Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wisidsak ที่ สิงหาคม 26, 2009, 14:38:39
-
แรกๆ เหมือนจะเทไปทาง ไฮโดรเจน กันเลย ในยุค Honda FCX แรกๆ BMW ก็มี Mazda ก็มี หลายๆเจ้า
แต่ทุกวันนี้เหมือนจะเป็นไฟฟ้าเสียบปลั๊ก กันซะแล้ว
แต่คิดว่าอนาคต โลกไม่น่าจะมีสองพลังงานไปพร้อมกันแน่เลยครับ เพราะคงเป็นเรื่องของต้นทุนการผลิต
ค่ายรถยนต์คงไม่มานั่งทำรถ โมเดลนึง มีทั้งไฟฟ้า ทั้งไฮโดรเจน เพื่อให้ลูกค้าเลือกหลอกเน๊อะครับ
คิดว่าน่าจะมีการเลือกทางเดินคล้ายๆ กับการแข่งกันของเทคโนโลยี HD-DVD กับ Blue-Ray ประมาณนั้นเลยอ่ะครับ
เพื่อนๆ พี่ๆ ว่ากันว่า สุดท้ายอะไรจะมาแทนน้ำมันอ่ะครับ
-
ไฟฟ้าครับ ฟันธง!!!!!
-
น่าจะไฟฟ้านะครับเพราะต้นทุนเทคโนโลยี่น่าจะถูกกว่า
-
ไฟฟ้า ครับ
เพราะยังไงๆ ไฮโดรเจน ก็ต้องไปทำปฏิกิริยา กันกับ Fuel Cell Stack จนกลายเป็น ไฟฟ้า เพื่อมาหมุนลงล้อรถ อยู่ดี
เพียงแต่ ก่อนจะถึงเวลาของไฮโดรเจน ก็คงเป็นรถไฟฟ้ากันก่อน
และเผลอๆ อาจจะไปทางรถไฟฟ้ากันเต็มตัวเลยก็ได้
-
ไฟฟ้าครับ ;D
-
ไฟฟ้าแน่นอนครับ
-
เห็นด้วยว่าพัฒนาไฟฟ้าน่าจะง่ายกว่าไฮโดรเจนครับ ::)
-
มาเชียร์ไฟฟ้าครับ
-
มนุษย์พยายามหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันโดยการคิดค้นสิ่งที่จะมาทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนแทนการใช้น้ำมัน
ถ้าไฟฟ้าเป็นตัวเลือกนั้นจริงๆ ถึงจะลดการใช้น้ำมันได้ แต่ก็ต้องใช้ไฟฟ้า และก่อนจะมาเป็นไฟฟ้าได้ ก็ต้องพึ่งน้ำมัน
ในการผลิตกระแสไฟ แล้วสรุปว่า ในท้ายที่สุดก็ต้องพึ่งน้ำมัน ^^ ใช่หรือเปล่า ผมเดาเอาอ่ะ
-
เงินที่ลงไปกับ ไฮโดรเจน จะเก้อกันหรือเปล่านะ ไม่น่าจะน้อยๆ
-
ไฟฟ้าก่อน แล้วค่อยไฟฟ้าจากไฮโดรเจนครับ เพราะเติมเป็นแก๊ส น่าจะเร็วกว่าประจุใส่แบต
-
เราหวังว่าจะให้มันเป็นไฮโดรเจน
-
;D ;D ;D..............hybrid n flexfuel (ethanol) ha....................i i
funnybear
-
ไฮโดรเจนน่าจะเข้ากับโรงไฟฟ้า
ไฟฟ้าเข้ากับรถยนต์
ความคิดผมนะ
-
เอางี้ดีกว่า
hybrid ติดถังแก็สเทพเติมได้ทั้ง lpg ngv แถมด้วยพลัง flexfuel ดีเซล ยัน อี(ขี้โม้) 85
วันไหนหมดตูดก็กรอกน้ำใส่หรือหาเศษขยะมาใส่แทนน้ำมัน(เหมือนหนังเรื่อง black to the feature)
หรือหาไม่ได้จริงก็มีระบบดูดลมและแสงอาทิตย์มาปั่นแทน
แต่
ตกใจตื่นมาเสียนี่ แหม่! เสียดายจัง................. :P
-
ไฟฟ้า แบบเสียบปลั๊กชาร์จได้และเติมไฮโดรเจนได้
มนุษย์พยายามหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันโดยการคิดค้นสิ่งที่จะมาทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนแทนการใช้น้ำมัน
