Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ กันยายน 21, 2011, 08:51:56
-
ขรก.เฮ ครม.อนุมัติปรับเงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท
ขรก.ได้เฮ ครม.อนุมัติปรับค่าครองชีพให้ได้เงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท ครอบคลุมลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ ทหารกองประจำการ พร้อมให้ ก.พ.ปรับโครงสร้างเงินเดือน ขรก.ทั้งระบบทุกปีจนกว่าฐานเงินเดือนจะอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาท
วันนี้ (20 ก.ย.) น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์อนุตมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมติให้ปรับเพิ่มค่าครองชีพสำหรับข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐที่มีเงินเดือนไม่ถึง 1.5 หมื่นบาท ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555 ซึ่งการปรับเพิ่มเงินครั้งนี้จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 18,396 ล้านบาท รวมทั้งคาดว่าในปีต่อไปจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปรับเพิ่มเงินเดือนครั้งนี้ครอบคลุมบุคลากรภาครัฐ 5 กลุ่ม ได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ ทหารกองประจำการจำนวนราว 6.49 แสนคน โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 2556 จะใช้งบประมาณเพิ่มเป็น 2.45 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุทม ครม.ยังมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการคข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พิจารณาการปรับโครงสร้างอัตราบัญชีเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบทุกปีเป็นเวลา 4 ปี จนกว่าฐานเงินเดือนจะอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาท เพื่อนำเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000119719 (http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000119719)
------------------
รายละเอียดคือ
1. ได้เลย 15000 หมายถึงฐานเงินเดือนปัจจุบัน + ค่าครองชีพ เริ่ม ม.ค.55
เช่น เงินเดือน 7900 + ค่าครองชีพ 7100 = 15000 เป็นต้น
2. ปรับทุกปีเป็นเวลา 4 ปี ก็เพื่อปรับฐานเงินเดือน จาก 9000 ให้ถึง 15000
หมายถึงว่าปรับฐานให้ถึง 15000 เพื่อให้ไม่ต้องรับค่าครองชีพ
-
ผม เป็นลูกจ้างบริษัท ที่ทำงานใน รัฐวิสาหกิจ ง่ะ
-
ดีครับ
เท่าที่ทำราชการมา ผมมองว่าราชการมีสองแบบคือ ทำงานหนักมาก มาแต่เช้า กลับมืด เหมือนคนไม่มีครอบครัว ;D
ส่วนอีกประเภทคือเด็กเส้น เด็กฝาก พวกลูกจ้างประจำ ชั่วคราวนี่แหล่ะ เยอะ แต่ดีๆ ก็มี
ถ้าจะเพิ่มเงินเดือน ผมว่าต้องเพิ่มศักยภาพในการทำงานด้วยน่ะครับ
-
ขอพูดในมุมมองเจ้าของบริษัท(เอกชน)นะครับ ค้าขายกับราชการเป็นหลัก
ผมไม่มีทางให้15,000 หากความสามารถไม่ถึงครับ
บางคนผมสอนงานมาเป็นปีแล้ว ยังผิดพลาดแบบเดิมๆ แล้วจะให้ผมให้เงินเพิ่มเนี่ยนะ??
แล้วพวกราชการทั้งหลาย ที่ไปทำงานสิบโมงแล้วกลับบ้านบ่ายสาม พอมีคนคลอดลูกในแผนกก็ยกกันไปเยี่ยมหมดแผนกเนี่ย
สมควรจะได้รับเงินขั้นตั้น15,000เหรอ???
ประชานิยมบ้าๆบอๆ แทนที่จะไปพัฒนาจุดเริ่มต้นคือ การศึกษา ทำให้คนมันมีความรู้และหาเงินได้(ไม่ใช่จบออกมาแล้วยังห่วยแบบปัจจุบันนี้)
ปริญญาตรีสมัยนี้ มันพูดภาษาอังกฤษกันยังแทบไม่ได้เลย เหอๆๆๆ
ทำงานห่วยๆแต่อยากได้เงินเยอะ มันไม่ใช่!
ยิ่งเพิ่มให้พวกราชการเนี่ย ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ได้ถามเจ้าของเงิน(ภาษีพวกเรานี่แหละ)บ้างหรือยัง ว่าเห็นด้วยมั๊ย (ขึ้นให้ส.ส.ไปทีละ แล้วมันทำงานกันมั๊ย?)
ตอนนี้งบประมาณปีหน้าถูกเลื่อนหมด ไม่ใช่เพราะคุณเอาเงินไปทำประชานิยมหมดหรอกหรือ??
โครงการบางโครงบางสำคัญกับประเทศมาก แต่กลับหักเงินสนับสนุนโครงการ หรือชะลอโครงการ
เอาเงินไปลงจุดอื่นที่มันไม่ได้ประโยชน์....ซะงั้น
ผมไม่ได้antiรัฐบาลชุดไหนทั้งนั้น แต่มันห่วยทุกชุด ทำแต่นโยบายที่ทำให้คนหากินเองไม่เป็น
ประเทศไทย!!!
-
ช่วงนี้ประเทศนี้มีโปรโมชั่นแจกแหลกแบบไม่ยั้ง ได้ก็ดีครับ แฟนผมจบตรีมาทำงานแทบตายได้5พันกว่า+ค่าคลองชีพนิดหน่อย จะได้มีกำลังใจทำงานเพิ่มขึ้นมาหน่อย ก็ดีกว่าเดิม ใช้งบประมาณเท่าไรไม่สนใจ ขอให้ทุกคนมีความสุข จะได้ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นที่จะทำต่อไป
-
ผมทำงานกับพ่อ พ่อให้เดือนละ หมื่น
ผมก็ถามพ่อขำๆ "พ่อ,,, ให้ หมื่นห้า แบบยิ่งลักษณ์มั่งดิ" (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/70.gif)
