Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Severus Snape ที่ มกราคม 14, 2012, 13:18:26
-
มือหนึ่งด้วยนะ รู้มาตลอดว่าที่อเมริการถยนต์ราคาถูกมาก ๆ ไม่คิดว่าจริง ๆ รุ่นนี้จะราคาต่ำขนาดนี้
แถมตัว Hybrid ก็ 2.1 ล้านบาท (($70,000) อิจฉาคนอเมริกาเรื่องการเลือกซื้อรถจริง ๆ เลย
ถ้าเป็นที่เมืองไทย 1.5 ล้านบาท ($50,000) ยังคงซื้อได้แค่ Camry, Accord อะไรเทือกนี้เอง......
-
คิดซะว่าอาหารการกินบ้านเค้าแพงกว่าเรา 3-4 เท่า เหมือนกับบ้านเรารถแพงกว่าเค้า 3-4 เท่าน่ะแหละ
-
ภาษี ประกัน ค่าซ่อม ฯลฯ
สรุปก็แพงอยู่ดีครับ
-
ถ้าจะคิดราคาในไทยก็... อย่าลืมภาษีนำเข้าบ้านเราด้วยนะครับ :)
-
ค่าครองชีพแพงกว่า 3 - 4 เท่าเหมือนกัน แต่รายได้เค้าสูงกว่าเราเป็น 10 เท่าเลย 70,000 USD อาจเป็นรายได้ต่อปีของเค้า แต่ของเรา รายได้ต่อปี 2,000,000 บาท ต่อปี จะมีซักกี่คนกันเนี้ยะ
-
ค่าเงินและภาษีต่างกันมากกกก ;)
เทียบราคากับไทยไม่ได้หรอกครับผมว่านะ
-
ผมว่าอเมริการถมันสำคัญเหมือนเป็นปัจจัย 5 ของเขาเลยนะครับ เพราะญาติผมที่ไปอยู่อเมริกาบอกว่าที่อเมริกาไม่มีรถเหมือนไม่มีขา
-
ปีที่แล้ว ตัวเก่าว่ากันที่แค่ $20,000 ปลายๆ เอง
-
เอาไรมากกับบ้านเีราภาษี ฆ่าคนไทยชัดๆ ;D
-
ผมนึกถึงราคาทุนนะ
รถคันนึงราคาทุนมันเท่าไหร่กันน้ออออ
-
ผมว่าจะอิจฉา อเมริกา น่าจะเป็นเรื่องของระบบของประเทศเขามากกว่าน่ะครับ และก็ความเจริญ
ถ้าประเทศเราเจริญถึงขั้นนั้นแล้ว ไม่ต้องเก็บภาษีรถแพงๆ ประเทศก็อยู่ได้ เราก็คงได้ซื้อรถแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่อย่าลืมว่าอเมริกา ค่าดูแลรถมันโคตรแพงนะครับ
อย่าไปคิดว่า ซื้อราคาอเมริกา เอามาดูแลแบบราคาไทย - -
-
ถ้าขับเร็วได้คงซื้อไปแล้วครับ
ผมว่าอเมริการถมันสำคัญเหมือนเป็นปัจจัย 5 ของเขาเลยนะครับ เพราะญาติผมที่ไปอยู่อเมริกาบอกว่าที่อเมริกาไม่มีรถเหมือนไม่มีขา
ไม่น่าขนาดนั้นครับ ยิ่งถ้าอยู่ในเมืองขนาดกลางขึ้นไป ขนส่งมวลชนยิ่งสบาย แผ่ขยายมาถึง suburb ด้วยครับ ประมาณว่าดีกว่ากรุงเทพเรา แต่คนไทยเรายังไม่มีรถ ก็ยังเหมือนมีขาได้ ดังนั้นข้อนี้คงเกินจริงไปหน่อยครับ แต่ถ้าต่างจังหวัดก็น่าจะพอๆกัน
-
ผมอยากรู้ว่าภาษีกับค่าที่ใช้จ่ายที่ว่าแพงนี่มันประมาณเท่าไหร่เหรอครับ
ใครรู้ช่วยบอกหน่อย
-
น่าซื้อมาถอดเล่นซักคัน
-
ต้องดูราคา full option ด้วยครับ รถในเมกาหลายรุ่นราคาเริ่มต้นไม่แพงแต่พอเป็นรุ่น full option แล้วราคาแทบจะซื้อรุ่นมาตราฐานได้2คันเลยทีเดียว
-
ต้องดูราคา full option ด้วยครับ รถในเมกาหลายรุ่นราคาเริ่มต้นไม่แพงแต่พอเป็นรุ่น full option แล้วราคาแทบจะซื้อรุ่นมาตราฐานได้2คันเลยทีเดียว
จริงครับ เห็นด้วยเลยครับ ขนาดเมืองไทย Porsche Cayenne Diesel (ของเกรย์มาร์เก็ตนะครับ)
ที่ผมไปดูมาราคาแต่ละที่แต่ละ Options มีตั้งแต่ 5.7ล้าน(ไฟหน้า Halogen, Mag18") - 8.5ล้านบาท เลยอะครับ
-
