Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YenChar ที่ พฤษภาคม 28, 2012, 08:13:58
-
เพิ่งกลับมาจากทริปกระบี่ครับ
ระหว่างทางเห็นรถกระบะเยอะมากๆ
เกิดความอยากได้รถกระบะขึ้นมาอีกแล้ว
ทั้งๆที่ชีวิตนี้...
- อยู่ในเขตเมือง-ชานเมืองเท่านั้น
- ไม่เคยใช้ที่เก็บของท้ายรถเกินครึ่งเลย ใส่แค่ไม่กี่อย่าง
- ไม่ได้ลุยอะไรมากมาย เป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้ชีวิตในเมือง นานๆจะออกทริปที
อยากทราบเหลือเกินว่าใครเคยเจอปัญหาแบบผมบ้างครับ??
กระบะสมัยนี้มันสวยบาดใจ เครื่องแรง ขับดีไม่แพ้รถเก๋ง ใหญ่โต
ถ้าผมซื้อกระบะ 4 ประตู ขับ2 ยกสูง เกียรออโต้ซักคันมาใช้แทนเก๋ง C Segment คงจะดูเท่ไม่น้อย
แต่ในใจยังกลัวๆที่ว่า
ทุกวันนี้ชอบสาดโค้ง ชอบเหยียบคันเร่งกลางโค้ง รถโหลดเตี้ย แต่งช่วงล่าง แต่งเบรค
กลัวว่าถ้าขับรถกระบะแล้ว ความชอบเดิมๆจะกลายเป็นอันตราย เพราะเห็นว่า รถกระบะทำแบบนี้ไม่ดี
ทุกท่าน มีความเห็นยังไงบ้างครับ (รู้แค่ว่า รถกระบะ โจรต้องการมากกว่า)
ช่วยดับกิเลสของผมทีครับ T^T
-
ถอยยาก หายง่าย ภาษีแพง
-
ได้ เดี๋ยวจัดให้ เอาแต่ข้อเสียล้วนๆไปเลย
1. จอดในบ้านยาก ถ้าที่จอดรถแคบๆเหนื่อยมาก
2. ถอยจอดในห้างลำบาก เจอที่จอดแล้วยังแย่ยักยันตั้งนานกว่าจะจอดได้ บางทีเจอคนมากดดันต้องทิ้งไปหาเอาข้างหน้าต่อ ทนอายโชว์ความอ่อนด้อยไม่ได้ แม้แต่ตอนวนกลับ บางทีไม่พ้นต้องถอยออกมาตั้งวงเลี้ยวใหม่
3. กะระยะลำบาก ก็มันมองไม่ถนัดนี่นา ผมเฉี่ยวเสาไปทีละคราวนี้กะได้แม่นขึ้นอีกเยอะเลย จอมยุทธต้องมีบาดแผล
4. ตอนถอยถ้ามีเด็กแถวนั้นเสี่ยงมาก เมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งดูข่าว พ่อถอยกระบะยกสูงเหยียบลูกตัวเองอายุ 3 ขวบตาย อันนี้เสียวมากแถวบ้านมีเด็กเยอะ ลูกผมก็กำลังโต
5. ตอนกลับรถลำบากมากต้องใช้วงเลี้ยวเยอะ ถ้าเส้นไหนยูเทิร์นแคบบหล่ะเป็นเรื่อง ต้องหลายขยัก เสียวอ่ะ
6. แม้แต่ไปจอดรถข้างทางก็ยังลำบาก จะใหญ่ยาวไปไหนเนี่ย
7. เกียร์ออโต้แพงมาก ในเมืองใช้ธรรมดาปวดเข่า
เอาแค่นี้พอก่อนนึกได้แค่นี้ สรุปว่าถ้าใช้ในเมืองเป็นส่วนใหญ่แล้วจะรู้ว่ากระบะควรใช้นอกเมืองหรือทางไกลมากกว่าเพราะจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปเปล่าๆ ผมเองกลางเดือนหน้าก็จะเอากระบะกลับไปเปลี่ยนเป็นเก๋งแล้ว ไม่ไหว ขับกระบะแล้วคิดถึงรถเก๋งมากเลย
-
ข้อเสียของรถกระบะคือ " กลิ่น "
