Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: -Anonymous- ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 13:00:29

หัวข้อ: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 13:00:29
น้ำหล่อเย็นยี่ห้อไหนช่วยให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไป แม้จะขับทางไกลหรือรถติดเป็นระยะเวลานานๅบ้างคับผม

ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 13:26:18
ถ้าถามตามนี้ คำตอบก็คือ แทบทุกเจ้าละครับ ^_^'
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Tonaka ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 13:38:11
จริงๆ น้ำประปาก็ได้นะครับ  มันอยู่ที่ว่า...  ระบบหล่อเย็นในรถคุณสมบูร์ดีอยู่หรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Larry ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 14:08:57
จริงๆ น้ำประปาก็ได้นะครับ  มันอยู่ที่ว่า...  ระบบหล่อเย็นในรถคุณสมบูร์ดีอยู่หรือเปล่า?

ถ้าเครื่องเก่าแล้ว อาจเกิดสนิมได้นะครับ  :D
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 15:23:46
FL-22   ;D   
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Cool Runner ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 17:00:49
น้ำยาหล่อเย็นมีส่วนช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำ ช่วยหล่อลื่นระบบหล่อเย็น และป้องกันสนิมในระบบ
น้ำยาหล่อเย็นจะมีส่วนผสมหลักคือ Ethelyne Glycol เหมือนกัน ต่างกันที่สีและสารอื่นๆเล็กน้อย
น้ำยาหล่อเย็นต้องเลือกใช้ยี่ห้อที่ดีหน่อยอย่างของศูนย์ ยี่ห้อเหมือนกับน้ำมัน ยี่ห้อที่คุ้นหูหน่อย
ถ้าเป็นยี่ห้อแปลกๆที่ใช้ขวดเดียวผสมน้ำได้เป็นสิบลิตรน่ะไม่ดีมันเสื่อมเร็วมาก
ใช้น้ำยาอย่างน้อย 30%ผสมน้ำดื่ม ถ้าหาน้ำ DI ได้ก็ดี
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Joe NG ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 17:09:11
การใช้ ถ้าเป็นแบบต้องมาผสมน้ำเอง  ให้ผสมตามที่ข้างขวดเขาระบุไว้นะครับ 

อย่าใช้มากเกินไป  เพราะว่าถ้าน้ำยาหล่อเย็นมากเกินไป มันจะไปลดความสามารถในการระบายความร้อนลงครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 17:54:17
อ๋อเข้าใจแล้วคับผม ขอบคุณพี่จิมมี่และพี่ๆทุกคนคับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 19:03:42
น้ำอะไรก็ช่วยให้เย็นกว่าปกติไม่ได้ครับ เพราะมันเย็นได้เพราะระบบลดความร้อนของรถ  ถ้าระบบระบายความร้อนสมบูรณ์ ยังไงเครื่องก็ไม่ฮีท
- การเพิ่มจุดเดือด ไม่มีควาหมายครับ ถ้ามันร้อนจนถึงจุดเดือดจริงๆ เพิ่มไปเดี๋ยวมันก็ฮีท(ต่างกันไม่ถึงนาทีหรอกครับ เวลาน่ะ) แต่ถ้าระบบสมบูรณ์ มันไม่ไปใกล้จุดเดือดแน่นอน

น้ำเปล่าๆยังไงก็ระบายความร้อนดีที่สุดครับเพราะค่า Cp น้ำยาหล่อเย็น"ทุกชนิด" ที่เติมเข้าไป มีประโยชน์แค่ป้องกันตะกรันแค่นั้นครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: DF-SLB ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 10:48:50
Coolant มีประโยน์มากกว่าที่คิดนะครับ  น้ำเปล่าระบายความร้อนที่สุด แต่ในเงื่อนไขถ้าคุณสมบัติทางกายภาพของมันยังไม่เปลี่ยนเท่านั้นนะครับ

ข้อคัดลอกที่มาจาก http://www.ducaticlubthailand.com (http://www.ducaticlubthailand.com)

1. ความร้อนที่เกิดขึ้นในเครื่องยนต์มีผลดีและผลเสียต่อเครื่องยนต์อย่างไร
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าในระบบการทำงานของเครื่องยนต์จะมีความร้อนเกิดขึ้นสูงมาก ซึ่ง 1/3 ของความร้อนนั้นจะถูกใช้ในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และอีก 1/3 จะถูกใช้ไปในระบบการระบายไอเสีย ส่วนที่เหลืออีก 1/3 ส่วนนั้นจะยังคงอยู่ในระบบ โดยสะสมอยู่ในตัวเครื่องยนต์นั้น ซึ่งความร้อนที่สะสมนี้เองจะทำให้เกิดการสึกกร่อนของเครื่องยนต์จนในบางครั้งอาจทำให้โลหะที่ใช้ทำเครื่องยนต์นั้นเกิดการหลอมตัว ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้


