Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YenChar ที่ มิถุนายน 08, 2012, 12:31:09
-
*ไม่ได้มีเจตนาให้ทุกท่านหรือใครก็ตามทะเลาะกันนะครับ
อยากทราบว่า ปัจจุบันนี้ ยังมีคนเชื่ออยู่มั้ยครับ
ว่า แก๊ส ไม่เหมาะกับรถยนต์
ในที่นี้ ขอพูดถึง LPG นะครับ
เพราะผมเห็นว่า หลายๆคนถ้าคิดแก๊ส มักจะคิดถึง LPG ก่อนเสมอๆ
แต่ก็ยังอยากรู้ทัศนคติของชาว HLM ว่า มีความเห็นยังไงกับรถยนต์ใช้แก๊สบ้าง
ส่วนตัวผม กับรถของตัวเองและที่บ้าน ผมก็ยังไม่ได้ติดหรอกครับ
แต่คนใกล้ตัว เพื่อนบ้าน เพื่อน รุ่นพี่ที่ทำงาน เกือบทุกคนคบแก๊สทั้งนั้น
ลองขับแล้วก็รู้สึกดี ไม่ได้ต่างกับน้ำมันแต่อย่างใด
รุ่นพี่ไปเที่ยวเยอรมัน ที่นั่นก็ใช้ LPG กันซะส่วนใหญ่
เพื่อนทำงานอยู่ลาว มันเล่าให้ฟังว่า LPG เป็นเรื่องธรรมดามากๆ
ในขณะที่บ้านเรา ใช้ NGV ซึ่งดูแล้วเหมือนจะมาไม่ถูกทางเท่าไหร่
ใจผมไปแล้วครับ อยากติดแก๊สมากๆ
แต่ทุกวันนี้ ใช้รถแค่วันเสาร์อาทิตย์ ใช้แค่ 10 กิโล
คำนวนแล้วว่าคงต้อง 5 ปี กว่าจะคืนทุน
อยากทราบความเห็นครับว่า แก๊ส LPG ยังคงเป็นพลังงานทางเลือกที่ดีอยู่มั้ยครับ??
-
1.ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะครับ
ถ้าเหมาะจริงทำไม่มีมีรถที่วิ่งแก๊ส 100% ทำไมต้องสตาทด้วยน้ำมัน แล้วต้องวิ่งสลับกับน้ำมันบ้าง
2.ผมว่าระยะทางแค่ 10 โล ใช้น้ำมันเถอะครับ ;)
-
LPG เป็นพลังงานทางเลือก อันดับหนึงที่ลงทุนต่ำและคุ้มค่าเร็ว
NGV ไม่เหมาะครับ
ก่อนติดควรศึกษาอุปกรณ์และผู้ติดตั้งด้วยครับ
-
ผมคงคิดว่า LPG เติมรถเป็นแค่คำว่า พอทน แต่คง ไม่เหมาะ
-
สำหรับผมที่มีรถติดแกส LPG อยูที่บ้าน ผมถือว่าเป็นเรื่องปรกตินะ เพียงแค่ว่าเราใช้ให้เป็นและตั้งตั้งกับผู้เชี่ยวชาญมีมาตรฐานครับ รถที่บ้านใช้มาแล้วกว่า 150000 โล รวมวิ่งน้ำมันมาก่อนเป็น 250000 เข้าเช็คระยะแกส- ทุกๆอย่างก็ยังปรกติดีครับ (A33 VQ30DE) เร่งทันใจ เครื่องเงียบ เหมือนเดิม วิธการใช้งานของผมคือ ถ้าขับ 500 โล ผมจะขับน้ำมัน 100 โล หรือ สับลับขับน้ำมันบ้าง เพราะรถของเราออกแบบมาสำหรับน้ำมัน
ปล.จุดคุ้มทุนไม่ต้องคิดมากครับ เพราะถ้าติดแล้ว เราจะใช้รถมากกว่าเดิมไปโดยปริยาย เหมือนลุงผมทีแรกยังไงๆก็ไม่ติดเพราะไม่คุ้มไม่ค่อยใช้รถ ฮาๆ พอติดแล้วใช้รถบ่อยมากครับ บางทีลุงก็ขับไปกินข้างเย็นที่ ตจว ตอนนี้ลุงกลายเป็นคนชอบเที่ยว ไปเลยครับ เพราะ ค่า เดินทางลดลงมาก
-
คิดว่ายังไม่เหมาะครับ ส่วนตัวที่บ้าน มีรถเก่าติดแก็ส สามคนั ของผมยังไม่ติด เนื่องจากสภาพรถติดแก็ส ยังไงก็เสื้อมไวกว่าครับ
แต่ถามว่าอนาคตติดไหมตอบว่าติดครับ
-
1.ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะครับ
ถ้าเหมาะจริงทำไม่มีมีรถที่วิ่งแก๊ส 100% ทำไมต้องสตาทด้วยน้ำมัน แล้วต้องวิ่งสลับกับน้ำมันบ้าง
2.ผมว่าระยะทางแค่ 10 โล ใช้น้ำมันเถอะครับ ;)
ข้อ1.รถตุ๊กตุ๊กครับ
ข้อ2.เห็นด้วยครับ เพราะใช้ระยะทางไม่มากพอ
-
ถ้าขับแค่สัปดาห์ละ 20 โล ตีให้เดือนละ 100 โลเลยเอ้า ไม่ใช่ 5 ปีคืนทุนหรอกครับ 50 ปีก็ยังไม่ได้เลยเพราะต้องเสียค่าบำรุงรักษา ค่าตรวจสภาพเพิ่มขึ้นอีก ถ้าจะขายก็โดนกดราคาลงอีก อีกอย่างถ้าเอาเงินที่ติดแก๊สไปลงทุนเผลอๆมากกว่าค่าเชื้อเพลิงที่ประหยัดได้ด้วยซ้ำ สมมุติว่าติด 30,000 เอามาลงทุนได้กำไร 1%ต่อเดือน ได้ 300 บาท แต่เซฟได้โลละบาทเป็นเงิน 100 บาท ขาดทุนเห็นๆ ถ้าใช้เดือนละ 1,000 โลค่อยน่าคบแก๊สหน่อย
-
1.ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะครับ
ถ้าเหมาะจริงทำไม่มีมีรถที่วิ่งแก๊ส 100% ทำไมต้องสตาทด้วยน้ำมัน แล้วต้องวิ่งสลับกับน้ำมันบ้าง
2.ผมว่าระยะทางแค่ 10 โล ใช้น้ำมันเถอะครับ ;)
ไม่เห็นด้วยครับ เพราะแท๊กซี่ แก๊ส 100% ครับ
10ล้อต่างๆ ก็แก๊ส 100% ครับ
-
แน่จริงถ้า Ecoboost กับ SkyActive เนี่ย ติดแก๊สจะเสียรถหมด
-
บ้านผม ยังไงก็ไม่เอา บอกกลัวไฟไหม้
อธิบายยังไงก็ไม่ฟัง
พอรถไฟไหม้ทีนึงก็เอามาพูดที เห็นมั้ยไหม้อีกแล้ว
ถามว่าทำไมไหม้ เค้าก็บอกเพราะติดแก๊สไง
แต่ไม่ลงไปในรายละเอียดนะว่า สาเหตุตรงไหน
เกิดจากการไม่ดูแลตามระยะ เกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง
มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ความเชื่อคือความเชื่อ
ขนาดผมยกตัวอย่างรถ taxi ที่วิ่งกันเกลื่อนก็ติดแก๊สกันทั้งนั้น
วิ่งกันคันนึงหลายแสนโล ยังไม่เห็นมีอะไร
เค้าก็ไม่รับฟัง ทำอะไรไม่ได้จริงๆครับ
-
สำหรับผม เมื่อก่อน ผมแอนตี้รถติดแก๊สมากครับ ทั้งๆ ที่รถบ้านแฟน บ้านพี่เขย ก็ติดแก๊สกันหมด
จนกระทั่งลองขับรถติดแก๊ส รวมถึงหาข้อมูล เป็นเดือน
สุดท้ายติดแก๊ส LPG ไปเมื่อ ต้นปีที่แล้ว
ตอนนี้วิ่งไปแล้ว 60000 ก.ม. คิดๆแล้วก็ประหยัดเงินไปราวๆ 50000 บาท
พอติดแก๊สแล้ว นิสัยเสีย เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางมันลดไปเยอะ
กลายเป็นว่า เงินส่วนต่าง ที่ควรเก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย กลับเป็นค่าเดินทางท่องเที่ยวแทน
-
จากประสบการณ์ที่เคยใช้ เครื่องโทรมเร็วกว่า (มาก) แน่นอน โดยเฉพาะปั๊มติ๊ก เปลี่ยนเป็นว่าเล่น
คันใหม่นี่ เลยไม่คิดติดอีกเลย
-
จากประสบการณ์ที่เคยใช้ เครื่องโทรมเร็วกว่า (มาก) แน่นอน โดยเฉพาะปั๊มติ๊ก เปลี่ยนเป็นว่าเล่น
คันใหม่นี่ เลยไม่คิดติดอีกเลย
ปั๊มติก คงแล้วแต่รุ่นรถด้วยครับ
