Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yimkung ที่ กรกฎาคม 12, 2012, 22:58:09
-
มีงบ ไม่เกิน 1.4 ล้าน สนใจเป็น toyota Prius รุ่น Top Option หนะครับ อยากได้รถประหยัดนน้ำมัน มีออฟชั่นไฮเทค ขับในเมือง
อยากทราบว่าน่าใช้มั้ย แล้วช่วงนี้รอรถนานแค่ไหนครับ มีศูนย์ไหนที่โอเคบ้าง ขอบคุณครับ
-
ชอบก้อจัดเลย พรุ่งเน้ไปคุยกะเซลเลย Agree
-
Top Grade น่าจะได้เร็วครับ .. แต่ถ้า Top Optiom รอนานนิดนึง
ผมใช้ Top Option อยู่ รถดีครับ เน้นขับประหยัดน้ำมัน
รู้สึกดีเวลาเติมน้ำมันทุกครั้งครับ
อีกอย่างใช้รถแบบนี้ มันจะสอนเราให้ขับรถเหยียบเบาๆ ไปนิ่มๆ ประหยัดพลังงาน
ไปขับรถอื่น ผมก็ติดวิธีการขับแบบนี้ไปแล้ว รถไม่ช้ำด้วยครับ
-
กรณีเดียวกับผมครับสน Prius ตัวท๊อปเพราอยากได้ประหยัด ออปชันและเทคโนโลยี ซื้อให้พ่อกับแม่ใช้ครับ
สำคัญสุดคือประหยัดหลังคำนวณอย่างถี่ถ้วน จบที่Camry 2012 2.0G แล้วติดแก๊สLPGถังโดนัท ตกต่อ กม 1.5บาท ถูกกว่าPriusครับ
จากที่วิ่งมาไม่ต่างกับน้ำมันครับ อัตราเร่งทุกอย่างผมว่าเหมือนเดิม(แต่ไม่รู้แก๊สจะขึ้นราคาไปเท่าไหร่ ต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ด้วย)
ขับขี่ทางไกลมั่นคงกว่ามาก นอกเมือง ในเมือง ดีกว่าครับ แต่ออปชันคงสู้ Prius ไม่ได้
ของแต่งหาง่ายครับ ออปชั่นอะไรที่ไม่มีหาใส่ได้แทบทุกตัว หลายๆอย่างถูกและดีกว่าที่ศูนย์ให้มาซะอีก
แนะนำให้เป็นอีกทางเลือกครับ ขับรถใหญ่อาจไม่คล่องเท่ารถเล็กแต่สบายกว่าแน่นอนครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ พอดีพิมพ์ผิดรุ่น ต้องเป็น รุ่น Top Option หนะครับ ตัว top ของ Prius ครับ แหะๆ
พอดีไม่อยากได้รถติดแก๊สหนะครับ อยากได้รถประหยัดพลังงานจริงๆ
-
ไล่โทร. เช็คแต่ละศูนย์เลยค่ะ ที่ไหนมีบ้าง top option ขายดี(เกินคาด)แต่ผลิตน้อย
ปกติรอกัน 2-3 เดือน (บางศูนย์คิวเยอะ นอกเมืองหน่อยมีรถเลยก็มีค่ะ)
รุ่น top, standard ส่วนใหญ่จะมีรถเลย
ส่วนตัวจองปลายมี.ค. ได้รถปลายพ.ค.ค่ะ
ซื้อเพราะอยากประหยัดค่าน้ำมัน / จะเอารถ 5 ประตูเผื่อขนของ / ไม่ได้อยากได้คันใหญ่มากเพราะตัวเล็ก ^^
ตอนแรกรอ new swift แต่รถเล็กเกินจะขนของ+เบาะพับไม่เรียบ
Freed ก็เหมาะแต่ไม่ชอบคอนโซล ในรถดูโบราณมากโดยเฉพาะพวงมาลัย
เลยมาจบที่พรีอุส
ใช้แล้วก็ชอบค่ะ ไฮเทคดี เซฟตี้ก็เยอะ เครื่องยนต์เงียบมาก สตาร์ทรถทิ้งไว้ไม่มีกลิ่นเข้าบ้านเลย
ระบบระบายอากาศตอนจอดแดด ok นะช่วยได้ ไม่ร้อนอบแบบคันอื่นๆ (หรือฟิล์มก็ช่วยด้วย) รถเบาะดำแต่นั่งได้ไม่เคยลวกก้น
แบตถ้าเกือบเต็ม วิ่ง 70 ก็ใช้พลังงานจากแบตนะ
วิ่งในเมือง ~ 18-20 นอกเมือง ~22-24โลอัพ ดูจากหน้าจอนะ (ปกติขับไม่เกิน 110)
