Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: touchme ที่ มิถุนายน 06, 2012, 00:29:42
-
เนื่องจากว่ามีคนรู้จักจะขายดาวน์ BMW X1 ซึ่งผ่อนต่อเดือนมากกว่าfortuner แค่ 3 พันบาท
แต่สิ่งที่กลัว
1.พื้นที่ด้านหลัง X1 สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้เยอะหรือไม่(ปกติเดินทางบ่อย ใช้Fortuner ใส่ข้างหลังได้ 3 ใบ)
2. อัตตราเร่งประมาณ CRV 2.0 หรือเปล่าครับถ้าใช่ก้พอจะรับได้
-
เหมือน CRV แทบทุกประการเลยครับ ไซส์ เครื่อง อื่นๆ ต่างกันที่ X1 ขับหลัง
ก็ไม่มีอะไรมากครับ อ้อ มีเกียร์ 6 Speed ด้วย แต่โดยรวมถ้าเทียบกันจริงๆ
ก็ประมาณ CRV เลยหละครับแต่ลุคดูไฮโซกว่าหน่อย ผมว่าก็คุ้มนะครับถ้าชอบแนวนี้ ;)
-
เอาสวยหรือเอาคุ้มล่ะครับ
เลือกเอาเอง :)
-
ติดอีกเรื่องคือ Fortuner ต้องใช้ออก ตจว ปีละ 2-3 ครั้ง(ไหว้บรรพบุรุษ) X1 จะมาแทนตรงจุดนี้ได้ไหมครับ
-
ถ้าหมายถึงเรื่องเครื่องยนต์ .... น้องมีนา(Nissan March)ยังวิ่งขึ้นดอยไปเชียงใหม่ได้เลยค๊าบบบบ :P
แต่ถ้าเป็นเรื่องบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 5-6 คนก็ไปได้แน่นอนครับ
-
นั่งไม่เกินห้าคนก็เอาเจ้า X1 ได้ครับ
-
ให้เลือก2คันนี้ผมเอา X1 เรื่องพื้นที่ด้านหลังได้อยู่นะ
-
ถ้าอยากได้ภาพลักษณ์ที่ดูดีขึ้น ก็สอยX1มาเลยครับ
-
x1 เลยครับ ดูดี กว่าเยอะ
-
ฟอร์จูนเนอร์มีข้อดีกว่า X1 อยู่ 3 ข้อ
1. พื้นที่ห้องโดยสารเยอะ บรรทุกของสูงๆ หรือขนของเยอะๆได้
กระถางต้นไม้ จักรยานพับ เรือยาง ตรงนี้ฟอร์จูนเนอร์มีพื้นที่ภายในสูงกว่า ขนได้ดีกว่า
(ไม่เีสียดายรถด้วยครับ)
2. พื้นฐานรถกระบะ ทนทานกว่า ลุยๆไป ไม่ต้องเสียดาย
เครื่องดีเซล KD เกลื่อนตลาด เพื่อนเพียบ
อะไหล่ช่วงล่างถูก โช๊คอัพเบิกศูนย์แพงหน่อย แต่หาเอาข้างนอกได้ในราคาถูกเหลือเชื่อ
ใช้ยาวๆ 10 ปีได้เหมือนรถกระบะ
3. ราคาขายต่อ ปล่อยขาย แปปเดียวขายได้ ราคาไม่ตก ไม่เจ็บตัว
นอกนั้น X1 ดีกว่าเกือบทุกด้าน
ขับดีกว่า มั่นใจกว่า เครื่องสมรรถนะดีกว่า ประหยัดน้ำมัน+อัตราเร่ง
ภายในนั่งสบายกว่า ภาพลักษณ์ดีกว่า และเป็นที่ต้องการของโจรน้อยกว่าด้วย หุๆ
-
มันขึ้นอยู่กับว่า จขกท ใช้รถสมบุกสมบันหรือเปล่าครับ
ถ้าคุณวิ่งยนถนนลาดยางเป็นหลักล่ะ X1 น่าสนครับ แต่ถ้าต้องวิ่งทางธุรกันดารบ้างใช้ฟอร์จูนเนอร์เหมือนเดิมดีกว่าครับ
อ้อ ถ้าคุณใช้รถนานเกิน BSI หมดแล้วล่ะ ก็อย่าลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของ X1 ด้วยนะครับ
-
X1 ครับ
-
X1 ครับ คนขับหล่อขึ้น20% ที่สำคัญช่วงล่างดีกว่ามากมายครับ
-
เรื่องนี้ตัดสินแค่ 2 อย่าง ความชอบของตัวรถ กับ ตังในกระเป๋าอนาคต ^^ BM เคยมีอะไหล่ถูกมั้ยหรอฮะ ผมอยากรู้จริง ๆ แต่อย่างว่ารถมันคนละแบบ SUV กับ PPV ใช่ปะ
-
