Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YIM ที่ มีนาคม 11, 2012, 13:37:27
-
นอกจากเรื่องอัตราสิ้นเปลืองแล้ว อยากรู้ว่าอันไหนปล่อยไอเสียมากกว่าด้วยครับ
เมื่อก่อนบางคนบอก เครื่อง Turbo กินน้ำมัน แต่ผมก็เห็นเครื่อง Turbo เดี๋ยวนี้ประหยัดกว่า NA ทั้งนั้นเลย
ขอบคุณครับ
-
เครื่องมันเป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งเท่านั้นเองครับ ที่ต้องอาศัยอุปกรณ์รอบข้างมาช่วยให้มันทำงานได้
เพราะฉะนั้นผมยังไม่เคยเห็นเครื่อง ที่เหมือนกันทุกอย่าง ยกเว้นการมีหรือไม่มีเทอร์โบ
ถ้าเป็นเครื่องที่ออกมาแบบ na ติดเทอร์โบเปลืองกว่า
ถ้าเป็นเครื่องเทอร์โบ เอาเทอร์โบออก ให้เป็น na ก็จะทำให้สิ้นเปลืองมากขึ้นจากการนำเทอร์โบออก
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนอื่นใด การนำเทอร์โบออก หรือการติดตั้งเทอร์โบล้วนสิ้นเปลืองกว่าเดิมๆทั้งสิ้นครับ
-
จริงๆเยอะนะครับ
เครื่องรหัสเดียวกัน ต่างกันที่มี หรือไม่มีเทอร์โบ
เช่น 2JZ-GTE & 2JZ-VVTI
หรือ SR20 DE & SR20 DET
หรือในกระบะบุคก่อน 4D56 & 4D56T WL & WL-T
ผมว่าถ้าเน้นขับประหยัด เครื่องเทอร์โบ เทอร์โบก็แทบไม่บูสต์อยู่ดี มันก็ประหยัดใช้ได้
แต่ลักษณะการเหยียบคันเร่งของคนทั่วไป ถ้ามีก็เหยียบจนมันบูสต์ทำให้เวลาไต่ความเร็วขึ้นไป อย่าง 60-110 ตัวมีเทอร์โบจะใช้เวลาน้อยกว่า ทานน้อยกว่านิดหน่อย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวไม่มีเทอร์โบ มักจะทดเฟืองมาสูงกว่า ตัวเทอร์โบเสมอทำให้ทานน้ำมันมากกว่า
-
ถ้าจำไม่ผิด อีซูสุมังกรทอง ที่เขาผูกโบ เพียงแค่ให้ไอเสียผ่านมาตรฐานใหม่(ตอนนั้น)เองนะครับ
-
จริงๆเยอะนะครับ
เครื่องรหัสเดียวกัน ต่างกันที่มี หรือไม่มีเทอร์โบ
เช่น 2JZ-GTE & 2JZ-VVTI
หรือ SR20 DE & SR20 DET
หรือในกระบะบุคก่อน 4D56 & 4D56T WL & WL-T
ผมว่าถ้าเน้นขับประหยัด เครื่องเทอร์โบ เทอร์โบก็แทบไม่บูสต์อยู่ดี มันก็ประหยัดใช้ได้
แต่ลักษณะการเหยียบคันเร่งของคนทั่วไป ถ้ามีก็เหยียบจนมันบูสต์ทำให้เวลาไต่ความเร็วขึ้นไป อย่าง 60-110 ตัวมีเทอร์โบจะใช้เวลาน้อยกว่า ทานน้อยกว่านิดหน่อย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวไม่มีเทอร์โบ มักจะทดเฟืองมาสูงกว่า ตัวเทอร์โบเสมอทำให้ทานน้ำมันมากกว่า
ecu เซ็ตค่าก็ต่างกันบานแล้วครับ
ผมถึงบอกไงครับไม่เคยเจอรถที่เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่มีหรือไม่มีเทอร์โบ
-
E Class ตัวปัจจุบัน เครื่อง 1.8+โบ
วิ่งฉิวแถมประหยัด
ลองคิดว่า ถ้า E Class ใช้เครื่อง 1.8 หายใจธรรมดาๆ
