Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Chariot ที่ ธันวาคม 16, 2011, 01:40:03
-
หากคุณใช้รถจนเก่า ทะลุ 2 แสนกิโล หรือเกิน 10 ปี เริ่มเข้าสู่ภาวะซ่อมใหญ่ เช่น โอเวอร์ฮอลล์ ยกช่วงล่าง ฯลฯ
คุณจะเลือกซ่อมของเดิมใช้ต่อ หรือขายทิ้งแล้วซื้อใหม่ ??
- ซ่อมของเดิม ประหยัดเงินดี
- ซื้อของใหม่ ได้ของสด สวย ทันสมัย
เช่น ถ้าเลือกซ่อม ค่าโอเวอร์ฮอล์เครื่องและช่วงล่าง 1 แสน เสียเงินแค่แสนเดียว
แต่ถ้าขายคันเก่าได้ 3 แสน แล้วไปซื้อคันใหม่ 7 แสน เสียเงินไป 4 แสน
**กรุณาตอบตามสถานะจริงของตัวเอง ไม่ต้องเพ้อฝันว่าที่บ้านขับรถหรูเกินจริงนะฮ๊าฟฟ..**
-
ขั้นสุดของผมอยู่ที่ 3แสนกิโลคับ แต่อายุไม่เกิน10ปีคับ
แต่ส่วนมาก ผมดูราคา+ปัจจัย และ จังหวะ คับ
-
แล้วแต่ว่า ชอบคันนั้นรึป่าวครับ
ตอนอยู่ปี 1 เคยใช้ Tribute ซึ่งเริ่มจะจุกจิกมาก แล้วมันก็ไม่้ได้ดูดีอะไรมากมาย ขายซื้อ Fiesta ดีกว่า
คิดดูสิ ค่าน้ำมันเฟียสต้า เท่าๆกะค่าแก๊ส Tribute เลยอะครับ
แต่มาตอนนี้ พ่อผมจะขาย E39 คันเก่าของเค้า แต่ผมอยากได้มาก
พอดีเลย มีคนทักว่า ให้เก็บไว้ อย่าขาย ผมก็เลยได้มาจนได้ 555+ แอบชอบมาตั้งแต่พ่อใช้อยู่แล้วด้วย
ผมคิดว่ารถที่ใหม่กว่า ไม่ได้หมายความว่าจะดูดีกว่าเสมอไป
ถ้าถามว่า ระหว่างขับ Altis ป้ายแดง กะขับ W140 อายุสิบกว่าปี แต่สภาพยังกริบๆอยู่ อันไหนดูดีกว่ากัน??
-
Mighty-X ผม เกือบๆ 5แสนกิโล ทำเครื่องใหม่ไป4หมื่น ทำสี 6หมื่น สรุปหมดไปแสนกว่าๆเองครับ ไม่รู้จะซ์้อใหม่ทำไม คันนี้ก็กินน้ำมัน ประมาณ 11Km/L อยู่แล้ว
รถก็ไม่ได้จุกจิกอะไร วิ่งได้ แอร์เย็น วันๆนึง อยู่บนรถแปบเดียว ตอนนี้มุ่งไปกับการเรียนมากกว่าครับ เพราะค่าเรียนป.โท กำลังจะต้องจ่าย 6 แสน เลยอดซื้อรถ T^T
-
ถ้าชอบก็ใช้ต่อครับ ซ่อมไปใช้ไปถ้าใจรักคันนี้อยู่
จนถึงขั้นที่ว่าซ่อมไม่ไหวจริงๆค่อยไปซื้อคันใหม่
แต่ถ้าเฉยๆก็เปลี่ยนใหม่ครับ สบายกว่าเยอะ
-
ถึง 10 ปี ผมก็ซื้อใหม่ครับ ไม่ว่าจะวิ่งได้เท่าไหร่ (ประมาณ 15-20 หมื่นโล)
เพราะเทคนโลยีรถ มันจะก้าวกระโดดไปแล้ว ควรลองของใหม่ ๆ ;D