ถ้าไฟฟ้าเป็นตัวเลือกนั้นจริงๆ ถึงจะลดการใช้น้ำมันได้ แต่ก็ต้องใช้ไฟฟ้า และก่อนจะมาเป็นไฟฟ้าได้ ก็ต้องพึ่งน้ำมัน
ในการผลิตกระแสไฟ แล้วสรุปว่า ในท้ายที่สุดก็ต้องพึ่งน้ำมัน ^^ ใช่หรือเปล่า ผมเดาเอาอ่ะ
พลังงานลมกับพลังงานแสงอาทิตย์
โดยพลังงานลมทำเป็นแบบ Wind Farm ขนาดใหญ่ ระดับ MW ขึ้นไป
พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นสถานีย่อยขนาดเล็ก-กลาง หรือใช้ตามที่พักอาศัย
-
คิดไปคิดมา ขับรถที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ก็เหมือนดูหนังญี่ปุ่นแล้วไม่มีเสียงคราง :-[
เศร้าเนาะ ;D
-
เอางี้ดีกว่า
hybrid ติดถังแก็สเทพเติมได้ทั้ง lpg ngv แถมด้วยพลัง flexfuel ดีเซล ยัน อี(ขี้โม้) 85
วันไหนหมดตูดก็กรอกน้ำใส่หรือหาเศษขยะมาใส่แทนน้ำมัน(เหมือนหนังเรื่อง black to the feature)
หรือหาไม่ได้จริงก็มีระบบดูดลมและแสงอาทิตย์มาปั่นแทน
แต่
ตกใจตื่นมาเสียนี่ แหม่! เสียดายจัง................. :P
เอาแบบวิ่งได้ไม่ต้องมีแหล่งพลังงานเลยดีกว่าครับ master generator ปั่นไฟขึ้นมาเองไม่ต้องง้ออาหาร
-
ผมคิดว่าเป็นไฟฟ้าครับ
ถึงแม้ทำนายกันว่าอีกหลายสิบปีกว่าน้ำมันจะหมดโลก แต่โลกรถยนต์จะถึงคราวต้องหย่าขาดน้ำมันเร็วกว่านั้น
ทั้งนี้เพราะมันยังมีพาหนะที่มีความสำคัญมากอีกชนิดนึงที่ต้องใช้น้ำมัน และใช้เยอะมากด้วย นั่นก็คือเครื่องบิน
ผมขอเดาว่า
ภายในปี 2019 รถยนต์ไฟฟ้า (หรือรถยนต์ที่มีกลไกขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าประกอบ) จะมีอัตราส่วนยอดขายเทียบกับรถพลังสันดาปภายในแบบเกือบจะ 50:50
ปี 2019 รถทุกค่ายไม่เว้นแม้แต่ Porsche, Ferrari หรือ Lamborghini จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ ส่วนเครื่องยนต์นั้น รถ 1.3 ลิตรจะให้กำลังแรงเท่ากับเครื่อง 1.6ลิตรของทุกวันนี้ และเทอร์โบจะเข้ามามีส่วนช่วยในการเรียกพลัง รถที่เคยความจุใหญ่โต จะมีความจุเล็กลง และหันมาเรียกพลังด้วยเทอร์โบแทน ในที่นี้คือ 1.8 ลิตรเทอร์โบ 260 แรงม้าที่แรงบิด 300Nm ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดระดับ 12 ต่อ 1 ต้นทุนเครื่องยนต์จะสูงมากเพราะต้องใช้วัสดุที่ทนทานมากเป็นพิเศษ
ปี 2029 รถไฟความเร็วสูงพลังไฟฟ้า และรถไฟรางเดียวชนิด Maglev ที่วิ่งได้เร็ว 500-600 ก.ม./ช.ม. จะถูกนำมาใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงภายในประเทศ และภายในทวีป แทนที่การใช้เที่ยวบินภายในประเทศ