พ่อผมบอกว่า "เอางี้ กูให้หมื่นนึง อีกห้าพัน มึงไปเอาที่ยิ่งลักษณ์"
ผมบอกว่า "เอ้า,,, พูดแบบนี้ได้ไง"
พ่อผมบอก "เอ้า,,, กูไม่ได้สัญญากับมึงหนิ ยิ่งลักษณ์เค้าสัญญา"
"กูไม่เกี่ยว มึงก็ไปเอากับคนที่สัญญากับมึงสิ" (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/13.gif)
พอคนงานมาถามผม ผมเลยบอกมั่ง
"กูให้มึง 200 ที่เหลือ มึงไปเอากับยิ่งลักษณ์ละกัน"
"ยิ่งลักษณ์เค้าบอก กูไม่ได้บอก 555+" (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/yenta4-emoticon-0010.gif)
ปล. ไม่ขำ ขออภัยครับ
ปล.2 กระทู้ตั้งผิดห้องหรือป่าวครับ ::)
-
ตั้งกระทู้ผิดห้องนะครับ ไม่เกี่ยวกะรถ
ปล.ภาษีรายได้ส่วนบุคคลปรับขึ้นมหาโหด ผมเคยเสียครั้งละ300 2ครั้ง/ปี รอบนี้เจอ1400 ทั้งๆที่รายได้เท่าเดิม คงจะเอาไปชดเชยส่วนนี้มั้ง
-
ขอยกตัวอย่างกรณีตัวผมล่ะกันครับ ผมจบปริญญาตรีทำงานเอกชน เริ่มที่แรกเงินเดือน 8500 ย้ายมาทำที่ที่สองได้ 12000 แต่ก็ทำงานหนักกว่าเดิม ใช้ความสามารถมากกว่าเดิม จนมาทำที่ที่ 3 เริ่มที่ 15000 ทำงานโดยใช้ความรู้ความาสามารถมากขึ้นไปอีก ได้เลื่อนตำแหน่งมา 2 ครั้งแล้ว ตอนนี้รวมทุกอย่างแล้วประมาณ 26000 ถ้าทำโอก็ขยับไปเกือบ 3 หมื่นแต่ไม่ค่อยทำ น้องเรียนจบโทแล้วก็เลยอยากพักผ่อนบ้าง ตอนนี้เพิ่งไปสัมภาษณ์อีกที่เรียกไป 35000 ยังไม่ตอบกลับมาแต่งานที่จะทำก็ต้องใช้ความรู้ความสามารถมากขึ้นไปอีก ที่รายได้ผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและอาจจะเพิ่มขึ้นอีกมากไม่ใช่ผมทำงานแบบเช้าชามเย็นชามรอความหวังว่ารายได้จะมากขึ้นของมันเอง แต่เป็นเพราะผมพัฒนาศักยภาพของตัวเองเพื่อให้ได้รายได้ที่สมควรกับงานที่ผมทำอยู่
การให้เงินกันง่ายๆโดยที่ไม่ได้ทำอะไรตอบแทนให้คุ้มค่าเงินแล้วหล่ะก็ผมมองว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง มันจะยิ่งทำให้คนไม่พัฒนา อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวรายได้ก็เพิ่มเอง อย่างนี้แล้วประเทศชาติจะพัฒนาไปได้อย่างไรในเมื่อสนับสนุนให้คนในชาติเฉื่อยชาไม่พัฒนาขีดความสามารถอย่างนี้
-
เพลียมากกับประชานิยม มอมเมาประชาชน
-
ข้าวของ ค่าครองชีพ คงจะคุมราคาไม่อยู่แน่ครับ
-
เงินเพิ่ม แต่ค่าครองชีพก็เพิ่มนะครับ หึหึหึ
คอยดูกันต่อไป
บางทีคนไทยเราอาจต้องได้รับบทเรียน
คนถึงจะรู้ว่าประชานิยมบนอารมณ์ มันมีพิษสงอย่างไร
-
เป็นห่วงอนาคตประเทศจริงๆ
ไอ้ชุดที่มันไม่ทำมาเป็นรัฐบาล
มันก็ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ไอ้ที่มันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
มันก็ทำอะไรบ้าๆ บอๆ
ออกนโยบายนี่คิดแล้วหรือยัง ศึกษาสภาพปัจจุบัน วิเคราะห์ผลกระทบ แนวทางแก้ไข บลาๆๆๆ
อะไรมาแล้วหรือยัง
งบประมาณมึงคือเงินภาษีกรูนะโว้ย
-
อยู่ดีๆ รายได้เพิ่ม โดยไม่อิงกับกลไกการตลาด เงินเฟ้อแน่นอนครับ
คนซวยคือคนที่รายได้ไม่ได้เพิ่มไปตามนโยบายนี้ เช่น พ่อค้า นักธุรกิจ อาชีพอิสระ พนักงานบริษัทเอกชน
มันไม่เกี่ยวกับประชานิยมหรือเปล่าหรอก ประชานิยมดีๆ ก็มี อย่าง 30 บาท
แต่ไอ้นโยบายนี้น่ะ มันไม่ make sense อย่างรุนแรง
ว่าแต่ ผิดห้องครับ ต้องไปห้อง relax ครับ
-
ขอพูดในมุมมองเจ้าของบริษัท(เอกชน)นะครับ ค้าขายกับราชการเป็นหลัก
ผมไม่มีทางให้15,000 หากความสามารถไม่ถึงครับ
บางคนผมสอนงานมาเป็นปีแล้ว ยังผิดพลาดแบบเดิมๆ แล้วจะให้ผมให้เงินเพิ่มเนี่ยนะ??
แล้วพวกราชการทั้งหลาย ที่ไปทำงานสิบโมงแล้วกลับบ้านบ่ายสาม พอมีคนคลอดลูกในแผนกก็ยกกันไปเยี่ยมหมดแผนกเนี่ย
สมควรจะได้รับเงินขั้นตั้น15,000เหรอ???
ประชานิยมบ้าๆบอๆ แทนที่จะไปพัฒนาจุดเริ่มต้นคือ การศึกษา ทำให้คนมันมีความรู้และหาเงินได้(ไม่ใช่จบออกมาแล้วยังห่วยแบบปัจจุบันนี้)
ปริญญาตรีสมัยนี้ มันพูดภาษาอังกฤษกันยังแทบไม่ได้เลย เหอๆๆๆ
ทำงานห่วยๆแต่อยากได้เงินเยอะ มันไม่ใช่!
ยิ่งเพิ่มให้พวกราชการเนี่ย ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ได้ถามเจ้าของเงิน(ภาษีพวกเรานี่แหละ)บ้างหรือยัง ว่าเห็นด้วยมั๊ย (ขึ้นให้ส.ส.ไปทีละ แล้วมันทำงานกันมั๊ย?)
ตอนนี้งบประมาณปีหน้าถูกเลื่อนหมด ไม่ใช่เพราะคุณเอาเงินไปทำประชานิยมหมดหรอกหรือ??
โครงการบางโครงบางสำคัญกับประเทศมาก แต่กลับหักเงินสนับสนุนโครงการ หรือชะลอโครงการ
เอาเงินไปลงจุดอื่นที่มันไม่ได้ประโยชน์....ซะงั้น
ผมไม่ได้antiรัฐบาลชุดไหนทั้งนั้น แต่มันห่วยทุกชุด ทำแต่นโยบายที่ทำให้คนหากินเองไม่เป็น
ประเทศไทย!!!
