Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: eRaJap ที่ ตุลาคม 31, 2011, 18:18:27
-
คือว่าตัวหนูเองเพิ่งเรียนจบค่ะ (จบมีนา 54)
แล้วก็ได้เข้าไปทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ไม่ขอระบุชื่อแล้วกันค่ะ
งานสบายมากค่ะ ได้หยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ
เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะมากมาย ประมาณหมื่นกว่าๆ
ทำงานแล้วรู้สึกมีความสุขกับงาน เรื่องเป้ายอดขาย สำหรับหนู
หนูพอทำได้ แต่ไม่ได้ขายเก่งมากมายอะไร แต่ก็ไม่กดดันมากเท่าไร มีบ้างเล็กน้อย
ซึ่งหนูก็รับได้ แต่สิ่งหนึ่งที่หนูรับไม่ได้ คือ สังคมของคนในธนาคาร เค้าชอบแก่งแย่งชิงดีกัน
ไม่มีความจริงใจให้กัน และหัวหน้าของหนูเป็นผู้ชาย แบบ เฒ่าหัวงูมาก
หนูต้องพยายาม หลบหลีกเค้าให้ไกลๆ หนูทำมาได้ 3 เดือนก็ลาออก
จากนั้นมาหนูมาได้งานใหม่ ซึ่งตอนนี้หนูก็ได้ทำอยู่ และเพิ่งทำมาได้ 2 สัปดาห์
เป็นโรงงานอุตสาหตกรรม ทำงาน จันทร์-เสาร์ ต่อ 1 สัปดาห์
เป็นงาน planning งานหนัก ยากและเหนื่อยด้วย วันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ จะไม่ได้หยุด
ไม่มีสวัสดิการ มีแต่รถรับส่ง และเสื้อยูนิฟอร์ม ไม่มีโบนัส แต่ให้เงินเดือนถือว่าเยอะพอสมควร
ลำหรับเด็กจบใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่หนูรู้สึกดีกับที่นี้คือ สังคมเพื่อนร่วมงาน
รู้สึกพี่ๆที่นี้ดีกับหนูมาก ทำงานแล้วสบายใจดี แต่หนูก็เพิ่งจะทำมาได้แค่2 สัปดาห์
ตอนนี้มีธนาคารไทยพานิชย์ โทรมาเรียกหนูไปสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้
หนูไม่รู้ว่าหนูควรจะไปดีมั๊ย หนูชอบงานแบงค์นะ หนูว่ามันสบาย หนูชอบบริการลูกค้า
แต่หนูกลัวไปเจอสังคมแย่ๆ แบบที่เก่าอีก พี่ๆว่าหนูควรทำยังไงดี ควรเลือกแบบไหน
ตอนนี้งานก็หายากมากๆ พรุ่งนี้หนูควรจะลางานไปสัมภาษณ์ดีไหม
หนูคิดไม่ตกจริงๆ อยากได้คำแนะนำดีดี หนูเชื่อว่าพี่ๆน่าจะมองเห็นอะไรๆมากกว่าหนู
หนูเลือกที่จะมาปรึกษา พี่ๆในเว็บนี้ เพราะหนูรู้สึกว่าพี่ๆใจดี อบอุ่น และเป็นกันเอง
และหนูก็รักเว็บนี้
และถ้าหากกระทู้นี้ไม่เหมาะสมยังไง ก็ลบทิ้งได้เลยค่ะ แต่อย่าดุหนูนะ >.<
-
โอเคครับ คือปกติแล้ว กระทู้นี้ สมควรตั้งในห้อง Relax & Photoshop
ซึ่งรวมกระทู้ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ไว้ที่นั่นครับผม
แต่ก่อนจะย้ายกระทู้นี้ไปไว้ในห้องนั้นให้ ก็จะขอตอบคำถามให้ก่อนครับ
"เลือกสังคมที่ดีไว้ก่อนครับ สำหรับองค์กรแล้ว
เจ้านายที่ดี ควรจะมีส่วนในการสร้งบรรยากาศการทำงานที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา
