Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: superden ที่ มิถุนายน 13, 2012, 09:02:23
-
ถ้าเราซื้อรถมา แล้วคิดเสียว่า เราเช่าใช้วันละ 100 บาท(ไม่รวมค่าน้ำมัน) 1ปีก็ 36,500 บาท พอ 5 ปีก็เท่ากับ 182,500 บาท แบบนี้คุ้มไหมครับ
-
ค่าใช้จ่ายของรถแต่ละคัน ต่อปีมันไม่เท่ากันนะครับ
รถใหม่ป้ายแดง อาจจะมีแค่ค่า ภาษีรายปี ค่าประกันชั้น 1 แล้วก็ค่าเช็คระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ปีนึง อาจจะซัก 2-3 หมื่น
แต่ อย่าลืมคิดค่าเสื่อมสภาพอื่นๆ อีกนะครับ ส่วนรถเก่า ก็ต้องรวมค่าซ่อมบำรุงตามสภาพอีก รวมๆแล้ว ปีนึงน่าจะ มีเป็นหลักแสนแหละ
-
คือตอนนี้ผมใช้รถ city รุ่น typez ครับ ซื้อมาปีที่แล้ว ใช้มา1ปี ไม่เคยซ่อมอะไรเลย แค่เอาไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สองครั้ง รวมกันหมดไปไม่ถึง2,000 บาท (ตั้งแต่ซื้อเมื่อ มิ.ย. ปีที่แล้ว ผมขับไปราวๆ15,000 กิโลเมตร) ค่าภาษี ก็ต่อมา1ครั้ง หมดไป ราว 1,500 บาทครับ
คือ ถ้าผมจะขายต่อแล้วราคาตำกว่าตอนซื้อมาซัก 3.5 หมื่น นี่จะถือว่าคุ้มไหมครับ หรือว่าควรขายตำกว่าราคาเดิมมากกว่านี้
-
แล้วรุ่นย่อยอะไร ซื้อมาเท่าไหร่ รถปีอะไร สภาพเป็นอย่างไรหล่ะครับ ข้อมูลน้อยไปใครก็ตอบไม่ได้หรอกครับ
-
ราคาที่ซื้อมาเท่าไหร่ครับ
อย่างรถผม ใช้มา 5 ปี 9 เดือน ราคาส่วนต่างหายไปแล้วราวๆ 3 แสนบาท
คิดแล้วก็ตกวันละราวๆ 200 บาท มั๊ง นี่ขนาดรถเล็กนะครับ
รถมือ 1 ถ้ามาคิดแบบนี้ มันจะเสียค่าเช่าแพงมากเลยครับ
ปล. จากข้อมูล จขกท ผมว่าใช้มา 1 ปี ราคาหายไป 35000 ผมรับได้นะครับ
-
แล้วรุ่นย่อยอะไร ซื้อมาเท่าไหร่ รถปีอะไร สภาพเป็นอย่างไรหล่ะครับ ข้อมูลน้อยไปใครก็ตอบไม่ได้หรอกครับ
เกียร์ธรรมดา lxi ครับ รถ ปี 44 ซื้อมา 240,000 แล้วเอาไปติดเครื่องเสียงกับสัญญาณกันขโมย10,000 บาท รวมเป็น 250,000 บาท มันมีกระจกไฟฟ้ามาให้ที่บานประตูหน้าครับเจ้าของเก่าติดมาให้ ถ้าขายราคาตำกว่าเติม ซัก 35,000 บาท จะได้ไหมครับ คิดซะว่าเช่าใช้วันละ100 บาท หรือว่าแพงไปครับ
-
เอาง่ายๆเลยครับ ลองไปดูตามที่เค้าขายมือ2
รุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ปีเดียวกัน อายุการใช้งานพอๆกัน เค้าขายอยู่ที่เท่าไหร่
พอได้ราคากลางแล้วก็ขึ้นอยู่กับเรา ว่าอยากขายที่เท่าไหร่?
