Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: cdchn ที่ มิถุนายน 02, 2012, 22:27:39
-
พอดีเห็น Benz E200 NGT ราคา พอกับ BMW 520d เลยอยากรบกวนสอบว่า
E200 NGT น่าเล่นหรือเปล่า หรือว่า BMW 520d ดี
ขอบคุณครับ
-
easy choice .. F10 no doubt
-
อยู่ที่ว่าคุณอยากได้รถบุคลิกแบบไหนครับ
นิ่มๆ ผู้ดีๆ ใช้รถค่อนข้างเยอะ สนใจความประหยัดมากกว่าอัตราเร่ง ไป E200 ครับ ถ้าอยู่ในเส้นทางที่มีปั๊ม CNG จะดีมากครับ
ถ้าชอบรถขับสนุก ประหยัดน้ำมันพอประมาณ 520d ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ที่สำคัญมี BSI ด้วยครับ
ผมไม่ทราบออฟชั่นของ 520d นะครับ แต่ออฟชั่นของ E200NGT น้อยเกินไปครับ
-
BMW 520d
-
E200 NGT น่าจะรอช่วงปลายปีซักหน่อยนะครับ
หลังจากที่ facelift เริ่มทำท่าจะเข้าสายพานการผลิต
ผมว่าน่าจะได้เห็น e200 ราคา 3.1-3.2 ล้าน
-
ถ้า2ตัวนี้แนะนำเป็น BMW 520d ดีกว่า
-
520D น่าสนมากกว่าจริงๆครับเพราะราคาเท่าเดิมแต่ได้ช่วงล่างปรับไฟฟ้าเหมือน525Dแถมมาให้สำหรับปี2012ด้วยแต่ยังเล่นDVDไม่ได้และไม่มีNaviครับ ราคา3.59ยังมีส่วนลดมาก Netแล้วเหลือไม่ถึง3.4 ส่วนE200 NGT Elegance ราคา3.549ได้แค่ไฟHalogenและไม่มีDVDหรือNaviเช่นกันลดแล้วเหลือ3.4หน่อยๆ แต่ถ้าเป็นCommand OnlineมีDVDและNaviก็เพิ่ม8หมื่นเป็น3.629ลดแล้วเหลือประมาณ3.5นิดๆ เครื่องยนต์NGTก็เป็นเหมือนW211ตัวเก่าเพราะเครื่องใหม่บล็อคเดียวกันเป็นเทอร์โบฉีดตรงติดแก๊สไม่ได้ แต่ได้ถังNGVแบบใหม่ไม่ใช่ถังเหล็กซึ่งน่าจะเป็นType4ทำให้เบาลงไปเกินครึ่ง ถ้าวิ่งเยอะและมีปั๊มNGVอยู่ในเส้นทางก็น่าใช้แต่ต้องหาเวลาหลีกแท๊กซี่และรถใหญ่ดีๆ ส่วนตัวผมชอบ520Dมากกว่าแต่น้องสาวไม่ชอบDesign F10เลยไ่ปจองNGTซะแล้ว กลายเป็นW212 Elegance 2สี AMG Sport 2สี โหลมากมายจนชักน่าเบื่อซะแล้วครับ
-
ขอบคุณมากเลยครับ ที่ช่วยบอกรายละเอียดขนาดนี้
รุ่นที่ไม่มี DVD ต้องไปให้ร้านเพิ่มเองใช่ไหมครับ จะมีปัญหาประกันอะไรหรือเปล่า
ขอบคุณครับ
-
520d 2012 ไม่น่าใช่ราคา 3.59m นะครับ 3.69 หรือ 3.79 นี่แหละครับถ้าจำไม่ผิด คือแพงกว่า NGT ประมาณ 1-2 แสนบาท
ถ้าไม่ติดยี่ห้อ Benz 520d ดีกว่าเยอะครับ
ข้อดีของ 520d
1) ไฟหน้า Bi-xenon vs ไฟหน้า H4
2) เบาะดีกว่า ใหญ่กว่า
3) ช่วงล่างปรับ mode ได้
4) ประหยัดน้ำมันมากกว่า 17-20 km/l vs 13-15 km/l
5) เวลาเติมน้ำมันไม่ต้องรอนาน (เติม ngv ตจว ต้องห่อข้าวไปทานในรถด้วยนะครับ เพราะรอ 20-30 นาทีต่อครั้ง อิอิ แถมถังนึงอยู่ได้แค่ 200-300 km)
6) เข้าศูนย์เปลี่ยน นมค ไส้กรอง ทุกครั้ง เสียเงินประมาณ 3000-5000 บาท ส่วน 520d ฟรี เพราะมี BSI
7) NGT ใช้กุญแจไม่ใช้ keyless start/stop
8) เกียร์ 8 speed vs 5 speed
ข้อเสียของ 520d
