่อ รถราคาแบบนี้ คนสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนมาก
คือ ซื้อรถ ก่อนจะซื้อบ้าน ตรงกันข้างกับอดีต อย่างชัดเจน
ปัญหาคือ ไม่มีที่จอดรถ เลยต้องเอารถไปจอด ถนนสาธารณะ ข้างทาง
ไหล่ทาง รถติด อีก

หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 08, 2011, 22:14:40
อยากได้ครับ ถ้ามันเป็น A-segment จริงๆ เล็กกว่าน้องมีนา

อาจจะซื้ออีกคัน โดยที่บ้านวางแผนไว้ว่า อีกสัก 4-5 ปีข้างหน้า

แม่อาจจะให้เราขายน้องมีนาให้น้อง(แบบราคามิตรภาพ) หรือแม่เอาไปใช้เอง

แล้วเราก็เอาเงินที่ขาย CR-V (ซึ่งตอนนั้นจะเก่ามากแล้ว)

มาซื้อคันแทน

บอกได้คำเดียวว่าน่าสนใจ แต่ขอเครื่อง 3 สูบ เกียร์ CVT ด้วยนะครับ :)
คุณภาพรถก็พอประมาณ แต่ที่สำคัญ คือ ประหยัดน้ำมัน(จริงๆ และควรจะมากกว่าน้องมีนาผมตอนนี้ด้วย)
ช่วงล่างแบบน้องมีนา ง่ายๆ ไม่ต้องไปซับซ้อน เบรค ดิสต์ดรัม

แต่ถ้าตัวรถมาแนว Tata Nano(เลวร้าย ไม่มีอะไรเลย เกียร์ MT) ราคาขาย 2.8-3 แสน ผมยอมกัดฟัน ซื้อ Ecocar ของไทยเราดีกว่า
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: BOYGOOD ที่ สิงหาคม 08, 2011, 23:24:32
เราเคยสังเกตุไหม ถนนบางเส้น เมื่อ ประมาน 5-6 ปีก่อน ไม่เคยติด
เหยียบได้ 120 140 แต่ปัจจุบัน ขับได้ไ่ม่เกิน 60 80
และคนใช้รถสมัยนี้ อายุต่ำลงเรื่อยๆ 18 16 ก็ขับรถแล้ว

แต่ถนนของเรา เท่าเดิม เป็นหลุด เป็นบ่อ เหมือนเดิม
อีก 5-6 ปีข้างหน้า ไม่อยากจะคิดต่อเลย ถนนของเราจะเป็นอย่างไร
ในเมื่อ รถราคาแบบนี้ คนสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนมาก
คือ ซื้อรถ ก่อนจะซื้อบ้าน ตรงกันข้างกับอดีต อย่างชัดเจน
ปัญหาคือ ไม่มีที่จอดรถ เลยต้องเอารถไปจอด ถนนสาธารณะ ข้างทาง
ไหล่ทาง รถติด อีก


               ใช่ครับ อย่างเช่น เลียบทางด่วนรามอินทรา
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 08, 2011, 23:55:41
อืมมน่าสนใจครับ ถ้าจะมีทางเลือกมากขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีครับ

แต่มาเมืองไทยจะขายราคานี้ได้เหรอครับ ผมว่าพอเจอภาษีเข้าไป ก็คงไล่ๆ กับ Eco Car ของเรานั่นแหละ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: BBOnLY ที่ สิงหาคม 08, 2011, 23:59:16
ผมกลับมองว่าการทำรถในราคาไม่แพงมากเพื่อผู้คนทั่วไปยังเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจนะครับ

ผมเชื่อว่าหลายๆครอบครัวที่มีเงินในปริมาณหนึ่งแต่ไม่มากพอที่จะซื้อรอ A หรือ B segment ได้ แต่เพิ่งมีลูก แน่นอนครับ คงไม่มีใครอยากพาลูกขึ้นรถเมล์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนแน่ๆ

ครั้นจะซื้อรถมือสอง ก็พะวงเรื่องซ่อมอีก จุดนี้น่าจะพอเป็นทางออกได้ครับ

 
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ สิงหาคม 09, 2011, 01:38:21
อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่ค่อนข้างจะเขม่นพี่ไทยเรามาตลอด
และอยากได้ดิบได้ดีกว่าไทยมาโดยตลอด