พี่ผมไปเมกา เจ้แกก็ซื้อรถขับเองครับ ราคาถูกมาก นั่งแท็กซี่ไม่คุ้มแพงมาก ขนส่งมวลชนก็ไม่ดีเอาซ่ะเลย ต้องเข้าในเมืองจริงๆถึงจะมี
camry ที่นั่นคันละ 6 แสนเอง แต่ optionน่้อยมากเช่นกัน
-
ถ้าขับเร็วได้คงซื้อไปแล้วครับ
ผมว่าอเมริการถมันสำคัญเหมือนเป็นปัจจัย 5 ของเขาเลยนะครับ เพราะญาติผมที่ไปอยู่อเมริกาบอกว่าที่อเมริกาไม่มีรถเหมือนไม่มีขา
ไม่น่าขนาดนั้นครับ ยิ่งถ้าอยู่ในเมืองขนาดกลางขึ้นไป ขนส่งมวลชนยิ่งสบาย แผ่ขยายมาถึง suburb ด้วยครับ ประมาณว่าดีกว่ากรุงเทพเรา แต่คนไทยเรายังไม่มีรถ ก็ยังเหมือนมีขาได้ ดังนั้นข้อนี้คงเกินจริงไปหน่อยครับ แต่ถ้าต่างจังหวัดก็น่าจะพอๆกัน
ผมว่าไม่มีรถในอเมริกานี่เหมือนไม่มีขาจริงๆ นะครับ ยกเว้นว่าอยู่ในเมืองใหญ่หน่อยซึ่งก็นับว่ามีสัดส่วนน้อยอยู่ดี พื้นที่ส่วนใหญ่ยังถือว่าการมีรถนี่จำเป็นมากประหนึ่งปัจจัย 5 จริงๆ แทบทุกคนต้องมีรถ ไม่งั้นก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกอย่างอยู่ห่างไกลกันหมดและ public transportation ก็ไม่ได้ดีเด่หรือปลอดภัยเพียงพอ หรือถ้าอยู่ในเมืองจริงๆ ที่พึ่งพา public transportation ได้ ค่าที่อยู่อาศัยและค่าดำรงชีพก็สูงมาก ส่วนใหญ่ต้องอยู่นอกเมืองออกไปหน่อยและใช้รถ
แต่การมีรถของคนเมริกันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้ามีฐานะดีแบบที่คนไทยมักมีค่านิยมกัน คนไทยคิดว่าใครมีรถถือว่าโก้ มีเงิน ดูดี (แล้วดูอีกว่าขับรถอะไร ซึ่งแบ่งกลุ่มตามนั้นอีก) แต่คนที่นั่นถือว่าการมีรถเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็มีกัน ถึงไม่มีตังค์ ก็สามารถซื้อ used car กันได้ในราคาที่สามารถเอื้อมถึง เพราะมีทุกราคาให้เลือกสรรจริงๆ และตลาดรถ used car ของที่นั่นยิ่งใหญ่และเป็นที่นิยมมาก ไม่ได้เป็นที่น่าเกรงกลัวหรือเสี่ยงต่อการถูกดูถูกจากสังคมเท่าเมืองไทย เพราะข้อมูลประวัติรถแต่ละคันสามารถเช็คได้หมดจาก VIN และใครๆ ก็ใช้รถ used กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างเมื่อ 2 ปีก่อนผมไปเรียนที่ North Carolina เกือบทุกคน ยากดีมีจนก็มักจะมีรถกัน ถูกแพงว่าไปอีกเรื่อง และส่วนใหญ่ใช้ used car ค่านิยมที่ใช้รถยุโรปหรูๆ ไม่ได้มีมากเหมือนเรา ส่วนใหญ่ก็พึ่งพารถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Honda (ด้วยเหตุผลเดียวกับคนไทย เพราะถือว่าเป็นรถดีราคาถูก) น้อยนักจะเจอรถยุโรปหรูๆ แม้แต่คนมีตังค์ก็ไม่ใช้เงินลงกับรถมากอย่างที่คนไทยเป็น ข้อนี้ทำให้ผมพอสรุปได้ว่า คนอเมริกันมองรถเป็นปัจจัย 5 มากกว่าเครื่องแสดงฐานะทางสังคมจริงๆ (แต่คนไทยค่อนข้างเอียงมาอย่างหลังซะมาก ซึ่งผมเองก็เป็น ฮ่าๆ)
ตอนผมไปถึง 2 สัปดาห์แรกโดยไม่มีรถนี่ผมแทบดำรงชีวิตไม่ได้ครับ ต้องพึ่งพาเพื่อนอย่างเดียว พอมีรถแล้วเห็นค่ามากครับ คำพูดที่ว่าไม่มีรถเหมือนไม่มีขานี่ผมเตือนรุ่นน้องและเพื่อนทุกคนจริงๆ ครับ บางคนลองรถสาธารณะได้ไม่นานก็ต้องยอมครับ ไม่สะดวก เดินไกล อากาศหนาว ไม่ปลอดภัย ซื้อรถมือสองถูกๆ ไปไหนมาไหนได้อย่างใจ สบายใจกว่าเยอะครับ ผมเองซื้อ Honda Accord Coupe ปี 2000 มาราคา USD5,000 ใช้ไป 9 เดือนขายต่อได้ USD4,000 สบายๆ ครับ ระหว่างใช้มีซ่อมนิดๆ หน่อยๆ รวมแล้วไม่เกิน USD100-200