2.วิธีแก้ปัญหาความร้อนในเครื่องยนต์
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีสารที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนนี้ออกจากระบบเครื่องยนต์ ซึ่งปัจจุบันสารที่ทำหน้าที่ดังกล่าวจะสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ น้ำ และ Coolant


3. ทำไมถึงต้องเติม “Coolant”
จากที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า น้ำและ Coolant สามารถทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อนในระบบเครื่องยนต์ได้ดังคำอธิบายจากกลไกของการระบายความร้อนดังต่อไปนี้

เมื่อใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน จะเกิดเป็นฟองอากาศขนาดใหญ่เกาะที่บริเวณผิวของโลหะซึ่งภายใต้ฟองอากาศขนาดใหญ่นั้นจะมีพื้นที่สัมผัสในการระบายอากาศน้อยและมีอากาศอยู่เป็นจำนวนมาก โดยธรรมชาติอากาศจะมีความสามารถในการถ่ายเทความร้อนต่ำกว่าของเหลว ทำให้มีความร้อนสะสมบริเวณนั้นมากซึ่งจะก่อให้เกิดการสึกกร่อนเสียหายแก่ผิวสัมผัสนั้น โดยเฉพาะหากบริเวณนั้นเป็น Hot Spot จะทำให้ การสึกกร่อนรุนแรง

เมื่อมาพิจารณาในส่วนของ Coolant เมื่อได้รับความร้อน Coolant จะเกิดเป็นฟองอากาศขนาดเล็ก (nucleale bubble) จำนวนมาก ซึ่งทำให้มีผิวสัมผัสมาก ขณะเดียวกันก็จะมีอากาศภายในฟองอากาศน้อยลง ซึ่งส่งผลให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ Hot Spot ซึ่ง Coolant จะช่วยลดความเสียหายของเครื่องยนต์นั่นเอง





4. “Coolant” ทำหน้าที่อะไรบ้าง
นอกเหนือจากประสิทธิภาพของการระบายความร้อนแล้ว Coolant ยังประกอบด้วยสารเติมแต่งหลายชนิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ Coolant เช่น สารป้องกันการเกิดสนิม, สารป้องกันการเกิดตะกอนเป็นต้น



5. “Coolant” มีสารปรุงแต่งอะไรบ้าง
Advantage ของ Coolant

เพิ่มประสิทธิภาพของการระบายความร้อนจาก Hot Surface / Hot Spot ไปสู่ระบบหม้อน้ำ
ช่วยปกป้องระบบหล่อเย็นจากการกัดกร่อนต่าง ๆ
ป้องกันการสึกกร่อนของใบพัดในระบบ Water pump อันเกิดจากการเกิดฟองของน้ำ
ช่วยเพิ่มการหล่อลื่นใน Water Pump Seal
สามารถใช้ได้กับส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์, ระบบยาง, ระบบ Seal ต่างๆ
มีจุดเดือดสูงกว่าน้ำ
มีจุด Freezing Point ต่ำ
สามารถให้เป็น Antifreeze สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นจัด



6. สาระน่ารู้ของผู้ใช้รถ
เครื่องยนต์ที่ทำจาก Alloy จะมีแนวโน้มของการสึกกร่อนสูงกว่า เครื่องยนต์ที่ทำจากโลหะประเภทชิ้น
เครื่องยนต์ที่มีความจุดต่ำและมีการใช้พลังงานมากจะทำให้เกิดความร้อนสะสมสูงมาก
การใช้เครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์เสริมอื่น จะทำให้เกิดความร้อนในระบบมากขึ้น
ควรเลือกวัสดุที่ใช้ในระบบ Cooling Circuit ให้เหมาะสม
Thermostate จะทำงานเมื่ออุณหภูมิของระบบสูงขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
เมื่อ Water pump ทำงานเร็วขึ้นจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนที่ของของเหลว (Hydrodynamic Performance) ซึ่งจะก่อให้เกิดการปกป้องเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม



7. สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ Coolant
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิธีการกำจัดหลังเลิกใช้งาน
สภาพภูมิอากาศ
การรับประกันอายุการใช้งาน
ราคาและความสะดวกในการซื้อหา



8. ข้อแนะนำการใช้ Coolant
จากการศึกษา ความสัมพันธ์ของ จุดเดือดของ Coolant กับความดันที่เกิดขึ้นภายในระบบหม้อน้ำ อัตราการระบายความร้อนต่ออุณหภูมิจะพบว่า อัตราส่วนการใช้งาน Coolant ที่เหมาะสมที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพการใช้งานและค่าใช้จ่าย คือ ที่ความเข้มข้นประมาณ 30% w/w น้ำคือ การผสม Coolant 1 ส่วนต่อน้ำบริสุทธิ์ 2 ส่วนดังรูป





