Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: liveshow ที่ มกราคม 05, 2012, 17:03:34
-
ก่อนจะเข้าเรื่องมีสิ่งที่อยากจะบอกกล่าวผู้ที่จะทำเองอยู่ไม่กี่อย่าง
ข้อแรก ต้องยอมรับความผิดพลาดที่เกิดจากตัวเองได้
ข้อสอง ต้องเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ด้วย
ข้อสาม ต้องมีคนอยู่รอบๆบริเวณที่เราทำ เพื่อจำเป็นต้องเรียกขอความช่วยเหลือไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
ข้อสี่ ถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาช่างก่อนทำ หรือปรึกษาผู้รู้ก่อนทำ หรือหาข้อมูลให้มากที่สุดแล้วทำ
ข้อห้า อย่าเชื่อผมทุกอย่างจนกว่าจะทำเอง
ขอบคุณครับ
-
ผมว่าจะทำก่อนช่วงปีใหม่ ช่วงที่เพื่อนๆ ได้เอารถสุดรักไปเที่ยว พร้อมกับการฝ่าสายหมอกอย่างในข่าวที่เล่ากัน
แต่ก็ดันไม่มีเวลาเอาซะเลย ยุ่งกะกับการจัดบ้านใหม่หลังน้ำท่วม และแถมงานที่ทำดันมีปัญหาทุกวัน และยังอีก
ทั้งต้องเก็บของไปเที่ยวเอารถไปตรวจความพร้อมก่อนออกเดินทางอีก ยุ่งสุดๆ แต่อย่างไรก็ดี ผ่านปีใหม่มาแล้ว
ก็ของให้มีความสุขมากๆขึ้นไปนะครับ
เริ่มกันดีกว่า
DIM รอบนี้จะไม่มีขึ้น ถ้าไม่ได้ ไป ปายยยยย ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ ดูข่าวคุณสอ (น้องไบร์น่ารักมากมาย อิอิ)
เห็นหมอกลงจัด และหนักมากๆแล้วยิ่งปีใหม่ด้วยคงหนาวแน่ๆน้ำค้าง อากาศเย็น หมอก สองอันแรกจัดการได้
แต่หมอกนี่สิจัดการยังไงดีละ คงต้องไปจบที่ไฟตัดห(ม)อก งานนี้คงต้องไปจบที่ไฟตัดหมอกแน่แท้ แล้ว ...
มาร์ชดันมีรูมาแต่ไม่มีไฟ แถมไฟตัดหมอกศูนย์แท้เจือกไม่มีขาย เซ็งยิ่งกว่า เลยโดนงานไปดูที่วรจักรเลย เลิกงาน7 โมงเช้า
นอนเอาแรงหน่อย ตื่นมาเที่ยงวันแดดไม่มี เหมาะแก่การเดิน Shopping ของเหล่าผู้ชายมากๆ จัดแจงเอารถไปจอดบนอาคารศรีวรจักร แล้วก็ย่องมาดู มีเจ้าไหนขายมั่ง มีขายหลายร้านมาก ตั้งแต่ เกรด ไทย ไต้หวัน จีนA จีนAA
ได้ข้อสรุปมากว่า เอา จีนA พอ สอยมาได้1คู่ สบายตัวไป แต่แล้วแต่รอดดันลืมซื้อ Relay มาเลยต้องมาซื้อแถวบ้านอีก
ข้อแตกต่างระหว่างจีน A กะ AA คือ รูน๊อต เท่านั้นเอง พลาสติกกับหัวเหล็ก
พอมาถึงบ้านก็เริ่มจัดการเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือวิธีการต่อสายไฟ วาดไดอะแกรม(เผอิญรอบนี้เป็นไฟฟ้าต้องคำนวณนิดๆหน่อยๆ) พอคิดวาดรูปไดอะแกรมเสร็จ ทุ่มพอดี กินข้าวนอนดีกว่า เดียวตื่นมาไปลุยต่อ ตอนเช้ายังไม่ทันเริ่ม งานเข้า
