Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: vut ที่ กันยายน 13, 2011, 14:59:35

หัวข้อ: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: vut ที่ กันยายน 13, 2011, 14:59:35
วันนี้ผมนั่งอ่านมาทั้งวันหลายเวปบางคนก็บอก grey ดีกว่า0ที่ออฟชั่นเยอะกว่า บางคนก็ว่า0ดีกว่า
มันเลยทำให้ผมคิดไปว่า
1.ถ้า0ดีกว่าทำไมไปออกที่greyกัน
2.ก็รู้ออกที่greyเสี่ยงเยอะกว่าแต่บางคนเลือกจะออกที่grey
3.ทำไม0ถึงไม่ทำออฟชั่นเยอะๆเท่าgrey
4.บอกคนบอกซื้อที่greyรถก็ไม่เห็นเป็นไรเลยใช้มา2ปีน้ำมันก็เติมได้เหมือนกันไม่เห็นพังเหมือนที่พูดกันเลย
5.ผมว่ามันเป็นปัญหาที่ไม่จบนะ เหมือนกับที่ผมถามพวกพี่ๆว่า0กับgreyอันไหนดีกว่ากัน
6.ผมอยากให้พวกพี่ช่วย confirm หมอกฤษณ์ หรือ จะฟันธงหมอลักษณ์ก็ได้ว่าอันไหนดีที่สุดครับ
 
ถ้าคำถามไม่ดีลบได้เลยนะครับ ไม่โกรธครับ และขอบคุณทุกคำตอบครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: koruru ที่ กันยายน 13, 2011, 15:09:18
ติดใจตรง ข้อ 6.ผมอยากให้พวกพี่ช่วย confirm หมอกฤษณ์ หรือ จะฟันธงหมอลักษณ์ก็ได้ว่าอันไหนดีที่สุดครับ
ผมว่าข้อ 6. นี่ผิดกฎของที่นี่ไปเต็มๆครับ ลองไปอ่านกฎของที่นี่ดูก่อนนะครับ
ส่วนข้ออื่นๆให้ท่านอื่นตอบละกันครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: comet1123 ที่ กันยายน 13, 2011, 15:17:46
มันอยู่ทีี่ส่วนต่างคับซึ่งถ้ามันต่างกันซัก7-8แสนก็คุ้มนะที่จะเล่นรถเกรย์แต่ก็ต้องเลือก
เกรย์ที่มีคุณภาพประวัติดี มีการเซอร์วิสที่คลอบคลุมและยิ่งตอนนี้3-4ค่ายหลักๆ
ก็ไม่มีเวิล์ดไวด์การันตีแล้ว ไม่รับรถที่ซื้อมาจากบริษัทเกรย์ซึ่งความเสี่ยงก็จะมาอยู่ที่บริษัท
เกรย์ที่เราจะเลือกซื้อคับต้องดูให้ดีๆอย่าที่บอกไปข้างต้น
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: bytebird ที่ กันยายน 13, 2011, 15:18:49
วันนี้ผมนั่งอ่านมาทั้งวันหลายเวปบางคนก็บอก grey ดีกว่า0ที่ออฟชั่นเยอะกว่า บางคนก็ว่า0ดีกว่า
มันเลยทำให้ผมคิดไปว่า
1.ถ้า0ดีกว่าทำไมไปออกที่greyกัน
2.ก็รู้ออกที่greyเสี่ยงเยอะกว่าแต่บางคนเลือกจะออกที่grey
3.ทำไม0ถึงไม่ทำออฟชั่นเยอะๆเท่าgrey
4.บอกคนบอกซื้อที่greyรถก็ไม่เห็นเป็นไรเลยใช้มา2ปีน้ำมันก็เติมได้เหมือนกันไม่เห็นพังเหมือนที่พูดกันเลย
5.ผมว่ามันเป็นปัญหาที่ไม่จบนะ เหมือนกับที่ผมถามพวกพี่ๆว่า0กับgreyอันไหนดีกว่ากัน
6.ผมอยากให้พวกพี่ช่วย confirm หมอกฤษณ์ หรือ จะฟันธงหมอลักษณ์ก็ได้ว่าอันไหนดีที่สุดครับ
 
ถ้าคำถามไม่ดีลบได้เลยนะครับ ไม่โกรธครับ และขอบคุณทุกคำตอบครับ

1. นานาจิตตัง
2. กลับไปอ่านคำตอบข้อ 1.
3. option ยิ่งเยอะ ราคาก็ยิ่งแพง แล้วใครจะกล้ามาซื้อครับ
4. ไม่ใช่ว่ามันจะพังภายในปีสองปีครับ บางคันป้ายแดงก็มีปัญหาแล้ว บางคันก็อยู่ยาวหน่อย อีกอย่างคุณภาพน้ำมันแต่ละจังหวัด แต่ล่ะปั้มก็ไม่เท่ากัน
5. .........
6. ซื้อที่ไหนแล้วสบายใจก็ซื้อที่นั่นครับ ซื้อ0แพงกว่าแต่สบายใจเรื่องรับประกัน ซื้อเกรย์ถูกกว่าก็ต้องแบกความเสี่ยงครับ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเหตุและผลในตัวของมันเองครับ ^^
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ กันยายน 13, 2011, 15:25:20
จากที่สังเกตุนะครับ หลายท่านที่ออกมาบอกว่าตัวเองออกรถจาก Grey ส่วนใหญ่มีอู่ที่รู้จักกันไว้รองรับอยู่เลย เลยไม่มีปัญหา  ;D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: DArkMaster ที่ กันยายน 13, 2011, 15:33:17
ออก grey ได้ option มากกว่า ราคาถูกกว่า อย่างที่คุณ H บอกแหละครับ คนที่ออก grey ส่วนใหญ่มักมีอู่คู่ใจอยู่แล้ว หรือเป็นคนที่อยากมีรถหรูๆแต่อยากจ่ายน้อยๆอะไรประมาณนั้นแหละครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: last_dezember ที่ กันยายน 13, 2011, 15:48:57
ออกเกรย์ สั่งอ๊อฟชั่นตามใจฉันได้ครับ แถมราคาถูกกว่า แต่ถ้าเป็นผมนะ ผมออก 0 ครับ

ยอมจ่ายสูงกว่าแลกมากับความสบายใจ  ;D ;D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: Nighthawk ที่ กันยายน 13, 2011, 16:19:24
- 0 ฟันกำไรเยอะไป แต่คนไทยเดี๋ยวนี้ใช้เงินเป็นก็เลยเข้าศูนย์น้อยลง
- เกรย์เจ้าใหญ่ๆเขามีบริการหลังการขายดีไม่แพ้ 0 คนเลยไม่สนใจ 0
- คนที่ซื้อรถกับเกรย์ส่วนใหญ่ไม่ได้มีรถแค่คันเดียว เลยไม่มีปัญหาเวลารอเคลมอะไหล่ หรือ คอม หรือ ชิฟ
- ถ้า 0 ฟันกำไรน้อยลงคนก็คงอยากเข้า 0 เองแหล่ะ
- อาการของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถหรูคืออาการของหมู่ดิ้นเมื่อมีอาหารให้กินน้อยลง (แต่ไม่ค่อยหรือไม่เคยมองจุดอ่อนของตัวเองเลย)
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ กันยายน 13, 2011, 16:32:19
1.ถ้า0ดีกว่าทำไมไปออกที่greyกัน

- รายย่อย(เกรย์) ให้ราคาถูกกว่าผู้ถือสิทธิ์(ศูนย์)ครับ ในออฟชั่นที่เท่ากัน
และเราสามารถเลือกออฟชั่นได้ตามใจเราครับ ว่าต้องการหรือไม่ต้องการอะไร
สีทั้งภายนอก และภายใน รวมถึงลายไม้ ผู้ซื้อสามารถสั่งได้หมดครับ

2.ก็รู้ออกที่greyเสี่ยงเยอะกว่าแต่บางคนเลือกจะออกที่grey

- เพราะแรงจูงใจด้านบนที่กล่าวมาครับ มันเลยลบความเสี่ยงไปทั้งหมด ส่วนมากมันเป็นปัจจัยด้านทางราคามากกว่าครับ
และบางคนใช้รถไม่นาน อย่างคนที่ซื้อเมอร์เซเดสกับรายย่อยไม่กี่ปีเขาก็เปลี่ยนรุ่นใหม่แล้วครับ ความเสี่ยงที่รถจะพังมันเลยน้อยลง
และด้วยเหตุผลที่ว่า รถยนต์ค่ายนี้ราคาไม่ค่อยร่วง เป็นรถยอดนิยม ผู้ถือสิทธิ์ในไทยเลยหนักหนาสาหัสครับ

3.ทำไม0ถึงไม่ทำออฟชั่นเยอะๆเท่าgrey

- อันนี้ก็ไม่ทราบได้เหมือนกันครับ ว่าทำไมเขาไม่มีออฟชั่นให้เลือกออฟชั่นแบบรายย่อยที่ซื้อมาจากต่างประเทศ
คงต้องรอฟังคำตอบจากผู้บริหารมั้งครับ
แต่ผมคิดว่า เขาคงคิดว่ามันไม่จำเป็นสำหรับประเทศเรามั้งครับ