จบปอเอกยังโคคาโคล่าอยู่ในสภาเลยครับ หุหุ :)
สงสารประเทศไทย
-
เนื้อหานอกเรื่องรถ ขอเชิญไปห้อง Relax ครับ
-
สำหรับเรื่องค่าแรง ผมมองว่ามันเป็นนโยบายที่ทำร้ายประชาชนแทนที่จะช่วยเหลือแหะ
ผมพูดในฐานะ ผู้ประกอบการล่ะกัน
ตอนแรก งาน 1 Section ใช้คน 3 คน เงินเดือนคนล่ะ 10,000 บาท สรุป Section นี้ ผมต้องจ่ายเงินเดือนล่ะ 30,000 สำหรับค่าแรง
แต่ถ้าค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็นคนล่ะ 15,000 บาท เท่ากับว่า Section นี้จะต้องลดคนลงเหลือ 2 คน แล้วผมก็จ่ายให้คนล่ะ 15,000 ได้แบบไม่ขัดขืน
ผลที่ตามมาคือ งานแต่เดิมที่ทำกัน 3 คน แล้วต้องมาทำ 2 คนนั้น 2คนที่ทำอยุ่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม รับผิดชอบมากกว่าเดิม
ถ้าคนไหนทำไม่ได้ คนนั้นจะกลายเป็นคนที่ต้องออกไป ส่วนสองคนที่เหลือ ถ้าทำผลผลิตออกมาไม่ได้เท่าแต่เดิมที่ทำกัน 3 คน ก็ต้องโดนเปลี่ยนให้คนที่ทำได้ไปทำแทน
แต่นิสัยคนงานไทย ชอบได้เงินเพิ่ม แต่ไม่อยากทำงานเพิ่ม ซึ่งมันมีที่ไหนครับของแบบนี้ โรงงานนะครับไม่ใช่ประชาสงเคราะห์ จะมาแบกค่าแรงมากมายขนาดนี้
สรุป ถ้าเป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ คนจะตกงานเพิ่มมากขึ้น แล้ว(หวังว่า)คนทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ตกลงมันดีหรือมันแย่กันหนออออออ
-
อันนี้ผิดห้องรึป่าวครับ กระทู้แบบนี้มีบ่อยนะครับต้องระวังลามไปเรื่องการเมืองด้วยนะครับ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในเวปเลยครับ
..... ;D ;D ;D ;D
-
^
^
^
อย่าลืมปัญหาแรงงานต่างด้าว และแรงงานนอกกฎหมายด้วยครับ เงินเฟ้ออีกต่างหาก ปัญหาไม่ใช่แค่นี้แน่ ขยายวงกว้างอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ
คนงานที่บ้าน พ่อผมให้วันล่ะ 150 กินอยู่พร้อมลูกพี่กินอะไร ลูกน้องกินอย่างนั้น มีงานก็ให้พิเศษเพิ่มอีก วันตรุษจีนพ่อผมให้โบนัสอีกตะหาก ทำประกันสังคมให้อีกด้วย อยู่มา 5-6 ปีแล้วไม่คิดที่จะไปทำที่อื่นอีก รักพ่อผมจะตาย มีแต่คนอยากมาทำงานกับพ่อผมทั้งนั้น ถ้านโยบายนี้ออกมาจริงๆก็ไม่รู้ว่าพ่อผมจะเอาไงดี มีอยู่ 3 คน จะต้องลดคนลงรึเปล่า รึไม่ก็ฮั้วกันเอง จ่ายเท่าเดิมนั่นแหละหรือเพิ่มให้นิดหน่อย
เทียบกับอีกที่นึงลูกน้อง 10 กว่าคน ให้แค่วันล่ะ 120 กินอยู่เองไม่มีเงินพิเศษอะไร มาหาพ่อผมให้ช่วยรับเค้าทำงานหน่อย แต่พ่อผมไม่รับเพราะคนพอแล้ว อีกอย่างไม่อยากมีปัญหากับนายจ้างของเค้าด้วย
-
ข้าราชการเงินเดือนขึ้นดีแล้วครับ คนจะได้อยากรับราชการกันมากขึ้น ไม่ใช่เก่งๆไปอยู่เอกชนซะหมด
แต่..15000 ถ้าจะได้ต้องมีประเมิน มีสอบกันซะหน่อย ให้กับคนที่เค้าเก่งจริงๆควรจะได้
พวกอยู่นาน บ่ายรับลูก เที่ยงเสริมสวยนี่ยังไม่ต้องให้เปลืองงบเปล่าๆ
-
ผมกลับมองว่าทุกวันนี้เงินเดือนที่เค้าจ้างเด็กจบใหม่มันไม่พอกินน่ะครับประเทศควรประฐานรายได้ครั้งใหญ่ได้แล้วครับ
บริษัทจ้างอัตราถูกๆมากี่ปีกี่ชาติแล้วแต่ราคาของใช้ของกินขึ้นตลอดยิ่งถ้าเข้าไปทำงานแล้วจะขอขึ้นเงินเดือนนี่โคตรยากรุ่นผมจบปี 46 จบใหม่ ทำงานที่เชียงใหม่ ป.ตรี 6พัน ขึ้นให้ปีละ 300 เพื่อนหนีไปทำงานกรุ่งเทพได้ 12000 บริษัทกำไรเดือนละเป็นล้านๆเอาเปรียบเกิน เด็กจบใหม่มาทำที่เดียวกับผมความรู้ประสบการณ์น้อยกว่าดันให้ 8500 จบที่เดียวกันแต่มันจบทีหลังเลยได้เงินเดือนสูงกว่า?? คือมันไม่มีฐานไง แต่มันก็ยังน้อยอยู่ดีในการใช้ชีิวิตยิ่งถ้าต้องอยู่หอด้วยล่ะค่ากินค่าอยู่มันจะเหลือเก็บเมื่อไหร่ครับเชื่อไหมตอนนี้เชียงใหม่เงินเดือน ป.ตรีส่วนใหญ่ก็ยังไม่ถึงหมื่นเลย
ถ้า 15000 ผู้ประกอบการว่ามันมากไปก็ช่วยขึ้นขั้นต่ำให้มันถึงหมื่่นได้ไหมครับ ป.ตรีเนี่ย อย่ามาทำตัวห่วยๆกันแบบนี้อยู่เลยผมว่าสมัยนี้ ป.ตรี แบบไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลยยังไงก็ควรมากกว่า 10000 แล้วครับไม่งั้นอยู่ไม่ได้ยิ่งถ้ากรุงเทพนี่ผมว่า 15000 ก็ยังแทบไม่เหลือเก็บเลย หรือว่าพวกคุณที่เป็นนายจ้างทั้งหลายไม่อยากให้ลูกจ้างได้มีเงินเก็บกันบ้างครับ
ถึงทุกวันนี้ผมจะไม่ได้เป็นลูกจ้างแล้วแต่ครั้งหนึ่งผมก็เคยผ่านมาแล้วผมมองอย่างนี้ครับ
-
1. กระทู้ไม่เกี่ยวกับรถ ขอย้ายไปห้อง Relax
2. วิจารณ์ แสดงความเห็นได้ อย่าลามถึงขั้นงัดกันก็พอ
-
ฮ่า ฮ่า ..... ถึงจะนอกเรื่องรถ แต่ขอแชร์ด้วยคนครับ ..... (ถ้าย้อยกระทู้ได้ ก็ย้ายครับ แลกเปลี่ยนกัน ได้ความรู้ครับ)
ตอนนี่ ที่บริษัทฯผมก็ เป็นปัญหาเช่นกัน .... เมื่อเดือนก่อน GM ก็เรียกผมไปคุยเช่นกัน ว่า เอาไงดี ...?? เงินเดือน 15000 น่ะไม่เท่าไรครับ เพราะพนักงาน ส่วนใหญ่ในบริษัทผม เกินนี้ไปกันไกลแล้ว ...... ถึงจะรับเด็กจบใหม่มา บริษัทฯผมก็สต๊าท ป.ตรี ที่ 15000 เป็นอย่างน้อยอยู่แล้ว
แต่ที่ห่วงที่สุดคือ ระดับแรงงาน ที่ค่าแรง 300 บาท/วัน มากกว่า .....
ด้วยบริษัทฯที่ทำธุรกิืจ เกี่ยวกับชิ้นส่วนรถยนต์ และมีพนักงานในไลท์ 2000 กว่าคน ค่าแรง 300 ถือว่า เป็นปัญหามากครับ
ถึงแม้ว่าแนวโน้มตลาดด้านยานยนต์จะโตขึ้น ก็ตามแต่ บริษัทฯก็ไม่สามารถจะนำต้นทุนตรงนี้ไปใส่ในราคาสินค้าได้ ....
