Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: deardida ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 00:33:29
-
คือหาอ่านมาก็หลายที่ ใน web นี้ก็อ่านแล้ว VDO clip ก็ดูแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครฟันธงให้ผมกระจ่างซะทีว่าตกลง ระยะเบรค ระหว่าง ABS กับ ไม่ ABS อันไหนระยะเบรคสั้นกว่ากันครับ ในสภาวะพื้นถนนปรกติไม่เปียกนะครับ ส่วนตัวตามความรู้สึก ไม่ ABS น่าจะได้ระยะสั้นกว่า แต่หาดู clip แล้วมันฉีกความคิดไปเลย แต่ clip ก็ไม่ได้ฟันธงว่า ABS ระยะเบรคสั้นกว่า ขอคำอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
-
ส่วนตัวผมว่า ABS ระยะเบรคยาวกว่าแต่รถจะไม่เสียการควบคุมครับ ส่วนไม่มีABS น่าจะสั้นกว่า แต่รถอาจจะเสียการควบคุมไประหว่างที่ล้อล็อคครับ
-
ABS ใช้ระยะเบรคไกลกว่าครับ
จากรูปประกอบ เคยมีใครไม่รู้ โพสไว้พักนึงละ
;D ;D ;D
-
ABS สั้นกว่าทุกกรณี หาคลิปในยูทูปได้เลย ไม่ว่าถนนแห้ง เปียก หิมะ มันเก่าไปแล้ว ABS แย่กว่า
ล้อล็อคจากการเสียหน้าสัมผัสของการไม่มี ABS ทำให้รถไถไปกับพื้นโดยไม่ยึดเกาะใดๆเลย แต่ ABS จับปล่อยๆยางก็หมุนไปโดยมีแรงยึดจับไม่ไถลไป
ในคลิปนี้ความเร็วไม่มากด้วยไม่น่าเกิน 50-60 ความต่างมันชัด
http://www.youtube.com/watch?v=ly62FoZH_Dc
-
มี ABS สั้นกว่าทุกกรณีครับ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=16264.0 (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=16264.0)
-
นั่นไงล่ะเริ่มแล้ว ผมยังไม่เข้าใจว่าเบรคล้อล๊อคมันจะเสียหน้าสัมผัสกับถนนอย่างไร เมื่อเทียบกับเบรค ABS ยิ่งอ่านยิ่งงงตัวเอง
-
ถ้าดูอันนี้เขาบอกว่า non ABS สั้นกว่า
ABS vs. no ABS Episode 2 (re-upload; HQ) (http://www.youtube.com/watch?v=i088gz_Z26A#)
-
ABS สั้นกว่าทุกกรณีครับ
ถ้าล้อล๊อค ยางไถล่ไปกับพื้น
แรงเสียดทานแทบไม่เหลือแล้วครับ
-
ถ้าเบรคจนล้อล็อค ABS สั้นกว่าทุกกรณี แต่ถ้าไม่ถึงกับล้อล็อค no ABS สั้นกว่า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเลือกที่มี ABS ดีกว่าครับเพราะถ้าเบรคแล้วล้อไม่ล็อคแสดงว่าไม่เร็วมากมีโอกาสเบรคทัน
-
ABS สั้นกว่าทุกกรณี ยกเว้นถนน กรวด ครับ
-
ถ้าเบรคจนล้อล็อค ABS สั้นกว่าทุกกรณี แต่ถ้าไม่ถึงกับล้อล็อค no ABS สั้นกว่า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเลือกที่มี ABS ดีกว่าครับเพราะถ้าเบรคแล้วล้อไม่ล็อคแสดงว่าไม่เร็วมากมีโอกาสเบรคทัน
นิดนึง รถที่มี ABS ถ้าล้อไม่ล็อคระบบจะไม่ทำงานเพราะฉะนั้น ระยะทางจะเท่ากัน
ส่วน ABS สั้นกว่าคิดว่า EBD นี้มีส่วนช่วยด้วย
-
ระบบ ABS ตอนนี้ประสิทธิภาพดีมากครับ ระยะเบรกสั้นครับ
การมี ABS ดีกว่าไม่มีครับ
ปล.ควรSETTINGให้ระยะแป้นเบรก มีความ LINEAR ประกอบกันไปด้วยครับ
ระบบเบรกจึงไว้ใจได้มากยิ่งขึ้นครับ
-
ส่วนตัวผมขอไม่มี abs ดีกว่าครับแต่ผมจะกะน้ำหนักเบรคได้ว่ากดไปเท่าไหร่ทำให้ล้อไม่ล็อคแต่เบรคจับได้ดีและเบรคประมาณไหนล้อจะล็อค ที่สำคัญสำหรับผมจะดูที่ 1.คาลิปเปอร์ 2.จานเบรค 3.ผ้าเบรค
มากกว่าครับ
-
ไม่ใช่ทุกกรณีครับว่า ABS สั้นกว่า
ABS ออกแบบมาเผื่อทำให้ไม่เสียการควบคุมขณะเบรก หมายความว่า สามารถหักหลบสิ่งกรีดขวางได้
หลายคนเข้าใจผิดตลอด