ข้อเสีย - แอบมีเสียวเรื่องอะไหล่ที่เห็นรอกัน / เสียงจากล้อเข้ามาในรถดังพอควร เห็นว่าเปลี่ยนยางดีๆ ช่วยได้
-
รอฟังเหมือนกันครับ ;D จะซื้อ top option เหมือนกันครับ
-
ที่บ้านผมใช้รุ่น Top ธรรมดาครับ (ตัวกลาง)
ออฟชั่นถือว่าโอเคครับ
แต่เบาะข้างคนขับปรับมือ และกระจกมองข้างพับไม่ได้
โดยรวมๆแล้ว ความประหยัดดีมากๆครับ
นอกเมือง 15 โลลิตร (ทีนหนักมากครับ กดหนัก ใช้PWR Mode ตลอด)
ขับชิลๆ กรุงเทพ-สิงห์บุรี ได้ 18 โลลิตร (วิ่ง 120-130)
ในเมือง ปกติคุณพ่อขับแคมรี่ เติมน้ำมันเดือนล่ะ 5 พันกว่าบาทเหลือแค่ 2 พันปลายๆเอง
เรื่องการขับขี่ ถ้าขับรถเล็กๆจี๊ดๆทดจัดๆมาก่อนอาจจะหงุดหงิด
ออกตัวอืดมากครับ กดคันเร่งลึกๆก็เร่งไม่ค่อยออก (มันเซตให้ประหยัด)
แต่ถ้ากดเต็มๆ แรงบิดมหาศาล ดึงโหดดีครับ
ช่วงล่างดี เ้ข้าโค้งสบายๆ(พรีอุส ช่วงล่างดีจริงๆ)
อากาศพลศาสตร์ค่อนข้างดี เสียงลมน้อยมากๆ วิ่งเร็วๆทางตรงยาวๆมั่นใจดีครับ
เบรคดีมากครับ ปกติผมขับวีออสใส่ผ้าเบรค MuSpec ยังรู้สึกว่า พรีอุสเบรคดีจริงๆ
โดยรวมแล้ว ติดแค่ราคาที่แพงไปหน่อย
ซื้อตัว Top ก็พอครับ ถ้าของอื่นๆไม่ได้จำเป็นมากมาย
-
คนที่จะซื้อพรีอุสนอกจากมีแอดจิจูดในการเลือกรถไม่เหมือนใครแล้ว ต้องกิเลสล้วนๆด้วยนะครับ
ส่วนตัวในฐานนะคนใช้รุ่นก่อนไมเนอร์ ตัวนี้แพงขึ้น แต่ได้อุปกรณ์เทพช่วยระบายความร้อนขณะตากแดด
มีจอ 7 นิ้ว เนวิ กล้องถอยหลัง ช่วยอะไรต่อมิอะไรได้เยอะ โทนสีภายในก็ดุดันขึ้น
ไฟแอลอีดี ปัดน้ำฝนออโต้ กระจกพับได้แล้วหลังจากโดนบ่น
เบาะไฟฟ้า VSC TRC ถุงลม 7 ใบ หน้า ข้าง ม่าน เข่า แบตประกัน 10 ปี เช็คฟรีเฉพาะค่าแรง 5 หมื่นโล
ชิ้นส่วนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ Japanese made ยกมาจากญี่ปุ่น แล้วมาประกอบในไทยทีหลัง
เสียตรงที่ถ้าชำรุดเสียหาย รออะไหล่เป็นเดือน
ในเมือง 17-19 Km/L ต่างจังหวัด Normal Mode เท้านิ่งๆ มีถึงเชียงราย
โดยรวมสำหรับราคา 1.468 ล้าน Totally worth it ครับ
-
คนที่จะซื้อพรีอุสนอกจากมีแอดจิจูดในการเลือกรถไม่เหมือนใครแล้ว ต้องกิเลสล้วนๆด้วยนะครับ
ส่วนตัวในฐานนะคนใช้รุ่นก่อนไมเนอร์ ตัวนี้แพงขึ้น แต่ได้อุปกรณ์เทพช่วยระบายความร้อนขณะตากแดด
มีจอ 7 นิ้ว เนวิ กล้องถอยหลัง ช่วยอะไรต่อมิอะไรได้เยอะ โทนสีภายในก็ดุดันขึ้น
ไฟแอลอีดี ปัดน้ำฝนออโต้ กระจกพับได้แล้วหลังจากโดนบ่น
เบาะไฟฟ้า VSC TRC ถุงลม 7 ใบ หน้า ข้าง ม่าน เข่า แบตประกัน 10 ปี เช็คฟรีเฉพาะค่าแรง 5 หมื่นโล
ชิ้นส่วนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ Japanese made ยกมาจากญี่ปุ่น แล้วมาประกอบในไทยทีหลัง
เสียตรงที่ถ้าชำรุดเสียหาย รออะไหล่เป็นเดือน
ในเมือง 17-19 Km/L ต่างจังหวัด Normal Mode เท้านิ่งๆ มีถึงเชียงราย