การผุดโครงการนี้ขึ้นมา ผมไม่แปลกใจ
แต่ที่น่าสงสัยคือ แนวโน้ม พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศของเขาเอง
มันเริ่มเปลี่ยนไปแล้วหรือ ผู้ผลิตถึงกล้าลงทุนกับโครงการรถเล็กขนาดนี้

ยังไม่อยากให้บริษัทรถยนต์ทั้งหลาย บ้าจี้ทำรถเล็ก ที่เล็กยิ่งกว่าปัจจุบันลงไปอีก
เว้นเสียแต่ว่า รถเล็กคันนั้น จะต้องตอบโจทย์ และทำออกมาอย่างดีจริงๆ
โดยที่บริษัทรถเอง ก็ต้องอยู่ได้อย่างแทเ้จริง ไม่ใช่แค่ไปหวังเอาสิทธิพิเศษทางภาษี
ซึ่งก็ยังมีตัวเลขที่ดูเป็นความเสี่ยงอยู่ เพราะเป็นตัวเลขที่ผูกติดกับยอดขาย ไม่ว่าจะ
ในประเทศ หรือส่งออกก็ตาม

โครงการ ECO Car ในไทยนั้น บอกตรงๆว่า ถึงทุกวันนี้ แม้ว่า March จะดูเหมือนไปรอดตลอดรอดฝั่ง
แต่ สุดท้าย ทุกค่ายที่จะทำโครงการนี้ ดูเหมือนว่าต้องมีรถ 2 โมเดลตัวถัง เพื่อจะแชร์ต้นทุน และยอดผลิต
ให้ได้ถึงเป้าที่ภาครัฐของเรากำหนดไว้ และอีกหน่อย เชื่อเถิดว่า ยอดขายส่วนใหญ่ จะยังมาจากตัวถัง Sedan
อยู่ดี

มันอาจเป้นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆ ที่จะได้เป็นเจ้าของรถใหม่ ในราคา สมเหตุสมผล
(ผมไม่ใช้คำว่าถูกลง เพราะมันจะไม่ถูกลงเสียทีเดียว) แต่ ในแง่อื่นๆ ที่ตามมา ผมมองว่า น่าเป็นห่วงครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ สิงหาคม 09, 2011, 08:05:04
ผมคิดว่าทำมาก็เท่านั้นแหละครับ คนไทยรสนิยมสูงนะครับ ถ้าสเปกราคาแ่ค่ 3 แสน แล้วตัดอะไรออกไปมากมายแนว tata xenon ผมว่าอย่าไปมีรถเลยดีกว่า มีก็ไม่สบาย ศูนย์ซ่อมก็แทบพลิกแผ่นดินหา ไม่งั้น chery tata คงขายดิบขายดีไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: banch ที่ สิงหาคม 09, 2011, 08:31:41
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย

หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 08:38:37
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



ขอกด Like ให้อีกคนครับ

เบื่อรถยนต์ในบ้าน เราเน้น option ไร้สาระ

ทั้ง KeyLess AirAuto กระจกไฟฟ้า อะไรต่างๆนาๆ

บางทีต้องการแค่รถสักคัน ราคาไม่แพงมากเกินไป เอาตังไปทำอย่างอื่นดีกว่า
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 09, 2011, 08:53:15
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี  

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



อีโคคาร์ ในไทยไม่ใช่รถราคาถูกครับ

แต่ยังไงก็ประหยัดกว่าความจุสูงกว่าอยู่ดีครับ แล้วก็มีมาตรฐานรองรับระดับหนึ่ง
ซึ่งยังเป็นรถที่ไว้ใจได้บ้าง

เห็นบ่น ecocar แพง ๆ แต่ก็วิ่งกันเต็มถนนไม่ใช่หรือครับ
คนบ่นซื้อราคารถแพง ๆ แต่ก็วิ่งเต็มถนนทั้งปี



แต่คุณลองสังเกตไหมว่าโครงการ Low Cost Green Car

ไม่ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยค่า CO2 เหมือนบ้านเรา
เน้นราคาขายเข้าว่าครับ

ถูกและดี ไม่มีในโลกครับ

ส่วนอยากให้รัฐบาลอินโดนีเซีย ควบคุมคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 08:58:05
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี  