1) กลิ่นหอมหรือเหม็นไม่แน่ใจ แต่มันเตะจมูกตำรวจ
2) ต้องคอยแลกแบ็งค์ยี่สิบ/แบ็งค์ร้อยติดกระเป๋าไว้คอยดับกลิ่นให้ตำรวจ
-
ผมก็รู้สึกเหมือน จขกท นะ
กระบะทุกวันนี้มันสวยจริงๆ หรือเพราะเราใช้เก๋งจนเลี่ยนแล้วก็ไม่รู้
ข้อดีมันก็มี แต่ เราจะได้ใช้ข้อดีนั้นสักกี่มากน้อย
ส่วนข้อเสีย ก็ตามที่เพื่อนสมาชิกข้างบนบอกไว้
กิเลส เป็นสิ่งที่กำจัดได้ยาก
แต่เราคุมมันได้ ............... มั้ง ;D ;D ;D
-
คือถ้าไม่มีความจำเป็นต้องบรรทุกสัมภาระมาก ๆ หรือชิ้นใหญ่ ๆ
ประกอบกับนิสัยของท่าน จขกท. ชอบสาดโค้งด้วย
ตั้งสติและสมาธิให้ดีเลยครับ ไม่เหมาะที่จะไปเล่นเท่าไหร่ ผมว่าพอได้มาแล้วขับ ๆ ไป คงจะเบื่อ
ถ้าอยากจะเล่นจริง ๆ น่าจะไปมองพวก SUV. นะ เอาไว้เผื่อไปท่องเที่ยวในเส้นทางที่รถเก๋งไปลำบาก
อย่างผมก็มีเก๋งไว้คันนึงขับในเมืองหรือไปทำงาน SUV. อีกคันก็เอาไปเข้าสวนเข้าป่าที่บ้านญาติ
แล้วผมเลือก SUZUKI NEW GRAND VITARA ครับ ชาวบ้านไม่ค่อยมีใครใช้กัน ไม่มีใบสั่ง ราคาก็ถูกที่สุดในบรรดา SUV.
ไม่ได้ขับ 4 นะ ขับหลัง ซึ่งผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้ 4 wd. น้ำมันก็ไม่บริโภคมากมายครับ ผมทำได้ค่าเฉลี่ย ทั้งวิ่งในเมืองวิ่งทางไกล
วิ่งขึ้นเข้าค้อ ที่ 14.5 ครับ ช่วงล่างทนทานดีทีเดียว ที่สำคัญ สาดโค้งมันมากครับ ผมก็ชอบสาดโค้งนะ
-
ตอนวัยรุ่นผมชอบรถเก๋งครับ
โตมาหน่อย ผมว่ากระบะ เหมาะสมกับการใช้งาน ในทุกๆด้าน ( วัยนี้ชอบลุยครับไปไหนไปได้หมด )
ถ้าตอนนี้คุณเริ่มชอบกระบะ แสดงว่า คุณเริ่ม อายุมากขึ้นละ
แต่ถ้าเลยช่วงที่ชอบรถกระบะไปอีกนิด
คุณก็อาจจะชอบ รถเก๋งแนวหรูหราอีกก้ได้ ( เริ่มเน้นสบายละ )
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
-
ตอนวัยรุ่นผมชอบรถเก๋งครับ
โตมาหน่อย ผมว่ากระบะ เหมาะสมกับการใช้งาน ในทุกๆด้าน ( วัยนี้ชอบลุยครับไปไหนไปได้หมด )
ถ้าตอนนี้คุณเริ่มชอบกระบะ แสดงว่า คุณเริ่ม อายุมากขึ้นละ
แต่ถ้าเลยช่วงที่ชอบรถกระบะไปอีกนิด
คุณก็อาจจะชอบ รถเก๋งแนวหรูหราอีกก้ได้ ( เริ่มเน้นสบายละ )
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
รู้สึกโดนคำนี้จังเลยครับ เพื่อนผมก็พูดแบบนั้น ตอนผม 15-18 ขับแต่เก๋ง 2ประตุมั่ง 4ประตูมั่ง พอมา อายุ 22 ซักเริ่มมองรถแวน เพราะรุ้สึกอยากไปไหนแบบครอบครัว พาหลานๆไปนั่นนี่ ตอนนี้ อายุ 23 ผมขับ avanza ผมเริ่มรุ้สึกว่าอยากได้รถ แนวนี้มากกว่าเก๋งซะละครับ อนาคตอยากใช้ SUV เพื่อนๆบอก แสดงว่า แก่ขึ้นละ ;D