4.บอกคนบอกซื้อที่greyรถก็ไม่เห็นเป็นไรเลยใช้มา2ปีน้ำมันก็เติมได้เหมือนกันไม่เห็นพังเหมือนที่พูดกันเลย

- อันนี้อยู่ที่เครื่องยนต์ด้วยครับ ว่าเบนซิน หรือ ดีเซล และ 2 ปียังน้อยไปที่จะตัดสินครับ ของแบบนี้ต้องดูกันที่ระยะยาวๆ ครับ

5.ผมว่ามันเป็นปัญหาที่ไม่จบนะ เหมือนกับที่ผมถามพวกพี่ๆว่า0กับgreyอันไหนดีกว่ากัน

- มันไม่จบหรอกครับ มันเป็นการแย่งเกมส์ส่วนแบ่งของตลาดมากกว่าครับ เค้กก้อนนี้ใหญ่ใช่เล่นนะครับ

6.ผมอยากให้พวกพี่ช่วย confirm หมอกฤษณ์ หรือ จะฟันธงหมอลักษณ์ก็ได้ว่าอันไหนดีที่สุดครับ

- เว็บไซต์นี้ห้ามคอนเฟริ์มครับ ด้วยเจ้าของเว็บไซต์เขาจะดุเอานะครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กันยายน 13, 2011, 17:02:24
ไม่ฟันธง ไม่คอนเฟริ์ม ไม่ใช่หมอลักษณ์ ไม่ใช่หมอกฤษณ์
บอกกันตั้งแต่วันแรกที่เปิดเว็บ กฎของเว็บก็มีครับ ว่าไม่รับฟันธง
กระทู้ปักหมุดด้านบน ตัวใหญ่ๆ บอกอยู่ทนโท่ โปรดทำความเข้าใจด้วยครับ!

1. เพราะ ในอดีตที่ผ่านมา MBTh ตั้งราคารถไว้แพงกว่า Grey แต่ Option น้อยกว่า Grey
แต่วันนี้ บางรุ่นยังเป็นอย่างนั้น แต่บางรุ่น ไม่ใช่แล้ว พอกันหรือถูกกว่าเดิมด้วยซ้ำ

2. และข้อ 4  เพราะคนกลุ่มนั้น คิดว่า ซื้อมาใช้แค่ 2-3 ปี ก็ขายทิ้ง ไม่สนใจบริการหลังการขาย
คิดไปว่ามันไม่พัง ทั้งที่ความจริง ก็มีเคสเจอปัญหาจากการเติมน้ำมันโผล่มาแล้วหลายราย
ไม่ถึงปี พังไปเลยก็มี เสียค่าเปลี่ยนเครื่องกับ MBTh  8 แสนกว่าบาทก็มี และนี่ แค่ E-Class จาก Grey นะ

3. ดู SLK ใหม่เป็นตัวอย่าง คราวนี้ออพชันเยอะแบบนี้ สะใจพอไหมครับ?
ยิ่งออพชันเยอะ คุณก็ต้องยิ่งจ่ายเพิ่มขึ้นมาก แต่ Grey ทำราคาถูกได้ เพราะอะไร ไม่รู้
ลองหาราคารถใน www.mercedes-benz.co.uk (http://www.mercedes-benz.co.uk) มาคำนวน เป็นค่าเงินวันนี้ บวกอีก 220% เป็นภาษีบ้านเราเข้าไป
จะเห็นว่า ความจริงแล้ว Grey ควรจะขายราคาจริงเท่าไหร่ แต่ทำไมขายถูกได้ ผมไม่รู้ ลองไปคิดดูเอาเองครับ

5 ปัญหานี้ มีทางจบ ถ้ามีการเอาจริงเอาจังมากกว่านี้

แต่อย่างว่า ถ้าถึงขั้นบริษัทแม่เคยโดนโทรมาข่มขู่กัน แล้วจะให้ทำอย่างไรได้ละ? ใครก็ไม่รู้โทรมาข่มขู่หนะ
ทำธุรกิจเมืองไทย มันไม่ง่ายนักหรอก

ทุกคนมองแต่ว่า สำนักงานใหญ่ บริษัทแม่ เอากำไร
แต่..ทุกคนลืมคิดไปใช่ไหมว่า บริษัทแม่ มีภาระที่จะต้องรับเรื่องความเสี่ยงจาก
ความผันผวนของค่าเงิน กับการจ่ายภาษีที่ต้องถูกต้อง ทุกเม็ดทุกสตางค์ มี Audit
ตรวจสอบเข้มงวดมากๆ ผิดนิดเดียว เป็นเรื่องใหญ่ รายงานถึงบริษัทแม่ในเยอรมัน
ถึงขั้นเด้งออกกันเลยทีเดียว

เกรย์ มีแบบนี้ไหม ยืนยันให่ว่า "ไม่มี"

เพราะอะไร? หลบเลี่ยงภาษีหรือเปล่า? เส้นใหญ่ เส้นหนา? อิทธิพล? มีจริงหรือไม่?
ผมไม่รู้ ผมไม่ทราบ ไปหาคำตอบกันเอาเอง บางท่านก็คงรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว

แต่บอกตรงๆ บริษัทแม่เองก็เหมือนกัน ขนาดทุกวันนี้ บริการหลังการขายของ MBTh ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทำลูกค้าเจ็บหรือเคืองไปบ้างพอสมควรเหมือนกัน

แล้วนับประสาอะไรกับผู้ค้ารายย่อย ที่มักจะหมกเม็ดปัญหาของรถ ยิ่งกว่าศูนย์ใหญ่ด้วยซ้ำ??


เงินที่คุณจ่ายไป ให้กับรถ MBTh เขาเอาไปจ่ายพนักงานคนไทย จ้างแรงงานไทย ในโรงงานธนบุรีฯ
จ่ายเป็นค่าจ้างซัพพลายเออร์ คนไทย ค่าฝึกอบรมสต๊าฟไทย ค่าฝึกอบรมนักเรียนสายอาชีวะบ้านเรา
ที่เรียนดี ให้มาทำงานที่ ดีลเลอร์

เงินที่คุณจ่ายให้เกรย์ ====> ไม่รุ้?
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: 7777777 ที่ กันยายน 13, 2011, 17:18:05
ง่ายๆ ซื้อเกรย์เพราะอยากซื้อถูกกว่าเค้า อาจจะเงินไม่ถึงซื้อศูนย์ หรือจะอยากประหยัดนิดหน่อยก็ว่ากันไป

แต่ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่ชอบเกรย์จริงๆ มันทำลายหลายๆอย่างนะครับ

ผมทำธุรกิจนำเข้าอยู่ แล้วรู้เลยว่าพวกศูนย์เนี่ย ต้องเซ็งจากปัญหาที่เกรย์สร้างขึ้นมาแค่ไหนก็ไม่รู้

อย่าลืมนะครับว่าเวลารถมีปัญหา คนใช้มันโทษใครคนแรกหละครับ ไม่ใช่ของ"ยี่ห้อ" นั้นๆเหรอ? มีใครมานั่งด่าเกรย์มั๊ย?

แล้วเกรย์มันทำอะไร? รักษาชื่อเสียงของสินค้าบ้างหรือเปล่า... ผมว่าไม่เลยนะ

ดีแต่ขาย หนีภาษีหรือทำผิดกฎหมาย มันไม่สนหรอก รู้อย่างเดียว มีคนซื้อมัน

ผมกล้าพูดนะ พวกเกรย์มีอิทธิพลหนุนทั้งนัน กฎหมายบ้านเรามันเบาไป พวกใหญ่ๆมันไม่มีใครกลัว เพราะอั๊วะเคลียร์ได้ ซะงั้น



หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: ชายโอ๊ต ที่ กันยายน 13, 2011, 17:22:05
กระจ่างเลยครับคุณจิมมี่ ;)
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: PeteFD ที่ กันยายน 13, 2011, 17:24:35
เป็นผมนะครับ ถ้ารถตลาดหรือรู้จักกับอู่ซ่อมคงออกเกรย์ แต่ถ้ารถไม่ตลาดก็คงซื้อศูนย์ครับ

เห็นบางท่านออกรถแปลกๆ เช่น Porsche หรือ Ferrari แต่ออกกับเกรย์ คงเป็นพวกใช้ไม่นาน ถ้าจะใช้นานๆ แล้วเลือกออกกับเกรย์นี่คงเป็นพวกอยากขับแต่เงินไม่ถึงออกศูนย์น่ะครับ อย่าลืมว่ารถต้องมาคู่กับบริการหลังการขาย ช่วงใหม่ๆ อาจจะเทห์แต่นานๆ ไป กลัวจะเป็นอีกเรื่อง บางคนว่าเกรย์บางทียอดมาก มีช่างมีเครื่องมือพร้อม แต่อย่าลืมว่าในอดีตเกรย์ใหญ่ๆ อย่าง SEC ยังเคยล้มมาก่อน แล้วจะหาว่าไม่เตือน  :D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กันยายน 13, 2011, 17:34:15
จากข้อ1คุณจิมมี่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่เกรย์แพร่ระบาดแย่งยอดขายไปเยอะเลยต้องทำเพื่อแย่งลูกค้าคืน หรือเพราะว่ามีแผนจะทำแบบนี้มาแล้วกันครับ?