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



อีโคคาร์ ในไทยไม่ใช่รถราคาถูกครับ

แต่ยังไงก็ประหยัดกว่าความจุสูงกว่าอยู่ดีครับ แล้วก็มีมาตรฐานรองรับระดับหนึ่ง
ซึ่งยังเป็นรถที่ไว้ใจได้บ้าง

เห็นบ่น ecocar แพง ๆ แต่ก็วิ่งกันเต็มถนนไม่ใช่หรือครับ
คนบ่นซื้อราคารถแพง ๆ แต่ก็วิ่งเต็มถนนทั้งปี



แต่คุณลองสังเกตไหมว่าโครงการ Low Cost Green Car

ไม่ได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยค่า CO2 เหมือนบ้านเรา
เน้นราคาขายเข้าว่าครับ

ถูกและดี ไม่มีในโลกครับ

ส่วนอยากให้รัฐบาลอินโดนีเซีย ควบคุมคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ด้วยครับ

แสดงว่าอินโดเน้น ของถุก แต่มลพิษและความปลอดภัยไม่สน ก็น่าห่วงครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: Cross MPV ที่ สิงหาคม 09, 2011, 09:48:45
ผมว่าถ้าเข้ามาจริงๆ อีกสักหน่อยอุตสาหกรรมรถยนต์บานเราจะล้นตลาดเร็วขึ้น
ทุกวันนี้จังหวัดใหญ่ๆ ก็รถติดกันมากขึ้นแล้ว

มองในแง่ผู้บริโภคแน่นอนครับว่าได้รถยนต์ใช้ด้วยราคาที่เอื้อมถึงง่าย
แต่มันจะเกิดปัญหาอื่นๆ ทางสิ่งแวดล้อมตามมาอีกครับ ทั้งรถติด มลพิษ ความปลอดภัย และอื่นๆ

หากมองเพียงเรื่องประเด็นการนำเข้ามาขาย ผมก็คิดว่ามีส่วนมากๆครับ แต่ผมคิดว่าคงเข้ามาเป็นยี่ห้อๆ ไป
เพราะ Brio คงถูกเข้าประทะตรงๆ มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ ที่ขยับรถตัวเองไปอยู่ในระดับ B Segment กันหมดแล้ว
คือหากมองว่าการข้ามเรือลงมาแล้วราคาถูกกว่า (ราวๆ 300,000-350,000) ด้วยอ็อพชั่นที่ดีพอควร มันก็ขายได้อยู่แล้ว

แต่หากราคามาแต่ไม่มีอะไรให้เลย ตรงจุดนี้ผมก็ยังมองว่า Brio จะยังคงได้เปรียบในเรื่องคุ้มค่าไปอยู่ และมองกันจริงๆ
กลับเป็นโอกาสอันดีของ Brio เสียอีกครับที่จะได้มีคู่แข่งตรงๆ มากกว่าการเพลี้ยงพล้ำคู่ต่อสู้ในตอนนี้เสียอีกครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 10:08:34
ผมว่าถ้าเข้ามาจริงๆ อีกสักหน่อยอุตสาหกรรมรถยนต์บานเราจะล้นตลาดเร็วขึ้น
ทุกวันนี้จังหวัดใหญ่ๆ ก็รถติดกันมากขึ้นแล้ว

มองในแง่ผู้บริโภคแน่นอนครับว่าได้รถยนต์ใช้ด้วยราคาที่เอื้อมถึงง่าย
แต่มันจะเกิดปัญหาอื่นๆ ทางสิ่งแวดล้อมตามมาอีกครับ ทั้งรถติด มลพิษ ความปลอดภัย และอื่นๆ

หากมองเพียงเรื่องประเด็นการนำเข้ามาขาย ผมก็คิดว่ามีส่วนมากๆครับ แต่ผมคิดว่าคงเข้ามาเป็นยี่ห้อๆ ไป
เพราะ Brio คงถูกเข้าประทะตรงๆ มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ ที่ขยับรถตัวเองไปอยู่ในระดับ B Segment กันหมดแล้ว
คือหากมองว่าการข้ามเรือลงมาแล้วราคาถูกกว่า (ราวๆ 300,000-350,000) ด้วยอ็อพชั่นที่ดีพอควร มันก็ขายได้อยู่แล้ว