รถก็จะอืดขึ้น ต้องเหยียบเยอะขึ้น เฟืองท้ายต้องใหญ่ขึ้น
ในรถใหญ่ๆ เทอร์โบ ช่วยให้เผาไหม้ดี กำลังเยอะขึ้น โดยไม่ต้องใช้ความจุสูงๆ
รถมีโบ มีแนวโน้มจะประหยัดกว่าครับ
-
รถที่กินน้ำมันต่างกัน มันก็ให้หลายๆอย่างที่ต่างกันครับ ทั้งอารมณ์ในการขับขี่ อัตราเร่ง กำลัง
ถ้ามีรถที่ให้ทุกอย่างเหมือนกัน แตกต่างเพียงแค่อัตราสิ้นเปลือง
ผมก็อยากรู้ว่าค่ายรถไหนมันจะทำตัวที่เปลืองกว่าออกมาครับ
รถคันเดียวกันผมขับ กับคุณขับก็กินต่างกัน ขับเองคนเดียว คนละวันก็กินต่างกัน
-
จริงๆเยอะนะครับ
เครื่องรหัสเดียวกัน ต่างกันที่มี หรือไม่มีเทอร์โบ
เช่น 2JZ-GTE & 2JZ-VVTI
หรือ SR20 DE & SR20 DET
หรือในกระบะบุคก่อน 4D56 & 4D56T WL & WL-T
ผมว่าถ้าเน้นขับประหยัด เครื่องเทอร์โบ เทอร์โบก็แทบไม่บูสต์อยู่ดี มันก็ประหยัดใช้ได้
แต่ลักษณะการเหยียบคันเร่งของคนทั่วไป ถ้ามีก็เหยียบจนมันบูสต์ทำให้เวลาไต่ความเร็วขึ้นไป อย่าง 60-110 ตัวมีเทอร์โบจะใช้เวลาน้อยกว่า ทานน้อยกว่านิดหน่อย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวไม่มีเทอร์โบ มักจะทดเฟืองมาสูงกว่า ตัวเทอร์โบเสมอทำให้ทานน้ำมันมากกว่า
ecu เซ็ตค่าก็ต่างกันบานแล้วครับ
ผมถึงบอกไงครับไม่เคยเจอรถที่เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่มีหรือไม่มีเทอร์โบ
ไม่จริงเสมอไปครับ ดีเซลไม่มี ECU ด้วยซ้ำไป ต่างกันแค่เฟือง แคม และปั๊มเท่านั้น
-
จริงๆเยอะนะครับ
เครื่องรหัสเดียวกัน ต่างกันที่มี หรือไม่มีเทอร์โบ
เช่น 2JZ-GTE & 2JZ-VVTI
หรือ SR20 DE & SR20 DET
หรือในกระบะบุคก่อน 4D56 & 4D56T WL & WL-T
ผมว่าถ้าเน้นขับประหยัด เครื่องเทอร์โบ เทอร์โบก็แทบไม่บูสต์อยู่ดี มันก็ประหยัดใช้ได้
แต่ลักษณะการเหยียบคันเร่งของคนทั่วไป ถ้ามีก็เหยียบจนมันบูสต์ทำให้เวลาไต่ความเร็วขึ้นไป อย่าง 60-110 ตัวมีเทอร์โบจะใช้เวลาน้อยกว่า ทานน้อยกว่านิดหน่อย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวไม่มีเทอร์โบ มักจะทดเฟืองมาสูงกว่า ตัวเทอร์โบเสมอทำให้ทานน้ำมันมากกว่า
ecu เซ็ตค่าก็ต่างกันบานแล้วครับ
ผมถึงบอกไงครับไม่เคยเจอรถที่เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่มีหรือไม่มีเทอร์โบ
ไม่จริงเสมอไปครับ ดีเซลไม่มี ECU ด้วยซ้ำไป ต่างกันแค่เฟือง แคม และปั๊มเท่านั้น
ผมหมายถึงรถที่เซ็ตทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างกันที่มี/ไม่มีเทอร์โบครับ ผมไม่เคยเจอ
-
vios กับ vios turbo .... แต่จะมีใครใช้สองคันเอามาเทียบกันมั้ยคับ 555
