Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2012, 22:31:22
-
พอดีผมไปดูกระทู้ BT 50 มา เขาบอกว่ารุ่น 3.2 ใช้น้ำมันเครื่อง 9 ลิตรปลายๆ 2.2 ก็ 8 ลิตร
เทียบกับรถกระบะเก่าๆ ผมจำได้ว่าประมาณ 4.5-6 ลิตรเต็มที่
เพราะอะไรทำไมถึงใช้น้ำมันเครื่องเยอะนะครับ
คันเก่าผม 3 ห่วงใช้ 3 ลิตร เจ้า march เครื่อง 3 สูบก็ใช้ 3 ลิตรเท่ากัน
ได้ยินว่าอัลติสใหม่ทะลุ 4 ลิตรไปแล้วเช่นกันครับ ;)
ขอถามจากทุกท่านครับ ขอบคุณครับ
-
BT-50 เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 15000km ครับ
-
RANGER เปลี่ยนทุก 15,000 โลครับ
ส่วน BT-50 Pro เปลี่ยนที่ 20,000 กันเลย
(ตามคู่มือทั้งคู่ครับ) :)
-
20000 กิโล แล้วน้ำมันมันไม่ดำเป็นถ่านหรอนี้
-
20000 กิโล แล้วน้ำมันมันไม่ดำเป็นถ่านหรอนี้
สังเคราะห์พี่ เทคโนฯน้ำมันเขาพัฒนากันแล้ว
-
ผมไม่แน่ใจว่าการที่ใช้น้ำมันเครื่องเยอะๆนี่ มันจะเกี่ยวกับระยะในการเอารถเข้าศูนย์บริการหรือเปล่านะครับ
ลองสังเกตดูพบว่า เมื่อก่อน เช็คระยะของศูนย์ส่วนใหญ่จะกำหนดที่ 5,000 ก.ม.
แต่ปัจจุบันเลื่อนมาเป็น 10,000 ก.ม. - 25,000 ก.ม. กันเกือบหมดแล้ว
ผมเดามั่วๆว่า ถ้าใช้น้ำมันเครื่องเยอะๆ อาจจะช่วยยืดอายุของน้ำมันเครื่องได้
เพราะปัจจัยหลักที่ทำให้น้ำมันเครื่องเสือมสภาพเร็ว ก็คือพวกความร้อน ยิ่งร้อนมากๆยิ่งเสื้อมไว เลยเติมปริมาณให้มันเยอะขึ้น การกระจายความร้อนจะได้ดีกว่า น้ำมันเครื่องก็น่าจะเสือมสภาพได้ช้ากว่า
ปล. ขนาดผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 4 ลิตรทุกๆ 10,000 ก.ม. ยังโดนค่าใช้จ่ายไปร่วม 2000 บาท(Mobil1) ถ้าเจอ8-9ลิตรนี่ ถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งละ 4,000 บาท แต่ถ่ายทุก 20,000 ก.ม.ผมว่ามันก็แทบจะเหมือนปกติเลยนะ เพียงแต่ว่าเวลาจ่ายเงินมันจะไปเป็นก้อนใหญ่ แต่ก็ถือว่านานๆทีแล้วกัน
-
20000 กิโล แล้วน้ำมันมันไม่ดำเป็นถ่านหรอนี้
สังเคราะห์พี่ เทคโนฯน้ำมันเขาพัฒนากันแล้ว
ผมไม่ได้ตกยุคนะ แต่รถดีเซลเขม่ามันเยอะกว่าเบนซิน ต่อให้สังเคราะห์ที่น้องว่ามาเถอะ