ส่วนราคารถใหม่นั้น ถูกจริงๆ ครับ แต่ส่วนใหญ่ราคาที่เอามาโฆษณามักจะเป็นรถ option ต่ำสุดและจะราคากระโดดค่อนข้างมากถ้าจัด options มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนของเราที่มักจะมีรุ่นมาให้เลือกไม่มากและมักจะจัด option มาในระดับที่ไม่น่าเกลียด หมายความว่าตัวล่างสุดก็ยังสามารถซื้อมาขับได้โดยไม่ทุเรศตัวเองนัก แต่ยังไงก็ดี ราคารถยุโรปที่นู่นราคาก็น่าซื้อมากๆ ว่างๆ ลองเข้าเว็บของอเมริกาแล้วไปจัด option เล่นครับ ดูราคาแล้วน่าสนใจมากๆ แต่ถึงแม้ว่ามันจะถูกเมื่อเทียบกับค่าครองชีพอื่นๆ แต่เค้าก็ให้น้ำหนักกับรถในฐานะเครื่องประดับทางสังคมน้อยกว่าคนไทยเยอะอยู่ดีครับ :)
-
ถ้าขับเร็วได้คงซื้อไปแล้วครับ
ผมว่าอเมริการถมันสำคัญเหมือนเป็นปัจจัย 5 ของเขาเลยนะครับ เพราะญาติผมที่ไปอยู่อเมริกาบอกว่าที่อเมริกาไม่มีรถเหมือนไม่มีขา
ไม่น่าขนาดนั้นครับ ยิ่งถ้าอยู่ในเมืองขนาดกลางขึ้นไป ขนส่งมวลชนยิ่งสบาย แผ่ขยายมาถึง suburb ด้วยครับ ประมาณว่าดีกว่ากรุงเทพเรา แต่คนไทยเรายังไม่มีรถ ก็ยังเหมือนมีขาได้ ดังนั้นข้อนี้คงเกินจริงไปหน่อยครับ แต่ถ้าต่างจังหวัดก็น่าจะพอๆกัน
ผมว่าไม่มีรถในอเมริกานี่เหมือนไม่มีขาจริงๆ นะครับ ยกเว้นว่าอยู่ในเมืองใหญ่หน่อยซึ่งก็นับว่ามีสัดส่วนน้อยอยู่ดี พื้นที่ส่วนใหญ่ยังถือว่าการมีรถนี่จำเป็นมากประหนึ่งปัจจัย 5 จริงๆ แทบทุกคนต้องมีรถ ไม่งั้นก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะทุกอย่างอยู่ห่างไกลกันหมดและ public transportation ก็ไม่ได้ดีเด่หรือปลอดภัยเพียงพอ หรือถ้าอยู่ในเมืองจริงๆ ที่พึ่งพา public transportation ได้ ค่าที่อยู่อาศัยและค่าดำรงชีพก็สูงมาก ส่วนใหญ่ต้องอยู่นอกเมืองออกไปหน่อยและใช้รถ
แต่การมีรถของคนเมริกันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้ามีฐานะดีแบบที่คนไทยมักมีค่านิยมกัน คนไทยคิดว่าใครมีรถถือว่าโก้ มีเงิน ดูดี (แล้วดูอีกว่าขับรถอะไร ซึ่งแบ่งกลุ่มตามนั้นอีก) แต่คนที่นั่นถือว่าการมีรถเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็มีกัน ถึงไม่มีตังค์ ก็สามารถซื้อ used car กันได้ในราคาที่สามารถเอื้อมถึง เพราะมีทุกราคาให้เลือกสรรจริงๆ และตลาดรถ used car ของที่นั่นยิ่งใหญ่และเป็นที่นิยมมาก ไม่ได้เป็นที่น่าเกรงกลัวหรือเสี่ยงต่อการถูกดูถูกจากสังคมเท่าเมืองไทย เพราะข้อมูลประวัติรถแต่ละคันสามารถเช็คได้หมดจาก VIN และใครๆ ก็ใช้รถ used กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก อย่างเมื่อ 2 ปีก่อนผมไปเรียนที่ North Carolina เกือบทุกคน ยากดีมีจนก็มักจะมีรถกัน ถูกแพงว่าไปอีกเรื่อง และส่วนใหญ่ใช้ used car ค่านิยมที่ใช้รถยุโรปหรูๆ ไม่ได้มีมากเหมือนเรา ส่วนใหญ่ก็พึ่งพารถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Honda (ด้วยเหตุผลเดียวกับคนไทย เพราะถือว่าเป็นรถดีราคาถูก) น้อยนักจะเจอรถยุโรปหรูๆ แม้แต่คนมีตังค์ก็ไม่ใช้เงินลงกับรถมากอย่างที่คนไทยเป็น ข้อนี้ทำให้ผมพอสรุปได้ว่า คนอเมริกันมองรถเป็นปัจจัย 5 มากกว่าเครื่องแสดงฐานะทางสังคมจริงๆ (แต่คนไทยค่อนข้างเอียงมาอย่างหลังซะมาก ซึ่งผมเองก็เป็น ฮ่าๆ)
ตอนผมไปถึง 2 สัปดาห์แรกโดยไม่มีรถนี่ผมแทบดำรงชีวิตไม่ได้ครับ ต้องพึ่งพาเพื่อนอย่างเดียว พอมีรถแล้วเห็นค่ามากครับ คำพูดที่ว่าไม่มีรถเหมือนไม่มีขานี่ผมเตือนรุ่นน้องและเพื่อนทุกคนจริงๆ ครับ บางคนลองรถสาธารณะได้ไม่นานก็ต้องยอมครับ ไม่สะดวก เดินไกล อากาศหนาว ไม่ปลอดภัย ซื้อรถมือสองถูกๆ ไปไหนมาไหนได้อย่างใจ สบายใจกว่าเยอะครับ ผมเองซื้อ Honda Accord Coupe ปี 2000 มาราคา USD5,000 ใช้ไป 9 เดือนขายต่อได้ USD4,000 สบายๆ ครับ ระหว่างใช้มีซ่อมนิดๆ หน่อยๆ รวมแล้วไม่เกิน USD100-200
ส่วนราคารถใหม่นั้น ถูกจริงๆ ครับ แต่ส่วนใหญ่ราคาที่เอามาโฆษณามักจะเป็นรถ option ต่ำสุดและจะราคากระโดดค่อนข้างมากถ้าจัด options มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนของเราที่มักจะมีรุ่นมาให้เลือกไม่มากและมักจะจัด option มาในระดับที่ไม่น่าเกลียด หมายความว่าตัวล่างสุดก็ยังสามารถซื้อมาขับได้โดยไม่ทุเรศตัวเองนัก แต่ยังไงก็ดี ราคารถยุโรปที่นู่นราคาก็น่าซื้อมากๆ ว่างๆ ลองเข้าเว็บของอเมริกาแล้วไปจัด option เล่นครับ ดูราคาแล้วน่าสนใจมากๆ แต่ถึงแม้ว่ามันจะถูกเมื่อเทียบกับค่าครองชีพอื่นๆ แต่เค้าก็ให้น้ำหนักกับรถในฐานะเครื่องประดับทางสังคมน้อยกว่าคนไทยเยอะอยู่ดีครับ :)
ผมก็เลยนึกขึ้นได้ครับ ว่าตอนอยู่ Carolinas มันยากลำบากกว่าอยู่ Greater Boston มากนัก จนถึงกับต้องเช่ารถใช้น่ะครับ แล้วถ้ากลับมานึกถึงแถวชนบทของบ้านเรานี่เขาเดินทางกันยังไงล่ะครับ (หรือว่า จยย. เอาง่ายเข้าไว้?) จริงๆก็อยากให้คนไทยมองรถเหมือนกับไอ้กันมองแหละครับ เป็นพาหนะเดินทาง แต่ปัจจัยหลายอย่างมันก็จำกัดให้เป็นไปได้ยากนะ
-
พูดถึง Options ....
(http://i1209.photobucket.com/albums/cc381/conan_murder/BMW2.jpg?t=1295075665)
(http://i1209.photobucket.com/albums/cc381/conan_murder/BMW.jpg?t=1295075658)
ราคาเมื่อต้นปีครับ ;D
-
พูดถึง Options ....
ราคาเมื่อต้นปีครับ ;D
F10 พิกัด 50i เลยทีเดียว
แต่ราคาก็ประมาณ 318i ไทยเท่านั้น!!
-
ภาษีแพงจังหนอ............. :(
-
ผมว่าจะอิจฉา อเมริกา น่าจะเป็นเรื่องของระบบของประเทศเขามากกว่าน่ะครับ และก็ความเจริญ
ถ้าประเทศเราเจริญถึงขั้นนั้นแล้ว ไม่ต้องเก็บภาษีรถแพงๆ ประเทศก็อยู่ได้ เราก็คงได้ซื้อรถแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่อย่าลืมว่าอเมริกา ค่าดูแลรถมันโคตรแพงนะครับ
อย่าไปคิดว่า ซื้อราคาอเมริกา เอามาดูแลแบบราคาไทย - -
เอ่อ ผมว่า