แต่ถ้าถนนลื่น หรือฝนตก นั้นแหละ abs จะทำหน้าที่ได้ดี และระยะเบรกสั้นกว่า ไม่มีแน่ๆ
เบรกดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ยางครับ ว่าจะยึดเกาะถนนได้แค่ได้
ไม่เชื่อลองทำดูก็ได้ครับ เอารถรุ่นเดียวกันต่างกันแค่ยางอย่างเดียว คันแรก ใส่ยาง B250
อีกคัน ใส่ยาง S001 ผมก็ออกมาตามนั้นละครับ
ถ้ายางดีก็ไม่จำเป็นต้องมี ABS
ลองให้คุณเนย์มาตอบก็ได้ครับ หรือพี่แพน น่าจะรู้เรื่องนี้ดีครับ
-
ABS สั้นกว่าทุกกรณี หาคลิปในยูทูปได้เลย ไม่ว่าถนนแห้ง เปียก หิมะ มันเก่าไปแล้ว ABS แย่กว่า
ล้อล็อคจากการเสียหน้าสัมผัสของการไม่มี ABS ทำให้รถไถไปกับพื้นโดยไม่ยึดเกาะใดๆเลย แต่ ABS จับปล่อยๆยางก็หมุนไปโดยมีแรงยึดจับไม่ไถลไป
ในคลิปนี้ความเร็วไม่มากด้วยไม่น่าเกิน 50-60 ความต่างมันชัด
http://www.youtube.com/watch?v=ly62FoZH_Dc
ถ้าเหยียบ threshold ได้จะสั้นกว่าครับ แต่... ใครจะเหยียบ threshold ได้ทุกครั้งล่ะครับ โดยเฉพาะกับผ้าเบรคนิ่มๆ ของรถบ้านๆ ด้วยแล้ว
-
ผมเคยขับรถทีเปนABS แล้วฮะมีเคยเบรค แรงๆมาแล้วคร้าบผม
-
ABS มีไว้เพื่อไม่ให้ล้อหยุดจนไถลไปบนพื้น
ล้อที่หมุนบนพื้นจะเป็น Static friction coefficient ในขณะล้อที่ไถลบนพื้นจะเป็น Dynamic friction coefficient
ลองหาดูเพิ่มเติมเองว่าไม่ว่าการเสียดทานของวัตถุคู่เดียวกัน static Cf จะมากกว่า dynamic Cf เสมอ
ดังนั้นการที่ล้อไถลไปบนพื้นค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทางจะน้อยกว่าล้อที่ยังหมุนบนพื้น
โดยทั่วไปสำหรับเมืองไทยเลยใช้สถานการณ์ที่มีน้ำบนพื้น ทำให้ Cf น้อยลงกว่าพื้นแห้งทั้ง static และ dynamic
ซึ่งสถานะการณ์ที่ค่า Cf น้อยทำให้ผู้ขับขี่ต้องควบคุมน้ำหนักในการเหยียบเบรกให้นุ่มนวลกว่าเดิมมากขึ้น
เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรก ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรกได้ทุกสถานการณ์
ABS จึงเข้ามาช่วยให้การเหยียบเบรกในสถานการณ์นั้นยังคงรักษาค่า static Cf ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สถานการณ์ที่ Cf น้อยได้แก่ ถนนกรวด, ถนนหิมะ, ถนนเปียก, ถนนที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น
ส่วนระยะจะสั้นหรือไกลกว่าเดิม ถ้ารักษา static Cf ของยางและพื้นไว้ได้ก็จะได้ระยะทางในการเบรกที่สั้นที่สุด
-
ABS มีไว้เพื่อไม่ให้ล้อหยุดจนไถลไปบนพื้น
ล้อที่หมุนบนพื้นจะเป็น Static friction coefficient ในขณะล้อที่ไถลบนพื้นจะเป็น Dynamic friction coefficient
ลองหาดูเพิ่มเติมเองว่าไม่ว่าการเสียดทานของวัตถุคู่เดียวกัน static Cf จะมากกว่า dynamic Cf เสมอ
ดังนั้นการที่ล้อไถลไปบนพื้นค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทางจะน้อยกว่าล้อที่ยังหมุนบนพื้น
โดยทั่วไปสำหรับเมืองไทยเลยใช้สถานการณ์ที่มีน้ำบนพื้น ทำให้ Cf น้อยลงกว่าพื้นแห้งทั้ง static และ dynamic
ซึ่งสถานะการณ์ที่ค่า Cf น้อยทำให้ผู้ขับขี่ต้องควบคุมน้ำหนักในการเหยียบเบรกให้นุ่มนวลกว่าเดิมมากขึ้น
เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรก ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรกได้ทุกสถานการณ์
