Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Devil13 ที่ กรกฎาคม 29, 2012, 07:25:52
-
เนื่องด้วยกระแส ไฮบริด ตอนนี้กำลังมาแรง
และผมเองก็กำลังจะออกรถ ก็เลยคิดว่าควรซื้อเป็นรถไฮบริดไปเลย ใหนๆก็ซื้อแล้วจะได้ไม่ตกรุ่น
หรือว่าออกรถตลาดเครื่อง 1.5 ดีกว่าครับ
โจทย์ก็คือ ขับในเมืองเป็นหลัก ออก ตจว. เดือนละ 4 ครั้ง
มองถึงอนาคต และราคาขายต่อในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยครับ
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
คิดมา 2-3 วันแล้วครับ ยังไม่ได้ผลสรุปสักที
-
รอคำตอบด้วยคนครับ
ส่วนผมได้ยินข้อมูลเรื่องราคาแบตเตอร์รี่ที่ต้องเปลี่ยนทุก 5 ปี ราคาสองแสนกว่า (ถ้าใช่)
ผมว่าผมขับรถเติมน้ำมันปกติไม่น่าจะใช้เงินถึงสองแสนครับผม และในช่วง 5 ปี เจ้า Hybrid ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องเติมน้ำมันนี่ครับ
ถ้าแบตถูกลง เช่น 5 ปี เปลี่ยนในราคาสัก 5 หมื่น ผมจะสอยครับผม
แต่รอท่านที่รู้จริงมาตอบครับ เพราะผมก็ชั่งใจอยู่เหมือนกันครับ
-
อย่าห่วงเรื่องขายต่อมากเลยครับ มันราคาไม่ตกขนาดนั้นหรอก ลองดูราคา Camry HB มือสองดู
http://www.one2car.com/search/search_result.aspx?Brand=B0054&Model=S0535&Body=D1315&Year1=2009&Year2=2015&Type=1& (http://www.one2car.com/search/search_result.aspx?Brand=B0054&Model=S0535&Body=D1315&Year1=2009&Year2=2015&Type=1&)
ส่วนเรื่องว่าตวรเล่นตัวไหน ผมว่ามันแล้วแต่ความชอบ นิสัยการขับ และงบในมือ ซึ่งแต่ละคนมันต่างกัน
ผมยกเคสผมแล้วกัน เมื่อสองปีที่แล้วผมจะเปลี่ยนรถจาก vios เป็น d-seg
ตอนแรกกระแส Camry HB แรงมาก ที่บ้านอยากให้ใช้ ว่ากันว่าจะประหยัด ผมก็ไม่เถียงและไปลองขับมา
กลับมาบ้านนั่งคิดยู่สองวัน ว่าผมจะเหมาะกับรถ HB จริงไหม ส่วนตัวผมไม่ใช้รถเกิน 5 ปีแน่ๆ
สรุปผมออก 2.0G extremo ราคาล้านสาม แต่ไม่เอา Camry HB ราคาล้านเจ็ด เหตุผลเพราะอะไรหนะเหรอ
ผมมองว่างบต่างกันเกือบสี่แสน เงินจำนวนนี้เอามาเติมน้ำมัน 2.0g ขับได้หลายปีเลยนะ และจริงๆ HB ก็ยังต้องจ่ายค่าน้ำมันอยู่ดี
มาคิดด้านความคุ้มค่า 2.0 g เหนือกว่า (ในความเห็นส่วนตัวผมนะครับ)
ด้านถาพลักษณ์ ผมว่าเจ้า 2.0g extremo white perl หล่อไม่แพ้ HB (ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ)
ด้นราคาขายต่อ ตกพอๆกันครับ ขาดทุนหลัก 3-4 แสนแน่ตอนขายต่อ
ส่วนเรื่องแบตเตอร์รี่ อย่าไปกังวลขนาดนั้นเลยครับ คนใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