ต้องไปติด sensor ถอยหลังให้คุณพ่ออีก
-
ถ้าผมจำไม่ผิดผมเคยทำ DIM : Do It Make เมื่อมีนาเอาตูด(รถ)เสียบเข้ามันเสียว เลยติดตัวกันเสียวตูด(รถ)ซะ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,12024.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,12024.0.html)
รอบนี้มีปัญหามากกว่าเดิมมากๆๆๆๆ ผมไม่สามารถใช้สว่านจีนแดงเจาะเข้ากันชนได้
ผมจึงอยากจะบอกกับเพื่อนๆที่จะทำเองนะครับ ควรหาเครื่องมือที่มีคุณภาพในระดับกลางค่อนๆไปทางดีมาใช้นะครับ
ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียแล้วเสียอีก เครื่องมือกิ๊กๆก๊อกๆที่ขายตาม ร้านเครื่องมือ สองสามร้อย เป็นไปได้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะครับ
เดียวจะไหม้คามือเหมือนผม และแถมยังเอาหัวสว่างที่เจาะพังตามไปอีก ซวยแล้วซวยอีก แต่ความซวยก็ไม่ได้มาเยอะมาก
พอหลังจากติดตั้งเสร็จ มีรถรับซื้อเครื่องมือช่างเก่ามารับซื้อไปพอดีได้ค่าเป๊ปซี่มา 20 บาท ขำขันกันไป แต่โดนมัลเท๊กไป1800 สบายตัวรอบสอง
กันชนเหล็กแข็งจริงๆ
-
เข้าเรื่องไฟตัดหมอกง่ายกว่าติดกันชน นาวาร่าเยอะ
ขั้นตอนแรกที่ทำคือการลื้อกันชนหน้า
ขั้นตอนที่สองติดตั้งไฟ
ขั้นตอนที่สาม ประกอบไล่สายไฟ
ขั้นตอนที่สี่ติดวงจร Relay
ขั้นตอนที่ห้าทดสอบระบบไฟที่ติดตั้งใหม่และไฟส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องและประกอบ
-
ขั้นตอนแรก
แกะกันชนหน้า ให้แกะกิ๊ปล็อกออกซื้อรถผมจะอยู่สองจุด ตรงคานหน้า และคานด้านล่าง
ด้านบนด้านล่างตรงแผ่นพาสติกสีดำ
สองน๊อตให้ใช้ไขควงสี่แฉก หรือ ประแจเบอร์ 10 ขันเอา แนะนำถ้ามีตัว T จะดีสุด
-
และใช้ไขควงหกแฉก เบอร์ T20 (ไม่แน่ใจ 16 หรือ20) ลองดู ใช้ขันน๊อดตรงกันชนด้านล่าง สี่ตัว ใกล้ๆกับ
แผ่นพลาสติกสีดำที่แกะกิ๊ปล๊อกออก แล้วเราก็ได้หน้าปลาบู่มาแทน
-
ขั้นตอนที่สอง ติดตั้งไฟ
แก้เจ้ากันชนหน้าออกมาแล้วหงายขึ้นมาจะเจอะเบ้าไฟสองเข้าเอาคัดเตอร์คมๆ หรือกรรไกรคมๆตัดจะได้ไม่เข้าเนื้อกันชนหน้า แล้วก็เริ่มทำการสวมเหล็กที่ติดมาในชุดอุปกรณ์ติดตั้ง
-
วิธีติดเอาตัวเหล็กสวมด้านนอกพลาสติกแล้วก็ขั้นน๊อกตามรูปเลยคือเอาหัวไว้ด้านในแล้วยึดน๊อกตัวเมียด้านนอก
ทำเหมือนกันทั้งสองด้านแล้วก็ประกอบตัวไฟ เข้าไป
-
ขั้นตอนที่สาม ประกอบไล่สายไฟ
ก่อนเราจะไล่สายไฟ เราต้องตรวจสอบก่อนว่าสายไฟที่เรามีอยู่มันพร้อมไหม ผมได้ตรวจดูแล้วว่าสายไฟมันไม่พร้อมเอาซะเลยจำเป็นต้องมายำสายไฟอีกรอบเพราะตอนเอามามันแต่หนีบสายมาติดกับทองแดงเฉยซึ่งมีโอกาศหลุดค่อนข้างมาก
