Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Satanic za' ที่ เมษายน 24, 2012, 08:23:01
-
วันนี้มีคำถามมาอีกแล้ว ;D
1.abs แต่ละยี่ห้อ (หมายถึงรถแต่ละยี่ห้อนะครับ ไม่ต้องไปคำนึงถึงซัพพลายเออร์ที่ผลิตให้รถแต่ละเจ้า) มันให้ความรู้สึกเวลาทำงานเหมือนกันไหมครับ
คือ ผมเคยลองกระทืบทั้งเฟียสต้าแล้วก็ซิตี้ มันให้ความรู้สึกไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ (ผ้าเบรคโรงงานนะครับ ไม่ได้เปลี่ยน) และความรู้สึกที่ต่าง อาจจะเป็นเพราะเฟียสต้าด้านหลังใช้ดรัม แต่ซิตี้ใช้ดิสก์ก็ได้
เลยอยากถามพี่ๆที่เคยขับรถมาหลายรุ่น และคิดว่าเคยเบรคจะ ABS ทำงานกันมาแล้วหน่อยว่า รถแต่ละยี่ห้อ มันให้ความรู้สึกต่างกันหรือเปล่าครับ
2.เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ได้ไปเที่ยวหาดใหญ่มา ผมอัดคิกดาวน์รถค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะตอนแซง (อัดไป 4-5 พันกว่ารอบ)
ตอนนี้กลับมาใช้งานปกติที่ชลบุรี รู้สึกว่าเหมือนรถมันจะแรงขึ้น มันเกี่ยวอะไรกันหรือเปล่าครับ หรือว่าผมรู้สึกไปเองอะ 555
-
ไม่เหมือนกันแน่นอนครับไม่ใช่มีเฉพาะ ABS เท่านั้นขนาดแรงกดแม่ปั๊มเบรคก็ต่างกันด้วยครับไม่ใช่เฉพาะ ABS ในรถ Standard
เพราะแล้วแต่ design ของรถแต่ละคัน ถึงจะเป็นรถกลุ่มเดียวกันก็จริงแต่บางคัน ABS เวลาทำงานสั่งให้กดเบรคย้ำๆถึง 30ครั้ง/นาที บางคันก็ขยับไป 45-60ครั้ง/นาที ครับผม
ส่วนอีกข้อที่รู้สึกรถแรงขึ้น ถ้าขับความเร็วเท่าๆเดิมแต่รู้สึกว่ารอบมาเร็วขึ้น เหยีบสนุกเท้ามากกว่าเดิม น่าจะมาจากน้ำมันที่เติมมากกว่าครับ น้ำมันมีคุณภาพมากกว่า
-
1.
พื้นฐานของระบบเหมือนกันคือ จับๆ ปล่อยๆ
สิ่งที่แตกต่าง คือการถ่ายเทน้ำหนัก การไถล่ของยาง เีสียง และอื่นๆ
สมมุติ ซิตี้คันนึงล้อ 15 คันนึงล้อ 17 ความรู้สึกเวลา ABS ทำงาน ก็ต่างแล้วครับ
แต่ผลคือไม่ต่างกันครับ เอาไว้กันล้อล๊อคเหมือนกัน
2.