ส่วนตัวแล้วแม้จะรู้แก่ใจว่าเกรทั้งหลายค่อนข้างจะเล่นโกงตรงที่ไม่ต้องทำการตลาดแต่อาศัยสิ่งที่เบนซ์ทางการทำไว้แล้วเกาะกระแสเนียนทำยอดขายไปด้วย แต่ในฐานะผู้บริโภคผมชอบใจเป็นอย่างมากที่มีการตั้งราคาและของติดรถชนิดที่ตีแสกหน้ามันฟาดฟันกันถึงกระดูกแบบนี้ ยิ่งมีการแข่งขันมากท่าไหร่ผู้บริโภคก็ยิ่งสบายเพราะต่างจะออกโปรโมชั่นที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าหันมาหาตัวเอง

แต่ไหนแต่ไรแล้วคนรอบข้างผมชอบบ่นกันว่าซื้อเบนซ์ราคาตั้งแพงแสนแพงแต่ทำไมถึงให้ของในรถมาน้อยนักบางทีน้อยยิ่งกว่าโตโยต้าที่ราคาถูกกว่าหลายเท่าเสียอีก จนพากันหันเหไปมองดูBMWที่ดูแล้วคุ้มค่าราคาจ่ายมากกว่า ดังเช่นที่คุณจิมมี่บอกว่ามีลูกค้าบางส่วนไม่พอใจกับการบริการของเบนซ์ทางการเช่นกัน การที่มีเหล่าเกรย์ทั้งหลายมาคอยกวนระบบการขายให้ปั่นป่วนแบบนี้ผมมองว่าดีครับ จะได้เป็นตัวแปรกระตุ้นให้เบนซ์ทางการกวดขันเรื่องการบริการและเอาใจลูกค้าให้มากขึ้นไม่ใช่ว่ายังคงปล่อยวางเหมือนที่ผ่านมา มีคู่แข่งตัวฉกาจบ้างก็ดี

ผมยังคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกของธุรกิจยานยนต์ที่แตกหน่อมาจากกระแสเกรย์ป่วนตลาดมากกว่านี้ ไม่รู้จะเป็นไปได้ไหมถ้าหากว่ามีผู้ค้าที่ขายรถยุโรปที่ราคาถูกกว่าทางการแต่แพงกว่าเกรย์เล็กน้อย แต่สามารถซ่อมบำรุงรักษาและสั่งจ่ายอะไหล่ได้ครบถ้วนทุกชิ้นส่วนไม่มีขาด อาจจะไม่ใช่เบนซ์หรือBMWแต่เป็นออดี้ โฟล์ค มินิ หรือรถสปอร์ตยี่ปุ่นทั้งหลายแหล่ คนดูอย่างเราคงจะมันส์ดีพิลึกเลย   ;D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: eight ที่ กันยายน 13, 2011, 17:38:56


3. ดู SLK ใหม่เป็นตัวอย่าง คราวนี้ออพชันเยอะแบบนี้ สะใจพอไหมครับ?
ยิ่งออพชันเยอะ คุณก็ต้องยิ่งจ่ายเพิ่มขึ้นมาก แต่ Grey ทำราคาถูกได้ เพราะอะไร ไม่รู้
ลองหาราคารถใน www.mercedes-benz.co.uk (http://www.mercedes-benz.co.uk) มาคำนวน เป็นค่าเงินวันนี้ บวกอีก 220% เป็นภาษีบ้านเราเข้าไป
จะเห็นว่า ความจริงแล้ว Grey ควรจะขายราคาจริงเท่าไหร่ แต่ทำไมขายถูกได้ ผมไม่รู้ ลองไปคิดดูเอาเองครับ



ออพชั่นเท่าไหร่ ก็ราคาเหมือนไม่มีออพชั่น เวลาที่ศุลกากรตรวจเค้าแกล้งๆทำเป็นไม่เห็นให้
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเกร์ยต้องขายรถออพชั่นเยอะๆครับ (ราคาออฟชั่นที่เข้ามาจากเมืองนอก บวกไปคิดเป็นภาษีรวมกับค่าตัวรถเลยนะครับ แพงมากๆ)

นี่เป็นแค่อีก 1 วิธีนะครับ มีอีกเยอะ เค้าเล่นกันทุกหัวมุมเลย อิอิ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: maxxim ที่ กันยายน 13, 2011, 17:49:00
มันเหมือนปัญหาที่ไม่มีทางออกเลย

mbth แพง  การบริการก็เจอไม่ดีบ้าง

เกรย์ ก็ถูก  แต่ เสี่ยงฉิบ :-\

ถึงผมจะรู้สึกว่า mbth เอาเปรียบบ้าง  และ ไม่พอใจหลายๆอย่าง  

แต่ถ้าผมจะซื้อ  ผมเลือก mbth อยู่ดี เพราะเกรย์มันเสี่ยงเกินไปสำหรับผม และผมก็เหลือทางเลือกเดียวครับ

แต่ไม่นาน mb คงปรับตัวเข้ากับตลาด และคงได้จุดที่ลูกค้ารับได้จนได้


ทำธุรกิจในไทยลำบากอยู่แล้วครับ  เจ้าหน้าที่รัฐตัวดีเลย

ประเภทกะเอารถมาเพื่อจงใจให้ศุลยึด แล้ว........เฮ้อ..เมืองไทย
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: PJ" ที่ กันยายน 13, 2011, 18:14:24
เคยเห็นไหมรถถึงไทยเปิดตู้ขับกลับบ้านได้เลยไม่ต้องตรวจ แถมคนตรวจมาส่งถึงที่ตู้
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: koruru ที่ กันยายน 13, 2011, 19:07:09


3. ดู SLK ใหม่เป็นตัวอย่าง คราวนี้ออพชันเยอะแบบนี้ สะใจพอไหมครับ?
ยิ่งออพชันเยอะ คุณก็ต้องยิ่งจ่ายเพิ่มขึ้นมาก แต่ Grey ทำราคาถูกได้ เพราะอะไร ไม่รู้
ลองหาราคารถใน www.mercedes-benz.co.uk (http://www.mercedes-benz.co.uk) มาคำนวน เป็นค่าเงินวันนี้ บวกอีก 220% เป็นภาษีบ้านเราเข้าไป
จะเห็นว่า ความจริงแล้ว Grey ควรจะขายราคาจริงเท่าไหร่ แต่ทำไมขายถูกได้ ผมไม่รู้ ลองไปคิดดูเอาเองครับ



ออพชั่นเท่าไหร่ ก็ราคาเหมือนไม่มีออพชั่น เวลาที่ศุลกากรตรวจเค้าแกล้งๆทำเป็นไม่เห็นให้
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเกร์ยต้องขายรถออพชั่นเยอะๆครับ (ราคาออฟชั่นที่เข้ามาจากเมืองนอก บวกไปคิดเป็นภาษีรวมกับค่าตัวรถเลยนะครับ แพงมากๆ)

นี่เป็นแค่อีก 1 วิธีนะครับ มีอีกเยอะ เค้าเล่นกันทุกหัวมุมเลย อิอิ  ;D ;D ;D

เสริม อีกนิดนึง Audi TT ทำไมราคาถึงเท่า TTS ทั้งๆที่ แรงม้า เกิน 220
นี่ก็เป็นอีกวิธีนึงของ Grey 
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กันยายน 13, 2011, 22:18:37
ประเด็นของเรื่องนี้คือ

MBTh ตามเข็ดขี้เยี่ยวที่เกิดขึ้นไม่ไหวแล้วหนะครับ

ในฐานะ คนทำแบรนด์ ผมหนะซึ้งในจุดนี้เลย

สมัยก่อน ตอนทำเพลงกับ Mionotone
เอาแผ่นออกขายงาน Fat Fes วันเสาร์
เช้าวันอาทิตย์ ตะวันนา มีงาน MP3 ของ CD ทั้งงาน
ขายกันครบเรียบร้อย!

ผมเกลียดคนที่ทำธุรกิจเอาเปรียบคนอื่น
ไม่ว่าจะ Grey หรือ MBTh ถ้าเอาเปรียบลูกค้า ผมก็ด่าหมดละ

แต่ เคสนี้ ผมมองว่า MBTh ก็ทำในสิ่งที่ควรจะทำเสียที
และพวกเขาก้เริ่มรู้แล้วว่า ที่ผ่านมา ตัวเอง ทำอะไรไว้มากแค่ไหน
ได้เวลาจะปัดกวาดครั้งใหญ่กันแล้ว

แต่ งมานนี้ Grey ทั้งหลาย ก็ดูท่าทางจะยัง Chil กันอยู่
เพราะเขาไม่แคร์อยู่แล้ว เขาเชื่อว่า ยังไงก็จะมีคนมาซื้อกับเขาอยู่ดี ซึ่งมันก็จะเป็นความจริง

หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: LiTtLe BoY ที่ กันยายน 13, 2011, 23:37:46
ผมว่า Grey เหมาะกับใช้รถไม่กีปีก็เปลี่ยนคัน  ส่วน MTB เหมาะกับใช้ยาวๆ เกิน4-5 ปีขึ้นไปครับ ยังไงเวลา service ก็อุ่นใจกว่า

