Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: big1731 ที่ มิถุนายน 20, 2012, 16:50:24
-
พอดีไม่เคยใช้เลย สำหรับเติมลม ไนโตรเจน พอดีพึ่งเปลี่ยนยางใหม่มาเลยอยากหาวิธีที่ถนอมยางหน่อยครับ 205 50 16 นี่ควรเติม
ปริมาณ เท่าไหร่ดีครับวิ่งในเมืองเป็นหลัก ๆ ขอบคุณครับ และ ไนโตรเจนี่มันช่วยลดอุณภูมิ ของอย่างด้วยเหรอครับ
-
ยางไม่ร้อน นิ่มกว่าปกติคับ
-
ลมยางไนโตรเจน เวลาวิ่งเร็วๆยางร้อนๆ ลมในยางจะไม่ขยายตัวมากเหมือนกับลมยางปกติครับ
เท่าที่รู้(อันนี้ไม่ชัวร์นะครับ) ยางไม่ได้ร้อนน้อยลง การเสียดสีของหน้ายางกับพื้นถนนทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เวลายางร้อนก็ทำให้ลมในยางร้านตาม ถ้าเป็นไนโตรเจนร้อนมันจะไม่ขนายตัวเหมือนกับอากาศทั่วๆไปซึ่งเวลาร้อนแล้วขยายตัว
ทำให้เวลาวิ่งทางไกลนานๆแล้วยางไม่แข็งขึ้น
-
สมมุติ ลมเต็มๆ = 100 ส่วน
ลมเดิมๆในยางเป็นลมธรรมดา = 80 ส่วน
แล้ว เราเอาไปเติมลมไนโตรเจน = 20 ส่วน
ลมธรรมดา มีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
หมายความว่า เราควรจะต้องเอาลมเดิมๆที่เป็นอากาศธรรมดาๆในยางออกให้หมดก่อน
สำหรับผม ร้านยางอยู่หน้าหมู่บ้าน ก่อนเติมลมไนโตรเจนผมจะปล่อยลมให้มากที่สุดก่อน
ไม่งั้น ส่วนที่เติมไป แทบไม่มีค่าเลย เมื่อเทียบกับอัตราส่วนของลมธรรมดาในยาง
-
แค่ขับรถปกติยางถูกคำนวณเรื่องการขยายตัวของอากาศที่มี N2 80% กับ O2 20% โดยประมาณอยู่แล้ว กับไอน้ำในอากาศอีกเล็กน้อย
ยังไงก็ทนไหว ไม่งั้นคนขับรถแข่งโบราณไม่ยางแตกตายกันไปหมด
การเติม N2 อย่างเดียวเหมาะสำหรับการแข่งรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงมากๆ นานๆ เพื่อที่จะชนะกันเสี้ยววินาที
การวิ่งความเร็วสูงจะทำให้ลมที่ใส่อยู่ในยางร้อนขึ้นเกิดการขยายตัว ไม่ว่า N2 หรือ O2 เมื่อร้อนยังไงก็ขยายตัว
เพียงแต่การคำนวณว่าการขยายตัวด้วย N2 อย่างเดียวมันแน่นอนกว่า
สำหรับการขับขี่ทั่วไปบนท้องถนนเติมลมปกติก็น่าจะพอแล้วครับ แต่ถ้าจะเติม N2 ก็แล้วแต่ชอบครับ
-
ผมคิดว่า
อากาศที่อยู่ภายในยางรถยนต์ ถ้าเราเติมลมที่มี "ความชื้น" หรือไอน้ำในอากาศผสมอยู่เยอะ จะทำให้ยางร้อน อ่ะครับ
เพราะ คุณสมบัติของความชื้น คือ ดูดความร้อนสะสมไว้กับตัว -->> ทำให้อุณหภูมิอากาศภายในล้อ สูงไปด้วย
เติมไนโตรเจน ก็โอเคนะครับ
ถ้าไล่ลมหรืออากาศในล้อของเดิมออก -->> ลดความชื้นของอากาศ ภายในล้อ
ยิ่งถ้า เติมไนโตรเจนล้วนๆ ก็ดีกว่าเติมลมธรรมดาๆ
ปล. ถ้าเสียตัง ผมว่าผมตรวจเช็คลมยางทุกๆ 2 สัปดาห์ ดีกว่าครับ (ประหยัดกว่า)
-
ขอตอบแบบที่คนที่ใช้ลมไนโตรเจนน่ะครับ
ข้อดีคือ (สำหรับผมนะ)
- ยางไม่ขยายตัวมากเมื่อวิ่งทางไกล แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ (ของผมยาง Marangoni โหลด +แม็ก 17 + รถกระบะ)