โดยรวมสำหรับราคา 1.468 ล้าน Totally worth it ครับ
แพงไป 9 หมื่นครับ รุ่นท็อป 1.369
-
ไม่รู้ว่าจะมีรุ่นท็อปหลายอย่างทำไมเนี่ย สำหรับผมท็อปต้องมีหนึ่งเดียว
ถ้าต้องการแค่ประหยัดน้ำมันอย่างเดียวอาจไม่คุ้มนะครับเพราะเงินทีประหยัดได้ก็สะสมมาซื้อแบตลูกถัดไปซะมากกว่า ส่วนเรื่องรอคงไม่นานมาน่ากังวลควรกังวลว่าถ้าเกิดเหตุแล้วต้องซ่อมมากกว่าเพราะบางชิ้นรออะไหล่นาน แต่ถ้าโดยรวมๆผมว่าก็น่าใช้ครับที่อเมริกายังขายดีแทบเททิ้งกันเลยทีเดียว ที่ญี่ปุ่นก็ไม่แพ้กัน ถ้ามีโอกาสซื้อได้ก็จัดไปเลยครับ
-
คนที่จะซื้อพรีอุสนอกจากมีแอดจิจูดในการเลือกรถไม่เหมือนใครแล้ว ต้องกิเลสล้วนๆด้วยนะครับ
ส่วนตัวในฐานนะคนใช้รุ่นก่อนไมเนอร์ ตัวนี้แพงขึ้น แต่ได้อุปกรณ์เทพช่วยระบายความร้อนขณะตากแดด
มีจอ 7 นิ้ว เนวิ กล้องถอยหลัง ช่วยอะไรต่อมิอะไรได้เยอะ โทนสีภายในก็ดุดันขึ้น
ไฟแอลอีดี ปัดน้ำฝนออโต้ กระจกพับได้แล้วหลังจากโดนบ่น
เบาะไฟฟ้า VSC TRC ถุงลม 7 ใบ หน้า ข้าง ม่าน เข่า แบตประกัน 10 ปี เช็คฟรีเฉพาะค่าแรง 5 หมื่นโล
ชิ้นส่วนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ Japanese made ยกมาจากญี่ปุ่น แล้วมาประกอบในไทยทีหลัง
เสียตรงที่ถ้าชำรุดเสียหาย รออะไหล่เป็นเดือน
ในเมือง 17-19 Km/L ต่างจังหวัด Normal Mode เท้านิ่งๆ มีถึงเชียงราย
โดยรวมสำหรับราคา 1.468 ล้าน Totally worth it ครับ
แพงไป 9 แสนครับ รุ่นท็อป 1.369
กรรม ใส่ราคาผิด :P
-
ถ้าจุดประสงค์หลักคือประหยัดน้ำมัน ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับรถไฮบริดสักเท่าไหร่นะครับ หลักการของรถไฮบริดมันประหยัดได้เพราะมีอุปกรณ์ช่วยลดการสูญเสีย
เป็นการประหยัดที่ปลายเหตุวันไหนที่อุปกรณ์พวกนี้เริ่มเสื่อม คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายที่รถอื่นไม่มี เห็นๆ คือค่าแบต
แต่รถที่ประหยัดมาจากการสันดาปภายในเลย เรียกว่าเป็นการประหยัดจากต้นเหตุเลยอย่าง Ecocar กับรถเก๋งดีเซล
น่าจะใช้แล้วสบายตัวกว่านะครับ เช่น
Cruze 2.0LTZ ดีเซล จากรีวิว อัตราสิ้นเปลือง 15.29 กิโล/ลิตร ดีเซลลิตรละ 29.83 เฉลี่ยโลละ 1.95 บาท
Focus ตัวเก่า 2.0 TDCi จากรีวิว 17.03 กิโล/ลิตร เฉลี่ยโลละ 1.75 บาท
Prius ยังไม่มีรีวิว เดาว่า 21 กิโล/ลิตร น้ำมันถูกสุดที่เติมได้คือโซฮอล์ 95 ลิตร 37.23 เฉลี่ยโลละ 1.77 บาท
EcoCar 17.5 กิโล/ลิตร เติม E20 ลิตรละ 33.58 เฉลี่ยโลละ 1.92 บาท
เก๋งดีเซลค่าน้ำมันโดยรวมแพงกว่าไฮบริดนิดเดียว ความไฮเทคพอไปวัดไปวา แม้ไม่เท่า Prius แต่นั่นหมายถึงค่าซ่อมระยะยาวที่ลดลง
เพราะนั้นถ้าจุดประสงค์หลักอยู่ที่ค่าน้ำมันอยากให้ไปเก๋งดีเซลมากกว่าครับ แต่ถ้าอยากได้ไฮเทคก็ไม่ต้องคิดครับ Prius ชัวร์
