Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: eirene ที่ สิงหาคม 05, 2012, 21:47:14
-
เนื่องจากตัวผมมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง เป็นคนออกแนวบ้านนอกหน่อยๆ เพราะเกิดและเรียนอยู่ต่างจังหวัด ชีวิตในวัยเด็กของน้องคนนี้ก็เรียนไป ปักเบ็ดและรับจ้างทำนาทำสวน ส่งตัวเองเรียน เมื่อต้นปีมานี้ผู้ที่ช่วยส่งเสียเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ตัวผมเองก็ยินดีให้น้องเขาขึ้นมา กทม. และส่งเสียเลี้ยงดูหวังจะให้จบมหาวิทยาลัย และลงทุนเงินให้น้องเขาเปิดกิจการร้านเสื้อผ้าเล็กๆ มีรายได้ 2หมื่นต้นๆ จนปัจจุบันเรียนมหาวิทยาลัยได้ปี3 เจ้าตัวเริ่มอยากจะมีรถขับ
ตอนนี้น้องเขาก็มีเงินเก็บที่พอจะดาวน์รถได้ประมาณ 2แสนกว่าบาท มีรายได้ประมาณ 2หมื่นกว่าๆ อายุน้องเขา 22 ปีบริบูรณ์
ตัวผมเองเชียร์ให้ซื้อ Honda City ตัวใหม่ไว้ใช้ แต่ปัญหาคือ เขาเป็นคนติดเรื่องความคิดแบบคนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถนัก อยากได้รถเฉพาะรุ่น BMW หรือ Benz เท่านั้น !!
จึงอยากสอบถามทุกท่านช่วยให้ความเห็นหน่อยนะครับ เนื่องจากตัวผมเองไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับรถ 2 รุ่นนี้นัก ขอถามว่า BMW และ Benz 2รุ่นนี้ สำหรับมือ2 ในราคาไม่เกิน 6-8 แสน มีตัวไหนน่าสนบ้างครับ ขอภายนอกและภายในสวยๆ เรื่องน้ำมันไม่ใช่ประเด็น ขับออกต่างจังหวัดสบายๆ ปีอะไรก็ได้ รบกวนหน่อยนะครับ
-
e46 แต่ตัวไหน รอผู้รู้อีกทีคับ
-
จะเล่นพวกนี้มือ 2 หรอครับ มีเงินเก็บอันน้อยนิด แล้วมั่นใจในเรื่องค่าบำรุงรักษาไหมล่ะนั่น ผมเกรงจะไม่เหลือเก็บในแต่ละเดือนเลยนะครับ
แต่ถ้ามีใจอยากได้จริง ผมแนะนำไปดูพวก BMW E36 ก็พอแล้วครับ ยิ่งพวกที่เปลี่ยนเครื่อง ลงแก๊ส น่าจะคุ้มกว่าเครื่องเก่า
ส่วนเรื่องช่วงล่างซ่อมทั่วไป ไม่ถือว่าหนักเท่าไหร่ ยกเว้นเจอแจ๊คพอร์ต อะไหล่บางส่วนอาจจะแพง แต่น่าจะัรับไหว
ส่วนเรื่องค่าตัวก็ไม่ได้แพงอะไรมากครับ อยู่ในระหว่าง 3.3 - 4 แสน ประมาณนี้ หรืออยากเอาแค่ E34 ก็น่าจะเอาอยู่แล้วครับ ค่าตัวถูกกว่าพอสมควร ;D
-
e46 แต่ตัวไหน รอผู้รู้อีกทีคับ
ระวังแจ๊คพอร์ตนะครับ ผมเจอมาเป็นแสนแล้วกับเจ้า E46 ;D
-
ขอโทษนะคับพี่ ผมอาจจะตอบแรงนิดนึงแต่ขอให้คิดดูนะครับ