ฉะนั้น บอกตามตรง .... คนตกงานเพิ่มขึ้นแน่ๆครับ ... เพิ่มเงินให้ เพิ่มงานให้ แต่ลดจำนวนคนลง ตัด OT ..นั่นคือแนวทางที่วางกันไว้แล้วครับ ....
บังคับใช้เมื่อไร คนระดับแรงงานตกงานกันอื่อครับ ...
-
ขออีกหน่อยนะครับในฐานะที่ผมเป็นลูกจ้างแล้วก็ที่บ้านเป็นนายจ้าง การจ้างงานก็ต้องดูขีดความสามารถกันด้วยครับปกติส่วนใหญ่คือจ้างพอที่ลูกจ้างไม่ลาออก ลูกจ้างก็ทำงานพอแค่นายจ้างไม่ไล่ออก ถ้าในมุมมองของผมก็คือถ้าคิดว่าได้เงินน้อย บริษัทกำไรตั้งเยอะแล้วให้เราแค่นี้มันน้อยไป อันนี้ต้องลองดูตัวเองแล้วหล่ะครับว่าทำงานที่ต้องใช้ความสามารถสูงรึเปล่า ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ถ้าเห็นว่าเอาเปรียบเรามากไปก็หางานใหม่ที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถเต็มที่ เงินเดือนก็จะตามมาเอง หรือหาช่องทางหารายได้เสริมเอา ถ้ามุมมองแค่อยากได้เงินเยอะๆด้วยการเป็นลูกจ้างแล้วไม่ได้พัฒนาขีดความสามารถตัวเองล่ะก็ ชีวิตนี้ก็เป็นได้แค่ลูกจ้างตลอดชีวิต อย่าลืมว่าเขาจ้างให้ทำงานไม่ได้บังคับ ถ้าคิดว่าได้น้อยไม่พอค่าใช้จ่ายแล้วตัวเองมีความสามารถสูงก็หางานใหม่
ส่วนใหญ่เด็กที่โรงงานผมบ่นว่าน้อยเนี่ยส่วนใหญ่ทำงานมานานหลายปีแล้วทำแบบกระโหลกกะลาเป็นแต่บ่นว่าได้เงินน้อยไม่พอค่าใช้จ่ายแต่ไม่พัฒนาตัวเองให้ทำงานดีขึ้น หลายคนแอบไปสมัครงานที่อื่นแต่เค้าไม่รับเพราะความสามารถไม่สูงพอตามเงินที่เรียกไปก็กลับมาบ่นเรื่องรายได้น้อยกันต่อไป ต้องถามตัวเองก่อนล่ะกันว่าดีพอหรือยัง อย่าสักแต่เรียกร้อง
ที่คิดกันอย่างนี้เยอะก็ไม่แปลกหรอกครับ ปัจจุบันการศึกษาของประเทศไทยเน้นให้เป็นลูกจ้างตลอดชีวิต เรียนประถมก้เป็นแต่ท่องจำอะไรก้ไม่รู้ มัธยมหัวเลขหน่อยก็เรียนสายวิทย์คณิต เรียนมหาลัยก็เรียนพวก วิศวะ สถาปัตย์ วิทยาศาสตร์ จบออกมาเป็นลูกจ้างกันทั้งนั้น ไม่ได้สอนให้เป็นนายจ้างเลย ก็เลยทำให้คนส่วนใหญ่มีแต่มุมมองของลูกจ้างกันซะเยอะ
-
ไข่จะใบล่ะ 10บาท หรือเป่านี่
-
15,000 ก็ดีเหมือนกัน เวลาเขียนใบสมัครงาน
ผมจะใส่เรียกเงินเดือนแค่ 11,000-12,000 หรือ Negotiable
จะได้ไม่เวอร์เกินเหตุ ;D
ล่าสุดไปนัดพบแรงงานที่กระทรวงแรงงานมา ทุกบริษัทที่ร่วมโครงการถูกรัฐบังคับให้จ้าง ป.ตรี ที่ 15K
แต่เอาเข้าจริงๆเขาจะรับหรือ เพราะบริษัทที่เห็นส่วนใหญ่ เรทเงินเดือนจะอยู่ที่ 10K-12K
-
เคยมีโอกาสฝึกงานในหน่วยงานราชการ ชิวมากกกก น้อยคนที่จะรักษาวินัยการตรงต่อเวลา
ทำงานที่นึง ไปกินข้าวกลางวันโน่นห่างเป็น 10-20 โล
สมควรประเมิน ทดสอบความสามารถ เหมือนคะเเนนจิตพิสัย ตอนเรียน เเล้วค่อยปรับขึ้น
เเต่ก็อีกแหละ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก ผู้หลัก ผู้ใหญ่
พอโตขึ้นมาทำงานเอกชน ไม่เคยคิดหันไปมองระบบราชการอีกเลย(ทั้งๆที่อยากทำนะตอนเด็กๆ)
เพราะพอเข้าไปสัมผัส มันมีเเต่เรื่องผลาญงบ อบรม(ไปเที่ยว ตจว. ตปท.) กันสบายๆ
เบิกค่านู่น ค่านี่อีก
ผมเกลียดเข้าไส้ คนดีดีในระบบราชการหายากครับ เเละหัวงูมันก็มีอยู่จริง
ล้างระบบราชการไทยใหม่ไม่ได้จริงๆ
ฝึกงานจบเค้าจะฝากให้ทำที่หน่วยงานให้ ผมไม่ทำ
จนตอนนี้ทำงานเอกชนมา 2 ที่ ในระยะเวลา 3 ปี กว่า
เดินสมัครงานที่นู่นนี่นั่น
สมัยเด็กไม่ตั้งใจเรียน ผลการเรียนงั้นๆ โปรไฟล์ไม่ดี เลยหางานยาก
โดนหลอกไปทำก็มี
กว่าจะมาถึงเงินเดือนเกือบ 20K มีข้าวเลี้ยงเช้า กลางวันไม่อั้นได้ ก็ต้องพยายามอยู่
ถ้าจะปรับเงินขึ้น ปรับคุณภาพระบบราชการด้วย บักซิเด๋อ เอ้ยยย!!!
-
งานราชการ ทำงานต่างจังหวัด หรือจังหวัดบ้านเกิด เงินเดือน 10,000 แทบไม่ได้ใช้
แต่ทำงานในกรุงเทพ เงินเดือน 10,000 แทบไม่พอกิน
ผมว่าในจุดนี้ มันทำให้เกิดจุดต่างกันด้วยนะครับ
อีกเรื่องนึง บางตำแหน่งที่ใช้วุฒิเดียวกัน แต่คนละหน่วยงาน เช่น ท้องถิ่น กับในกรม งานคนละเรื่องเลยนะครับ รวมไปถึงความรู้ทักษะก็คนละเรื่องเลยทีเดียว ผมเคยเจอนิติกรหน่วยงานท้องถิ่นหน่วยงานนึง ร่างหนังสือราชการ ยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย
-
ในฐานะข้าราชการทหารผมมองว่าสมควรแล้วที่ปรับขึ้นนะครับ
ส่วนงาน Back Office ไม่ได้มีค่าเวร ค่าโอที เหมือนกับพวกที่ทำอยู่ Front Office
ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย อีกอย่างค่าครองชีพก็เพิ่มขึ้นตลอด
ทุกวันนี้ทานข้าววันละ 150-200 บาทแล้วนะครับ เดือนๆนึงห้าถึงหกพันบาท
แล้วไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำมันรถ ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
ผมยอมรับว่าช้าราชการบางท่านก็เข้าชามเย็นชามจริงๆ แต่กรุณาอย่าเหมารวม
เพราะผมรู้สึกว่าหลายๆคน จะมองข้าราชการในทางลบซะส่วนใหญ่
คนทำงานจริงๆก็มีนะครับ ทุกภาคส่วน ต่อให้งานเอกขนที่ผมเคยสัมผัสมา
ก็มีพวกอู้งานเอาแต่ประจบขอขึ้นตำแหน่งก็มีบ้างเหมือนกัน
.
