Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NINENOI ที่ สิงหาคม 19, 2011, 13:46:01
-
มีคนมาขายดาว์นเฟียสต้ารุ่นรองท็อปสีดำ 5 ประตูครับ เขาดาว์นมา 180000 ผ่อน 84 งวด ผ่อนมาแล้ว 2 เดือน เดือนล่ะ 7100 บาท อยากขายอย่างแรงเพราะร้อนเงินสุดๆ จะขายดาว์น 70000 ส่วนค่าใช้จ่ายเรื่องเปลี่ยนสัญญาต่างๆนาๆ คนขายจะออกให้ทั้งหมด ตอนนี้พ่อผมตกลงซื้อแล้ว พ่อผมถามว่าอยากได้มั๊ยถ้าไม่เอาเดี๋ยวพ่อเอาไปขับโก้ๆเอง ส่วนตัวผมอยากได้มากเลยถ้าเป็นตัวท็อปคงตอบเอาไปแล้ว พ่อผมรู้ว่าผมสนใจรุ่นนี้มากเพราะผมเคยพาไปดูที่ศูนย์ที่สกลถ้าจะเอาพ่อผมช่วยดาว์นให้ 1 แสน แต่นี้รถแค่ 2 เดือนดาว์นถูกกว่าซื้อใหม่ 110000 เชียว โอ้วเหตุผลที่จะเอาหรือไม่เอามีดังนี้ครับ
เหตุผลที่เอา
1. อยากได้รุ่นนี้เป็นทุนเดิม ไม่กลัวเรื่องเข้าศูนย์ ที่บ้านเป็นอู่และรู้จักเจ้าของโชว์รูม
2. คันเก่าคือสามห่วงเกียร์ธรรมดา 16 ปีแล้ว ทำงานเหนื่อยมานานอยากได้รถใหม่ขับเป็นรางวัลชีวิต
3. อยากขับซิ่งบ้างเป็นบางเวลา อยากมีความสุขในการขับรถ สรุปข้อนี้อยากสนอง need
4. ปล่อยไว้เรื่อยๆเดี๋ยวสามห่วงขายยากจะขาดทุนกว่าเดิม
5. อยากได้รถใหม่ที่วางใจได้มากกว่าเพราะดูแลรถไม่ค่อยเป็น เคยเครื่องน็อค หม้อน้ำรั่ว ท่อเบรคหัก ท่อคลัชรั่ว คอมพังมาแล้ว
เกิดความไม่มั่นใจทุกครั้งที่ขับ ต้องตรวจสภาพทุกครั้งก่อนขับ
6. เด็กในไลน์ออกป้ายแดงกันเพียบไม่อยากจอดรถเทียบเลย (ข้อนี้ค่อนข้างเฉยๆ รถเก่าแต่มีตังเหลืออ่ะ)
7. พ่ออยากให้ขับรถใหม่เพราะอยากให้ผมขับรถที่ดูดีสมฐานะตำแหน่งหน่อยจะออกดาว์นให้ก็ไม่เอา (เกรงใจครับหาตังได้เองแล้วจะรบกวนในเรื่องไม่สำคัญทำไม) และก็อยากให้ขับรถที่ปลอดภัยมากกว่า
8. อันนี้สำคัญมาก ผมเป็นโรคข้อเข่ากระดูกเสื่อม อายุยังไม่ถึง 32 ดีเลยอนาคตน่าจะแย่กว่านี้ขับรถมีคลัชเข้าเมืองที แค่ศรีราชารถไม่ติดนักน่ะครับ นรกเลยทีเดียว ปวดเข่าสุดๆต้องพกยาหม่องติดรถไว้ตลอด อยากได้รถที่มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเสียด้วยซ้ำจะได้สบายขาขวาขึ้นอีก
9. ตราบใดที่ยังไม่ได้รถใหม่ซักทีผมก็จะมัวแต่คิดเรื่องรถอยู่นั่นแหละ เคยเครียดจนกระเพราะอาหารทะลุมาแล้ว (ไม่ใช่เรื่องรถเรื่องเดียวหรอก แต่ลดไปอีกเรื่องก็ดี) ซื้อซะจะได้ไปคิดเรื่องอื่นบ้าง
10. แฟนผมก็อยากนั่งรถใหม่เหมือนกันและก็ไม่อยากให้ผมคิดมากเรื่องรถ
เหตุผลที่ไม่เอา
1. แฟนผมท้องอยู่จากนี้คงต้องใช้เงินมาก
