Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: saransaran ที่ เมษายน 02, 2012, 10:22:50

หัวข้อ: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: saransaran ที่ เมษายน 02, 2012, 10:22:50
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: Oslan ที่ เมษายน 02, 2012, 10:33:28
ขนาดตัว Swift ผมมองว่า 1.2 โออยู่นะ

ถ้า Swift ต้อง 1.5 ถึงจะเหมาะ แล้ว Almera ไม่ต้อง 2000 เหรอครับ ฮา  ;D
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: hong_G ที่ เมษายน 02, 2012, 10:43:03
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

 
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: Zx-III ที่ เมษายน 02, 2012, 10:44:24
volvo s60ใหม่ไงครับ 1.6turbo อัตราเร่ง กินน้ำมันดีกว่าเบนซินเจ้าอื่นอีก
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: RUKTOOKKHON ที่ เมษายน 02, 2012, 10:45:33
การจะปล่อยรถออกมาแต่ละรุ่น ผมว่ามันเป็นโปรเจ็คใหญ่อยู่นะ
เขาคงทดสอบ และทำวิจัยมาแล้วล่ะ และรถรุ่นใหม่ๆ มักจะพัฒนามากกว่ารุ่นเก่า (ในภาพรวม)


แต่ยังไงก็ต้องดูกันยาวๆล่ะครับ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: jAk ที่ เมษายน 02, 2012, 11:03:56
เครื่องยนต์สมัยนี้พัฒนาไปเยอะครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งCCสูงๆเหมือนสมัยก่อนก็แรงได้ ประหยัดได้

หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ เมษายน 02, 2012, 11:24:27
Trend สมัยนี้คือ เครื่องเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน
แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

ตย. Mazda 3 1.6 ค่อนข้างจะชัดเจนว่า ขนาดของเครื่องยนต์ ควรเหมาะสมกับน้ำหนักของรถด้วย รถเครื่องใหญ่ไม่จำเป็นว่าจะต้องกินน้ำมันมากกว่าเครื่องเล็กเสมอไปครับ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: tokyo ที่ เมษายน 02, 2012, 11:27:26
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ

ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ

อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก  T__T

ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ  อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก

เห้นด้วยเลยครับ บางคนที่เปลี่ยนเครื่องจาก 1.6ไป2.3 ยังบอกเลยว่า กินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิม
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ เมษายน 02, 2012, 11:44:43
อยู่ที่แรงม้า แรงบิต เหมาะสมกับช่วงความเร็วที่เท่าไหร่
 ขับช่วงความสูง กินกว่า เนื่องจาก ต้องเค้นรอบเครื่องมากเพื่อให้ได้กำลัง
ซีซีน้อยและซีซีมาก แรงม้ามากแรงบิตมากขับช่วงความเร็วสูงประหยัด กว่า เพราะไม่ต้องเค้นแรงแรงมากเครื่องไม่ต้องทำงานหนัก
ซีซีน้อย แรงม้าน้อยแรงบิตน้อย อาจประหยัดกว่าที่ความเร็วต่ำ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ เมษายน 02, 2012, 11:50:52
อยากให้มาสด้าเอารุ่นที่ccน้อยๆมาใส่เทคโนโลยีเทอโบบ้างได้แล้ว โตโยต้า นิสสัน ฟอร์ด เค้ากำลังมาทางนี้กันหมด เดี๋ยวตกยุคน๊า
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: pong_ru ที่ เมษายน 02, 2012, 12:25:00
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ เมษายน 02, 2012, 12:44:57
สมัยนี้ ทำได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีเทอร์โบยิ่งสบาย แต่ก็สึกหรอเหมือนเครื่องเทอร์โบอื่นๆทั่วไปนั่นแหละ

แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ

กลัวว่าติดแก๊ส เครื่องก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติเหมือนกันน่ะสิครับ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: panjap ที่ เมษายน 02, 2012, 13:09:12
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN (http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN)
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada

แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: NgoH ที่ เมษายน 02, 2012, 13:24:05
US ประเทศใหญ่โต เครื่องเล็กวิ่งไม่ไหวแน่ๆ จากนิวยอค-แอลเอ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: jimsrsa ที่ เมษายน 02, 2012, 13:25:37
ต้องใช้ระบบเกียร์ทดช่วยครับ เดี๋ยวนี้ก็มี CVT มาช่วยไง 5-10 Speed แล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: pong_ru ที่ เมษายน 02, 2012, 17:14:16
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว

มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร

เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี

http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN (http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN)
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada


แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว  รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น

z,
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: pong_ru ที่ เมษายน 02, 2012, 17:41:26
ผมหมายถึงรถขนาดใหญ่แล้วมาใส่เครื่องเล็ก เช่น E-Class S-Class   พวก E-200 cgi E-250 cgi มันมาเมืองไทยเพราะเหตุผลด้านภาษี  ผมอยากชับเครื่องใหญ่ที่มีเทคโนโลยีไฮบริด และการสั่งให้เครื่องทำงานเพียงบางสูบ แต่ยามที่ต้องการพลังให้มาครบ ๆ ทุกสูบ   ผมเองใช้ V60 มาสองอาทิตย์แล้ว อัตราเร่งดี พละกำลังพอเพียงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากเครื่อง 1600 CC  แต่ทุกครั้งที่เหยียบฟิลลิ่งมันเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)   ที่ชอบมากคือระบบครูทคอนโทลแบบแปรผัน  อันนี้สุดยอด
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: saransaran ที่ เมษายน 02, 2012, 19:09:23
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ เมษายน 02, 2012, 19:56:21
ตอนนี้อยากรู้มากว่า 2,000CC TwinPowerTurbo จะกินเท่าไหร่นะคับ :P
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ เมษายน 03, 2012, 00:11:09
ไม่จริงครับ

แรงม้า แรงบิด ต้องสมตัวรถครับ ถึงจะประหยัด

Civic 1.8 โฉมปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ครับ
ซึ่ง
แรงกว่า และ ประหยัดกว่า รถเครื่อง 1.5 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
แรงใกล้ๆ แต่ประหยัดกว่า รถเครื่อง 2.0 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
หัวข้อ: Re: จริงหรือครับ ที่รถ CC น้อย แต่ต้องแบกน้ำหนักตัวใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า??
เริ่มหัวข้อโดย: pong_ru ที่ เมษายน 03, 2012, 17:58:10
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC  ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร  กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10)  (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)

อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
Volvo V60 เติม E85 รถติดมาก ๆ อนุเสาวรีย์ชัย - พระรูปทรงม้า ไปกลับ เช้า เย็น 5 วัน เฉลี่ยได้ 5 กม./ลิตร
                 ความเร็วคงที่ที่ 110 กม./ชม. เฉลี่ยได้ประมาณ 11 กม./ลิตร