รถกระบะเดิมผมไม่มี พอติดแก๊สใช้ปั๊มติ๊กเชียงกง หน้าตาเป็นไงก็ยังไม่เคยเห็น
นี่ 3 ปีแล้ว ก็ยังใช้งานได้ปกติ เติมน้ำมันให้เดือนละ 300 บาทเอง
-
ความเห็นของผม คำถามที่ว่า "ยังเชื่ออยู่ไหม"
ผมขอตอบว่า ผมไม่เคยเชื่อหรือคิดเลยว่าก๊าชจะดีต่อเครื่องยนต์มากกว่าน้ำมันครับ หรือ ผมเชื่อ 100% ว่าน้ำมันดีต่อเตรื่องยนต์มากกว่าก๊าซแน่นอน
-
1.ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะครับ
ถ้าเหมาะจริงทำไม่มีมีรถที่วิ่งแก๊ส 100% ทำไมต้องสตาทด้วยน้ำมัน แล้วต้องวิ่งสลับกับน้ำมันบ้าง
มองในมุมอีกด้านนึง สังเกตไหมว่าแก๊สต้องมีหม้อต้ม หมายความว่าอะไร
หมายความว่า แก๊สมีความดันสูง 40 psi (ความกดดันสูง อุณหภูมิต่ำ ความกดดันต่ำ อุณหภูมิสูง หลักง่ายๆที่เคยเรียนมา)
ดังนั้นเมื่อแก๊สอยู่ที่แรงดัน 40 psi อุณภูมิของแก๊สมันก็ย่อมต่ำมาก จะสังเกตว่าแกํสรั่ว มันจะมีน้ำแข็งเกาะ เพราะมันเย็นมาก
แต่อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ต้องการความร้อนสูงๆ เอาแก๊สอุณหภูมิต่ำเข้าห้องเผาไหม้ อาจจะเกิดปัญหาเผาไหม้ลำบาก ต้องจ่ายไฟให้แรงเพิ่มขึ้น ย่อมไม่ดีแน่ๆ
เลยต้องมีหม้อต้ม เพื่อเพิ่มอุณหภูมิแก๊สเสียก่อน โดยเอาน้ำร้อนจากหม้อน้ำเครื่องยนต์มาช่วย
และเพื่อให้ได้น้ำร้อน ก็ต้องติดเครื่องสักพัก เพราะฉะนั้น ใช้น้ำมัน ก็แค่ช่วยให้เครื่องร้อนให้ได้น้ำร้อนมาต้มแก๊ส
พอได้แก๊สที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ก็ใช้งานในเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
-
อย่าติดเลยครับ มันไม่ดีหรอกกกกกกกก ใช้น้ำมันอ่ะดีแล้วครับ
ปล. กลัวคนแย่งใช้แก็สเยอะเดี๋ยวราคาขึ้นแพงๆๆ 555+
-
รถที่บ้านที่เป็นเครื่องเบนซิน ไม่ว่าจะ 4 หรือ 6 สูบ จับมาดมแก๊สหมด เพราะคิดว่ามันคุ้มกว่า เพราะซื้อรถมาใช้งานแต่ละคันนี่คุ้มมากครับ บางคันปีเดียววิ่งไปแสนกว่าก็มี
-
1.ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะครับ
ถ้าเหมาะจริงทำไม่มีมีรถที่วิ่งแก๊ส 100% ทำไมต้องสตาทด้วยน้ำมัน แล้วต้องวิ่งสลับกับน้ำมันบ้าง
2.ผมว่าระยะทางแค่ 10 โล ใช้น้ำมันเถอะครับ ;)
ไม่เห็นด้วยครับ เพราะแท๊กซี่ แก๊ส 100% ครับ
10ล้อต่างๆ ก็แก๊ส 100% ครับ
เพิ่มเติมครับ tata xenon ก็ใช้ cng 100% :)
..........
รถผมก็ติดแก๊ส LPG ซื้อป้ายแดงมา ใช้ได้ 1 หมื่น กิโลฯ ก็ติดเลย
ที่ติดเพราะว่า "เห็นคนที่บ่นๆ ว่า อย่าไปติดเลย ไม่ดี... สุดท้ายก็ไปติด..." ผมเลยไปติดตามเค้าครับ... :D
-
ผมยังเชื่ออยู่ครับว่า
การใช้น้ำมันยังคงเหมาะสมกับเครื่องยนต์มากกว่าแก๊สครับ
แต่ประเด็นก็คือแก๊สมันประหยัดและคุ้มค่าเงินมากกว่าเท่านั้นเอง..
-
ความจริงหม้อต้ม มันคือ Reducer หรือ ตัวลดแรงดันครับ หน้าที่มันคือลดแรงดันของก๊าซที่มาตามท่อ (ก๊าซที่อยู่ภายใต้แรงดันจะเป็นของเหลว) เพื่อให้มันกลายเป็นไอ ---> จะทำให้มันสันดาปได้ง่ายครับ
ที่หม้อต้มต้องใช้น้ำร้อนมาช่วย เพราะว่า หม้อต้มมันเย็นมาก จะกลายเป็นน้ำแข็ง อุปกรณ์ภายในของตัวมันจะใช้งานไม่ได้ครับ เข้าใจตามนี้ดีกว่า ไม่ใช่เอาน้ำร้อนมาต้มก๊าซครับ
รถหลายๆ คันที่ไม่ยอมเติมน้ำมันใช้แต่ก๊าซเพียงอย่างเดียว สามารถสตาร์ทด้วยก๊าซ ได้ครับ แต่ถ้าสตาร์ทแช่ยาวๆ (สตาร์ทไม่ติดเนื่องด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่)
หม้อต้มก็จะกลายเป็นน้ำแข็งครับ ( อาจจะเคยเห็นแท๊กซี่สตาร์ทไม่ติด ก็เอาน้ำร้อนมาราดหม้อต้มกันบ้างแล้ว)
ใช้ก๊าซแล้วปั๊มติ๊กพัง เพราะเราใช้แต่ก๊าซไม่ยอมเติมน้ำมันครับ แล้วยังไงล่ะ----
เมื่อเราปล่อยให้ป้ั๊มติ๊กทำงานโดยที่ขาดน้ำมันเชื้ัอเพลิง ในถัง จะทำให้ปั๊มติ๊กปั่นฟรี และเกิดความร้อนขึ้นภายในตัวครับ แล้วจะแก้ไขยังไงล่ะ---
- ตัดการทำงานของปั๊มติ๊ก เพื่อรักษาปั๊มติ๊ก
ข้อดีคือ ลดการสึกหรอของปั๊มติ๊ก ....ก็แน่ล่ะ มันไม่ทำงานหนิ
ข้อเสียคือ หากเมื่อใดก็ตามที่ระบบก๊าซขัดข้อง แล้วต้องการสลับมาใช้น้ำมันอย่างทันที จะเกิดการวูบของเครื่องยนต์ครับ
-ไม่ตัดปั๊มติ๊ก
ข้อดีคือ เมื่อต้องการสลับมาใช้ระบบน้ำมันเหมือนเดิม เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อเสียคือ หากปล่อยให้น้ำมัน เหลือน้อยๆ บ่อยๆ ก็เท่ากับว่า เรากำลังเผามอเตอร์ปั๊มติ๊กอยู่นั่นเอง ;)
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงประสบกาณ์ส่วนตัว มิอาจนำไปอ้างอิงได้นะครับ ;D
-
ถามว่าติดแกสเหมาะกับรถหรือไม่
ผมจะตอบว่า ขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ของรถแต่ละรุ่นครับ
บางรุ่นเครื่องฝาสูบทนทาน ระบบวาล์วแข็งแรง ทำมารองรับการติดแกส
รถพวกนี้ปัญหาจากการติดแกสจะน้อยมากๆครับ
แต่รถที่ไม่ได้ออกแบบมารองรับการติดแกส พวกนี้ก้อรอวันพังเหมือนกัน
จริงอยู่ว่าเทคโนโลยีแกสนั้นพัฒนาไปมาก ทำให้ใช้งานได้ดี ใกล้เคียงน้ำมันมากขึ้น
แต่ไม่ได้แปลว่าจะแทนที่ได้ 100%
ถ้าน้ำมันราคาเท่าแกส คงไม่มีใครคิดติดแกสหรอนะครับ
ยังไงมันก้อเป็นแค่ "ทางเลือก" อยู่ดีครับ
-
ถ้าคนไม่เคยใช้ ความคิดเขาจะเป็นลบตลอดเวลา ต้องเสพข้อมูลอีกมาก รวมทั้งต้องกล้าที่จะเปลี่ยน แล้วทีนี้ล่ะความคิดถึงจะเป็นบวก
-
รถทุกคันออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำมัน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือน้ำมันนั้นแหล่ะ
แต่การติดแก๊สเป็นการดัดแปลง ที่พยายามเปลี่ยนแปลงให้ได้ใกล้เคียงน้ำมันที่สุด
คำถามที่ทุกคนต้องถาม.....แล้วจะติดทำไมล่ะ
ทุกคนจะตอบเพียงคำตอบเดียวเลย......ประหยัด
การติดแก๊สในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก สามารถแปลงแก๊สได้ใกล้เคียงน้ำมันขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยังไงก็ไม่เหมือนแน่นอน แต่คำว่าใกล้เคียงนี่แหล่ะ ก็ทำให้เครื่องยนต์เราใช้งานได้ยาวนานขึ้น
การติดตั้งที่ถูกต้องสำคัญยิ่งกว่าใช้ของแบนด์ดังๆซะอีก แต่ถ้าใช้ของแบนด์ดังๆแล้วติดตั้งถูกต้อง
อันนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีก เหมือนที่เคยๆได้ยินมา "ขับเนียนเหมือนน้ำมัน"
การใช้งานและการบำรุงรักษา ก็เหมือนๆกับน้ำมันนั้นแหล่ะ ดูแลตามระยะ เปลี่ยนกรองแก๊สตามกำหนด
ปรับจูนแก๊สบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน วิธีขับรถแก๊สให้มันทนๆ นั้นง่ายมาก
พยายามอย่าคิกดาวบ่อย ไม่ใช่จะคิกดาวไม่ได้เลย ก็ได้ปกตินั้นแหล่ะ แต่พยายามคิกแค่ครึ่งเท้าพอ
ให้เหมือนรู้สึกลดไปแค่ 1 เกียร์ ส่วนที่คิกแบบจมมิด ลดไปทีล่ะ 2-3 เกียร์ พยายามเอาไว้ใช้ตอนฉุกเฉินเถอะ
อย่าลากรอบเล่นสูงๆ จะขับเร็วก็ขับไปเลย ปล่อยเกียร์มันไปตามระบบ ตอนเวลาขับขึ้นเขา อย่าอัดขึ้น
ก็่ปล่อยมันขึ้นไปเรื่อยๆ แบบคนไม่เร่งรีบ ถ้าจะให้ดีถ้าเจอเขาชันๆก็เปลี่ยนมาใช้น้ำมันบ้าง
ทั้งหมดที่บอกก็คือขับไปเรื่อยๆแบบคนปกติ ถ้าใช้แบบอัดอย่างเดียว อย่าว่าแต่แก๊สเลย รถน้ำมันก็พัง
ถ้าทำได้แบบนี้ ผมว่าคุณจะใช้รถติดแก๊สที่ทนไม่แตกต่างจากน้ำมันสักเท่าไรหรอก
-
ชั่วโมงนี้ต้องแก็สครับน้ำมันราคาเว่อไป เทคโนโลีสมัยนี้ดีกว่าเก่าเยอะแล้วครับติดแก็สเด้วนี้ไม่มีคำว่าอืดแล้ววิ่งเหมือนน้ำมันเลย แล้วเราต้องรู้จักการใช้การบำรุงรักษาที่ถูกวิธีด้วยครับสำคัญมาก
-
ผมติด LPG มา 6ปีแล้ว วิ่งได้ 10โล/ลิตร คืนทุนเรื่องค่าน้ำมันตั้งแต่ 2ปีแรก ติด mixer มา 17500 บาท
เพราะวิ่งวันละ 30โลทุกวัน ตอนนี้กำลังจะ Over hall แหวนวาร์วเพราะหลวมมากแล้ว น่าจะราวๆ 15000บาท ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะ แต่มันคุ้มทุนมากมายถึงแม้ผมจะต้องเสียเงินค่า overhall ทุกปีก็ยังคุ้ม เพราะรถผมต้องเติมน้ำมัน 95 ซึ่งราคามันแพงมากและเริ่มหายาก แต่ต่อจากนี้คงจะจ่ายมากขึ้นเพราะแก็สจะแพงขึ้นๆไปอีก
-
รถ+น้ำมันคือสิ่งที่เหมาะที่สุด
...ถ้าน้ำมัน vs Lpg ราคาเท่ากันผมเลือกน้ำมันอยู่แล้ว
...แต่เหตุผลที่ผมใช้แก๊สคือ รถคันที่1ของผมวิ่งไป 300,000 โลค่าน้ำมันตีถูกๆเลยได้ 600,000 บาท
...แต่เป็นแก๊สที่ใช้อยู่ วิ่งไป 300,0000 โล จ่ายจริงก็ประมาณ 300,000 บาท เพิ่มตังค์อีกนิด ออกสวิฟท์มาขับเล่นได้เลยทีเดียว...!!!
(ปล.แต่อย่าหวังว่าติดแก๊สแล้วจะรวยขึ้น เพราะคุณจะใช้รถมากขึ้น และเที่ยวมากขึ้น... ;D ;D ;D)
-
ความเห็นผมคิดว่า ต้องมาดูที่การใช้งานประจำวันว่าวิ่งกี่กิโล
ถ้าวิ่งมาก ๆ วันละ 100 กิโล และหาปั้มเติมแก็สง่าย ก็น่าจะคุ้มที่จะติด
แต่ก็ต้องคอยตรวจเช็คการรั่วหรือระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สม่ำเสมอด้วย
ส่วนตัวผมเองไม่ติดครับ เพราะขับรถไปทำงานวันละไม่เกิน 20 โล
อาจจะสิ่งในเมือง ช้อปปิ้งบ้างหรือหาอะไรกินบ้างก็ไม่มาก
ปั้ม NGV. ถ้าผมจะเติมก็ต้องขับรถไปอีก 100 กิโล แล้วไปรอคิวเติมอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
ปั้ม LPG เติมในจังหวัดที่อยู่ได้ แต่รถวิ่งน้อยมันก็ไม่คุ้มในการใช้งานของผมเท่าไหร่ กับค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่อาจจะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ
แต่ผมก็เดินทางไกลเหมือนกันนะ เดือนละครั้งสองครั้ง ระยะทางไปกลับประมาณ 200 กว่าโล
ถ้าเดินทางไกลยาว ๆ 300 กิโลขึ้นไปก็ปีละสี่ห้าครั้ง
ก็ยังไม่คิดใช้แก็สอยู่ดีครับ
ในอนาคตถ้าผมจะเลือกใช้พลังงานทางเลือกก็คงหันมามอง hybrid มากกว่า
ตอนนี้ยังไม่เล่น hybrid เพราะยังไม่มีรถที่ถูกใจและเหมาะกับการใช้งาน ราคาก็ยังสู้ไม่ไหวครับ รอให้เทคโนโลยีดีกว่านี้อีกหน่อย
และราคาถูกลงอีกนิด ก็อาจจะตัดสินใจเปลี่ยนรถไปใช้ hybrid แทน
-
รถเดิมๆสำหรับน้ำมัน ควรใช้น้ำมันครับ แต่รถสำหรับแก๊สที่มีออกมาจากโรงงาน อันนี้ค่อยเชื่อถือได้
-
เครื่องรถ ถูกออกแบบมาให้ใช้กับน้ำมัน ก็น่าจะเหมาะสมกับน้ำมันครับ
แต่ใช้แก๊สแล้วสบายกระเป๋าจริงๆครับ เหมือนหลายท่านบอกมา อิอิ
-
หรือต้องรอเครื่องเบนซินของNew Ranger ที่เคลมว่าออกแบบมาเพื่อติดแก๊ส :o
-
วิธการใช้งานของผมคือ ถ้าขับ 500 โล ผมจะขับน้ำมัน 100 โล หรือ สับลับขับน้ำมันบ้าง เพราะรถของเราออกแบบมาสำหรับน้ำมัน
ผมว่าเป็นวิธีดูแลรักษาที่ดีอย่างนึงเลยครับ พี่HELIFETEC ผมเห็นพี่ๆหลายคนแนะนำมาแบบนี้เหมือนกัน ตัวผมเองก็อยากติดแก๊สอยู่มาก แต่ก็แอบกลัวๆ เพราะ บางทีผมคิดกลัวไปก่อน ที่จะลงมือทำ ผมกลัวรถพัง กลัวเครื่องไปเร็ว กลัวรถอยู่กับเราไม่นาน แต่ไม่ใช่ว่าที่บ้านไม่มีรถแก๊านะครับ รถอากงเป็น Accord ก็ยังติดแก๊ส คิดหนักมากครับ บางทีไปถามเพื่อน เพื่อนบอก ติดแก๊สมันไม่ดีมั่ง อันตรายมั่ง แต่ผมก็เห็นคนเอาไปติดเยอะแยะ ยังไม่มีอะไร แต่ผมว่าเร็วๆ นี้ก็คงจะเอารถไปติดแก๊สแหละครับ แต่คงต้องหาวิธีดูแลรักษารถติดแก๊สให้ดีที่สุด เพราะผมเจอของอากงไปที ไล่ยาวๆเลยเช่นอาการสตาร์ทติดยาก วิ่งสะดุด (สองอันนี้กลัวมาก) พี่ๆคนไหนติดแล้วมีวิธีดูแลอย่างไร ก็รบกวน แชร์ ความรู้และเทคนิคต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางของผู้ที่สนใจติดแก๊สต่อไป ขอบคุณครับ