9. ประโยชน์จากการใช้ Coolant
เพื่อการปกป้องที่ดีเยี่ยมของระบบเครื่องยนต์ที่ทำจากทองแดง / ทองเหลือง / อลูมิเนียม หรือส่วนผสมของทองแดง / ทองเหลือง / อลูมิเนียม โดยเลือกจาก Coolant ที่มีสารเติมแต่งที่เพิ่มประสิทธิภาพที่เหมาะสม
เพื่อการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมรวมทั้ง การปกป้องเครื่องยนต์จากการเดือด จากความร้อนสูงโดยเฉพาะบริเวณ Hot Spot
ปกป้องการเกิด film ขณะเดือด รวมทั้งช่วยทำให้เกิดการ nucleale boiling สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูงขึ้น ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ลดการเดือดที่รุนแรง (Overheat) เมื่อใช้งานในภาวะที่มีอากาศร้อนจัดรวมทั้งความร้อนจากการใช้เครื่องปรับอากาศด้วย
เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของระบบน้ำหล่อเย็น โดยลดการสึกกร่อนของใบพัด (pump vane)
ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ขณะ Start up ซึ่งจะทำให้เกิดความร้อนเพิ่มมาถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการทำงานของเครื่องยนต์ต่อไป
ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการใช้งานที่อุณหภูมิต่ำมาก ๆ



10. ข้อควรทราบในการใช้ Coolant
สีของ Coolantไม่ใช่ตัวกำหนดคุณภาพ หรือประสิทธิภาพของ Coolant แต่อย่างใด
อัตราการใช้ที่เหมาะสม คือ การนำไปผสมกับน้ำกลั่นบริสุทธิ์ในอัตราส่วน Coolant ต่อน้ำ 1:2 หรือ 1:3 ส่วนโดยปริมาตร
ค่าความเป็นกรด – ด่างตลอดการใช้งานควรอยู่ในช่วง 7.5 – 11
Coolant สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์รุ่นเก่าและรุ่นใหม่
เพื่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานสูงสุดควรผสม Coolant กับน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น น้ำกลั่น, ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาที่สำคัญ คือ การใช้น้ำที่มีคุณภาพต่ำผสมกับ Coolant ที่มีคุณภาพสูงจะทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนต่ำลงมาก



11. คุณสมบัติของ Coolant ที่ดี
มีส่วนประกอบของ Glycol 85 – 95%
มี Freezing point ต่ำ (ต่ำกว่า – 12 C) กรณีที่นำไปใช้งานที่อุณหภูมิต่ำ
มีจุดเดือดสูง
ปกป้องเครื่องยนต์ที่ทำจาก Aluminium และ Cast Iron



12. คุณสมบัติของ Coolant
Coolant เป็นสารประกอบประเภท Glycol Ether ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการระบายความร้อนในระบบหม้อน้ำ รวมทั้งระบบความร้อนต่าง ๆ คุณสมบัติหลักที่สำคัญของ Coolant คือ

จุดเดือด (สารเข้มข้น)   >   190°C
จุดเดือด (เมื่อผสมน้ำ 1:2)   >   108°C ---> ที่จุดใช้งานปกติของหม้อน้ำในรถยนต์
ค่าความเป็นกรด – ด่าง (เมื่อผสมน้ำ 1:1)   =   7.5 – 11
ค่าปริมาณความเป็นกรดสำรอง (Reserve Acidity)   =   8 – 14
ค่าปริมาณความเป็นด่างสำรอง (Reserve Alkalinity)   =   15 – 25, 25 – 32 for DG9
ค่าการแตกตัวของฟอง   <   5 วินาที
 




13. คำจำกัดความที่ควรทราบเกี่ยวกับคุณสมบัติต่าง ๆ ของ Coolant
จุดเดือด คือ อุณหภูมิที่ Coolant ได้รับความร้อนจนกระทั่งเกิดการเดือด เช่น น้ำบริสุทธิ์มีจุดเดือด 100°C น้ำจะเดือดกลายเป็นไอ ส่วน Coolant มีจุดเดือดที่มากกว่า 108°C ในการใช้งานปกติ (ผสมน้ำ 1 : 2) และจะไม่ระเหยหายไปแต่อย่างใด ส่วนที่หายไปคือส่วนของน้ำ ดังนั้นเราสามารถเติมน้ำเพิ่มเมื่อพบว่าระดับน้ำในหม้อน้ำลดลง
ค่าความเดือดเป็นกรด – ด่าง คือ สภาพของ Coolant ที่เหมาะสมกับการใช้งานปกติ ซึ่งมีประสิทธิภาพของ Coolant ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ค่าปริมาณความเป็นด่างสำรอง คือ ความสามารถของ Coolant ที่จะรองรับปริมาณกรดที่อาจเพิ่มขึ้นได้ในระหว่างการใช้งาน ซึ่งปริมาณกรดดังกล่าวมักเกิดจากมลภาวะทางอากาศที่เกิดขึ้น รวมทั้งคุณภาพของน้ำที่ใช้ในระบบหม้อน้ำด้วย