.
.
.
ใครจะไม่เฮ แต่ผมคนหนึ่งละครับที่เฮ
-
ผมว่าถ้าลองดูดีๆมาตรฐานค่าครองชีพในจังหวัดที่เจริญพอควรนี่มันล้ำหน้าอัตราค่าจ้างไปไกลแล้วนะครับผมว่าขั้นต่ำสุดแบบจบใหม่ไม่มีประสบการณ์เลยเนี่ยยังไงมันก็ควรจะเป็นอัตราที่อยู่ได้ครับแต่ปัจจุบันยกตัวอย่างนะ
สมมุติเชียงใหม่บ้านผม ค่าเช่าหอแบบปานกลาง ประมาณ 2000 /เดือน ค่าข้าวสองมื้อเอาแบบประหยัดไม่กินอย่างอื่นนอกจากข้าวเลยน้ำก็ไม่เอา 30*2*30 1800 บ. ค่าน้ำมันรถเนื่องจากเชียงใหม่ไม่มีรถเมล์ จยย. ประมาณ 1000 ค่าของใช้ส่วนตัวสบู่ยาสีฟันเอาเกรดต่ำสุด 500 ค่าโทรศัพท์ 500 เอาแค่นี้ก็ปาเข้าไปเกือบ 6000 แล้วครับไม่ต้องซื้อเสื้อผ้า+ขนมน้ำ ใช้ของถูกสุดเท่าที่จะหาได้ไม่ต้องไปไหนทำงานเสร็จกลับที่พักอย่างเดียว สงกลับให้พ่อแม่ 2500 จบ 8500 ไม่ต้องเหลือเก็บตั้งตัวกันเลยถามว่าจริงๆทำได้ตามนี้ไหม??
กรุงเทพเดี๋ยวนี้ start เท่าไหร่ครับ? สมัยผม ป.ตรีเกือบ 10 ปีก่อนเพื่อนได้ 12000 แต่ค่าใช้จ่ายมากกว่าข้างบนเยอะครับแล้วค่าใช้จ่ายตอนนี้เทียบกับ 10 ปีที่แล้วล่ะ?
อย่างนี้ที่ไหนจะหวังให้ลูกจ้างพัฒนาตัวเองอีกเหรอครับเค้ากินอยู่ยังไม่พอใครมันจะไปซื่อสัตย์กับองค์กรลูกจ้างก็จ้องแต่จะหางานใหม่กันอย่างเดียวแหละครับ เพราะคุณเลี้ยงเค้าไม่ได้ไง อีกอย่างยอมรับไหมว่าถ้าทำงานมีประสบการณ์ระดับนึงแล้วย้ายที่เงินเดือนมันขึ้นเยอะกว่าอยู่ที่เดิม เพราะ บ.ส่วนใหญ่ขึ้นกันปีละ 3% แค่นั้นแหละครับ แล้วถึงคุณจะพัฒนาได้ั้เทพแบบกระโดดเป็นหัวหน้างานได้เลยแต่ถ้าคนเก่ายังอยู่แล้วเค้าไม่มีปัญหาอะไรคุณจะขึ้นได้ไงครับไม่เห็นมีัที่ไหนกล้าถีบคนเก่าออกเลยคุณก็อยู่มันอย่างนั้นแหละจนกว่าตำแหน่งว่างเงินเดือนก็ขึ้นกับแบบคลานๆไปนั่นแหละไม่ใช่ว่า "เฮ้ยคุณพัฒนาตัวเองดีมากสมควรได้ตำแหน่งหัวหน้างานเลยแต่ตำแหน่งไม่ว่างเอางี้ผมขึ้นเงินเดือนให้เท่าหัวหน้าเลย" มีด้วยเหรอครับ
ผมเห็นหลายท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือ เคยผ่านช่วงนี้มาแล้วมักจะมองในมุมมองจากบนลงล่าง คือตัวเองผ่านมาแล้วคิดว่าทำไมตัวเองทำได้+อยู่ได้ล่ะ อยากให้มองจาก ข้างล่างขึ้นมาบ้างครับ ผมว่าทุกคนที่เคยผ่านต้องคิดหมดแหละว่าทำไมเงินเดือนมันน้อยนักวะ? แต่พอผ่านจุดนั้นมาแล้วกลับลืมไปว่าครั้งนึงตัวเองก็เคยบ่นเหมือนกัน
หรือว่าคิดกันแบบการรับน้องที่แบบว่า เฮ้ยพี่เคยโดนน้องมันก็ต้องโดนด้วย....
-
ในฐานะข้าราชการทหารผมมองว่าสมควรแล้วที่ปรับขึ้นนะครับ
ส่วนงาน Back Office ไม่ได้มีค่าเวร ค่าโอที เหมือนกับพวกที่ทำอยู่ Front Office
ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย อีกอย่างค่าครองชีพก็เพิ่มขึ้นตลอด
ทุกวันนี้ทานข้าววันละ 150-200 บาทแล้วนะครับ เดือนๆนึงห้าถึงหกพันบาท
แล้วไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำมันรถ ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
ผมยอมรับว่าช้าราชการบางท่านก็เข้าชามเย็นชามจริงๆ แต่กรุณาอย่าเหมารวม
เพราะผมรู้สึกว่าหลายๆคน จะมองข้าราชการในทางลบซะส่วนใหญ่
คนทำงานจริงๆก็มีนะครับ ทุกภาคส่วน ต่อให้งานเอกขนที่ผมเคยสัมผัสมา
ก็มีพวกอู้งานเอาแต่ประจบขอขึ้นตำแหน่งก็มีบ้างเหมือนกัน
.
.
.
.
ใครจะไม่เฮ แต่ผมคนหนึ่งละครับที่เฮ
เห็นด้วยครับไม่เชื่อ ลองมาชมชีวิตครูภูธรดูครับ
เงินเดือนที่ไม่มี ค่าเข้าเวร (ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายคนเดียวนอนเวรคนเดียวทั้งเดือน )
ไม่มีค่าล่วงเวลา อืม ใจเขา ใจเรา ครับ
-
ในฐานะข้าราชการทหารผมมองว่าสมควรแล้วที่ปรับขึ้นนะครับ
ส่วนงาน Back Office ไม่ได้มีค่าเวร ค่าโอที เหมือนกับพวกที่ทำอยู่ Front Office
ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย อีกอย่างค่าครองชีพก็เพิ่มขึ้นตลอด
ทุกวันนี้ทานข้าววันละ 150-200 บาทแล้วนะครับ เดือนๆนึงห้าถึงหกพันบาท
แล้วไหนจะค่าที่พัก ค่าน้ำมันรถ ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
ผมยอมรับว่าช้าราชการบางท่านก็เข้าชามเย็นชามจริงๆ แต่กรุณาอย่าเหมารวม
เพราะผมรู้สึกว่าหลายๆคน จะมองข้าราชการในทางลบซะส่วนใหญ่
คนทำงานจริงๆก็มีนะครับ ทุกภาคส่วน ต่อให้งานเอกขนที่ผมเคยสัมผัสมา
ก็มีพวกอู้งานเอาแต่ประจบขอขึ้นตำแหน่งก็มีบ้างเหมือนกัน
.