-
ซื้อใหม่สิครับ
- เทคโนโลยีใหม่ๆ เครื่องใหม่ เกียรใหม่
- ความสบายใจในการใช้งาน มันเปรียบเป็นเงินไม่ได้ครับ
- รถใหม่ๆ สมัยนี้ แรงกว่า ประหยัดกว่า มลพิษน้อยกว่า
- ปัญหาของรถเก่าที่ซ่อมแล้วไม่จบ ซ่อมตรงนี้หาย อีกจุดพัง เปลี่ยนใหม่ ใช้ของใหม่ๆดีกว่า
ผมถือว่า รถเก่า คือรถที่มีอายุเกิน 8 ปีขึ้นไป ถือว่าเริ่มเก่าแล้วครับ ต้องตรวจเช็คแล้ว
ยกเว้น"รถกระบะ" ที่ผมถือว่า อายุ 10 ปีขึ้นไป ถึงเก่า
แต่บางที รถใหม่ มันก็เป็นภาระ เป็นความกังวลให้กับเรา
รถใหม่ มีค่าใช้จ่ายมากกว่า สร้างหนี้ หวงรถ กลัวนู้นนี่
บางคน ซื้อรถใหม่ อาจจะไม่สบายใจกว่าใช้รถเก่าก็ได้ รถเก่า จะชนก็ชน ไม่เสียดาย
พอรถใหม่ โดนอะไรนิดๆหน่อยๆ บ่นซะ... (ขับรถ มีรอย มีชน เป็นเรื่องธรรมดา - -'')
แต่สำหรับคนที่ชอบรถใหม่ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ซื้อความสบายใจก็ดีครับ
แต่ถ้ามีเรื่องเงินเป็นปัจจัย ก็อย่าสร้างหนี้จนตึงมือเกินไปล่ะกัน...
-
ถ้าเก่าจริงๆอย่างวิ่งเป็นแสนหรือสิบปี ก็ค่อยเปลี่ยนครับ
-
ถ้าเป็นรถตลาดทั่ว ๆ ไปก็ขายครับน่าจะคุ้มกว่าและขับคันใหม่ดูดีกว่าครับ แต่ถ้าเป็นรถสะสมเช่นโฟร์คเต่า โฟร์คตู้ มินิมาร์ค 1 ขึ้นไป มัสแตง ถ้ามีคงไม่ขายหรอกครับ เก็บไว้ขับเล่น ๆ เทห์ดีครับ ยิ่งมินิเก่า ๆ ยิ่งน่ารักมาครับเหมือนรถเด็กเล่นเลย :)
-
ส่วนตัวผมคงซ่อมแหละครับ
ยกเว้นมันจะจุกจิกมากๆ ซ่อมยังไงก็ไม่หาย ถึงเปลี่ยนรถครับ
โดยส่วนตัวผมแพลนจะเปลี่ยนรถทุก 5 -8 ปี แต่คันปัจจุบันกะว่าจะใช้สัก 7-8 ปีแล้วค่อยเปลี่ยนครับ
-
Camry acv41 ผมใช้ไป 3 ปีพอดีเดะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยใช้ด้วย วิ่งไป 150000 ครับ แต่เต้นท์เอาไปกรอไมล์เหลือ 80000 แล้วบอกคนซื้อว่าไมล์แท้ อิอิ วันก่อนเจอรถตัวเองที่ขายไปวิ่งอยู่ข้างกันด้วย ว่าจะไปบอกละ ฮิ ๆ
สำหรับเจ้าคันนั้นตอนแรกผมคิดว่าจะใช้ไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายทนกิเลสเข้าครอบงำไม่ไหวครับเลยขายไป
แต่ถ้าไม่ได้ขายแล้วเปลี่ยนรถตอนนั้นผมคิดว่าจะใช้เจ้าคัมรี่ไปสัก 7 ปีขึ้นไป เอาไมล์สัก 400000 แล้วค่อยขาย