ปกติแล้ว เราน่าจะรู้สึกว่ารถมันอึดลง เพราะสายตาเราชินกับความเร็วมากขึ้น
สมองกลของเครื่องและเกียรอาจจะปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการขับขี่ขณะนั้น
-
ไม่เหมือนครับ ถ้าว่าแต่ ABS เพียวๆ ไม่ได้มองในแง่ความรู้สึกว่าเป็น ดรัม หรือ ดิส
ABS ในรถแต่ละรุ่น/ยี่ห้อ จำนวนครั้งในการจับปล่อย ไม่เท่ากัน
ซึ่งก็จะส่งผลมาถึงความรู้สึก เวลาที่กระทืบแป้นเบรก แตกต่างกันด้วย
-
ความรู้สึกผมก็ว่าแตกต่างกันนะครับ
อย่างรถใหญ่ที่ผมใช้ก็มี cronos และ grand vitara เทียบกับรถเล็ก mazda 323
เวลาเบรค มันให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับน้ำหนักของตัวรถรึเปล่าครับ
-
1 ต่างครับ ขนาดยี่ห้อเดียวกัน เจ๊เนาวรัตน์กับน้องมีนาของผมก็รู้สึกต่างกันเยอะ
2 เร่งดีขึ้นครับ อันนี้ยืนยัน ขับในเมืองนานๆ คราบเขม่าสะสมจะเยอะ หลังจากได้อัดซักหน่อยจะรู้สึกว่ามันโล่งขึ้น เร่งดีขึ้นเห็น
-
1. ไม่รู้ครับ
2. จริงๆน่าจะเกี่ยวกับชุดเกียร์มันจำว่าไปขับซิ่งมา คราวนี้กดเบาๆมันก็รู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะเคยแต่คลานต้วมเตี้ยมในเมืองครับ เดี๋ยว 3 4 วัน ก็กลับสู่สภาพปกติ
-
1. การออกแบบระบบ ABS ของแต่ละผู้ผลิตไม่เหมือนกัน
หลักการทำงานโดยรวมจะเหมือนกันคือมีเซนเซอร์จับการหมุนของล้อ
เมื่อใดที่ล้อทั้ง4 หมุนไม่เท่ากันเมื่อเบรค ABS จึงจะถูกสั่งให้ทำงาน ไม่ใช่ทุกครั้งที่เหยียบเบรค
จังหวะการจับ-ปล่อยของ ABS แต่ละยี่ห้อก็มีความแตกต่างกัน จับถี่กว่า แรงกว่า หรืออย่างไร ขึ้นอยู่กันการออกแบบ รวมไปถึงประสิทธิภาพโดยรวมของระบบเบรค
เช่น หม้อลมเบรค ปั้มแรงดันเบรค เซนเซอร์ ฯลฯ
2. การได้นำรถไปวิ่งทางไกลยาวๆ หรือใช้รอบสูงกว่าขับปกติ จะเป็นการเพิ่มแรงดันในทางเดินอากาศทำให้เขม่าที่ติดเกาะตามปีกผีเสื้อหลุดไป ทำให้ลื่นขึ้น และรู้สึกได้ว่าวิ่งดีขึ้น
และกล่อง ECU จะเรียนรู้พฤติกรรมการเหยียบของผู้ขับเพิ่มเติม หากกลับมาใช้ในเมืองเหมือนเดิมสักระยะ ก็จะกลับสู่สภาพเดิม
-
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อ1 ผมก็รู้สึกอยู่แล้วว่ามันต่าง อิอิ
แต่สำหรับข้อ 2 น้ำมันที่ใช้ผมใช้ e20 ตลอดครับ เลยคิดว่าน้ำมันไม่น่าใช่ปัจจัย น่าจะเกี่ยวกับเรื่องคราบเขม่า กับเรื่องของการจดจำของเกียร์อย่างที่พี่ๆบอกมากกว่า ขอบคุณมากครับ
-
1. ไม่รู้ครับ
2. จริงๆน่าจะเกี่ยวกับชุดเกียร์มันจำว่าไปขับซิ่งมา คราวนี้กดเบาๆมันก็รู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าเมื่อก่อนที่อาจจะเคยแต่คลานต้วมเตี้ยมในเมืองครับ เดี๋ยว 3 4 วัน ก็กลับสู่สภาพปกติ
ผมกลับมาอาทิตย์กว่าๆแล้วครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่ารถมันแรงกว่าแต่ก่อนเยอะเลยอะครับ ตอนนี้นี่แตะเป็นพุ่งเลยอะ แต่ไม่ได้แรงขนาดซิตี้นะครับ เจ้านั้นเค้าแรงจริง อิอิ(หมายถึงตอนเริ่มต้นออกตัวนะครับ ซิตี้จะให้ความรุ้สึกพุ่งมากกว่า ถ้ากดแบบปกติ แต่ถ้าอัดตั้งแต่เริ่มออกตัว ผมว่าใกล้ๆกันครับ แต่สงสารรถ ไม่รุ้จะอัดไปทำไม 555) ;D
-
ก็ถ้าบี้ขนาดนั้น กล่องมันคงเรียนรู้แล้วไปสั่งให้การทำงานของเกียร์และลิ้นปีกผีเสื้อขยันขึ้น
มันเลยมาตามเท้าไวขึ้น ประมาณนั้นล่ะครับ
-
1. จากที่ผมได้ดูรายการ MaxTV ในช่วงที่ทำการเบรคในโค้งที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
ABS ของเฟียสต้าจะทำงานช้ากว่าของแจ๊ซ (ในที่นี้ผมคิดว่าน่าจะเทียบกับซิตี้ได้)
อาการของเฟียสต้ามันเลยออกอาการอันเดอร์ก่อนที่ ABS จะทำงาน..