.
.
.
ใครจะไม่เฮ แต่ผมคนหนึ่งละครับที่เฮ
เห็นด้วยครับไม่เชื่อ ลองมาชมชีวิตครูภูธรดูครับ
เงินเดือนที่ไม่มี ค่าเข้าเวร (ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายคนเดียวนอนเวรคนเดียวทั้งเดือน )
ไม่มีค่าล่วงเวลา อืม ใจเขา ใจเรา ครับ
จริงครับถึงผมไม่ได้เป็น ขรก. แต่ถามอัตราเงินเดือนมาแล้วแบบว่า.....จะมีชีวิตอยู่ยังไงเนี่ยเหนื่อยแทน
-
เคยมีโอกาสฝึกงานในหน่วยงานราชการ ชิวมากกกก น้อยคนที่จะรักษาวินัยการตรงต่อเวลา
ทำงานที่นึง ไปกินข้าวกลางวันโน่นห่างเป็น 10-20 โล
สมควรประเมิน ทดสอบความสามารถ เหมือนคะเเนนจิตพิสัย ตอนเรียน เเล้วค่อยปรับขึ้น
เเต่ก็อีกแหละ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก ผู้หลัก ผู้ใหญ่
พอโตขึ้นมาทำงานเอกชน ไม่เคยคิดหันไปมองระบบราชการอีกเลย(ทั้งๆที่อยากทำนะตอนเด็กๆ)
เพราะพอเข้าไปสัมผัส มันมีเเต่เรื่องผลาญงบ อบรม(ไปเที่ยว ตจว. ตปท.) กันสบายๆ
เบิกค่านู่น ค่านี่อีก
ผมเกลียดเข้าไส้ คนดีดีในระบบราชการหายากครับ เเละหัวงูมันก็มีอยู่จริง
ล้างระบบราชการไทยใหม่ไม่ได้จริงๆ
ฝึกงานจบเค้าจะฝากให้ทำที่หน่วยงานให้ ผมไม่ทำ
จนตอนนี้ทำงานเอกชนมา 2 ที่ ในระยะเวลา 3 ปี กว่า
เดินสมัครงานที่นู่นนี่นั่น
สมัยเด็กไม่ตั้งใจเรียน ผลการเรียนงั้นๆ โปรไฟล์ไม่ดี เลยหางานยาก
โดนหลอกไปทำก็มี
กว่าจะมาถึงเงินเดือนเกือบ 20K มีข้าวเลี้ยงเช้า กลางวันไม่อั้นได้ ก็ต้องพยายามอยู่
ถ้าจะปรับเงินขึ้น ปรับคุณภาพระบบราชการด้วย บักซิเด๋อ เอ้ยยย!!!
ผมไม่รู้ว่าคุณเคยไปอยู่ในสายงานไหนนะครับ
แต่ถ้าทำงานในหน่วยงานสายวิชาการในส่วนกลางของกรม,กระทรวงต่างๆ
เช่น กองคลัง, กองการเจ้าหน้าที่, กองแผนงาน, กองนิติการ รับประกันว่าได้ทำงานตัวเป็นเกลียวแน่นอน
และเงินเดือนไม่เท่ากลุ่มงานสายปฏิบัติการ (ตอนนี้ผมทำงานอยู่ในกองการเจ้าหน้าที่ของกรมๆหนึ่ง งานเยอะมาก)
ถ้าประเภท เข้าสาย บ่าย2บ่าย3 เลิกงาน มักจะมีแต่ต่างจังหวัดกัน
-
สิทธิ มาพร้อมกับ หน้าที่ อยากได้สิทธิ์ เช่น เงินเดือนสูง สวัสดิการที่ดี แต่ไม่ทำหน้าที่ เดี๋ยวรายได้มันจะปรับเข้าลงมาเท่ากับหน้าที่ที่ทำอยู่เอง
-
สิทธิ มาพร้อมกับ หน้าที่ อยากได้สิทธิ์ เช่น เงินเดือนสูง สวัสดิการที่ดี แต่ไม่ทำหน้าที่ เดี๋ยวรายได้มันจะปรับเข้าลงมาเท่ากับหน้าที่ที่ทำอยู่เอง
คมครับ 555 ค่อนข้างจริง ยกเว้นพวกเส้นจริงๆ *-*
-
เรื่องปรับเงินเดือนนี่ก็ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ผมกังวลเรื่องแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาในไทยมากกว่า ตอนนี้บางพื้นที่ก็เต็มไปด้วยแรงงานเหล่านี้อยู่แล้ว(ไม่ได้ดูถูกชนชาติอื่นนะครับ ด้วยความเคารพ) คืออยากให้จัดระบบแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องเสียด้วยและจัดการพวกลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศรวมทั้งสวมสิทธิเป็นคนไทยด้วย เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้มีที่มาที่ไป ;D
-
เคยมีโอกาสฝึกงานในหน่วยงานราชการ ชิวมากกกก น้อยคนที่จะรักษาวินัยการตรงต่อเวลา
ทำงานที่นึง ไปกินข้าวกลางวันโน่นห่างเป็น 10-20 โล
สมควรประเมิน ทดสอบความสามารถ เหมือนคะเเนนจิตพิสัย ตอนเรียน เเล้วค่อยปรับขึ้น
เเต่ก็อีกแหละ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก ผู้หลัก ผู้ใหญ่
พอโตขึ้นมาทำงานเอกชน ไม่เคยคิดหันไปมองระบบราชการอีกเลย(ทั้งๆที่อยากทำนะตอนเด็กๆ)
เพราะพอเข้าไปสัมผัส มันมีเเต่เรื่องผลาญงบ อบรม(ไปเที่ยว ตจว. ตปท.) กันสบายๆ
เบิกค่านู่น ค่านี่อีก
ผมเกลียดเข้าไส้ คนดีดีในระบบราชการหายากครับ เเละหัวงูมันก็มีอยู่จริง
ล้างระบบราชการไทยใหม่ไม่ได้จริงๆ
ฝึกงานจบเค้าจะฝากให้ทำที่หน่วยงานให้ ผมไม่ทำ
จนตอนนี้ทำงานเอกชนมา 2 ที่ ในระยะเวลา 3 ปี กว่า
เดินสมัครงานที่นู่นนี่นั่น
สมัยเด็กไม่ตั้งใจเรียน ผลการเรียนงั้นๆ โปรไฟล์ไม่ดี เลยหางานยาก
โดนหลอกไปทำก็มี
กว่าจะมาถึงเงินเดือนเกือบ 20K มีข้าวเลี้ยงเช้า กลางวันไม่อั้นได้ ก็ต้องพยายามอยู่
ถ้าจะปรับเงินขึ้น ปรับคุณภาพระบบราชการด้วย บักซิเด๋อ เอ้ยยย!!!