-
ผมก็ชอบนะอยากติดแต่คิดยาวๆแล้วไม่ดีกว่า ถ้าจะเลือกซื้อรถคันใหม่แล้วเอามาติดแก๊ซวิ่ง อยากให้ไปดีเซลดีกว่าครับ ไม่ก็ hybrid ไม่ก็ ecocar
-
เป็นเรื่องปกติำปแล้วครับ สำหรับยุคนี้
ที่บ้านผมมีแต่รถแก๊สทั้งนั้น Lancer CNG Altis CNG และ ยาริส LPG กับ รถตู้ LPG
เอาง่ายๆคือ รถที่บ้านคันไหนเป็นเครื่องเบนซิน จับติดแก๊สหมด แต่ละคันก็ซื้อไว้ใช้งาน
ผมมองว่าเรื่องแก๊สในยุคนี้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะครับ ระบบความปลอดภัยก็ดีกว่า
สังคมให้การยอมรับมากกว่าแต่ก่อน เพราะ ไปที่ไหนก็มีแต่คนให้รถติดแก๊สกันหมด
-
ลืมไปครับ ผมติด LPG ของ AG กว่าจะจูนเอาอยู่เกือบปี ตอนี้โอมานานแล้วครับ
-
ผมใช้แก้สสี่ปี ติดกับรถ volvo 850 ระบบดูด วิ่งแสนกว่ากิโล ค่าติดคืนมาตั้งแต่ปีแรกแล้วครับ ส่วนตัวไม่เจอปัญหาอะไรหนักๆ
นอกจากต้องจูนกันเป็นระยะๆ ถ้ามีอู่ดีๆ จบครับ
ข้อดี 1. ประหยัด ตกโลละ บาทสี่สิบ
เติมเต็มถังเจ็ดร้อยบาทวิ่งได้กว่า ห้าร้อยกิโล น้ำมันชิดซ้าย
ข้อเสีย 1. ต้องบำรุงรักษาตามระยะ เช่น เช็คระบบไฟ เปลี่ยนหัวเทียน ทุกๆหมื่นโล
2. เช็คระบบแก้สบ้าง เผื่อรั่ว เดือนละครั้งสองครั้ง
3. ของผมต้องเช็คระดับน้ำบ่อยๆ แค่เปิดฝากระโปรงอาทิตย์ละครั้ง , ก่อนและหลังวิ่งทางไกล
แต่ข้อเสียที่ตามมา ผมรับได้ครับ และไม่ได้รู้สึกลำบาก ;D แต่ตอนนี้หันมาคบไฮบริดละ
สำหรับผม รถเก่าหน่อยติดแก้สคุ้มครับ ใช้ยาวๆเลย แต่ถ้าเป็นรถใหม่และไม่คิดจะใช้ยาว ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาจะตกไปมากมั้ย
เพราะเราเชื่อ... แต่คนซื้อไม่เชื่อ...
-
ไม่เห็นด้วยครับ
เคยเห็นช่างบ่นเรื่องรถติดแก๊สให้ฟังมาเยอะ และ GS ที่ผมใช้อยู่ก็เป็น รถที่เคยติดแก๊สมาก่อน ตอนเอามา รีบถอดแก๊สออกเลย
โชคดีไป เข้าของเก่าใช้แก๊สไปยังไม่ถึง 100 กม เลยยังดีอยู่ ไม่งั้นคง..... ไม่อยากพูดถึง
-
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเหมาะคือ
1.แม้ว่า5วันจะวิ่งแค่ไม่ถึง10โล
แต่วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ 2 วัน กับทำให้เรามีความอยากไปเที่ยวมากขึ้น เพราะค่าแก๊สโลละ1.20บาท จะคิดอะไรมาก เที่ยวดีกว่า
2.ศูนย์บริการของฮอนด้าที่ผมเข้า ไม่เคยมาโทษระบบแก๊สเลย เข้าเช็คตามระยะปรกติเลย และถ้ามีเวลาว่างก็ไปเช็คระยะระบบแก๊สที่อู่แก๊สอีกรอบนึง
3.ความแรงของแก๊สที่ไม่แตกต่างกับน้ำมัน และเราไม่สามารถรู้สึกได้เลยว่า รถอืดเพราะแก๊สนะ
4.มันทำให้ผมไม่กล้าเล่นรถดีเซลเลย เพราะแก๊สมันประหยัดกว่าจริงๆ ญาติผม กระบะจอดยาวเลย วิ่งรถแก๊สอย่างเดียว
-
คำตอบล้นหลามจริงๆ ขอบคุณมากๆครับ
ยังรับฟังเรื่อยๆนะครับ
มีประโยชน์มากๆ
-
มันไม่เหมาะหรอกครับ กับรถยนต์ มันแค่ใช้ได้กับรถยนต์ ขนาดแก๊สโซฮอล์ E10 ขับเทียบกับ เบนซิน ก็คงเรื่องแล้ว ใ้ช้ เบนซินเครื่องเดินดีกว่า อัตราเร่งดีกว่า ทุกวันนี้ผมยังยอมจ่ายแพงบ้างเพื่อใช้เบนซินสลับกับโซฮอล์เพราะมันเปลืองพอกันเลย
ส่วนแก๊สนั้นมันราคาถูกสบายกระเป๋าเหมาะกับคนที่ขับเยอะขับมากครับ มันจะคุ้ม จริงอยู่ถ้าติดก็ประหยัดแต่ลองคิดค่าติดแก๊ส รวมค่าเสื่อม รวมค่าราคาขาย มูลค่าที่ต้องเสียไปกับการติดแก๊สนี่ประมาณไม่ต่ำว่า 7-8 หมื่นบาท ถ้าคุณขับน้อยมันก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าคุณใช้วันละ 100 km เกือบทุกวันมันก็คุ้มครับ เพราะมันประหยัดลงไป 3 เท่า ของการใช้น้ำมัน E10 และ 4 เ่ท่าสำหรับเบนซิน
ส่วนแก๊ส LPG ที่เค้าสนับสนุนให้ใช้ NGV ส่วนนึงคือผลประโยชน์แอบแฝง อีกส่วนนึง คือ หากเกิดการรั่วไหลแก๊ส NGV จะลอยออกไป แต่ LPG หนักกว่าจะสะสมอยู่ภายในตัวรถหรือท้ายรถ ทำให้เกิดการระเบิดไฟไหม้ได้ง่ายกว่าแค่นั้นเอง
-
มองในมุมอีกด้านนึง สังเกตไหมว่าแก๊สต้องมีหม้อต้ม หมายความว่าอะไร
หมายความว่า แก๊สมีความดันสูง 40 psi (ความกดดันสูง อุณหภูมิต่ำ ความกดดันต่ำ อุณหภูมิสูง หลักง่ายๆที่เคยเรียนมา)
ดังนั้นเมื่อแก๊สอยู่ที่แรงดัน 40 psi อุณภูมิของแก๊สมันก็ย่อมต่ำมาก จะสังเกตว่าแกํสรั่ว มันจะมีน้ำแข็งเกาะ เพราะมันเย็นมาก
แต่อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ต้องการความร้อนสูงๆ เอาแก๊สอุณหภูมิต่ำเข้าห้องเผาไหม้ อาจจะเกิดปัญหาเผาไหม้ลำบาก ต้องจ่ายไฟให้แรงเพิ่มขึ้น ย่อมไม่ดีแน่ๆ
เลยต้องมีหม้อต้ม เพื่อเพิ่มอุณหภูมิแก๊สเสียก่อน โดยเอาน้ำร้อนจากหม้อน้ำเครื่องยนต์มาช่วย
และเพื่อให้ได้น้ำร้อน ก็ต้องติดเครื่องสักพัก เพราะฉะนั้น ใช้น้ำมัน ก็แค่ช่วยให้เครื่องร้อนให้ได้น้ำร้อนมาต้มแก๊ส
พอได้แก๊สที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ก็ใช้งานในเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
ไม่ใช่แล้วครับ - - อุณหภูมิของแก๊สในถัง มันก็เท่าอุณหภูมิห้องครับ อย่างถังแก๊สที่บ้าน มันก็อุณภูมิเท่าข้างนอกครับ
แต่ที่มันเป็นน้ำแข็งตอนรั่วนั้น เนื่องจาก เวลามันขยายตัว มันเป็นไปตามหลักเทอร์โมไดนามิกส์ครับ คือความดันลด อุณหภูมิเลยลดตาม
