Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: dung ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 19:48:05

หัวข้อ: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: dung ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 19:48:05
ขอถามท่านสมาชิก2คำถามนะครับ
ขับหน้า VS ขับหลัง มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างครับ ผมทราบแค่ว่าขับหน้าลดต้นทุนการผลิต แต่ไม่ทราบว่าจริงๆแล้วperformanceในการขับขี่ต่างกันอย่างไรบ้าง :-X
Torque VS Hp อันไหนสำคัญกว่ากันครับ ถ้าจะต้องเอามาพิจารณาเลือกซื้อรถ เช่นรถคันนึงtorque300 Hp200 กะอีกคัน torque400 แต่ Hpแค่163 คันไหนน่าซื้อกว่ากัน  ::) ทำไมVolvo S80ปี2007-2009ถึงเป็นเครื่องD5 แต่ตัวใหม่ปี2012กลับเอาเข้ามาแค่ตัวD3ซึ่งperformanceสู้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: NarinrachMaisok ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 19:51:40
ตั้งกะทู้เดียวแล้วรวมกันเอาก็พอครับ ไม่ต้องตั้งแยกแบบนี้ แค่เจอ jazz hybird แค่นี้ก็จะแย่อยู่ละ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบางข้อมูลพอหาได้อยู่ก็ไม่หา (สำหรับjazz hybrid นะ)
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: kimmeng21 ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 19:53:06
ขับหน้าจิกโค้งได้ดีกว่า

ขับหลังดริฟได้
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: NineKlao ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 19:53:57
2 กระทู้ติดเลยหรือครับ  :-[
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: gunz13096 ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 20:00:34
อย่าปั๊มกระทู้สิครับ ตั้งกระทู้เดียวแต่หลายคำถาม เดี๋ยวก็มีคนตอบ
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: dung ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 20:05:36
อย่าปั๊มกระทู้สิครับ ตั้งกระทู้เดียวแต่หลายคำถาม เดี๋ยวก็มีคนตอบ

รับทราบครับ รวมแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: banch ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 20:16:55
แรงม้าแรงบิด

อ่านบทความนี้ครับ ผมว่าเป็นบทควาที่เขียนมแรงม้าแรงบิดที่ดีมากบทความนึงเลย

สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายและมีการยกตัวอย่างประกอบด้วย

เสียดายที่ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบทความ เลยให้เครดิตไม่ถูก เอาเป็นว่าให้เครดิตเจ้าของบทความด้วยนะครับ


แรงบิดคือ แรงบิดตัวของแกนหมุนใดๆ มีหน่วยวัดได้หลายแบบ แต่ที่นิยมก็มี 3 แบบ คือ

ฟุต-ปอนด์ : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นความยาวของรัศมีการหมุน ที่มีแรงผลัก 1 ปอนด์
นิวตัน-เมตร : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นแรงผลักในหน่วย นิวตัน ที่รัศมีการหมุน 1 เมตร
กิโลกรัม-เมตร : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นแรงผลักในหน่วย กิโลกรัม ที่รัศมีการหมุน 1 เมตร


แรงม้าคืออะไร

แรงม้าคือ หน่วยวัด “พลัง” ของเครื่องยนต์ที่ได้จากการทำงานของ “แรงบิด” ที่ความเร็วรอบใดๆ ต่อหน่วยเวลา
มีรากเง้าการคำนวณมาจากสูตร “งาน” (จูล) = “แรง” คูณด้วย “ระยะทาง” >>> W = F x S
และ “พลังงาน” P คือ “งานต่อหน่วยเวลา” มีชื่อว่าเรียกว่า วัตต์ (Watt) หรือ จูลต่อวินาที >>> P = W/วินาที
หรือเท่ากับ “’งาน” คูณด้วย “ความเร็วเมตรต่อวินาที" >>> P = W x v
โดยที่ ………. 1 แรงม้า = 746 วัตต์


ความสัมพันธ์ระหว่าง แรงม้า กะ แรงบิด
เราสามารถคำนวณหา “แรงม้า” จาก “แรงบิด” หรือ คำนวณ “แรงบิด” จาก “แรงม้า” ได้เสมอ ถ้าเรารู้ค่าของตัวใดตัวหนึ่ง ที่ความเร็วรอบเครื่องขณะใดขณะหนึ่ง


ด้วยสูตรการคำนวณค่าแรงม้าที่ให้มาข้างต้น เราสามารถสร้างสูตรสำเร็จในการคำนวณหาความสัมพันธ์ระหว่าง แรงม้า และ แรงบิด ได้ดังนี้ (ค่าแรงบิดที่ใช้สูตรการคำนวณมีหน่วยเป็น… กิโลกรัม-เมตร.)