เรื่องนี้ตัดสินแค่ 2 อย่าง ความชอบของตัวรถ กับ ตังในกระเป๋าอนาคต ^^ BM เคยมีอะไหล่ถูกมั้ยหรอฮะ ผมอยากรู้จริง ๆ แต่อย่างว่ารถมันคนละแบบ SUV กับ PPV ใช่ปะ
ถ้าชอบ X1 จริงอย่างน้อยก็ฟรีอะไหล่ไป 5 ปี (BSI 5 ปี) เสียแต่ค่าแบตกับยางรถเอง
แต่อยากให้ลองไปขับก่อนเพราะเรื่องหลักของ X1 1.8 จะบ่นกันเยอะเรื่องอัตรเร่งครับ
เป็นผมเองรอ CX-5 ดีกว่าหรือไม่ก็เล่น Captiva Diesel เพราะเงินที่จ่ายเพิ่มเป็น X1
นี่ยังไม่คุ้มครับได้บีเอ็มก็จริงแต่หากเทียบออปชั่นด้วยแล้วยังไงผมมองว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
แต่ที่ขายดีส่วนนึงมาจากเป็นรถในราคาเริ่มต้นของบีเอ็มเลยดึงดูดความสนใจคนซื้อได้ดีพอสมควร
-
x1 เครื่องเบนซิน อืดเป็นเรือเกลือครับ ........
ถ้าใครบอก X1 ประหยัดน้ำมัน ก็ลองคำนวณค่าน้ำมันเบนซิน กับ ดีเซลของฟอจูนเนอร์ดูนะครับ
อันนี้คือเงื่อนไขที่ฟอจูนเนอร์เป็นตัวดีเซลนะครับ
-
ไปลองรถมาแล้วครับ ผมว่ารถเล็กกว่า CRV อีกนะครับ ไม่อืดเท่าที่คิด ยังพอรับไหวอยู่
สอบถามหน่อยครับ Fortuner Aperto ขับ 2 อายุ 2ปีวิ่ง 50000 กว่า น่าจะปล่อยได้เท่าไหร่อะครับ
-
x1 ตัวนี้มีปัญหาประจำตัวอยู่นะครับ เช่าการกินซ้าย เสียงลมเข้ามาดังมาก ลองดูปัญหาที่ x1 club ก่อนก็ได้ครับ ส่วนเรื่องอื่นก็อย่างที่ท่านบนๆได้กล่าวไปแล้ว
ส่วนน้องจูนบอกตรงๆว่าไม่อยากให้ขายเลยครับ แค่อยากจะขายก็มีคนรอซื้อแล้วครับ คือรถสองคันนี้ออกแบบมาต่างกันและมีดีคนล่ะอย่าง ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เก็บใว้ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณนะครับ ถ้าเป็นคนโสดก็ไม่เป็นไรแต่ถ้ามีครอบครัวแล้วเก็บใว้สองคันดีกว่า เรื่องขนของหรือเดินทางต่างจังหวัด ยังไงก็สู้น้องจูนไม่ได้ครับ ถนนบ้านเราแย่มาก เอา x1 ไปรูด กับเอาน้องจูนไปคุณคิดว่าอย่างใหนดีกว่ากันครับ ฝนตกหนักน้ำขังบนถนนน้องจูนช่วยได้ครับ ยังไงก็ทบทวนให้ดีๆนะครับ
เรื่อง bsi ควรทำความเข้าใจก่อนนะครับว่ามีอะไรบ้าง x1 ผมว่าเหมาะกับในเมืองมากกว่าและค่าเลี้ยงดูไม่ธรรมดาแน่
-
ฟอร์จูนเนอร์มีข้อดีกว่า X1 อยู่ 3 ข้อ
1. พื้นที่ห้องโดยสารเยอะ บรรทุกของสูงๆ หรือขนของเยอะๆได้
กระถางต้นไม้ จักรยานพับ เรือยาง ตรงนี้ฟอร์จูนเนอร์มีพื้นที่ภายในสูงกว่า ขนได้ดีกว่า
(ไม่เีสียดายรถด้วยครับ)
2. พื้นฐานรถกระบะ ทนทานกว่า ลุยๆไป ไม่ต้องเสียดาย
เครื่องดีเซล KD เกลื่อนตลาด เพื่อนเพียบ
อะไหล่ช่วงล่างถูก โช๊คอัพเบิกศูนย์แพงหน่อย แต่หาเอาข้างนอกได้ในราคาถูกเหลือเชื่อ
ใช้ยาวๆ 10 ปีได้เหมือนรถกระบะ
3. ราคาขายต่อ ปล่อยขาย แปปเดียวขายได้ ราคาไม่ตก ไม่เจ็บตัว
นอกนั้น X1 ดีกว่าเกือบทุกด้าน
ขับดีกว่า มั่นใจกว่า เครื่องสมรรถนะดีกว่า ประหยัดน้ำมัน+อัตราเร่ง