แต่หากราคามาแต่ไม่มีอะไรให้เลย ตรงจุดนี้ผมก็ยังมองว่า Brio จะยังคงได้เปรียบในเรื่องคุ้มค่าไปอยู่ และมองกันจริงๆ
กลับเป็นโอกาสอันดีของ Brio เสียอีกครับที่จะได้มีคู่แข่งตรงๆ มากกว่าการเพลี้ยงพล้ำคู่ต่อสู้ในตอนนี้เสียอีกครับ

ผมว่าไม่นะครับ แต่มันจะเป็นการผลักดันรถมือ 2 บ้านเราให้ราคาตกลงแน่นอน ทุกวันนี้ก็ตกลงไปเยอะแล้วครับ

สามห่วง ผม สมัยก่อนซื้อมา 2.3 แสน ( บางคนซื้อมา 2.5-2.8 แสนก็มี) เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ตอนนี้ ราคาหน้าเต้นต์ 1.5-1.8 แสนจริง (แต่ขายกันจริง ได้ 1.4 แสน ก็เก่งแล้วครับ)
8 หมื่นยังมีเลย(รถผมเอง) แต่ผมได้ 1.2 แสน ก็น้อยมาก แต่ดีกว่าไม่ได้เลย เพราะเขาตี 1.2 เท่ากันหมด

ผมว่ามันก็ถึงเวลาแล้วที่รถเก่าๆ จะต้องนำกลับไป Recycle เพราะหากราคาขาย เหลือ 2-3 หมื่นจริงๆ ในรถอายุ 20 ปีขึ้นไป
ผมว่าเจ้าของรถจำนวนไม่น้อย คงขายเป็นเศษเหล็กคุ้มกว่าครับ

และรถเก่า มลพิษเยอะมาก และกินน้ำมันสุดๆ ก็ถึงเวลาที่จะใช้รถประหยัดพลังงานกันสักทีครับ :D
ไม่ใช่เอารถเก่ามากๆ ไปติดแก๊ซกันแบบทุกวันนี้ ไม่ค่อยเห็นด้วยเลย แต่เราไม่มีทางเลือกครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 09, 2011, 10:22:10
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



เอ้อ ผมขอกระทืบไลค์ให้อีกคนนะครับ

ผมยังเชื่อว่า หลายๆ คนยังอยากได้รถที่ราคาถูกกว่า Eco Car ปัจจุบัน และไม่ต้องมีอะไรเลย
- ไม่ต้องผ่าน EuroNCAP
- ไม่ต้องมี Seat belt หลัง
- กระจกหมุนมือ
- กันชนดำ
- ไม่เอา Airbag, ABS

แน่นอน รถพวกนี้พูดตรงๆ ผมไม่กล้านั่งหรอกครับ แต่ผมมองในมุมของคนทำงานที่รายได้ไม่มีอะไรมากมาย ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาท ผมว่าของแบบนี้ยังขายได้
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ สิงหาคม 09, 2011, 10:27:27
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



เอ้อ ผมขอกระทืบไลค์ให้อีกคนนะครับ

ผมยังเชื่อว่า หลายๆ คนยังอยากได้รถที่ราคาถูกกว่า Eco Car ปัจจุบัน และไม่ต้องมีอะไรเลย
- ไม่ต้องผ่าน EuroNCAP
- ไม่ต้องมี Seat belt หลัง
- กระจกหมุนมือ
- กันชนดำ
- ไม่เอา Airbag, ABS

แน่นอน รถพวกนี้พูดตรงๆ ผมไม่กล้านั่งหรอกครับ แต่ผมมองในมุมของคนทำงานที่รายได้ไม่มีอะไรมากมาย ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาท ผมว่าของแบบนี้ยังขายได้
แบบนี้มีลูกค้าแน่นอนครับ
(อยู่ในเวปต้องห้ามนี่แหละ)

ออปชั่นเอา hero cyclone fasterZ เป็นตัวอย่างด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 10:35:38
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



เอ้อ ผมขอกระทืบไลค์ให้อีกคนนะครับ

ผมยังเชื่อว่า หลายๆ คนยังอยากได้รถที่ราคาถูกกว่า Eco Car ปัจจุบัน และไม่ต้องมีอะไรเลย
- ไม่ต้องผ่าน EuroNCAP
- ไม่ต้องมี Seat belt หลัง
- กระจกหมุนมือ
- กันชนดำ
- ไม่เอา Airbag, ABS