ค่าดูแล+ราคาอะไหล่ Porche บ้านเรา
ยังไงก็โคตรแพง อยู่ดีแหละครับ 555+
-
New Civic 2HC ที่นู่นราคาเริ่มต้น4แสน
แต่ค่าซ่อมแพงมาาก
แต่ยังไงก็อิจฉาอยู่ดี
-
ผมว่าจะอิจฉา อเมริกา น่าจะเป็นเรื่องของระบบของประเทศเขามากกว่าน่ะครับ และก็ความเจริญ
ถ้าประเทศเราเจริญถึงขั้นนั้นแล้ว ไม่ต้องเก็บภาษีรถแพงๆ ประเทศก็อยู่ได้ เราก็คงได้ซื้อรถแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่อย่าลืมว่าอเมริกา ค่าดูแลรถมันโคตรแพงนะครับ
อย่าไปคิดว่า ซื้อราคาอเมริกา เอามาดูแลแบบราคาไทย - -
เอ่อ ผมว่า
ค่าดูแล+ราคาอะไหล่ Porche บ้านเรา
ยังไงก็โคตรแพง อยู่ดีแหละครับ 555+
ไช่ผมว่า cayanne ที่บ้านเราก็ช่อมเเพงเหมือนกันค่าประกันก็เเพงเเถมราคายังโคตรเเพงอีก :-\ :-\ :-\
-
เมืองเจริญแล้วรถถูกจริงครับ แต่ค่าซ่อมบำรุงหนักนะครับ
ผมอยู่ออส เชคตามระยะ+เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง (เกรดต่ำ) $150 นะครับ ถ้ามีอย่างอื่นต้องเปลี่ยนก็บวกกันไปครับ
เปลี่ยนสายพานไทมมิ่งต้องมี $1000+ เติมน้ำยาแอร์อย่างถูกสุด $120 ถ้าร้านทั่วๆไปอาจจะประมาณ $190
ค่าแรงศูนย์โตโยต้าคิด $150/ชั่วโมง
คนที่นี่ก็ไม่ได้คิดว่ารถเป็นสิ่งของบ่งบอกสถานะครับ รถยุโรปหรูๆไม่ได้เยอะมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่เค้าได้รับกัน คนมีตังมีบ้านใหญ่ๆขับรถญี่ปุ่น รถเล็กๆเยอะแยะครับ ขี่แค่เบนซ์-บีเอ็ม-ออดี้ ไม่มีใครสนใจคุณครับ ยกเว้นพวกที่เป็น exotic จริงๆ Fer, Lam, Aston, Bentley ก็ว่ากันไปครับ
การเดินทางถ้าไม่ได้อยู่ตัวเมืองจริงๆ มันก็ลำบากครับ รถเมล์น้อย มาเป็นเวลา ตกเย็นรถก็หมดแล้วครับ Taxi หาไม่เจอแน่นอน ต้องโทรเรียกครับ แถมแพงมากๆด้วยครับ ระยะทางไม่ถึง 10 กิโล น่าจะประมาณ $20 แล้วครับ
-
ผมไม่ทราบค่า insurance ของ Cayenne แต่ของ Panamera ปีละประมาณ 2,200USD ครับ
ค่าที่จอดรถ ถ้าเกิดอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง New York ก็จ่ายไปเดือนละ 500USD อย่างต่ำ
ยังไม่นับค่าผ่านทางต่างต่าง เวลาวิ่งบนไฮเวย์ ต่ำต่ำก็ 5USD ไม่มีหรอกครับ ไฮเวย์ราคา 45 บาท
นี่ยังไม่รวมค่าต่อทะเบียนประจำปี ซึ่งไม่น่าจะแพงมากมายอะไร
และค่าซ่อมบำรุงในกรณีทั่วไป อย่างที่คุณ gorilla บอกไว้ครับ
เพื่อนของเพื่อนผมอีกที ขับ Accord ชนด้านหน้าเสียหายถึงคานหม้อน้ำ
คำนวณค่าซ่อมรถพร้อมอะไหล่มาแล้ว ตัดสินใจโยนทิ้งแล้วซื้อ Camry มือสองมาใช้แทน
ลองคิดดูก็แล้วกันครับ ว่าได้รถราคาถูกกว่าเรา แล้วมาเจอแบนี้จะไหวมั้ย
-
เรื่องราคารถเอาใกล้ๆ อย่าง Hongkong นี่ก็ได้ ...
ราคาไม่เท่าไร แต่อะไหล่แพงมาก
บางตัวผมซื้อจากเมืองไทย ไปถูกกว่าครับ
จะหวังให้ Part depot ของ DCH สั่งให้ก็สลบแน่ๆ
แค่เช่น คอมแอร์ นี่บ้านเรา 13,000 บาท ที่ฮ่องกงก็ 13,000.-
แต่ต่างกันแค่ ค่าเงิน จาก Thai Baht เป็น HKD เท่านั้น...
ต่างกันเห็นๆ 4 เท่า ค่าจอดรถ ชั่วโมงละ 30 HKD บ้านนอกหน่อยก็วันละ 100 HKD.