ภายในนั่งสบายกว่า ภาพลักษณ์ดีกว่า และเป็นที่ต้องการของโจรน้อยกว่าด้วย หุๆ
ผมให้ ข้อที่ 4 อีกข้อครับ คือ อัตราเร่งดีกว่า ทั้งต้น กลาง จะแพ้แค่ปลาย
suv หรือ cuv ขับดีกว่า ppv อยู่แล้วครับ แต่ ความทนทานสู้ไม่ได้ครับ
-
x1 ตัวนี้มีปัญหาประจำตัวอยู่นะครับ เช่าการกินซ้าย เสียงลมเข้ามาดังมาก ลองดูปัญหาที่ x1 club ก่อนก็ได้ครับ ส่วนเรื่องอื่นก็อย่างที่ท่านบนๆได้กล่าวไปแล้ว
ส่วนน้องจูนบอกตรงๆว่าไม่อยากให้ขายเลยครับ แค่อยากจะขายก็มีคนรอซื้อแล้วครับ คือรถสองคันนี้ออกแบบมาต่างกันและมีดีคนล่ะอย่าง ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เก็บใว้ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณนะครับ ถ้าเป็นคนโสดก็ไม่เป็นไรแต่ถ้ามีครอบครัวแล้วเก็บใว้สองคันดีกว่า เรื่องขนของหรือเดินทางต่างจังหวัด ยังไงก็สู้น้องจูนไม่ได้ครับ ถนนบ้านเราแย่มาก เอา x1 ไปรูด กับเอาน้องจูนไปคุณคิดว่าอย่างใหนดีกว่ากันครับ ฝนตกหนักน้ำขังบนถนนน้องจูนช่วยได้ครับ ยังไงก็ทบทวนให้ดีๆนะครับ
เรื่อง bsi ควรทำความเข้าใจก่อนนะครับว่ามีอะไรบ้าง x1 ผมว่าเหมาะกับในเมืองมากกว่าและค่าเลี้ยงดูไม่ธรรมดาแน่
คือ จริงๆแล้ว ที่บ้านมี Ford ranger T6 ไว้ขนของอีกคันอะครับ Fortuner คันนี้ ขับในเมืองซะ ร้อยละ 80 เลยครับ ออก ตจว น้อยมาก แต่ไปดูแล้วเริ่มลังเลครับ ขนาดรถ x1ใกล้กับ 320d e90 ที่น้องใช้อยู่ เลย ตอนนี้สนใจ x1 แค่ 2 ข้อ
1.เป็น bmw การขับขี่ ภาพลักษณ์ ดูดีกว่า
2.ผ่อนต่อเดือนมากกว่า fortuner แค่ 3000 (fortuner เหลือ 40 เดือน x1 เหลือ 49 เดือน)
-
ผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน นอกจากจะซื้อเพิ่มมาอีกคัน Fortuner รถยังดีอยู่เลยก็จะปล่อยแล้ว รถเหลือใช้หรือครับ
-
ผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน นอกจากจะซื้อเพิ่มมาอีกคัน Fortuner รถยังดีอยู่เลยก็จะปล่อยแล้ว รถเหลือใช้หรือครับ
ไม่ได้เหลือใช้ครับ ;D
แต่fortuner คันนี้เป็นรถเก่าคุณพ่อที่ยกมาให้เนื่องจากผมยก BMW 320d ให้น้องไปอะครับ
จริงๆแล้ว fortuner เป็นรถที่ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่คุณพ่อจะซื้อแล้วคับ แต่เป็นเงินท่านผมก้เลยไม่ได้ว่า
คือ ผมไม่ค่อย ชอบ ช่วงล่าง เบรค การทรงตัวของ Fortuner ครับ เหมือนทุกวันนี้ฝืน ขับรถที่ตัวเองไม่ชอบอยู่ทุกวัน ครั้นจะซื้อใหม่ก็เงินหมดเพราะเอาเงินไปลงทุนแล้ว คาดว่าอีก ปี-2 ปี ทุนค่อยคืน
พอมีช่องทางได้รถที่สนใจก้เลย อยากเปลี่ยน
-
ผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน นอกจากจะซื้อเพิ่มมาอีกคัน Fortuner รถยังดีอยู่เลยก็จะปล่อยแล้ว รถเหลือใช้หรือครับ
ไม่ได้เหลือใช้ครับ ;D
แต่fortuner คันนี้เป็นรถเก่าคุณพ่อที่ยกมาให้เนื่องจากผมยก BMW 320d ให้น้องไปอะครับ