อีกอย่างคุณจะใช้แค่ 5 ปี เรื่องนี้ยิ่งเลิกคิดไปได้เลย
ที่เหลือแล้วแต่คุณแล้วหละ ลองขับแล้วชอบคันไหน หรือบางทีออกรถตลาดเอามาแต่งมันก็สวยใช่เล่นเลยนะ
ปล. อย่าไซื้อรถอิงกระแสนักเลยครับ เอาตัวคุฯเป็นที่ตั้งดีกว่า
-
:D ราคาท่านเกินไปเยอะครับ ราคานั้นต้องถูกลงเรื่อย. ครับอนาคตอันใกล้หน้าจะถูกลงเยอะตอนนี้ราคาประมา่่่ณ. 70000. เเละอายุการใช้งานอย่างน้อย 5 ปีอีก 5 ปี่เปลี่ยนเป็นเซลไม่ได้เปลี่ยนยกชุด ตอนนี้และอนาคตมันจะเป็นเจอเนเรชันของไฟฟ้าแล้วตรับ ต่อจากนี้ไฮบริดอาจหลีกให้ไฟฟ้าปลั๊กอินเพียว. เลยก็ได้เทคโนโลยีใหม่นั้นอาจจะรอความมั่นใจของผู้ซื้อเพราะเมื่อรถเองผลิตมาน้อยอะไหล่ ราคามันก็เลยสูง พวกของเทียบหายากชุดแต่งน้อยราคายังแพง. แถมร้านแต่งรถก็ไม่กล้าสั่งซื้อสต็อกสินค้า ซึ่งท่านต้องทำใจเรื่องพวกนี้มันก็คล้ายเบ้น บีเอมหละท่าน คาแคร์มันยังกลัวจะฉีดล้างยังเบาแรงกว่าปกติเลยครับ
-
ความคุ้มค่า และ lifestyle ของแต่ละคนต่างกันครับ
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท กำลังพูดถึงตัวเลือกอย่าง JAZZ Hybrid กับ ตัวธรรมดาอยู่หรือเปล่า
โดยถ้าเป็นผม ผมคงไม่เอา Hybrid แต่จะไปเลือกตัว SV แทน
เพราะผมคิดว่าของที่ให้มา มันขาดๆ เกินๆ กระจกไม่พับไฟฟ้า เบรกหลังเป็นดรัม แต่ดันใส่แอร์อัตโนมัติมาให้
อีกอย่าง ระบบ Hybrid คงไม่ได้มีประโยชน์กับ สไตล์ การขับของผมซะเท่าไหร่
ถ้ามองเรื่องอัตราเร่งของตัว hybrid .. ถ้าสมมุติ มันทำได้เทียบเท่าเครื่อง 1500 แล้วทำไม ผมไม่ซื้อตัวธรรมดาไปละ ? ถูกกว่าด้วย
เกิดวันดีคืนดี ซนขึ้นมา มันก็ต่อยอดได้ง่าย
ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมัน สำหรับผม รุ่นธรรมดาก็ทำได้ดีพอควรแล้ว
เอาส่วนต่างของราคา มาเติมน้ำมันดีกว่า
-
ระยะสั้นความกังวลน่าจะยังไม่มากครับ
เนื่องจากยังอยู่ในระยะรับประกันแบตเตอรี่อยู่ครับ ;)
แต่ถ้าว่ากันระยะยาว
ผมก็คิดว่าแบตเตอรี่นี่แหล่ะครับ **ตัวแปรสำคัญ** เลย
อะไหล่แพงๆชิ้นอื่นยังมีสิทธิเลือกได้บ้างว่าจะ เบิกใหม่ หรือจะเชียงกง
แต่พอเป็นเรื่องแบตเตอรี่มีแต่เบิกใหม่สถานเดียวครับ
ต้องถาม HONDA แล้วล่ะ " แบตเตอรี่ลูกเท่าไร?? "
-
เนื่องด้วยกระแส ไฮบริด ตอนนี้กำลังมาแรง
และผมเองก็กำลังจะออกรถ ก็เลยคิดว่าควรซื้อเป็นรถไฮบริดไปเลย ใหนๆก็ซื้อแล้วจะได้ไม่ตกรุ่น
หรือว่าออกรถตลาดเครื่อง 1.5 ดีกว่าครับ
โจทย์ก็คือ ขับในเมืองเป็นหลัก ออก ตจว. เดือนละ 4 ครั้ง
มองถึงอนาคต และราคาขายต่อในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยครับ
