Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NINENOI ที่ มกราคม 19, 2012, 10:36:46
-
พอดีลองไล่ไปดูหน้าเว็ปใหม่ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงและน่าสนใจบ้าง มาสะดุดกับบทความชิ้นนี้พอดี
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=604:-----aung-pao&catid=94:technical-guru&Itemid=55 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=604:-----aung-pao&catid=94:technical-guru&Itemid=55)
อ่านจบแล้วก็สงสัยว่า
1. กระบะท้ายปัดง่ายๆกันอย่างนี้เลยเหรอ
2. จะขับอย่างไรไม่ให้เกิดท้ายปัด
3. ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วควรทำอย่างไร
4. ถ้าซื้อกระบะควรจะต้องมีฟังก์ชันจัดเต็มเพื่อช่วยเรื่องเหล่านี้หรือไม่
ปกติผมขับแต่รถเก๋งที่ไม่มีระบบอะไรเลยแม้แต่ ABS ก็ยังไม่เคยเกิดปัญหาอย่างนี้มาก่อน ตอนนี้กำลังคิดว่าอาจจะออกกระบะ 4 ประตูทีเดียวเป็นรถครอบครัวใช้งานไปเลยคันเดียว กำลังติดต่อขอดูรถ ดีแม็ก 4 ประตู ออโต้มือสองวันศุกร์นี้อยู่เลย อ่านบทความนี้รู้สึกแหยงๆกระบะเลยหล่ะ
ป.ล. ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายด้วยครับ คนที่เสียชีวิตขอให้ไปสู่สุขติ
-
ตอบให้เพราะผมใช้กระบะ4ประตูอยู่ทุกวัน
- ท้ายมันไม่ปัดง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ยกเว้นกระทืบคันเร่งมิดตอนฝนตก
- รถคันต้นเรื่องยางมันหมดสภาพไปแล้ว ดอกแทบจะไม่เหลือ
- เคยกระทืบเบรคมิดจน ABS ทำงานตอนฝนตกท้ายยังไม่ปัดเลย
-
ผมและคนในครอบครัวเราก็ขับมาเป็นสิบๆปี ไม่เห็นมันจะปัดสักครั้ง
มันอยู่ที่คนครับ ถ้าคนไม่ขับรถมันก็ไม่แล่นหรอก
-
เกียรออโต้ ท้ายไม่ปัดง่ายๆหรอกครับ
-
ถ้ากลัวน่าลองหาตัวที่มี vsc trc น่าจะช่วยได้พอสมควร ปัญหาคือมันจะมีแต่พวกรุ่นใหม่ๆและตัวท๊อปน่ะสิ มือ2นึกไม่ออกว่ารุ่นไหนดี
พ่อผมก็ขับกระบะมาจะ 20 ปีแล้ว(ไม่ใช่คันเดียว)ไม่เห็นมีปัญหาอะไรซักอย่างเลย มีแค่ abs
-
ผมว่ายางและช่วงล่างมีส่วนในอุบัติเหตุ เกิน 80% แน่ๆครับ
-
อาจเป็นเพราะรถขับหลัง เกิดอาการล้อหมุนฟรี ในขณะเร่งเครื่อง
-
ผม ขับ isuzu มังกรทองของพ่อ มาสิบห้าปี ยังไม่เคยท้ายปัดเลย ตลอด สิบห้าปี ที่ผ่านมา
มันไม่ปัดกันง่ายๆหรอกครับ ขึ้นอยู่กับสมรรถนะของรถครับ
แต่รถกะบะเก่า ครองแชมป์ท้ายปัดง่ายจนเป้นที่เลื่องลือมากกคือ Hilux Migthy-X ครับ