จริงๆแล้ว fortuner เป็นรถที่ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่คุณพ่อจะซื้อแล้วคับ แต่เป็นเงินท่านผมก้เลยไม่ได้ว่า
คือ ผมไม่ค่อย ชอบ ช่วงล่าง เบรค การทรงตัวของ Fortuner ครับ เหมือนทุกวันนี้ฝืน ขับรถที่ตัวเองไม่ชอบอยู่ทุกวัน ครั้นจะซื้อใหม่ก็เงินหมดเพราะเอาเงินไปลงทุนแล้ว คาดว่าอีก ปี-2 ปี ทุนค่อยคืน
พอมีช่องทางได้รถที่สนใจก้เลย อยากเปลี่ยน
งั้นจะรออะไร !! :P
-
ผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน นอกจากจะซื้อเพิ่มมาอีกคัน Fortuner รถยังดีอยู่เลยก็จะปล่อยแล้ว รถเหลือใช้หรือครับ
ไม่ได้เหลือใช้ครับ ;D
แต่fortuner คันนี้เป็นรถเก่าคุณพ่อที่ยกมาให้เนื่องจากผมยก BMW 320d ให้น้องไปอะครับ
จริงๆแล้ว fortuner เป็นรถที่ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่คุณพ่อจะซื้อแล้วคับ แต่เป็นเงินท่านผมก้เลยไม่ได้ว่า
คือ ผมไม่ค่อย ชอบ ช่วงล่าง เบรค การทรงตัวของ Fortuner ครับ เหมือนทุกวันนี้ฝืน ขับรถที่ตัวเองไม่ชอบอยู่ทุกวัน ครั้นจะซื้อใหม่ก็เงินหมดเพราะเอาเงินไปลงทุนแล้ว คาดว่าอีก ปี-2 ปี ทุนค่อยคืน
พอมีช่องทางได้รถที่สนใจก้เลย อยากเปลี่ยน
งั้นจะรออะไร !! :P
+1 ครับ ไม่ต้องรอแล้ว
-
กลับมองว่า ขับทางไกล แฮนลิ่ง ความนิ่ง หนึบ ระบบเบรค การทรงตัว BMW มันทำให้คุณปลอดภัยมากกว่า
เรื่องเครื่อง 2000 cc. ไปไหนไปกัน ไกลแค่ไหนก็สบายครับ คนสิจะเหนื่อยก่อน มันก็ต้องพักอยู่ดี...
หล่อกว่าด้วย แต่...ขนของด้านหลังกระเป๋าใหญ่ ๆ 2 ใบอาจจะเต็มแล้วครับ
-
x1 เครื่องเบนซิน อืดเป็นเรือเกลือครับ ........
ถ้าใครบอก X1 ประหยัดน้ำมัน ก็ลองคำนวณค่าน้ำมันเบนซิน กับ ดีเซลของฟอจูนเนอร์ดูนะครับ
อันนี้คือเงื่อนไขที่ฟอจูนเนอร์เป็นตัวดีเซลนะครับ
เห็นด้วยครับ กับอีกท่านสมาชิกที่บอกว่า X1 เร่งดีกว่า สมรถนะดีกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า ผมว่า มันผิดทุกข้อเลยนะครับ
เครือ่ง 2000 ออกมาไม่รู้กี่ปีแล้ว มีแค่ 150 ม้า ไม่น่าจะดีและทนกว่า ดีเซล 3000 turbo หรอกครับ หลายท่านก็บอกว่า 1.8 อืดจริง แซงยังลำบากเลย แถมกินน้ำมันเยอะอีกต่างหาก ไม่มีทางประหยัดกว่า ดีเซลฟอร์จูนแน่ๆ ครับ ยิ่งมาเทียบลิตรต่อลิตร ค่าน้ำมัน ยังไงฟอร์จูนก็จ่ายน้อยกว่า
เจอค่ายาง run flat เข้าไป เปลี่ยนสี่ล้อ ครึ่งแสน จะหนาว เอานะครับ เห็นในคลับหลายคน รถวิ่งกินซ้าย ต้องจ่ายค่ายาง 50 % ถึงจะได้เคลม ดูแล้วกันว่า bmw บริการเป็นยังไงครับ สินค้าตัวเองไม่ดี ให้ผู้บริโภครับซะงั้น มี BSI ก็ใช่ว่าจะเคลมได้ทุกรายการนะครับ ศึกษาให้ดี warranty กับ bsi มันไม่เหมือนกันนะครับท่าน
ในความเห็นผม ขับฟอรจูนสบายใจดีกว่าครับ ไม่ถามคนขายละครับ ว่า ทำไมเขาถึงขายดาวน์ให้คุณ รถใหม่แท้ๆ