แต่สุดท้ายก็ขายออกไปก่อน อิอิ ยังไม่ได้ซ่อมอะไรสักบาท >_< เลยขอสรุปว่า ขาย ครับ
-
แล้วแต่ว่า ชอบคันนั้นรึป่าวครับ
ตอนอยู่ปี 1 เคยใช้ Tribute ซึ่งเริ่มจะจุกจิกมาก แล้วมันก็ไม่้ได้ดูดีอะไรมากมาย ขายซื้อ Fiesta ดีกว่า
คิดดูสิ ค่าน้ำมันเฟียสต้า เท่าๆกะค่าแก๊ส Tribute เลยอะครับ
แต่มาตอนนี้ พ่อผมจะขาย E39 คันเก่าของเค้า แต่ผมอยากได้มาก
พอดีเลย มีคนทักว่า ให้เก็บไว้ อย่าขาย ผมก็เลยได้มาจนได้ 555+ แอบชอบมาตั้งแต่พ่อใช้อยู่แล้วด้วย
ผมคิดว่ารถที่ใหม่กว่า ไม่ได้หมายความว่าจะดูดีกว่าเสมอไป
ถ้าถามว่า ระหว่างขับ Altis ป้ายแดง กะขับ W140 อายุสิบกว่าปี แต่สภาพยังกริบๆอยู่ อันไหนดูดีกว่ากัน??
+1 ในเคสของ E39 กับ W140 นี่ผมจะทำใจขายตั้งหลายรอบแล้ว แต่พอไปดูรถรุ่นใหม่ๆ หารุ่นที่มาแทนสองรุ่นนี้ได้ยาก หรือพูดง่ายๆคือไม่มีรุ่นขับดีเท่าคันเดิมเลย
อีกอย่างผมมีอู่ที่ไว้ใจได้ ซ่อมสองคันนี้แม้ว่าจะเลย 2แสนโลแล้วแต่ยังวิ่งดีไม่ผิดกับตอนออกใหม่ๆ
เหตุผลข้อนึงที่ผมไม่ชอบซื้อรถใหม่เพราะศูนย์บริการเนี่ยแหละครับ ไม่ว่าจะรถญี่ปุ่นหรือรถยุโรปจากประสบการณ์ผมหารถมือสองแล้วซ่อมอู่นอกดีกว่า ซ่อมชัวร์กว่า ถูกกว่า
อยุ๋เมืองไทยใช้รถเก่าแล้วซ่อมดีกว่า แต่ถ้าอยุ๋เมืองนอกซื้อใหม่ถูกกว่าครับ เพราะค่าซ่อมแพงมากๆ
-
เงื่อนไขคือ
- ถ้าอะไหล่ยังหาได้ง่าย รถยังมีสภาพดีอยู่ยังไม่ต้องตัดผุ ใช้ต่อ
- ถ้าอะไหล่เริ่มหายากแล้ว รถสภาพไม่ดีนักตัวถังเริ่มเป็นสนิม ขายทิ้งซื้อใหม่
-
หากมีกำลังซื้อและไม่ปวดหัวเรื่องเงิน ก็ซื้อใหม่ไปเลย
หากยังชอบคันเก่า ชินมือ และยังไม่มีปัญหาปวดหัว ก็ขับคันเดิมไปเถอะ รถเก่าบางคันไม่มีปัญหาเยอะเหมือนป้ายแดงยุคลดต้นทุน
-
ถ้าซ่อมแล้วจบก็ใช้ต่อ แต่ถ้าเริ่มจุกจิกซ่อมไม่จบ ก็ขายซื้อใหม่ครับ
-
สำหรับผม
อายุรถที่ยังใช้งานได้ในสภาพปกติ อยู่ที่ 15 ปีครับ
มากกว่านี้จะรู้สึกว่า ราคาค่าซ่อมบำรุง มันไม่เหมาะสมกับราคารถแล้ว
คันเก่าก็ขายตอนอายุรถ 15 ปีพอดี
-
ถ้าซ่อมจิกจุกมากไปคงขายล่ะครับ
จะได้มีโอกาสใช้รถรุ่นใหม่ๆ