2. หลังลาคลอด 3 เดือนจะให้ลาออกมาเลี้ยงลูกแล้วก็หางานใกล้ๆจะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน เท่ากับว่าผมต้องหาเงินคนเดียว
3. รายจ่ายค่อนข้างเยอะ
4. มีเงินลงทุน 5 แสนไม่อยากไปดึงเงินส่วนนี้มา อยากให้มันงอกเงยไปเรื่อยๆเอาไว้เลี้ยงลูก
5. อาจหาธุรกิจเล็กๆให้แฟนทำจะได้เลี้ยงลูกเอง ไม่อยากเอาไปฝากให้แม่ยายเลี้ยงไม่ใช่ว่าเลี้ยงไม่ดีนะครับแต่อยากเลี้ยงเองมากกว่า เรื่องความผูกพันเนี่ย เงินซื้อหาไม่ได้
6. ถ้าผมไม่เอาพ่อผมจะเอาไปใช้เอง พร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยขอซื้อต่อจากพ่อ แต่พ่อผมขับรถเก๋งสไตร์กระบะกลับมันพังไปซะก่อน
7. ยังไม่ได้ต่อเติมบ้านเลย วางแผนจะต่อเติมครัวแล้วก็ทำโรงจอดรถหน้าบ้าน ถ้าเอามาตอนนี้ก็อาจไม่มีเงินพอต่อเติมบ้าน รถก็ต้องจอดตากแดด บ้านหน่ะอยู่ทุกวัน แต่รถไม่ได้ขับทุกวัน
8. ต่อเนื่องจากข้อ 5 หากธุรกิจจำเป็นต้องใช้กระบะขนของจะไม่เหลือตังซื้อกระบะแล้วหล่ะ
เฮ้อ ยอมรับว่าคิดมากครับ ช่วยเสนอแนะหน่อยนะครับ คนดูวงนอกจะมองอะไรกว้างๆกว่าคนอยู่วงใน ขอบคุณครับ
-
ไม่เอา ไม่ใช่รถที่อยากได้นี่ครับ
;D ;D ;D
-
ผ่อน 7 ปี ยาวได้ใจกันเลย
-
ผมคิดว่าถ้ายังไม่พร้อมเท่าไรก็ลองชะลอได้นี่ครับ เงินดาวน์จะได้สูงขึ้นอีกนิดตอนจะออกจริงๆ
จะว่าไป ผมติดตรงเดียวก็ที่ 84 งวดนี่แหละครับ ^^"
-
ในฐานะคนขับสามห่วงเหมือนกัน
เอาเถอะครับ คนเราไม่รู้ว่าจะตายจากกันไปเมื่อไร
หาความสุขให้ตนเองและคนรอบข้างบ้างครับ สามห่วงก็ดี แต่รถมันเก่าแล้วนะครับ อนาคตอะไหล่จะหายากขึ้น และยิ่งมี eco car ภาษีอีก ราคาขายต่อจะค่อยๆ ตกลงๆ ไปอีก จนอาจจะได้หลักหมื่นนะครับ
ผมเองก็เปลี่ยนจาก สามห่วงเป็นน้องมีนา เพราะ วิ่งเยอะขึ้นกว่าสมัยก่อน และชอบความประหยัดและใช้ E20 ได้
ตอนแรกก็ว่าจะขับคันเดิมไป แต่ผมเห็นคนรอบตัวในปีนี้หลายคน ตายทั้งที่ยังไม่ได้ใช้ตัง สุดท้ายกลายเป็นลูกก็เอาไปใช้ สบายเฮเลย
ตอนแรกก็ว่าจะใช้คันเดิมไปก่อน แต่คิดๆดูตามเหตุผลด้านบน + แนวโน้ม ตามที่พี่ Homy บอก คือ Eco car ไม่มีถูกกว่านี้แล้ว (Nissan ถูกที่สุดแล้ว) + ผมอาจจะต้องซ่อมและต่อประกันอีกประมาณเกือบๆ 20000 บาท
เลยตัดใจเปลี่ยน ทั้งที่ตนเองรายได้ไม่มาก แต่อาศัยว่าไม่มีภาระ อยู่กับพ่อแม่ ค่าอาหารแถวบริษัทไม่แพงและกำลังจะหาอาชีพเสริมเพราะรู่สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบ(เรื่องรถมากขึ้น)
กรณีของคุณ ต่อให้พ่อเอาไปใช้แล้วพัง ผมเชื่อว่าก็แค่ช่วงล่างแหละครับ ไม่ต้องกลัว เผลอๆ แกจะซ่อมให้เราด้วย
-