เพื่อนร่วมงานที่ดี มีส่วนสำคัญที่ทำให้งาน บรรลุได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขวัญกำลังใจต่างๆจะดีตามมา ผลผลิตก้าวหน้า ผลกำไรตามมา องค์กรจะเติบโตยั่งยืน"
นี่คือ องค์กรในฝัน
ถ้ามีเพื่อนร่วมงานที่ดี และเจ้านายดี เราอยู่แล้วแฮปปี้ จนทำให้เทใจรักองค์กรได้แล้วละก็ จงอยู่ยาวๆครับ
-
เห็นด้วยกับพี่จิมครับ ผมคิดว่า.. ถ้างานที่เราเป็นลูกน้อง ควรเลือกงานที่มีสังคมและเจ้านายที่เหมาะสมกับเรา
สมัยนี้ งานที่มีสังคมอบอุ่นและเจ้านายดีๆ หายากกว่า งานที่สบายและเงินเยอะซะอีกนะ ;)
-
ผมว่า ถ้าเราแฮปปี้กับที่นี่แล้ว เราทำต่อไปเถอะครับ เงินหรือสวัสดิการ หรือความสบาย ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหรอกครับ ผมว่าถ้าองค์กรรักเรา เราก็ควรจะอยู่กับเขา จนกว่าจะมีเหตุผลที่เราจะไปทำอย่างอื่น เท่านั้นละครับ
ผมทำงานอยู่ 8 เดือน เจ้านาย และพี่ๆ ใจดีมาก แต่ผมอยากเรียนต่อ เลยออกมา ตอนจะออกก็คิดหนักเหมือนกันครับ
-
แต่ที่นี้มันเหนื่อยมากๆเลย อีกอย่างหนูเพิ่งทำได้แค่2 อาทิตย์
ดูคน มันก็คงต้องใช้เวลา ถ้าหากๆอยู่ไปนานๆแล้วหนูกลัวว่าความจริงไม่ได้เป็นเหมือนสิ่งที่เห็น
แล้วหนูควรจะทิ้งโอกาสในการสัมภาษณ์งานครั้งนี้ไปเลยหรอค่ะ
-
เพื่อที่จะไม่เสียโอกาสพรุ่งนี้ไป SCB ครับ
-
คุณวงศ์ทนงเคยเขียนไว้ว่า ให้เอากระดาษมาขีดเส้นแบ่งออกเป็นสองข้าง เขียนสิ่งที่ชอบ กับสิ่งที่ไม่ชอบ แล้วก็เขียนลงไปตามจริง แล้วเอามาดูครับว่าตัวตนคุณเป็นยังไง แล้วก็ลุยเลย
-
ที่ SCB ตำแหน่งอะไรครับ
ถ้าเป็น Teller แบงค์นี้งานหนักนะครับ
อยากรู้ว่าน้องจบคณะอะไร จะได้แนะนำถูก
-
ถ้ายังลังเล งั้นพรุ่งนี้ก็ลางานไปสัมภาษณ์ SCB (อย่าให้ใครที่ที่ทำงานรู้) แล้วค่อยกลับมาคิดอีกทีก็ได้
เพราะการที่เราได้คุยกับคนที่สัมภาษณ์ เราก็พอจะรู้คร่าวๆ พอสมควร ว่าที่บริษัทนั้นๆ เป็นอย่างไร และทัศนคติของเจ้านายต่อลูกน้องเป็นอย่างไรครับ
-
จะลองไปสัมภาษณ์ดูก็ไม่เสียหาย แต่ถ้างานคล้ายๆ กับของแบงค์เดิม
พี่ว่าน้องทำที่เดิม (งาน planning) ไปหนะดีแล้ว
การที่ตัวเองรู้สึกว่ายาก น่าจะเป็นเพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อน
ลองเปิดใจ ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องเครียด เรียนรู้งานไปเรื่อยๆ
พอเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็จะคล่องไปเอง
อีกอย่าง สังคมก็ดีไม่ใช่หรอ ไปได้ที่ใหม่ ก็อาจจะไม่ดีก็ได้นะ
และการเปลี่ยนงานบ่อยๆ cv ไม่สวยนะครับ
เวลาไปสมัครงานที่ใหม่ๆ พวก HR เขาจะมองว่าเราไม่สู้งาน อยู่ไม่ทนนะ จะบอกให้ :D
-
จบการจัดการทั่วไปค่ะ