ABS จึงเข้ามาช่วยให้การเหยียบเบรกในสถานการณ์นั้นยังคงรักษาค่า static Cf ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สถานการณ์ที่ Cf น้อยได้แก่ ถนนกรวด, ถนนหิมะ, ถนนเปียก, ถนนที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น
ส่วนระยะจะสั้นหรือไกลกว่าเดิม ถ้ารักษา static Cf ของยางและพื้นไว้ได้ก็จะได้ระยะทางในการเบรกที่สั้นที่สุด
อืมมีหลักการ ครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านเพิ่มเติมดูครับ ขอบคุณครับ
-
นั่นไงล่ะเริ่มแล้ว ผมยังไม่เข้าใจว่าเบรคล้อล๊อคมันจะเสียหน้าสัมผัสกับถนนอย่างไร เมื่อเทียบกับเบรค ABS ยิ่งอ่านยิ่งงงตัวเอง
เคยวิ่งบนสนามบาสแล้วลื่นมั้ยครับ สนามบอลก็ได้ สำหรับรองเท้านันยางธรรมดาๆสภาพพังๆ วิ่ง Sprint เลยนะ
แล้วเกิดมีวิญญาณตัดหน้าทำให้เราต้องหยุดอย่างเร็วแบบ 2 ขา ส่วนใหญ่รองเท้าก็จะสูญเสียแรงยึดเกาะ
ไถไปสักพักก่อนที่จะหยุด ไม่ก็ลื่นตูดจ้ำเบ้าลงไปที่พื้นแล้ว
แต่ถ้าเราก้าวเท้าสักข้างยื่นไปข้างหน้านิดนึงแล้วเอาปลายเท้าจิกลงไปที่พื้นก็จะลดอาการไถลได้ครับ
-
ABS มีไว้เพื่อไม่ให้ล้อหยุดจนไถลไปบนพื้น
ล้อที่หมุนบนพื้นจะเป็น Static friction coefficient ในขณะล้อที่ไถลบนพื้นจะเป็น Dynamic friction coefficient
ลองหาดูเพิ่มเติมเองว่าไม่ว่าการเสียดทานของวัตถุคู่เดียวกัน static Cf จะมากกว่า dynamic Cf เสมอ
ดังนั้นการที่ล้อไถลไปบนพื้นค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทางจะน้อยกว่าล้อที่ยังหมุนบนพื้น
โดยทั่วไปสำหรับเมืองไทยเลยใช้สถานการณ์ที่มีน้ำบนพื้น ทำให้ Cf น้อยลงกว่าพื้นแห้งทั้ง static และ dynamic
ซึ่งสถานะการณ์ที่ค่า Cf น้อยทำให้ผู้ขับขี่ต้องควบคุมน้ำหนักในการเหยียบเบรกให้นุ่มนวลกว่าเดิมมากขึ้น
เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรก ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรกได้ทุกสถานการณ์
ABS จึงเข้ามาช่วยให้การเหยียบเบรกในสถานการณ์นั้นยังคงรักษาค่า static Cf ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สถานการณ์ที่ Cf น้อยได้แก่ ถนนกรวด, ถนนหิมะ, ถนนเปียก, ถนนที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น
ส่วนระยะจะสั้นหรือไกลกว่าเดิม ถ้ารักษา static Cf ของยางและพื้นไว้ได้ก็จะได้ระยะทางในการเบรกที่สั้นที่สุด
อืมมีหลักการ ครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านเพิ่มเติมดูครับ ขอบคุณครับ
ยางใช้แค่นั้นไม่ได้ครับ มีอะไรมากกว่านั้นครับ
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm)
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm)
http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf (http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf)
-
ABS มีไว้เพื่อไม่ให้ล้อหยุดจนไถลไปบนพื้น
ล้อที่หมุนบนพื้นจะเป็น Static friction coefficient ในขณะล้อที่ไถลบนพื้นจะเป็น Dynamic friction coefficient
ลองหาดูเพิ่มเติมเองว่าไม่ว่าการเสียดทานของวัตถุคู่เดียวกัน static Cf จะมากกว่า dynamic Cf เสมอ
ดังนั้นการที่ล้อไถลไปบนพื้นค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทางจะน้อยกว่าล้อที่ยังหมุนบนพื้น
โดยทั่วไปสำหรับเมืองไทยเลยใช้สถานการณ์ที่มีน้ำบนพื้น ทำให้ Cf น้อยลงกว่าพื้นแห้งทั้ง static และ dynamic