สู้ๆครับ จขกท. ผ่อน 84 งวด น่าจะพอไหวนะครับ ยังไงพ่อก็ช่วย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
:)
-
เท่าที่ดูๆเหตุผลที่จะไม่เอาค่อนข้างมีน้ำหนักมากกว่ากันเลยครับ
เท่าที่อ่านมาข้อดีของการซื้อรถคันใหม่ก็เห็นจะเป็น
ขับสบายขึ้น,กังวลเรื่องรถน้อยลง ซึ่งตรงนี้ผมว่าถ้าเทียบกับเหตุผลที่จะไม่เอา ผมว่ามันยังน้อยไปนิดนึง
เพราะถ้าเราเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ,ต่อเติมบ้าน มันจะเกิดประโยชน์กว่าแน่นอน แล้วยิ่งถ้ามีรายจ่ายเยอะ+กำลังจะมีลูกด้วย ผมว่ายิ่งไม่น่าเอาเลยครับ เพราะสุดท้ายถ้าเปลี่ยนรถคันใหม่มา ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษานะครับ เพียงแต่จ่ายน้อยลงเท่านั้นเอง สู้เราเก็บเงินค่าผ่อนรถคันใหม่ฝากบัญชีไว้ให้ลูกดีกว่าครับ :D
-
ดีแล้วที่เราคิดว่าจะมีแต่งงาน มี ลูก เห็นแล้วเครียดมากเลยครับ :)
-
ความเห็นส่วนตัว ผมยังไม่เอาครับ ติดตรงผ่อนเนี่ยแหละ เป็นหนี้อีก7ปี ผ่อนราคานี้หารถที่ผ่อน5ปียังได้เลยครับ
ดูจากเหตุผลที่ไม่อยากได้รถไม่ได้ใช้ประจำทุกวันเน้นๆตรงข้อ7นี่แหละครับ
ครอบครัวและบ้านมาก่อนนะครับ เรื่องรถเก็บเงินดาวน์อีกซักพัก หารถใหม่ๆผ่อนสบายๆดีกว่า ซักไม่เกิน6แสนน่าจะพอแล้ว(ดอกเบี้ยต่ำ ฟรีประกันชั้น1 )
ส่วนอีกมุมมองนึง ให้คุณพ่อซื้อก้ได้ครับถ้าท่านต้องการ เราขอยืมบ้างบางโอกาศครับเพราะยังไม่ได้ใช้บ่อยนี่นา
-
จขกท.ทำธุรกิจส่วนตัวก็คงจะรู้เรื่องเงินหมุนอยู่แล้ว เคสนี้แค่จ่ายดาวน์7หมื่น ขายคันเก่าได้1.2แสนก็ยังเหลืออีกตั้ง5หมื่น
แต่ที่จขกท.เขียนมา สิ่งที่จะทำมันเยอะมากเกินไปนะครับ จะเอาอะไรกันแน่ ซื้อรถ ต่อเติมบ้าน เมียคลอดลูก ลงทุนธุรกิจ ซื้อรถกระบะ
สิงที่เขียนมาทั้งหมดมันต้องใช้เวลามากกว่า1ปีหละครับถึงจะทำได้ทั้งหมด จขกท.คิดมากนะไม่แปลกใจเลยที่กระเพราะอาหารทะลุ 5555 แซวเล่นนะครับ
ความเห็นผม ถ้าชอบคันนี้ก็เอาเลยครับ ขายคันเก่าเอาเิงินข่ายค่าดาวน์คันใหม่เหลือผ่อนได้อีกหลายงวดเลย ไม่กระทบอะไรกับเงินเก็บหรอก แต่ต้องผ่อนรถเพิ่มเท่านั้น
แต่ถ้าไม่ชอบก็อย่าเอาเลย เดี๋ยวก็ต้องมาตั้งกระทู้บ่นอีกว่ารู้งี้ไม่เอาดีกว่าแม้จะของถูกก็ตาม ยังไงก็ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน
-
เป็นผมคงไม่เอาครับ เชื่อว่าเอามาแล้วคงไม่สบายใจ เพราะยังมีภาระที่รออยู่ข้างหน้าอีกมาก