-
ถ้าจุดประสงค์หลักคือประหยัดน้ำมัน ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับรถไฮบริดสักเท่าไหร่นะครับ หลักการของรถไฮบริดมันประหยัดได้เพราะมีอุปกรณ์ช่วยลดการสูญเสีย
เป็นการประหยัดที่ปลายเหตุวันไหนที่อุปกรณ์พวกนี้เริ่มเสื่อม คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายที่รถอื่นไม่มี เห็นๆ คือค่าแบต
แต่รถที่ประหยัดมาจากการสันดาปภายในเลย เรียกว่าเป็นการประหยัดจากต้นเหตุเลยอย่าง Ecocar กับรถเก๋งดีเซล
น่าจะใช้แล้วสบายตัวกว่านะครับ เช่น
Cruze 2.0LTZ ดีเซล จากรีวิว อัตราสิ้นเปลือง 15.29 กิโล/ลิตร ดีเซลลิตรละ 29.83 เฉลี่ยโลละ 1.95 บาท
Focus ตัวเก่า 2.0 TDCi จากรีวิว 17.03 กิโล/ลิตร เฉลี่ยโลละ 1.75 บาท
Prius ยังไม่มีรีวิว เดาว่า 21 กิโล/ลิตร น้ำมันถูกสุดที่เติมได้คือโซฮอล์ 95 ลิตร 37.23 เฉลี่ยโลละ 1.77 บาท
EcoCar 17.5 กิโล/ลิตร เติม E20 ลิตรละ 33.58 เฉลี่ยโลละ 1.92 บาท
เก๋งดีเซลค่าน้ำมันโดยรวมแพงกว่าไฮบริดนิดเดียว ความไฮเทคพอไปวัดไปวา แม้ไม่เท่า Prius แต่นั่นหมายถึงค่าซ่อมระยะยาวที่ลดลง
เพราะนั้นถ้าจุดประสงค์หลักอยู่ที่ค่าน้ำมันอยากให้ไปเก๋งดีเซลมากกว่าครับ แต่ถ้าอยากได้ไฮเทคก็ไม่ต้องคิดครับ Prius ชัวร์
อธิบายมองเห็นภาพเลย ถ้าคิดแบบนี้สงสัย ผมเองอาจจะไปจบที่เก๋ง Diesel ละครับ ไม่รู้ว่าเจ้า Ford Diesel จะเข้ามาเมื่อไหร่นี่หน่ะสิ
-
อ่าน User Review ที่ข้างล่างเลยครับ
(ลายเซนต์ผม)
-
ถ้าจุดประสงค์หลักคือประหยัดน้ำมัน ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับรถไฮบริดสักเท่าไหร่นะครับ หลักการของรถไฮบริดมันประหยัดได้เพราะมีอุปกรณ์ช่วยลดการสูญเสีย
เป็นการประหยัดที่ปลายเหตุวันไหนที่อุปกรณ์พวกนี้เริ่มเสื่อม คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายที่รถอื่นไม่มี เห็นๆ คือค่าแบต
แต่รถที่ประหยัดมาจากการสันดาปภายในเลย เรียกว่าเป็นการประหยัดจากต้นเหตุเลยอย่าง Ecocar กับรถเก๋งดีเซล
น่าจะใช้แล้วสบายตัวกว่านะครับ เช่น
Cruze 2.0LTZ ดีเซล จากรีวิว อัตราสิ้นเปลือง 15.29 กิโล/ลิตร ดีเซลลิตรละ 29.83 เฉลี่ยโลละ 1.95 บาท
Focus ตัวเก่า 2.0 TDCi จากรีวิว 17.03 กิโล/ลิตร เฉลี่ยโลละ 1.75 บาท
Prius ยังไม่มีรีวิว เดาว่า 21 กิโล/ลิตร น้ำมันถูกสุดที่เติมได้คือโซฮอล์ 95 ลิตร 37.23 เฉลี่ยโลละ 1.77 บาท
EcoCar 17.5 กิโล/ลิตร เติม E20 ลิตรละ 33.58 เฉลี่ยโลละ 1.92 บาท
เก๋งดีเซลค่าน้ำมันโดยรวมแพงกว่าไฮบริดนิดเดียว ความไฮเทคพอไปวัดไปวา แม้ไม่เท่า Prius แต่นั่นหมายถึงค่าซ่อมระยะยาวที่ลดลง
เพราะนั้นถ้าจุดประสงค์หลักอยู่ที่ค่าน้ำมันอยากให้ไปเก๋งดีเซลมากกว่าครับ แต่ถ้าอยากได้ไฮเทคก็ไม่ต้องคิดครับ Prius ชัวร์