teller ที่นี้งานมันหนักยังไงหรอค่ะ แต่เท่าที่เคยทำที่เก่า
เค้าให้เราลองทำงานทุกส่วนของแบงค์ รู้สึกชอบ teller ที่สุด
-
ถ้าโอกาสมันมาก็ควรลองครับ
อย่าเพิ่งตัดโอกาสตัวเอง บางอย่างมันผ่านแล้วผ่านเลยนะครับ
ย้อนกลับมาใหม่อีกไม่ได้ครับ
-
ขึ้นอยู่กับชอบไปสายไหนครับ ถ้าชอบสายแบงค์ก็ลองไปดู
เพราะเพิ่งจบเดี๋ยวต้องเปลี่ยนงานอีกหลายที่ แต่ถ้าเลือกสายงานที่ชอบผิดแล้วจะเปลี่ยนสายงานเมื่ออายุมากขึ้นจะลำบากหน่อย (ไม่ได้หมายถึงเปลี่ยนไม่ได้นะ)
ถ้าอยู่สายที่ชอบแล้วประสบการร์ต่างๆจะเยอะขึ้น เราก็จะเลือกที่ทำงานได้มากขึ้นจนจุดจึงเราจะเจอที่ที่เราพอใจจนอยู่ไปยาวๆนั่นละครับ
ส่วนเพื่อนร่วมงานเราต้องเจอคนอีกหลายประเภท อายุยังน้อย เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆครับ
-
ถ้าให้ผมแนะนำ ผมแนะนำทำที่โรงงานต่อนะ
ประเด็นคือ งานที่เราคิดว่ายากและหนัก มันจะทำให้เราเพิ่มทักษะและการเรียนรู้อีกมาก
ถ้าเราไปทำงานสบายตั้งแต่จบใหม่ อนาคตมันจะลำบาก เพราะ Skill เราไม่กว้างและลึก
ตอนนี้ยังวัยรุ่นอยู่ ยังมีแรงก็ฮึดสู้กันต่อไปก่อนครับ ผ่านไปสักสองสามปีแล้ว ค่อยหาทางเลือกอื่นก็ได้
แต่เรื่องเงินเดือนเยอะหรือไม่เยอะ อยากให้ลองคิดแบบรวมทุกอย่างดูก่อน
คือทั้งเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง สวัสดิการ และโบนัส แล้วลองดูว่าที่ไหนได้เยอะกว่ากัน
บางที่เงินเดือนเยอะกว่าพอสมควร แต่พอไม่มีโบนัสให้ กลับกลายเป็นไม่ต่างจากที่อื่นก็มี
อีกอย่าง ผมว่ามันคงดูไม่ดีกับ Resume เท่าไหร่นัก
ทำงานมา 4 เดือน เปลี่ยนงานไปแล้ว 3 ที่ อนาคตก็คงต้องตอบคำถามเยอะเหมือนกัน หากต้องการย้ายอีก
-
ผมว่าเรื่องนี้ตอยยากนะครับ ผมขอบตอบแบบเอาชีวิตการทำงานของตัวเองที่ต้องค่อยติดต่อกับ bank (outsource software core banking)
ผมก็ได้ทำงานคลุกคลีกับคนภายใน bank มาได้ 3 ปีเกือบๆ 4 ปี แล้วโดยผ่านมาก็ 4 bank แล้วล่ะ (ก็เป็น outsource หนิหว่าโดนย้ายประจำเลย) ภายใน bank นั้นมีความบาดหมางกันเยอะครับ เช่น deposit ไม่ถูกกับ loan หรือ QA ไม่ยอมตรวจงานทำงานช้า ฯลฯ (ตัวผมเองก้เป็นแค่ System engineer ธรรมดา) ก็เห็นเข้าทะเลาะกันบ่อยโดยส่วนมากแล้วมันมาจากอำนาจในการจัดการของแค่และฝ่านโดยไม่ค่อยจะมีควกลางซักเท่าไหร่ แล้วเท่าที่รู้มาอำนาจใน bank มักจะเบ็ดเสร็จ จึงทำให้หลายๆคนพยายามแสวงหาอำนาจมาครอบครอง ซึ่งต่างกับผมที่เป็น outsource นั้นตัวบริษัทเองสวัสดิการคงไม่ดีเท่าพนักงาน bank แต่ผมเชื่อเลยว่าผมนั้นทำงานแบบสบายๆไปเรื่อยๆ (บ้างทีก็ไม่ค่อยสบายเพราะว่าโดน bank กดดัน) ซึ่งคิดว่าสบายกว่าพนักงาน bank ซะอีกมังแต่ก็อย่างว่าแหละ เป็น outsource ก้ต้องค่อย support bank 24ชั่วโมง ซึ่งบ้านครัง bank โทรมาตอนกำลังกิรข้าวหรือจะนอนก็ต้องค่อยช่วยก่อนบ้างครั้ง bank ก็งี่เง่า จะเกือยทะเลาะกันก็มี อ๋อที่ผมเล่ามานั้นเป็นงานด้าน IT ทั้งหมดนะครับ อิอิ