ดูจากเงิน 5 แสน ที่จำเป็นต้องทำก็แทบจะไม่พอแล้วนะครับ ยังไงก็ขอให้คิดให้ดีนะครับ ผมทำงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ ปรกติจะแนะนำลูกค้าให้กันเงินไว้สำหรับรถประมาณ 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกันครับ ลูกค้าผมส่วนใหญ่จะอายุประมาณนึง 50++ ครับ แล้วหลายท่านภาระทางบ้านก็ไม่มีแล้ว ก็เลยแนะนำให้ใช้ประมาณ 10% สำหรับเรื่องรถ เพราะเดี๋ยวนี้คนเราอายุยืนยาวขึ้น ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณค่อนข้างมาก และรางวัลของชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องรถอย่างเดียว
ถ้าจะให้คิดให้ดีต้องดูรายได้ประจำด้วยครับ ดูแต่เงินเก็บอย่างเดียวไม่พอ
-
ใจจริงคุณ NINENOI อยากได้รถใช่ไหมครับงั้นลองดูค่าใช้จ่ายดูว่าพอรับได้ไหม
ค่าใช้จ่ายตอนออกรถ
ดาวน์ 70000
ผ่อนต่ออีก 7100*82= 582200
รวม 652200
ส่วนเหตุผลที่ไม่เอา
-รายจ่ายค่อนข้างเยอะ = ต้องลองคำนวณดูค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้ว+ค่าผ่อนรถแล้วเดือนนึงเหลือประมาณเท่าไร
-มีเงินลงทุน 5 แสนไม่อยากไปดึงเงินส่วนนี้มา อยากให้มันงอกเงยไปเรื่อยๆเอาไว้เลี้ยงลูก = แสดงว่าเอาเงินส่วนนี้มาใช้ไม่ได้ก็ต้องเอาเงินที่มาจากรายได้รายเดือนมาผ่อนรถ+ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- หากธุรกิจจำเป็นต้องใช้กระบะขนของจะไม่เหลือตังซื้อกระบะแล้วหล่ะ = อันนี้ผมว่าสำคัญอยู่ที่ว่าเอารถมาทำเงินหรือหาเงินมาผ่อนรถครับ
สรุป ประเด็นอยู่ที่ว่ารายได้ต่อเดือนสามารถผ่อนได้โดยสบายๆมีเงินเหลือเก็บมั้ยนั่นละครับ บางครั้งความสุข+ความสบายที่ได้ต้องแลกกับบางสิ่งที่ลดลงไปนะครับ
-
ไม่เอาครับ ถ้าไม่จำเป็นผมคงแบ่ง 500,000 ไปลงทุนส่วนนึง กันไว้สำรองส่วนนึง
แต่คงไม่เอาไปซื้อรถแน่ๆ นอนจากเอารถมาใช้เพื่อหาเงิน
ถ้าซื้อรถเพื่อสนองกิเลสตัวเอง ผมไม่เอาแล้ว - -" อยากได้นู้นได้นี่ สุดท้ายมันมีแต่ด้อยค่า
ยิ่งจะมีลูกแล้วผมคงทุ่มเงินให้ลูกมากกว่ารถ ครับ
-
ถ้าตามที่ จขกท. ว่ามา ดูเหมือนว่าเหตุผลที่จะไม่เอามีน้ำหนักมากกว่า
เอาอย่างนี้ครับ ถ้าเอามันมาแล้วเดือดร้อน ก็อย่าเลยครับ
แต่ถ้าเอามาแล้วไม่เดือดร้อนก็เอาไว้ได้ครับ
-
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากเลยครับ ตอนนี้ตัดสินใจไม่เอาแล้วหล่ะครับ ถ้าจะให้สรุปก็คือ อารมณ์หน่ะอยากได้แต่เหตุผลไม่ควรจะเอา สุดท้ายเหตุผลก็เอาชนะอารมณ์อีกจนได้ ก่อนหน้านี้ผมเคยถามแฟนผมว่าถ้าให้เลือกระหว่างไปเที่ยวเกาหลีกับต่อเติมบ้าน(ทำครัวหลังบ้านกับโรงจอดรถหน้าบ้าน) จะเลือกเอาอย่างไหน แฟนผมเลือกต่อเติมบ้านเพราะสามารถใช้งานได้ทุกวันส่วนไปเที่ยวก็เที่ยวแถวนี้เอาก็พอจะได้ประหยัด