Prius ใช้โซฮอล 91ได้จ้า 35บาทกว่า น้ำมันเฉลี่ย 20 โลลิตรแล้วกัน
จะเห็นได้ว่ารถไฮบริดใช้น้ำมันน้อยสุด แบตรับประกัน5+5 (5ปีหลังจ่ายค่าแรงเอง)
อยากให้ค่าน้ำมันคิดกันตามราคาจริงกันไปเลย ไม่ใช่เอาเงินมาอุดหนุน คนเลยคิดกันแต่ใช้อะไรก็ได้ที่ถูกสุด แต่ขับกันอย่างสิ้นเปลือง
ใช้พลังงานแบบไม่ช่วยกันประหยัดเลย
-
พรีอุสขึ้นชื่อว่าไฮบริดเบนซินที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในโลก ถ้าถามถึงความคุ้มค่าไม่น่าจะต้องกังขากันในเรื่องนี้ แม้ว่าจะเอาไปเทียบกับระบบเครื่องดีเซลก็ยังเป็นต่ออยู่ดีเพราะว่าการขับขี่ในเมืองที่รถติดนั้นการติดเครื่องอยู่กับที่ความเร็วช้าๆเครื่องดีเซลก็มีการทำงานอยู่ตลอดเวลาผลาญน้ำมันทุกๆวินาที ระบบไฮบริดของโตโยต้ามันจะได้เปรียบตรงนี้นี่แหละ การหยุดกับที่หรือคลานความเร็วต่ำๆจะใช้เพียงแรงจากมอเตอร์ไม่มีการติดเครื่องมาใช้งานดังนั้นการใช้น้ำมันก็เท่ากับศูนย์ ถ้าจะเทียบกันเรื่องความประยัดในเมืองต้องเอาดีเซลไฮบริดมาเทียบแล้วก็ต้องเป็นแบบใช้งานเฉพาะมอเตอร์ขับเคลื่อนเท่านั้นได้ด้วยซ฿งบ้านเราคงหาได้แต่ในปอร์ชคาเยน :P
-
จากโจทย์ของ จขกท. ต้องการประหยัดจากการใช้รถในเมือง
Prius จะตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด ตอนจอดรถติด ก็ดับเครื่อง แต่แอร์ยังเย็นเหมือนเดิม
ออกตัวและวิ่งช้าๆ ก็ใช้มอเตอร์วิ่ง
ผมว่าถ้าส่วนใหญ่ใช้ในเมืองรถติด Prius มันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเก๋งดีเซลนะครับ
เพราะเก๋งดีเซลวิ่งในเมืองรถติดก็กินนํ้ามันอยู่เหมือนกัน
-
มันจะน่ากลัวหลังจากแบตเตอรี่หรือมอเตอร์ไฟฟ้าหมดอายุครับ
ราคามันเติมดีเซลได้หลายปีเลยครับ
ผมเชียร์เครื่องดีเซลที่คุณภาพดีๆมากกว่าครับ
-
น่าใช้สิคับ ถ้าชอบรถไฮเทค ประหยัดน้ำมัน ขับในเมือง งบประมานนี้ ก็ตรงความต้องการมากๆเลยทีเดียว
ต่อให้เจอรถติดๆ ก็ยังประหยัดอยู่ดี
-
ขับในเมืองความประหยัดดีเซลสู้ไฮบริดไม่ได้หรอกครับ
รถดีนะแต่เสียหรือชนทีรออะไหล่45วันทุกกรณีครับ ไม่มีเร็วกว่านั้นเพราะโตโยต้าไม่สต็อคอะไหล่รถรุ่นนี้ไว้ สั่งจากยุ่นอย่างเดียว
-
เป็นเรื่องจริงที่อัตราสิ้นเปลืองที่ผมเอามาใช้เป็นเงื่อนไขของการวิ่งนอกเมือง การวิ่งในเมืองไฮบริดก็ได้เปรียบจริงๆ
แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็ยังนับเป็นการประหยัดเพราะใช้อุปกรณ์ช่วยลดการสูญเสียอยู่ดี
ดีเซลไม่มีอุปกรณ์ช่วย รถคลานๆ ยังติดเครื่องตลอด แต่การติดเครื่องนั้นก็ไม่กินน้ำมันมากนักเหมือนเครื่องเบนซินธรรมดา
อีกอย่างถ้ารถติดและไกลคงไม่มีใครขับรถไปกลับทุกวัน ถ้ารถติด ผมสันนิษฐานว่าระยะทางใกล้