มีเงินดาวน์แค่สองแสนกว่าๆ ดอกเบี้ยรถมือสอง+vat แพงมากนะคับ
รายได้แค่สองหมื่นนิดหน่อย แถมไม่แน่นอนด้วยย พูดตรงๆนะคับ
อาจจะไม่พอใช้เลยด้วยซ้ำคับ รถมือสองยังไงก็ต้องซ่อม แถมเปนรถยุโรปด้วยย
ไม่เหมาะคับยิ่งไม่มีความรู้เรื่องรถมากนักอีกด้วยย แนะนำเลี่ยงคับ
ถ้าเปนผมซื้อป้ายแดง ได้คืนภาษีด้วย ผ่อนไปดอกเบี้ยถูก ไม่ต้องซ่อมมอยู่ดีกว่าคับ
ส่วนถ้าจะเอาแบบนั้นจิงๆงบเท่านี้ผมจิ้มไปที่ 190E คับน่าจะเจ็บน้อยสุดไม่ต้องผ่อนด้วยยแต่รถเก่าหน่อย
ถ้าบีเอ็มก็ e30 คับ ลองคิดดูดีๆ
-
รายได้เดือนละ 2 หมื่นกว่า แล้วจะซื้อรถ ก็ถือว่า หนักข้ออยู่นะครับเนี่ย ยิ่งถ้าไม่มี พ่อ แม่ Support
E46 ผมมองว่ามันแพงไปหน่อยครับ ไหนจะค่าซ่อมอีก ผมใช้ E39 ก็รู้อยู่ว่า ถ้าได้รถสภาพไม่ดีมา ต้องซ่อมอีกประมาน 100,000 บาท +- ค่า Maintainance หลังจากที่รถสมบูรณ์แล้ว ปีละ 20,000 บาท ++++
จริงๆแล้ว ถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถ แล้วรายได้ขนาดนี้ ส่วนตัวผมขอแนะนำว่า พวกเครื่อง 1.5 ป้ายแดง น่าจะเหมาะกว่า เอาไว้มีเงินมากกว่านี้ ธุรกิจโตกว่านี้ ค่อยซื้อเพิ่ม หรือ เปลี่ยนรถ ก็ไม่สาย
แต่ในเมื่อกำหนดว่า ต้องเป็น Benz BMW เท่านั้น ก็คงจะมี W124 ตัวท้ายๆ สักปี 94-96 ครับ พยายามหาสภาพดีๆ อย่างน้อยที่สุด ขอให้ได้รุ่นที่ E อยู่ด้านซ้ายของตัวเลขไว้ก่อน
เพราะรุ่นนี้ ใช้ทน ไม่จุกจิก ซ่อมไม่น่าแพงมาก อะไหล่หาง่าย เพราะคนใช้เยอะมาก ช่วงล่างดีพอตัว ภาพลักษณ์ก็ถือว่าใช้ได้
-
W124 ตัวEหน้าคับ หาสภาพดีๆหรือถ้าซื้อมาแลัวซ่อมไม่จบก็วาง2jzไปเลยคับ
-
E46 ใช้รถเก่า ค่าเสือมมันก็สูงหน่อยครับ แต่เข้าอู่นอกก็อาจจะช่วยได้บ้าง(พยายามเข้าอู่ที่รับซ่อมแต่BMWและBenzหรืออย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ ไม่งั้นอาจจะซ่อมไม่ดีเท่าที่มันควรจะเป็น) เข้าศูนย์เช็คระยะเตรียมไว้เลย5,000+/-
ถ้ามีงบพอแค่ซื้อรถอย่างเดียวผมว่าไปดูรถญี่ปุ่นมือ1 หรือไม่ก็รุ่นที่เก่ากว่านี้อีกสักนิด แล้วเผื่อเงินไว้ซ่อมบ้างก็ดีครับ
แต่ถ้ามีสำรองนอกเหนือจากราคารถสัก100,000 ก็หายห่วงครับ ซื้อมาก็เช็คสภาพดีๆ อันไหนเสื่อมก็เปลี่ยนเลยจะได้ไม่จุกจิกในภายหลัง