-
เลยต้องย้ำแบบนี้แล้วก็ใช้ท่อหดครอบกันไปช๊อดชาวบ้านชาวช่องเค้า พอทำเสร็จก็เริ่มจัดแจงไล่สายไฟ แต่ปัญหามันเกิดตรงที่สายไฟที่ให้มาสั้นไม่รู้จะงกสายไปถึงไหน จึงต้องไปหาสายมาเพิ่ม ผมก็ไปตระเวนหาซื้ออีก 20 นาที แถมราคา เดียวเฉยตอนหลัง ขายกะเอารวยเลย สายยาว 30 Cm. 3 เส้น
-
รถผมแทบจะไม่มีช่วงว่างในห้องเครื่องเลยเดินสายไฟแบบชาวบ้านชาวช่องเค้าไม่ได้เลยต้องเดินผ่านประตูซ้ายเอา ผ่านช่องร้อยสายไฟประตูเอา ตรงนี้ควรมีกระดูกงูร้อยสายไฟฟ้าแต่ผมไม่มีเลยจำเป็ต้องพันเทปพันสายไฟอย่างหนากันน้ำเข้ากันไปขูดตัวถัง
แล้วก็มาถึงในห้องโดยสาร
หาที่วาง switch แล้วก็มาเริ่มงานต่อไป
-
ขั้นตอนที่สี่ติดวงจร Relay
ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับไฟที่ติดมากับชุด kits ของไฟตัดหมอกก่อนว่าเป็นชุดที่ไว้สำหรับต่อไฟตรงอย่างเดียวถ้าเปิดแล้วลืมปิด ซวยแน่ๆแท้ๆ แบตหมดแน่ๆ ผมเลยต้องทำวงจรเพื่อตรวจสอบเมื่อปิดกุญแจถึงจะทำงาน
แล้วจะเอาอะไรมาเป็นอุปกรณ์ช่วยเราละ Relay คับ เป็นผู้ช่วยดียิ่ง หลักการทำงานRelayคือ ขอแค่มีสัญญาไฟฟ้าอะไรไปแตะให้สวิตช์เปิดเป็นใช้ได้มันก็จะเปิดให้เรา ถ้าอยากรู้ลึกต้องไปเปิดคู่มือการทำงาน หรือหนังสือเอาครับผมจำไม่ค่อยได้เรียนมานานมากแล้วลืม แต่เอาง่ายๆ ในตัวrelay จะมีบอกอยู่ สามเปิด ผมใช้ relay 5 ขา Bosch แท้
จะมีขา 30 85 ขา 86 87 87 ขา 30 รับสัญญานให้สวิตท์เปิด ขา85 ต่อลงกราวด์ในที่นี้คือตัวถังรถ หรือไฟลบ
ส่วนขา 86 87 87 จะเป็นสวิทช์บายพาสไฟ แต่ในที่นี้ผมใช้แค่ นิดเดียวเลยไม่ค่อยห่วงเรื่องขนาดสายไฟ 86 ขา input ขาไฟเข้า 87 ขา output ขาไฟออกมีสองขา ซื้อสวิทซ์มาแล้วก็ต้องซื้อ ตัวเมียมาด้วยนะครับ เดียวแย่กันไม่โดนรู แล้วจะหาว่าไม่บอก หุหุ
หน้าตา Relay
หน้าตา ตัวเมีย(ไม่ใช่หน้าตัวเมียนะครับ)
-
จะทำอะไรต้องมีระบบป้องกันไฟฟ้าซ๊อต เราก็ใช้ฟิวส์ มาป้องกัน ใช้ 2 amps ก็เหลือล้นแล้วคับสำหรับสายสัญญาน input จากคอพวงมาลัยผมติดตรงสายสีแดงๆต่อเหลือง(ที่บ้านมีแต่สีแดง เลยต้องมาสมานฉันท์กับสีเหลือง)
คำถามต่อมา แล้วคุณมรึงหาสัญญาณยังงัย ไม่เห็นจะบอกเลย
ขอบอกเลยว่าจากการติดแก๊สมาแล้วทำให้รู้ว่าสัญญาณเส้นไหนเป็น ไฟon แต่ผมมีวิธีง่ายๆมาฝาก เอาง่ายๆสายต้องเส้นใหญ่ และต้องมีไฟ 12 v แล้วจะรู้ได้งัย ว่า 12 v มีสามทาง
ทางแรก เอามัลติมิตเตอร์วัด ใช้เข็มต่อหัวแล้วแทงสายไฟเข้าไป