กะบะ drift ยอดเยี่ยมตลอดกาล
แต่พอ ปรับรุ่นมาเป็น Hilux Tiger อาการปัดแทบไม่มีให้เห็นครับ (เพราะเปลี่ยนเป้นคว่ำแทน ล้อเล่นน้าาาาา)
-
บอกได้เลยครับ ว่าปัดง่ายกว่าที่คิด และมันมักจะมาแบบไม่รู้ตัว
ถ้าวิ่งบนทางราบปกติ ไม่ใช่ผิวต่างระดับ ถนนแห้งสนิท ไม่มีฝุ่นทราบเคลือบ
อันนั้นจะทำอะไรก็ทำเถอะครับ กระทืบคันเร่ง กระทืบเบรก มันก็ไม่ดิ้นจนเอาไม่อยู่
แต่ส่วนใหญ่แล้ว กระบะมักจะปัดเวลา วิ่งบนถนนเปียก หรือแฉะช่วงตอนฝนตกใหม่ใหม่
แล้วผิวทางเคลือบไปด้วยขี้ฝุ่น + น้ำฝน กลายเป็นโคลนเลนบางบางที่มองไม่เห็น
ถ้ายิ่งไปเจอกับผิวทางต่างระดับด้วย ก็ได้เรื่องกันเลยทีเดียว อย่างกระบะคันที่เกิดเรื่องในนั้นล่ะครับ
ไม่ใช่คนที่ไหนไกล สมาชิกเก่าแก่ของเรา เพื่อนผมที่บริษัท ซึ่งผมรู้จักว่าเค้าขับรถอย่างไร
ปัญหาก็คือ แรงบิดมหาศาลที่นับวันยิ่งจะพุ่งทะยานกันอย่างฉุดไม่อยู่
สมัยก่อน 370 Nm ก็เยอะไม่รู้จะมหาศาลไปไหน ตอนนี้ล่อกันระดับ 500 Nm แล้ว
ถามว่าเยอะขนาดไหน ก็ลองเปิดดูว่าพวก Lamborghini Aventador มีแรงบิดเท่าไหร่ดูครับ (690 Nm)
พอไม่มีอะไรบรรทุกท้ายรถ เจอกับแหนบที่ออกจะดิ้นหน่อย เพราะทำมาไว้บรรทุก
โอกาสที่จะฟรีก็มีมากเป็นเท่าตัว เพราะแทบไม่มี Traction ที่ล้อหลังเลย
ถ้าใครเคยไปภาคเหนือบ่อยบ่อย ก็จะเห็นบ่อยครับ กระบะตกเขาบ้าง ตกไหล่ทางบ้าง
ผมเห็นกับตามาชัดชัด อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปหลายที Navara แคบเกียร์ออโต้
ไต่เขาขึ้นมาดีดี ฝนเพิ่งจะหยุดตก ก็หมุนเคว้งตรงทางโค้งแล้วตกลงไปบนขอบทาง
โชคดีว่าเป็นฝั่งที่ไม่ใช่เหว ไม่งั้นคงหมดกันทั้งครอบครัวในรถคันนั้นแล้ว
เพราะใช้กำลังไต่เขาอยู่พอดี เจอทางโค้งที่ผิวไม่เรียบ รอบถึงเทอร์โบติดบูสต์ ล้อก็เกิดฟรีจนหมุนนั่นแหละ
ส่วนรถตู้ Toyota Commuter ที่วาง 2.5 D-4D เกียร์ธรรมดานั้น
ผมขับขึ้นแม่ฮ่องสอน เชียงราย และปาย ก็เจออาการนี้มาสองสามรอบ
แค่เราเชนจ์เกียร์เพื่อเอา Engine Break แต่รอบสูงเสียหน่อย
ถ้าเจอทางไม่เรียบก็ปั่นฟรีทิ้งตั้งแต่ถอนคลัทช์แล้วครับ
รุ่นน้องคนนึงใน The Coup Channel ขับ D-Max ที่เป็น TR Adventure ไปบนถนนวิภาวดีเมื่อสองสามปีก่อน
โดนรถแซงตัดหน้า ก็เร่งหลบแล้วฉีกออกเลนขวาไป ตั้งแต่จังหวะแรกท้ายรถก็ปัดออกเลย แล้วคุมไม่อยู่