 ถือว่าเป็นทางเลือกของผู้บริโภค ได้มีตัวเลือกในตลาดมากขึ้น

ป.ล.อยากให้มีเกรย์รถมาเลย์บ้าง แล้วเอาอะไหล่เข้ามาขายด้วย  อะไหล่จะได้ถูกลงบ้าง
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ กันยายน 14, 2011, 00:10:44
บางทีผมก็มานั่งคิดนะครับว่า

"ผู้ค้ามีความทุกข์ ลูกค้ามีความสุข ผู้ค้ามีความสุข ลูกค้ามีความทุกข์"

การที่เกรย์มาอัดราคาแข่งกับ MBTh มันก็ทำให้ราคาของรถโดยรวมทั้งตลาดถูกลง และ MBTh ก็จะได้ปรับราคาสินค้าถูกลงด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ต้นทุนบริษัทใหญ๋ ย่อมมากกว่าเกรย์ ดังนั้นเผลอๆ กำไรต่อคันของ grey ยังอาจจะมากกว่า MBTh ด้วยซ้ำไป

เรื่องซิกแซก มันเป็นธรรมดาของธุรกิจ มากน้อย แล้วแต่จริยธรรมครับ แต่ถ้าใครบอกว่าใครตั้งแต่ทำธุรกิจ หรือทำงานมา ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องตงฉิน ผมคงไม่ไปกราบไหว้นะครับ แต่ผมจะเอาขึ้นหิ้ง ในฐานะ "ของแปลก"

ผมก็ไม่เชื่อหรอกครับว่าบริษัทนำเข้ารถยนต์จะเสียภาษีถูกต้องเป๊ะๆ ลองกลับไปดูกรณี Mira หรือ Granvia หรือ Benz Vito สมัยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็ได้ครับ แล้วจะรู้ว่า การหาเรื่องช่องโหว่ภาษี เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ เพราะต้นทุนที่ต่ำที่สุด ย่อมมาจาก "การจ่ายภาษีที่น้อยที่สุด ที่ยังไม่ต้องไปนอนคุก" ครับ

แต่แน่นอน Grey Market มันก็บอกแล้ว ว่ามันสีเทาครับ ดังนั้นจะให้ซื้อของถูกจาก Grey อย่างสบายใจ 100% มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่ดาบลูกคาบดอก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีความเสี่ยงสูง เช่น รถที่เอาเข้ามามีปัญหา ซ่อมยาก หรือโดนสรรพากรเล่นภาษีย้อนหลัง เพราะมาจับได้ทีหลังว่าขั้นตอนการนำเข้า มีลูกตุกติก บลาๆๆ

ราคาที่ถูกลง ส่วนต่างนั้น คือค่าความเสี่ยงที่ต้องเผชิญครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กันยายน 14, 2011, 09:27:42
ว่าจะไม่โพสแล้วนะเนี่ย .....

ตามที่คุณ JIMMY ว่ามาเรื่องงานเพลง ...อันนั้นมัน copy ขาย ..... ผมเข้าใจ ...

แต่ grey  กับ MBTH มันไม่เหมือนกันครับ grey ไม่ได้ copy รถมาขายนิ ..... เค้าก็ซื้อมาเหมือนกัน ....

ผมไม่ชอบธุรกิจผูกขาด ผมยินดี ที่ธุรกิจที่ผูกขาด มีคู่แข่ง ซึ่งเป็นผลดีกับลูกค้า ซึ่งมีทางเลือก มีการแข่งขันเรื่องราคาและคุณภาพ ......

การที่เราสนับสนุน MBTH มากไป แล้วไงครับ เค้าผูกขาด ขาย option งั้นๆ คุณภาพงั้นๆ แต่ขายแพง เค้าจะฟันราคาเท่าไรก็ได้ .... แบบนี้ดีหรือ ...... ??

การที่ไม่รับ service รถที่ออกจาก grey แสดงให้เห็นว่า  MBTH ใจแคบมากๆ .... เพราะการที่รถ MB ไม่ว่าจะซื้อจากใครก็คือ MB ฉะนั้น ถ้าเขาจะขอ service คุณก็ service ให้เค้าแต่ก็คิดราคาค่าแรงและอะไหล่ไปสิ ..... ทำไมถึงออกมาประกาศว่าไม่รับ service .....

ทำไม MBTH ถึงไม่ใส่ส่วน service พิเศษเข้าไปแบบ BMW หรือ ถ้าเจอรถมีปัญหาที่มาจากเกรย์ ก็บอกลูกค้าไปว่ารถคุณซื้อกับเกรย์มา เลยเจอแบบนี้ อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในความต่าง ว่าซื้อกับMBTH ดีกว่าซื้อกับ เกรย์ยังไง แต่กับประกาศตัดขาดกันแบบนี้ ...ผมว่าก็ธุเรศไป .... ลูกค้าที่ซื้อรถระดับนี้ได้ ก็เจ้าของธุรกิจ หรือระดับผู้บริหาร กันทั้งนั้น เค้าคงไม่โง่ขนาดไม่เข้าใจหรอก ...

ผู้ซื้อ หรือลูกค้า ซื้อกับใคร ย่อมยินดีรับความเสี่ยงตรงส่วนนั้นอยู่แล้ว อาจจะเป็นรถเก่านำเข้ามาขายเป็นรถใหม่หรืออะไร ซึ่งนั่นก็คือ "ลูกค้าเลือกเอง" ฉะนั้น การปิดกั้น และพยายามผูกขาด ....ผมว่า .... บริษัทฯที่มีแนวคิดแบบนี้ มันไม่น่าสนับสนุน ครับ ....
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: MJunior ที่ กันยายน 14, 2011, 09:50:57
ผมว่าจริงๆแล้วมันก็เป็นกลไกของการค้าแบบเสรี
Grey ก็มีสิทธินำมาขาย ตราบใดที่ไม่ทำผิดกฎหมาย
MBTH ก็มีสิทธิออกมาตรการป้องกัน ตราบใดที่ไม่ทำผิดกฎหมายอีกเช่นกัน
ทั้ง Grey และ MBTH ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ผู้บริโภคจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง ซึ่งถ้าสู้กันเแบบตรงๆ มันคงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ปัญหามันอยู่ที่มักจะใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย หรือเลี่ยงกฎหมายทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปลี่ยบแบบไม่ยุติธรรม
แถมเราเองก็เสียเปลี่ยบแบบไม่รู้ตัวเช่น Grey บางเจ้าจงใจสำแดงราคารถต่ำกว่าความเป็นจริง ก็เสียภาษีน้อยลง ราคารถจึงถูก รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อยลง ก็หมายความว่า
เงินภาษีที่จะนำมาพัฒนาประเทศก็น้อยลง ซึ่งก็จะกระทบกับประชาชนหมู่ใหญ่นั้นเอง

อีกอย่างผู้บริโภคบางท่านอาจจะรู้ไม่ทั้งหมดทั้งขอดีและขอเสีย อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้
ซึ่ง webboard นี้ก็เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่ผู้บริโภคจะเข้ามาเสพ แล้วตัดสินใจเองว่าจะเลือกเสพอะไรบ้าง
เราเองก็กลายเป็นผู้สื่อข่าวสารไปโดยไม่รู้ตัว ดั่งนั้นผมว่าทุกคนช่วยกันได้โดยการสื่อสารสิ่งที่ตนเองรู้ออกมาโดยใช้เหตุและผล ไม่ใช้อารมณ์มาทำให้เอนเอียง
แล้วจะทำให้ทุกความเห็นมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: 470127 ที่ กันยายน 14, 2011, 09:56:14
grey ทำให้ข้างบ้านผมถอย e class coupe สีขาวป้ายแดงเบาะแดง จาก grey แห่งหนึ่ง มาจอดหน้าบ้านแทน clk คันเก่า
โครตอิจฉาเลยครับ
ผมคิดอยู่ในใจ e coupe คันใหม่นี้ราคาคงถูกกว่าตอนซื้อ clk เดิมที่ซื้อจาก dealer ของเบนซ์สะอีกนะ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ กันยายน 14, 2011, 10:33:18
ว่าจะไม่โพสแล้วนะเนี่ย .....

ตามที่คุณ JIMMY ว่ามาเรื่องงานเพลง ...อันนั้นมัน copy ขาย ..... ผมเข้าใจ ...

แต่ grey  กับ MBTH มันไม่เหมือนกันครับ grey ไม่ได้ copy รถมาขายนิ ..... เค้าก็ซื้อมาเหมือนกัน ....

ผมไม่ชอบธุรกิจผูกขาด ผมยินดี ที่ธุรกิจที่ผูกขาด มีคู่แข่ง ซึ่งเป็นผลดีกับลูกค้า ซึ่งมีทางเลือก มีการแข่งขันเรื่องราคาและคุณภาพ ......

การที่เราสนับสนุน MBTH มากไป แล้วไงครับ เค้าผูกขาด ขาย option งั้นๆ คุณภาพงั้นๆ แต่ขายแพง เค้าจะฟันราคาเท่าไรก็ได้ .... แบบนี้ดีหรือ ...... ??

การที่ไม่รับ service รถที่ออกจาก grey แสดงให้เห็นว่า  MBTH ใจแคบมากๆ .... เพราะการที่รถ MB ไม่ว่าจะซื้อจากใครก็คือ MB ฉะนั้น ถ้าเขาจะขอ service คุณก็ service ให้เค้าแต่ก็คิดราคาค่าแรงและอะไหล่ไปสิ ..... ทำไมถึงออกมาประกาศว่าไม่รับ service .....