มาตอนนี้ผมเลือกระหว่างต่อเติมบ้านกับรถใหม่ ผมเลือกแล้วว่าเอาต่อเติมบ้านนี่แหละครับ แฟนผมเสียสละไม่ไปเที่ยวเกาหลีแล้วเพื่อจะต่อเติมบ้าน ครั้งนี้ผมก็ต้องยอมเสียสละอารมณ์ส่วนตัวเพื่อครอบครัวบ้างหล่ะครับ แต่บอกแฟนไว้แล้วว่าวันไหนหยุดยาวๆไปเที่ยวแล้วเช่ารถที่อยากขับไปเที่ยวกันดีกว่าประหยัดกว่าแล้วก็ไปแต่ละครั้งเลือกไม่ซ้ำกันเลย ส่วนสามห่วงก็ขับแต่แถวๆนี้แหละกลับบ้านก็เข้าอู่ตรวจสภาพก่อนแล้วกัน
อีกอย่างรายเหลือแต่ละเดือนประมาณ 15000 ถ้าแฟนผมออกก็คงไม่เหลือเอาให้การงาน การเงินนิ่งก่อนดีกว่าครับถ้ายังโดนใจอยู่ก็ขอซื้อต่อจากพ่อก็แล้วกัน เผลอๆจ่ายให้แค่ 50000 ก็ได้แล้วงวดรถก็หายไปอีกเยอะ 55555
เพิ่งโทรคุยกันตอนนี้พ่อผมอยู่ที่ศูนย์ฟอร์ดเพื่อรอเปลี่ยนสัญญา แต่ทางเจ้าของรถไม่มาซักทีบอกว่าไปธุระแป๊ปนึง ฟังจากน้ำเสียงเหมือนพ่อผมจะไม่ค่อยพอใจล่ะเผลอๆอาจไม่ซื้อซะนี่ ได้ความยังไงเดี๋ยวผมมาอัพเดทนะครับ
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
-
ขอตอบแบบตามประสบการณ์ตัวเองนะครับ
เคยผ่านเหตุการณ์ประมาณนี้มาอาจไม่เหมือนซะทีเดียว คือ เดิมบ้ารถยุโรปตัวเองใช้ camry โฉมก่อนปัจจุบันตัวท๊อปมีคนประกาศขาย BMW 523i E39 วิ่งน้อยสภาพดี ภรรยาก็ท้องอยู่อยากให้ภรรยาสบายลูกจะเกิดก็จะได้สบายนั่งรถที่ปลอดภัย.....ขาย camry เพิ่มเงิน 200,000 บาท แล้วก็ได้ E39 มาในครอบครอง จากนั้นเอาไปติดแก๊สอีก 55,000 บาท
สรุปเงินเก็บเกือบหมดได้รถที่ต้องการ ต่อไปจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินเพื่อลูก
แต่....มันไม่เป็นงั้น...รถมีปัญหาเครื่องสะดุด, งานไม่เป็นตามที่คิด, เงินเก็บไปพอเพราะไปลงกะค่าซ่อมรถ
พอคลอดลูก...ค่าใช้จ่ายเพียบ แทนที่ลูกเมียจะสบายกลายเป็นตรงข้ามลำบากและต้องใช้อย่างประหยัด สุดท้ายขายรถไปซื้อ city มาขับ
***ที่บอกมาทั้งหมดนี้ต้องการบอกแค่ว่า ความหวังดีจะให้ลูกเมียสบายโดยการ "เป็นหนี้" ในระยะยาวมันไม่ดีเลย ถ้าย้อนไปได้ผมคง ตบกระโหลกตัวเองแล้วบอกว่ามีเงินเก็บดีๆนะดีอยู่แล้ว
รอพร้อมเถอะครับ อย่าเป็นหนี้เลย อนาคตไม่แน่ไม่นอน รถเก่าก็ขับช้าหน่อย ความสุขคือเราได้อยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้า...อยากกินก็กิน อยากซื้อของใช้ก็ซื้อ พอแล้วครับ
ดีกว่า มีรถโก้ๆขับแต่ ไม่มีเงินในกระเป๋าครับ
-
ขึ้นอยู่กับคุณพี่ ว่าจำเป็นต้องใช้รถบ่อยขึ้น มีการเดินทางไกล ๆบ่อยแค่ไหน เส้นทางที่ไปเปลี่ยวหรือไม่?