สุดท้ายก็หมุนเขว้งแล้วไปจบกับขอบปูนบนถนน ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร รถก็พังไปตามระเบียบ
ไม่ได้จะบอกว่ามันอันตรายจนขับไม่ได้ แต่จะบอกว่าโอกาสที่มันจะฟรีมีง่ายกว่าที่ทุกคนคิด
และอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น ก็มักเกิดจากความไม่คุ้นชิน ไม่ได้นึกว่ามันจะหลุดจะออกง่ายแบบนี้
เลยไม่ได้ระมัดระวังอะไรกัน ขับกันตามปกติทั่วไปเหมือนขับรถเก๋ง หรือรถกระบะที่แรงน้อยน้อย
สุดท้าย ด้วยความที่ไม่ได้ระมัดระวังไว้ก่อน ก็จบด้วยอุบัติเหตุแบบนี้ล่ะครับ
วิธีแก้จริงจริงไม่ได้ยาก แต่ต้องไว คือถ้าเมื่อไหร่รู้สึกว่าฟรีแล้ว ต้องยกเท้าออกจากคันเร่งทันที
มันก็จะหยุดฟรีและกลับมามี Traction ตามปกติ ส่วนพวงมาลัยก็ถือให้มั่น หันไปในทิศทางที่รถควรไป
แค่นี้ก็ป้องกันอุบัติเหตุได้แล้ว แต่อย่างที่บอกครับ เรามักจะไม่คิดว่ามันจะมาถึงเราง่ายขนาดนี้ เลยไม่ได้ระวังตัว เลยแก้ไม่ทัน
-
ช่วงน้ำท่วมผมเคยขับตาม Vigo คันนึงลุยน้ำตื้นๆ
พอพ้นช่วงน้ำท่วมปุ๊บต่างคนต่างเร่งเครื่อง ปรากฏว่า Vigo คันนั้นท้ายออก เลื้อยเป็นงูเลยครับ
ปัดซ้ายปัดขวาอยู่ 3 รอบได้ ดีที่ไม่หมุนเพราะคนขับแก้อาการอยู่
-
เคยปัดนิด ๆ ถ้าเปลี่ยนเลนไวไป หรือเข้าโค้งหนัก ทีความเร็วไวเกินไปครับ ก็แก้โดยการผ่อนคันเร่งกับประคองพวงมาลัย แต่ที่แบบตามลิงค์บอก ผมไม่เคยเจอแบบไปอีกเลนหนึ่ง หรือเหยีบเบรกแล้วปัด อย่างนี้ก็แก้ไม่เป็นครับ เป็นไปได้ไหมครับว่ารถตามลิงค์มีปัญหาเรื่องเบรกหรือศูนย์ล้อ หรือหักเลี้ยวมากเกิน แต่ถ้าวิ่งบนน้ำแล้วเหินน้ำ แล้วรู้สึกว่ารถลอย คุมรถไม่ได้ลอยไปอีกเลน อย่างนี้เคย 1 ครั้งดีที่ไม่มีรถตามมา ผมจำขึ้นใจเจอแอ่งน้ำหรือฝนตกลดความเร็วเสมอครับ :)
-
ขับทั่วไปไม่มีปัดหรอกครับ
แต่ถ้าจะเข้าโค้งเร็วเหมือนเก๋ง หรือโค้งหนักแล้วใช้ความเร็วเิกิดขึ้นได้บ่อยๆ
-
ถ้าใครเคยไปภาคเหนือบ่อยบ่อย ก็จะเห็นบ่อยครับ กระบะตกเขาบ้าง ตกไหล่ทางบ้าง
ผมเห็นกับตามาชัดชัด อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปหลายที Navara แคบเกียร์ออโต้
ไต่เขาขึ้นมาดีดี ฝนเพิ่งจะหยุดตก ก็หมุนเคว้งตรงทางโค้งแล้วตกลงไปบนขอบทาง
โชคดีว่าเป็นฝั่งที่ไม่ใช่เหว ไม่งั้นคงหมดกันทั้งครอบครัวในรถคันนั้นแล้ว
เพราะใช้กำลังไต่เขาอยู่พอดี เจอทางโค้งที่ผิวไม่เรียบ รอบถึงเทอร์โบติดบูสต์ ล้อก็เกิดฟรีจนหมุนนั่นแหละ