ปล. ที่ผมพูดมานั้นไม่ใช่ว่าการทำงาน bank ไม่ดีนะครับ แต่ให้ผมเข้าไปทำงานในที่แบบนั้นมันคงยากที่จะอดทะเลาะไม่ได้ ผมเลยแนะนำได้คำเดี่ยวว่าเราต้องเลือกที่ทำงานที่เราสบายใจไม่เครียด เพราะว่ามันจะทำให้เรามีความสุขในการทำงานครับ
-
จะเปลี่ยนงานคงไม่น่ามีปัญหา เพราะน้องมีรูปร่างน่าตาดี(ดูจากดิสเพลย์) ค่อนข้างได้เปรียบด้านบุคลิกภาพ
แต่อย่าลืมว่า เปลี่ยนงานมาแล้ว 1 รอบ ที่ใหม่ยังไม่เท่าไหร่เอง เปลี่ยนอีก เรซูเม่มันจะเสีย เว้นเสียแต่ ไม่คิดจะเอามาใส่ไว้แต่แรก
แล้วก็ไทยพาณิชย์ ไม่รู้ว่าสังคมดีหรือเปล่า แต่ธนาคารนี้ บอกได้คำเดียวว่าทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง ต้องทำยอดกันหูดับตับไหม้กว่าธนาคารแรก
ผมเอาเงินแต่ไม่กี่หมื่นใส่แบงค์ พี่ท่านก็จะให้ทำประกันซะงั้น
ส่วนตัวผมนั้นเคยฝึกงานที่โรงแรมในเมือง เป็นกะ เข้าบ่ายเลิกดึก หยุด 1 วันต่อสัปดาห์ เจ้านายฝรั่งตวาดใส่ประจำ ครัวก็ร้อนตับแตก
แถมต้องเสียงโดนม็อบแดงตีหัวอีก แต่ด้วยความเป็นคนรักงานบริการ เลยสนุกกับมันเจอเพื่อนและพี่ดีๆ
แต่พอจบมาหางานไม่ได้ เลยจับพลัดจับพลูได้เป็นลุกจ้างของทางราชการ ทำ 8 ชม. ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ งานทะเบียน เงินเดือนไม่มาก
เป็นงานออฟฟิส ธุรการ นั่งหน้าคอม อยู่ห้องแอร์ ซึ่งเป็นแนวที่เกลียดมาก แต่ต้องทำเพราะทางเลือกมีไม่มาก
พอได้โอกาสก็ลามาหาที่สมัครงานในสายงานที่ชอบ ทำแบบนี้มา 3 เดือนแล้ว ก็ยังหางานไม่ได้ แต่ก็ยังพยายามต่อไป
มาตอนนี้ผมมองเงินเดือนเป็นเรื่องท้ายสุดไปแล้ว นาทีนี้ ของานที่ใช่ และมั่นคง สภาพแวดล้อมดี ต่อยอดได้เป็นหลัก
-
ผมว่าคำตอบของคำถาม คนที่ตอบได้ดีที่สุด ก็น่าจะเป็นตัวคุณนั้นเองแหละครับ
ย้อนถามคุณอย่างนี้ดีกว่า ว่า "คุณคาดหวังอะไรจากการทำงานครับ ??"
ถ้าคำตอบ คือ "เงินเดือนที่ดี"
ก็เลือกที่ที่จ่ายงาม สวัสดิการเยี่ยม อัตราการปรับเงินเดือนถี่ อะไรเงี๊ยะครับ
แต่ถ้าคาดหวัง "ความสุขในการทำงาน"
ก็ลองลิสสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ และสิ่งที่เป็นตัวตนของคุณออกมาดูก็ได้ครับ
แล้วพวก "วันหยุด, โบนัส, การเดินทาง, หรือหนุ่มๆในออฟฟิต, บลาๆๆ, ฯลฯ"
เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมา ผมว่าก็สามารถนำมาใช้ตัดสินใจได้
ผมว่าหลายๆคนอยากได้ทั้งหมดที่กล่าวมาหมดเลย แต่ถ้ามันมีแบบนั้นหมดจริงๆล่ะก้อ...