ถ้าเป็นแบบนี้ เปลี่ยนรถก็จะปลอดภัยกว่านะครับ
แต่ถ้าขับอยู่แถวศรีราชา วนไปวนมาแถว เกาะลอย โรบินสัน อันนี้สามห่วงมันก็พอพึ่งพาได้ขับไปดับไป ยังหาคนมาซ่อมได้
จากที่ผมอายุเพิ่ง 30 ปี ลูก2 คนโต ขวบ 11 เดือน ตัวเล็กเพิ่งคลอดเดือนที่แล้ว รายได้ตัวเองประมาณ 38,000 บ.
ถ้ายอดขายถึงก็มีคอมฯอีก ควอเตอร์ละ 21,000-28,000 บ. มีรถประจำตำแหน่ง VIOS G อันแสนเมื่อยหลัง (เค้ามีให้ใช้ก็บุญแล้ว)
น้ำมันเชื้อเพลิงก็ใช้เงินบริษัทฯ แอบวิ่งแถวบ้านบ้าง เมียก็มีรายได้ประมาณ 20,000-25,000 บ. คิดว่าก็คงพอนะสำหรับครอบครัวแบบนี้
แต่ปรากฏว่า เงินไม่เคยเหลือเก็บเลย ผ่อน INNOVA มือ2 ให้เมียใช้(เมียมือ1นะ) ผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรเครดิตที่ใช้ตอนลูกป่วย ทำวัคซีน
ประกันสุขภาพลูก เงินหมุนใช้จ่ายระหว่างทำงานอีก
พอมีลูกแล้วต้องคิดเยอะมาก ๆ ผู้ใหญ่เราอดได้ แต่ลูกยังไงนมก็ต้องพร้อม วัคซีนพร้อม ป่วยก็ต้องหาหมอ
การผ่อนรถนานไม่ใช่ปัญหา เรามีเงินก็โปะก่อนได้ แต่ดอกเบี้ยยังมีอยู่ครึ่งนึง ถ้าคิดมูลค่าเงินตามอัตราเงินเฟ้อ
ดูเหมือนดอกเบี้ยรวมเยอะ แต่คิดตามเวลาอีก 5-7 ปี มูลค่าเงินเรามันจะถูกลง
แต่สำคัญที่มันจำเป็นต้องใช้รถใหม่จริง ๆ หรือเปล่านั่นล่ะครับ
-
อ่า ได้เรื่องแล้วครับ เจ้าของเค้าไปขายให้กับเจ้าของโชว์รูมฟอร์ดเรียบร้อยแล้วได้ราคามากกว่า ก่อนหน้าที่จะมาหาพ่อผมก็ไปหาขายให้เจ้าของโชว์รูมฟอร์ด แต่เขากดราคาให้แค่ 30000 ก็เลยมาหาพ่อผมตกลงราคากันที่ 70000 เจ้าของเค้ารู้ดังนั้นก็เลยให้ 90000 ดูสิเล่นปล่อยให้พ่อผมรอเปลี่ยนสัญญากับมันที่โชว์รูมฟอร์ดนั่นแหละ พวกนี้มันเล่นคุยกันข้างหลังแอบขายกันหลอกให้พ่อผมเสียเวลารอ 3 ชั่วโมงเพราะมันไม่กล้าบอก แล้วเขาก็เอาไปขายเป็นรถป้ายแดงต่อ ส่วนจะเอาไปทำยังไงนั้นไม่ทราบครับ ดีนะเนี่ยที่ผมตัดสินใจไม่เอาแล้วและพ่อผมแค่อยากได้มาขับโก้ๆ ไม่ได้อยากได้มากมายนักแล้วก็ตอนแรกเจ้าของบอกว่าเป็นรุ่นท๊อป แต่จริงๆเป็นรองท็อปก็ไม่ปลื้มมาแต่แรกอยู่แล้ว พ่อผมโทรมา Check กับผม รองท็อปอาไร้ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า อักษร S ด้านหลังก็ไม่มี ยางก็ 15 ไม่ใช่ 16 พวงมาลัยก็ไม่มีปุ่มกด โด่หลอกผมไม่ได้หรอก