เลยกลายเป็นหลักการของการทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศไงครับ อัดแล้วร้อน>ผ่านคอยล์ร้อนให้เย็นลงระดับนึง>ผ่านวาล์วลดความดัน ทำให้น้ำแอร์เย็น> ผ่านตู้แอร์ ทำความเย็นให้อากาศเข้าห้องโดยสารครับ
ส่วนหม้อต้ม มีเพื่อทำให้แก๊สเปลี่ยนสถานะครับ เพราะในถังมันเป็นของเหลวอยู่ นอกนั้นก็ตามนั้นเลยครับ ต้องรอเครื่องร้อนสักพักก่อน ^^"
ส่วนตัวผมก็ติด ไม่กลัวปัญหาอะไรครับ เพราะประกันแก๊สยาวมาก อย่างของ Europe gas ประกัน 5 ปี ร้านที่ผมติด ประกันปั๊มติ๊กแสนกิโล เช็คระยะฟรีตลอดชีวิต ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ
แต่ถ้าถามว่า "เชื่อไหม" อันนี้ผมว่ามันเป็นความจริงเลยนะครับ ว่ายังไงแก๊สก็ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์เท่าน้ำมัน แต่มันอยู่ในระดับที่ใช้ได้ ไม่ได้แย่อะไรครับ ที่สำคัญ คุ้มมั่กๆ วิ่งอย่างมากสุดๆเลย สองหมื่นกิโล ก็คืนทุนแล้วครับ ถ้าติดอย่างอลังการ สี่หมื่น อะไรแบบนั้น (แต่ถ้าวิ่งน้อยไม่คุ้มแฮะ)
เพราะนอกจากประหยัด มันทำให้เราขับแบบสนุกกว่าได้ด้วยอ่ะครับ มาสด้าสองตอนนี้ กินแก๊สโลละ 1.1บาทนอกเมือง ในเมืองเต็มที่ 1.47 แต่น้ำมันนี่ นอกเมืองผมได้ 2.85บาทต่อกิโล เหอๆ ไม่กล้าเหยียบเลย -
-
เท่าที่ผมใช้รถแกซที่บ้านมา ทั้งของคุณพ่อ คุณย่า และรถผมเองครับ
mazda cronous- ไม่มีปัญหา ใช้แต่ lpg ล้วน กว่าแสนโล แต่ระบบน้ำมันพังหมด
toyota corolla ae92 ใช้ไป6หมื่นโล ยังปกติ
toyota corolla ae101 ทำวาวล์ไป2รอบ รอบละ 1แสนโล เสียค่าทำ 500 บาท
toyota corolla ae111 วิ่งไป 2แสนกว่า ยังไม่เคยทำวาวล์ ยังปกติ
mitsubishi pejero วา่ง 2jZ ไม่มีปัญหา ใช้แต่ lpg ล้วน กว่าแสนโล
volvo 940 วาง 1jz ไม่มีปัญหา ใช้แต่ lpg ล้วน กว่าแสนโล
nissan Nv van ไม่มีปัญหา ใช้แต่ lpg ล้วน กว่าแสนโล แต่ระบบน้ำมันพังหมด
isuzu cameo 2jz ไม่มีปัญหา ใช้แต่ lpg ล้วน กว่าแสนโล แต่ระบบน้ำมันพังหมด
bmw e36 m40 มีปัญหาวาวล์ดัง
bmw e30 m40 มีปัญหาวาวล์ดัง
ทุกคันใช้ระบบดูดหมดครับ สำหรับยเชื้อเพลิง LPG
ปัจจุบัน toyota avanza ผมใช้ระบบแกซหัวฉัีด กำลังทดสอบครับ ได้ 2หมื่นโลแล้ว
ผมได้ข้อสรุปว่า รถใช่แกซควรจะมีระบบวาวล์ที่ทนแกซหน่อย และ ถ้าเป้นไฮดรอลิกวาล์จะหมดความกังวลต่อการใช้งานเลยครับ เช่น toyota fortuner นอกนั้นโอหมด
จะให้ดีระบบหัวฉัีดที่จูนแย่างแม่นยำ ช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกเยอะครับ ถ้าเทียบกับระบบดูดที่ไม่แม่นยำ
แต่กว่าจะถึงระยะซ่อมบำรุงประหยัดไปมากมายครับ
-
ให้ใช้ฟรี ก็ไม่เอา กลัวครับ (LPG)
-
ใช้น้อยไม่ติด ใช้มากติด ครับ :D
-
ถ้าดูจากแท็กซี่ก็พิสูจน์แล้วว่าติดแก็ส LPG ไม่มีปัญหากับเครื่องยนต์
ในขณะที่รัฐควบคุมราคาให้แก็สหุงต้มแต่เอาแก็สไปใช้กับรถนั้นไม่เห็นด้วย
-
ผมติด รุ่น fobos 2 มา เดือน มกราคม ปัจจุบัน วิ่งไป 7324 วิ่งน้ำมันก่อนไปติดแค่ 2678 วิ่งแก๊สที่เหลือ ประมาณ 4พันกว่าโล จนถึง มิถุนายนนี้ มันอาจจะดูวิ่งน้อยมาก แต่ในเมืองน้ำมันรถติด ลดฮวบๆเลย ผมตั้งใจจะติดแก๊สตั้งแต่วันแรกที่ได้รถแล้ว แต่
ช่างบอกให้วิ่งไปซักพักก่อน warm พวกเครื่องให้เข้าที่ก่อน ทุกวันนี้ต่างประเทศใช้ LPG CNG กันหมด แม้กระทั่ง italy เอง ยังทำมาใช้เอง ถ้าได้ลองไปหาข้อมูลดู บ้านเขารถ V8 หรือพวกแพงยิบ ก็ยังติด สำหรับผมไม่มีความกลัวแก๊สเลยฮะ อยากจะบอกว่า
ถ้ามันจะระเบิด ท่านนั่งแท๊กซี่กลัวหรือมั้ย แล้วถ้าท่านบอกว่าท่านไม่ได้นั่ง ท่านได้จอดรถข้างแท๊กซี่บ้างหรือมั้ย หรือรถติดแก๊สคันอื่นๆที่ท่านไม่รู้ มันจะตูมตาม มันเกิดมานานแล้วฮะ พวกที่ตูมตาม เช็คระบบมั้งหรือเปล่า ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใช้อย่างเดียว
-
พูดในแง่ความเหมาะสมนี่ lpg>ngv>oil เพราะคุณสมบัติที่เป็นของเหลวเหมือนน้ำมัน บรรจุได้ง่าย และได้เร็วในปริมาณที่มากกว่า ขับไปได้ระยะไกลกว่า ถังบรรจุไม่หนักเท่า ngv อุปกรณ์ติดตั้งราคาถูกกว่า สถานีบริการมีมากไม่ลำบากในการหาเติม ส่วนความเสื่อมของรถนั้น หากพัฒนารถเพื่อให้เหมาะกับ lpg ก็ไม่มีปัญหา ที่มันไม่ไปไหนในประเทศนี้เพราะ ปตท และ รัฐบาล บังคับประชาชนให้ใช้ ngv และน้ำมัน
-
รถเอาไว้ใช้งาน ไม่ได้เอาไว้บูชา
เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้ทำงานพาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่เอามาไว้ดูแล ขึ้นหิ้งกลัวเครื่องจะพัง
-
จริงๆจะบอกว่าไม่เหมาะก็ไม่ถูกครับ
แต่ น้ำมันคือสิ่งที่ดีที่สุด จากการออกแบบเครื่องยนต์ ณ ปัจจุบัน
แก้ส ก็ถือว่าดี ใช้แทนน้ำมันได้ครับ แต่ไม่ได้ดีที่สุด
และที่สำคัญ ถ้าเป็น lpg ยังไม่มี ยี้ห้อ ไหนที่ผลิตติดมาจากโรงงานและทดสอบในห้องlab แล้วมาขาย ดังนั้น มันคือการดัดแปลงกันเองทุกยี้ห้อครับ
ถ้าวิ่งเยอะ ติดแก้สคุ้มกว่าเติมน้ำมันแน่นอนครับ
แต่ ความคุ้มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าคิดเฉพาะเงินที่จ่ายค่าเชื้อเพลิงอย่างเดียวโดยไม่เอาเรื่องอื่นมาคิด ผมว่าติดเลยครับ ประหยัดมากกว่าเท่าตัวครับ
บางคน กังวลเรื่องปัญหาที่ตามมา ความปลอดภัย ทำให้ระแวง สุขภาพจิตเสีย อันนี้เขาอาจจะว่าไม่คุ้มเพราะ เงินที่ประหยัดไป ไม่พอกับความกังวลที่คอยหลอกตลอดเวลาที่ขับรถ
ถามผมเองผมมองว่า ถ้าเราใข้รถให้เหมาะกับการใช้งาน ถ้าเงินที่เราจ่ายค่าน้ำมัน บริษัทจ่ายให้ หรือเบิกได้ ก็เติมน้ำมันต่อไป