...บอกผมด้วยล่ะ จะไปสมัครด้วยคน 555+ ^ ^
ปล. แต่ถ้าคุณคาดหวัง "อิสระภาพ" ผมว่าอาชีพ "ลูกจ้าง" คงให้คุณไม่ได้อย่างแน่นอน
-
เป็นผมทำโรงงานครับ
เพราะเงินดี สวัสดิการในหลายๆที่ดีมากครับ
แต่งานหนักก็ต้องทน ดีกว่างานสบายแต่เงินน้อย ไม่ไหวครับ คนเราต้องกินต้องใช้ :)
-
พีขอตอบจากประสบการณ์ที่ทำงานเกี่ยวกับสายงานคนนะ
อันดับแรก พี่เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ ที่ควรเลือกสังคมในการทำงานก่อน
1.แบงค์ เป็นสังคมที่ ถ้าใครอยู่นานๆแล้วไม่ค่อยย้ายไปไหน คล้ายๆ พนักงานรัฐ
เลยมีคนลักษณะแบบหนึ่งคือ มองหน้าก็ต้องทนๅกันไป ไม่ดียังไงก็ทน เพราะพวกเค้าก็ต้องอยู่กันไปนานใคเกิน 5ปีแทบไม่ค่อยลาออก จบ ม.ธรรมดา ก็ สังคม ก็ต่าง จาก ม. ต่างประเทศ ในแบงค์ มีเพียบ
เป็นศัตรูถาวร แบ่งฝ่าย แต่ หน้าต้องยิ้มใส่ (คิดดู ทั้งประเทศมี เกือบหมื่นคน)
2. บริษัทเอกชน สังคมเล็กกว่า อาจมีการเปลี่ยนงานบ่อย สังคมเลย ไม่แบ่งฝ่ายมาก มีแนวโน้มสังคมดีกว่า
(หัวหน้าแย่ยังไงก็ไม่ต้องทน เพราะขยับตัวออกง่ายกว่า) แน่นอน งานหนักหน่อย เพราะคนน้อยที่ต้องเร่งงานให้ลูกค้า
ข้อแนะนำ
ควรทนอยู่ อย่างน้อย 6 เดือน ในทุกๆการเปลี่ยนงานหนึ่งครั้ง เพราะมันเพียงพอที่จะเห็นทุกอย่างๆในน้ั้น
ถ้ากลับไปแบงค์อีก สังคมก็จะคล้ายเดิม ทุกแบงค์ แทบไม่แตกต่าง ด้วยไซส์องค์กร
ทนอย่างน้อย6เดือน ให้เห็นทุกอย่าง เพราะเราเพิ่งทำงาน หาประสบการณ์เหนื่อยๆไว้ ต่อไปหนักแค่ไหนก็สบาย
ทำต่อเถอะ เพิ่ง ก้าวไปไม่กี่ก้าวเอง สู้ๆ
-
เห็นด้วยกับคุณ Nuay@Protege เลยครับ งานหนักจะช่วยพัฒนาตัวเรา
-
ไม่แนะนำงานที่แบงค์คับยิ่งเป็นผู้หญิงแล้วด้วย แฟนน้องสาวทำอยู่กสิกร เห็นเค้าเล่าว่าระบบข้างในเป็นยังไง ก็ตามที่ข้างบนเล่าคับ ต้องทนๆไปเพราะทำมานานแล้ว จะลาออก อายุเริ่มเยอะไม่รู้จะไปทำอะไรอีก ???
-
โลก,,, ไม่ได้สร้างมาเพื่อใคร, ไม่มีทางเลย ที่ท่านจะพบแต่สิ่งที่ถูกใจในทุกๆ เรื่อง
ผมแนะนำว่า,,, ตั้งเป้าครับ ว่าในอีก 5 ปี 10 ปี ท่านอยากยืนอยู่จุดไหน
แล้วพยายามทำ พยายามเก็บเกี่ยว ในสิ่งที่ใกล้เคียงกับจุดหมาย
ตอนผมจบใหม่ๆ ผมสงสัยว่า ทำไม บางคนมีปั๊มแก๊สตั้ง 10-20 ที่
แต่พ่อผม มีแค่ที่เดียว ก็โงหัวไม่ขึ้นแล้ว
ผมถึงตัดสินใจทำงานบริษัท เพื่อเรียนรู้ระบบ การจัดการ การบริหาร
ผมก็ไปเก็บเกี่ยว สิ่งที่ผมต้องการอยู่ 2 ปี
สรุป,,, แนะนำว่า "ตั้งเป้า" ครับ, จะได้ไม่ทำอะไรเรื่อยเปื่อย หลงทาง เสียเวลา (http://www.soccersuck.com/soccer/images/smiles/onion_this.gif)
-
ผมมีญาติท่านนึงเชี่ยวชาญการให้คำปรึกษาด้านนี้ จะมีเว็บให้ถามตอบ เดี๋ยวท่านจะมาตอบให้ครับ(เดี๋ยวส่งเ้็ว็บไปในข้อความ)
ชื่อ คุณสุชาดา สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา
ในเว็บนั้นจะมีExpert คนอื่น อีกคนที่แนะนำคือ ท่านธงชัย อดีตคณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ธรรมศาสตร์ครับ