คำนวณ แรงม้า จาก แรงบิด : แรงม้า = รอบต่อนาที X แรงบิด X 0.001376 โดยแรงบิดมีหน่วยเป็น กิโลกรัม-เมตร
คำนวณ แรงบิด จาก แรงม้า : แรงบิด = แรงม้า / (รอบต่อนาที X 0.001376)โดยแรงบิดมีหน่วยเป็น กิโลกรัม-เมตร

ดังนั้น จากข้อมูลของเครื่องยนต์ที่เรามักจะเห็นจากสเป็คในโบชัวร์โฆษณารถ เราก็จะสามารถคำนวณต่อได้ว่า
ที่แรงบิดสูงสุดนั้น มีกี่แรงม้า หรือ ที่แรงม้าสูงสุดนั้น มีแรงบิดเท่าไหร่
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถคำนวณหาค่าอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และ ขนาดล้อ ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รถที่มีสมรรถนะตามต้องการ ทั้ง อัตราเร่ง และ ความเร็วสูงสุด
ทั้งนี้เราจะต้องรู้น้ำหนักรถ และ ค่าอากาศพลศาสตร์ ของรถด้วยนะครับ


ตัวอย่างการคำนวณ


ตัวอย่างที่ 1
เครื่องยนต์ A มีแรงบิดสูงสุด 20.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที มีแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
คำนวณหา แรงม้า ที่แรงบิดสูงสุด ได้จาก : 3,600 X 20.0 X 0.001376 = 99.072 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที
คำนวณหา แรงบิด ที่แรงม้าสูงสุด ได้จาก : 150 / (6,000 X 0.001376) = 18.168 กิโลกรัม-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที


ตัวอย่างที่ 2
เครื่องยนต์ B มีแรงบิดสูงสุด 20.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที มีแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที
คำนวณหา แรงม้า ที่แรงบิดสูงสุด ได้จาก : 4,500 X 20.0 X 0.001376 = 123.84 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที
คำนวณหา แรงบิด ที่แรงม้าสูงสุด ได้จาก : 150 / (6,500 X 0.001376) = 16.771 กิโลกรัม-เมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที


จากตัวอย่างการคำนวณของ เครื่องยนต์ A และ B เราจะเห็นได้ว่า แม้ทั้งคู่จะมี “แรงบิด” และ “แรงม้า” สูงสุด เท่ากัน
แต่เครื่องยนต์ A จะได้อัตราเร่งที่ดีกว่าทั้งต้นและปลาย ที่อัตราทดของระบบการส่งกำลังเดียวกัน และ
ถ้าจะให้เครื่องยนต์ B มีสมรรถนะเท่ากับเครื่อง A บนตัวถังเดียวกัน อาจจำเป็นต้องใช้ชุดเกียร์ที่มีอัตราทดชิดกันมากกว่า และอาจต้องมีจำนวนเกียร์มากกว่าด้วย
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ A ก็มีโอกาสประหยัดน้ำมันกว่า ถ้ามีความจุของเครื่องยนต์เท่าๆ กัน
เพราะว่า เครื่องยนต์ A ดูจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์ B จากลักษณะ แรงบิด และ แรงม้า ที่เครื่อง A ได้มาอยู่ในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า
ทั้งนี้ก็ไม่เสมอไปนะครับ แต่มีโอกาสเป็นไปตามนี้สูงมาก


การทดเกียร์ในรถยนต์ทำเพื่ออะไร
การทดเกียร์มีจุดประสงค์ 2 ประการคือ

หนึ่ง เพื่อให้สามารถควบคุมความเร็วรถได้อย่างเหมะสมตามรอบเครื่องยนต์
สอง เพื่อให้สามารถสร้างอัตตราเร่งของรถได้ด้วยการทำให้แรงบิดของเพลาขับสูงกว่าแรงที่รถต้องการในแต่ละช่วงความเร็ว