ส่วนรถตู้ Toyota Commuter ที่วาง 2.5 D-4D เกียร์ธรรมดานั้น
ผมขับขึ้นแม่ฮ่องสอน เชียงราย และปาย ก็เจออาการนี้มาสองสามรอบ
แค่เราเชนจ์เกียร์เพื่อเอา Engine Break แต่รอบสูงเสียหน่อย
ถ้าเจอทางไม่เรียบก็ปั่นฟรีทิ้งตั้งแต่ถอนคลัทช์แล้วครับ
อันนี้ผมเห็นภาพมากครับ เพราะผมต้องไปเหนือทุกปี
เืมื่อปีที่แล้ว Vigo เพื่อนผมก็เพิ่งไปหมุนติ้วที่ลำปางมา ยังดีที่ไม่ลงเหว + ไม่มีรถตามและสวนมา
-
ตามที่คุณเนยว่า ถ้าได้เดินทางขึ้นเหนือ ส่วนมากก็มันจะเห็นกระบะอยู่ตามไหล่ทาง
แต่ส่วนนึงผมว่า อยู่ที่ความประมาทด้วย มักจะคิดกันว่าไม่เกิดกับเราหรอก แต่เรื่องแบบนี้มันเกิดแบบไม่คาดคิดอยู่แล้ว
ส่วนใหญ่ที่เห็นๆเลย ก็พวกกระบะรุ่นใหม่ๆ รถมันแรง ชอบแซงกันตอนขึ้นเนิน (ทางที่อุตรดิตถ์ผมไปทุกรอบเจอทุกรอบ ถนนมันกำลังทำอยู่ รถบรรทุกเยอะ พวกกระบะใจร้อนก็ชอบแซง สุดท้ายก็เป๋ปัดไปข้างทาง)
ขนาดรถผมเองยังเคยเจอเลยครับ ผมเองก็ขึ้นเหนือมาหลายรอบแล้ว ไปเที่ยวบ้านแฟนที่เชียงราย เจอรถบรรทุกอ้อย(หรือไผ่ก็ไม่รุ้อะ) วิ่งๆอยุ่ข้างหน้า แล้วพวกเศษ พวกกิ่ง กระเด็นลงมา ดีที่ผมหักหลบได้ แต่ไม่มีอะไร แถมเป็นทางขึ้นเนินด้วย ใจหายใจคว่ำมากๆ อาจจะโชคดีที่ได้ ESP ช่วยไว้ด้วย
-
ปัดง่ายนะครับ โดยเฉพาะรถแรงบิดสูงๆ
เมื่อก่อนต้องเอารถกระบะที่บ้านไปทำธุระตอนฝนตก กดคันเร่งออกจากช่วงกลับรถแล้วจู่ๆ ท้ายปัด ดีที่ยกคันเร่งออกทัน (เพราะเคยฝึกเล่นทางฝุ่น)
ท้ายข้างหลังยิ่งถ้าไม่ได้บรรทุกอะไรเลย ดิ้นง่ายมากครับ
-
คุณเนยสุดยอดครับ
ตรงประเด็น+ตัวอย่างชัดเจน
-
ขับ ranger 8 ช่องมา 9 ปี ไม่เห็นมันจะปัดง่ายๆเลยครับ จะแบบถนนเปียกมาก หรือจะเป็นแบบที่ฝนเริ่มตก ก็ไม่มีอะไร
ผมคิดว่าเป็นที่เรื่องยาง และเรื่องการควบคุมรถมากกว่าครับ
-
ผมยังเคยเอาเชโรกีไปหมุนเล่นแถวๆกลับรถรัชโยธินเลยครับ ถ้าแรงบิดมันเยอะ น้ำหนักกดท้ายน้อยหน่อย มันก็มีโอกาสหมุนครับ
-
ถึงได้ว่ารถที่ลงข้างทางส่วนใหญ่เป็นกระบะ ไม่ค่อยเห็นเก๋งซักเท่าไหร่ อย่างว่าล่ะครับ กระบะออกแบบมาให้บรรทุกไม่ได้ให้มาแวร๊ง ถ้าคิดจะซิ่งต้องรู้ลิมิตรถและคนขับเอง
-
อีกส่วนหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ คุณภาพของยางที่ใส่ ไม่ว่ารถจะดีแค่ไหน ระบบเจ๋งแค่ไหน
แต่ถ้ายางที่ใส่หมดสภาพ ก็มีความเสี่ยงที่จะปัดสูงมากเช่นเดียวกันครับ