เรื่องค่าน้ำมัน รถเก่าย่อมกินน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดา เฉลี่ยอยู่ที่9-12 กิโลลิตรครับ
สุดท้ายนี้รถยุโรปต้องการการดูแลที่ดีจากผู้ใช้ หากไม่มีความรู้เรื่องรถเลย แค่อยากจะขับbmw/benz รถก็จะยิ่งเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้นครับ
แต่ถ้าผมมีงบเท่านั้น มีรายได้เท่านั้น ผมคงเอาCity แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถมากนักก็เก็บเงินไปก่อนไปดาวน์รถราคา800,000-1,300,000 เลยดีกว่าครับ
ปล. ขายของน่าจะใช้กระบะหรือSUV มากกว่านะครับ จะได้สะดวกเวลาไปซื้อของ/ขนของ/ส่งของ ;)
-
อ่านรายละเอียดในหัวกระทู้ถึงรายได้แล้วเกือบกด ปิดกระทู้ไป
อยากบอกว่าผมเงินเดือนสองแสนยังไม่คิดจะขับรถยุโรป เก่าๆอย่างนี้เลยครับ
อย่าไปยึดติดกับหน้าตา จงแสวงหาความภูมิใจในตัวเองครับ
-
เบื้องต้นผมก็พยายามเชียร์ให้ตัวน้องเขาเอนเอียงไปทางค่ายญี่ปุ่นมากพอสมควรครับ แต่เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
เพราะตัวผมเองก็ใช้แค่ Accord ปี08 เอง และไม่เคยมองไปที่ 2 รุ่นนี้เลย เพราะเมื่อก่อนผมเห็นพ่อผมเจ็บกะค่าย BMW มาค่อนข้างเยอะ (ซื้อ E46 มือ2มา หมดค่าซ่อมเกือบๆ 3แสน)
ก็คงได้แค่รวบรวมข้อมูลของ 2 รุ่นนี้ที่ทุกท่านเสนอมาให้มากที่สุด และเสนอน้องเขาไป ถ้าโชคดีเขาก็คงได้รถดีๆ โชคร้ายก็ให้เขาได้เจ็บสักครั้งเพื่อเป็นประสบการณ์ชีวิตสำหรับรถคันแรกของเขาครับ
เรื่อง SUV กับกระบะน้องเขาคงไม่เอาครับ เพราะผมให้น้องเขายืมใช้กระบะในการขนของเบื้องต้นอยู่
ตอนนี้ก็ได้ข้อมูลจากทุกท่านมาพอสมควรครับ มีท่านใดอยากเสนอแนะเพิ่มเติมแจ้งได้เลยครับ เพราะผมเองก็ต้องการข้อมูลที่มากๆไว้ก่อนครับ
-
W124 ถ้าได้สภาพดีก็ดีครับ
W202 พอๆ กัน แต่ดูวัยรุ่นกว่าหน่อย
E36 ผมไม่เคยสัมผัสเลย แต่ก็ดูจะน่าสนใจดี ส่วนรุ่นใหม่กว่านี้ยังแพงอยู่ครับ
-
190E ติดแก๊ส
E36 วางเจ ติดแก๊ส
2 รุ่นนี้น่าจะพอผ่อนได้จนตลอดรอดฝั่ง
บางอย่างก็ต้องให้ลอง ให้เห็นเองครับ
-
190E ติดแก๊ส
E36 วางเจ ติดแก๊ส
2 รุ่นนี้น่าจะพอผ่อนได้จนตลอดรอดฝั่ง
บางอย่างก็ต้องให้ลอง ให้เห็นเองครับ
เห็นด้วย E36 วัยรุ่นน่าจะยังชอบสองแสนก่าน่าจะอยู่ ของงี้ต้องเจอเอง
-
ให้เขาคิดเองครับ บางทีคนเราก็ต้องการบทเรียน
-