เพราะนั้นถึงดีเซลจะกินน้ำมันเพิ่ม ในขณะที่ไฮบริดเท่าเดิม ส่วนต่างแต่ละวันผมว่ายังไม่เท่าค่าซ่อมไฮบริดอยู่ดีครับ
(เพราะรถไฮบริดไม่ใช่มีแค่แบตนะ อย่าลืม มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าทุกอย่างรอบคันพวกนี้ถ้าเสียค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ
และถ้าคุณมีรถไฮเทคระดับพริอุส หลังหมดประกันกล้าเข้าอู่ข้างทางเพื่อลดค่าซ่อมเหมือนเครื่องดีเซลสันดาปรึเปล่า)
ผมเลยคิดว่าโจทย์หลักของพริอุสไม่ใช่เรื่องการประหยัดน้ำมัน แต่เป็นการตอบสนองคนที่ต้องการรถที่ล้ำอนาคต เสียงเงียบ กว้างขวาง
คล่องตัว อะไรพวกนี้มากกว่าครับ
ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
"ไฮบริท" หรือ จะสู้ "ดีเซล"
รถเก๋งดีเซลสมัยใหม่(ในบางเจ้านะ) ให้ทั้งความแรงและประหยัดมากกว่าเทคโนโลยีไฮบริทนะครับ นึกถึงตรงนี้ด้วย ;D
ไฮบริทได้สูงสุด 16-20 แต่ดีเซลบางเจ้าได้สูงสุด 22-25 ราคาน้ำมันดีเซลก็ถูกกว่าอย่างชัดเจน อายุการใช้งานก็ยาวกว่า
(ไฮบริทเปลี่ยนแบต 10 ปีครั้ง คิดหรอว่าจะอยู่นานถึง 10 ปี การใช้งานแต่ละคนต่างกัน บางคน 7 ปีก็อาจต้องเปลี่ยนแล้ว แล้วแบตลูกเท่าไหร่ล่ะ ?)
คหสต. ล้วน ๆ ท่านอื่นคิดว่ายังไงละครับ ;D
-
at 100,000 km
Prius = 1.4m + ( 1.5x100,000) +/- 100,000[new batery] = 1.55m or 1.65m
Diesel = 1.15m + (2x100,000) = 1.35m
-
ผมใช้อยู่ทั้งดีเซล และเบนซิลไฮบริดครับเอาแบบเข้าใจง่ายๆ กับความรู้พิ้นๆของผมนะ (ดีเซล 520d e60, ไฮบริด CT200h ) อาจจะข้ามรุ่นกันนะครับผมลองเทียบให้ดูเฉยๆ
อัตราเร่งดีเซลขับไวกว่า สนุกกว่าครับ
อัตราสิ้นเปลือง ถ้าคำนวนเป็นเงินต่อกิโลก็ไม่ต่างกันเท่าไรครับ เพราะดีเซลราคาถูกกว่า แต่ไฮบริดก็ประหยัดน้ำมันกว่าหากนับขณะที่วิ่งในตัวเมือง หรือทางที่มีรถติดครับ
ศูนย์บริการ เกียจเชฟครับฝังใจแบบไม่คิดจะย้อนกลับไปใช้บริการไม่ว่ารถจะสวย จะดีขนาดไหน ในขณะนี้ ที่โคราชนะครับ ขอผ่านครับ ไม่ยุ่งด้วย
การบำรุงรักษาระยะยาว อะไหล่ผมว่าโตโยต้าน่าจะถูกกว่า ค่าบำรุงรักษาเชฟน่าจะสูงกว่า แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรนะครับ แต่พอเป็นไฮบริดก็ต้องทำใจประเด็นเรื่องแบตเตอรี่ครับ รับได้ก็ไม่ต้องสนหรอกครับ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นราคาของแบตก็อาจจะถูกลงแล้วก็ได้ เพราะหลายค่ายก็เริ่มขนไฮบริดเข้าสู่ตลาดแล้วครับ
ซื้อรถที่ใช่ ซื้อรถที่ชอบ รับข้อดีของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ลองดูข้อดีข้อเสียเทียบกันดู คำตอบอยู่ในใจครับ
สุดท้ายความเห็นผมถ้าจะให้เลือกผมเลือกพรีอุสครับ
-
ทุกคน บอกว่า "ไฮบริด" แบตเสียลูกเป็นแสนนะ!!!