ความเห็นผม
แบงค์มีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้มากขึ้น ทำให้ลดจำนวนตำแหน่งบริหารระดับบนไป พยายามเหลือแต่ระดับกลาง-ล่าง จึงเป็นลักษณะองค์กรแบบแบนราบ ส่วนตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงนั้นยังเป็นระบบอุปถัมภ์
ปล.ผมไม่ได้มีประสบการณ์โดยตรง ยังเรียนอยู่ครับ
-
ถ้าสั้นๆก็ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก
ถ้ายาวๆก็ขอเล่าประสบการณ์ของพี่ก่อนแล้วกัน ทำงานที่แรกได้ 12000 ทำงานวันล่ะ 8 ชั่วโมง แต่ทำได้แค่ 3 เดือนก็ลาออก ไม่ไหวจริงๆสังคมแย่สุดๆ
ที่ๆสองเริ่มที่ 8500 เงินน้อยกว่าเยอะแถมทำงานวันละ 12 ชั่วโมงได้โอเพิ่ม 100 เท่านั้น แต่สบายใจสุดๆ เหมือนทำงานอยู่บ้าน ช่วยเหลือกันทำงานตลอดเหมือนเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวแต่ทำแค่ปีเดียวก็ลาออกเพราะต้องการความก้าวหน้า
ที่ๆ 3 ทำที่อยุทธยาได้ 12000 (เงินวนกลับเท่าที่แรกเลยแฮะ) เป็นรองหัวหน้าแผนกทำทุกอย่างตั้งแต่วางแผนสั่งของ ติดตั้งเครื่องจักร สอนงาน วางเลย์เอาท์ วางแผนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร แต่ก็ทำได้เพียงปีเดียวก็ลาออกเพราะสวัสดิการไม่ค่อยดีแต่ทักษะได้มาเยอะมากเพราะได้ทำทุกอย่างเลย
ที่ๆ 4 เป็นที่ปัจจุบัน เริ่มต้นที่ 15000 สวัสดิการนับว่าดีมาก ตอนนี้ทำมา 4 ปีครึ่งแล้วงานสบายกว่าที่เก่าเยอะ รายได้มากกว่าเยอะ สวัสดิการดีกว่าเยอะ ตอนนี้ได้เงินเดือน 19000 ค่าตำแหน่งอีก 4000 นับว่าน่าพอใจแต่ก็เริ่มมองหางานใหม่แล้ว เพราะต้นไม้เวลาที่โตมากขึ้นเรื่อยๆกระถางใบเดิมเริ่มเล็กลงเสียแล้วภาระที่มีก็มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องหากระถางใบที่ใหญ่กว่าเดิมอยู่ไม่ก็ลงดิน
ที่เล่ามาก็อยากให้น้องลองพิจารณาดู โอกาสที่เราจะพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถก็จากการทำงานหนักตอนจบใหม่ๆนี่แหละครับ มันจะมีผลตอนที่เราอายุมากแล้ว เห็นหลายคนที่แก่กะโหลกกะลา เงินเดือนน้อย ทำอะไรไม่ค่อยเป็น บ่นเก่งว่าไม่ได้อย่างงู้นอย่างงี้ ไม่กล้าลาออกหรือไปหางานใหม่เพราะเค้าไม่รับ ความรู้ความสามารถแค่นี้รับเด็กจบใหม่มาดีกว่า ค่าจ้างน้อยกว่า สอนงานง่ายกว่า ไม่หัวแข็ง ใช้งานง่ายกว่าไม่ดีกว่าเหรอ
-
แนะนำทำแบงค์ต่างชาติ เช่น HSBC, City Bank ถ้าสามารถเข้าไปได้นะครับ (ต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษดีพอสมควร) เพราะจะมีโอกาสโดนซื้อตัวไปอยู่ต่างประเทศ เช่นฮ่องกง สิงคโปร์ พอไปอยู่ตปท.สักปีก็กลับมาบ้านเราครับ
เพื่อนผมจบหลังผมปีนึง เริ่มงานจากแบงค์ต่างชาติ ตอนนี้ผ่านมา6ปี เพื่อนคนนี้เงินเดือนรวมสวัสดิการ พวกค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ 170,000 บาทครับ(อายุ31เท่ากัน) จบป.ตรี เกรดเฉลี่ย2.5 แค่นั้น ^^