ผมว่า...แล้วแต่จริงๆ ได้ยินว่า evo im กินน้ำมันมาก แต่กลับกัน golf gti ประหยัดมาก หรือถ้าจะเอาขับสี่มาเทียบ ยังไม่เห็นมีใครบ่นว่า golf R กินน้ำมันมาก (อันนี้"เดา" นะคับ)
-
รายละเอียดที่เกี่ยวข้องเยอะมากครับ
ถ้าถามว่า ทำไมอิม STi กิน ทำไม Golf GTi ประหยัด
เครื่อง EA888 ของ Golf GTi อัดเทคโนโลยีมาเยอะมาก ซึ่งทั้งหมด ช่วยให้ SFC - Specific Fuel Consumption ของเครื่อง ทำได้ดี
เอาแค่ระบบฉีดตรงของ EA888 ก็เป็น Gen ล่าสุดของเครื่องในเครือ VW แล้วครับ
ขณะที่ อิม STi ยังเป็นหัวฉีด port แบบคลาสสิค
การแปลงเชื้อเพลิง เป็นกำลัง มันสู้ Golf ไม่ได้แน่นอน
ถ้ามัดมาว่า เครื่องเดิมๆ ไส้ในเหมือนกันทุกอย่าง อัตราส่วนกำลังอัดเท่าเดิม
คันนึงมีเทอร์โบ อีกคันนึงไม่มี
เป็นไปได้ว่า ขับนิ่งๆ กินเท่ากัน ในการทดลอง
หรือ ... คันที่มีเทอร์โบ อาจจะประหยัดกว่า ... เป็นไปได้ เพราะ turbo ความสามารถมันคือ ช่วยถีบอากาศเข้าเครื่องได้
ในเครื่องยนต์บางชนิด ใช้ turbo ช่วยถีบอากาศเข้าในภาวะโหลดปานกลางด้วย
เปรียบเทียบกับ แทนที่เราจะต้องออกแรงหายใจเข้าปอดเอง กลับมีอากาศอัดผ่านเข้ามา แค่อ้าปากรับเข้าไป มันสบายกว่ากันครับ
ตรงนี้ช่วยเพิ่ม SFC ได้
แต่ในโลกแห่งความจริง turbo ที่ทำแบบนั้นในรถบ้านปี 2012 ผมไม่รู้ว่าจะมีไหม
ในกระบะยุคเก่าๆ บางคันทำได้
แต่กำลังเครื่องยนต์สูงสุด จะน้อย เพราะติดที่ความสามารถในการทำลมของ turbo
turbo ยุคใหม่ๆ ที่เกิดมาในยุค downsizing ทำมาเพื่อรีดกำลังจากเครื่องยนต์ cc เล็ก
ไม่ได้เกิดมาเพื่อช่วยประหยัดอย่างเต็มที่
ดังนั้น ตีเท่าทุนไป จะดีกว่า
เท่าทุนแล้วไงต่อ
เมื่อมี boost ก็ต้องนึกถึง อัตราส่วนกำลังอัด
มันแทบจะเป็น rule of thumb ไปแล้ว ว่า เครื่องยนต์ turbo ควรใช้อัตราส่วนกำลังอัดน้อยกว่าเครื่อง na
เพื่อลดความเสี่ยงในการ knock
ผมว่า ตัวชี้ขาด อาจจะอยู่ตรงนี้
ในทางตำรา ... เครื่องยนต์อัตราส่วนกำลังยิ่งสูง ประสิทธิภาพยิ่งสูง
(ขอกันไว้หน่อยว่า ทำไมไม่อัดซะ 100:1 จะได้ประสิทธิภาพสูงๆ ล่ะ ... ตอบว่ามันไปดีที่ค่า ค่านึงครับ มากกว่านั้นไม่ดีแล้ว)
เครื่อง na ที่ไม่ใช่ DI อาจจะว่ากันที่ 10:1 โดยประมาณ
เครื่อง turbo ยุคเดียวกับ ตัว na ว่ากันที่ 8-9:1
ตรงนี้ ผมว่า ทำให้ SFC ของเครื่อง มันด้อยกว่า เวลาขับใน condition light-medium load
แม้ว่า ยุค DI เครื่อง turbo จะกล้าใช้อัตราส่วนกำลังอัดสูงขึ้น จะแทบจะเท่ากับเครื่อง turbo ยุค IDI
แต่ยังไง ผมว่ายังไงก็ยังไม่สูงเท่ากับ na ในยุคเดียวกันครับ
ปล.ยังมีเรื่อง A/F Ratio ของเครื่อง turbo อีก
-