ประการที่หนึ่ง นั้นคงไม่ต้องอธิบายมาก แต่อยากจะบอกให้หายสงสัยว่า ทำไมรถที่เครื่องแรงมากๆๆๆๆๆ เช่น รถสปอร์ต 300-500 แรงม้า ยังคงต้องมีเกียร์ หนึ่ง ที่มีอัตราทดพอๆ กับรถจ่ายตลาดที่มีแรงม้าแค่ปริ่มๆ 100 แรงม้า
ถามว่ารถที่แรงมากๆ ออกเกียร์ สอง ได้มั๊ย ก็ตอบว่า อาจได้ครับ แต่ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร รถยนต์ต้องออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง เสมอไม่ว่าจะเป็นคันไหน
และถ้าไม่มีครัช เครื่องยนต์ก็ต้องเริ่มหมุนจาก 0 รอบต่อนาทีเหมือนกัน และไม่ว่าเครื่องจะมีแรงเท่าไหร่ ถ้าเครื่องหมุน 0 รอบต่อนาที ก็มีแรงเท่ากับ 0 เหมือนกันทุกเครื่องยนต์
ดังนั้น คุณต้องการเกียร์ หนึ่ง ที่มีอัตราทดมาก ไม่ได้ไว้เพื่อให้มีแรงอย่างเดียว แต่เพื่อความเหมาะสมต่อการเลี้ยงรอบเครื่องในการออกตัว
ส่วนการทดในเกียร์ต่อๆ ไปก็เพื่อให้เครื่องได้ทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองเหมาะสมต่อการใช้งานที่ดีที่สุดนั่นเอง


ประการที่สอง อันนี้สำคัญ เพราะว่าการที่รถจะมีความเร็วคงที่อยู่ได้ หรือสามารถเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นได้นั้น แรงบิดที่เพลาขับต้องมีเหลือมากกว่าแรงที่รถต้องการ
ยิ่งความแตกต่างของแรงบิดที่เพลาขับมากกว่าแรงบิดที่รถต้องการมากเท่าใด รถก็จะยิ่งมีอัตราเร่งสูงขึ้นเท่านั้น
แต่แรงที่รถต้องการเมื่อความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ คือแรงต้านของอากาศที่มีสมการอยู่ในรูปของ ความเร็วยกกำลังสอง
ทำให้แรงต้านนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการเพิ่มของความเร็วของรถ
และบังเอิญว่า แรงบิด ของรถก็มักจะลดลงเมื่อรอบเครื่องยนต์พ้นรอบแรงบิดสูงสุดไป
การทดเกียร์ จึงเป็นการเพิ่มแรงบิดของเพลาขับให้มากกว่าแรงที่รถต้องการตลอดช่วงการไต่หาความเร็วสูงสุด


การทดเกียร์นี้จะเพิ่มเฉพาะ แรงบิด โดยที่ แรงม้า จะยังคงเท่าเดิมเสมอ
ตัวอย่างการทดเกียร์ที่อัตรา 2 : 1 ของเครื่องยนต์ A ในตัวอย่างที่ 1 เมื่อเครื่องยนต์หมุนที่ 3,600 รอบต่อนาที เพลาจะหมุน 1,800 รอบต่อนาที
แต่เพลาจะมีแรงบิดเป็น 40.0 กิโลกรัม-เมตร และเมื่อคำนวณแรงม้าของแรงบิด 40.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 1,800 รอบต่อนาที ก็จะได้ 99.072 แรงม้าเท่าเดิม
ถ้าเราไม่ทดเกียร์เลย ปล่อยให้เพลาขับหมุนเท่าข้อเหวี่ยง เมื่อเพลาขับหมุน 1,800 รอบต่อนาที ก็จะมีแรงบิดน้อยกว่า 20 กิโลกรัม-เมตร เสียอีก
ซึ่งถ้าสมมุตว่า ความเร็วรถขณะที่เพลาหมุน 1,800 รอบนั้นต้องการ แรงบิด 20 กิโลกรัมเมตร รถคันนี้ก็จะไม่สามารถเร่งให้เร็วขึ้นได้ และจะลดความเร็วลงด้วย

หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 20:20:56
เรื่อง FWD RWD AWD กระทู้เก่าๆ มีคนตอบดีๆ ไว้มากครับ ลองค้นหาดู แรงบิด/แรงม้า ก็เช่นกัน
ส่วน Volvo D5 และ D3 ส่วนตัวคิดว่าอัตราเร่งไม่ต่างกันมากนะ แต่ที่ต่าง ความประหยัดน้ำมันของ D3 ครับ ชัดเจนมาก
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 21:29:30

เอาสั้นๆ พอ

ขับหน้า
ดี - ลดต้นทุน บริหารพื้นที่ได้เยอะ ภายในกว้าง ประหยัดน้ำมัน
เสีย - หน้าดื้อ ชิ้นส่วนกระจุกอยู่ที่เพลาขับ เปาะบางกว่าเมื่อได้เจอสภาพถนนแย่ๆ