แน่นอน รถพวกนี้พูดตรงๆ ผมไม่กล้านั่งหรอกครับ แต่ผมมองในมุมของคนทำงานที่รายได้ไม่มีอะไรมากมาย ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาท ผมว่าของแบบนี้ยังขายได้
แบบนี้มีลูกค้าแน่นอนครับ
(อยู่ในเวปต้องห้ามนี่แหละ)

ออปชั่นเอา hero cyclone fasterZ เป็นตัวอย่างด้วยครับ

ผมว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เอาพอประมาณน้อ ไม่ผ่านการชนนี่ไม่ไหว อย่างน้อยๆ เป็นน้องดาวเดียวก็ยังดี(AVEO)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: chatcharwarn ที่ สิงหาคม 09, 2011, 17:14:44
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



เอ้อ ผมขอกระทืบไลค์ให้อีกคนนะครับ

ผมยังเชื่อว่า หลายๆ คนยังอยากได้รถที่ราคาถูกกว่า Eco Car ปัจจุบัน และไม่ต้องมีอะไรเลย
- ไม่ต้องผ่าน EuroNCAP
- ไม่ต้องมี Seat belt หลัง
- กระจกหมุนมือ
- กันชนดำ
- ไม่เอา Airbag, ABS

แน่นอน รถพวกนี้พูดตรงๆ ผมไม่กล้านั่งหรอกครับ แต่ผมมองในมุมของคนทำงานที่รายได้ไม่มีอะไรมากมาย ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาท ผมว่าของแบบนี้ยังขายได้

ถ้าราคา่ ไม่เกิน 3แสน มาอย่างนี้ผมซื้อครับ..

ดีกว่าเดิน...

ดีกว่าซื้อมอเตอร์ไซค์ (เนื้อหุ้มเหล็กชัดๆ)

ดีกว่าใช้บริการ ขสมก. (ขนส่งYou and Me พึ่งอะไรไม่ได้ทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพ)

ดีกว่าต้องขึ้นรถไฟฟ้า ตามด้วยรถเมล์(อาจจะต่อเดียว หรือบางคน 2-3ต่อเลยด้วยซ้ำ เช่นรุ่นน้องผม เรียน มจพ. กลับบ้านที่รังสิตทุกวัน ที่บ้านไม่ให้อยู่หอ) ต่อสองแถวเข้าหมู่บ้าน แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าบ้านอีก
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 20:12:13
ผมกลับเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

ตลาดรถยนต์ราคาถูกยังโตได้อีกเยอะ

คนที่มีความสามารถผ่อนรถได้ไม่เกิน สีซ้าห้าพันต่อเดือน มีอยู่ค่อนประเทศ

คนที่ต้องการอัพจาการขี่มอเตอร์ไซค์มาเป็นรถยนต์ มีไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้เค้าเอื้อมไม่ถึง

คนที่ต้องการแค่ ยานพาหนะที่มีหลังคากันแดดกันฝน มีแอร์เย็นๆ ไม่ต้อง keyless ไม่ต้อง push start ไม่ต้อง Auto A/C ไม่ต้องบลาๆๆๆ อะไรซักอย่าง ก็ยังพอมี 

ประเด็นสำคัญคือ ขอให้มันราคาถูกจริงเถอะ  
อะไรก็เกิดขึ้นได้

เหมือนมือถือจีนแดง มือถือเฮ้าส์แบรนส์ ที่ตอนนี้ครองตลาดล่างไปหมดแล้ว



Eco Car บ้านเราต่างหาก ที่มันครึ่งๆกลางๆ

จะถูกก็ไม่ถูก จะเล็กก็ไม่เล็ก จะประหยัดก็ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย



เอ้อ ผมขอกระทืบไลค์ให้อีกคนนะครับ

ผมยังเชื่อว่า หลายๆ คนยังอยากได้รถที่ราคาถูกกว่า Eco Car ปัจจุบัน และไม่ต้องมีอะไรเลย
- ไม่ต้องผ่าน EuroNCAP
- ไม่ต้องมี Seat belt หลัง
- กระจกหมุนมือ
- กันชนดำ
- ไม่เอา Airbag, ABS

แน่นอน รถพวกนี้พูดตรงๆ ผมไม่กล้านั่งหรอกครับ แต่ผมมองในมุมของคนทำงานที่รายได้ไม่มีอะไรมากมาย ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะประหยัดเงินเพิ่มอีกสักบาท ผมว่าของแบบนี้ยังขายได้

ถ้าราคา่ ไม่เกิน 3แสน มาอย่างนี้ผมซื้อครับ..