1) เสียงเครื่องดีเซล บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบ
2) ความเร็วต่ำ อืดนิดๆ
3) ถ้าที่บ้านมีรถหลายคัน ระวังเติมน้ำมันผิด
4) ราคาขายต่อน่าจะตกมากกว่า
5) ต้องคอยตอบคำถามคนอื่นว่าทำไมไม่ซื้อ benz
ข้อเหมือนกัน
1) ไม่มียางอะไหล่เหมือนกัน
2) เป็นหนี้ระยะยาวเหมือนกัน
-
520d จะดีกว่ามั๊ยครับ จบในทีเดียว
นอกเรื่องนิดอยากเล่าให้ฟัง
เรื่องประหยัดของ e200 ngt มันก็มาพร้อมกับการต่อคิวเติมแก๊สกับรถสาธารณะ
หมอใช้ทุนที่รู้จักกันเคยโดนรถตู้สบถใส่หาว่ารวยแล้วยังมาขัดขวางการทำมาหากินของคนจนๆ
หลายครั้งที่เติมก็จะเจอแบบนี้อยู่บ่อยๆ แกเลยต้องพยายามเติมในช่วงที่รถน้อยๆคือประมาณบ่ายสองโมง
-
ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขให้ครับ 520Dราคา3.69ครับ ผมสับสนเพราะ520Iออกใหม่ราคา3.59ครับ ถ้าใช้NGTต้องหมั่นเติมไม่ใช่รอให้หมดถังเพราะจพเสียเวลามากอย่างที่ให้ความเห็นครับแต่ราคาแก็สยังถูกมากดังนั้นแค่ใช้สักครึ่งน้ำมันครึ่งก็ประหยัดมากๆเช่นกัน BSIประกัน5ปีหรือแสนกิโลและขยายเป็น6ปีหรือแสนสองได้แต่เสียเพิ่ม5หมื่นหกพันกว่าบาทแต่Benzรับประกัน3ปีไม่จำกัดระยะทาง ก็แตกต่างกันบ้างครับ
-
ส่วนมาก E200 NGT
เจ้าของไม่ใช่คนขับ คนขับไม่ใช่เจ้าของ
-
520d จะดีกว่ามั๊ยครับ จบในทีเดียว
นอกเรื่องนิดอยากเล่าให้ฟัง
เรื่องประหยัดของ e200 ngt มันก็มาพร้อมกับการต่อคิวเติมแก๊สกับรถสาธารณะ
หมอใช้ทุนที่รู้จักกันเคยโดนรถตู้สบถใส่หาว่ารวยแล้วยังมาขัดขวางการทำมาหากินของคนจนๆ
หลายครั้งที่เติมก็จะเจอแบบนี้อยู่บ่อยๆ แกเลยต้องพยายามเติมในช่วงที่รถน้อยๆคือประมาณบ่ายสองโมง
จริงๆน่าจะตอบกลับไปเลยนะครับว่า
ผมรู้จักใช้เงิน รู้จักประหยัด ผมถึงซื้อเบนซ์มาขับได้
ความจริงแล้วคนขับรถตู้ไม่ได้รายได้ต่ำเลยนะครับ
รายได้เดือนนึงหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว 5-6 หมื่นบาท
(อาจจะมากกว่านั้น ถ้าวิ่งรอบเยอะ หรือรับงานเหมา)
มากกว่าเงินเดือนปริญญาโทตั้งเยอะ ไม่ใช่คนจนๆแน่นอน
-
520d จะดีกว่ามั๊ยครับ จบในทีเดียว
นอกเรื่องนิดอยากเล่าให้ฟัง
เรื่องประหยัดของ e200 ngt มันก็มาพร้อมกับการต่อคิวเติมแก๊สกับรถสาธารณะ
หมอใช้ทุนที่รู้จักกันเคยโดนรถตู้สบถใส่หาว่ารวยแล้วยังมาขัดขวางการทำมาหากินของคนจนๆ
หลายครั้งที่เติมก็จะเจอแบบนี้อยู่บ่อยๆ แกเลยต้องพยายามเติมในช่วงที่รถน้อยๆคือประมาณบ่ายสองโมง
จริงๆน่าจะตอบกลับไปเลยนะครับว่า
ผมรู้จักใช้เงิน รู้จักประหยัด ผมถึงซื้อเบนซ์มาขับได้
ความจริงแล้วคนขับรถตู้ไม่ได้รายได้ต่ำเลยนะครับ
รายได้เดือนนึงหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว 5-6 หมื่นบาท
(อาจจะมากกว่านั้น ถ้าวิ่งรอบเยอะ หรือรับงานเหมา)
มากกว่าเงินเดือนปริญญาโทตั้งเยอะ ไม่ใช่คนจนๆแน่นอน
คนขับรถตู้เงินเดือน 5 หมื่น มีจริงครับ