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
คิดมา 2-3 วันแล้วครับ ยังไม่ได้ผลสรุปสักที
ขับในเมืองเป็นหลัก น่ะ เลือก HB
แต่มาบอกว่า ECO Car ไม่เหมาะกับทางไกล ทำไมล่ะ งั้นเลือก C Seg พวก Civic ดีกว่า
CNG ไม่สน หาเติมไม่ยากแต่คิวนาน
LPG ราคาถูกสุด เหมาะกับคุณมาก แต่ คุณไม่ชอบ
งั้นผมแนะนำซื้อรถ 2 คัน
คันแรก Prius เอาไว้ขับในเมือง
คันที่สอง Accord เอาไว้ออกตจว ครับ
แบะผมไม่แนะนำ Jazz HB เพราะคุณไม่ชอบ Eco Car คุณออกตจวบ่อย ครับ
-
ถ้าไม่ชอบรถติดแก๊ส hybrid เป็นทางเลือกที่ดี อย่าไปกลัวอนาคตอีก5ปีอาจเปลี่ยนรถใหม่ก็ได้ครับ
-
เนื่องด้วยกระแส ไฮบริด ตอนนี้กำลังมาแรง
และผมเองก็กำลังจะออกรถ ก็เลยคิดว่าควรซื้อเป็นรถไฮบริดไปเลย ใหนๆก็ซื้อแล้วจะได้ไม่ตกรุ่น
หรือว่าออกรถตลาดเครื่อง 1.5 ดีกว่าครับ
โจทย์ก็คือ ขับในเมืองเป็นหลัก ออก ตจว. เดือนละ 4 ครั้ง
มองถึงอนาคต และราคาขายต่อในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยครับ
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
คิดมา 2-3 วันแล้วครับ ยังไม่ได้ผลสรุปสักที
ขับในเมืองเป็นหลัก น่ะ เลือก HB
แต่มาบอกว่า ECO Car ไม่เหมาะกับทางไกล ทำไมล่ะ งั้นเลือก C Seg พวก Civic ดีกว่า
CNG ไม่สน หาเติมไม่ยากแต่คิวนาน
LPG ราคาถูกสุด เหมาะกับคุณมาก แต่ คุณไม่ชอบ
งั้นผมแนะนำซื้อรถ 2 คัน
คันแรก Prius เอาไว้ขับในเมือง
คันที่สอง Accord เอาไว้ออกตจว ครับ
แบะผมไม่แนะนำ Jazz HB เพราะคุณไม่ชอบ Eco Car คุณออกตจวบ่อย ครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
แต่ผมคงซื้อ 2 คันที่แนะนำไม่ไหวครับเงินเดือนผมไม่พอส่ง
เลือกได้คันเดียวครับ ไม่CITY1.5 ก็ Jazz HB :'(
-
ถ้าใจไปทาง Hybrid แล้วก็เลือก Jazz เลยครับ หรือรอให้มีรถเทสก่อนแล้วค่อยไปลองขับ ดูอัตราเร่ง อะไรพวกนี้น่ะครับ ผมว่าคงต่างกับตัวธรรมดาพอควรแหละครับ
ส่วนผม เลือก Prius ไปแล้ว :D
-
ออกต่างจังหวัดเดือนละ 4 ครั้ง เลือก city ไปเลยครับ
ค่าบำรุงรักษาน่าจะน้อยกว่าอยู่แล้ว
-
ถ้าจะเอามาใช้ในระยะเวลา 5 ปีและใช้ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับทาง จขกท. มอง ๆ Jazz HB อยู่ในตัวเลือก
ผมว่า จขกท. น่าจะมีคำตอบในใจแล้วนะ ว่าใ้ห้น้ำหนักไปทางไหน ระหว่าง City กับ Jazz HB
หากเป็นผม ตอบตามโจทย์ที่กำหนดมาให้ ผมคงเลือก Jazz HB แต่คงใช้ไม่ถึง 5 ปี เนื่องจากผมเกรงว่าหากหมดประกันแบตแล้ว