แต่ถ้าเราวิ่งเยอะ ค่าน้ำมันที่บริษัทจ่ายไม่พอกับการใช้งาน(ใช้ทำงานนะ ไม่ใช่รวมไปเที่ยว ตจว เอง) ก็ควรจะติดครับ แต่ เราต้องสังเกตุ และ จับอาการรถให้มากขึ้น เพราะ ระบบแก้สจะเป็นสิ่งที่เพิ่มมาที่ต้องดูแลเพิ่ม เนื่องจากมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำมาจากโรงงาน ไฟเตือนหน้าจอก็จะไม่มีเวลาเกิดปัญหา
แต่ส่วนใหญ่คนที่คิดติดgas เพราะ ใช้รถคันใหญ่ ขับในเมือง เติมน้ำมันไม่ไหว นี่เหละใช้รถไม่ถูกประเภท
ผมไม่ได้มีอคติกับแก้สนะครับ ที่บ้านผมก็ติด gas 2 คัน ไม่ติด 3 คัน(เป็น hybrid คันหนึ่ง)
คันที่ติดแก้ส ก็เป็นรถ Volvo เครื่อง 3.0 กับ 2.3 ใช้ทั่วไปในเมืองนอกเมืองตก 1.7-1.8 บาทต่อกิโล
ส่วนรถเล็ก เครื่อง 1.5,1.6 ทั้ง 2 คัน ตก 3 บาทต่อกิโล ในเส้นทางเดียวกัน
ส่วน camry hybrid กินอยู่ 2.7-2.8 บาทต่อกิโล
อันนี้เป็นตัวอย่างที่ยกให้ฟังว่า ความต่างระหว่างค่าเชื้อเพลิงที่เป็นจริง ว่าoption ไหนที่เหมาะกับคุณ
-
พูดกันซื่อๆ แก้ส มันก็ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์ อยู่แล้วครับ
เพราะเครื่องยนต์เค้าผลิตมาให้ใช้กับน้ำมัน
เพียงแต่มนุษย์เป็นนักประยุกต์และดัดแปลง เพื่อความคุ้มค่า
ก็เลยเกิด พลังงานทางเลือกขึ้นนั่นเอง
ถ้าบ้านเราน้ำมันถูก ก็คงไม่ติดแก๊สกันหรอกครับ
-
ส่วนตัว ผมคิดว่า มันไม่ถึงกับไม่เหมาะซะทีเดียว
เพราะแต่แรกเริ่ม เครื่องยนต์ไม่ได้ทำมาเพื่อแก๊ส ที่เราใช้กันมันเป็นการดัดแปลงซะส่วนใหญ น้อยรายที่ใช้เครื่องที่ทำมาเพื่อแก๊ส
แต่ถ้าเรา (หรือ คนติดตั้ง) เข้าใจในระบบเคื่องยนต์ดีพอ ก็ทำให้ทนได้นิครับ ลองดูครับ ว่าคนทำแต่ละเจ้าทำถึงแค่ไหน มีสักกี่คนที่เข้าใจว่า เชื้อเพลิงที่ค่า octane ต่างกัน มันต้องปรับองศาไฟจุดระเบิดให้เหมาะสม
อาการแบบนี้ก็เหมือนแก๊สโซฮอล บางคนบอกวิ่งดี บางคนบอกไม่ดี บางคนถึงขั้นแอนตี้กันเลย แต่ลองคิดดูครับว่าทำไมมันใช้แล้วไม่ได้ผลดี
ส่วนรถที่ใช้อยู่ผมก็อยากติด lpg เหมือนกัน แต่เนื่องด้วยไม่มีเวลาหาที่ ที่ไว้ใจได้ และแหะๆ ใช้รถปีนึงไม่เท่าไหร่ก๊เลยยังไม่ได้ติด
บางที่คนเราอาจจะคิดว่าของราคาถูกย่อมไม่ดีเสมอไปก็เป็นได้ครับ ;D
-
มันไม่เหมาะหรอกครับ กับรถยนต์ มันแค่ใช้ได้กับรถยนต์ ขนาดแก๊สโซฮอล์ E10 ขับเทียบกับ เบนซิน ก็คงเรื่องแล้ว ใ้ช้ เบนซินเครื่องเดินดีกว่า อัตราเร่งดีกว่า ทุกวันนี้ผมยังยอมจ่ายแพงบ้างเพื่อใช้เบนซินสลับกับโซฮอล์เพราะมันเปลืองพอกันเลย
ส่วนแก๊สนั้นมันราคาถูกสบายกระเป๋าเหมาะกับคนที่ขับเยอะขับมากครับ มันจะคุ้ม จริงอยู่ถ้าติดก็ประหยัดแต่ลองคิดค่าติดแก๊ส รวมค่าเสื่อม รวมค่าราคาขาย มูลค่าที่ต้องเสียไปกับการติดแก๊สนี่ประมาณไม่ต่ำว่า 7-8 หมื่นบาท ถ้าคุณขับน้อยมันก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าคุณใช้วันละ 100 km เกือบทุกวันมันก็คุ้มครับ เพราะมันประหยัดลงไป 3 เท่า ของการใช้น้ำมัน E10 และ 4 เ่ท่าสำหรับเบนซิน
ส่วนแก๊ส LPG ที่เค้าสนับสนุนให้ใช้ NGV ส่วนนึงคือผลประโยชน์แอบแฝง อีกส่วนนึง คือ หากเกิดการรั่วไหลแก๊ส NGV จะลอยออกไป แต่ LPG หนักกว่าจะสะสมอยู่ภายในตัวรถหรือท้ายรถ ทำให้เกิดการระเบิดไฟไหม้ได้ง่ายกว่าแค่นั้นเอง
แล้วที่เขาออกข่าว NGV ระเบิดบ้าง ไฟไหม้รถบ้าง ไม่ได้ดูเลยหรอครับ
ส่วนค่าสึกหรอคุณว่ามันเยอะ แต่เคยได้ยินคนใช้แก๊สบ่นกันไหม ว่า ติดแก๊สไป "เครื่องพัง วางเครื่องใหม่ยังคุ้มเลย " ตอนแรกที่บ้านผมไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ ถ้าเครื่องพัง ไม่คิดมากเลยครับ เงินที่เหลือจากการเติมน้ำมัน วางใหม่ได้สบายๆ
-
พอติดเสร็จแล้วทุกคนจะพูดเหมือนผม "รู้ยังงี้...ติดตั้งนานแหล่ะ"
-
พอติดเสร็จแล้วทุกคนจะพูดเหมือนผม "รู้ยังงี้...ติดตั้งนานแหล่ะ"
อ่า เพื่อนผมซื้อวีออสได้เกือบสองปีล่ะ เดือนนึงใช้รถค่อนข้างเยอะเพราะทำงานที่ชลบุรีแต่แฟนทำงานที่นวนครต้องไปหาทุกสัปดาห์ กลับบ้านที่อุบลก็บ่อยจนไม่ไหวค่าน้ำมันจะเกินค่าผ่อนอยู่แล้วต้องติดแก๊สหาข้อมูลมาเกือบปีว่าปลอดภัยมั๊ยติดอันไหนดีระหว่าง LPG กะ NGV โดนผมให้ความรู้เรื่องแก๊สแกมด่าไปก็เยอะสุดท้ายก็ไปติด LPG จนได้ แล้วก็บอกว่า
"รู้ยังงี้...ติดตั้งนานแหล่ะ"
-
ใช้ก๊าซแล้วปั๊มติ๊กพัง เพราะเราใช้แต่ก๊าซไม่ยอมเติมน้ำมันครับ แล้วยังไงล่ะ----
เมื่อเราปล่อยให้ป้ั๊มติ๊กทำงานโดยที่ขาดน้ำมันเชื้ัอเพลิง ในถัง จะทำให้ปั๊มติ๊กปั่นฟรี และเกิดความร้อนขึ้นภายในตัวครับ แล้วจะแก้ไขยังไงล่ะ---
- ตัดการทำงานของปั๊มติ๊ก เพื่อรักษาปั๊มติ๊ก
ข้อดีคือ ลดการสึกหรอของปั๊มติ๊ก ....ก็แน่ล่ะ มันไม่ทำงานหนิ
ข้อเสียคือ หากเมื่อใดก็ตามที่ระบบก๊าซขัดข้อง แล้วต้องการสลับมาใช้น้ำมันอย่างทันที จะเกิดการวูบของเครื่องยนต์ครับ
-ไม่ตัดปั๊มติ๊ก
ข้อดีคือ เมื่อต้องการสลับมาใช้ระบบน้ำมันเหมือนเดิม เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อเสียคือ หากปล่อยให้น้ำมัน เหลือน้อยๆ บ่อยๆ ก็เท่ากับว่า เรากำลังเผามอเตอร์ปั๊มติ๊กอยู่นั่นเอง ;)
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงประสบกาณ์ส่วนตัว มิอาจนำไปอ้างอิงได้นะครับ ;D
ของผมก็คิดในแน่นี้ รวมถึงช่างที่ติดให้ผมก็บอกแบบนี้ครับ ถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊๊กของผมก็ เน้นว่าเติมนำ้มันให้ไม่ตำ้่หว่าครึ่งถึงครับ ส่วนมากก็เติมเต็มตลอดครับ .