ยิ่งพวกวิ่งสีลม-รามอินทรา ผมเห็น 4 หมื่นอัพทุกคน
ลุงคนนึงอายุ 65 ขับรถตู้ อยู่ข้างบ้านแฟนผม วิ่งนวมินทร์-สีลม แกเป็นข้าราชการเกษียร
ผมเคยกินเหล้ากับแก แกได้เงินบำนาญ 2 หมื่น + ขับรถตู้ ได้อีก 6 หมื่นกว่า
ปัจจุบันนี้ ซื้อรถตู้ไว้วิ่งวินเอง ซื้อรถให้ลูกสาว และผ่อนบ้านตรงนั้นอีกหลัง
แต่มองในมุมของอายุ พวกคนเหล่านั้นอายุ 40 ขึ้นไป กันหมดแล้ว
ถ้าอายุ 30-40 เท่ากัน เงินเดือนพอๆกัน แต่ลักษณะงาน นั่งออฟฟิศกับขับรถ มันต่างกันเยอะนะครับ
เข้าเรื่อง
ใช้ NGT ไม่ผิดหรอกครับ ค่า บาท/กิโลเมตร มันถูกกว่า ต่อให้เทียบกับ 520d ก็เถอะ
แต่สมรรถนะ F10 520D ดีกว่า ถ้าเทียบกันแล้ว E200 NGT ดีกว่าแค่เรื่องค่าแก๊สที่ถูกตังกว่า
-
ถ้าไม่ได้ทำงานเข้าเช้า ออก เย็นตามเวลา และ ตามเส้นทางมี ngv ให้เติม ผมเลือก 200ngt ครับ
แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น 520d ดีกว่าทุกอย่าง ยกเว้น ความนุ่มนวล
-
ต่อคิวเติมแก๊สกับแท็กซี่ไหวมั้ยอ่า คิวยาวน๊า :P
-
จุกจิกเรื่องแก๊สมาก เพื่อนที่ใช้บอก ได้เครื่องเก่า 5 ปีด้วยนะครับตัวนี้
-
520d จะดีกว่ามั๊ยครับ จบในทีเดียว
นอกเรื่องนิดอยากเล่าให้ฟัง
เรื่องประหยัดของ e200 ngt มันก็มาพร้อมกับการต่อคิวเติมแก๊สกับรถสาธารณะ
หมอใช้ทุนที่รู้จักกันเคยโดนรถตู้สบถใส่หาว่ารวยแล้วยังมาขัดขวางการทำมาหากินของคนจนๆ
หลายครั้งที่เติมก็จะเจอแบบนี้อยู่บ่อยๆ แกเลยต้องพยายามเติมในช่วงที่รถน้อยๆคือประมาณบ่ายสองโมง
จริงๆน่าจะตอบกลับไปเลยนะครับว่า
ผมรู้จักใช้เงิน รู้จักประหยัด ผมถึงซื้อเบนซ์มาขับได้
ความจริงแล้วคนขับรถตู้ไม่ได้รายได้ต่ำเลยนะครับ
รายได้เดือนนึงหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว 5-6 หมื่นบาท
(อาจจะมากกว่านั้น ถ้าวิ่งรอบเยอะ หรือรับงานเหมา)
มากกว่าเงินเดือนปริญญาโทตั้งเยอะ ไม่ใช่คนจนๆแน่นอน
หุหุหุ ไปขับรถตู้เป็นงานเสริมกันดีมั๊ยพี่น้อง รายรับจะได้หลักแสนซะที
-
ถ้าเน้นประหยัด แน่นอนว่า ค่าแก๊สของ E200 NGT ถูกกว่า ค่าน้ำมันของ 520d พอสมควรแน่นอน
แต่อย่าลืมนะครับ จะเติมทีนึง ต้องต่อคิวยาวเลยนะครับ ต้องหาปั้มที่คนน้อยๆ แถมเติมทีนึง ผมคิดว่า วิ่งได้ไม่เกิน 200-300 กิโลหรอก ถ้าให้เดา
เรื่องสมรรถนะ ขอเดาว่า เป็นเครื่องที่ใช้จาก W211 แน่นอน เพราะเครื่่องฉีดตรงมันติดแก๊สไม่ได้ กำลังแค่ 163 แรงม้า กับรถหนักขนาดนี้ น่าจะอืด
ในทางกลับกัน 520d ซึ่งก็ประหยัดน้ำมันมากๆ เติมถังนึง ผมว่าเกิน 1000 โลแน่นอน แต่ให้อัตราเร่งที่แรงมากๆ เมื่อเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองระดับใกล้ๆกะ Eco car เครื่องแค่ 3 สูบ
-
520ดี ดีกว่าครับ ไม่ต้องต่อคิวยาว
เครื่องดีเซลยุโรปเขาประหยัดน้ำมันนะจะบอกให้
-
อยากให้มี C180 NGT บ้างจังเลยครับ