กระบะ4ประตูสมัยนี้มันน่าใช้งานซะจริงๆ ผมไปลอง bt-50 pro มาถูกใจมากเลยครับ เหมือนขับเก๋งเลย
-
ไม่ได้มาช่วยดับกิเลสนะครับ แต่จะมาบอกว่า ถ้าจะเล่นจริงๆ แนะนำ 4 ประตู 4wd ไปเลยครับ มันจบในทีเดียว เพราะในเมื่อคุณก็มีเก๋งอยู่แล้ว ถ้าเอาขับสองมาอีก มันก็ไม่ให้ความแตกต่างมาก นอกจากขนของได้เยอะ มีขับสี่เผื่อได้มีโอกาศเอาไปลุย เอาไปปิกนิก เหมือนกระทู้ด้านล่างที่เอาไปขึ้นเขากระโดนเป็นต้น ส่วนข้อเสียท่านอื่นก็บอกมาหมดแล้ว
-
ข้อเสียของรถกระบะคือ " กลิ่น "
1) กลิ่นหอมหรือเหม็นไม่แน่ใจ แต่มันเตะจมูกตำรวจ
2) ต้องคอยแลกแบ็งค์ยี่สิบ/แบ็งค์ร้อยติดกระเป๋าไว้คอยดับกลิ่นให้ตำรวจ
อุ๊ ตรงประเด็น
อีกอย่างนึงนะครับ กระบะยังไงก็ขับไม่นิ่มนวลเท่าเก๋งครับ เคยนั่งแท็กซี่อินโนวาแล้วคนขับก็บ่นให้ฟังว่าผู้โดยสารบ่นว่ารถไม่นิ่มนวลเหมือนรถเก๋ง บางคนก็ขอลงซะงั้น
-
ในฐานะ ที่ผมใช้กระบะยกสุงมา 8 ปี จะกล่าวข้อเสียให้คุณเห็นชัดๆดังนี้
1.เนื่องจากรถกระบะยกสูง มีความสูงจากพื้นถนนเยอะ จะทำให้รถคุณลุยน้ำท่วมได้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆที่รู้จักคุณ จะขอร้องให้คุณไปช่วยลุยน้ำ ขนของ ให้ ซึ่งเป็นที่น่าลำคานเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งฝนตกหนักๆช่วงนี้ น้ำท่วมขังตามถนน ล่าสุด พึ่งเจอมากับตัวครับ ถนนมี 3 เลน รถเก๋งวิ่งขวาหลบน้ำกันหมด ไม่เหลือที่ให้กระบะเข้าไปหลบบ้างเลย ไม่รู้ทำไง ต้องวิ่งลุยน้ำที่เลนซ้ายแทน น่าอิจฉารถเก๋งจริงๆครับ และเป็นกรรมของคนขับกระบะจริงๆ เฮ่อ ... ดูจากรูปครับถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง ผมถ่ายเก็บไว้ เพราะความน้อยใจครับ
(http://image.free.in.th/z/it/1img_1074.jpg) (http://pic.free.in.th/id/36eaf8663725d919c32f2760de94260c)
2.เนื่องจาก รถกระบะ สามารถขนของได้ไม่ว่าจะเล็ก กลาง ใหญ่ ทำให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักชักชวนให้ไปขนตู้เย็นให้บ้าง ย้ายหอพักบ้าง ทั้งๆที่คนพวกนี้ก็มีรถเก๋งราคาหลายล้าน แต่มันขนไม่ได้อย่างกระบะ ทำให้เราต้อง ออกไปขนให้ทุกทีไปครับ จากรูป เหตุการน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ผมต้องไปขนของให้คุณหมอ T1K ขับรถลุยน้ำและขนของที่ อยุธยา ไปช่วยสมาชิคแมวๆของคุณหมอ ลำบากมากครับ เป็นเวรกรรมของคนมีรถกระบะจริงๆครับ เฮ่อออ ....