ปี 2039 ตั๋วเครื่องบินจะมีราคาแพงระยับ และเครื่องบินจะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับการเดินทางข้ามทวีประยะไกลเท่านั้น ส่วนทางด้านรถยนต์ รถที่เป็นรถธรรมดาสำหรับคนทั่วไป จะเป็นไฟฟ้ากันหมดแล้ว และรถที่ใช้เครื่องสันดาปภายใน จะมีแต่รถเก่า หรือรถที่เป็นของพิเศษสำหรับคนที่หลงใหลในเสียงเครื่องยนต์ ซึ่งต้องแลกมาด้วยภาษีมลภาวะแพงมหาศาล
เดาเอามั่วๆแบบนี้แหละ ความคิดโลดแล่นดี
-
น่าจะใช้พลังงานนิวเคลียร์กันไปเลย เหอ ๆ ๆ ระเบิดมาทีก็ :o
-
ไม่แน่อนาคต หลังคารถ อาจมีติดตั้งแผงโซลาห์เซลก็ได้ เพิ่มการอัดประจุไฟฟ้าไปในตัว
อย่างถ้ารถติดก็สบาย ไม่ต้องกลัวแบตหมด
แต่คงต้องรอให้เค้าพัฒนาประสิทธิภาพของแผงโซลาห์เซลให้ดีกว่าปัจจุบันก่อน
เพราะเทคโนโลยีตอนนี้นำแสงมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า ยังได้ประสิทธิภาพไม่ถึง 10% เลย และมีขนาดใหญ่
-
กับรถ คงเป็นไฟฟ้า
แต่จะเอาอะไรไปผลิตไฟฟ้า ก็อีกเรื่อง
- ถ่านหิน
- นิวเคลียร์
- ไฮโดรเจน
- พลังงานแสงอาทิตย์
- พลังงานลม
- พลังงานน้ำ
ฯลฯ
-
ไม่แน่อนาคต หลังคารถ อาจมีติดตั้งแผงโซลาห์เซลก็ได้ เพิ่มการอัดประจุไฟฟ้าไปในตัว
อย่างถ้ารถติดก็สบาย ไม่ต้องกลัวแบตหมด
แต่คงต้องรอให้เค้าพัฒนาประสิทธิภาพของแผงโซลาห์เซลให้ดีกว่าปัจจุบันก่อน
เพราะเทคโนโลยีตอนนี้นำแสงมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า ยังได้ประสิทธิภาพไม่ถึง 10% เลย และมีขนาดใหญ่
Solar cell efficiencies vary from 6% for amorphous silicon-based solar cells to 40.7% with multiple-junction research lab cells and 42.8% with multiple dies assembled into a hybrid package.
รถคันที่ชนะการแข่งขัน World Solar Challenge ใช้อยู่ที่ 34% ครับ
-
คิดไปคิดมา ขับรถที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ก็เหมือนดูหนังญี่ปุ่นแล้วไม่มีเสียงคราง :-[
เศร้าเนาะ ;D
หึหึ หนังอะไรหรอค๊าบ ^^
-
คิดไปคิดมา ขับรถที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ก็เหมือนดูหนังญี่ปุ่นแล้วไม่มีเสียงคราง :-[
เศร้าเนาะ ;D
หึหึ หนังอะไรหรอค๊าบ ^^
โตเกียวดริฟท์น่ะสิ
-
;D ;D ;D...........Oh my goodness, even only one day shortage of natural
gas supplied to powering EGAT generators and might blackout our power
to the whole!!! Then could we imagination if 5-6 million of the hybrid cars
plug-in to recharge thier batteries in the same time!!........Is that EGAT
could handle that???.................555
booboo