ผมไม่รู้ว่าคุณเคยไปอยู่ในสายงานไหนนะครับ
แต่ถ้าทำงานในหน่วยงานสายวิชาการในส่วนกลางของกรม,กระทรวงต่างๆ
เช่น กองคลัง, กองการเจ้าหน้าที่, กองแผนงาน, กองนิติการ รับประกันว่าได้ทำงานตัวเป็นเกลียวแน่นอน
และเงินเดือนไม่เท่ากลุ่มงานสายปฏิบัติการ (ตอนนี้ผมทำงานอยู่ในกองการเจ้าหน้าที่ของกรมๆหนึ่ง งานเยอะมาก)
ถ้าประเภท เข้าสาย บ่าย2บ่าย3 เลิกงาน มักจะมีแต่ต่างจังหวัดกัน
ผมเคยเข้าไปอยู่ฝ่ายปฏิบัติการเชิงนิติการ ประเภทออกตรวจข้างนอก กทม. ด้วย ต่างจังหวัดก็ด้วยครับ (ปีละครั้ง)
พวกนี้(บางคน) หน่วยงานให้งบค่าที่พักต่าง ๆ พวกเขาเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะผู้ประกอบมอบที่พักให้ไปพักฟรีๆ
เเต่เค้าก็เลือกที่จะเบิก ที่ผมบอกเรื่องการพักกลางวันทานข้าวของพวกเขา ผมมีเพื่อนผู้หญิงไปฝึกด้วยกัน 3-4 คน
เเต่ละอาทิตย์เค้าพาผม กับ เพื่อนๆ ไปทานข้าวร้านต่างๆ มากมายหลายที่ เค้าเลี้ยงเพราะหวังเพื่อนผม
ส่วนหน่วยงานไหนที่เค้าตั้งใจทำงานเเละเป็นข้าราชการด้วยจิตวิญญาณผมสนับสนุนเเน่นอน
เพราะผมก็ได้พี่ชายดีดีจากหน่วยงานนี้เหมือนกัน ที่ทำงานตงฉิน หามรุ่ง หามค่ำ (จนหัวล้านเลย)
แกน่าจะขึ้นระดับ 8 ตั้งเเต่ 3 ปีที่เเล้ว เเต่เค้าให้คนอาวุโส ก่อนเกษียนขึ้นก่อน ยุติธรรมมั้ย?
เเละผมเคยมีเคสคาใจที่กรมขนส่งครั้งหนึ่งตอนลางานไปทำใบขับขี่
ด่านจอดเข้าซอง ผมใช้รถคุณเเม่สอบ รถค่อนข้างจะใหญ่(W123)
คันก่อนหน้าจอดถอยชนกรวยหลังล้มไป ก่อนถึงคิวผม ผมเห็นคาตาผมเลย
พอถึงคิวผม ผมไม่ผ่าน!!!! เค้าบอกว่าผมเป็นคันที่ถอยชน -"-
ผมไม่ยอม อธิบายเเล้ว เเละนำบุคคลที่นั่งดูอยู่มาเป็นพยานด้วย เเต่เค้าไม่ยอม
ถ้าวันนั้นยัดเงินไป (เหมือนอย่างโรงเรียนหัดขับรถจัดการให้) มันก็จบ เเต่ผมไม่ทำ!!!
เเน่นอนครับที่พูดมาทั้งหมดทุกสังคม มีดี เเละ เลว เหมือนกัน ทุกองค์กร
เเต่ผมถือว่าการทำงานรับราชการเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
ผมก็คงได้เเต่บ่น เเละจนผมเเก่ตัวลง ผมก็ไม่รู้ว่าระบบราชการเเบบนี้จะยังเป็นอยู่เหมือนตอนผมหนุ่มๆ หรือไม่
คนเรามีรายรับรายได้เพิ่มมากขึ้น มันก็ต้องพัฒนาอะไรกันบ้างครับ ผมจึงเสนอให้ประเมิน เเละ พัฒนาครับ
จะมองเรื่องค่าครองชีพต่างๆ สูงขึ้น เเล้วความรับผิดชอบต่อหน้าที่นี่ขึ้นตามกันบ้างหรือเปล่า?
ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ในวงการราชการไทยทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณทุกคนครับ
ทั้งหมดนี้ ผมเคารพ ให้เกียรติ ทุกคน ทุกสาขาอาชีพครับ
-
^
^
เรื่องแรงงานต่างด่าว ผมว่าในหน่วยงานอุตสาหกรรม ยังไงก็ใช้แรงงานไทยครับ
ผมเคยใช้บริการ Sub-contract ในช่วงที่มีปัญหาด้านแรงงาน(มีช่วงหนึ่งที่หาคนระดับแรงงานเข้ามาทำงานยากมาก เพราะธุรกิจ อิเล็กทรอนิก กำลังฟื้นตัว) โดยจ้างมา 200คน เป็นชาวพม่าและ กัมพูชา .... ปัญหาที่เกิดคือ ... หัวหน้าไลท์ ไม่สามารถควบคุมงานได้ เพราะ พูด และฟังไทย ไม่รู้เรื่อง .... สั่งอีกอย่าง ทำอีกอย่าง
งานที่ออกมาเลยช้า และ ไม่ได้ตามเป้าหมาย ดังนั้น การใช้แรงงานต่างด่าว เลยต้องล้มเลิกไปและ ก็คงไม่ใช้อีกแล้วครับ
แรงงานไทย ได้คุณภาพกว่า พูดคุยและสั่งงานง่ายกว่าครับ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องแรงงานต่างด่าวเลย ... แรงงานต่างด่าว จะเข้ามา ในส่วนภาคของงานก่อสร้างมากกว่า ....แต่ถ้างานด้าน อุตสาหกรรม ยังไงก็ต้องแรงงานไทยครับ ...
................................................
ส่วนเรื่องที่คุณgttle ว่ามา เรื่องการมองจากล่างขึ้นบน และเรื่องการพัฒนาตัวเอง ผมว่าการพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องสำคัญตามที่คุณ NINENOI ว่ามาล่ะครับ .....
การรับบุคลากรเข้ามาทำงานในองค์กร ในระดับบริหาร(นั่งใน office ) จะมีช่วงทดลองงาน 3 เดือน อยู่แล้ว ฉะนั้น ถ้าช่วงนี้ ไม่พัฒนาตัวเองไม่ปรับตัวเข้ากับองค์กร ก็ปลิวครับ จะมาบอกว่าอยากเงินเดือนขึ้นก็หางานใหม่ ถูกครับ แต่ว่างานใหม่คุณ คุณอยู่กับมันได้นานแค่ไหน .... ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานบ่อยๆหรอกครับ
การพัฒนาตัวเอง หลายองค์กร สามารถมีตำแหน่งงานและค่าจ้างแซงคนเก่าได้ และมีการแซงกันเยอะแล้วครับ ... เอาอย่างง่ายๆเลย เงินโบนัส ....