Benz W124 ขึ้นชื่อว่า เป็น Benz มือสอง(สาม-สี่-ห้า) ที่น่าใช้มากที่สุดครับ
เพราะอะไร ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเอง...มันเยอะครับ
แนะนำ เป็น E220 (4 สูบ 150 ม้า) ครับ ค่าใช้จ่ายต่อปี ถูกมาก
ถ้าอยากแรงก็ E280 (6 สูบ 197 ม้า) ครับ ค่าใช้จ่ายต่อปี จะแพงมากขึ้นเกือบ 2 เท่า
ถ้าเจอคันสถาพดีๆ(ย้ำ) ถ้าได้ลองขับแล้ว จะไม่อยากกลับไปขับป้ายแดงคันละล้าน เลยเชียวนะ
ต้องพิสูจน์เองว่า รถคันละเกือบ 3 ล้านในยุคนั้น มีดีอะไร
-
E190 ครับ แบบนี้ต้อง baby benzzzzzzz น่ารักขับเกาะ ไม่มีแรงแซงลำบาก แอร์แล้วแต่ดวง แต่ยังพอเท่ห์อยู่บ้าง ขับๆบนถนนนี่ รับรองแซง eco car ไม่พ้น :D ราคาน่าจะ 300000 ประมาณ ครับ
ปล. ถ้าน้องเค้าได้รถตอนนี้ สมาธิน้องเค้าน่าจะไหวหรือเปล่าครับ จะเรียน จะสร้างเนื้อสร้างตัว สมาธิมันจะไปลงรถหมด ตามฮอร์โมน ยิ่งยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ;D ขอโทษนะครับ ถ้าขัดใจ
-
เอ่อทำไมถึงอยากได้รถยุโรปเก่าๆ หละครับ
ความจริงยังเรียนอยู่ และค้าขายเพื่อสร้างตัวอย่างนี้ Eco car ดูจะสมเหตุสมผลกว่า
บางทีน้องเขาอาจได้ข้อมูลมาผิดๆ ว่ารถค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่นไม่ดี ซึ่งจริงๆ มันก็โอนะครับ
หรืออาจจะได้ภาพลักษณ์ เซเลบหลายคนเขาก็ขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ มันน่าจะเหมาะกับการจราจรใน กทม
-
เพื่อนผมใช้ e36 ตัวไฟที่หน้าปัดมันเสีย ผมจำไม่ได้ว่าอะไร แต่ค่าซ่อมแพงมาก เพื่อนผมขายทิ้งเลยครับ ส่วนลุงผมท่านก็เคยใช้ bmw คันเดียวในชีวิตแล้วก็เลิกเลยครับ หันไปคบ benz กับ volvo แทนครับ ผมเข้าใจอารมน้องคุณนะครับ ผมก็เคยเป็นถ้าอยากได้ก็จะเอาให้ได้ ต่อให้วันนี้น้องคุณไปซื้อรถญี่ปุ่นมือหนึ่งมา สุดท้ายยังไงก็ต้องกลับไปเอา bmw,benz เหมือนเดิม ก็ปล่อยให้ลองดูด้วยตัวเองแล้วกันครับ แต่แนะนำถ้าจะเอารถราคาประมาณนี้ เอา w124 เถอะครับยังไงก็ทนกว่าเยอะครับ จากประสบการณ์ตรงเลยครับ
-
อืมมมม
ตอนที่ผมยังรายได้เท่านี้ การที่ผมจะซื้อรถญี่ปุ่นด้วยตัวเองซักคันนึง
ผมยังคิดแล้วคิดอีกเลยครับ ดังนั้น การที่มีรายได้เท่านี้ กับรถยุโรป
ไม่ว่าจะเก่ารึใหม่ ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่เหมาะสมอยู่ดีครับ