- ลมยางไม่ต้องเติมบ่อยครับ เติมเดือนละครั้งก็เหลือเฟือ ของผม 2 เดือนครั้งก็ได้เลย
- ขับแล้วนิ่มมั้ย? อันนี้แล้วแต่ครับ อาจจะคิดไปเอง
- (ที่ร้านบอกว่า) เติมไนโตรเจน โอกาสยางระเบิดมีน้อยมาก (แต่ไม่เคยระเบิด) เมื่อเทียบกับลมธรรมดา (แต่มีหลายปัจจัย)
- ไม่ต้องเติมเอง แค่ขับไปจอด ก็มีเด็กวิ่งมาเติมให้ (เติมให้จนกว่ายางจะแตกหรือเปลี่ยนยางไปเลย)
การเติมคือ ต้องเอาลมธรรมดาออกให้หมดก่อน แล้วใส่ไนโตรเจนเข้าไป และเมื่อมีไนโตรเจนแล้ว จะต้องไม่เติมลมธรรมดา หากเติมลมธรรมดาเข้าไปผสม ลมไนโตรเจนก็จะเปลี่ยนเป็นลมธรรมดาทันที จะต้องเริ่มต้นใหม่อีก
ฉะนั้น หากยางโดนตะปูหรือว่าอะไร แล้วร้านนั้นไม่มีลมไนโตรเจน ก็ต้องใส่ลมธรรมดาไปก่อน แล้วไปเติมไนโตรเจนที่ร้านที่มี
อีกอย่างคือ เวลาเอารถไปเช็คที่ศูนย์บริการ ต้องย้ำกับพนักงานให้ชัดๆนะครับว่า รถคุณเติมไนโตรเจน
****แม้ว่าบางทีคุณติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่กระจกว่า "เติมไนโตรเจน" แต่ช่างอาจจะไม่สังเกต
-
หาที่เป็นไนโตรเจนจริงๆนะครับ
เพราะเดี่ยวนี้หลายร้านบอกว่าเป็นไนโตรเจน แต่ลองไปแวะไปดูที่เครื่องซิครับ
บางร้านมีแผ่นฟิวเตอร์กรองเพิ่มมาอีกแผ่นเดียวเอง
แต่บางร้านก็มีถังมาเก็บไว้จริง ต้องลองดูดีๆนะครับ
สำหรับผมไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลย
อย่าให้เวลาเราเสียเงินแล้วมาหลอกว่าเราเสียเงินแล้วของต้องดีกว่าเสมอไปครับ
-
ดีครับ
แต่หาที่เติมยาก
-
จุกเติมลมสีเขียว คือจุดเด่นของรถที่เติมลมไนฌตรเจนครับ 55+
-
ผมเฉยๆครับ ลองใช้ทั้งลมธรรมดา กับไนโตร สลับกันดู
ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าต่างกัน แต่เท่าที่สังเกตได้ชัดๆก็คือแรงดันลมที่ลดลง
ถ้าเป็นลมธรรมดาเดือนนึงจะหายไปราวๆ 4psi แต่ถ้าไนโตรจะหายแค่2psi ครับ
-
ลมไนโตรเจนดีครับ
ถ้ามีเงินก็เติมไป
ถ้าไม่มีเงินต้องคิดหน่อยแล้ว
ลองพิจารณาข้อมูลนะครับ
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%
ก๊าซไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
ก๊าซไนโตรเจนเกรดสูงใช้ในเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงเกรด HP บริสุทธิ์ 99.99% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 1900 บาท)
ดังนั้น
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%, O2 18%, H2O 2% (บ้านเรามันชื้นและความกดอากาศสูง) และอื่นๆ เช่น CO2, H2S ฯลฯ
ไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% อีก 4 % คือ O2 3%, H2O 0.5% และอื่นๅ (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
เติมลมธรรมดาได้ก็เติมเถอะครับ
