Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: unjina ที่ มีนาคม 12, 2012, 11:27:11
-
ยกตัวอย่างเช่น BMW/BENZเครื่องดีเซล ถึงประหยัดกว่า กระบะบ้านๆครับ (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
เลยเกิดข้อสงสัย
เป็นไปได้ไหม เพราะว่า กระบะบ้านๆน้ำหนักมาก ตัวถังใหญ่โต อัตราทดสูงเพราะต้องลองรับการบรรทุก เลยทำให้กินน้ำมัน
ถ้าอย่างงั้น นำเครื่องกระบะ วางในตัวถัรถงเก๋งพอจะประหยัด พอๆกับBMW/BENZ ได้ไหมครับ (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
ขอบคุณครับ
-
พลศาสตร์ของรถประกอบกับน้ำหนัก การทดเกียร์
-
เอาแค่น้ำหนักรถ+ความลู่ลมก็ ต่างเยอะแล้วครับ
-
พลศาสตร์ของรถประกอบกับน้ำหนัก การทดเกียร์
เอาแค่น้ำหนักรถ+ความลู่ลมก็ ต่างเยอะแล้วครับ
ถ้าอย่างงั้น นำเครื่องกระบะอย่างเดียว วางในตัวถังรถเก๋งBMW/BENZ ทดเฟืองท้าย/เกียร์ของเก๋งหมดเลย พอจะประหยัด พอๆกับBMW/BENZ ได้ไหม (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
-
พลศาสตร์ของรถประกอบกับน้ำหนัก การทดเกียร์
เอาแค่น้ำหนักรถ+ความลู่ลมก็ ต่างเยอะแล้วครับ
ถ้าอย่างงั้น นำเครื่องกระบะอย่างเดียว วางในตัวถังรถเก๋งBMW/BENZ ทดเฟืองท้าย/เกียร์ของเก๋งหมดเลย พอจะประหยัด พอๆกับBMW/BENZ ได้ไหม (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
ก็ยังสู้ไม่ได้ เพราะกลไกในเครื่องกระบะ ฝืดกว่า ชิ้นใหญ่กว่า ของเก๋งแน่ๆครับ แม้ cc จะเท่าๆกัน รถที่ประหยัดคือรถที่มีความฝืดน้อยกว่าครับ
-
พลศาสตร์ของรถประกอบกับน้ำหนัก การทดเกียร์
เอาแค่น้ำหนักรถ+ความลู่ลมก็ ต่างเยอะแล้วครับ
ถ้าอย่างงั้น นำเครื่องกระบะอย่างเดียว วางในตัวถังรถเก๋งBMW/BENZ ทดเฟืองท้าย/เกียร์ของเก๋งหมดเลย พอจะประหยัด พอๆกับBMW/BENZ ได้ไหม (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
เครื่องยนต์ดีเซล รุ่นใหม่ น่าจะไมมีปัญหา
แต่ลงเครื่องเบนซิล ติดแก๊ส ประหยัดกว่า เห็นผลกว่า จึงเป็นที่นิยม
-
รถที่ต้านลมกว่า
ยิ่งความเร็วสูงจะยิ่งใช้กำลังในการฝ่าอากาศมากขึ้นเป็นทวีคูณ(ความเร็วยกกำลังสอง)
พลัส 4 ประตูผมวิ่งที่ความเร็ว 140 เป็นมาตรฐาน ไม่เคยทำได้ถึง 10 กม/ลิตรเลย
ขณะที่วีโก้ตัวเตี้ยขับลักษณะเดียวกัน ทำได้ 12+
-
พลศาสตร์ของรถประกอบกับน้ำหนัก การทดเกียร์
เอาแค่น้ำหนักรถ+ความลู่ลมก็ ต่างเยอะแล้วครับ
ถ้าอย่างงั้น นำเครื่องกระบะอย่างเดียว วางในตัวถังรถเก๋งBMW/BENZ ทดเฟืองท้าย/เกียร์ของเก๋งหมดเลย พอจะประหยัด พอๆกับBMW/BENZ ได้ไหม (ขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน)
เครื่องยนต์ดีเซล รุ่นใหม่ น่าจะไมมีปัญหา
แต่ลงเครื่องเบนซิล ติดแก๊ส ประหยัดกว่า เห็นผลกว่า จึงเป็นที่นิยม
*ประเด็นคือ* ผมเถียงกับน้อง เรื่องการประหยัดของดีเซล คิดไม่ตก ก็เลยต้องมาถามพี่ๆที่นี่ครับ
-
เผลอๆ จะไม่ใช่แค่ ตัวถังต้านลม น้ำหนัก อัตราทดที่เน้นแนวบรรทุกอย่างเดียว
เทคโนโลยี การคำนวนต่างๆ ก็มีส่วน ถึงจะเป็นระบบจ่ายน้ำมันคอมมอนเรลเหมือนกันก็ตาม
ฝั่งเรายิ่งรีดแรงม้าเพิ่ม ยิ่งเปลือง
ฝั่งเขา รีดแรงม้ากันสบายๆ แถมประหยัดอีก
พูดถึงการลู่ลมตัวถัง X3 ก็คงต้านลมดีกว่า รถ PPV บ้านเราไม่มาก
แถมเป็นขับสี่ แต่ทำไมกลับได้ 16.4 กิโลลิตรมาได้ล่ะ
X5 ซึ่งตัวใหญ่กว่าก็ยังได้ 14.5
-
x3 เครื่อง 2.0 L มันประหยัดอยู่แล้วครับ เครื่องดีเซล บ้านเรายังไม่ค่อยมีด้วยซิ มีแต่ 2.5 ขึ้นไป