ราคาค่าตัวอาจจะตกแบบตะลึง หรือมีอะไรมาเซอร์ไฟซ์ในระหว่างที่ท่านใช้อยู่ ตรงนี้แหละครับทำให้น่าคิด เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นไงบ้าง
แต่ถ้าท่านเลือก City หรือ Jazz ธรรมดา น้ำมันเพียว ๆ อนาคตถ้าท่านเปิดใจ เอาไปดมแก๊สเมื่อไหร่ ใช้ยาว ๆ น่าจะคุ้มกว่า
ทั้งนี้ ผมว่าอดกลั้นไว้สักนิด แล้วหาเวลาไปลองขับดูครับ จะได้รู้ว่ารถคันไหนมันเลือกเรา ;D
-
เนื่องด้วยกระแส ไฮบริด ตอนนี้กำลังมาแรง
และผมเองก็กำลังจะออกรถ ก็เลยคิดว่าควรซื้อเป็นรถไฮบริดไปเลย ใหนๆก็ซื้อแล้วจะได้ไม่ตกรุ่น
หรือว่าออกรถตลาดเครื่อง 1.5 ดีกว่าครับ
โจทย์ก็คือ ขับในเมืองเป็นหลัก ออก ตจว. เดือนละ 4 ครั้ง
มองถึงอนาคต และราคาขายต่อในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยครับ
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
คิดมา 2-3 วันแล้วครับ ยังไม่ได้ผลสรุปสักที
ขับในเมืองเป็นหลัก น่ะ เลือก HB
แต่มาบอกว่า ECO Car ไม่เหมาะกับทางไกล ทำไมล่ะ งั้นเลือก C Seg พวก Civic ดีกว่า
CNG ไม่สน หาเติมไม่ยากแต่คิวนาน
LPG ราคาถูกสุด เหมาะกับคุณมาก แต่ คุณไม่ชอบ
งั้นผมแนะนำซื้อรถ 2 คัน
คันแรก Prius เอาไว้ขับในเมือง
คันที่สอง Accord เอาไว้ออกตจว ครับ
แบะผมไม่แนะนำ Jazz HB เพราะคุณไม่ชอบ Eco Car คุณออกตจวบ่อย ครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
แต่ผมคงซื้อ 2 คันที่แนะนำไม่ไหวครับเงินเดือนผมไม่พอส่ง
เลือกได้คันเดียวครับ ไม่CITY1.5 ก็ Jazz HB :'(
ตกลงเป็น city กับ jazz HB เหรอครับ น่าจะระบุตั้งแต่ต้น
สองตัวนี้ผมเลือก city นะ ถ้าจะเล่น HB ผมว่ารอดูซักพักใหญ่ๆ ว่าฮอนด้าเขามีระบบจัดการยังไง
แต่ที่จริงผมอยากแนะนำ jazz ธรรมดามากกว่า เพราะแต่งแล้วสวยงามมากหาตัวจับยากจริงๆ
-
ส่วนตัวผม ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ
ถึงบ้านผม จะซื้อพรีอุสมาใช้แล้วราวๆ 2 เดือนแล้ว
แต่ผมก็ยังมองว่า ไฮบริดเป็นเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลกับคำว่าความคุ้มค่าอยู่ดี
พรีอุสที่บ้าน ขับในเมือง ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 17 โลลิตร
ยอมรับว่ามันสุดยอดมากๆ ได้ขับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ออก ตจว. ได้ 18-19 โลลิตร ขับที่ 100-110 ตอนหารค่าเฉลี่ยออกมา ตกใจกันทั้งบ้าน
อย่างไรก็ตาม
ในทุกๆวันที่ผมขับ B Segment คู่ใจของผม ผมหารอัตราสิ้นเปลืองออกมาได้ 14 โลลิตร
พอหารออกมาเป็น บาท/กิโลเมตร แล้ว พรีอุสประหยัดกว่าราวๆ 0.4-0.6 บาท ต่อกิโลเมตร