เอาเงินส่วนตัวที่ต้องเตรียม ซ่อมบำรุงรถยุโรปนั้น ไปทำอะไรได้ตั้งมากมายนะครับ
ค่อยๆเริ่มคับ ใจเย็นๆ ยังไงๆ เราต้องไปใช้แหละคับ
-
(http://testdrayv.com/uploads/taginator/Jul-2012/w-124-coupe.jpg)
เป็นผม คงเล่น W124 Coupe พอ งบเท่านี้ซ่อมบำรุงได้สบาย หากพื้นฐานเปลี่ยน นิดๆหน่อยเป็นบ้าง
ถ้าชอบ BMW คงมองไปที่ E34 และจบแค่ตรงนั้น
-
e36 ปีใหม่ๆครับ เครื่องเดิมหรือวางเจ ติดแก๊สทั้งคู่น่าจะใช้ยาวๆ
-
ถ้าจะต้องเป็น Benz หรือ BMW เท่านั้น .... คงเป็น Benz W124 หรือ BMW E36/E34 ละกันครับ
อะไหล่ถูก หาง่ายมากๆๆ ซ่อมทีอยู่ยาว สมัยนี้ถ้ารู้แหล่ง เข้าคลับ/ชมรม ของรถรุ่นนั้นๆ ก็ใช้รถยุโรปเก่าๆได้ไม่เหนื่อยมากแล้วครับ
แต่ก็ต้องหารถที่เจ้าของดูแลมาดีๆ เปลี่ยนอะไหล่ตามอายุใช้งานมาสม่ำเสมอนะครับ
ไม่งั้นมาถึงเราก็มักจะเจอ "ชุดใหญ่" ที่ทำให้ทุกคนพูดกันปากต่อปากว่า "ซ่อมกันหมดเป็นแสน"
(จริงๆสมัยนี้ถ้าจ่ายเป็นแสนนี่เราได้หัวตัดแทบจะครบทั้งคันเลยนะครับ)
ทั้งหมดจากประสบการณ์ที่ใช้ E34 เพื่อนๆใช้ E36 และ W124 ค่าดูแลไม่ได้ต่างจากรถญี่ปุ่น D Segment เท่าไหร่
(เพียงแต่มันจะมีอะไรเสียมาเมื่อไหร่ ไม่ค่อยจะรู้ล่วงหน้า ...มีความเสี่ยงกันข้าวลิงสูงหน่อย หากไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถรุ่นนันๆมากพอ )
แต่ต้องเข้าอู่นอกนะครับ ถ้าเข้าศูนย์ก็ตัวใครตัวมัน ;D
-
w124 ง่ายสุดครับ แต่ต้องหารถที่ทำจบแล้วเท่านั้น ไม่งั้นกว่าเราจะทำจบ เงินค่าผ่อนกับค่าซ่อมมารุมน้องเค้าตายแน่ มันจะกลายเป็นซื้อรถมานอนอู่ไม่ได้ขับครับ
รักที่จะขับรถมือสอง แนะนำหาความรู้เรื่องรถ และ เข้าใจในเครื่องยนต์กลไกครับ ไม่งั้นช่างบอกตรงนั้นเสียตรงนี้เสียคุณก็ต้องทำตามที่เค้าสั่งมา
-
MB ในงบราวๆ 2-3 แสน คงได้แต่ 190E หรือ 230E, 300E ซึงสำหรับผมมันไม่น่าสนใจนะครับ
ถ้าจะเล่น MB ผมเชียร์ E220 ,E280 W124 หรือ C220 W202 ครับ
ราคาจะอยู่แถวๆ 4 แสน ++
เตรียมเงินไว้บูรณะ + ติดแก๊ส สักแสนนึง น่าจะพอไหว
นั่นหมายความว่า ค่ารถ + ค่าบูรณะ จะวิ่งไปแถวๆ 5 แสน - 6 แสน
ซึ่งด้วยเงินเดือน 2 หมื่น กว่าบาท มันจะเหนื่อยมากเลยนะครับ เพราะรถเก่า ยังไงก็ต้องซ่อมบ้างแน่ๆ
ลองเข้าไปหาข้อมูลใน Benzowner.net หรือ clubcclass.com ดูก่อนก็ได้ครับ