ชีวิตคนเราจะมีโอกาสได้ใช้รถสักกี่คันกันเชียว
-
Mighty-X ผม เกือบๆ 5แสนกิโล ทำเครื่องใหม่ไป4หมื่น ทำสี 6หมื่น สรุปหมดไปแสนกว่าๆเองครับ ไม่รู้จะซ์้อใหม่ทำไม คันนี้ก็กินน้ำมัน ประมาณ 11Km/L อยู่แล้ว
รถก็ไม่ได้จุกจิกอะไร วิ่งได้ แอร์เย็น วันๆนึง อยู่บนรถแปบเดียว ตอนนี้มุ่งไปกับการเรียนมากกว่าครับ เพราะค่าเรียนป.โท กำลังจะต้องจ่าย 6 แสน เลยอดซื้อรถ T^T
ของพ่อผม จะ 30 ปีแล้ว วิ่ง ไป 2แสนเอง
-
จริงๆ น่าจะมีผลโหวตในเรื่องของการไม่ขายซ่อมใช้มากกว่านี้นะครับ
เพราะเป็นผมจะเลือกซ่อมใช้ หากว่ารักในรถคันนั้นแล้ว
ซึ่งอะไรทำให้รักได้บ้าง ก็คงเป็นเรื่องของการใช้งาน ความผูกพันธ์ นู้น นี่ นั้นแหละครับ
ไม่ได้ซ่อมใช้เพราะประหยัด
-
ผมเลือกขายไปซื้อคันใหม่ครับ
ประเด็นของผมไม่ได้อยู่ที่ชอบไม่ชอบ แต่อยู่ที่ความสบายใจว่ารถ10ปีแล้วมันไม่น่าไว้ใจครับ มันไปตายกลางทางแล้วจะยุ่ง และคงไม่มีเวลาไปอู่บ่อยๆ ดังนั้นป้ายแดงตอบโจทก์ผมได้มากกว่าครับ
แต่ถ้าผูกพันกับคันนี้ไม่อยากขายและเงินเหลือก็เก็บคันเก่าไว้ แล้วซื้อใหม่อีกคันครับ
-
ลังเลในคำตอบเล็กน้อย เพราะถ้าไม่มีโครงการลดภาษี ผมคงใช้คันเก่าไปอีกระยะนึง งั้นเลือกเอาคันใหม่แล้วกันครับ
-
ซื้อใหม่เถอะครับ เพราะว่าการที่เราซ่อมรถเก่า ก้ต้องซ่อมบ่อย เผลอๆ เงินที่ซ่อมรถเอาไปซื้อรถใหม่ได้คันนึงเลย
-
รถใหม่ๆ แนวโน้ม ไปทางแรงขึ้น ประหยัดขึ้น สวยขึ้น แต่ความทนทานลดลงๆ
วิถีชีวิต การซื้อ บางคน ซื้อผ่อน บางคนซื้อสด บางคนมีเงินในกระเป๋ามาก ไว้เผื่อซ่อมบำรุง บางคนมีมากแต่ตอนต้นเดือน
ไม่มีอะไรถูก อะไรผิด ทำแล้ว save ตัวเอง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ......ดีทั้งคู่
-
ขอแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมเลือกที่จะซ่อมเพราะผมพอดูแลรถได้บ้าง รู้แหล่งอะไหล่ และค่าแรงเมืองไทยก็เหมาะสมกับงาน
ข้อดีการซ่อมคือ
ถูกกว่ามาก แม้ว่าจะซ่อมโดยใช้อะไหล่แท้แล้วก็ตาม
แค่โอเวอร์ฮอลล์เครื่อง 3-5 หมื่น รวมค่าแรงแล้ว ทำช่วงล่าง โช้ค บูช แร็ค เบรก ยาง ก็อีกราวๆ 5 หมื่น