ขึ้นอยู่กับสภาพของราคาน้ำมันในขณะนั้นๆ
ถามถึงความคุ้มค่า วิ่ง 5-6 แสนโล ก็ไม่คุ้มครับ เมื่อเทียบกับค่าตัวที่ต่างกับ C Segment ถึง 3-4 แสน
ยิ่งถ้าเทียบกับ B Segment เรื่องความประหยัดอย่างเดียว คงต้องวิ่งเป็นล้านกิโล ถึงจะคุ้มทุนค่าตัว
สิ่งที่ได้จากรถไฮบริด คือหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เค้าโฆษณากัน
แต่ส่วนตัวผม ราคามันดีดสูงไปมากจนเกินเอื้อมครับ
แต่
เมื่อหลายวันก่อน ผมจึงดีใจมากๆ ที่เห็นแจ๊สไฮบริดเคาะราคามาได้น่าสนใจมากๆ
ถ้าเทียบแล้ว ถ้าคุณสนใจแจ๊สไฮบริด ถึงจะเป็นไฮบริดที่ไม่ได้ดีเท่าของโตโยต้า
Mild Hybrid ของแจ๊ส ไม่ได้แทนที่ทั้งระบบ แต่ผมว่า มันก็เป็นก้าวแรกของรถไฮบริดที่เอื้อมถึง และน่าใช้มากๆครับ
-
เนื่องด้วยกระแส ไฮบริด ตอนนี้กำลังมาแรง
และผมเองก็กำลังจะออกรถ ก็เลยคิดว่าควรซื้อเป็นรถไฮบริดไปเลย ใหนๆก็ซื้อแล้วจะได้ไม่ตกรุ่น
หรือว่าออกรถตลาดเครื่อง 1.5 ดีกว่าครับ
โจทย์ก็คือ ขับในเมืองเป็นหลัก ออก ตจว. เดือนละ 4 ครั้ง
มองถึงอนาคต และราคาขายต่อในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยครับ
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
คิดมา 2-3 วันแล้วครับ ยังไม่ได้ผลสรุปสักที
ขับในเมืองเป็นหลัก น่ะ เลือก HB
แต่มาบอกว่า ECO Car ไม่เหมาะกับทางไกล ทำไมล่ะ งั้นเลือก C Seg พวก Civic ดีกว่า
CNG ไม่สน หาเติมไม่ยากแต่คิวนาน
LPG ราคาถูกสุด เหมาะกับคุณมาก แต่ คุณไม่ชอบ
งั้นผมแนะนำซื้อรถ 2 คัน
คันแรก Prius เอาไว้ขับในเมือง
คันที่สอง Accord เอาไว้ออกตจว ครับ
แบะผมไม่แนะนำ Jazz HB เพราะคุณไม่ชอบ Eco Car คุณออกตจวบ่อย ครับ
ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
แต่ผมคงซื้อ 2 คันที่แนะนำไม่ไหวครับเงินเดือนผมไม่พอส่ง
เลือกได้คันเดียวครับ ไม่CITY1.5 ก็ Jazz HB :'(
ตกลงเป็น city กับ jazz HB เหรอครับ น่าจะระบุตั้งแต่ต้น
สองตัวนี้ผมเลือก city นะ ถ้าจะเล่น HB ผมว่ารอดูซักพักใหญ่ๆ ว่าฮอนด้าเขามีระบบจัดการยังไง
แต่ที่จริงผมอยากแนะนำ jazz ธรรมดามากกว่า เพราะแต่งแล้วสวยงามมากหาตัวจับยากจริงๆ
คือ ไม่อยากระบุเพราะพี่จิมมี่ไม่ให้สร้างกระทู้ Jazz HB มากเกินไปครับ
-
สำหรับผม jazz hybrid มันเหมือนรถพ่วงของเล่น
สิ่งที่แพงขึ้นมาคือของเล่น
เพราะถ้าไม่เอา jazz hybrid ผมคงไปออกตัว city cng แทน
เพราะหลักๆของผมคือ
ประหยัดค่าเดินทาง
ต้องไม่ดัดแปลงจากโรงงาน
เอาไว้ขับในเมือง ไม่เน้นเครื่องกำลังสูง
ถ้าตามโจทย์นี้ ผมคงไม่ยกเลิกจอง city cng ไปเป็น jazz hybrid แทน