---------------------------
ส่วนถ้าคิดว่าแก๊สเหมาะกับเครื่องยนต์ไม คำตอบมันก็คือ ยังไงรถมันก็ไม่ได้ออกแบบเครื่องยนต์มาเพื่อแก๊ส แต่ว่าพลังงานทดแทนอะไรที่ถูกกว่าแ่ต่ได้การใช้งาน
ที่ใกล้เคียงที่สุดนั้นมันคือLPGนั้นเองครับ แต่ถ้าถามผผมว่าถ้าสามารถใช้จ่ายแบบสบายๆเติมนำ้มันแบบไม่ต้องคิดได้ ผมเชือว่าก็ไม่มีใครจะเอารถไปติดLPGกันหรอกครับ
ของที่บ้านผม2คันก็ตัดกันหมดทุกคันPajero V6 3.0 ก็ติดครับ แต่ช่างที่ติดเกรียน์ๆหน่อยแต่ก็ใช้มา2-3ปีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ ส่วนA33(VQ20DE) ก็พึ่งติดเมื่อกลางๆปีที่แล้ว
ตอนแรกๆจะติดตั้งนานแล้ว แต่แม่ไม่ยอม สุดท้ายก็ต้องติดอยู่ดี ทั้ง2คันใช้มาวิ่งมีความสุขดีครับ ยังไม่มีปัญหาอะไรให้ปวดหัวเลย แล้วก็เหมือนที่คุณcheanพูด ติดเสร็จ
ก็มีแต่คนบอกว่า "รู้ยังงี้..ติดตั้งนานแหล่ะ" และผมก็เชือว่าคนที่จะพูดคำนี้ได้ ต้องเป้นคนที่ติดแล้วจบรถวิ่งดี ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าติดแล้วไม่จบอันนี้เซ็งแย่เลยครับ
-
รถเอาไว้ใช้งาน ไม่ได้เอาไว้บูชา
เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้ทำงานพาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่เอามาไว้ดูแล ขึ้นหิ้งกลัวเครื่องจะพัง
ชอบครับ คำพูดนี้กระแทกใจสุดๆ รถมีไว้ใช้งานไม่ได้มีไว้บูชา เราเป็นเจ้านายรถ อย่าให้รถมาเป็นเจ้านายเรา ;D
-
ผมวิ่งเฉลี่ย 2,500 - 3,000 กิโลต่อเดือน แต่ไม่ได้ติดแก๊สครับ ผมอยากติด เพราะคิดว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่ ภรรยาไม่ยอม เค้ากลัวทุกอย่างเลย
วิ่งน้ำมันมา 8 หมื่นกว่ากิโลแล้ว รถ 2 ปี 3 เดือน ผมวิ่งเฉลี่ยที่ 2.4 บาท / กิโล(So91)
รวมค่าน้ำมัน 80,000 X 2.4 = 192,000 บาท วิ่งแก๊สประหยัดกว่าประมาณ ครึ่งของน้ำมัน 192,000/2=96,000
ค่าติดตั้ง ประมาณ 35,000 บาท ค่าดูแลรักษาระบบเพิ่มเติม ประมาณ 10,000 บาท (ให้อย่างแพงเลยนะครับ)
( ถ้าติดแก๊สน่าจะมีเงินเหลือจากส่วนต่างค่าน้ำมัน = ค่าน้ำมัน-ค่าแก๊สในระยะเดียวกับน้ำมัน -ค่าติดตั้ง-ดูแลรักษาระบบ)
= ( 192,000 - 96,000 - 35,000 - 10,000 = 51,000 บาท )
แต่เพราะความสงบสุขในครอบครัว สรุปก็เลยไม่ติดครับ
-
ผมวิ่งเฉลี่ย 2,500 - 3,000 กิโลต่อเดือน แต่ไม่ได้ติดแก๊สครับ ผมอยากติด เพราะคิดว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่ ภรรยาไม่ยอม เค้ากลัวทุกอย่างเลย
วิ่งน้ำมันมา 8 หมื่นกว่ากิโลแล้ว รถ 2 ปี 3 เดือน ผมวิ่งเฉลี่ยที่ 2.4 บาท / กิโล(So91)
รวมค่าน้ำมัน 80,000 X 2.4 = 192,000 บาท วิ่งแก๊สประหยัดกว่าประมาณ ครึ่งของน้ำมัน 192,000/2=96,000
ค่าติดตั้ง ประมาณ 35,000 บาท ค่าดูแลรักษาระบบเพิ่มเติม ประมาณ 10,000 บาท (ให้อย่างแพงเลยนะครับ)
( ถ้าติดแก๊สน่าจะมีเงินเหลือจากส่วนต่างค่าน้ำมัน = ค่าน้ำมัน-ค่าแก๊สในระยะเดียวกับน้ำมัน -ค่าติดตั้ง-ดูแลรักษาระบบ)
= ( 192,000 - 96,000 - 35,000 - 10,000 = 51,000 บาท )
แต่เพราะความสงบสุขในครอบครัว สรุปก็เลยไม่ติดครับ
ผมวิ่งน้อยกว่าเยอะเลยครับ แต่เหตุผลเดียวกันเป๊ะ คือคุณภรรยาไม่เอาเลยครับ เค้ากลัว
อย่าว่าแต่รถเลยครับ ทำกับข้าวยังไม่ทำเลย กลัวแก็ส คือเค้าแพ้กลิ่นครับ จะมีอาการหอบซึ่งเป็นโรคประจำตัวด้วยครับ
-
แล้วถ้ามีเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง ออกเทน105 ราคา 12.50 ละครับ
-
รองเท้าไม่สร้างออกมาให้ถูกเหยียบส้นครับ แต่คนเราบางทีก็ลักไก่เหยียบส้นเพราะใส่ง่ายกว่า แล้วส้นก็พัง พื้นรองเท้าด้านหลังก็หลุด
เหมือนกัน
รถมันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้แก้ส โอเคยกเว้นบางคันที่ทำมาเพื่อกันและกัน น้ำมันยังไงย่อมดีกว่า หากวันนึงแก้สราคาเท่าน้ำมันก็คงไม่มีใครเลือกใช้แก้ส
-
ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์นัก แต่เหมาะกับเงินในกระเป๋าสุดๆ
-
ผมมี คติ กับแก๊สครับ
ติดวันนี้ ประหยัดวันนี้
มีเงินเหลือ มีความสุข (มันค่อนข้างจริง)
วันพรุ่งนี้ ก็จะมีความสุข
วันต่อๆ ไป ก็จะมีความสุข
เพราะมีเงินเก็บจากค่าเชื้อเพลิง
-
ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์นัก แต่เหมาะกับเงินในกระเป๋าสุดๆ
+1
-
ต่างประเทศที่อื่นเค้าก็ติดกันมาหลายปีแล้ว บ้านเราถ้าน้ำมันไม่แพงขึ้นมากแล้วอย่าได้หวังว่า คนไทยจะหันไปมองแก็สติดรถยนต์ ;D ;D
เชื้อเพลิงกับเครื่องยนต์ มารูปแบบไหนก็เหมาะสม ถ้าใช้เป็น
-
ผมใช้แกส มา 7 ปี ประหยัดไปแล้ว ประมาณ 3-4 แสนบาท ครับ เครื่องยนต์ยังไม่มีปัญหาเลย ถ้ามีจิงก็วางเครื่องไหม่ยังคุ้มได้อีก ;D
-
ต้องลองใช้ดูครับ ชีวิตเปลี่ยนเลย จริงๆ
-
เท่าที่อ่านดูทราบเลยครับว่ายังมีคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบพลังงานทดแทนอีกเยอะมากๆ
หลายๆคนยังมีความเชื่อผิดๆเรื่องLPGเยอะมากๆ ทั้งๆที่ต่างประเทศเค้าใช้กันจนเป็นเรื่องปกติ