-
ขับ ranger 8 ช่องมา 9 ปี ไม่เห็นมันจะปัดง่ายๆเลยครับ จะแบบถนนเปียกมาก หรือจะเป็นแบบที่ฝนเริ่มตก ก็ไม่มีอะไร
ผมคิดว่าเป็นที่เรื่องยาง และเรื่องการควบคุมรถมากกว่าครับ
เห็นด้วยครับ
เรื่องยาง การControlรถ ซึ่งก็คือคนขับน่ะแหละ ว่าคุมไหวหรือป่าว รู้Limitหรือไม่ ไม่ใช่ขับเก๋งมาตลอด วันดีคืนดีนึกสนุกกระโดดมาขับกระบะ แต่ยังใช้Feelการขับเหมือนรถเก๋ง ก็ไม่แปลกที่จะลงข้างทาง
ผมขับปิคอัพที่บ้านทั้งรุ่นส่งของ รุ่นปกติ จนถึง 4x4ยกสูงใส่ล้อโตๆ ช่วงล่างแข็งทื่อโดดเด่นเด้งดึ๋งดั๋งหยั่งกะเกวียน ยังไม่เคยหมุนเลย เด็กส่งของที่ทำงานก็ไม่เคยมีหมุนซักคน ไม่ว่าจะตอนไปส่งของ หรือตีรถเปล่ากลับOfficeก็ตาม (โดนบ่อยคือใบสั่ง ขับเร็วเกิน :D)
-
ขับกระบะไม่กล้าเข้าโค้งแรงๆแบบรถเก๋งเลยครับ เคยเข้าโค้งแล้วท้ายจะปัด ยางก็ดังซะหลอนเลยครับ ดีนะ ไม่เป็นไร
-
ในเมื่อมันมีความเป็นไปได้ สมัยนี้มีอุปกรณ์ช่วยเหลือจะดีกว่า ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆครับ
-
ผมใช้ ฟอร์ดโอเพ่นแคป ตัวแรกอยู่ใช้มาขับขึ้นเหนือล่องใต้ ก็ไม่เห็นมัน
จะปัดอะไรเลย รถก็มีแค่ ABS,EDB แค่นี้ น่าจะเป็นที่คุณภาพยางมากกว่า
-
ถ้าคุณขับมัน แล้ว คิดในใจ ท่องเอาไว้เสมอๆว่าอย่าประมาท ฝนตก ก้อเบาๆคันเร่งหน่อย กะระยะเผื่อไว้เปนทุนก่อน เข้าโค้งก้อต้องลองให้มั่นใจในลิมิต รถเรานะ
ยางเก่าๆ เจอถนนเปียกๆซึมๆ ไปไม่เปนแน่นอน ถ้าไม่มีสติ
แค่นี้ จะขี่ม้าพยศ กระทิงดุ หรือจะขี่ของแรงแค่ไหน ก้อปลอดภัยสบายบรื๋ออ
-
ผมขับ ไฟต์เตอร์ Modify น่าจะเฉียดๆ 160 ม้า และทดเฟืองท้ายจัด รถผมฟรีทิ้งได้ยันเกียร์3
ไม่เคยหมุน แต่ปัดรู้ว่าเมื่อไหร่ เช่น น้ำนองพื้น กดเต็มๆ ท้ายปัดแน่ๆ แต่ผมก็ไม่เคยปัดนะ
เคยมาทางฝุ่นแดง เร็วเลยละเพราะรีบ เข้าโค้งไม่ยกคันเร่ง มันจะปัด แก้ไขยกเท้าออกจากคันเร่ง เลี้ยงวงมาลัยไว้ให้มั่นก็Ok แล้ว ก็จบรถจะสบัดนิดหน่อยแค่นั้น (ตอนดึงกลับ)
กระบะบางรุ่นท้ายออกง่ายจริงๆ ยิ่งเป็นตัวยกสูง ชัดเจนมาก ในโค้งเดียวกันผมขับ 3.0 ยกสูง เข้าโค้ง90องศา 40 ปัดและ รถผม2.5 ตัวเตี้ยไม่ปัดแม้แต่น้อย
-
บอกได้เลยครับ ว่าปัดง่ายกว่าที่คิด และมันมักจะมาแบบไม่รู้ตัว
ถ้าวิ่งบนทางราบปกติ ไม่ใช่ผิวต่างระดับ ถนนแห้งสนิท ไม่มีฝุ่นทราบเคลือบ