แต่เหตุผลอีกอย่าง คือ อยากได้ของเล่น อยากลองระบบ hybrid
เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่เน้นของเล่นชิ้นนี้ ไปเอา 1.5 ได้เลยครับ
-
อารมณ์เดียวกันเลย เพราะ jazz hb ตัวเดียวทำเขว มาก
-
ไม่ติดแก้ส. ก็ต้องดีเซลในรถเก๋ง. หรือไม่ก็ hybrid
ถ้าขับในเมืองเยอะ. Hybrid ดีกว่า
ถ้าขับนอกเมืองเยอะ. ดีเซล. ดีกว่าครับ
-
จัด jazz hybrid ไปเลยโลดดดดด
ที่บ้านผมก็โจทย์เดียวกับกับคุณeddy น่ะแหละ ทำไมไม่เอาไฮบริดเหตุผลเดียวกันเด๊ะครับ ต่างกันสี่ถึงห้าแสน แถมด้านหลังเก็บของได้ไม่พอด้วย อันนี้หล่ะปัญหาใหญ่ เพราะต้องไปต่างจังหวัดขนเครื่องไปส่งลูกค้าลูกค้าบ่อยๆ
รถแม่ผม camry 2.0G black interior ในเมืองดีสุด 10.1 นอกเมือง 13.5-14.2 อีกอย่างผมว่าไฮบริดเต็มเมืองมากเลย ไปไหนก็เจอ อิอิ
แต่ที่ให้เลือก jazz hybrid เพราะมันตอบโจทย์คุณครับ ทั้งราคา ความคุ้มค่า ความสะดวกสบาย ถึงอัตราเร่งมันจะสู้ 1.5 ลิตร ไม่ได้ก็เถอะ แต่สำหรับผมๆว่ามันคุ้มค่าครับ
-
สิ่งที่ตัดออกไปได้เลยก็คือ
Eco car ก็ไม่เหมาะกับผมเพราะเดินทางไกลบ่อย
ส่วน CNG ผมไม่สนเพราะหาที่เติมยากและไม่มีเวลาไม่ต่อคิว
และ LPG ผมก็ไม่วางใจเรื่องความปลอดภัย โอเคว่ามีคนติดกันทั้งเมืองแต่ผมก็เสียวอยู่ดี
เอาแค่ข้อพวกนี้ก็ต้องไป Jazz Hybrid. แล้วล่ะครับ ไม่ชอบติดแก๊ส
เพราะระยะยาว ยังไงๆ ก็ต้องพึ่งน้ำมัน และราคาน้ำมันมีแต่จะสูงขึ้นๆ
คุ้มไหม๊ ผมว่าคุ้มนะ เพราะได้แรงบิดเพิ่มขึ้นจากระบบไฟฟ้า และได้ความประหยัดควบคู่
อีก 5 ปีลุ้นเรื่องแบ็ต ซึ่ง Honda คงไม่ฆ่าตัวตายขายแบ็ตแพงเว่อร์แน่ๆ ราคารถเท่านี้คงขายแบ็ตไม่แพง
แต่ถ้าติดแก๊ส รถ 1.5 คุ้มกว่าด้วยราคาที่ต่ำกว่าเป็นแสน
-
city เถอะครับ จัดตัวท็อปไปเลย ก็ยังถูกกว่าอยู่ดี ใช้5 ปีขายต่อก็ยังได้ราคา
แจ๊ซไฮบริดถามว่าใครจะอยากได้รถที่เซลล์แบตฯจะไปเมือ่ไรก็ไม่รู้
-
สำหรับผม jazz hybrid มันเหมือนรถพ่วงของเล่น
สิ่งที่แพงขึ้นมาคือของเล่น
เพราะถ้าไม่เอา jazz hybrid ผมคงไปออกตัว city cng แทน
เพราะหลักๆของผมคือ
ประหยัดค่าเดินทาง
ต้องไม่ดัดแปลงจากโรงงาน
เอาไว้ขับในเมือง ไม่เน้นเครื่องกำลังสูง
ถ้าตามโจทย์นี้ ผมคงไม่ยกเลิกจอง city cng ไปเป็น jazz hybrid แทน
แต่เหตุผลอีกอย่าง คือ อยากได้ของเล่น อยากลองระบบ hybrid
เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่เน้นของเล่นชิ้นนี้ ไปเอา 1.5 ได้เลยครับ
ตอนนี้รับจองตัว CITY CNG แล้วเหรอครับ
แล้วรับรถเมื่อไหร่เหรอครับ ?