ขับหลัง
ดี - รถไปตามโค้ง ชิ้นส่วนหน้าหลังแยกส่วนชัดเจน การเวทน้ำหนักค่อนข้างสมดุล ทนทาน
เสีย - ต้นทุนสูง สูญเสียกำลังในการขับเคลื่อน บริหารพื้นที่ภายในได้ไม่มาก ท้ายปัดได้หากพลาด
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 21:43:40
ขับหน้า รักษาง่ายกว่าครับ เพราะทุกอย่างอยู่ข้างหน้าหมดเลย
เปิดทีเดียว จัดการได้หมด แต่ถ้า ขับหลัง ดูแลยากครับ เพราะมันแยกกันอยู่ ครับ

เพราะฉนั้น ในเรื่องการดูแล ผมมีความเห็นว่า ถ้า วางหลัง ขับหลัง น่าจะเป็นอะไรที่ได้ทั้งกำลัง และ การดูแลรักษาที่ง่ายนะครับ
เช่น รถเต๋า เป็นต้น วางหลัง ขับหลัง แอร์คูล ใช้อย่างเดียวครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: RERFz ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 22:37:02
ข้อเสียของรถขับหลัง ที่ทำให้ไม่เป็นที่นิยมก็คือ

..... หัวคนนั่งหน้ามันจะบังครับ ขับลำบากแย่ ....

 :P :P :P :P :P :P :P :P :P :P
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: mini_freak ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 01:53:51
ผมขอตอบตามความเข้าใจ (ที่ได้โยนรถเล่นอย่างสนุกสนานมาตั้งแต่เด็กนะฮะ)

ขับหน้า - ขับง่าย แต่เชี่ยวชาญกับมันได้ยากมากเพราะเข้าโค้งสะดวกก็จริง ผมไม่เรียกว่าเข้าโค้งง่ายนะ แต่เพราะว่าเวลาส่งคันเร่งมากๆ มันไม่หมุน แต่มันจะดื้อ ภาระตกอยู่ที่ยางคู่หน้ามากกว่าปกติเวลาเข้าโค้ง
ขับหลัง - ขับสนุก แต่ควบคุมยากถ้ายังไม่ชินอาการรถ ไม่เหมาะกับมือใหม่และใจยังหวาดกลัวถ้ารถหมุน
ขับสี่ - ผมไม่ขอเอ่ย เพราะไม่เคยขับรถขับสี่แบบ AWD ครับ ถ้า 4WD ก็อีกเรื่อง (เพราะมีแต่พวกอีโว ไม่ก็ซูบารุที่จะหามาขับได้) อย่างมากผมแค่เคยนั่ง

ส่วนตัว ชอบรถแรงบิดมากกว่าครับ ไอ้แรงบิดเนี่ยล่ะที่ทำให้รถไปข้างหน้า
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: Rock N' Rolla ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 02:48:39
ขับปกติ ผมชอบขับ หน้า

ขับแรงๆอารมณ์มันๆ ผมชอบ ขับหลัง  (แต่เอาเข้าจริงๆ เข้าโค้ง เสียวตูดปัด มากๆ)
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 02:51:22
ข้อเสียของรถขับหลัง ที่ทำให้ไม่เป็นที่นิยมก็คือ

..... หัวคนนั่งหน้ามันจะบังครับ ขับลำบากแย่ ....

 :P :P :P :P :P :P :P :P :P :P

5555+ นึกตามผมก็อดขำไม่ได้
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 11:42:47
แรงม้า แรงบิด :
ความแตกต่างระหว่างแรงม้าและแรงบิดที่ เจ้าของกระทู้ยกตัวอย่าง
น่าจะเป็นรถที่ใช้งานคนละประเภทกันซะมากกว่าครับ

รถบางคันต้องการแรงพอตัว แต่ต้องการความเร็วที่มากกว่า
รถบางคันต้องการแรงที่เกินตัว แต่เร็วพอประมาณ
(เหมือนเอาม้าไปลากซุง แต่เอาช้างมาวิ่งแข่งมันก็แปลกๆอยู่นะครับ)

แรงม้า แรงบิดก็ เป็น "สมมติฐานเบื้องต้น" เท่านั้นครับ
(ไม่งั้นใครแรงม้า แรงบิดมากกว่าก็ขับดีกว่าหมดซิ (ไม่ใช่แล้ว555))
จะรู้ว่ารถดี หรือไม่ดีมันก็เป็นอีกเรื่องนะครับ 555
แถมที่ว่าดีน่ะดีสำหรับ "เส้นทางไหน" "ความเร็วเท่าไร" อีกต่างหากน่ะ