อันนั้นจะทำอะไรก็ทำเถอะครับ กระทืบคันเร่ง กระทืบเบรก มันก็ไม่ดิ้นจนเอาไม่อยู่
แต่ส่วนใหญ่แล้ว กระบะมักจะปัดเวลา วิ่งบนถนนเปียก หรือแฉะช่วงตอนฝนตกใหม่ใหม่
แล้วผิวทางเคลือบไปด้วยขี้ฝุ่น + น้ำฝน กลายเป็นโคลนเลนบางบางที่มองไม่เห็น
ถ้ายิ่งไปเจอกับผิวทางต่างระดับด้วย ก็ได้เรื่องกันเลยทีเดียว อย่างกระบะคันที่เกิดเรื่องในนั้นล่ะครับ
ไม่ใช่คนที่ไหนไกล สมาชิกเก่าแก่ของเรา เพื่อนผมที่บริษัท ซึ่งผมรู้จักว่าเค้าขับรถอย่างไร
ปัญหาก็คือ แรงบิดมหาศาลที่นับวันยิ่งจะพุ่งทะยานกันอย่างฉุดไม่อยู่
สมัยก่อน 370 Nm ก็เยอะไม่รู้จะมหาศาลไปไหน ตอนนี้ล่อกันระดับ 500 Nm แล้ว
ถามว่าเยอะขนาดไหน ก็ลองเปิดดูว่าพวก Lamborghini Aventador มีแรงบิดเท่าไหร่ดูครับ (690 Nm)
พอไม่มีอะไรบรรทุกท้ายรถ เจอกับแหนบที่ออกจะดิ้นหน่อย เพราะทำมาไว้บรรทุก
โอกาสที่จะฟรีก็มีมากเป็นเท่าตัว เพราะแทบไม่มี Traction ที่ล้อหลังเลย
ถ้าใครเคยไปภาคเหนือบ่อยบ่อย ก็จะเห็นบ่อยครับ กระบะตกเขาบ้าง ตกไหล่ทางบ้าง
ผมเห็นกับตามาชัดชัด อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปหลายที Navara แคบเกียร์ออโต้
ไต่เขาขึ้นมาดีดี ฝนเพิ่งจะหยุดตก ก็หมุนเคว้งตรงทางโค้งแล้วตกลงไปบนขอบทาง
โชคดีว่าเป็นฝั่งที่ไม่ใช่เหว ไม่งั้นคงหมดกันทั้งครอบครัวในรถคันนั้นแล้ว
เพราะใช้กำลังไต่เขาอยู่พอดี เจอทางโค้งที่ผิวไม่เรียบ รอบถึงเทอร์โบติดบูสต์ ล้อก็เกิดฟรีจนหมุนนั่นแหละ
คุณพ่อผมเคยเจอแบบที่พี่เนยว่ามาตรงแปะเลยครับ แต่นั้นก็นานมากๆแล้ว โค้งแถวๆภาคเหนือนั้นล่ะ ตอนฝนเพิ่งเริ่มตกใหม่(แน่ๆล่ะขี้โคลนขี้ดินค่อยๆหลุดออกมาผสมกับน้ำ+ฝุ่น) เห็นแกเล่าว่าช่วงนั้นล่ะที่กำลังเข้าโค้งอยู่ก็ไม่ได้ขับเร็วอะไรมาก แต่พื้นลื่นมากๆเสียการทรงตัว สุดท้ายจบด้วยการคว่ำพลิกข้าง อย่ในช่องข้างๆเลนตัวเองด้านใน (รถที่ใช้กสระบะสมัยก่อนนู่น ถ้าจำไม่ผิดดัทสัน (รถบริษัทขนาดรถบริษัทยางนะเนี้ย ::)) )
สุดท้ายโอกาษที่มันจะปัดก็มีล่ะครับถ้าเซฟได้ก็เซฟ เถอะ แต่ถ้ามันจำเป็นตัวเลือกนี้จริงๆก็ควรใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นกว่าตอนขับรถเก๋งก็ดีครับ :)
-
ถ้าขับปกติๆ ผมว่าไม่ปัดง่ายๆหรอกครับ
ผมเคยขุบมังกรทองตัวเก่า ก็ไม่เป็นนะครับ
แล้วก็ Vigo ก็ไม่ปัดนะเท่าที่ผมขับมา
ปล. พื้นแห้งปกตินะครับ ไปกลับต่างจังหวัดประมาณ ไม่ได้ขึ้นเขานะครับ ทางปกติ