(http://image.free.in.th/z/if/img_2614.jpg) (http://pic.free.in.th/id/e3bdb3797438df6d2fb93f3dbd5bf5b2)
3.เวลาไม่มีที่จอดรถตามข้างทาง เช่นไปรับประทานอาหารตามร้านริมถนน เวลาไม่มีที่จอดรถ เด็กโบกรถ จะโบกให้เราต้องปีนไปจอดบนฟุตบาตบ้าง กองดินสูงๆบ้าง ไปจอดในที่ๆรถเก๋งมันจอดไม่ได้น่ะครับ แย่จริง
4.เรื่องค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา ที่ถูกเกินไป เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เข้าศูนย์ที เสียไม่เกิน 2000 บาท เลยสักครั้ง น้ำมันเครื่อง ศูนย์ก็ให้ใช้เกรดธรรมดา แกลอนละ 700-800 บาทเท่านั้น หัวเทียนก็ไม่มีให้เปลี่ยน มีแค่เปลี่ยนถ่ายของเหลวในรถตามระยะ ทำให้เราไม่รู้จักดูแลรถตัวเอง เองเลย ลูกยางหุ้มเพลา ก็ไม่มีให้เปลี่ยนเหมือนรถเก่ง ช่วงล่าง เราดูแลได้แค่โช๊คอัพเท่านั้น เพราะไม่เคยมีอะไรให้เสียให้เปลี่ยนเลย .... แย่จริงๆครับ
5.ช่วงล่างก็แข้งกระด้าง ตกหลุมตกบ่อที สะเทือนทั้งคัน หลุมเล็กหลุมใหญ่ ลงได้หมด ทำให้เราเสียนิสัย ขับรถไม่ยอมหลบหลุมครับ เจอหลุมเจอบ่อ ลง รูดลูกเดียว คนนั่งข้างๆชอบบ่นครับ ว่าทำไมไม่รู้จักหลบหลุมบ้าง ไม่เหมือนรถเก่งครับ เวลาเจอหลุมเล้กหลุมน้อย ต้องหักหลบ ยิ่งเจอหลุมใหญ่ๆนี่ต้องถึงขั้นจอดรถลงไปดูกันเลย ขับรถเก่งเถอะครับ มันทำให้เรารอบคอบ ระมัดระวังในการขับขี้ ขับรถกระบะ จะไม่ค่อยสนใจ สภาพถนนเท่าไร ...เสียนิสัยครับ
คงพอไว้เท่านี้ก่อนครับ ข้อเสียของมัน ขืนเยอะกว่านี้เดียวบริษัทฯรถกระบะจะมาฟ้องผมเอา ว่าข้อเสียเขาเอาไว้ซะขนาดนี้ หวังว่าคุณ YenChar จะไม่อยากได้มันแล้วนะครับไอ้รถกระบะบ้าๆเนี่ย .... ;D ;D
-
^
^
^
ใช้ๆๆๆๆๆ Prius ผมกล่ายเป็นรถบังคับ (ไม่ให้ใช้) ไปเลย 5555555
-
จำได้ว่าตอบไปแล้ว แล้วความเห็นของผมหายไปไหน??