ทางสอง เอาเข็มต่อหลอดไฟ12 v แล้วแทงหาเหมือนกัน (ในกรณีที่ไม่มีมัลติมิตเตอร์)
ทางสาม เปิดไดอะแกรมระบบไฟ (หาได้แล้วบอกผมด้วย T)_(T ไม่มีไดอะแกรม)
ก่อนไล่สายไฟควรเอาขัวแบตเตอร์รี่ออกก่อนนะครับ
-
ขั้นตอนที่ห้าทดสอบระบบไฟที่ติดตั้งใหม่และไฟส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องและประกอบ
ขั้นตอนสุดท้าย ลุ้นระทึกไฟจะติดหรือเปล่า
ติดแล้วไฟตัดหมอกก็ติด แล้วลอง start เครื่อง ดูระบบไฟฟ้าทำงานได้ปรกติ แก๊สตัดการทำงานปกติ ทุกอย่างก็เสร็จ และก็เริ่มประกอบ ตำแหน่งติด relay จากขั้วแบตไปยังไฟตัดหมอก
-
หลังจากติดเสร็จก็ได้เวลาทดสอบ
หึหึ 6.30 มืดพอดี ตั้งไฟเลย ปรากฏว่า ไฟขาดไปดวง จีนA เล่นงานตรูแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ขาดนี่หว่าเลยไปโดนมาอีกสองดวง H11 55w แพงระยับแล้วก็ได้ตั้งสมใจอยาก สุดท้ายใช้งานได้ดี กิ๊วๆๆ จบ
-
สรุปค่าใช้จ่าย
ไฟตัดหมอก 1200 บาท จีน a
(ตัวอื่นๆไม่ได้ซื้อจีนaa 1400 ไต้หวัน 1800 ไทย 1800แถมโคเมี่ยม)
สายไฟสามเส้น 60 ลดให้เหลือ 50 บาท
Relay 5 ขา 80บาท
Socket relay 30 บาท
ฟิวส์ กล่องละ 10 บาท 10 ตัว
กระเปาะฟิวส์ 15 บาท
เทปพันสายไฟ 20 บาท yazaki
หลอดไฟ h11 220x2 = 440
Total 1200+50+80+30+10+15+20+440 = 1845 บาท ครับ
เวลาที่ใช้ในการติดตั้ง
ประมาณ 3.30 ชั่วโมง (รวมซื้อของ)
อุปกรณ์ที่ใช้
ประแจะเบอร์ 10
ตัว T เบอร์ 10
ไขควง 4 แฉกกับปากแบน
ไขควง 6 แฉก แบบ T20(หรือ 16)
กรรไกร คัดเตอร์ หัวแร๊ง ท่อหด ตะกั่ว (ไม่เอาแบบเป็นหัวกระสุนนะ) ไฟแช๊ก
สุดท้าย ใจ
มีข้อผิดพลาดตรงไหนเสริมได้เลยครับ มีอะไรถามได้เลยถ้าตอบได้จะตอบให้เคลียร์ครับ ไม่ได้ก็คงต้องรอท่านอื่นๆ 555
ปล. คำแนะนำในการเลือกซื้อ โคมตัดหมอก ถ้าราคาจีนกันไต้หวันไม่ต่างกันมากซื้อ ไต้หวันก็ได้ครับ ได้หลอดแท้ของ Bosch ด้วย ไม่ต้องมาลุ้นเหมือนผม
ขอบคุณที่คิดตามครับ กลับบ้านก่อนบะบาย
-
ผมเกิดที่เชียงราย มาโตที่เชียงใหม่
ขับรถมาไม่เคยเปิดไปตัดหมอกแม้แต่ครั้งเดียว
เหตุผลเหรอครับ
ผมไม่อยากให้ใครต้องมาแสบตา ไม่ว่าจะตัดหมอกหน้า หรือตัดหมอกหลัง
ตัดหมอกหลังนี่ยิ่งแล้วใหญ่ นิววีออสเปิดมาที แสบตามากมาย
เปิดไฟหน้าก็เพียงพอแล้วครับ
อีกอย่างถ้าหมอกลงจัดมาก เค้าจะขับช้าๆ กันครับ ;)
-
ตัดหมอกเดิมๆไม่เห็นจะแสบตาอะไรเลยนี่ครับยกเว้นตัดหมอกท้าย DIY สุดยอดครับไม่เหมือนบางรุ่นที่ต้องเข้าศูนย์เซ็ต ECU ด้วยเพื่อให้ใช้ได้
-