ถ้ารีบขายเพื่อเอาเงินไปใช้ก็ตั้งให้ต่ำกว่าราคากลางสักหน่อย เดี๋ยวก็ขายได้แล้วครับ ;D
ราคามือ2 เค้าจะไม่รวมชุดแต่งนะครับ อย่ามองว่าแต่งมาเยอะเลยตั้งอัฟราคาหน่อย จะขายยากนะครับ :D
-
สำหรับผมเวลาคิดเรื่องความคุ้มค่า ผมจะเอาระยะทางที่ใช้ หารกับ ราคาที่รถยนต์ที่ตกลงไปเวลาขาย เพราะรู้สึกว่า รถซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้มันไม่ค่อยคุ้มอ่ะครับ ยกเว้นพวกรถสปอร์ตหรือพวกรถสะสม
-
City LXi น่าจะขายได้ 1.5-1.8 แสนครับ แต่ราคาลงมาแล้วมันก็จะนิ่ง ลงแต่ล่ะปีน้อยลงเรื่อยๆครับ
คิดซ่ะว่าปีแรก หาย 4 หมื่น ปีต่อไป 3 ได้ครับ แต่ถ้ามันหาเงินให้เราเพิ่มได้เกินค่าเสื่อม
เราก็คิดซ่ะว่าเราทำกำไรจากการขับมันครับ ;D จะได้ไม่ซีครับ ;D
-
สำหรับผมเวลาคิดเรื่องความคุ้มค่า ผมจะเอาระยะทางที่ใช้ หารกับ ราคาที่รถยนต์ที่ตกลงไปเวลาขาย เพราะรู้สึกว่า รถซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้มันไม่ค่อยคุ้มอ่ะครับ ยกเว้นพวกรถสปอร์ตหรือพวกรถสะสม
ตอนแรกผมก็กะคิดแบบนั้น แต่คิดแบบนั้นจะหนักใจว่า รถเราไม่ค่อยวิ่งไปไหนเลยใช้มา1ปี วิ่งแค่15,000 โลเอง(ที่จริงก็คงไม่มากไม่น้อยมั้งคิดว่างั้นนะ) ถ้าคิดเช่าใช้โลละ 3 บาท ก็ตกที่ราวๆ 45,000 บาท แต่ที่คิดเป็นวันละ100เพราะว่า มันรู้สึกว่า เรามีทรัพย์สมบัติจอดอยู่ในบ้าน ในที่ทำงาน คือทำให้ตัวเองรู้สึกว่ายังดีที่มีรถยนต์ขับด้วยตนเอง มีทรัพย์สมบัติของตน แล้วมันก็ปลอดภัยกว่าขี่มอเตอร์ไซด์ เรียกว่าได้ความภาคภูมิ อุ่นใจในการจอดและในการขับไปพร้อมๆกันทุกวันทุกคืน เลยคิดเสียว่า เช่าใช้วันละ 100 บาท ละกัน
-
City LXi น่าจะขายได้ 1.5-1.8 แสนครับ แต่ราคาลงมาแล้วมันก็จะนิ่ง ลงแต่ล่ะปีน้อยลงเรื่อยๆครับ
คิดซ่ะว่าปีแรก หาย 4 หมื่น ปีต่อไป 3 ได้ครับ แต่ถ้ามันหาเงินให้เราเพิ่มได้เกินค่าเสื่อม
เราก็คิดซ่ะว่าเราทำกำไรจากการขับมันครับ ;D จะได้ไม่ซีครับ ;D
type z นะครับ ไม่ใช่ Lxi เฉยๆ คือผมคิดว่าราคามันน่าจะราว200,000 นิดๆได้อยู่หรือว่าผมคิดเข้าข้างรถมากไป
-
ราคากลางจาก ธนชาตินะครับ ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะได้ซัก 190,000 ถ้าไปปล่อยเต้นท์อาจได้แค่ 160,000 ด้วยซ้ำ ซื้อมาปีที่แล้ว 240,000 ผมว่าได้มาแพงมากไม่น่าเกิน 220,000 ช่วงนี้รถ 1,500 ซีซีและรถเก๋งทั้งหลายราคามือสองตกครับเพระาเจออีโคคาร์เข้าไป ไม่พอยังเจอนโยบายคืนภาษีอีก ถ้าอยากปล่อยจริงแนะนำว่ารออีกซักหน่อยให้นโยยายซาหน่อยน่าจะได้ราคาสูงขึ้น
ป.ล. ชักไม่แน่ใจล่ะ เหมือนจะมีรถโดนเยอะเพื่อมาขายทอดตลาดมากขึ้น
-
อย่าคิดมากครับ ชื่อมันก็บอกไว้อยู่แลเวว่า รถ = ลด
ลองคิดแบบผม ผมได้กำไรตั้งแต่วันแรกที่ซื้อครับ ผมซื้อรถมือสองครับ ราคา ไม่ถึงแสน 89000 ผมมาซ้อมช่วงล่าง อันไหนเสีย เสื่อม ก็เปลี่ยน อันนั้นพอใช้ได้ ก็ใช้ต่อ โชคดีที่เครื่อง และ แก๊สที่ติดมา ยังใช้ได้อย่างดี แก๊สหัวชีด มีข้อเสียตรงอัตตราเร่ง ผมลองขับดู 1-100 ใช้เวลา เกือบ 20 วิ แต่หลังจากการเดินทางออกจาก กทม มาจนถึงจังหวัดผม ระยะทาง ร่วม 600 กม ขับทำความเร็วอยู่ที่ 130-140 มี 150 บ้างบางจังหวะ ผมถือว่า ขับได้ดีทีเดียวครับ
ตอนนี้เหลือ เปลี่ยน mag และยาง ทำไฟนิดหน่อย เปลี่ยนลำโพง 1 ตัว ปรับจูนระบบแก๊ส อีกนิดหน่อย
ของเหลวทุกอย่าง เหลือแต่น้ำมันเกียร์ครับยังไม่ได้เปลี่ยน ยังไม่มีเวลา อิอิ
ออ รถผมไม่ได้เลือกรถญี่ปุ่นนะครับ
-
ซื้อรถมา ราคา 8 แสน
ถ้าใช้ 8 ปี ราคาตกไป 4 แสน
เท่ากับปีล่ะ 50,000 หรือเดือนล่ะ 4,000 กว่าบาท
คุณมองรถ เป็น Expense หรือเป็น Asset ล่ะครับ??