-
city เถอะครับ จัดตัวท็อปไปเลย ก็ยังถูกกว่าอยู่ดี ใช้5 ปีขายต่อก็ยังได้ราคา
แจ๊ซไฮบริดถามว่าใครจะอยากได้รถที่เซลล์แบตฯจะไปเมือ่ไรก็ไม่รู้
ตัวท็อปคงไม่ไหวครับ ส่งเท่า CIVIC ตัวล่างเลย
-
ตอนนี้ผมกลับมาหา CITY เหมือนเดิมแล้วครับ
เพราะไปถามที่ศูนย์มา 2 ที่ เชลล์พูดเหมือนกันเลย คือได้รถเดือน พฤศจิกายน จบ.....
แล้วก็ไปทดลองนั่งเบาะหลังแล้ว Jazz ให้ความรู้สึกสบายสู้ CITY ไม่ได้
-
สำหรับผม jazz hybrid มันเหมือนรถพ่วงของเล่น
สิ่งที่แพงขึ้นมาคือของเล่น
เพราะถ้าไม่เอา jazz hybrid ผมคงไปออกตัว city cng แทน
เพราะหลักๆของผมคือ
ประหยัดค่าเดินทาง
ต้องไม่ดัดแปลงจากโรงงาน
เอาไว้ขับในเมือง ไม่เน้นเครื่องกำลังสูง
ถ้าตามโจทย์นี้ ผมคงไม่ยกเลิกจอง city cng ไปเป็น jazz hybrid แทน
แต่เหตุผลอีกอย่าง คือ อยากได้ของเล่น อยากลองระบบ hybrid
เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่เน้นของเล่นชิ้นนี้ ไปเอา 1.5 ได้เลยครับ
ตอนนี้รับจองตัว CITY CNG แล้วเหรอครับ
แล้วรับรถเมื่อไหร่เหรอครับ ?
ผมจองตั้งแต่เดือนที่แล้วครับ แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลยนะ
ราคาก็คิดว่าไม่เกินเจ้า jazz hybrid
ของแถมก็ยังไม่ได้คุย
รับรถเท่าที่คิดไม่น่าเกินปลายปีครับ (ตอนที่ผมจองนะ ตอนนี้ไม่รู้ครับ)
-
ผมว่าต้องดูก่อนเลยวิ่งเยอะแค่ไหน กี่แสนกิโลถึงจะคุ้มค่าส่วนต่างของรถ ถ้ารวมค่าดูแลรักษาที่เพิ่มขึ้นจากระบบไฮบริดด้วยยิ่งต้องวิ่งเยอะเข้าไปอีกครับ ส่วนตัวผมวิ่งน้อยคิดคร่าว ๆ มาวิ่ง 8 ปียังไม่คุ้มเลยที่จะซื้อไฮบริด (คิดเผื่อน้ำมันราคาขึ้นทุกปีแล้วด้วย)
-
อยากให้มองออพชั่นภายในด้วยนะครับ ผมว่าจัดเต็มกว่าตัวท็อป 1.5 ซะอีก
และถ้าอยากแรง Jazz hybrid เวลาต้องการกำลัง เครื่องยนต์ กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน ก็แรงได้
ถ้ากลัวเปลืองน้ำมัน ก็ติด LPG ครับ จบ อิอิ
-
ผมเคยคำนวณเคมรี่ไฮบริด กับตัวธรรมดา ไฮบริดต้องวิ่ง500,000โลถึงจะคุ้มค่าตัวที่ต่างขึ้นมา
แต่สำหรับแจ็สค่าตัวมันต่างไม่มากน่าจะถึงจุดคุ้มทุนไวกว่า
-
camry hybrid ไม่ใช่รถที่คุ้มค่าถ้านับเรื่องเติมน้ำมันเลยครับ
ที่ผมซื้อให้พ่อแม่ปีก่อน เพราะเรื่องอัตราเร่ง และระบบความปลอดภัยล้วนๆ
