Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YenChar ที่ สิงหาคม 06, 2009, 18:54:59
-
ณ ตอนนี้ผมเข้าใจ VVTI แบบงูๆปลาๆว่า
มันคือลักษณะการหายใจของเครื่องยนต์(อากาศ) แปรผันตามความต้องการ ณ ขณะนั้นๆ
ทีนี้ เลยเกิดคำถามดังนี้ครับ
1 Dual VVTi มันต่างกันยังไงเหรอครับ Outcome? Performance? Maintanance?
2 อ้างอิงถึงอัลติส2.0 การที่อัลติสเอาDual มาใช้ มันดีขึ้นจมเลยมั้ยครับ?
ผมอ่านรีวิว และรวมถึงข้อมูลจากผู้ใช้ เค้าว่า1.6ประหยัดกว่า1.8อยู่1-2กิโล/ลิตร
ในขณะที่อัตราเร่ง ความเร็วปลาย ต่างกันเพียงแค่ไม่ถึง5%(คิดเป็นวินาทีและความเร็วตอนปลาย)
แบบนี้ 2.0 ระบบใหม่ จะชนะตัว1.8เรื่องการกินน้ำมันมั้ยครับ(หรือกระทั่ง1.6?)
3 ทุกท่านคิดว่า โตโยต้า จะเอาระบบนี้มาเป็นมาตราฐานของรถรุ่นต่อๆไปมั้ยครับ
แบบว่า i-Vtec ของฮอนด้า เป็นมาตราฐานของแบรนด์นี้
อนาคตข้างหน้า อยากให้เอาระบบพวกนี้เป็นมาตราฐานของรถระดับล่างๆบ้างน่ะครับ
4 อยากรู้ว่าวาลแปรผันของรถแต่ละยี่ห้อ มีข้อแตกต่างยังไงบ้างครับ (ชื่อ/สมรรถนะ)
แค่คร่าวๆก็พอครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบครับ
-
ข้อ1 ผมรู้แค่ว่ามันพัฒนามาจากเครื่อง vvt-i และประหยัดน้ำมันกว่า
ข้อ2 มีความเป็นไปได้สูงที่จะกินน้ำมันน้อยกว่าและชนะอัตราการกินน้ำมันเพราะเครื่อง1.8ใหม่กับเก่าปรากฏว่าตัวเก่าประหยัดกว่าถึง2-3กม/ลิตร อันนี้รับประกันเพราะใช้อยู่ครับ และไปต่างจังหวัดบ่อย
ข้อ3 แน่นอนครับ ต่อไปนี้จะไม่มีเครื่องvvt-iมาให้เห็นอีกแล้วครับจะมีแต่เครื่องdual vvt-i เท่านั้นครับ
ข้อ4 ผมไม่ทราบเลยครับ
-
ไม่มีอะไรซับซ้อนในกอไผ่เลย
1. VVT-i คือระบบแปรผันวาล์ว ที่หัวแคมชาฟต์ และจะแปรผันที่ฝั่งไอดีเท่านั้น
Dual VVT-i ก็เพิ่ม ชุดแปรผัน ที่หัวแคมชาฟต์ฝั่งไอเสีย เพิ่มมาอีก 1 ชุด ก็เป็นอันจบเรื่อง เท่านั้นเอง
สรุปว่า VVT-i เดิม แปรผันเฉพาะ วาล์วฝั่งไอดี
Dual VVT-i คราวนี้ แปรผันกันทั้งวาล์วฝั่งไอดี และไอเสียเลย นั่นเอง
2. ยังไม่ทราบครับ กำลังจะได้เอามาลองขับ ยังบอกไมไ่ด้ ณ ตอนที่ตอบกระทู้ครับ แต่ดูแล้ว อย่าคาดหวังมากนัก
3. สำหรับโตโยต้า การจะเอาอะไรใส่รถ แต่ละรุ่น เขาจะดูความเหมาะสม ความจำเป็น ที่ลูกค้าจะได้ใช้ หรืออยากได้เป็นหลักครับ ดังนั้น ตอบไมไ่ด้ครับ
4. เนื่องจากเวลาตอบจำกัด ดังนั้น ขอแนะนำให้ลองเสริชกระทู้เก่า ในเว็บบอร์ดเรา มีคน Penalty ตอบเอาไว้ครับ ละเอียดทีเดียว
-
คลิกที่นี่ครับ (http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=1107.0)
-
VVT-i จะแปรผันวาล์วฝั่งไอดี
Dual VVT-i จะแปรผันกันทั้งวาล์วฝั่งไอดี และไอเสียเลย นั่นเอง (ปัจจุบันมีแค่ Altis2.0 เท่านั้น )
ส่วนของ honda จะเป็น v-tec ก็จะแปรผันกันทั้งวาล์วฝั่งไอดี และไอเสียเลย (มีทุกรุ่นของhonda)
