Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: saransaran ที่ เมษายน 02, 2012, 10:22:50
-
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว
มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร
-
ขนาดตัว Swift ผมมองว่า 1.2 โออยู่นะ
ถ้า Swift ต้อง 1.5 ถึงจะเหมาะ แล้ว Almera ไม่ต้อง 2000 เหรอครับ ฮา ;D
-
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ
ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ
อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T
ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก
-
volvo s60ใหม่ไงครับ 1.6turbo อัตราเร่ง กินน้ำมันดีกว่าเบนซินเจ้าอื่นอีก
-
การจะปล่อยรถออกมาแต่ละรุ่น ผมว่ามันเป็นโปรเจ็คใหญ่อยู่นะ
เขาคงทดสอบ และทำวิจัยมาแล้วล่ะ และรถรุ่นใหม่ๆ มักจะพัฒนามากกว่ารุ่นเก่า (ในภาพรวม)
แต่ยังไงก็ต้องดูกันยาวๆล่ะครับ
-
เครื่องยนต์สมัยนี้พัฒนาไปเยอะครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งCCสูงๆเหมือนสมัยก่อนก็แรงได้ ประหยัดได้
-
Trend สมัยนี้คือ เครื่องเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน
แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ
ตย. Mazda 3 1.6 ค่อนข้างจะชัดเจนว่า ขนาดของเครื่องยนต์ ควรเหมาะสมกับน้ำหนักของรถด้วย รถเครื่องใหญ่ไม่จำเป็นว่าจะต้องกินน้ำมันมากกว่าเครื่องเล็กเสมอไปครับ
-
ผมว่า มันอยู่ที่ แรงม้า-แรงบิด/น้ำหนัก นะครับ
ต่อให้เครื่องเล็กลง แต่แรงม้า-แรงบิด เหมาะสม ก็ประหยัดน้ำมันได้ครับ
อย่าง Mazda3 1.6 ตัวรถหนัก ใส่เครื่องเล็กแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดเลย กินกว่าเครื่อง 2.0 เสียอีก T__T
ส่วน March , Almera , Swift พวกนี้เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก..บางประเทศใส่เครื่อง 1.2 , 1.4 ขายก็มีครับ อีกทั้ง เครื่อง 1.5 ของ Swift เก่าแรงม้า-แรงบิด แทบไม่ต่างกับ 1.2 ของ New Swift เท่าไหร่เลยครับสูสีมาก
เห้นด้วยเลยครับ บางคนที่เปลี่ยนเครื่องจาก 1.6ไป2.3 ยังบอกเลยว่า กินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิม
-
อยู่ที่แรงม้า แรงบิต เหมาะสมกับช่วงความเร็วที่เท่าไหร่
ขับช่วงความสูง กินกว่า เนื่องจาก ต้องเค้นรอบเครื่องมากเพื่อให้ได้กำลัง
ซีซีน้อยและซีซีมาก แรงม้ามากแรงบิตมากขับช่วงความเร็วสูงประหยัด กว่า เพราะไม่ต้องเค้นแรงแรงมากเครื่องไม่ต้องทำงานหนัก
ซีซีน้อย แรงม้าน้อยแรงบิตน้อย อาจประหยัดกว่าที่ความเร็วต่ำ
-
อยากให้มาสด้าเอารุ่นที่ccน้อยๆมาใส่เทคโนโลยีเทอโบบ้างได้แล้ว โตโยต้า นิสสัน ฟอร์ด เค้ากำลังมาทางนี้กันหมด เดี๋ยวตกยุคน๊า
-
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว
มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร
เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี
-
สมัยนี้ ทำได้อยู่แล้วครับ ถ้ามีเทอร์โบยิ่งสบาย แต่ก็สึกหรอเหมือนเครื่องเทอร์โบอื่นๆทั่วไปนั่นแหละ
แต่ตัวผมเอง ชอบรถเครื่องใหญ่มากกว่านะ เพราะมักจะทนกว่า ถ้าอยากประหยัดจับไปติดแก๊สก็จบ
กลัวว่าติดแก๊ส เครื่องก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติเหมือนกันน่ะสิครับ
-
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว
มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร
เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี
http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN (http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN)