ค่าน้ำมันให้เค้าเติมเอง ส่วนค่าบำรุงรักษาผมเป็นคนออก ;D แค่นี้เค้าก็ happy แล้วครับ
ส่วน Jazz Hybrid ยังใหม่อยู่สำหรับไทย ไม่รู้ระบบจัดการอะไหล่จะเป็นยังไง
ไม่รู้ว่าสมรรถนะการขับขี่เป็นยังไงเมื่อเทียฟบกับตัวสันดาป
สำหรับผมเคยมีรถ hybrid แล้ว คันต่อไป คงไม่แล้วครับ
เพราะการบำรุงรักษาระยะยาว ยังไงก็ต้องแพงกว่ารถธรรมดาอยู่ดี
-
ผมว่าใจเย็นก่อนไหมครับ หากไม่รีบรอดู ข้อดีข้อเสีย ของรถแต่ละรุ่นที่เล็งไว้ก่อน ตอนนี้รถใหม่ๆ พยายามออกมาให้ทัน คืนภาษีรถคันแรก ยังไงถ้ามองว่าจะใช้รถยาวๆ 4-5 ปี ก็ รอดู ทางหนีทีไล่ก่อน ลองอ่านดูใน เวปบอร์ดนี้เห็น ปัญหารถใหม่ออกมาเยอะเหมือนกัน รับคันไหนได้ก็ซื้อคันนั้น ไม่ว่ารถอะไรก็ต้องเติมน้ำมันเหมือนกันครับ ;D
-
รถไฮบริด ในฐานนะผมซึ่งมีจอดอยู่ที่บ้านนะครับ
ถ้าชอบขับรถทำธุรกรรมที่นั่น ที่นี่ วันนึงแทบจะรอบกรุงเทพได้แล้ว
Hybrid คือคำตอบเลยครับ
ไม่ว่าจะ JazzHB Prius CamryHB CT200h ก็ตาม
แต่ถ้าคุณเป็น "จิ๊กโก๋กิโลเดียว" แบบพ่อผม
ยกตัวอย่างคนประเภทนี้
1. ตั้งแต่เกิดมา ได้ที่ทำงานใกล้บ้านตลอด
2. บ้านกับที่ทำงานระยะทางรวม ไป-กลับ ไม่ถึง 20 กิโลเมตร
3. ขับวนทำธุระอยู่แค่ในท้องที่ที่ตัวเองอาศัยอยู่
4. ความเร็วเฉลี่ยตลอดการขับขี่ 30-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง
บอกตามตรงว่า ไม่คุ้ม ครับ เพราะแทบไม่ได้ชาร์จไฟเลย
เครื่องยนต์ทำงาน 2 ใน 3 ของการขับขี่เกือบทั้งทริป
ตีเป็นเลขกลมๆ ที่ 16-17 กิโลเมตร/ลิตร เอง
จากที่หลายๆคน ใช้กันในเมือง ได้ตัวเลข 19-20 กัน
ตรงกันข้าม เมื่อวานผมเอารถไปโชคชัย 4 เพื่อล้างรถที่คาร์แคร์แห่งหนึ่ง
ระยะทางไกลขึ้น ตลอดทั้งทริบ ใช้น้ำมันไปไม่ถึง 1 ใน 3 ของทั้งทริป เพราะมันมีไฟเข้าแบตตลอด
พอเข้าช่วงคลานต่ำๆ ในบางพื้นที่ มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานอย่างเดียว
น้ำมันไม่เสียซักหยด ไปเสียเยอะหน่อยก็แค่ตอนเร่งแซงชาวบ้านชาวช่องเขา
-
รักโลก > Hybrid
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่ที่แน่ๆ น้ำมันและพลังงานฟอสซิลกำลังหมด
ถ้าสามารถเลือกพลังงานทางเลือกได้ ก็น่าจะดี
ผมรวมถึง E100 ด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าจะมีผลต่อการเกษตรมากแค่ไหน