ผมว่าเอาเข้าจริงใครจ่ายไหวน้ำมันก็ก้มหน้าก้มตาจ่ายต่อไป ใครคิดว่าLPGเป็นทางเลือกที่ดี
กว่า ก็ใช้ไปครับ แต่มีแต่คนบอกพอแนะนำให้ไปติดLPG รู้งี้ติดไปต้งนานแล้ว แล้วเจ้าคนพวกนี้
คือคนที่กลั๊วกลัว LPG ขึ้นสมอง พอติดไปเสร็จ เห็นมันขับรถเยอะกว่าเดิมทุกคน คราวนี้ไม่เห็นมีใคร
กลัวซักคน ผมเองก็งง เหมือนกัน ทำไมคราวนี้ไม่เห็นมีใครบอกว่ากลัวซักคนเลยแฮะ
สมัยเกือบ10ปีที่แล้ว ไม่เคยรู้ซึ้งถึงคำว่า ใช้แก๊สแล้วคุณภาพชีวิตดีขึ้น จนวันหนึ่งผมเอารถคันที่ติดแก๊ส
ขึ้นอุตรดิตถ์ สมัยLPG ลิตรละ 8บาทกว่า (ไม่ต้องถามว่ามันBreakeven ไปกี่ปีแล้ว แล้วทุกวันนี้รถคันนี้
ก็ยังใช้ได้อยู่ ยังไม่เคยโอเวอร์ฮอลล์เครื่องซักครั้งใช้LPG มา220,000กิโล เลขไมล์หน้าปัด298,000กิโล)
ผมจำได้แม่นว่าอัดแก๊สLPG จากหน้าบ้านตรงพระราม2 ตอน5.30 อัดเต็มถังไป600ปลายๆ น่าจะ60-70ลิตรมั้ง
ไปรับโคโยตี้แถวเหม่งจ๋ายแล้วขึ้นอุตรดิตถ์ จำได้ว่า ซัดไปจนเกือบถึงอุตรดิตถ์ ด้วยค่าแก๊ส600กว่าบาท
แทบจะกรี้ดลั่นแต๋วแตกอยู่ในรถ ป้าด ประหยัดหลายแท้ !!!! หลังจากนั้นมา เลยรู้เลยครับว่า ใช้แล้วคุณภาพชีวิตดีขึ้นเป็นเยี่ยงไร
อยากจะแนะนำสำหรับใครที่จีบสาวบ้านอยู่ไกลๆ ให้รีบติดแก๊สซะ ประโยชน์ชัดเจนมาก กินข้าว ดูหนัง ค่าน้ำมัน
ถ้าโดนเป็นแพคเกจแบบนี้บ่อยๆ อาจเจ๊งได้ แนะนำรถติดแก๊สจะช่วยประหยัดไปได้เยอะครับ
-
แล้วสมมติวันนึง หากแก้สราคาถูกกว่าน้ำมัน E10 เพียง 3 บาท
ถึงเวลานั้นจะเลือกน้ำมันหรือแก้สครับ ?
-
แล้วสมมติวันนึง หากแก้สราคาถูกกว่าน้ำมัน E10 เพียง 3 บาท
ถึงเวลานั้นจะเลือกน้ำมันหรือแก้สครับ ?
คำตอบรู้อยู่แล้วครับ ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง
-
แล้วสมมติวันนึง หากแก้สราคาถูกกว่าน้ำมัน E10 เพียง 3 บาท
ถึงเวลานั้นจะเลือกน้ำมันหรือแก้สครับ ?
เอ่อ...คือมันไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ - -
แม้แต่ในยุโรป ไม่ได้ขึ้นค่าน้ำมัน มาอุดค่าแก๊ส LPG ของรถยนต์ ก็ถูกกว่าเบนซินพอสมควรอยู่ดีครับ ส่วนถ้าจะเติม E100 ผมว่า LPG อาจจะดีกว่า
การรอให้ถึงวันนั้น ผมว่ามันเหมือนในการ์ตูน Doctor K อยู่นะครับ
คือคนไข้ แทนที่จะอดทนกับคุณภาพชีวิตแย่ๆ กับหัวใจที่อ่อนแอ เพื่อรอหัวใจเทียมที่สมบูรณ์แบบ ไม่ต่างจากหัวใจจริงๆ
สู้ใช้หัวใจเทียมธรรมดาไปก่อน แม้มันจะต้องเปลี่ยนแบตทุกสามปี ข้อเสียมากมาย แต่ในระหว่างนี้ เขาจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถทำอะไรให้ชีวิตได้อีกเยอะเลยครับ และเมื่อถึงวันที่เทคโนโลยี ผลิตหัวใจเทียมที่สมบูรณ์แบบได้จริงๆ ตอนนั้นจะไปเปลี่ยนอีกทีก็ยังไม่สายครับ
-
เข้ามาย้ำอีกทีครับ ใครที่ยังไม่ติดและลังเล
ห้ามติดนะครับ
" เดี๋ยวแก็ส ราคาจะขึ้น พวกผมจะเดือดร้อน "
;D
-
หมดยุคน้ำมันไปซะที ใช้แต่แก๊สกะไฟฟ้าพอละ น้ำมันการเมืองเยอะ (แก๊สไม่ค่อยเท่าไหร่)
-
มีหลายคนที่เปลี่ยนรถแล้วคันต่อไปจะไม่ติดแก๊สนะครับ
น่าจะมาจากความจุกจิกจากเครื่องยนต์ ที่บางคนเจอบางคนไม่เจอ (ใช้น้ำมัีนไม่ต้องกังวล)
เสียเวลาที่ต้องเอารถกับไปเอาอู่แก๊สบ่อยๆ ในกรณีที่ปัญหาแก้ไม่จบ
ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้รถเยอะจริง แก็สเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่มีความรู้ด้านช่างบ้าง
-
มีหลายคนที่เปลี่ยนรถแล้วคันต่อไปจะไม่ติดแก๊สนะครับ
น่าจะมาจากความจุกจิกจากเครื่องยนต์ ที่บางคนเจอบางคนไม่เจอ (ใช้น้ำมัีนไม่ต้องกังวล)
เสียเวลาที่ต้องเอารถกับไปเอาอู่แก๊สบ่อยๆ ในกรณีที่ปัญหาแก้ไม่จบ
ส่วนตัวคิดว่าถ้าใช้รถเยอะจริง แก็สเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่มีความรู้ด้านช่างบ้าง
ติดรถ ไม่จุกจิก ก็ไม่เจอปัญหาครับ
แค่ค่าย ยุโรษปัญหาเยอะ
-
นานาจิตตัง
ติดแก๊ส ก็มีโอกาสมีปัญหามากกว่า ไม่ติดน่ะแหละ ถ้าเราดูแลถึง หรือ เลือกรถที่ คนติดกันเยอะๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา
แต่ถ้าใช้รถเยอะ ยังไงๆ ติดแก๊สก็คุ้มกว่าครับ
รถที่ผมขับอยู่ ก็ใช้แก๊ส LPG ไปไหนมาไหน ไม่ต้องคิดมาก จะซัด จะคิกดาว ก็ไม่ต้องคิดมาก
เพื่อนให้ไปส่ง อยากไปหาเพื่อน ไป ตจว ไปนู่นไปนี่ ไม่คิดมาก แต่ถ้าเป็นน้ำมัน ก็จะคิดมากครับ จะไม่อยากขับเยอะ
เสียโอกาสที่จะทำอะไรๆไปเยอะ
-
ถ้าคุณใช้รถเยอะยังไงก็คุ้ม
ถ้าบอกว่า เครื่องโทรมพังเร็ว แต่ส่วนต่างในความประหยัดมันให้คุณมากกว่าเห็นๆ
และ อย่า!! บอกว่า LPG ดีกว่า NGV มันขึ้นอยู่กับพื้นที่ อย่างผมอยู่ในพื้นที่แนวท่อก๊าซ ไม่เคยรอคิวนานกว่า 5 นาที ส่วนต่าง NGV กับ LPG เทียบต่อ กก./ระยะทางก็มากพอดู
ถ้าวิ่ง นม. ในเมือง กม.ละ 4 บาท NGV กม.ละ 1 บาท ต่าง 3บ./กม.
วิ่งแสน กม. ได้คืน สามแสนบาท ถ้ารถใหม่ภายใน แสน กม. ไม่มีซ่อม
ถ้ามัน ทำให้โทรมเร็วโดยไม่มีข้อดี รถ taxi ส่วนใหญ่ต้องใช้ นม. แทน เพราะรถ taxi วิ่งมากกว่ารถปกติเฉลี่ย 3-4 เท่า ลองไปอ่านในเวบ คุณวีรพลดู