ดีครับที่สามารถทำเองได้ นอกจากจะประหยัดแล้วยังได้ความภูมิใจในตัวเองด้วย
กรณีการใช้ไฟตัดหมอก ถ้าใช้ถูกที่ถูกเวลา สนับสนุนครับ เพราะมันสามารถเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถได้
จากประสบการณ์ผม ไฟหน้าอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับภาวะหมอกลงจัดครับ เพราะมันกระเจิงหมด
ปัญหาแสบตาสำหรับผมมีสาเหตุตามลำดับดังนี้
1. รถที่ตั้งไฟต่ำสูง(อาจจะเปิดไฟสูง)หรือบรรทุกจนหน้าลอย
2. รถที่ใช้ไฟซีน่อนในโคมที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะติดเองหรือติดมากับรถจากโรงงาน แต่จะมีปัญหากับพวกติดเองมากกว่า
3. รถที่เปิดไฟตัดหมอกหลังในเวลาไม่เหมาะสม แน่นอนส่วนใหญ่เป็น Vios
4. ไฟเบคร LED จากรถหลายๆรุ่น โดยเฉพาะ New E-class
5. ส่วนไฟตัดหมอกหน้ารบกวนผมน้อยที่สุด (เป็นความเห็นส่วนตัวผมครับ)
Ps ก่อนหน้านี้ผมจะหาข้อมูลเรื่องรถยนต์ที่เวบต้องห้ามเป็นแห่งแรก แต่ตอนนี้เป็นเวบแห่งนี้แทน เนื่องจากตาม Admin เวบนี้มาเพราะผมเคยซื้อรถตามรีวิว
ของคุณ Jimmy อนาคตก็จะดูรีวิวในนี้เป็นหลักในการตัดสินใจซื้อรถ อีกอย่างช่วงหลังๆ เวบนั้นชอบตามกระแสด่าแบบไม่มีเหตุผล บางคนเขาถามเรื่องไฟตัดหมอก
หรือไฟซีน่อนดีๆกลับไม่มีคำตอบใดๆ นอกจากคำด่าอย่างเดียว
-
จำได้ว่าสมัยก่อนไฟตัดหมอกจะออกสีเหลืองเลย แต่เดียวรู้สึกจะสีขาวธรรมดาหมดแค่กดไฟลงพื้น
-
ลงมือทำเองเลยนะครับ :o
ผมว่าไฟตัดหมอกเปิดไว้ก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ผมชอบเปิดครับ เพราะมันสว่างดี ทำให้สว่างขึ้น คนอื่นก้สังเกตุง่ายขึ้น ผมไม่เห็นว่ามันแสบตานะครับ
แต่ถ้าเป็นแบบติดตามร้านที่ใช้กำลังไฟสูงๆอันนี้ผมก้ไม่ชอบครับ
-
ไม่ได้ใช้รุ่นนี้แต่ก็ขอบคุณที่ได้มาแสดงทักษะนะครับ แต่ว่า Do It Make มันแปลว่าอะไร นึกความหมายไม่ออกจริงๆครับ
ผมเกิดที่เชียงราย มาโตที่เชียงใหม่
ขับรถมาไม่เคยเปิดไปตัดหมอกแม้แต่ครั้งเดียว
เหตุผลเหรอครับ
ผมไม่อยากให้ใครต้องมาแสบตา ไม่ว่าจะตัดหมอกหน้า หรือตัดหมอกหลัง
ตัดหมอกหลังนี่ยิ่งแล้วใหญ่ นิววีออสเปิดมาที แสบตามากมาย
เปิดไฟหน้าก็เพียงพอแล้วครับ
อีกอย่างถ้าหมอกลงจัดมาก เค้าจะขับช้าๆ กันครับ ;)
ลงมือทำเองเลยนะครับ :o
ผมว่าไฟตัดหมอกเปิดไว้ก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ ผมชอบเปิดครับ เพราะมันสว่างดี ทำให้สว่างขึ้น คนอื่นก้สังเกตุง่ายขึ้น ผมไม่เห็นว่ามันแสบตานะครับ
แต่ถ้าเป็นแบบติดตามร้านที่ใช้กำลังไฟสูงๆอันนี้ผมก้ไม่ชอบครับ