ทำไม MBTH ถึงไม่ใส่ส่วน service พิเศษเข้าไปแบบ BMW หรือ ถ้าเจอรถมีปัญหาที่มาจากเกรย์ ก็บอกลูกค้าไปว่ารถคุณซื้อกับเกรย์มา เลยเจอแบบนี้ อธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในความต่าง ว่าซื้อกับMBTH ดีกว่าซื้อกับ เกรย์ยังไง แต่กับประกาศตัดขาดกันแบบนี้ ...ผมว่าก็ธุเรศไป .... ลูกค้าที่ซื้อรถระดับนี้ได้ ก็เจ้าของธุรกิจ หรือระดับผู้บริหาร กันทั้งนั้น เค้าคงไม่โง่ขนาดไม่เข้าใจหรอก ...

ผู้ซื้อ หรือลูกค้า ซื้อกับใคร ย่อมยินดีรับความเสี่ยงตรงส่วนนั้นอยู่แล้ว อาจจะเป็นรถเก่านำเข้ามาขายเป็นรถใหม่หรืออะไร ซึ่งนั่นก็คือ "ลูกค้าเลือกเอง" ฉะนั้น การปิดกั้น และพยายามผูกขาด ....ผมว่า .... บริษัทฯที่มีแนวคิดแบบนี้ มันไม่น่าสนับสนุน ครับ ....

การเป็น Authorized/Official Distributor คือ

การเป็นผู้แทนจำหน่าย แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยครับ

ถ้าไม่งั้น ผมก็คงไม่จะบอกว่า การเป็น authorized dealer = ไม่ฉลาด
เพราะว่า ถ้า authorized dealer มีสิทธิ์ขายเท่ากับ grey งั้นจะเป็น authorized dealer ทำไม ลงทุนมากกว่า แต่ขายได้น้อยกว่า

ตรงจุดนี้ ผมชอบความคิดนี้มากครับ ของคุณ MJunior
อ้างถึง
Grey ก็มีสิทธินำมาขาย ตราบใดที่ไม่ทำผิดกฎหมาย
MBTH ก็มีสิทธิออกมาตรการป้องกัน ตราบใดที่ไม่ผิดทำกฎหมายอีกเช่นกัน

Grey เขาก็อยากขายของที่มี demand เยอะเป็นธรรมดา MB มันมี demand เยอะ เขาก็เลยเอามาขาย
แต่ MBTh ก็มีสิทธิป้องกัน เพราะการเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขาไม่ป้องกันคนอื่นเอาของมาขาย ก็แสดงว่า เขาไม่ปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง

ในความรู้สึกผมนะ ถ้าผมคิดแบบคุณว่าใครๆ ก็เอา MB มาขายตัดราคาแข่งกันได้ งั้นก็ไม่ต้องมี authorized dealer ก็ได้ครับ ปิด MBTh ไปเสีย แล้วก็ใครอยากเอาเข้ามาก็ตามสะดวก เสร็จแล้ว ก็ไปซื้ออะไหล่วัดโสมมาซ่อมกัน น่าจะง่ายดี  ;D (ถ้าจำไม่ผิด ฝั่งลาวเป็นแบบนี้ ถึงเห็นรถแปลกๆ เพียบเลย อย่าง Bentley, Aston Martin, Maserati เวลาเสียก็ข้ามมาหาซ่อมแถวอุดรอะไรแบบนี้)

ส่วนเรื่อง BSI ของ BMW ผมมองว่าที่ BMW เริ่มทำก่อน ก็เพราะนอกจากตัดเรื่อง grey แล้ว ยอดขายของ BMW ยังน้อยกว่า MB ในเมืองไทยด้วย เพราะคนยังเชื่อว่า BMW ราคาตก อะไหล่แพง เขาก็เลยต้องมี campaign ที่ออกมาแนวๆ ว่า ช่วยลด running cost เพื่อให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมดูถูกกว่า MB เพื่อสร้างความเชื่อมั่นครับ

แต่ MB มันยังไม่จำเป็นต้องทำ เพราะยังไงคนไทยก็ยังติด brand นี้อยู่ ยังไงคนก็ซื้อของเขาเยอะอยู่ดี

ผมก็อยากได้รถ grey นะ เพราะมันถูก แต่ผมก็อยากให้คุณ apinui มองในมุมผู้ให้บริการบ้างครับ ลูกค้าไม่ได้ถูกเสมอไป และผู้ค้าก็ไม่ได้ผิดเสมอไปครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: 5ume7h ที่ กันยายน 14, 2011, 11:14:15
1.ถ้า0ดีกว่าทำไมไปออกที่greyกัน

คนที่คิดว่าศูนย์ดีกว่าเค้าคงจะไปออกที่ศูนย์ คนที่คิดว่าเกรย์ดีกว่าก็ไปออกที่เกรย์

2.ก็รู้ออกที่greyเสี่ยงเยอะกว่าแต่บางคนเลือกจะออกที่grey

คนที่ตัดสินใจออกที่เกรย์ แปลว่ารับความเสี่ยงได้

3.ทำไม0ถึงไม่ทำออฟชั่นเยอะๆเท่าgrey

ทำได้ ราคาก็คงจะแพงขึ้นไปอีก ทำให้ส่วนต่างมากขึ้น

4.บอกคนบอกซื้อที่greyรถก็ไม่เห็นเป็นไรเลยใช้มา2ปีน้ำมันก็เติมได้เหมือนกันไม่เห็นพังเหมือนที่พูดกันเลย

ก็เป็นประสบการณ์ตรงของเขา เราผู้รับข้อมูล ก็ต้องพยายามฟังให้รอบด้าน



ที่จริงถ้าทาง MBTH จะไม่รับ Service รถที่ซื้อจากเกรย์เลยก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้ เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยง หรือนั่นก็คือเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ที่จะซื้อจากเกรย์
การแข่นขันก็เป็นแบบนี้หละครับ ที่ยอมให้มี Service โดยเสียแรกเข้าเพิ่มก็ถือว่าแฟร์มากแล้ว

การกระทำของ MBTH จะที่ผ่านมาหรือตอนนี้ ผมก็ไม่ถือว่าเป็นการผูกขาด เพราะไม่ใช่ว่ารถที่วิ่งได้มียี่ห้อเบนซ์ยี่ห้อเดียว
จริงๆ แล้ว MBTH จะฟันกำไรโอเวอร์ขนาดไหนก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แถมถ้าแพงไปผลก็ไปตกที่ยอดขายเอง
รถยนต์อาจเป็นสิ่งจำเป็น แต่ความหรูหราของมันไม่ใช่สิ่งจำเป็นนะครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กันยายน 14, 2011, 12:51:18
คุณ Apinui

คุณเข้าใจคำว่า ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยไหมครับ?

คุณรู้ไหมว่า นี่มันเป็นเรื่องที่เกินไปกว่า คำว่าผูกขาด ไปแล้ว

ถ้า ไม่มีคนไปขอซื้อสิทธิ์ในการทำตลาดสินค้ัาอะไรสักอย่างมา
ถ้าลูกค้า ซื้อสินค้านั้นแล้วมีปัญหา จะเรียกร้อง จะเคลม กับใคร?

สำนักงานใหญ่ ต้องเลือกหาผู้ที่จะต้องรับผิดชอบ กับปัญหาหลังการขาย ไว้คอยซัพพอร์ตด้วย

คุณมองแต่ในแง่การขาย การทำตลาด และมองแต่ว่า ผู้บริโภคต้องได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวเท่านั้น
พ่อค้า ต้องไม่ได้ประโยชน์เกินไปกว่าที่ลูกค้าได้รับ

แต่คุณไม่มองสิ่งที่จะต้องเป็นกระบวนการตามมา และปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ดังนั้น ก็แล้วแต่ครับ ใครจะเลือกซื้อ กับศูนย์ หรือ เกรย์ ก็เป็นเรื่องของคุณ เงินของคุณ พิจารณากันให้ดีเอาเองก้แล้วกันครับ

แต่ ถ้ารถมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นกับใคร เจ้าไหน อย่าส่งเรื่องเรียกร้องมาที่ผมก็แล้วกันนะครับ
เพราะผมคงตามเกาะจิกกัดให้ไม่ได้






หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ กันยายน 14, 2011, 13:56:57
option มันก็แค่ของเล่น แต่ผมมองประโยชน์ในแง่ภาษีและการจ้างแรงงาน

เอาหละ รถของ MBTH แพงกว่า Gray แต่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ ว่า มีการจ้างแรงงานคนไทยประกอบและจัดจำหน่าย
เสียภาษีก็ไม่มีหมกเม็ด มีการรับประกันที่เชื่อถือได้

ผมว่ามันดีกว่า Gray เยอะที่ทำเน้นการขายไปวันๆ ซ่อมก็ปล่อยให้เป็นของศูนย์
แล้วเราจะมี MBTH ไว้ทำไม ผมว่าเขาปิดบริษัทไปเลยดีกว่า เพราะใครๆก็ไม่ซื้อรถกับเขา