-
ในฐานะ ที่ผมใช้กระบะยกสุงมา 8 ปี จะกล่าวข้อเสียให้คุณเห็นชัดๆดังนี้
1.เนื่องจากรถกระบะยกสูง มีความสูงจากพื้นถนนเยอะ จะทำให้รถคุณลุยน้ำท่วมได้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆที่รู้จักคุณ จะขอร้องให้คุณไปช่วยลุยน้ำ ขนของ ให้ ซึ่งเป็นที่น่าลำคานเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งฝนตกหนักๆช่วงนี้ น้ำท่วมขังตามถนน ล่าสุด พึ่งเจอมากับตัวครับ ถนนมี 3 เลน รถเก๋งวิ่งขวาหลบน้ำกันหมด ไม่เหลือที่ให้กระบะเข้าไปหลบบ้างเลย ไม่รู้ทำไง ต้องวิ่งลุยน้ำที่เลนซ้ายแทน น่าอิจฉารถเก๋งจริงๆครับ และเป็นกรรมของคนขับกระบะจริงๆ เฮ่อ ... ดูจากรูปครับถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง ผมถ่ายเก็บไว้ เพราะความน้อยใจครับ
(http://image.free.in.th/z/it/1img_1074.jpg) (http://pic.free.in.th/id/36eaf8663725d919c32f2760de94260c)
2.เนื่องจาก รถกระบะ สามารถขนของได้ไม่ว่าจะเล็ก กลาง ใหญ่ ทำให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักชักชวนให้ไปขนตู้เย็นให้บ้าง ย้ายหอพักบ้าง ทั้งๆที่คนพวกนี้ก็มีรถเก๋งราคาหลายล้าน แต่มันขนไม่ได้อย่างกระบะ ทำให้เราต้อง ออกไปขนให้ทุกทีไปครับ จากรูป เหตุการน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ผมต้องไปขนของให้คุณหมอ T1K ขับรถลุยน้ำและขนของที่ อยุธยา ไปช่วยสมาชิคแมวๆของคุณหมอ ลำบากมากครับ เป็นเวรกรรมของคนมีรถกระบะจริงๆครับ เฮ่อออ ....
(http://image.free.in.th/z/if/img_2614.jpg) (http://pic.free.in.th/id/e3bdb3797438df6d2fb93f3dbd5bf5b2)
3.เวลาไม่มีที่จอดรถตามข้างทาง เช่นไปรับประทานอาหารตามร้านริมถนน เวลาไม่มีที่จอดรถ เด็กโบกรถ จะโบกให้เราต้องปีนไปจอดบนฟุตบาตบ้าง กองดินสูงๆบ้าง ไปจอดในที่ๆรถเก๋งมันจอดไม่ได้น่ะครับ แย่จริง
4.เรื่องค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา ที่ถูกเกินไป เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เข้าศูนย์ที เสียไม่เกิน 2000 บาท เลยสักครั้ง น้ำมันเครื่อง ศูนย์ก็ให้ใช้เกรดธรรมดา แกลอนละ 700-800 บาทเท่านั้น หัวเทียนก็ไม่มีให้เปลี่ยน มีแค่เปลี่ยนถ่ายของเหลวในรถตามระยะ ทำให้เราไม่รู้จักดูแลรถตัวเอง เองเลย ลูกยางหุ้มเพลา ก็ไม่มีให้เปลี่ยนเหมือนรถเก่ง ช่วงล่าง เราดูแลได้แค่โช๊คอัพเท่านั้น เพราะไม่เคยมีอะไรให้เสียให้เปลี่ยนเลย .... แย่จริงๆครับ