ถามหน่อยว่า ผมยังไม่เห็นเคสไหน ต้องเปลี่ยนแบตเลยครับ ในปัจจุบัน
ทำกับว่า แบตมันจะเสียทันทีหลังจากวิ่งกิโลที่ 100,001 ซะงั้น
ผลทดสอบจาก ตปท. AUTO BILD (ไม่มีในเมืองไทยเพราะรถเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและยังไม่มีใครวิ่งถึง)
เค้าก็ทดสอบมาแล้วว่าต่อให้วิ่งถึงขนาดนั้น แบตก็ยังไม่เสื่อมครับ
-
มันมีเหตุผลมาหักล้างกัน้สมอแหละครับ
เหมือนกับตอนผมถอย Camry extremo ราคา 1.3 ล้านบาท
หลายๆคนก็ว่าทำไมไม่ออก HV ไปเลยเหตุผลที่ผมเถียงก็คือส่วยต่าง 3-4 แสน
ผมเอามาเติมน้ำมันขับได้เกือบสามปี แล้วค่าน้ำมันที่ HV เต็มในระยะสามปีนั้น ผมเอามาเติมน้ำมันวิ่งรถผมได้อีกกี่ปี
แต่เอาจริงๆคือ ผมชอบตัว Extremo สีขาวมุข แค่นั้นเลย เอาเข้าจริงซื้อรถที่ชอบ และจะมีความสุขที่ได้ขับมันดีกว่า
ต่อให้คุณถอย Prius ก็ใช่ว่ามันจะประหยัดเลย คุณต้องปรับลักษณะการขับให้สำพันธ์กับโหมดและปริมาณแบต
ดังนั้นุ้าคุณชอบในเทคโนโลยี ชอบดีไซน์ ชอบความเป็น Prius คุณก็ถอยเลยครับ
-
ผมต้ดสินใจจากโจทย์ของผมคือ
1 ค่าเชื้อเพลิงต้องไม่มากไปกว่าเดิม
- เดิมใช้ accord ติด lpg ทำงานรถติดมาก บริโภคที่ 6 กิโล/ลิตร lpg หรือ กิโลละ 2.13 บาท
- prius กินประมาณ 15-18 กิโล คิดที่ 15 กิโล ต่อ โวฮอล 91 ประมาณ 36/15 ประมาณ 2.4 ไม่ได้ประหยัดกว่าเดิมแต่ก็ดีกว่าสันดาบทั่วไป
2. ต้องดูล้ำสมัย
อันนี้แล้วแต่ความชอบ แต่ผมชอบทรงรถมาก ชอบตั้งแต่ สมัย ซีตรอง แล้วจำได้ว่าเด็กๆๆเห็นรถซีตรอง cx ทีไรเหลียวหลังทุกที
3. ซื้ออนาคต
เมื่อย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว ผมซื้อ ไอโฟน 3จี ตอนเมื่อไทยยังไม่เข้ามา ไปซื้อที่ ฮ่องกง ราคา 28,500 บาท ถือว่าแพงมา ในขณะที่ เพื่อนๆๆจะใช้ htc window mobile symbia กัน ก็จะมาว่าผม ซื้ออะไรมา ตอนนั้น ส่ง sms ได้แค่คนเดียว กรุ๊ปไม่ได้ ส่งข้อความผ่านบลูทูธไม่ได้ copy and paste ไม่ได้ ที่สำคัญ แบต เปลี่ยนไม่ได้ แต่ ผมชอบ และสามารถกลายมาเป็นผู้ชำนาญไอโฟนได้ในช่วงหนึ่งเพราะจำเป็น ต้องเจล ต้องโน้นนี่ให้ความสามารถเท่าๆๆกับเครื่องอื่น มาตอนนี้เป็นที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองไปสะงั้น
สำหรับผม ชอบอะไร หาข้อมูล แล้วลุย เกิดมาแล้ว อนาคตไม่แน่นอน ขอให้ใช้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ อยากได้, มากกว่าใช้ในสิ่งที่คนอื่นชอบ