ดีกว่าเดิน...

ดีกว่าซื้อมอเตอร์ไซค์ (เนื้อหุ้มเหล็กชัดๆ)

ดีกว่าใช้บริการ ขสมก. (ขนส่งYou and Me พึ่งอะไรไม่ได้ทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพ)

ดีกว่าต้องขึ้นรถไฟฟ้า ตามด้วยรถเมล์(อาจจะต่อเดียว หรือบางคน 2-3ต่อเลยด้วยซ้ำ เช่นรุ่นน้องผม เรียน มจพ. กลับบ้านที่รังสิตทุกวัน ที่บ้านไม่ให้อยู่หอ) ต่อสองแถวเข้าหมู่บ้าน แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าบ้านอีก

เห็นด้วย ครับ อะไรก็ได้ ขอให้ถูกๆ เกียร์ CVT option พอประมาณ ;)

ดีกว่าขี่มอไซด์ตั้งเยอะไป
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 20:22:26
ขอเขียนเพิ่มแทนพลังเงียบนะครับ

หลายๆ คนในที่นี้ ผมเข้าใจว่าทุกคน มีเงินหรือที่บ้านมีเงิน พอประมาณที่จะออกรถราคา 4-5 แสนขึ้นไป

แต่ยังมีคนอีกหลายๆ คน ที่เขาไม่มีโอกาสเข้าถึงรถยนต์ เขาเหล่านี้ ขึ้นรถเมล์ นั่งมอไซด์
เช่น ที่บริษัทผม พี่แม่บ้าน กับพี่Massenger พี่คลังสินค้า

เขาเหล่านี้ก็มีความหวังว่า อยากจะได้รถสักคันหนึ่งที่ไม่แพงมาก แต่รถบ้านเราแพงเวอร์
บ้า option ใส่อะไรนักหนากไม่รู้ แถมเครื่องใหญ่เกิน

เจ้านี่แหละครับ คือคำตอบ และจริงๆ Eco car ในบ้านเราก้ใช้ได้ แต่มาตราฐานสูงไปหน่อย
ราคาก็เลยแพงไปนิด แต่ก็รับได้เพราะอย่างน้อยก็ประหยัดน้ำมัน ;)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: civicferio ที่ สิงหาคม 09, 2011, 21:27:24
จริงริงโกะก็หนึ่งในนั้นที่ชอบรถแบบ base ver. เพราะส่วนนึงมองว่าออฟชั่นบางตัวไม่จำเป็นเท่าไร ใช้แค่เดินทางเท่านั้น
ถ้ารถมันมาจริงๆคุมราคาไม่ได้หรอโดยเฉพาะโตโยต้า ไปดู ไดฮ้สสุ ซีเนียรุ่นต่ำ แล้วจะอ้าปากหวอ รสนิยมคนที่นั่นนี่ ใช้รถพอๆกับอินเดียจริงๆ
ใจจริงอยากได้รถรัสเชียมากว่าคาคาก็พอๆกัน นิสสันน่าจะเอามาตีตราได้อยู่นะ (ถ้าไม่กลัวอิมเมจ)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 09, 2011, 21:58:40
จริงริงโกะก็หนึ่งในนั้นที่ชอบรถแบบ base ver. เพราะส่วนนึงมองว่าออฟชั่นบางตัวไม่จำเป็นเท่าไร ใช้แค่เดินทางเท่านั้น
ถ้ารถมันมาจริงๆคุมราคาไม่ได้หรอโดยเฉพาะโตโยต้า ไปดู ไดฮ้สสุ ซีเนียรุ่นต่ำ แล้วจะอ้าปากหวอ รสนิยมคนที่นั่นนี่ ใช้รถพอๆกับอินเดียจริงๆ
ใจจริงอยากได้รถรัสเชียมากว่าคาคาก็พอๆกัน นิสสันน่าจะเอามาตีตราได้อยู่นะ (ถ้าไม่กลัวอิมเมจ)