5.ช่วงล่างก็แข้งกระด้าง ตกหลุมตกบ่อที สะเทือนทั้งคัน หลุมเล็กหลุมใหญ่ ลงได้หมด ทำให้เราเสียนิสัย ขับรถไม่ยอมหลบหลุมครับ เจอหลุมเจอบ่อ ลง รูดลูกเดียว คนนั่งข้างๆชอบบ่นครับ ว่าทำไมไม่รู้จักหลบหลุมบ้าง ไม่เหมือนรถเก่งครับ เวลาเจอหลุมเล้กหลุมน้อย ต้องหักหลบ ยิ่งเจอหลุมใหญ่ๆนี่ต้องถึงขั้นจอดรถลงไปดูกันเลย ขับรถเก่งเถอะครับ มันทำให้เรารอบคอบ ระมัดระวังในการขับขี้ ขับรถกระบะ จะไม่ค่อยสนใจ สภาพถนนเท่าไร ...เสียนิสัยครับ
คงพอไว้เท่านี้ก่อนครับ ข้อเสียของมัน ขืนเยอะกว่านี้เดียวบริษัทฯรถกระบะจะมาฟ้องผมเอา ว่าข้อเสียเขาเอาไว้ซะขนาดนี้ หวังว่าคุณ YenChar จะไม่อยากได้มันแล้วนะครับไอ้รถกระบะบ้าๆเนี่ย .... ;D ;D
เอ่อ นี่มันข้อเสียหรอครับ เหอะๆ ข้อ 4. ค่าดูแลรักษาที่ถูกเกินไป งงเลยผม นี่คือข้อเสียหรือนี่ 5555
-
ปัญหานี้แก้ไม่ยาก เอารถเก๋งคันที่มีอยู่มาทำให้มันแรงเทียบเท่ากับกระบะที่อยากได้สิท่าน ;D
-
ข้อเสียที่เจออยู่ทุกวันอ่ะครับ
เวลากลับรถถนนสองเลนหรือถนนแคบ ๆ นี่ลุ้นพอดูว่าจะพ้นหรือเปล่า
เวลาขึ้นที่จอดรถแคบ ๆ ในบางตึก ตีกวงมายังไงก็ต้อง ขยักสักทีสองทีครับ
เวลาหาที่จอดรถในห้างถ้าเจอวันไหนที่รถเยอะ แล้วเค้าจอดขวางกันทั้งสองข้าง ถ้ามีเก๋งมาข้างหลังก็ต้องให้เค้าไป
เพราะว่าต้องเสียเวลาโยกกันนานแน่นอนครับ
;D
-
กระบะเดี๋ยวนี้ทำออกมาได้ดีกว่าเมื่อก่อนครับ อย่าไปคิดมากเลยครับ ถ้าเทียบ เอาแอลติส ตัวปกติแลกกับ มาสด้าบีที50 ผมยอมแลกครับ ใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่าเยอะ สวยกว่า แรงกว่า ใหญ่กว่า แต่มันก็มีข้อเสีย รถแรงเห็นชนกันเยอะเหลือเกิน รถใหญ่ก็ใช้งานที่แคบลำบาก
-
ข้อเสียที่ผมว่าสำคัญสำหรับเจ้าของกระทู้ก็คือ ซื้อมาไม่ค่อยได้ใช้ครับ
งั้นอย่าซื้อเลยครับถ้าซื้อมาจอดซะส่วนใหญ่ และใช้รถได้ไม่คุ้มค่า
เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ
-