ผมคิดว่าถ้ามีตัง 2-3 ล้านขึ้นไป การซื้อรถไม่ควรมามองแค่ ความเท่ห์และ option นะ
ต้องมองเรื่องบริการหลังการขายด้วยครับ ให้ซื้อรถ gray หรือรถจดประกอบ
ผมยอมขับรถในประเทศ option น้อยๆดีกว่า สบายใจดีครับ :D ช่วยเหลือแรงงานไทย และภาษีด้วย
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: birm ที่ กันยายน 14, 2011, 14:14:23
ประเด็นที่เจ้าของกระทู้ถามคือ ถ้า 0 เค้าดีจริง ทำไมคนยังไปออกรถกับเกรย์

มันก็แค่ว่าสิ่งที่คุณจ่ายไป จ่ายไปกับอะไรครับ
คุณจ่ายรถราคาถูก ได้ออพชั่นเต็มๆ แต่ไม่มีบริการหลังการขายที่ได้รับการรับรองจากศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ
คุณจ่ายรถราคาสูงกว่า ได้ออพชั่นน้อยกว่า แต่ได้รับการประกันรถบนต์ในระยะเวลาที่ตัวแทนจำหน่ายกำหนด

ถามว่าศูนย์ทำไมไม่ทำออพชั่นเยอะๆ คงไม่มีใครตอบได้นอกจาก MBth เอง อาจจะเป็นเพราะการวิเคราะห์ตลาดแล้ว จำนวนคนที่ต้องการรถออพชั่นเต็มๆ ขนาดที่เกรย์ให้มานั้น ไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด Main Stream ก็ได้ หรือ ปัจจัยอื่นๆเช่นราคาของรถคู่แข่งในตลาด

มันก็อยู่ที่มุมมอง คุณจ่ายรถราคาถูกกว่า แต่มันก็ต้องมีอะไรมาแลกรูปแบบความเสี่ยงที่คุณจับต้องไม่ได้ด้วยเงินตรา ณ เวลาที่คุณตัดสินใจซื้อรถ

เรื่องแบบนี้ก็มีให้เห็นในทุกตลาดหน่ะครับ เรื่องการทำ branding สินค้า รวมไปถึงการบริการหลังการขาย

นึกภาพคุณเป็นผู้ประกอบการ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นะครับ เอาเป็นว่านำเข้ารถยี่ห้อประเด็นร้อนตอนนี้เลย Benz นี่แหละ
คุณขายรถโดยที่มีศูนย์บริการ มี Fixed Costs มากมายที่ต้องรับภาระในประเทศ ค่าปฏิบัติการ ค่าการตลาด ค่าโรงงาน ค่าเก็บสินค้า ค่าสต็อกอะไหล่ ฯลฯ ผมให้คุณผู้อ่านคิดเองว่าจะมีเกรย์มาร์เก็ตกี่แห่งที่ทำแบบนี้?

แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่ง เริ่ม"หิ้ว"รถรุ่นที่คุณทำการตลาดไปนั่นแหละ (หิ้ว รวมไปถึง รถเกรย์มาร์เก็ต รถแบล็คมาร์เก็ต จดประกอบ หลบกฎหมาย เป็นสินค้าที่คุณไม่ได้น้ำเข้าหรือผลิตเอง อย่างเป็นทางการ) แต่ของหิ้ว สเปคไม่ได้เหมาะกับเมืองไทยเท่าไหร่นัก ใช้ไม่ระวังก็พังกันระนาวได้ แล้วผู้บริโภคที่ซื้อรถเกรย์ต้องการได้รับการบริการระดับศูนย์เบนซ์ ... นึกภาพออกใช่ไหมครับ "เอาของหิ้วไปเข้าศูนย์" เป็นการชุบมือเปิบตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็อาจจะเป็นประเด็นที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการต้องนำมาคำนวณเป็นความเสี่ยง

ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็สามารถปฏิเสธการดูแลรักษารถที่ไม่ได้รับการจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ครับ
มันไม่ใช่การผูกขาดตลาด ตามที่คุณจิมมี่ได้อธิบายไปแล้วครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: Nighthawk ที่ กันยายน 14, 2011, 14:16:16


3. ดู SLK ใหม่เป็นตัวอย่าง คราวนี้ออพชันเยอะแบบนี้ สะใจพอไหมครับ?
ยิ่งออพชันเยอะ คุณก็ต้องยิ่งจ่ายเพิ่มขึ้นมาก แต่ Grey ทำราคาถูกได้ เพราะอะไร ไม่รู้
ลองหาราคารถใน www.mercedes-benz.co.uk (http://www.mercedes-benz.co.uk) มาคำนวน เป็นค่าเงินวันนี้ บวกอีก 220% เป็นภาษีบ้านเราเข้าไป
จะเห็นว่า ความจริงแล้ว Grey ควรจะขายราคาจริงเท่าไหร่ แต่ทำไมขายถูกได้ ผมไม่รู้ ลองไปคิดดูเอาเองครับ


ออพชั่นเท่าไหร่ ก็ราคาเหมือนไม่มีออพชั่น เวลาที่ศุลกากรตรวจเค้าแกล้งๆทำเป็นไม่เห็นให้
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเกร์ยต้องขายรถออพชั่นเยอะๆครับ (ราคาออฟชั่นที่เข้ามาจากเมืองนอก บวกไปคิดเป็นภาษีรวมกับค่าตัวรถเลยนะครับ แพงมากๆ)

นี่เป็นแค่อีก 1 วิธีนะครับ มีอีกเยอะ เค้าเล่นกันทุกหัวมุมเลย อิอิ  ;D ;D ;D

ราคาที่เห็นในเว็บ uk น่ะเป็นราคารวมภาษีนะครับ แต่ราคาที่เวาขายให้เกรย์บ้านเราถูกกว่านั้นมากครับเพราะจะไม่คิดภาษีของ uk. ถ้าเป็นอินเตอร์เนชันนอลเซลล์ เช่นหักvat ออก อะไรทำนองนี้ครับ เกรย์ก็เลยรับมาราคาต่ำกว่าราคาขายใน uk ครับ นี่คือเหตุผลที่เขาขายราคาต่ำได้ อย่าง e250 coupe เนี่ยราคาออกจาก uk ประมาณ+/- 1.5 ล้านบาทครับ ส่วนจะจ่ายภาษีนำเข้าเท่าไหร่ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า MBTh. ฟันกำไรมากไปสำหรับรถรุ่นนี้ ขายเข้าไปได้ไงต้ังห้าล้านทั้งที่่นำเข้าเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: PeteFD ที่ กันยายน 14, 2011, 14:42:46
option มันก็แค่ของเล่น แต่ผมมองประโยชน์ในแง่ภาษีและการจ้างแรงงาน

เอาหละ รถของ MBTH แพงกว่า Gray แต่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ ว่า มีการจ้างแรงงานคนไทยประกอบและจัดจำหน่าย
เสียภาษีก็ไม่มีหมกเม็ด มีการรับประกันที่เชื่อถือได้

ผมว่ามันดีกว่า Gray เยอะที่ทำเน้นการขายไปวันๆ ซ่อมก็ปล่อยให้เป็นของศูนย์
แล้วเราจะมี MBTH ไว้ทำไม ผมว่าเขาปิดบริษัทไปเลยดีกว่า เพราะใครๆก็ไม่ซื้อรถกับเขา

ผมคิดว่าถ้ามีตัง 2-3 ล้านขึ้นไป การซื้อรถไม่ควรมามองแค่ ความเท่ห์และ option นะ
ต้องมองเรื่องบริการหลังการขายด้วยครับ ให้ซื้อรถ gray หรือรถจดประกอบ
ผมยอมขับรถในประเทศ option น้อยๆดีกว่า สบายใจดีครับ :D ช่วยเหลือแรงงานไทย และภาษีด้วย

พวก Grey ไม่มีการจ้างงานเหรอครับ?

จริงๆ ที่อยากให้ MBTH ทำคือปรับปรุงบริการหลังการขายให้ดีจนแบบคนออกรถเกรย์ต้องอิจฉา แต่ที่เป็นอยู่ปัจจุบันมันไม่หรอกครับ แค่สู้เรื่องนโยบายมันไม่พอหรอกครับ ต้องสู้ด้วยใจด้วย อยากให้ MBTH มีใจในการบริการมากกว่านี้ มากกว่าที่บางทีคำตอบเช่น เป็นแบบนี้ทุกคันไม่ควรจะเกิดขึ้นครับ  ;D
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กันยายน 14, 2011, 14:58:10
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: KLANG MR-S ที่ กันยายน 14, 2011, 17:32:39
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....


ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา เม้นนี้โดนใจมากครับ

ถ้าคิดว่ามีปัญหาในการเก็บภาษีคุณก็แก้ปัญหาโดยการไปร้องเรียนเรื่องภาษีสิครับ

มีหลักฐานมีอะไรก็ไปว่ากันตาม กม.ได้เลย

ไม่ใช่มาแก้ปัญหาโดยผลักภาระให้ผู้บริโภคแบบนี้

ผมเป็นลูกค้า MBTh มา 2 คัน เกรย์ 1 คัน 2-3 ปีแรกรถประกอบในจาก MBTh เคลมกันมากมาย ส่วนรถจากเกรย์มีเคลมแค่ครั้งเดียว พอหมดประกันผมก็ไม่เคยเข้าศูนย์ MBTh อีกเลย เพราะราคาซ่อมต่างกันประมาณเท่าตัว ซ่อมจบเหมือนกัน แถมอู่นอกเร็วกว่า เป็นคุณ คุณจะซ่อมที่ไหนล่ะครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: birm ที่ กันยายน 14, 2011, 17:48:51
ครับตามที่คุณ birm@productive ผมก็เข้าใจครับ

แต่ที่สินค้า ที่มีการหิ้วเข้ามา (ยกตัวอย่างของคุณbirm@productive เช่นกันนะครับ) เช่น กล้องถ่ายรูป canon EOS ที่เครื่องหิ้วมีมากมาย ในบ้านเรา แต่... สิ่งที่แตกต่างคือ ..... เครื่องหิ้ว ไม่ว่าจะมาจากไหน ศูนย์ Canon  ไม่เคยปฏิเสธที่จะซ่อมให้ลูกค้า  แต่ คิดค่าซ่อมและ อะไหล่ ในราคาเต็มเท่านั้นเอง ...

นี่คือความใจกว้างที่เป็นผลดีกับ "ผู้บริโภค"ครับ ... ผมขอพูดในฐานะผู้บริโภคเป็นหลักละกัน ... เพราะผมคงไปเป็นผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใน MBTH ไม่ได้ สิ่งที่ผมจะเป็นได้ในอนาคตอาจเป็นได้เพียงแค่ลูกค้าคนนึงเท่านั้น .....

เพราะผม ไม่ได้คิดจะเดือดร้อนแทน MBTH เลย สิ่งที่ผมคอยมองดูคือ การแข่งขัน และลูกค้าจะได้ประโยชน์สุงสุด แค่นั้นพอ ....

และก็ ถ้า เกรย์ปรับตัว สามารถมีทีม service ที่ดีเป็นของตัวเองได้ในอนาคต ... คนเดือดร้อนก็คงเป็น MBTH และ  ก็จะเกิดการแข่งขันและ สุดท้าย .. "ผู้บริโภค" ได้ประโยชน์ ......

มันไม่ดีหรือครับ ..... ??

---------------------------

เพิ่มเติมอีกหน่อย ...

เดือดร้อนแทนพ่อค้า ... เค้ากำไรมา ก็ไม่ได้แบ่งให้เรานิครับ .....


เอ ... ผมไม่ได้เดือดร้อนนะ จะว่าใครลอยๆว่าพ่อใครเดือดร้อนก็ช่างเถอะ
...เพราะ...
ทั้งมุมมองเกรย์มาร์เก็ต และตัวแทนที่ถูกต้อง เพราะทั้งสองฝ่ายทำธุรกิจ มันต้องมีกำไรทั้งนั้น และก็ไม่มีใครมาแบ่งให้ผู้บริโภคอย่างเราๆรับทานอยู่ดี ใครจะไปอุดหนุนเกรย์ อุดหนุนศูนย์ อันนี้ผมไม่ได้จะมาพูดเพื่อบังคับใคร ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และมองในฐานะผู้บริโภคเหมือนกัน และมาแบ่งปันแนวคิดเท่านั้น

ถ้าอะไหล่ซ่อมกล้องพร้อมค่าแรงตกราคาหลายแสน รวมไปถึงการที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบในสินค้าผิดสเปคที่ผลิตมากับตลาดที่ตนเองรับผิดชอบ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแบรนด์ ผมว่าแคนนอนก็น่าจะเริ่มคิดครับ ว่าจะรับของหิ้วมาซ่อมหรือไม่ และเพราะผมคิดว่ากล้องถ่ายรูปเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคใช้การพินิจพิจารณาในการซื้อไม่สูงเท่ารถยนต์หนึ่งคัน (ถ้าคุณไม่ไปเล่นยี่ห้อเทพๆ ที่มืออาชีพใช้ เช่น Hasselblad) หรือมีผู้บริโภคที่ซื้อกล้องหนึ่งตัว คิดนานกว่าซื้อรถหนึ่งคัน อันนั้นผมจะถือว่าคุณค่าของสินค้าต่อตัวผู้บริโภคมีคุณค่าไม่เท่ากัน

ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเกรย์สามารถมีทีมเซอร์วิสที่พร้อมบริการ แน่นอนมันก่อให้เกิดการแข่งขันภายในแบรนด์ ผู้บริโภคย่อมได้ประโยชน์ครับ แน่นอนว่าถ้าสามารถปฎิบัติการได้มาตรฐานเทียบเท่า หรือดีกว่าศูนย์ตัวแทนฯจริงครับ และก็พร้อมที่จะรับผิดชอบในกรณีที่มีความผิดพลาด เช่น ยกเครื่องให้ใหม่กรณีเกิดเติมน้ำมันแล้วเครื่องเสียหาย เพราะรถผิดเสปคจริง ครับ อันนี้ก็น่าชมเชย

แล้วถ้าเกรย์เอารถผิดสเปคมาจริง รถพังจริง แล้วเกรย์ซ่อมไม่ได้ (หรือไม่ซ่อม) แถมยังต้องให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อมให้อีก
คนที่เดือดร้อน"จริงๆ"คงเป็นผู้บริโภคอย่างเราๆครับ ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย หรือเกรย์มาร์เก็ตแต่อย่างไร

ตัวอย่างที่ MBth ทำนั้น ผมยังคิดว่าเขาปกป้องทั้งตัวเขาเอง และตัวผู้บริโภคเองอีกด้วยครับ
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กันยายน 14, 2011, 18:01:24
ก็พอเข้าใจนะครับว่า MBTH เป็นผู้แทนจำหน่าย"แต่เพียงผู้เดียว"
แต่การที่เกรย์ยังขายได้ แสดงว่า เกรย์ ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายรึเปล่าครับ ?? (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ)
ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำไม่ผิดกดหมาย ผมก็เห็นด้วยว่า เวลาเราซื้อของ เราก็คงมองในมุมมองของผู้บริโภค เพราะคนขาย ไม่ได้แบ่งอะไรให้เรา และเป็นกลไกธรรมชาติ ที่ทำให้คนขายต้องรู้จักปรับตัว ถ้าโดนผูกขาด ผมก็คงรับไม่ได้เช่นกัน

แต่ผมว่าปัจจุบัน MBTH พัฒนาขึ้นเยอะครับ บางรุ่นออฟชั่นพอกัน จนไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปออกเกรย์เลย ส่วนรุ่นที่ส่วนต่างร่วมล้านนั้น ยังไงก็ไม่รู้สึกว่าข้อดีของการออกกับตัวแทนจำหน่าย จะช่วยชดเชยเงินส่วนต่างนี้ไหวเลยแฮะ *-*

ป.ล. แต่ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำมันผิดกฎหมาย อันนี้ก็คงจบครับ ยังไงเกรย์ก็ผิด ไม่ควรยกเหตุผลใดๆมาอ้างทั้งสิ้น >_<
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: birm ที่ กันยายน 14, 2011, 18:07:28
ก็พอเข้าใจนะครับว่า MBTH เป็นผู้แทนจำหน่าย"แต่เพียงผู้เดียว"
แต่การที่เกรย์ยังขายได้ แสดงว่า เกรย์ ก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมายรึเปล่าครับ ?? (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ)
ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำไม่ผิดกดหมาย ผมก็เห็นด้วยว่า เวลาเราซื้อของ เราก็คงมองในมุมมองของผู้บริโภค เพราะคนขาย ไม่ได้แบ่งอะไรให้เรา และเป็นกลไกธรรมชาติ ที่ทำให้คนขายต้องรู้จักปรับตัว ถ้าโดนผูกขาด ผมก็คงรับไม่ได้เช่นกัน

แต่ผมว่าปัจจุบัน MBTH พัฒนาขึ้นเยอะครับ บางรุ่นออฟชั่นพอกัน จนไม่มีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องไปออกเกรย์เลย ส่วนรุ่นที่ส่วนต่างร่วมล้านนั้น ยังไงก็ไม่รู้สึกว่าข้อดีของการออกกับตัวแทนจำหน่าย จะช่วยชดเชยเงินส่วนต่างนี้ไหวเลยแฮะ *-*

ป.ล. แต่ถ้าสิ่งที่เกรย์ทำมันผิดกฎหมาย อันนี้ก็คงจบครับ ยังไงเกรย์ก็ผิด ไม่ควรยกเหตุผลใดๆมาอ้างทั้งสิ้น >_<

Gray Market ไม่ผิดกฏหมายครับ มันคือหนึ่งในการกระจายสินค้า ซึ่งไม่ผิดกฏหมายแต่หากกระทำโดยไม่ได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ... ถ้าสินค้าได้รับการนำเข้าราชอาณาจักรอย่างถูกกฏหมายครับ

Black Market อันนี้ผิดกฏหมายครับ (ตลาดมืด)
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กันยายน 14, 2011, 23:19:29
ถ้าวิธีคิดของคุณ apinui มองในมุมนี้

คุณคงอาจจะเป็นคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ โดนแย่งเค้ก
หรืออาจจะไม่เคยผ่านโลกธุรกิจ ไม่เคยค้าขาย ไม่เคยต้องเจ็บปวด
กับการโดนเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งจากลูกค้า และ ผู้ที่ชุบมือเปิบ