ไฟตัดหมอก มีก็ใช้ให้ถูก จะได้ไม่เป็นปัญหาครับ
-
DIY do it yourself เยี่ยมจริง ๆ ครับ ไม่กล้าทำเองกลัวใส่ไม่ลง สำหรับผมอย่างมากก็แค่ทำอะไรง่าย ๆ แกะน๊อด ใส่น๊อต นอกนั้นให้ช่างหมดครับ นับถือจริง ๆ :)
-
:D เก่งจังเลยค๊ะติดเองได้ด้วย รถของลูกตาลพ่อสั่งให้ใส่ตั้งแต่ตอนออกรถค๊ะ ที่บ้านมีหมอกมากในฤดูหนาวจำเป็นมากยิ่งช่วงเช้ามืดก่อนที่จะมีแสงสว่าง พ่อเคยแสดงให้ลูกตาลดูว่าเวลาหมอกลงจัด(หนา)ทัศนวิสัยมองเห็นได้แค่ 1-2 เมตร จะต้องทำอย่างไร ถ้าเปิดไฟหน้าก็จะมองเห็นแต่หมอกไม่เห็นผิวทาง ถ้ายิ่งเปิดไฟสูงยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าเปิดแค่ไฟตัดหมอกก็สามารถพื้นทางพอขับไปช้าๆได้ค๊ะ ส่วนที่ว่าเปิดแล้วแสบตานั้นพ่อบอกว่า ด้านหน้าอาจจะเป็นแปลงใส่หลอดซีนอนมา(ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ในการออกแบบ) หรือ ถ้าเป็นหลอดเดิมก็ปรับตั้งระดับไม่ถูกต้อง ส่วนไฟตัดหมอกหลัง ถ้ามันไม่มีประโยชน์ รถยนต์ราคาแพงทั้งหลายคงไม่ใส่มาให้หรอกค๊ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าเปิดใช้ให้ถูกเวลาและถูกสถานที่ก็จะเป็นประโยนช์กับตัวเองและเพื่อนร่วมทางค๊ะ (ลูกตาลก็เรียนจบที่เชียงรายและทำงานที่นั่นหลายปีก่อนจะย้ายกลับมาบ้าน ในเวียงหมอกไม่ค่อยมากหรอกค๊ะ พอมองเห็น แต่ออกนอกเวียงเมื่อไหร่ไฟตัดหมอกมีประโยชน์ทันที ยิ่งบนดอยหรือพื้นที่ที่มีน้ำหมอกจัดสุดๆเวลาหน้าหนาว แสดงว่าคุณที่ว่าเกิดเชียงรายคงไม่เคยขับรถออกนอกเมืองช่วงเช้ามืดมั้งค๊ะ)
-
DIM มาจาก คำว่า "Do มัน ทำ" ครับ โดยทั่วไป DIY น้อยคนที่จะทำเองเพราะว่าไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไร
ผมก็เลยแปลงชื่อซะเป็น DIM จะได้เก็บไว้เป็นแนวทางความรู้ ซึ่งความหมายที่แท้จริง คือการนำความรู้(ถูกไม่ถูกก็เสริมกันได้)
มาวางไว้ในระบบ online เพื่อใครจะนำไปใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องทำจริงๆ แต่ก็มีความรู้ไว้อยากทำก็เริ่มทำได้ครับ
อยากเกริ่นซะนิดนึง
ผมเป็นคนหนึงที่ ไม่ชอบการใช้ไฟตัดหมอกแบบผิดวัตถุประสงค์ แต่ที่ติดตั้งเพราะว่ามันมีความจำเป็นในการใช้งาน ส่วนเวลาไม่ได้ใช้งานก็ไม่ได้เปิดครับ
วันนี่กทม. หมอกหนามากๆ ผมยังต้องเปิดใช้ ถ้ามีใช้ก็ดีกว่าไม่มี ลองคิดดูระยะที่รถขับห่างจากคันหน้า 50 เมตร รถสีขาว พรางไปกับหมอก เค้าจะเห็นอะไรก่อน
ระหว่างรถหรือหมอกตอนมองกระจกหลัง ก็ต้องเห็นหมอก แต่เมื่อมีไฟตรงไฟตัดหมอก รถคันหน้าก็จะรู้ว่ามีไฟ ก็ต้องมีรถมาก็จะระวังมากขึ้น