แต่ถ้า เป็นทางเปียกละก็...ไม่เคยแฮะ :P
-
ผมอ่านแล้วเหมือนมีหลายท่านเข้าใจผิดนะ
ขออธิบายอีกทีแบบนี้ครับ
1. ถ้าคนขับระมัดระวัง และรู้ว่ามันมีโอกาสหลุดออกได้ง่าย มันก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุหรอกครับ แต่ที่เกิดเพราะไม่รู้ว่ามันจะออก
ลองนึกดูว่า ต่อให้คนขับกระบะมานานก็เหอะ เมื่อก่อนเรี่ยวแรงเป็นยังไง แล้วเดี๋ยวนี้เป็นยังไง มันต่างกันเยอะครับ
แล้วชาวบ้านทั่วไป ขับรถกระบะใช้งานขนผักขนปลา ตามต่างจังหวัด มีใครศึกษาบ้างว่าจะแก้ oversteer อย่างไร?
2. สภาพยางและช่วงล่างมีผลแน่นอน แต่ถ้าเทียบรถเก๋งยางหมด กับกระบะยางหมด กระบะยางหมดก็ท้ายออกง่ายกว่าอยู่ดี
3. กระบะรุ่นเก่าที่มีแค่ 90 แรงม้า อย่างมังกรทอง หรือ 125 ม้าอย่างพวก Triton เมื่อก่อน นี่คนละเรื่องนะครับ
ขอให้อ่านที่ผมเขียนอีกที ว่าผมพูดถึงกระบะบ้าพลังทั้งนั้น ที่มีโอกาสหมุนง่ายจากแรงบิดที่ส่งไปที่ล้อ
มันเริ่มจะมาลงเหวกันก็ตอนที่โตโยต้า เข็น Vigo ออกมามี 163 แรงม้า นิสสันเข็น Navara ตามมาที่ 175 ม้า
และก็ทะยอยตามกันออกมาเป็นพรวนเนี่ยแหละครับ
-
ผมขับ VIGO 3.0 4 ประตูมาจะ 5 ปีละ ยังไม่เคยท้ายปัดเลยครับ ผมเวลาขับผมจะรู้ว่ารถเรารับได้แค่ไหน เข้าโค้งได้แค่ไหน ยางเราไหวมั้ย
เวลาฝนตก ผมจะไม่ขับเร็วครับ แต่ต้องใช้สมาธิสูงหน่อยและต้องสังเกตุอาการของรถให้มาก และหากเกิดอะไรขึ้น หรือมีอาการแปลกๆของรถ ผมจะรีบถอนคันเร่งทันที
ผมจะไม่ค่อยเหยียบเบรกแรงมากเท่าไหร่ประมาณครึ่งหนึ่งของเวลาถนนแห้ง อาศัยใช้เครื่องยนต์ช่วยเบรอเอาครับ ก็ยังข้บมาได้ดีถึงบ้านปลอดภัยทุกครั้งครับ
ปล.ส่วนใหญ่ผมขับเส้นพระราม 2 ยิ่งเวลาฝนตกจะเห็น VIGO ลงไปกินน้ำ กินหญ้าข้างทางบ่อยมาก เพราะถนนเวลาฝนตกใหม่ๆเส้นนี้อันตรายมากครับ เตือนให้ระวังกันนะครับ
-
ผมเคยเจอกับตัวเอง
หน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ หลังเที่ยงคืนวันศุกร์ เมื่อปี 2005
ปีนั้น เอา Triton 4x4 มาขับ ฝนตกพรำๆ ออกตัวเกียร์ 1 ระวังๆ ไม่มีปัญหา
เกียร์ 2 ยังไม่มีอะไร พอเกียร์ 3 เหยียบเท่าเดิม ไม่มากกว่าเดิม ล้อหลังหมุนฟรี รถท้ายกวาดออกด้านขวา
ผมถอนคันเร่ง และถือพวงมาลัยตรงๆสถานเดียว ดีแต่ไม่มีรถตามมา เข็มความเร็วตอนหมุน
แค่ 30 - 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่านั้น!