อยู่ที่ไหนก็ไม่แฮปปี้เท่าเมืองไทยหรอกคัรบ
-
ถ้าจะให้พูดตรงๆ เลยนะ
ผมว่า เค้า กีดกันมากกว่า ลองคิด ดู สิว่า ถ้า รถทุกคัน มี ภาษี เท่ากัน ย้ำว่าทุกคัน
คุณจะ ซื้อ toy hon niss อะไร พวกนี้ไหม ทุกคน ก็ จัด pors vol bm ben ต่างๆ นาๆ
แล้วท่านๆ ทั้งหลายที่มีส่วนกับ ...... คง หัวใจวาย กันไปเลย
มันไม่เสรี อะครับ คนไทย ใช้รถกากๆ ถึงได้ ชน กัน วุ่ยวาย ชน แล้วตาย โทษ โน้นโทษนี้
ผมว่า ถ้าทุกคน ขับ s class เอาเป็นรุ่นต่ำ เครื่อง ไม่ใหญ่ แต่ระบบความปลอด ภัยสูงสุด อุบัติเหตุคงน้อยลง
อีกปัจจัย คนไทย ซื้อรถที ใช้ ก็ 10 20 ปี ประเทศ อื่นๆ 5 ปี เปลี่ยน เพราะ ราคา ในไทย บางคนทำงานมา 10 20 ปี เงิน เก็บ พึ่งจะออกรถ ได้ ให้ จะยอมขายง่ายๆ ต่างประเทศ ขายก็ ซื้อใหม่ เปลี่ยน ตาม เทคโนโลยี ทันสัมย ครนไทย ถึงโบราณ และพัฒนา ช้า กว่า ต่างประเทศ มาก ไม่มีคำว่าเสรี ใน ประเทศไทยเลย facebook ที่เค้าว่า เสรี ยัง ปิดกั้นได้ งงมาก
-
พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียวหรอกครับ
ผมไม่คิด่วามันเป็นการกีดกันทางการค้า แต่มันเป็นกลไกของภาษีระหว่างประเทศอยู่แล้ว
ซึ่งประเทศที่อยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกัน ก็มักจะเป็นพันธมิตรกันด้วยการลดกำแพงภาษี
หรือเอื้อประโยชน์ เพื่อสร้างฐานรากให้มีกำลังพอไปสร้างอำนาจต่อรองกับมหาอำนาจได้อีกทีหนึ่ง
รถยนต์อย่างค่ายญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ที่ขายกันก็ประกอบในประเทศไทย
ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างต่าง ก็ทำขึ้นจาก Supplier ในประเทศไทยกันเอง
ดังนั้น มันย่อมถูกกว่ารถยนต์ที่นำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศทั้งคัน
หรือรถยนต์ที่นำอะไหล่ส่วนใหญ่นำเข้ามา แต่ประกอบขึ้นในประเทศอย่างรถ CKD
แน่นอน เพราะมันไม่ต้องไปโดนเรื่องภาษีการนำเข้ารถยนต์ หรือชิ้นส่วน
อยากรู้ความแตกต่าง ก็ดูง่ายง่ายว่า E-class, C-class CBU กับ CKD ราคาต่างกันเท่าไหร่ ก็พอจะเห็นภาพครับ
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมว่าไม่เกี่ยวหรอกครับ
คุณบอกว่าคนไทยใช้รถกาก ผมเห็นทั้งรถยุโรป ทั้งรถญี่ปุ่นสมัยใหม่ วิ่งกันให้เกลื่อนเมือง
Camry, Accord, Teana, Series 3, C-Class, E-Class ถ้าแบบนี้ยังกาก ผมว่าที่ไหนก็กากแล้วล่ะ
อย่างที่อเมริกายังมีรถเกาหลีพวก Kia, Hyundai วิ่งให้เห็นหนาตากว่ารถญี่ปุ่นอย่าง Toyota ด้วยซ้ำไป
อุบัติเหตุมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ อยู่ที่วินัยจราจรของคนขับรถครับ
โอเค ถ้าคนคึกคะนองแล้วได้รถที่มีความปลอดภัยต่ำ โอกาสบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมันสูงกว่าน่ะใช่
แต่ต้นเหตุทั้งหมด มันอยู่ที่วินัยของคนขับที่ไม่ตั้งมั่นอยู่ในความปลอดภัยเป็นหลัก
รวมรวมกับคุณภาพของถนนในเมืองไทยที่หลายเส้นไม่ได้มาตรฐาน การละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จราจร
สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทำให้มันเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น รถยนต์และระบบความปลอดภัยเป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น
คุณอาจจะบอกว่า ที่เมืองนอกคนเปลี่ยนรถกันอย่างบ่อย ก็จริงส่วนนึงครับ
ที่เปลี่ยนบ่อยได้ เพราะรายได้ของเขา กับราคารถยนต์ที่ขายในท้องตลาดมันเอื้อให้เปลี่ยนได้บ่อยกว่า
แต่สิ่งที่หนึ่งที่ ผลักดัน ให้คนเปลี่ยนรถบ่อย คือภาษีที่เพิ่มราคาแพงขึ้นกับรถยนต์รุ่นเก่าเก่า
่ต่างจากบ้านเราที่รถยิ่งเก่า ภาษีต่อทะเบียนยิ่งถูก หลายหลายประเทศถึงกับจอดรถทิ้งไว้ให้ขโมยไปฟรีฟรี
เพราะว่ายังคุ้มกว่าที่จะเก็บรถเอาไว้เอง แล้วต้องเสียค่าต่อทะเบียน และภาษีที่เก็บจากอายุอานามของรถด้วยซ้ำ
สุดท้ายคุณก็ต้องเลือกเอาว่าจะซื้อรถใหม่ เพื่อจ่ายภาษีถูก หรือจะใช้รถเก่าแล้วจ่ายภาษีแบบอ่วมอรทัย
มันมีระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องมากกว่าแค่กลไกด้านราคา หรือภาษีสำหรับรถยนต์ในตอนซื้อ เพียงอย่างเดียวครับ
-
..... งานประกอบรถบ้านเรา น่าจะเกือบดีที่สุดในบรรดาประเทศโลกที่สามทั้งหลายแล้วมั้งครับ
ถ้ารถที่ประกอบจากบ้านเราอันตราย ผมว่าคนใช้รถที่จีนหรืออินเดีย หรืออินโดคงตายกันเป็นเบือแล้วละครับ
แน่นอนว่า option ด้านความปลอดภัยเราอาจจะน้อยกว่า แต่มันก็ถือว่าเยอะกว่า 10 ปีที่แล้วมากทีเดียว
คนสมัยก่อนยังขับ KE70 ที่ไม่มีทั้ง ABS ถุงลม TRC. VSC เขาก็ยังอยู่รอด ออกลูกออกหลานจนเกิดเป็นพวกเราทุกวันนี้ไม่ใช่หรือ?