มันคุ้มค่ากับ
"ความสะดวกสบาย" : เดินทางสะดวก รับส่งผู้สูงอายุ ไปทำธุระ
"การใช้งาน" : ไม่มีขนส่งสาธารณะ เป็นเซลล์วิ่งงาน อยู่ตจว.
"ความจำเป็น" : ถนนหนทางอันตราย ซอยเปลี่ยว
และโจทย์อื่นๆในชีวิตของเราหรือเปล่า??
ถ้ามันคุ้มค่า ค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ก่อให้เกิดรายได้และผลประโยชน์
สมควรแก่การลงทุน(สมควรแก่การซื้อไว้ใช้) ถึงราคาตก ยังไงๆมันก็คุ้ม
แต่ถ้า ซื้อมาให้รู้ว่า "ชั้นก็มีรถขับนะ" "ชั้นมีเงินซื้อรถนะ"
ความอวดร่ำอวดรวยเหล่านั้น คุ้มมั้ยกับค่าเสื่อมของรถ(ราคาที่ตกลงจากราคาซื้อ)ที่จะเกิดขึ้น
-
ซื้อรถมา ราคา 8 แสน
ถ้าใช้ 8 ปี ราคาตกไป 4 แสน
เท่ากับปีล่ะ 50,000 หรือเดือนล่ะ 4,000 กว่าบาท
คุณมองรถ เป็น Expense หรือเป็น Asset ล่ะครับ??
มันคุ้มค่ากับ
"ความสะดวกสบาย" : เดินทางสะดวก รับส่งผู้สูงอายุ ไปทำธุระ
"การใช้งาน" : ไม่มีขนส่งสาธารณะ เป็นเซลล์วิ่งงาน อยู่ตจว.
"ความจำเป็น" : ถนนหนทางอันตราย ซอยเปลี่ยว
และโจทย์อื่นๆในชีวิตของเราหรือเปล่า??
ถ้ามันคุ้มค่า ค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ก่อให้เกิดรายได้และผลประโยชน์
สมควรแก่การลงทุน(สมควรแก่การซื้อไว้ใช้) ถึงราคาตก ยังไงๆมันก็คุ้ม
แต่ถ้า ซื้อมาให้รู้ว่า "ชั้นก็มีรถขับนะ" "ชั้นมีเงินซื้อรถนะ"
ความอวดร่ำอวดรวยเหล่านั้น คุ้มมั้ยกับค่าเสื่อมของรถ(ราคาที่ตกลงจากราคาซื้อ)ที่จะเกิดขึ้น
ตอนนี้ผมคิดอีกครั้งว่า ความคุ้มน่าจะเกิดจาก
1. ระยะทางที่วิ่ง อาจจะกิโลละ บาท หรือ2 บาท หรือ3 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราค่าโดยสารสาธารณะที่ที่เราพักอาศัยหรือใช้รถเป็นประจำ
2. ความสะดวกสบายที่ได้รับจากมัน ดีกว่าที่เราจะรอรถสาธารณะหรือขอใช้รถคนอื่น หรือพึ่งคนอื่น
3. ความปลอดภัย คือปลอดภัยกว่ารถสาธารณะที่บางคน บางนขับ ขับเสี่ยงมากๆ หรือสภาพรถไม่พร้อม แต่ถ้ารถเราเรารู้เองว่าปลอดภัยไม่ปลอดภัยอย่างไร และปลอดภัยกว่ารถมอเตอร์ไซด์ด้วย(เหล็กหุ้มเนื้อปลอดภัยกว่า)
4. ภาพลักษณ์ คือ บางทีอาจจะยอมเสียเงินมากขึ้นเพื่อได้ภาพลักษณ์ที่ดีในรถที่ดูดีขึ้น แม้ต่อไปราคามันจะตกมากกว่า
จากที่ท่านกล่าวมา ผมก็ว่าใช่นะ