แต่ของแจ๊ซจะมีอาการโอเวอร์หลังจากที่ ABS ทำงาน เนื่องจากท้ายเบา..
2. เหมือนชุดเกียร์มันจะมีระบบบันทึกการขับขี่หรือเปล่า
-
1.ผมว่าเกี่ยวกับขนาดของตัวรถ ล้อ ยาง เลยทำให้ผลที่ออกมาไม่เหมือนกันหน่ะครับ
2.ผมมีความรู้สึกเหมือนกันว่า วันไหนขับอืดๆเรื่อยๆ ไม่คิกดาวน์ แล้วอีกวันขับแบบ จี๊ดๆ จะรู้สึกว่าอืดไปนะ แต่ถ้าวันไหนขับแบบจี๊ดๆ มา แล้วรถมันก็จะพุ่งๆ กว่าเดิม น่าจะเป็นที่กล่องEcuต่างๆมันเรียนรู้พฤติกรรมมากกว่าครับ
-
รถรุ่นเดี่ยวกัน แค่เติมลมยางไม่เท่ากัน ก็เบรคต่างกันแล้วจ้าาา
-
ABS แต่ละรุ่นต่างแน่นอน อันนี้ ไม่นับเบรคแต่ละคัน น้ำหนักรถน้ำหนักบรรทุกที่ทำให้เบรคต่างกัน มันมีตั้งแต่ จำนวน sensors จำนวน channel สมัยก่อนโฆษณารถจะใส่มา ABS 4 sensors 4 channel เดี๋ยวนี้ไม่มีบอก sensors มีตั้งแต่ 3(ล้อหน้า2ล้อหลัง1) 4(ล้อหน้า2ล้อหลัง2) 5(ล้อหน้า2ล้อหลัง2Gsensor1) ส่วน channel ก็ตามล้อ 3(ล้อหน้า2ล้อหลัง1) 4(ก็ทั้ง4ล้อ)
ส่วน kick-down บ่อย แล้วยังใช้ e20 เขม่าคงหลุดไปเพราะ Lกฮ ล้างเขม่าไปเลยเร่งลื่นขึ้น 555 อันนี้แซวนะ กล่องคงอ่านเท้าคนขับ(จะว่าอ่านใจก็คิดว่าใช้เท้าเหยียบคันเร่งไม่ได้ใช้ใจเหยียบ) แล้วจ่ายน้ำมันหน้าขึ้นหน่อย เปลี่ยนเกียร์ช้าหน่อย ให้รู้สึกทันเท้าคนขับ
ปล.คุณ PapaRo@ch~* ใช้ตัวอักษรสีอื่นก็ได้มันแสบตา อ่านยาก แล้วรู้สึกไม่ดีเหมือนเจ้าของกระทู้ทำไรผิด
-
1. ต่างกันครับ โดยเฉพาะถ้าราคารถต่างกัน ราคา ABS ก็จะต่างกันตามไปด้วย
2. ECU ของรถสมัยนี้ จะจดจำพฤติกรรมการขับขี่ได้ระดับหนึ่ง
-
เกี่ยวกับ ช่วงเวลาน้ำหนัก บรรทุกด้วย