สำหรับก๊าซไนโตรเจน เรากำลังถูกพ่อค้าพูดจริงครึ่ง โกหกครึ่ง มันไม่ใช่ N2 100%
แต่ถ้าเติมแล้วมันคุ้มราคา หาเติมง่าย สบายตัวและความสบายใจ ก็เติมเหอะ
-
ลมไนโตรเจนดีครับ
ถ้ามีเงินก็เติมไป
ถ้าไม่มีเงินต้องคิดหน่อยแล้ว
ลองพิจารณาข้อมูลนะครับ
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%
ก๊าซไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
ก๊าซไนโตรเจนเกรดสูงใช้ในเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงเกรด HP บริสุทธิ์ 99.99% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 1900 บาท)
ดังนั้น
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%, O2 18%, H2O 2% (บ้านเรามันชื้นและความกดอากาศสูง) และอื่นๆ เช่น CO2, H2S ฯลฯ
ไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% อีก 4 % คือ O2 3%, H2O 0.5% และอื่นๅ (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
เติมลมธรรมดาได้ก็เติมเถอะครับ
สำหรับก๊าซไนโตรเจน เรากำลังถูกพ่อค้าพูดจริงครึ่ง โกหกครึ่ง มันไม่ใช่ N2 100%
แต่ถ้าเติมแล้วมันคุ้มราคา หาเติมง่าย สบายตัวและความสบายใจ ก็เติมเหอะ
ตามนี้เลยครับ
-
แล้วแต่เลือกเลย แต่ว่าไนโตรใช้ได้นานกว่าเห็นๆ บางที่ 3 เดือนเช็คดูยังเท่าเดิมที่เติมครั้งแรก
-
ลมไนโตรเจนดีครับ
ถ้ามีเงินก็เติมไป
ถ้าไม่มีเงินต้องคิดหน่อยแล้ว
ลองพิจารณาข้อมูลนะครับ
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%
ก๊าซไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
ก๊าซไนโตรเจนเกรดสูงใช้ในเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงเกรด HP บริสุทธิ์ 99.99% (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 1900 บาท)
ดังนั้น
ลมทั่วไปมีไนโตรเจน 76%, O2 18%, H2O 2% (บ้านเรามันชื้นและความกดอากาศสูง) และอื่นๆ เช่น CO2, H2S ฯลฯ
ไนโตรเจนทั่วไปที่ขายให้เรา มีไนโตรเจนอยู่ 96% อีก 4 % คือ O2 3%, H2O 0.5% และอื่นๅ (1 ถัง บรรจุ 6 ลบ.ม. 500 บาท)
เติมลมธรรมดาได้ก็เติมเถอะครับ
สำหรับก๊าซไนโตรเจน เรากำลังถูกพ่อค้าพูดจริงครึ่ง โกหกครึ่ง มันไม่ใช่ N2 100%
แต่ถ้าเติมแล้วมันคุ้มราคา หาเติมง่าย สบายตัวและความสบายใจ ก็เติมเหอะ
ตามนี้อีกเสียงครับ
-
พิจารณาเอาเองครับ ข้อดีข้อเสียก็มี ต้องค้นคว้าเอาเอง
-
ข้อดีอย่างนึงที่เห็นได้ชัดและพิสูจน์ได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ มาวัดคือ ลมออกน้อยมากครับ... เช็ค 2-3 เดือนครั้ง ลมออกไม่เกินครึ่งปอนด์ซักที...
ป.ล. ลองไปศูนย์ B-Quik หรือ CockPit ที่เล้กครับ เติมฟรีได้ตลอด ถ้าเป็นศูนย์ใหญ่ๆ จะเสียเงินและมีการเก็บประวัติลูกค้า เพื่อตรวจสอบว่าหมดอายุการเติมหรือยัง