ส่วน BM ในงบแถวนั้น คงได้ E36 กับ E34 ซึ่งงบที่ต้องเตรียมไว้บูรณะ + ติดแก๊ส ก็แถวๆแสนเช่นกัน
-
อ่านเนื้อเรื่อง เหมือนจะเป็นคนฐานะไม่ดีมาก่อนด้วยซ้ำ หรือผมอ่านแล้วเข้าใจผิดหว่า แต่พอมาถึงตอนเลือกรถ ไม่เอารถญี่ปุ่น ต้องยุโรป แปลกดีครับ มันขัดๆกันยังไงไม่รู้นะเนี่ย :-\
เรื่องรถ ถ้าเป็นผมคงมองพวก vios city นี่ก็เต็มเหยียดแล้วกับรายได้แค่2หมื่นกว่า ถ้าจะเอาพวก almera march ก็น่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ ส่วน รถยุโรป แม้จะเป็นมือ2นี่ก็เลิกคิดเลย เพราะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเอย สายพาน นู่นนี่ มันแพงกว่ากันพอสมควรเลยนะ เอาแค่โช้ค4ตัว แบบเดิมๆ เงินเดือนที่ว่ายังแทบไม่พอ แต่ถ้าเป็น vios แค่ไม่กี่พันเอง
แต่ถ้าน้องมันดื้อก็ปล่อยมันลองดูครับ แล้วจะรู้ว่า เดือนชนเดือน คืออะไร นั่นคือประสบการณ์ชีวิตของน้องมันอย่างนึง
-
เหตุผลที่ไม่อยากให้เล่นรถยุโรปมือสองถ้าเรื่องการเงินยังไม่อำนวยนักก็ตามพี่่ข้างบนบอกครับ
แต่ถ้าอยากได้จริงๆแบบว่าอยากได้มากผมแนะนำ W124 ครับ
(http://tuningcars.us/albums/userpics/10001/mercedes-w124-tuning_28229.jpg)
-
หากเตือนแล้วเขายังรั้นจะเอารถยุโรปมือสองอยู่ก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเองเถอะครับ ถ้าได้รถสภาพดีมีปัญหาน้อยก็โชคดีไปครับ แต่ถ้าโชคร้ายเจอคันที่จุกจิกๆมากๆก็แย่หน่อยครับ ผมเคยถามราคาโอเวอร์ฮอนล์ที่ศูนย์ครับ ราคาสูงถึง6หลักเลยทีเดียว
อะไหล่ที่ถูกที่สุดที่เคยซื้อจากbmwมาก็คือ น้ำยาฉีดล้างกระจกครับ 100 บาท ;D
ให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเองครับว่า ถึงแม้จะเป็นรถยุโรปขับแล้วดูเท่ สาวกรี๊ด แต่ถ้าขาดการบำรุงมันก็ไม่ทนอย่างที่คิดหรอกครับ เผื่อครั้งนี้เขาตัดสินใจผิดพลาดไปคราวหน้าเขาจะได้ฟังเรามากขึ้น ;)
-
รถยุโรปที่ราคาขนาดนี้ย่อมจะต้องเป็นรุ่นที่เก่าและต้องการค่าบำรุงรักษามากเป็นธรรมดา ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วจบเรื่องเหมือนรถใหม่เสียเมื่อไหร่ สิ่งที่เค้าต้องการไม่ใช่คำปรึกษาเรื่องรถแต่เป็นคำแนะนำในการใช้ชีวิตครับ เรียนตามตรงว่าการฟุ้งเฟ้อไม่ดูตัวเองแบบนี้ไม่มีวันเลยที่จะรวยขึ้นมาได้เพราะมีเงินเท่าไรห่ก็จะเอาไปลงกับของนอกกายอยู่ร่ำไป อย่าไปมองดูแต่คนที่สูงกว่าแต่ต้องมองดูคนที่ต่ำต้อยกว่าด้วย