ผมคิดว่า ผมไม่มีประโยชน์ที่จะต้องพูดกันต่อไปแล้วละครับ

เพราะเรื่องแบบนี้ "ต้องโดนเองเท่านั้นถึงจะรู้" ครับ

ผมยังไม่เห็นว่าจะมีใครในกระทู้นี้ หรือแม้แต่ตัวผมเอง เถียงแทนพ่อค้า
แต่เรากำลังพูดถึง "ความถูกต้อง และการเอารัดเอาเปรียบกัน ทั้งระหว่างบริษัทรถ กับลูกค้า ลูกค้ากับบริษัทรถ และ เกรย์กับลูกค้า"

อันที่จริง คุณ Apinui ก็คงรู้อยู่แล้วว่า คนอย่างผม ถ้าบริษัทรถ เอาเปรียบลูกค้า
ผมก็ไม่ปล่อยไว้ และต้องจัดการด้วยวิธีของผมอยู่แล้ว นั่นคือจุดยืนผมมาตลอด

แต่ คุณก็อาจจะไม่ทราบมาก่อนว่า "เพื่อให้ แฟร์ๆ เท่าเทียมกัน ในฐานะคนที่ชอบความยุติธรรมอย่างแท้จริง"
ถ้าลูกค้า มาในมุมที่ ไม่เข้าใจ พูดกันดีๆ เราก็จะพูดกันดีๆ แต่ถ้ามาในแนวงี่เง่า
ผมเองก็ไม่ยุ่งด้วย ไม่สนับสนุน เช่นเดียวกัน

เพราะโจทย์ของผม ในการตั้งเว็บนี้คือ เพื่อให้ บริษัทรถ ได้เข้าใจ ในผู้บริโภค
และเพื่อให้ผู้บริโภค เข้าใจในบริษัทรถยนต์  "ซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย อย่างเท่าเทียม และแฟร์ต่อกัน"

เพราะในขณะที่คุณมองว่า ถ้าเพลง ยังไม่สามารถมาเปรียบกับรถได้
กล้อง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเปรียบกับรถ ได้เช่นเดียวกันครับ
ราคา ความซับซ้อน ความต้องการในด้านบริการซ่อมบำรุง แตกต่างกันมาก
(อันนี้คือ มองในมุมของผู้บริโภคแล้วนะ)

ถ้าคุณคิดว่า พ่อค้าจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอดเวลา ลูกค้าจะต้องได้ประโยชน์เป็นหลัก
คิดว่า คนที่รวยกว่า ทำธุรกิจ คิดจะต้องจ้องแต่เอาเปรียบ อยู่ร่ำไปแล้ว

ผมอยากขอแนะนำว่า ลองปิดหน้าจอคอม ไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างครับ
คุณจะพบกับสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงอีกเยอะเลยทีเดียว ว่ายังมีพ่อค้าดีๆ ที่ยังคิดเผื่อให้ถึงลูกค้าอีกมาก


อย่าเอาอคติเดิมๆ ที่ฝังหัว มาใช้ในการคิดอยู่เลยครับ
โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ กันยายน 14, 2011, 23:54:17
ตอนที่ผมทำงาน sales อยู่ ผมถือคติอยู่ข้อหนึ่ง

ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นลูกค้าจะต้องได้รับในสิ่งที่สมควรได้รับเท่านั้น ไม่ใช่ทุกอย่างที่ลูกค้าอยากได้

เราไม่อยากถูกผู้ค้าเอาเปรียบ แต่เรากลับมองว่าการที่ผู้ค้าเสียเปรียบเป็นสิ่งที่ถูกต้อง???

ขอแรงหน่อยนะครับ

ไม่มีใครอยากขายของให้กับลูกค้าที่ไม่ระลึกว่าตัวเองควรจะได้อะไีร หรือไม่ควรจะได้อะไรหรอกนะครับ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ มักจะมีข้อเรียกร้องไม่สิ้นสุด ด้วยความคิดที่ว่า บริษัทจะขาดทุน หรือกำไร ก็ไม่ใช่ธุระ ลูกค้ากำไรก็จบ เพราะลูกค้าเป็นพระเจ้า

ผมเชื่อว่าผู้บริหาร marketting และ sales ที่เก่งจริงๆ เขาย่อมรู้วิธีหลีกเลี่ยงลูกค้ากลุ่มนี้ครับ

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็คงต้องขาย แล้วเอาไปนินทาลับหลัง ไม่ก็เอาตุ๊กตา voodoo มาปักตะปู
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: Blue 229 ที่ กันยายน 15, 2011, 00:11:31
ขอตอบข้อ 6 ของจขกท.นะครับ ที่ถามว่าศูนย์กับเกรย์อันไหนดีกว่ากัน

เกรย์มาเก็ตถือเป็นสัญลักษณของการค้าในยุคใหม่ครับ
ลูกค้า กลยุทธ์ การตลาด สามสิ่งนี้มีความสำคัญมากขึ้นครับ
ในขณะที่ กฏหมายและจรรยาบรรณ ลดบทบาทลง
ส่วนศูนย์บริการ เป็นเรื่องของการค้ายุคเก่าครับ
กฏหมาย จรรยาบรรณ ลูกค้า การตลาด เรียงลำดับสำคัญมากไปหาน้อย

ลองนำไปนึกดูครับ ทุกเรื่องในสังคมไม่มีเรื่องใดผิดแท้ หรือถูกต้องแท้ หรอกครับ
มันอยู่ที่มุมมอง และค่านิยมของเราในขณะนั้น

แต่ถ้าจะว่าถึงสังคมในยุคปัจจุบัน มันก็แปลกอย่างนึงนะครับ
ผมเห็น คนเราทุกคนเป็นทุกข์เป็นร้อน แค้นใจเสมอเวลาโดนโกงหรือเสียประโยชน์
รังเกียจมากกับความไม่ถูกต้องในสังคม
แต่พอมีโอกาสได้โกงเค้าบ้าง หรือได้ตักตวงผลประโยชน์
คนบางกลุ่มไม่เห็นจะลังเลเลยครับ ทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบซะอย่างนั้น

หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กันยายน 15, 2011, 10:35:40
ท่าทางคุณ JIMMY จะโมโหผมแล้ว .........

ผมคิดแบบนี้ ผมขอโทษละกันครับ .......
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: Silverliner ที่ กันยายน 22, 2011, 23:10:13
อ้าว  ผมกำลังมองหา E250 CDI อยู่  ปวดหัวเลย  ของเกรย์เขาออปชั่นเพียบ

เกียร์ก็ใส่ 7G มาให้แล้ว  อันนี้ผมให้ความสำคัญมาก  เพราะ MBTH ยังเป็นรุ่น 5 สปีด

ราคาเกรย์ก็ถูกกว่าเป็นแสนๆ  เอาไงดีวะตู
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: paulmoderndog ที่ กันยายน 24, 2011, 12:08:53
ลองดูกำไรก็แล้วกัน


ราคา เริ่มของ E 200 CGI 28,000 Pound = 1,176,000 baht1.   Cost of Importing
      Cost = 1.176 M
      Insurance + Freight = 0.2 M
      CIF = 1.176 M + 0.2 M = 1.376 M

2. อากรขาเข้า
   30% of CIF = 1.376 M * 0.3 = 0.4128 M

3. ภาษีสรรพสามิต
   about 24 % of CIF = 1.376 * 0.24 = 0.33024 M

4. ภาษีมหาดไทย
    10% of 0.33024M = 0.033024 M

5. VAT 7 %
    = 0.07 * (1.376 M + 0.4128 M + 0.33024 M + 0.033024 M) = 0.150644 M

6. Total Cost + Total Tax
   = 1.376 M + 0.4128 M + 0.33024 M + 0.033024 M + 0.150644 M = 2.3027 M


The selling price of new MB E-class 200 CGI is 3.8 M
So profit per car is about 1.5 M baht     

Look at the option we get with this price

จาก


http://www.mercedesmania.com/forum/index.php/topic,69896.0.html (http://www.mercedesmania.com/forum/index.php/topic,69896.0.html)
หัวข้อ: Re: สรุปแล้ว 0 กับ grey อันไหน....
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ตุลาคม 01, 2011, 15:54:40
อ้าว  ผมกำลังมองหา E250 CDI อยู่  ปวดหัวเลย  ของเกรย์เขาออปชั่นเพียบ

เกียร์ก็ใส่ 7G มาให้แล้ว  อันนี้ผมให้ความสำคัญมาก  เพราะ MBTH ยังเป็นรุ่น 5 สปีด

ราคาเกรย์ก็ถูกกว่าเป็นแสนๆ  เอาไงดีวะตู
สมาชิกข้างบนอธิบายไว้ชัดเจนแล้วครับ ถูกและดีไม่มีในโลกครับ ซื้อจากเกรย์ก็ต้องรับความเสี่ยงมากกว่าครับ ที่บ้านผมมีรถMbth 4คันปัญหาบางคันก็ยังหลอนอยู่ รถเกรย์มี1คันปัญหาไม่ค่อยมีครับ ที่ซื้อใหม่ก็จะเป็นรถMbth1กับเกรย์2คันเพราะยอมรับความเสี่ยงได้ครับ คิดซะว่าความต่างราคาก็พอใจแล้วครับ