เพื่อนผมเริ่มงาน แบงค์ตปท.ในไทย 3ปี เงินเดือนสตาร์ท 15,000 ก่อนออกจากงานรับเงินเดือนเกือบๆ 40,000 จากนั้นย้ายไปแบงค์ในสิงคโปร์ปีนึง รับเงินเดือนประมาณ 100,000 กลับมาแบงค์ไทยในประเทศไทย เงินเดือนรวมสวัสดิการ 120,000 ทำปีกว่าๆย้ายไปแบงค์ไทยอีกที่นึง ก็ได้ตามที่บอกอะครับ เพิ่งทำมา3เดือนจนปัจจุบัน
ตอนมันอยู่ในไทยไม่เคยได้ยินบ่นเรื่องเพื่อนร่วมงานเลยนะครับ (แต่เพื่อนเป็นคนรับความกดดันเก่ง) ตอนไปสิงคโปร์นั้นงานเครียด ขนาดเป็นไมเกรนเลย พอย้ายกลับมามันดีใจมากครับ ตอนนี้ก็สบายไปแล้ว (เรื่องเงินนะครับ) แต่มันก็ชอบบ่นว่าอยากทำงานแบบผมบ้าง งานผมไม่เครียดมาก วันหยุดมากกว่าคนอื่นหน่อยแต่ไม่เป็นเวลา เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จะดี เจอไม่ดีบ้างแต่ก็ทำงานด้วยกันแปปเดียว แต่ที่สำคัญคืองานมันจบเป็นวันๆ เคสๆ ไม่มีต้องสะสางต่อครับ มันเห็นผมก็เลยอยากสบายบ้าง แต่ผมเห็นมันผมก็อยากรวยบ้างเหมือนกัน ^^
ลองเลือกเอานะครับว่าชีวิตแบบไหนที่ชอบมากกว่า
-
สิ่งที่อยู่รอบตัวเราส่งผลเยอะนะครับ แต่ที่พี่เจอก็คือสังคม กับงาน มันขัดแย้งกัน (และก็อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเงิน) ซึ่ง SCB พี่ก็ยังไม่ทราบว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่งานที่นี่สังคมดีแล้ว อาจจะต้องฝึกปรับตัวกับการทำงานให้คุ้นชิน มีประสบการณ์อีกหน่อย อาจจะชอบมันเข้าก็ได้ครับ คือถ้าชอบก็ต้องชอบจริงๆแต่ถ้าไม่ชอบจริงๆค่อยออก
-
ขอบคุณทุกๆคำแนะนำมากเลยค่ะ
-
ผมว่าคนเราใช้ชีวิตอยู่กับสังคมที่ทำงานเกือบครึ่งนึงของชีวิตในแต่ละปี
ถ้าสังคมที่เราต้องเจออยู่ประจำมันไม่ดี เท่ากับชีวิตที่ต้องเจอมันไม่มีความสุข
เกิดมาใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข มันคงไม่ดีเท่าไหร่มั๊งครับ
สำหรับคนอื่นๆอาจมีเป้าหมายที่ต่างไป แต่สำหรับผม เงินไม่ใช่ทุกอย่าง ตำแหน่งไม่ใช่ทุกอย่าง
ถ้ามีทุกอย่างข้างต้น แต่ไม่มีความสุข ผมคงไม่เอาครับ
-
^
^
^
+1 ครับ ใช่เลย ผมคิดและบอกกับน้องๆในไลน์เสมอว่าเห็นหน้าเพื่อนร่วมงานมากกว่าเห็นหน้าเมีย อยู่ที่โรงงานมากกว่าอยู่บ้านซะอีก ดังนั้นเราต้องช่วยกันทำให้โรงงานของเราน่าอยู่และสบายใจ บางทีเด็กๆเค้ามีเรื่องกระทบกระทั่งกันเองบ่อยผมต้องช่วยเคลียร์หลายทีเหมือนกันเพราะเป็นคณะกรรมการสวัสดิการด้วย
-
ผมมามองต่างนิดนึง
1.สิ่งที่ตัวผมเองให้ความสำคัญคือประวัติการทำงาน เราไม่ควรที่จะเปลี่ยนงานบ่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่า
เราไม่ควรเปลี่ยน แต่เราควรมีเหตุผลรองรับที่สามารถตอบได้ อย่างตรงไปตรงมา
2.ถ้าเป็นส่วตัวของผม ผมจะเลือกงานที่ตัวเองชอบ ไว้ก่อน อย่างเช่นตัวของผมเอง
ผมจบเภสัชกร มา คนส่วนใหญ่ที่จบมา มักจะทำงาน ร้านยา หรือไม่ก็โรงพยาบาล เพราะสายงาน
ทางด้านนี้ มักจะมีผลตอบแทน (รพ.จะเป็นค่าขึ้นเวร เดือนๆนึงคนขยันหน่อย ก็ร่วม 14000 ไม่รวมเงินเดือน .