เสียเงินแค่แสนเดียว ก็ทำให้รถสมบูรณ์พร้อมซิ่งได้แล้ว ไม่ต้องกลัวเสียกลางทาง
ข้อเสียการซ่อมคือ
ถ้าอะไหล่บางตัวหายาก ต้องรอของนาน
ไม่มีของเล่นจุกจิกให้ใช้ เช่น ครูซคอนโทรล เบาะไฟฟ้า จอเนวี่ ฯลฯ
ต่อให้ผมมีเงินสดสัก 1 ล้าน ผมก็คงไม่ถอยป้ายแดง ผมคงเอามาซ่อมคันเก่าสัก 2 แสน เหลือเงินไว้ใช้อย่างอื่นได้อีกเยอะ
-
ผมเลือกซื้อใหม่ครับ
Overhall ไปแสนนึงก็จริง แต่... ผมจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า จุดอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำหรือทำแล้วอาจจะเกิดขึ้นปัญหาได้อีก
ฉะนั้น ยอมเจ็บตัว 4 แสนได้ความสบายใจไปเลยแล้วกันครับ
-
ซื้อใหม่ แต่ไม่ขายคันเก่าคับ ชอบเก็บสะสมไว้ รู้สึกดีกับการซ่อมบำรุงรถเก่าให้สภาพสมบูรณ์
-
ซื้อใหม่ แต่ไม่ขายคันเก่าคับ ชอบเก็บสะสมไว้ รู้สึกดีกับการซ่อมบำรุงรถเก่าให้สภาพสมบูรณ์
ใช่เลยครับ ถ้าเลือกได้ก็จะซื้อคันใหม่ แต่ไม่ขายคันเก่า เพราะรถบางคันก็มีความทรงจำดีๆในั้น พาเรามาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้
รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นมัน มันก็น่าใจหายที่ของที่เรารักต้องถูกขายไป ว่าแต่ผมคิดมากไปมั้ยเนี่ย ;D ;D ;D
-
รถผมอายุครบ 15 ขวบแระยังรักกันดีไม่งอแงไม่เคยคิดขายเลย
-
ผมแบ่งเป็นสองประเภท 1.รถที่ซื้อมาเพื่อใช้งาน แบบนี้ผมชอบซื้อรถมือสองสภาพดีที่เคยแพง ราคาตกเยอะๆ เป็นรุ่นที่อะไหล่หาไม่ยากหรือแพงเกินไปมาซ่อมใช้ รื้อยกช่วงล่าง เปลี่ยนท่อน้ำปั้มน้ำระบบสายพานทั้งหมดติดLPG วิ่งไปต่างจังหวัดและต่างประเทศ ขับเองหรือยื่นกุญแจให้คนอื่นขับให้นั่งได้สบายใจ ไม่กลัวหาย ไม่เสียดายเท่ารถใหม่ในกรณีโดนหิน รอยต่างๆที่เกิดตามลานจอดรถ คุ้มกว่ารถใหม่เยอะ ลงทุนซื้อถูก ค่าซ่อมขับไป 5ปียังน้อยกว่าค่าเสื่อมราคารถใหม่ ส่วนค่าเสื่อมราคาตัวมันเองไม่ต้องพูดถึง เพราะเลือกซื้อรุ่นที่แทบไม่มีราคาอยู่แล้ว 2. รถที่ซื้อเพื่อเป็นรางวัลชีวิต ซื้อเพราะชอบ เอาไว้ขับเองวันหยุดพักผ่อน ไม่ให้คนอื่นแตะ ดูแลให้สวยเงางามเสมอ แบบนี้ซื้อมือหนึ่งหรือสองก็ได้ ไม่สนราคาตก ซื้อเพราะอารมณ์ล้วนๆเบื่อหรือดูแลไม่ไหวก็ขาย อยากได้หรือพร้อมอีกก็ซื้อใหม่