เรื่องของการกะระยะเข้าซอง ที่จอดรถที่บ้าน หรือสถานที่ต่างๆ นั้น ถ้าพื้นที่มันพอผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นนะครับ (เพราะมันพอ)ถ้าตรงนี้คิดว่ารับได้กับความลำบากที่เพิ่มขึ้นจากรถเก๋งนิดหน่อยก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ผมอยากให้มองเป็นเรื่องของความเคยชินมากกว่า ใช้ไปสักพักก็จะชินเอง ความเห็นส่วนตัวผมแล้วมองกลับกันครับ การใช้รถใหญ่ๆอย่างกระบะผมกลับรู้สึกปลอดภัยมากกว่าด้วยซ้ำ (ส่วนผมเริ่มต้นขับรถกระบะของคุณพ่อมาก่อนเลยชินครับ เรื่องของขนาดของรถเลยไม่ใช่ประเด็น)
อยากให้โฟกัสเรื่องของฟีลลิงการขับขี่มากกว่าครับ ถ้าไม่ได้คิดจากออก BT50 ที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ในบอร์ดว่ากันว่าขับคล้ายเก๋งที่สุด (ซึ่งต่างกันมากแค่ไหน ผมก็ไม่ทราบครับเพราะยังไม่เคยลอง) ตรงนี้ถ้าขับแล้วกระเทือนกว่าที่เคยขับเก๋งจะรับได้ไหมครับ ถ้ารับรับได้และคำนวณแล้วว่ากำลังทรัพย์ไม่ใช่ประเด็นก็จัดเลยครับ ที่ำสำคัญเด๋วทริปลุยป่าจะผุดขึ้นมาเองครับ จากประสบการณ์ส่วนตัว :D
-
ชอบกระทู้นี้จัง คนตอบแต่ละคนตอบได้น่ารักมาก :)
-
ข้อเสียในความคิดผมเองเลย คือ ขับยากในเมืองครับ หาที่จอดยาก แต่ผมก็ใช้นะ เป็นเกียร์ธรรมดา ขับในเมืองเหนื่อยครับ แค่คำเดียว :D
-
อย่าโทษและจับผิดรถกระบะเลยครับ โทษกิเลสดีกว่า
มันมีข้อดีของมัน แต่ไม่ได้ใช้ข้อดี จะเอาไปทำไม จริงไหม
-
ขับในเมืองต้อง ECO Car ครับ
เข้าซอยแคบๆทีนึงนี่น้ำตาจะเล็ด :D
-
ในช่วงเร่งความเร็วขึ้น รถกระบะจะมีแรงบิดมากกว่า แบบออกตัวแล้ว ถ้าข้างหน้าเบรคแบบกระทันหัน มีโอกาสชนตูดชาวบ้านเขามากกว่ารถเก๋งนะครับ ผมลองเอา D-Max ไปเจิมกับ Vigo มาแล้วด้วยเหตุผลข้อนี้ล่ะ
-
ข้อเสียคือ เงินโดนดูดออกจากบัญชีครับ ;D
-
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยางแพงกว่ามาก
-
เอาข้อเสียแบบอคติสุดๆนะ
1. คันจะใหญ่ไปไหน อยากได้ใหญ่แบบนั้นทำใมไม่ซื้อรถหกล้อมาขับล่ะ
2. สูงโย่ง คนเฒ่าคนแก่ กระดูกกระเดี้ยวไม่ดี จะขึ้นรถยังไง
3. ไมเนอร์ นาโน เชนจ์กันบ่อยเหลือเกิน แล้วเปลี่ยนแต่ละทีก็ออปชั่นกระปริดกระปรอย มาๆหายๆ แต่ที่แน่นอนคือเพิ่มราคา
4. แรงให้ตาย แรงบิดภูเขาเลากา ก็ยังแซงเก๋งตลาดๆบ้านๆ 1.8 ไม่ค่อยได้
-
นิสัยเสียครับ เจอหลุมไม่เคยหลบวิ่งผ่านไปเลยไม่สนใจว่าจะกระเทือนขนาดไหน พอกลับไปขับรถเก๋งเล่นเอาเงิบเหมือนกันตกหลุมทีแทบใจหาย
-
กระบะเตี้ยๆ สาดโค้งมันส์น่ะครับ ฮาๆๆ
-
อ่านความเห็นคุณ apinui แล้ว ผมว่าไปซื้อกระบะขับกันดีกว่า >_<