ส่วนร้านยาจะมีค่าหยิบ ค่าเป็อร์เซ็นปิดยอด) แต่ไม่ใช่ว่าเขาถือว่าเงินดีอย่างเดียวนะ ขึ้นอยู่กับใจรักด้วย
แต่โดยส่วนตัวผม ผมเลือกที่จะทำงานเภสัชกรโรงงานผลิตยา
ถึงแม้ว่า สวัสดิการจะไม่ดี เงินเดือนก็ 2x,xxx และได้แค่โบนัสประจำปี แต่มันเป็นสายงานที่เราชอบ
มองเห็นอนาคตว่าเราจะดำเนินต่อไปอย่างไร
เพราะว่าอย่างน้อยเราต้องอยู่กับบุคลิกและความชอบของเรา จริงมั้ยครับ
อีกอย่างที่จะฝากเอาไว้ เราไม่รู้หรอกว่า ในช่วงระยะเวลาหนึ่งของช่วงชีวิตเรา
คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเนี่ย จะดีหรือร้าย คนที่ดูดีตอนแรกอาจย้อนกลับมาทิ้มแทงเราให้ตาย
หรือไม่คนที่เราดูว่าร้ายกาจวันนึงเขาอาจจะดีกับเราก็ได้ หลายๆท่านอาจจะเคย
สมัยเรียนเคยมั้ย ที่เจอครูคนนึง โคตรแห่งความดุเลย กับอาจารย์อีกคนที่แบบใจดี้ ใจดี
แต่เวลาสอบคะแนน ข้อสอบโหดชิบ พอเรียนจบ ทำไมถึงรักคุณครูที่ดุจัง
พ่อผมเคยเล่านิทานเรื่องนึงให้ฟัง มันชื่อเรื่องว่า Good or Bad ,Hard to say
บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี เพราะมันตอบยากเหลือเกิน
พร่ำเ้พ้อมานาน สุดท้าย ก็ไม่ว่าจะเลือกไปทางไหนก็ขอให้มีความสุขและประสบความสำเร็จครับ
-
ผมไม่รู้ว่า จขกท ตัดสินใจไปสัมภาษณ์หรือเปล่านะครับ
แต่ถ้าเป็นตัวผม คงไปครับ
เพราะเมื่อมีโอกาสแล้ว ก็ลองดูครับ ได้งานหรือไม่เราไม่รู้หรอก
ส่วนที่ทำงาน โดยส่วนตัว ผมเป็นคนเลือกงาน ที่ทำวันจันทร์ - ศุกร์ครับ
เหตุผล เพราะผมต้องการให้เวลาครอบครัวในวันหยุดครับ
วันธรรมดาทำงานเต็มที่ จะเลิกดึกขนาดไหน ก็ต้องทำครับ พยายามปิดงานให้เสร็จให้ได้ เพื่อวันหยุดจะได้ไม่ต้องเข้ามาทำงานอีก (แม้อาจจะมีบางครั้งทึ่ต้องเข้ามา แต่ก็ไม่บ่อยครับ)
โดยส่วนตัว ผมชอบทำงานโรงงานมากกว่าครับ
ผมทำงานที่แรกเป็น Outsource ให้กับ แบงก์หนึ่ง งานก็เรื่อยๆ แต่ดูจากการแบ่งสายงานแล้ว รู้เลยว่าโอกาสเติบโตน้อยแน่ๆ + เดินทางไปทำงานค่อนข้างไกล ทำได้ 8
เดือนก็ลาออก เงินเดือนเริ่มที่หมื่นนิดๆ
ที่ๆ 2 เป็นโรงงาน ผลิตสินค้าครัวเรือน อยู่ต่างจังหวัด เงินเดือนได้เพิ่มมากกว่าเดิมนิดหน่อย สวัสดิการดีกว่าที่แรก บรรยากาศที่ทำงานดี เพื่อนร่วมงานดี ทุกอย่างก็ดูน่าจะไปได้ดี อยู่ไปได้ 1 ปี 8 เดือน ก็มีเหตุ
มีคนที่ทำงานปัจจุบันของผมติดต่อมาว่าจะลองมาสัมภาษณ์ไหม ผมก็ลองไปสัมภาษณ์ดูครับ เพราะมันก็ไม่ได้เสียอะไร แค่หาวันลาไปวันนึง พอไปดูพบว่า เป็นงานที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ก็สนใจครับ สุดท้ายก็เลือกที่นี่ เงินเดือนขึ้นมาจากโรงงานเก่าอีกพอสมควร ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีครับ ทำมาหลายปีแล้ว ยังสนุกกับงาน
ผมไม่รู้คุณจะเลือกทางไหน แต่ขอให้คิดไว้อย่างว่า ถ้าคุณอยากจะก้าวหน้า อย่าหยุดนิ่งที่จะหาความรู้ใส่ตัวครับ และอย่าปิดโอกาสของตัวเองสำหรับงานใหม่ๆครับ
-
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ไปมาแล้ว เมื่อวานไปสอบของ scb
วันนี้ไปสัมภาษณ์ของ tmb
สรุปลางาน 2 วันเลย กลัวหัวหน้าจะไม่พอใจเหมือนกัน
จากที่ได้ไปลองมาสัมภาษณ์ แล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไร
งานต้องขาย ประกัน เงินฝากประจำ สินเชื่อ บัตรเครดิต ฯลฯ
รู้สึกว่าเสียดายเวลาเลยค่ะ แล้วพรุ่งนี้ต้องหาเหตุผลในการลา
ให้ดีๆอีก ให้หัวหน้าเค้าเข้าใจ เฮ้อออ.. รู้อย่างงี้ไม่น่าไปเลยค่ะ T^T
-
;) เป็นกำลังใจให้นะ