เห็นด้วยกะริโกะจัง  :D เราคิดเหมือนกันเลยนะคับ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ สิงหาคม 10, 2011, 01:14:39
จริงริงโกะก็หนึ่งในนั้นที่ชอบรถแบบ base ver. เพราะส่วนนึงมองว่าออฟชั่นบางตัวไม่จำเป็นเท่าไร ใช้แค่เดินทางเท่านั้น
ถ้ารถมันมาจริงๆคุมราคาไม่ได้หรอโดยเฉพาะโตโยต้า ไปดู ไดฮ้สสุ ซีเนียรุ่นต่ำ แล้วจะอ้าปากหวอ รสนิยมคนที่นั่นนี่ ใช้รถพอๆกับอินเดียจริงๆ
ใจจริงอยากได้รถรัสเชียมากว่าคาคาก็พอๆกัน นิสสันน่าจะเอามาตีตราได้อยู่นะ (ถ้าไม่กลัวอิมเมจ)

นึกถึง Dacia Logan (Nissan Aprio) ขึ้นมาทันทีเลย

เป็นอะไรที่อยากได้จัง
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ สิงหาคม 10, 2011, 08:57:15
สิ่งที่ Carlos Ghosn ย้ำตลอดเวลาในช่วงครึ่งปีนี้ และบรรจุในแผนกลยุทธ์หลัก Nissan Power 88

"Nissan จะขยายตลาดกลุ่ม “ยานยนต์สำหรับทุกคน” ในรูปแบบรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์แบรนด์ใหม่พัฒนาเพื่อจับกลุ่ม Entry Level และตลาดเกิดใหม่"

และจะตอกย้ำบ่อยเอามาก ๆ ว่าอยากจะสนองรถที่ซื้อหาได้สำหรับทุกคนบนโลกใบนี้

สิ่งใดที่แกพูด ทำจริงเสมอ
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 09:00:30
สิ่งที่ Carlos Ghosn ย้ำตลอดเวลาในช่วงครึ่งปีนี้ และบรรจุในแผนกลยุทธ์หลัก Nissan Power 88

"Nissan จะขยายตลาดกลุ่ม “ยานยนต์สำหรับทุกคน” ในรูปแบบรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์แบรนด์ใหม่พัฒนาเพื่อจับกลุ่ม Entry Level และตลาดเกิดใหม่"

และจะตอกย้ำบ่อยเอามาก ๆ ว่าอยากจะสนองรถที่ซื้อหาได้สำหรับทุกคนบนโลกใบนี้

สิ่งใดที่แกพูด ทำจริงเสมอ

น่าดีใจจังเลยครับ ;)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: LiTtLe BoY ที่ สิงหาคม 10, 2011, 09:01:50
ถ้ามีรถราคาไม่แพงจริง ผมว่าก็มีคนต้องการอีกเยอะนะ คนที่ขี่มอไซด์รายได้ไม่เยอะ ก็อยากมีรถคันเล็กๆ เอาไว้กันฝนให้ลูกเมีย ไม่เปียกฝนเปื้อนโคลน หรือให้เมีย

หรือลูกสาว ขับกลับบ้านอย่างปลอดภัยยามค่ำคืน อย่างน้อยมันก็คุ้มกันภัยต่างๆได้ดีกว่ามอเตอร์ไซด์
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ สิงหาคม 10, 2011, 12:43:03
ถ้ามีรถราคาไม่แพงจริง ผมว่าก็มีคนต้องการอีกเยอะนะ คนที่ขี่มอไซด์รายได้ไม่เยอะ ก็อยากมีรถคันเล็กๆ เอาไว้กันฝนให้ลูกเมีย ไม่เปียกฝนเปื้อนโคลน หรือให้เมีย

หรือลูกสาว ขับกลับบ้านอย่างปลอดภัยยามค่ำคืน อย่างน้อยมันก็คุ้มกันภัยต่างๆได้ดีกว่ามอเตอร์ไซด์


ใช่ๆ ;)
หัวข้อ: Re: ++คิดยังไง ถ้ารถ Low Cost & Green Car จากอินโดนราคา 2.8 แสนบาทตีตลาดไทย +++
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ สิงหาคม 10, 2011, 19:14:03

กรณีศึกษา
- Avanza นี่โดนหนักหน่อย ถูกจริง แต่ไม่เนี้ยบจริง
- Freed ของดี แต่ราคา+ออปชั่นไม่คุ้ม

แต่ยังไงๆ ดีหรือร้ายก็ช่าง
บ้านผมขายดีชัวร์(ก็บ้านนอก เขาก็ต้องการรถที่ราคาถูก และดีกว่ามอไซค์แน่ๆ)