พอตั้งลำตรงๆได้ ผมใส่เกียร์ 4H ขับกลับบ้านเลยครับ ไม่เอาเลยจริงๆ
-
อืมม ผมว่ารถอะไร ถ้าไม่ระวัง หรือไม่พร้อมใช้งาน ก็หมุนได้ทั้งนั้นนะครับ เพียงแต่ FR, MR มันไม่มี traction ล้อหน้าเยอะ พอหมุนแล้วเลยแก้ลำไม่ทันเท่านั้นมั้งครับ
-
คำเตือนมากๆ จากเพื่อนๆจะช่วยมีส่วนให้ท่านปลอดภัยขึ้นครับ
ข้างหลังคานแข็ง+แหนบเด้งๆ เค้ามีไว้เตือนสติ ให้จงอย่าประมาท
แต่ Triton 4 ประตู ยกสูง ผมให้เครดิตทางโค้งแห้งๆ ด้อยกว่ารถเก๋งวีออส อัลติส นิดเดียวเองนะครับ แต่ไม่อาจไปเทียบกับพวกตุ้กแกอย่าง มาสด้าสาม หรืออีเอ็กซ์
-
เห็นด้วยที่ว่า รถกะบะเสียการทรงตัวง่าย จริงครับ
มันเกิดขึ้นตอนที่ฉุกละหุ ครับ คือ กะทันหัน ของผมเจอะ case ตรงบริเวณทางโค้ง คือวิ่งมาประมาณ 100 กม./ชม. ด้านหน้าเป็นทางโค้ง พอพ้นโค้งปุ๊บ เจอรถติดปั๊บ แตะเบรกก็ท้ายขวางออกทันทีครับ vigo preruner 4 d 3.0 ตอนนี้ขายไปเรียบร้อยครับตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์วันนั้นมา และก็เข้าใจสัจจะธรรมว่าทำไมรถเก่งมันถึงได้แพงกว่ารถกะบะ นอกเหนือจากภาษี ;D
-
รถกระบะสี่ประตู แต่ละคัน เสียภาษีแพงกว่ารถเก๋งเล็กทั่วๆไปอีกครับ ทำไมน้อมันคนละเรทกับรถแคปฟ้ากะเหว
เครื่องสองพันห้า ล่อไป เกือบๆห้าพัน
เครื่องสามพันก้อห้าถึงหกพัน
ไฮโซมั้ยล่าาา
-
ด้วยหลักการง่ายๆแบบไม่มีตัวแปรอื่นมาเกี่ยวข้อง กระบะมีข้อเสียเปรียบที่ท้ายเบาครับ
กระบะท้ายเบา เพราะเป็นช่องโล่ง
กระบะขับหลัง ฉะนั้นเมื่อท้ายเบาแล้วจะทำให้ความเกาะน้อยลง = ล้อฟรีง่าย ปัดง่ายขึ้นครับ