ผมว่า มันสำคัญที่ความรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนนมากกว่าละครับ
แล้วอีกอย่าง ถึงภาษีรถยนต์บ้านเราจะแพง แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะค่าจอดรถ ค่าซ่อม ค่าทางด่วน เราถูกกว่าประเทศที่เจริญแล้วมากนะครับ
คนญี่ปุ่นขับรถข้ามจังหวัดที เสียค่าทางด่วนเป็นหลักพันบาทเป็นเรื่องปกตินะครับ
Motorway บ้านเราอย่างมากก็ 200
ก็ลองคิดดูครับ
-
..... งานประกอบรถบ้านเรา น่าจะเกือบดีที่สุดในบรรดาประเทศโลกที่สามทั้งหลายแล้วมั้งครับ
ถ้ารถที่ประกอบจากบ้านเราอันตราย ผมว่าคนใช้รถที่จีนหรืออินเดีย หรืออินโดคงตายกันเป็นเบือแล้วละครับ
แน่นอนว่า option ด้านความปลอดภัยเราอาจจะน้อยกว่า แต่มันก็ถือว่าเยอะกว่า 10 ปีที่แล้วมากทีเดียว
คนสมัยก่อนยังขับ KE70 ที่ไม่มีทั้ง ABS ถุงลม TRC. VSC เขาก็ยังอยู่รอด ออกลูกออกหลานจนเกิดเป็นพวกเราทุกวันนี้ไม่ใช่หรือ?
ผมว่า มันสำคัญที่ความรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนนมากกว่าละครับ
แล้วอีกอย่าง ถึงภาษีรถยนต์บ้านเราจะแพง แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยเฉพาะค่าจอดรถ ค่าซ่อม ค่าทางด่วน เราถูกกว่าประเทศที่เจริญแล้วมากนะครับ
คนญี่ปุ่นขับรถข้ามจังหวัดที เสียค่าทางด่วนเป็นหลักพันบาทเป็นเรื่องปกตินะครับ
Motorway บ้านเราอย่างมากก็ 200
ก็ลองคิดดูครับ
โดนใจจริงๆครับอันนี้
-
ค่าครองชีพเขาแพงกว่าเรา ยิ่งหมายความว่ารถเขายิ่งถูกไปอีกนะครับ เช่นรถเขาเทียบได้กับอาหาร 300 มื้อ แต่คนไทยต้องเทียบกับอาหารเป็น 2-3000 มื้อเลย
เพื่อนผมอยู่ที่นั่นบอกว่า ปีนี้จะซื้อ X5 ผมงี้อิจฉาเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนอยู่เมืองไทยเรียกได้ว่าฐานะค่อนข้างไม่ดีเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้อยู่ที่นู่นฐานะปานกลาง แต่ก็สบายละ
ส่วนใครที่บอก US ที่จอดแพงนี่ไม่จริงเสมอไปครับ แล้วแต่อยู่เมืองไหนมากกว่า ถ้าไม่ใช่เมืองเศรษฐกิจแบบ NY ผมว่าไม่แพงหรอก จอดฟรีด้วยซ้ำ แต่ถ้ายุโรปกับนิวซีแลนด์พวกนั้นสิที่จอดแพงจริง ผมเคยจอดชั่วโมงละ 500 บาทก็เคยนะ
-
การเปรียบเทียบราคาของรถที่ขายในต่างประเทศมีดีอย่างหนึ่งคือทำให้เราได้รู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของตัวรถมันอยู่ที่เท่าไหร่ ค่านิยมของคนไทยที่มีเงินแล้วต้องซื้อรถยุโรปหรูหราเพื่อนำมาข่มให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น แท้จริงแล้วมันไม่ได้มีค่าสูงส่งมากมายอย่างที่เราเข้าใจกันเลย :-X
-
กะทู้นี้ได้ความรู้เยอะดีครับ ไม่รู้สึกเสียใจที่บ้านไม่มีรถหรูเพราะค่านิยมสร้างระดับฐานะ หรือวรรณะ
-
ค่าครองชีพเขาแพงกว่าเรา ยิ่งหมายความว่ารถเขายิ่งถูกไปอีกนะครับ เช่นรถเขาเทียบได้กับอาหาร 300 มื้อ แต่คนไทยต้องเทียบกับอาหารเป็น 2-3000 มื้อเลย