อีกอย่างครับ ผมรักโลก ถึงแม้จะจ่ายแพงกว่าในเรื่องค่าดูแล แต่ถ้าได้มีส่วนช่วยรักษามลภาวะให้กับโลก ให้กับประเทศไทย ผมโอเคนะครับ ไม่เถียงเอาไปติด lpg ประหยัดกว่าจริง แต่ผมว่า พรีอุสปล่อยมลภาวะน้อยกว่ามากๆๆ อย่างน้อยเวลารถติด เครื่องยนต์ก็ทำงานน้อยกว่า ติดๆๆดับตามเรื่องของมัน
สักวันในอนาคต ผมอยากเห็นคนที่จะซื้อรถ discuss กันว่า ผมจะซื้อรถรุ่นไหนดี ที่ปล่อยมลพิษ น้อยที่สุด
-
ทุกคน บอกว่า "ไฮบริด" แบตเสียลูกเป็นแสนนะ!!!
ถามหน่อยว่า ผมยังไม่เห็นเคสไหน ต้องเปลี่ยนแบตเลยครับ ในปัจจุบัน
ทำกับว่า แบตมันจะเสียทันทีหลังจากวิ่งกิโลที่ 100,001 ซะงั้น
ผลทดสอบจาก ตปท. AUTO BILD (ไม่มีในเมืองไทยเพราะรถเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและยังไม่มีใครวิ่งถึง)
เค้าก็ทดสอบมาแล้วว่าต่อให้วิ่งถึงขนาดนั้น แบตก็ยังไม่เสื่อมครับ
ไปเชื่อถืออะไรกะ AUTO BILD มาก รายนั้นเขาเน้นโฆษณา บางทีก็มั่วเยอะอยู่ ส่วนเรื่องแบต มันก็มีพังหลังแสนโลหรือก่อนแสนโลอ่ะแหละคละเคล้ากันไปแล้วแต่จะแจคพอตลง
-
;Dมันเป็นรถที่ผมเลือกไปแล้วครับ Prius MC Top Option ทีแรกเป็นรถที่ไม่ชอบรูปทรง ภายใน และรู้สึกว่า Hybrid เป็นเรื่องไกลตัว แต่พอได้สัมผัส ศึกษา ลองขับ ตอนนี้ในราคาเท่ากันผมเทใจให้ Prius หมดเลยครับ ทั้งๆที่ตอนแรกจะรอ New CR-V กับ New Teana แท้ๆ ;D
-
น่าใช้ครับ
จัดไป+1
เอา Top Option น่ะดีแล้ว
เพิ่ม7หมื่นได้ซันรูฟ แผงโซล่า เปิดแอร์จากรีโมท คุ้มครับ
เลกซัสแค่ซันรูฟอย่างเดียว เพิ่มเป็นแสน
-
เรื่อง Battery ไม่ต้องห่วงครับ ผมมี Estima hybrid (1st Gen of Estima Hybrid)
ใช้มาแล้ว 12 ปี .. Battery Hybrid ยังไม่เสีย ทุกอย่างปกติ ... มีแต่ E-CVT ที่กลับบ้านก่อน ..
E-CVT ของเสียไปที่ 120,xxx km. (เปลี่ยนเกียร์จากเชียงกงไปแล้ว)
ปัจจุบันติด GAS LPG มาแล้ว 1 ปี .. ระบบ Hybrid ทุกอย่างทำงานตามปกติ
คือ เช้าสตาร์ทไฟฟ้า .. พอแบตหมด หรือ ขับเคลื่อน ก็เป็นน้ำมัน .. จากนั้นได้อุณหภูมิก็เป็น LPG
ดังนั้น ท่านได้ที่มีความกังวล เรื่องแบตเตอรรี่ น่าจะคลายความกังวลไปได้บ้าง
ปัจจุบัน Estima ก็ยังเป็นรถโรงเรียนอยู่เหมือนเคย และ ผมได้ทำการสั่งจอง Prius Top Option ไปอีก 1 คัน
คาดว่าเดือนหน้าคงได้รับ