-
VVT-i กับ Dual VVT-i มันแปรผัน ปรับเปลี่ยนองศาจังหวะการเปิด-ปิด ของแค็มชาฟท์เท่านั้น ไม่เหมือน i-VTEC ท่ปรับเปลี่ยนทั้งจังหวะการเปิด-ปิดของวาล์ว และระยะยกของวาล์วทั้งไอดี-ไอเสีย ส่วน VTEC ปรับเปลี่ยนระยะยกของวาล์วทั้งไอดี-ไอเสีย ถ้าเทียบเทคโนโลยีด้วยกับ HONDA ยังกินขาด แต่ถ้าเอา Torque และอัตราเร่งรอบต้น Altis 2.0 กิน Civic 2.0 แต่รอบกลางถึงปลาย Civic 2.0 กินเรียบ แถมมีให้เล่นตั้ง 5 เกียร์ ประหยัดเชื้อเพลิงพอๆ กัน
-
VVT-i กับ Dual VVT-i มันแปรผัน ปรับเปลี่ยนองศาจังหวะการเปิด-ปิด ของแค็มชาฟท์เท่านั้น ไม่เหมือน i-VTEC ท่ปรับเปลี่ยนทั้งจังหวะการเปิด-ปิดของวาล์ว และระยะยกของวาล์วทั้งไอดี-ไอเสีย ส่วน VTEC ปรับเปลี่ยนระยะยกของวาล์วทั้งไอดี-ไอเสีย ถ้าเทียบเทคโนโลยีด้วยกับ HONDA ยังกินขาด แต่ถ้าเอา Torque และอัตราเร่งรอบต้น Altis 2.0 กิน Civic 2.0 แต่รอบกลางถึงปลาย Civic 2.0 กินเรียบ แถมมีให้เล่นตั้ง 5 เกียร์ ประหยัดเชื้อเพลิงพอๆ กัน
ถ้าหมายถึง Local โดยเฉพาะประเทศไทย ผมไม่เถียงครับ
แต่ถ้า Global คงไม่ใช่มั้งครับ ลองอ่านกระทู้ (http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=1107.0)นี้ก่อน
แนวทางการพัฒนาเครื่องจะต่างกันนะครับ ว่าจะเน้นแรงหรือประหยัดหรือลดมลพิษ หรือทั้งหมด
ทั้ง VVT-i และ Dual VVT-i มันเปลี่ยนองศาเปิดปิดวาล์วได้แบบ Continuously ซึ่งเน้นไปด้านประหยัดและลดมลพิษ ส่วนความแรงจะได้ที่รอบต้นถึงกลาง ถือเป็นโบนัส
แต่ VTEC เปลี่ยนระยะยกแบบ Step แนวคิดเน้นแรง ขับปกติก็ได้ ลากรอบสูงก็ได้ แต่ยังเรียกแรงบิดยังไม่ต่อเนื่อง และลดมลพิษได้ไม่มากเท่าไหร่
ต่อมาจึงได้ใส่ Continuously VTC เข้าไปทางฝั่งไอดี เพื่อปิดจุดอ่อนข้างต้น กลายเป็น i-VTEC แต่ระยะยกก็เปลี่ยนแบบ Step อยู่ดี
ซึ่ง VVTL-i ก็ถือเป็นระดับเทียบได้กับ i-VTEC ซึ่งทั้งคู่มองอนาคตแบบเดียวกันว่า กำลังจะถึงทางตัน ไม่สามารถผ่านกำแพงมาตรฐานไอเสีย และตัวเลขความประหยัด
จึงได้พัฒนากลไกปรับระยะยกแบบ Continuously ซึ่งจะเห็นว่าขณะที่ Valvematic ออกทำตลาดแล้ว แต่ Advanced VTEC ยังวุ้นอยู่เลย
Nissan ก็ใช่ย่อยครับ VVEL ก็เจ๋งทีเดียว เพียงแต่กลไกมันซับซ้อนไปหน่อย ทำให้เสียงานบางส่วนไปกับแรงเสียดทาน
ส่วนเรื่องเกียร์ อ่านกระทู้ (http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=890.msg10509#msg10509)นี้ครับ
แม้แต่ VCM ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่
Mitsubishi เคยใช้ใน 4G92 MIVEC MD ตั้งแต่ปี 1996 เพียงแต่พลาดไปหน่อย ดันใส่เทคโนโลยีเพื่อความประหยัด ไปในยุคที่เน้นแรงบ้าพลัง
สิบกว่าปีให้หลัง ในยุควิกฤติพลังงาน Honda เอาแนวคิดมาปัดฝุ่นทำใหม่ใช้ชื่อ VCM ถือว่ามาถูกที่ถูกเวลา