เรื่องขับหน้า ขับหลัง:
ความเข้าใจของผม มันประมาณนี้ นะครับ

รถขับหน้า
ธรรมชาิติของมันก็คือ หน้าแถ
เนื่องมาจากขาด TRACTION ที่ล้อหน้า(มากกว่าล้อหลัง)

รถขับหลัง
ธรรมชาติของมันก็คือ หลังแถ
เนื่องมาจากขาด TRACTION ที่ล้อหลัง(มากกว่าล้อหน้า)

กรณีีรถแรงม้าไม่มากมาย เช่นไม่เกิน 200 ม้า
- ขับหน้าแค่ถอนคันเร่งสักพักก็ได้ TRACTION คืนมาและก็บังคับต่อได้ทันที(ด้วยล้อหน้า)

- ขับหลัง(อันนี้แล้วแต่รถแต่ละคัน พื้นฐานต่างกัน) ถอนคันเร่งสักพักก็ได้ TRACTION คืนเช่นกัน
   แถมล้อด้านหน้ายังพอมี TRACTION อยู่ (เนื่องจากไม่ได้เป็นล้อขับเคลื่อน)
   แต่การบังคับเลี้ยว กับการส่งกำลังมันแยกออกจากกัน
   อันนี้ก็ต้องใช้ฝีมือของแต่ละคนในการผสานกันให้ลงตัว


กรณีรถแรงม้าสูงๆ
- ขับหน้าถอนคันเร่ง TRACTION ก็ไม่ได้กลับคืนมาง่ายๆ ต้องลดแรงบิดให้เหลือน้อยลงอีก
  ถ้ามากไป หรือรวดเร็วไป +ทิศทางไม่เหมาะสมอาจเกิดการรถลอย และหมุนในที่สุด
  ถ้าน้อยไป TRACTION ก็ยังไม่เกิด จึงทำให้รถยังออกอาการแถหน้าอยู่

- ขับหลังอันนี้แล้วแต่รถแต่ละคัน พื้นฐานต่างกัน (เหมือนเดิม)
  แต่การถอนคันเร่งเพื่อให้ได้ TRACTION คืนไม่ง่ายเหมือนเก่า
  แต่ล้อหน้ายังพอมี TRACTION อยู่ เนื่องจากไม่ได้เป็นล้อขับเคลื่อน(เหมือนเดิม)
  แต่การบังคับเลี้ยว กับการส่งกำลังมันแยกออกจากกัน(เหมือนเดิม)
  อันนี้ก็ต้องใช้ฝีมือของแต่ละคนในการผสานกันให้ลงตัว " มากกกกก เป็นพิเศษ!!!!! "

  ผมเข้าใจว่า :
  ตรงนี้เองที่ทำให้รถขับหลังสามารถทำให้มีกำลังได้มากกว่าขับหน้า แล้ววววยังพอสนุกอยู่
  พอมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ใส่เข้าไปเพื่อให้แรงม้าสูงๆ ผสมผสานกัับการขับเคลื่อน และบังคับทิศทางได้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
  พูดง่ายๆก็คือ ทำออกมาได้แรงขึ้น และ มนุษย์ปุถุชน คนธรรมดา ยังขับได้อยู่อย่างสนุกสนาน สุนทรีย์  ;)
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 16:19:00
ถนนในประเทศไทยรถที่มีแรงบิดเยอะกว่าจะเหมาะสมกว่าครับ การจราจรที่รถคันอื่นเยอะแยะ สภาพถนนที่ไม่สามารถทำความเร็วสูงได้ รถที่มีแรงบิดมากกว่าจะเร่งแซงจะทำความเร็วก็ง่ายกว่ารถที่แรงม้าสูงกว่าแต่มาในรอบสูงกว่าอีก กว่าจะถึงรอบที่แรงม้ามามากกว่า รถที่แรงบิดมากกว่าไปไหนถึงไหนแล้ว  :P
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: NarinrachMaisok ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 19:06:13
มันแล้วแต่การเซตช่วงล่างมาด้วยนะครับ ขับหลังยุโรปหลายๆรุ่นยังเห็นวิ่งฉิวๆไม่หมุนเลยก็มีที่เห็นหมุนๆนี่ก็กะบะขับหลังทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: penalty ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 20:49:01
แรงบิด VS แรงม้า
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,5699.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,5699.0.html)
หัวข้อ: Re: ขับหน้า VS ขับหลัง และ Torque VS Hp
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กรกฎาคม 28, 2012, 20:55:52
ของคุณ redsun อ่านเข้าใจง่ายมากเลยครับ ขอบคุณครับ ^^"