เพราะฉนั้น  "น้ำยาหล่อเย็น"ทุกชนิด" ที่เติมเข้าไป มีประโยชน์แค่ป้องกันตะกรันแค่นั้นครับ" น่าจะเป็นการอธิบายที่คลาดเคลื่อนไปซักหน่อยนะครับ 
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: Amj ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 11:54:20
^ ^  ถูกใจความเห็นด้านบนมากครับ

ในคลับครูซผมยังมีบางท่านแนะนำน้ำเปล่าๆอยู่เลย อ่านแล้วเพลียมาก

ปล. ผมก็เคยเอาแบบนี้ไปวางให้คนในคลับอ่านนะ โดนสวนมาว่าไปเอาคำคนอื่นเขามา >.<

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 12:00:50
คุณ VIRAT_M-I
จัดเต็มแบบนี้ ได้ความรู้เพียบเลยครับ :D
หัวข้อ: Re: ขอถามเรื่องน้ำหล่อเย็นคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: DF-SLB ที่ กรกฎาคม 23, 2012, 14:52:32
ผมยอมรับไปก็อบเค้ามาครับ แต่ก็อปมาด้วยการค้นคว้า ช่วยๆบอกเล่ากันไปครับ  อันดับแรก คำว่าน้ำยาหล่อเย็น หรือกันสนิม กันน้ำเดือด นี้มันมาจากภาษาอังกฤษว่า coolant,

ซึ่ง มีคำว่า cool อยู่ด้วย ซึ่งแปลว่าเย็น เราไม่ได้แปลตามคำไทยๆ ดังนั้นผมเลยคิดว่าเรื่องทำให้มันเย็นนี้น่าจะเป็นสาระสำคัญของ "coolant" เลยเริ่มต้น searching มีภาษาอังกฤษด้วย

แต่เพื่อความสะดวก เห็นบนความที่ดูน่าเชื่อถือ จึงมาแปะให้อ่านกันครับ

An engine coolant is an important fluid for the car. It performs two primary functions in the car. During hot weather, the the coolants remove heat from the car combustion area to prevent it from over heating. When the weather is very cold, especially for regions that have extreme winters, the coolants prevent the car engine from failing. These coolants usually come in liquid form and are mostly made up of specific fluids. The coolant should be replaced regularly because they enable the engine to function well. Don't forget that coolants should also be treated regularly as they help eliminate rust and dirt deposits from the engine that help the engine function well.

The first step is to check on the location of their coolant tank. Once the coolant tank has been located, check on the engine coolant levels of your car. This is relatively easy. There are car indicators that show the levels of the fluid in the car. If the levels are too low, then the owner is advised to fill it up. The vehicle owner should also check on the condition of the coolant fluid. Most engine coolant fluids by various manufacturers normally come in different colors. Engine coolant fluid that is in good condition is normally clear based on its original color. This color should be free of dirt and other particles. Engine coolant oil is added to the overflow tank of the vehicle and is sealed thereafter. This prevents any leakages from occurring. Engine coolants are also readily available in all gas stations. The vehicle user is advised to check on these levels when the car is cool, never when it is hot.

When introduced to the system of a car, the coolant slowly yet gradually works on the engine and metals in the engine and creates a protective seal around them. However, a vehicle owner is advised to change his motor coolant fluid regularly on the advice of his mechanic. This is because, when the motor coolant oil is left for too long, it becomes acidic. When it becomes acidic, it starts to dissolve the metal on the engine. This causes engine corrosion and is harmful for the other car systems. The absence of coolant from the car also results in engine failure caused by corrosion of seals or even rust. The motor coolant is therefore an important fluid for the vehicle and serves the function of protecting the engine from damage. The coolant also serves the function of providing lubrication for the water pump. When the water pump is not lubricated well, it dries up.

Different vehicles need different types of coolants. The motor vehicle owner is therefore advised to use only engine coolant fluids which are recommended by the manufacturer of their vehicle. This is because the manufacturers know the type of engine coolant is suitable for your vehicle according to the specifications the vehicle was made. An important point to note is that engine coolant fluid is harmful to animal health. When it spills to the ground, animals may drink it up and this causes a lethal reaction which normally leads to death



Article Source: http://EzineArticles.com/3502951 (http://EzineArticles.com/3502951)

 :D