-
Mighty-X ผม เกือบๆ 5แสนกิโล ทำเครื่องใหม่ไป4หมื่น ทำสี 6หมื่น สรุปหมดไปแสนกว่าๆเองครับ ไม่รู้จะซ์้อใหม่ทำไม คันนี้ก็กินน้ำมัน ประมาณ 11Km/L อยู่แล้ว
รถก็ไม่ได้จุกจิกอะไร วิ่งได้ แอร์เย็น วันๆนึง อยู่บนรถแปบเดียว ตอนนี้มุ่งไปกับการเรียนมากกว่าครับ เพราะค่าเรียนป.โท กำลังจะต้องจ่าย 6 แสน เลยอดซื้อรถ T^T
ของพ่อผม จะ 30 ปีแล้ว วิ่ง ไป 2แสนเอง
โห ผมว่าผมวิ่งน้อยแล้วนะครับนี่ 2แสนนี่ มันวันครบหนึ่งรอบแล้วรึเปล่าครับ จริงๆเป็น 1ล้าน2แสน เอิ๊ก >_<
ป.ล.ซ่อมดีๆ รถเก่ามันมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เสียกลางทางเหรอครับ เห็นหลายคนพูดว่ากลัวมันตายกลางทาง อันนี้สงสัยจริงๆ เพราะรถผม ปัญหาเดียวที่เคยมีคือ ความร้อนขึ้น แต่พอถอดเทอร์โบ เปลี่ยนหม้อน้ำ ก็ไม่ขึ้น และยังคิดไม่ออกว่ามันจะไปเสียตรงไหนได้อีกอะ ระบบไฟฟ้า ECU อะไรก็ไม่มี - - หลายๆที เห็นคนซื้อรถใหม่ บ่นกันเยอะแยะ มีปัญหานู่นน แก้ไม่จบยิ่งกว่ารถเก่าเสียอีก *-*
-
อืมม มันขึ้นกับสถานการณ์ และเงินในระหว่างนั้นด้วย
แต่ถ้ารถมันเป็นรถที่อะไหล่ไม่แพง ซ่อมง่าย ถ้าอายุไม่เกิน 15 ปี ผมซ่อมครับ
ตอนนี้คุณพ่อผมก็ขับ W124 300E อายุเฉียดๆ 20 แล้ว
ตัวผมเองก็ขับ Galant อายุ 20 ปี จนถึงปีนี้
สำหรับผม ถ้าไฟไม่ลุก หรือพังกลางอากาศ ผมก็คงจะขับต่อนะครับ (ที่ซื้อ Vios เพราะ Galant มันพาผมไปตายกลางอากาศที่ความเร็ว 120 นี่แหละ หมดอารมณ์เลย)
-
รถผมตอนนี้ใช้มา 8 ปี สองแสนห้าหมื่นกว่ากิโลแล้ว
แค่ดูแลรักษาทั่วไป เปลี่ยนยางไป 4 ชุด โช้ค 3 ชุด ตอนนี้ดูแลเองทั้งหมดยกเว้นเปลี่ยนยาง
เมื่อไหร่ที่ต้องโอเวอร์ฮอลล์ก็ว่าจะทำเองแต่คงอีกนาน
ไม่เคยคิดจะขายเลย มีแต่จะซื้อรถแบบอื่นเพิ่ม
-
ด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้เราต้องเลือก
อยากตังค์เหลือ เลือกซ่อมรถคันเดิม(ยิ่งเป็นรถตลาดยิ่งเห็นผล)
อยากใช้ตังค์ เลือกซื้อรถคันใหม่ หรือ Modify รถคันเดิม