เพื่อนผมอยู่ที่นั่นบอกว่า ปีนี้จะซื้อ X5 ผมงี้อิจฉาเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนอยู่เมืองไทยเรียกได้ว่าฐานะค่อนข้างไม่ดีเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้อยู่ที่นู่นฐานะปานกลาง แต่ก็สบายละ
ส่วนใครที่บอก US ที่จอดแพงนี่ไม่จริงเสมอไปครับ แล้วแต่อยู่เมืองไหนมากกว่า ถ้าไม่ใช่เมืองเศรษฐกิจแบบ NY ผมว่าไม่แพงหรอก จอดฟรีด้วยซ้ำ แต่ถ้ายุโรปกับนิวซีแลนด์พวกนั้นสิที่จอดแพงจริง ผมเคยจอดชั่วโมงละ 500 บาทก็เคยนะ
เพิ่งจะเคยได้ยินเนี่ยแหละครับ ว่าอยู่เมืองไทยฐานะไม่ค่อยดี
แต่พอมาอยู่อเมริกาฐานะปานกลาง ทั้งทั้งที่ค่าครองชีพมันแพงกว่าเมืองไทยเป็นเท่าตัว
ยกเว้นว่า คุณมองว่า รถที่ขับ = ฐานะ
-
ไม่รู้สึกเสียใจที่บ้านไม่มีรถหรูเพราะค่านิยมสร้างระดับฐานะ หรือวรรณะ
บ้านผมก็เลิก racist ละครับ ปล่อยไปหมดละ 555
เพิ่งจะเคยได้ยินเนี่ยแหละครับ ว่าอยู่เมืองไทยฐานะไม่ค่อยดี
แต่พอมาอยู่อเมริกาฐานะปานกลาง ทั้งทั้งที่ค่าครองชีพมันแพงกว่าเมืองไทยเป็นเท่าตัว
ยกเว้นว่า คุณมองว่า รถที่ขับ = ฐานะ
ผมว่าถ้าตั้งใจตรากตรำทำงาน โอกาสการมีความร่ำรวยก็ยังมากกว่าไทยนะครับ โปรดแก้ด้วยถ้าผมเข้าใจผิด
-
ค่าครองชีพเขาแพงกว่าเรา ยิ่งหมายความว่ารถเขายิ่งถูกไปอีกนะครับ เช่นรถเขาเทียบได้กับอาหาร 300 มื้อ แต่คนไทยต้องเทียบกับอาหารเป็น 2-3000 มื้อเลย
เพื่อนผมอยู่ที่นั่นบอกว่า ปีนี้จะซื้อ X5 ผมงี้อิจฉาเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนอยู่เมืองไทยเรียกได้ว่าฐานะค่อนข้างไม่ดีเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้อยู่ที่นู่นฐานะปานกลาง แต่ก็สบายละ
ส่วนใครที่บอก US ที่จอดแพงนี่ไม่จริงเสมอไปครับ แล้วแต่อยู่เมืองไหนมากกว่า ถ้าไม่ใช่เมืองเศรษฐกิจแบบ NY ผมว่าไม่แพงหรอก จอดฟรีด้วยซ้ำ แต่ถ้ายุโรปกับนิวซีแลนด์พวกนั้นสิที่จอดแพงจริง ผมเคยจอดชั่วโมงละ 500 บาทก็เคยนะ
เพิ่งจะเคยได้ยินเนี่ยแหละครับ ว่าอยู่เมืองไทยฐานะไม่ค่อยดี
แต่พอมาอยู่อเมริกาฐานะปานกลาง ทั้งทั้งที่ค่าครองชีพมันแพงกว่าเมืองไทยเป็นเท่าตัว
ยกเว้นว่า คุณมองว่า รถที่ขับ = ฐานะ
จริงครับแต่ไม่ได้หมายความว่าย้ายไปแล้วรวยเลยนะ อาจจะไม่เคลียร์ เพื่อนผมอยู่ที่นี่แต่ก่อนเรียกว่าจนเลยก็ได้ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว กำเงินก้อนเล็กๆ โรบินฮู้ด ไปที่นั่น ทำงาน ทำธุรกิจ จนตอนนี้สบายแล้วครับ แม้ว่าจะไม่รวยมาก แต่ไอ้พวกฝรั่งก็เป็นลูกจ้างมันล่ะครับ ซึ่งก็มีบ้าน มีรถ BMW ป้ายแดงขับล่ะครับ
-
จริงครับแต่ไม่ได้หมายความว่าย้ายไปแล้วรวยเลยนะ อาจจะไม่เคลียร์ เพื่อนผมอยู่ที่นี่แต่ก่อนเรียกว่าจนเลยก็ได้ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว กำเงินก้อนเล็กๆ โรบินฮู้ด ไปที่นั่น ทำงาน ทำธุรกิจ จนตอนนี้สบายแล้วครับ แม้ว่าจะไม่รวยมาก แต่ไอ้พวกฝรั่งก็เป็นลูกจ้างมันล่ะครับ ซึ่งก็มีบ้าน มีรถ BMW ป้ายแดงขับล่ะครับ
555 เชื่อว่าที่เมกาไม่มีป้ายแดงนะครับ หรืออาจจะมีก็ได้ แต่เท่าที่เห็น มีแต่ป้ายชั่วคราว ใช้ปากกาดำเขียนเลย -*-