นาย A ทำงานดี ขยัน ไม่ขาดงานไม่ลาบ่อย โบนัสเอาไปเลย 5 เดือน .....และขยับเงินเดือนให้อีก 5 %
นาย B ลาบ่อย ขาดงาน ทำงานเช้าชามเย็นชาม แต่เงินเดือนมากกว่านาย A เอาโบนัสไป 2 เดือน และขึ้นเงินเดือนให้ 3%
นาย A และ นาย B ทำงานคนละตำแหน่ง แต่นั่งอยู่ไกล้ๆกัน .... และเป็นแบบนี้สัก 5 ปี นาย A แซงนาย B แน่ๆครับ
ฉะนั้น การแข่งขันในที่ทำงานมีทุกองค์กรครับ ตัวบ่งชี้ชัดๆคือโบนัส .... ถ้าคนอื่นได้ 5 เดือน ตัวเองได้ 2 เดือน อันนี้ก็ต้องรู้แล้วครับว่า ปีที่ผ่านมา ตัวเองเป็นยังไง .... คนคิดได้ ก็ปรับตัว .... คนโง่ก็โทษบริษัทฯและก็ลาออกไป .....
แค่นั้น ..
-
ผมขอให้มุมมองอีกด้านครับ
เปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับประเทศในยุโรปอย่างอังกฤษที่เรียนอยู่ตอนนี้หรือฮอนแลนด์ที่เคยไปเรียน ค่าแรงขั้นต่ำ(พาร์ทไทม์) อย่างผมทำร้านอาหาร ได้ชั่วโมงละ 6 ปอนด์(เกือบ 300บาท) ตอนนี้ที่ฮอนแลนด์อาจมากกว่า 6 ยูโรแล้ว สมมติทำร้านอาหารตอนเย็นถึงดึกวันหนึ่ง 5 ชม. ได้ 30 ปอนด์ ไม่คิดรวมทิปนะ เป็นเงินไทยก็เกือบ 1500 บาทแล้วคับ รวมทิปคงได้เกือบๆ 2000 แล้วเงิน 30-40 ปอนด์นี่ถือว่าซื้ออะไรได้เยอะพอสมควรนะครับ ไปทำวันเดียวซื้อกับข้าวมากินได้หลายวัน ขนาดว่าค่าครองชีพที่นี่สูงแต่ก็พอซื้อของกินของใช้ให้อยู่ได้แค่ทำพาร์ทไทม์ไม่กี่ชม.ต่ออาทิตย์นะครับ ถ้าทำเป็นงานประจำได้เพิ่มเป็นสองเท่า(เพราะทำประมาณ 10 ชม.) และอยู่ได้สบาย เหลือจ่ายค่าจิปาถะอื่นๆแน่นอน ส่วนงานแรงงานอื่นๆ ไม่รู้ค่าแรงเขาให้ยังไงก็คงเลยขั้นต่ำ 6 ปอนด์กันหมดแน่ เห็นพวกคนงานก่อสร้างขับ บีเอ็ม วอลโว่ เบนซ์กันเกลื่อนกลาด คนทำความสะอาดที่บ้านพักผมขับ leon ตัวแฮ๊ทช์แบ็คใหม่ล่าสุด ผมเห็นแล้วอิจฉาตาร้อน (อันนี้อาจเพราะรถราคาถูกด้วย)
ส่วนที่ไทย เทียบกับงานประจำเลยแล้วกัน สมมติอนุมัติค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทำงาน 8.30 เลิก 4.30 พัก 1 ชม. สรุปทำ 7 ชม.(เรื่องเวลางานอาจแตกต่างสมมติเอาแล้วกัน) ตก ชม.ละ 42 บาท แล้วเงิน 300 บาท ทำทั้งวันและเป็นงานประจำ ซื้ออะไรได้มั่งครับ? กินได้กี่มื้อ กี่วัน? กินแบบไหน? เหลือเก็บไว้จ่ายค่าจิปาถะไหม? อย่าไปพูดถึงพาร์ไทม์ในร้านแฟรนด์ไชน์ชื่อดังต่างๆ ชม.ละ 25-30 บาท เขาอยู่ได้หรือครับ?
อันนี้พูดแค่ระดับใช้แรงงานจริงๆ ไม่ได้มีทักษะอะไรมากมาย(ไม่นับภาษา) ส่วนระดับอื่นเช่น แค่ผมเข้าไปนั่งจดเลกเชอร์ช่วยนักเรียนตาบอด เค้าจ้างชม.ละ 11 ปอนด์ (500กว่าบาท) หรือไปช่วยอาจารย์สอนในแลบหรือ workshop ก็ได้เพิ่มขึ้นไปอีก หรืองานประจำอื่นๆที่ใช้ทักษะสูงขึ้น ลูกจ้างประจำ บริษัท ฯลฯ ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ผมเห็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขับรถหรูๆมาจอดกันระนาว
ผมแค่อยากตั้งข้อสังเกตุว่า และสงสัยว่าอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เป็นแบบนี้ ทำให้คนระดับแรงงานที่นี่ ไม่รวย แต่อยู่ได้ไม่ลำบาก ทำไม..คนระดับเดียวกันที่ไทย ทำงานไม่ต่างกัน ใช้ทักษะไม่ต่างกัน รายได้กับค่าครองชีพ คำนวณแล้ว ที่ไทยดูจะอยู่ลำบาก หนักหนา สาหัสพอควร
ใครสบาย?
ใครลำบาก?
ใครคือผู้เสียประโยชน์?
ใครคือคนได้ประโยชน์?
ตัวคนงาน?
นายจ้าง?
ระบบที่รัฐบาลจัดการให้?
คำถามที่หาคำตอบยากที่สุดคือ จะหาทางออกที่ดีที่สุดที่ขัดใจทุกคนน้อยที่สุดได้อย่างไร?
ผมไม่แปลกใจทำไมคนขวานขวายหาทางมาขุดทองกันที่นี่ แต่ก็ยังอดสงสัยในสิ่งที่ผ่านหูผ่านตามากว่า 7 ปีกับประสบการณ์นอกบ้าน กับคำถามหลายๆอย่างจากมุมมองข้างนอก ซึ่งก็ได้แต่สงสัย แต่ปวดหัวจะหาคำตอบเพราะมันหลายปัจจัย หลายความคิดต่างเหลือเกิน ใครช่วยหาคำตอบแทนผมทีครับ?
-
ตกลงรัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาล หรือ ค่ายมือถือนะ มาไม่กี่เดือย ออกถี่พอๆคล้ายมือถือ ลด แลก แจก แถม ประชานิยมสุด เอาหัวหรือส้นตีนคิดเนี้ย
-
จริงๆตัวนโยบายหนะมันดีนะครับ แต่ว่ากำหนดกรอบระเบียบต่างๆยังไม่ครอบคลุมพอ
และเหมือนไม่ได้มีมาตรการแก้ปัญหาหากแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามา
ซึ่งต้องกำหนดเลยว่า เฉพาะสัญชาติไทยเท่านั้นที่ได้สิทธิ์นี้ อะไรทำนองนี้
ไปๆมาๆ อาจจะนำร่องแค่ 7 จังหวัด ที่เหลือขึ่้น 40% แล้วจบแค่นั้น
พวกต่างจังหวัด ฐานค่าครองชีพต่ำอย่างพะเยา ก็คงได้สูงสุดแค่สองร้อยต้นๆ
.
.
.
.
จะงานราชการรึเอกชน ถ้าบุคคลนั้นๆไม่ทำตามหน้าที่รับผิดชอบ
ก็ไม่คุ้มกับเงินเดือนที่ได้มาอยู่ดีครับ ............