แปลกใจที่ คอนิสสัน คอมาสด้า และคอฮอนด้า
ยังไม่มาแสดงตัวในกระทู้นี้ ฮ่าๆ ;D
-
แล้วแต่รุ่น แล้วแต่จุดประสงค์
รถบางคัน เช่น พวก 200/250 CGI ของ MB
ไส่เทอร์โบ เพราะ จะได้ไส่เครื่องเล็กๆ ที่แรงพอสมควร+ประหยัดน้ำมันที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่พวก EVO/IM ไส่เทอร์โบ เพราะอยากให้รถแรงโคตรๆ ไม่ได้ทำไว้เพื่อประหยัดน้ำมัน
-
แล้วแต่วัตถุประสงค์ของ ผู้ผลิตว่าต้องการให้เครื่องนั้นออกมายังไงครับ ขอไม่ลงรายละเอียดลึก ขี้เกียจพิมพ์
-
มันก็น่าแปลกที่ กระบะ สมัยก่อน
ตัวมีเทอร์โบ แน่นอน แพงกว่า แต่ประหยัดกว่า เซลล์ทั้งหลายก็บอกว่าประหยัดกว่า
แต่คนสมัยนั้นกลัวการใช้เทอร์โบอยู่มาก
ยึดเอา NA เป็นหลัก ทั้งที่เฟืองท้าย NA ทดรอบจัดมาก (แต่ก็ยอมรับนะ เครื่อง NA~ ไม่ยุ่งยากเลย ดูแลง่ายที่สุด)
แล้วก็น่าแปลกที่ สอง แคมตัวไม่โบ องศาไอดีดุกว่าตัวโบมาก
ลองไปยกแคมตัวไม่โบมาใส่ตัวโบ จี๊ดมากเลยละ
ฝากให้ไปคิดครับ ว่าทำไม?
-
turbo มันเป็ระบบอัดอากาศ มันก้ทำให้เผาผลาญน้ำมันได้ดีขึ้นรึเปล่าครับ อย่างนี้มันก้จะทำให้ประหยัดขึ้นนะผมว่า
-
จริงๆเยอะนะครับ
เครื่องรหัสเดียวกัน ต่างกันที่มี หรือไม่มีเทอร์โบ
เช่น 2JZ-GTE & 2JZ-VVTI
หรือ SR20 DE & SR20 DET
หรือในกระบะบุคก่อน 4D56 & 4D56T WL & WL-T
ผมว่าถ้าเน้นขับประหยัด เครื่องเทอร์โบ เทอร์โบก็แทบไม่บูสต์อยู่ดี มันก็ประหยัดใช้ได้
แต่ลักษณะการเหยียบคันเร่งของคนทั่วไป ถ้ามีก็เหยียบจนมันบูสต์ทำให้เวลาไต่ความเร็วขึ้นไป อย่าง 60-110 ตัวมีเทอร์โบจะใช้เวลาน้อยกว่า ทานน้อยกว่านิดหน่อย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ตัวไม่มีเทอร์โบ มักจะทดเฟืองมาสูงกว่า ตัวเทอร์โบเสมอทำให้ทานน้ำมันมากกว่า
ecu เซ็ตค่าก็ต่างกันบานแล้วครับ
ผมถึงบอกไงครับไม่เคยเจอรถที่เหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่มีหรือไม่มีเทอร์โบ
ไม่จริงเสมอไปครับ ดีเซลไม่มี ECU ด้วยซ้ำไป ต่างกันแค่เฟือง แคม และปั๊มเท่านั้น
ดีเซล มีecu สิครับในรุ่นใหม่ๆ
-
น่าแปลกที่พี่จิมเคยทำการทดสอบรถไปหลายรุ่นแล้ว ยังไม่มีใครเอาตัวเลขมาพูดถึง
งั้นผมขอยกตัวเลข Pajero Sport 2.5 2WD เกียร์ออโต้ 4 จังหวะ
ทดสอบตามมาตรฐาน HLM ความเร็ว 110 รอบเครื่อง 2,200 รอบที่เกียร์สูงสุด
แบบธรรมดา 12.68 กม./ลิตร
มี VG Turbo 10.95 กม./ลิตร
เครื่องตัวเดิม เกียร์ตัวเดิม รุ่น VGT อาจจะเพิ่มน้ำหนักนิดหน่อย จากลูกเทอร์โบและออพชั่นเล็กๆน้อยๆบางประการ ซึ่งก็ไม่น่าจะส่งผลให้รถกินต่างกันถึง 2 กม./ลิตร หรอกมั้ง...