ส่วนข้อเสีย เท่าที่นึกออกและคนอื่นยังไม่ได้พูดถึงคือ
กระบะใช้ดีเซลครับ ซึ่งรัฐต้องเอาเงินที่เก็บจากคนใช้เบนซินมาอุด เพราะงั้น เรากำลังเอาเปรียบผู้ใช้เบนซินอยู่ครับ เพราะงั้นอย่าไปใช้ดีกว่า (ช่างเป็นเหตุผลที่ไม่มีน้ำหนักจริงๆ เหอๆ)
-
คำตอบล้นหลามมากๆ
ขอบคุณครับ
อย่าโทษและจับผิดรถกระบะเลยครับ โทษกิเลสดีกว่า
มันมีข้อดีของมัน แต่ไม่ได้ใช้ข้อดี จะเอาไปทำไม จริงไหม
โดนใจมากๆครับ
ที่กลัวที่สุดในรถกระบะคือการกดคันเร่งในโค้ง
แรงบิดเยอะ ขับหลัง ท้ายเบาเพราะไม่ได้บรรทุก กลัวมากๆครับ
ปกติขับเก๋งขับหน้าจนชิน กดคันเร่งยังไงก็ไม่แถ มีแต่บานออกโค้งแต่คุมง่ายกว่ามาก
ขอบคุณอีกครั้งครับ ระงับกิเลสให้ได้ T^T
-
เข้าโค้งแรงๆไม่มั่นใจ ช่วงล่างถ้าแข็งก็กระด้าง ถ้านุ่มก็เป็นเยลลี่
รถยาวเวลาจะจอดที่แคบๆต้องดูให้ดีว่ารถล้ำออกมาเยอะหรือเปล่า
-
ผมก็เหมือน จขกท เลยครับ แต่ผมจะชอบppvมากกว่า (ขอบอกข้อดี) ผมว่ามันขับเดินทางไกลมั่นใจกว่ารถเก๋งนะ ซึ่งเป็นฟีลที่ผมชอบมาก แม้มันจะมุด จะซิ่งไม่เท่ารถเก๋งเถอะ ส่วนเรื่องความใหญ่ของรถในการเข้าซองจอด ผมชินแล้ว แถมข้อดีอีกข้อคือ กระบะรุ่นๆหนึ่งมีอายุ7-8ปีเชียว ไม่เหมือนเก๋ง 4ปีก็เปลี่ยนโฉมแล้ว
-
ภาษีที่ต้องจ่ายประจำปีแพงครับ
กระบะ 4 ประตู
เครื่อง 3,000-3,200cc ปีละ 7-8 พันบาท
กระบะ 4 ประตู
เครื่อง 2,200-2,500 ปีละ 3-4 พันบาท
รถเก๋งเครื่อง 2,000 ปีละ 2,000 บาท ไม่เกินนี้
รถเก๋งเครื่อง 1,600 ปีละ 1,000 บาทต้นๆ
ค่าใช้จ่ายแอบเพิ่มขึ้นมาเยอะครับ
รถกระบะดีเซลถ่ายน้ำมันเครื่อง ใช้น้ำมันเยอะครับ เครื่องโต 6-8 ลิตร
ถ้าใช้สังเคราะห์ก็เท่าไหร่ละเนี่ย
เทียบรถเก๋ง ไม่เกิน 5 ลิตร เครื่อง 1,500-2,000cc
จริงๆข้อดีมันเยอะกว่าข้อเสียแหละครับ ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้
ก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ ซื้อรถ=ลด ออกจากศูนย์ล้อแตะพื้นส่วนใหญ่ราคาหายไปแล้ว 15% เป็นอย่างน้อย
-
ข้อเสียของรถกระบะคือ " กลิ่น "
1) กลิ่นหอมหรือเหม็นไม่แน่ใจ แต่มันเตะจมูกตำรวจ
2) ต้องคอยแลกแบ็งค์ยี่สิบ/แบ็งค์ร้อยติดกระเป๋าไว้คอยดับกลิ่นให้ตำรวจ
โดนมาก
เห็นทีไรต้องมา...กันตลอด ถูกกฎทุกอย่างยังจะมาหาข้ออ้าง...กันอีก
แต่ก็ไม่ให้ เดี๋ยวนิสัยจะ...ไปกว่านี้
555 เซ็ง...