และช่วงที่ติดไปผมก็ได้ใช้ตอนขึ้นปาย ผมออกจากเชียงใหม่ ตอน 19.00 เข้า 1095 ตอน 19.10 มืดสนิท ไม่เห็นอะไร ตอนใช้ไฟเพื่อส่องหา่ทางขึ้นเขาแล้วต้อง
สว่างที่สุดเท่าที่จะเป็๋นไปได้ เพราขาขึ้นปาย หลังทุ่มจะไม่แทบบมีรถผ่านเลย ผมว่ามันมีประโยชน์มากเลยครับ
ผมทำ DIM ไม่หวังเลยอะไรเลย ผมหวังอย่างเดียวว่า อยากให้คนอื่นๆที่อยากทำเอง สามารถหาความรูั้้้จาก internet ได้ครับ
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณมากครับ
ถ้าเป็นระบบอื่นที่ไม่ยุ่งกับระบบไฟ ผมคงอยากลอง
แต่เกี่ยวกับระบบไฟนี้ไปไม่เห็นทางเลยอ่ะครับ ;)
-
ขอบคุณมากครับ
ถ้าเป็นระบบอื่นที่ไม่ยุ่งกับระบบไฟ ผมคงอยากลอง
แต่เกี่ยวกับระบบไฟนี้ไปไม่เห็นทางเลยอ่ะครับ ;)
เรื่องนี้ไม่ยากครับ ลองศึกษาวงจรแบบง่ายๆ เช่นวงจรไฟLED ติดรถ ที่คนส่วนใหญ่เรียก daylight เดียวก็จะเริ่ม get idea มาเรื่อยๆครับ
โดยจริงๆแล้วการติด ครั้งนี้จริงแล้วมันไม่ต้องยุ่งกับระบบรถเลยก็ได้ครับ แต่ผมต้องการตอนเปิดสวิทช์ เท่านั้นเองมันก็เลยต้องไปยุ่ง
สู้ๆครับ
-
เพิ่ง get มุกคุณ DIM อื่ม ดูมันทำ จริง ๆ ด้วย อิอิอิ ดีครับจะได้รู้ว่าถ้าเปลี่ยนไฟตัดหมอกเขาจะทำอย่างนี้ ว่าแต่เหมือนผมเคยเห็นในเว็ปอื่นด้วย คุณคือ DIM เว็ปอื่นด้วยหรือเปล่าครับ เช๋นเซ็นเซอร์ อะไรทำนองนี้ครับ :)
-
เพิ่ง get มุกคุณ DIM อื่ม ดูมันทำ จริง ๆ ด้วย อิอิอิ ดีครับจะได้รู้ว่าถ้าเปลี่ยนไฟตัดหมอกเขาจะทำอย่างนี้ ว่าแต่เหมือนผมเคยเห็นในเว็ปอื่นด้วย คุณคือ DIM เว็ปอื่นด้วยหรือเปล่าครับ เช๋นเซ็นเซอร์ อะไรทำนองนี้ครับ :)
ชัดเจนเลย ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ
-
พี่ liveshow มาอีกแล้ว สาระทั้งนั้น ::)
จริงๆผมเคยรื้อแผงประตู ฝาครอบกระจก+ไฟเลี้ยวของ yaris แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ไว้รื้ออีกรอบจะมาลงบ้าง (แล้วจะหาเรื่องรื้อทำไม? 55555+)
-
เพิ่ง get มุกคุณ DIM อื่ม ดูมันทำ จริง ๆ ด้วย อิอิอิ ดีครับจะได้รู้ว่าถ้าเปลี่ยนไฟตัดหมอกเขาจะทำอย่างนี้ ว่าแต่เหมือนผมเคยเห็นในเว็ปอื่นด้วย คุณคือ DIM เว็ปอื่นด้วยหรือเปล่าครับ เช๋นเซ็นเซอร์ อะไรทำนองนี้ครับ :)
ผมทำDIM อยู่ที่ นี้ที่เดียวครับ แต่ในช่วงแรก ผมทำที่ nissanpickup ครับ แต่ทำอยู่ 2 dim แล้วก็ไม่ค่อยได้ไปโพสเท่าไร
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แสดงว่าเป็นคนอื่น :)