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada
แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น
-
US ประเทศใหญ่โต เครื่องเล็กวิ่งไม่ไหวแน่ๆ จากนิวยอค-แอลเอ
-
ต้องใช้ระบบเกียร์ทดช่วยครับ เดี๋ยวนี้ก็มี CVT มาช่วยไง 5-10 Speed แล้วมั้ง
-
เริ่มเห็นเป็นเทรนด์สำหรับรถที่ CC น้อย แบกน้ำหนักตัวใหญ่ แต่เพิ่ม Turbo เข้าไปเพื่อรีดแรงม้าให้วิ่งออก อย่างเช่น Ford Ranger 2.2 ที่แบกน้ำหนักเกือบสองตัน หรือโฟกัสอีโคบูสต์ หรือแม้แต่ Swift 1.2 ที่ปกติ ควรจะเป็น 1.5 ถึงจะเหมาะกับขนาดตัว
มันจะทำให้กินน้ำมันน้อยลงได้เหรอครับ แล้วในระยะยาว มันจะทำให้เครื่องสึกหรอเร็วขึ้น โทรมเร็วขึ้นหรือเปล่า เหมือนเอานักมวยรุ่นเล็ก ข้ามรุ่นไปชกรุ่นใหญ่ ขนาดตัว D-Max ตัวเก่าของผม เมื่อก่อนกินน้ำมัน 15 โลลิตร ตอนนี้เหลือ 12 โลลิตร
เมืองไทยคิดภาษีตาม ซีซี ผู้ขายต้องการทำราคาเลยนำแต่รุ่น ซีซี ต่ำเข้ามา ในอเมริกา เบนซ์ 1.8 ไม่มีขายหรอก ถึงมีก็คงไม่มีใครซื้อ เห็นมีแต่ 3000 - 3500 ซีซี เวลาใช้งานในเมือง หรือรถติด ก็ใช้เทคโนโลยีบังคับให้มันทำงานแค่ 1500 ซีซี
http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN (http://www.mbusa.com/mercedes/vehicles/class/class-C/bodystyle-SDN)
อเมริกามีขายเยอะไปครับ เครื่อง 1.8 เทอร์โบ สมัยก่อน lancer champ เราขาย เครื่อง 1.5 ยังมีเลยแถว north america & canada
ผ
แนวโน้มรถทางยุโรป จะไปกันที่เครื่องเล็ก ติดเทอร์โบ กันหมด ดู bmw สิครับ รุ่นใหม่ เป็นเทอร์โบ ทุกตัว รถญุี่ปุ่นก็แนวโน้มไปแบบนั้้นทั้งนั้น
z,
-
ผมหมายถึงรถขนาดใหญ่แล้วมาใส่เครื่องเล็ก เช่น E-Class S-Class พวก E-200 cgi E-250 cgi มันมาเมืองไทยเพราะเหตุผลด้านภาษี ผมอยากชับเครื่องใหญ่ที่มีเทคโนโลยีไฮบริด และการสั่งให้เครื่องทำงานเพียงบางสูบ แต่ยามที่ต้องการพลังให้มาครบ ๆ ทุกสูบ ผมเองใช้ V60 มาสองอาทิตย์แล้ว อัตราเร่งดี พละกำลังพอเพียงอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากเครื่อง 1600 CC แต่ทุกครั้งที่เหยียบฟิลลิ่งมันเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10) (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ) ที่ชอบมากคือระบบครูทคอนโทลแบบแปรผัน อันนี้สุดยอด
-
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10) (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)
อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
-
ตอนนี้อยากรู้มากว่า 2,000CC TwinPowerTurbo จะกินเท่าไหร่นะคับ :P
-
ไม่จริงครับ
แรงม้า แรงบิด ต้องสมตัวรถครับ ถึงจะประหยัด
Civic 1.8 โฉมปัจจุบัน ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ครับ
ซึ่ง
แรงกว่า และ ประหยัดกว่า รถเครื่อง 1.5 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
แรงใกล้ๆ แต่ประหยัดกว่า รถเครื่อง 2.0 หลายๆคัน หลายๆยี่ห้อ
-
ไม่เหมือนเหยียบเครื่องหกสูบ 2500 CC ในเรื่องการกินน้ำมัน ผมใช้ E85 ในเมืองรถติด ๆ เฉลี่ยประมาณ 5 กิโลลิตร เดินทางไกล กรุงเทพ - ปากช่อง - กรุงเทพ เฉลี่ย 9 กิโลลิตร กินพอ ๆ กับหกสูบ 2500 CC (เติม E10) (ราคาน้ำมันต่างกันลิตรละ 17 บาท เศษ)
อันนี้เป็น Volvo V60 เหรอครับ กิน 5 โลลิตรในเมืองเนี่ย
Volvo V60 เติม E85 รถติดมาก ๆ อนุเสาวรีย์ชัย - พระรูปทรงม้า ไปกลับ เช้า เย็น 5 วัน เฉลี่ยได้ 5 กม./ลิตร
ความเร็วคงที่ที่ 110 กม./ชม. เฉลี่ยได้ประมาณ 11 กม./ลิตร