ที่รู้เพราะญาติของคนที่ขายรู้จักกับพ่อผมและเป็นคนมาคุยให้พ่อผมช่วยไปดูรถและช่วยซื้อ พ่อผมก็โทรไปถามแกมต่อว่าเค้าก็เลยบอกมา เห็นว่าตอนนี้ไปดาว์นมาร์ชมาขับแล้ว ขอให้ไม่มีปัญญาผ่อนอีกน่ะ
แล้วก็ แสบจริงๆศูนย์ฟอร์ด แล้วก็จริงอยู่มันเป็นปัญหาที่ตัวบุคคลแต่ผมไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวผมจดจำในฐานะที่เค้าเป็นศูนย์ฟอร์ด
-
รอลูก 1ขวบแล้วค่อยซื่อดีกว่าครับ
เด็กจะเกิดใช่เงินมาประมาณ 200000บาทครับ
ซื้อของเด็กอ่อนอ่างน้ำ ชมพู เสือผ้า แพมเฟือส รถเข็น คาซีส เริ่มก็3-40000ครับ
รายเดือน เลี้ยงเด็กกับแม่เด็กค่าบำรุงของเล่นค่านม วักซีน ประมาณเดือนละ10000บาท 1ปีก็120000บาท
เริ่มท้องฝากคันถึงคลอดค่าคลอดเองประมาณ20000 ผ่าออกก็3-40000แล้ว
โดยประมาณอย่างน้อยนะครับ
-
555 ขอบคุณครับทุกท่าน คาดว่าคงเป็นไปตามแผนเดิมแล้วล่ะครับ ปีหน้าค่อยว่ากัน อาจเป็นกลางปีหรือปลายปีหน้ารึเป็นต้นปี 2013 ไปเลย ไม่อยากให้นานกว่านี้หรอกครับ เผลอๆอาจเร็วกว่านั้นอีก ผมมีความรู้สึกว่ายิ่งนานยิ่งทรมานใจ อยากให้ของขวัญกับตัวเองบ้าง โอกาสได้ป้ายแดงคงไม่ค่อยมีแล้วหล่ะ หาสอยพวกออกมาไม่กี่ปีแล้วไม่มีตังผ่อนดีกว่า ประหยัดไปเยอะมากเลย รึไม่ก็เจ้าของเต้นท์ที่อยุธยาที่พ่อผมทำธุรกิจกันอยู่ให้เค้าหารถให้ คือเค้าเป็นศูนย์ขายส่งรถมือสองที่ใหญ่มาก รถผ่านมือเค้าเยอะมากแต่เค้าไม่ตั้งเต้นท์ขายปลีกเป็นหลักครับ เน้นขายส่งมากกว่า รถมาไม่เกิน 3-4 วันก็ปล่อยแล้ว ว่างๆจะลองไปเยี่ยมชมที่เต้นท์เค้าอยู่
ที่ผมอยากได้รถใหม่มาขับเพราะว่าผมเคยเห็นตัวอย่างคนแก่ๆนี่แหละครับ ทำงานเหนื่อยมาตลอดชีวิตเกษียณมาแล้วค่อยเอาเงินเก็บที่มีมาซื้อพวกแคมรี่ แอคคอร์ด มาขับโก้ๆ ผมไม่อยากรอถึงตอนนั้น ผมยังอยากมีความสุขกับปัจจุบันด้วยครับ อีกอย่างถ้าผมได้รถใหม่มาขับคงใช้ไปอีก 10 หล่ะครับกว่าจะได้เปลี่ยน ใช้ยังไงก็คุ้ม
วัยรุ่น - มีแรง มีเวลา ไม่มีตัง
วัยทำงาน - มีแรง ไม่มีเวลา พอมีตัง
วัยเกษียณ - ไม่มีแรง มีเวลา มีตัง
คิดได้ดังนี้แล้วก็มองหาโอกาสเอารถใหม่โดยที่ไม่ส่งผลกระทบมากนักกับเงินที่มีอยู่แล้วครับ
-
ผมว่าจะไม่แต่งงานก็ตรงนี้แหละ กลัวภาระมากเลยครับ ;)
อยากหาอะไรให้ตนเองได้ใช้อย่างสบายใจครับ
-
ของขวัญที่สุด คือลูกแล้วจะเอาอะไรอีกครับ