ซึ่งสถานะการณ์ที่ค่า Cf น้อยทำให้ผู้ขับขี่ต้องควบคุมน้ำหนักในการเหยียบเบรกให้นุ่มนวลกว่าเดิมมากขึ้น
เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรก ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรกได้ทุกสถานการณ์
ABS จึงเข้ามาช่วยให้การเหยียบเบรกในสถานการณ์นั้นยังคงรักษาค่า static Cf ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สถานการณ์ที่ Cf น้อยได้แก่ ถนนกรวด, ถนนหิมะ, ถนนเปียก, ถนนที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น
ส่วนระยะจะสั้นหรือไกลกว่าเดิม ถ้ารักษา static Cf ของยางและพื้นไว้ได้ก็จะได้ระยะทางในการเบรกที่สั้นที่สุด
อืมมีหลักการ ครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านเพิ่มเติมดูครับ ขอบคุณครับ
ยางใช้แค่นั้นไม่ได้ครับ มีอะไรมากกว่านั้นครับ
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm)
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm)
http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf (http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf)
สุดยอดเลยครับ คงต้องใช้เวลาอ่าน ทำความเข้าใจนานเลย
-
ABS มีไว้เพื่อไม่ให้ล้อหยุดจนไถลไปบนพื้น
ล้อที่หมุนบนพื้นจะเป็น Static friction coefficient ในขณะล้อที่ไถลบนพื้นจะเป็น Dynamic friction coefficient
ลองหาดูเพิ่มเติมเองว่าไม่ว่าการเสียดทานของวัตถุคู่เดียวกัน static Cf จะมากกว่า dynamic Cf เสมอ
ดังนั้นการที่ล้อไถลไปบนพื้นค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทางจะน้อยกว่าล้อที่ยังหมุนบนพื้น
โดยทั่วไปสำหรับเมืองไทยเลยใช้สถานการณ์ที่มีน้ำบนพื้น ทำให้ Cf น้อยลงกว่าพื้นแห้งทั้ง static และ dynamic
ซึ่งสถานะการณ์ที่ค่า Cf น้อยทำให้ผู้ขับขี่ต้องควบคุมน้ำหนักในการเหยียบเบรกให้นุ่มนวลกว่าเดิมมากขึ้น
เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรก ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะสามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบเบรกได้ทุกสถานการณ์
ABS จึงเข้ามาช่วยให้การเหยียบเบรกในสถานการณ์นั้นยังคงรักษาค่า static Cf ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สถานการณ์ที่ Cf น้อยได้แก่ ถนนกรวด, ถนนหิมะ, ถนนเปียก, ถนนที่มีฝุ่นมาก เป็นต้น
ส่วนระยะจะสั้นหรือไกลกว่าเดิม ถ้ารักษา static Cf ของยางและพื้นไว้ได้ก็จะได้ระยะทางในการเบรกที่สั้นที่สุด
อืมมีหลักการ ครับ เดี๋ยวจะลองหาอ่านเพิ่มเติมดูครับ ขอบคุณครับ
ยางใช้แค่นั้นไม่ได้ครับ มีอะไรมากกว่านั้นครับ
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt1.htm)
http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm (http://insideracingtechnology.com/tirebkexerpt2.htm)
http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf (http://soliton.ae.gatech.edu/labs/ptsiotra/Papers/vsd02.pdf)
ขอบคุณสำหรับเอกสารอธิบายเพิ่มเติมครับ
เพียงแต่สิ่งที่อธิบายไว้เพื่อความเข้าใจเบื้องต้นในกลศาสตร์เท่านั้นสำหรับบุคคลทั่วไปครับ
ถ้าไม่เข้าใจเบื้องต้นก็ยากที่จะเข้าใจในเอกสารที่แนบไว้ครับ