ที่มาเห็นบ้างก็ใน โฟกัส แคบติวา ครูซ เท่านั้น
-
เทคโนโลยีล้วนๆครับ ดูได้จากแรงม้าแรงบิด
เทคโนโลยีสูง ก็นำมาซึ่งราคาที่สูงตาม
มันก็เท่านี้เองครับ
-
มันคงเป็นไปได้ยากที่จะทำอัตราสิ้นเปลืองได้เท่าเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อรถเก๋งนะ เพราะเครื่องสำหรับบรรทุกต้องมีชิ้นส่วนที่แข็งแรงมากๆเพื่อทนทานต่อการบรรทุกหนัก ส่วนของรถเก๋งจะทำมาเป็นแบบตรงข้าม ชิ้นส่วนมีขนาดเบาและเล็ก สามารถทำรอบเครื่องได้สูงๆ บางรุ่นไม่แพ้เครื่องเบนซิน อีกอย่างผมว่าเทคโนโลยีเครื่องดีเซลของทางฝรั่งไปไกลกว่าญี่ปุ่นมาก จริงๆแล้วญี่ปุ่นจะทำก็ทำได้ แต่จะทำให้เปลืองต้นทุนทำไม ในเมื่อยังไงมันก็ขายได้ และราคารถก็ผิดกัน ต้นทุนที่จะทุ่มให้การวิจัยพัฒนาก็ผิดกันแน่นอน
-
มันคงเป็นไปได้ยากที่จะทำอัตราสิ้นเปลืองได้เท่าเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อรถเก๋งนะ เพราะเครื่องสำหรับบรรทุกต้องมีชิ้นส่วนที่แข็งแรงมากๆเพื่อทนทานต่อการบรรทุกหนัก ส่วนของรถเก๋งจะทำมาเป็นแบบตรงข้าม ชิ้นส่วนมีขนาดเบาและเล็ก สามารถทำรอบเครื่องได้สูงๆ บางรุ่นไม่แพ้เครื่องเบนซิน อีกอย่างผมว่าเทคโนโลยีเครื่องดีเซลของทางฝรั่งไปไกลกว่าญี่ปุ่นมาก จริงๆแล้วญี่ปุ่นจะทำก็ทำได้ แต่จะทำให้เปลืองต้นทุนทำไม ในเมื่อยังไงมันก็ขายได้ และราคารถก็ผิดกัน ต้นทุนที่จะทุ่มให้การวิจัยพัฒนาก็ผิดกันแน่นอน
เอาเครื่อง 2200cdi ของ benz หรือเครื่อง 2000cdi ของ bmw ไปใส่ในรถกระบะสิครับ
ไม่ว่ารุ่นไหน ถ้าเซ็ตเกียร์และเฟืองท้ายที่เหมาะสม ผมว่าแบกได้หนักกว่า วิ่งได้เร็วกว่า
เครื่องไม่ว่าจะแบบไหน ก็สามารถทำให้เหมาะกับรถในแบบต่างๆได้ด้วยการเซ็ตเกียร์และเฟืองท้าย
ที่สำคัญที่สุดที่มันไม่สามารถทำได้คือ ราคา อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีในเวลานั้นๆครับ
-
เทคโนโลยีที่เหนือกว่า อันนี้ชัดเจนเลย ทำเครื่องออกมา แรง และ ประหยัดกว่า ขนาดขับซิ่งๆ คิกดาวตลอด ก็ยังประหยัดอยู่ดี
รถยุโรปสมัยนี้ ได้เกียร์ 7AT 8AT รอบก็ยิ่งต่ำ อัตราเร่งยิ่งต่อเนื่อง วิ่ง 100 km/h ใช้รอบแค่ 1500-1800 rpm เอง
-
เทคโนโลยีเครื่อง disel ฝั่งยุโรปไปถึงดาวอังคารแล้วครับ
-
เทคโนโลยีครับ ยิ่งจัดการได้ละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งประสิทธิภาพสูง
ยิ่งถ้าอยู่ในระดับควันตัม นาโนเทคฯ คงไม่ต้องสันดาปกันเลยทีเดียว เหอะๆ
-
เทคโนโลยีครับ ยิ่งจัดการได้ละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งประสิทธิภาพสูง
ยิ่งถ้าอยู่ในระดับควันตัม นาโนเทคฯ คงไม่ต้องสันดาปกันเลยทีเดียว เหอะๆ
เทคโนโลยีใดครับ ที่ใช้เชื้อเพลิง แล้วไม่ต้องสันดาป ควอนตัม นาโน etc. รอฟังว่าที่โนเบลอยู่ครับ
combustion, ignition, metabolism ทั้งหมดมันคือการสันดาป
-
ผมว่าการคำนวญของกล่องก้มีผลมากนะครับสมัยนี้ เพราะรถยนต์ค่ายต่างๆก้พยายามทำให้รถของตนดูฉลาดขึ้นเหมือนกัน อัตราการทดเกียร์ก้มีผล
BMW มี technology นึงครับที่เรียกว่า Efficient Dynamic เวลาเบรคตัวเบรคจะผลิตกระแสไฟฟ้ากลับมาที่แบตเตอรี่แล้วนำไปหล่อเลี้ยงเครื่องเสียง ระบบแอร์ และระบบไฟต่างๆ ซึ่งทำให้ไม่สิ้นเปลืองแรงของเครื่องยนต์ก้เลยทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ
-
รอดูผลทดสอบเกาหลีครับ