-
รถยุโรปที่ราคาขนาดนี้ย่อมจะต้องเป็นรุ่นที่เก่าและต้องการค่าบำรุงรักษามากเป็นธรรมดา ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วจบเรื่องเหมือนรถใหม่เสียเมื่อไหร่ สิ่งที่เค้าต้องการไม่ใช่คำปรึกษาเรื่องรถแต่เป็นคำแนะนำในการใช้ชีวิตครับ เรียนตามตรงว่าการฟุ้งเฟ้อไม่ดูตัวเองแบบนี้ไม่มีวันเลยที่จะรวยขึ้นมาได้เพราะมีเงินเท่าไรห่ก็จะเอาไปลงกับของนอกกายอยู่ร่ำไป อย่าไปมองดูแต่คนที่สูงกว่าแต่ต้องมองดูคนที่ต่ำต้อยกว่าด้วย
ชอบมากครับ เห็นด้วยอย่างแรง
อยากให้เค้าเข้ามาอ่านเองจัง
เผื่อจะได้ไม่ต้องเจอประสบการณ์ตรงให้เจ็บตัวเอง
-
ขอพูดตรงๆ นะครับ รายได้ขนาดนี้ แล้วเพิ่งจบใหม่แสดงว่าอาชีพยังไม่มั่นคงด้วย จริงๆ City ผมยังไม่กล้าเชียร์เลยครับ ผมเชียร์ไปหา Eco Car ด้วยซ้ำไป ถ้าซื้อรถยุโรปมือสอง ผมกลัวว่าจะเจอค่าใช้จ่าย เรื่องการดูแลรักษา จนไม่มีความสุขไปน่ะสิครับ ผมว่าให้เขาลองคำนวนเงินผ่อน กับเงินเก็บดู แล้วก็คำนวนเลยว่า รถยุโรปพวกนี้ ค่าซ่อมปีนึงไม่ต่ำกว่าสองหมื่นอยู่แล้ว ถ้าไหว ผมว่า W124 ก็พอถูไถครับ
แต่รายได้เท่านี้ ผมว่า Eco Car หรือ B-Segment จบกว่าครับ ถ้าจะเล่น W124 น่าจะมีรายได้ต่อเดือนสัก 4-5 หมื่น ยังพอไปต่อได้
-
อย่าเลยครับ ใครว่า benz ซ่อมถูก รถทน ช่างเขา ผมไม่เห็นแบบนั้นเลย ขนาดไปร้านอะไหล่เอง
เสียมันได้ทุกส่วน เครื่อง m111 ก็เสียง่าย
-
ในงบที่จขกท.บอกมา ผมว่า BMW E46 ดูดีสุดแล้วครับ ไม่ดูแก่เหมือน MB ในยุคนั้น และไม่ดูเก่ามากจนตกยุค อะไหล่หาง่าย อู่นอกซ่อมจบได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งศูนย์
แต่อยากจะเตือนเหมือนท่านอื่นๆครับว่า แค่ผ่อนก็เหนื่อยแล้วยังต้องเผื่อเงินค่าซ่อมไว้ด้วยนะครับ ซื้อมือสองมาก็เตรียมค่าซ่อมไว้อีกสักแสนนึง แถมกินน้ำมันโหดน่าดู ถ้าไม่ได้ติดแก๊สก็เตรียมค่าน้ำมันไว้ด้วย ในเมืองตกกิโลละ 5-6 บาท ไม่งั้นจะเป็นว่าซื้อมาจอดเฉยๆวิ่งไม่ได้เพราะรถเสียหรือไม่มีตังค์เติมน้ำมัน :(
ที่บ้านผมก็มี E46 323i อยู่ครับ ขนาดซื้อตั้งแต่ยังป้ายแดง วิ่งน้อยและใช้ถนอมมากๆ แต่ก็ซ่อมหมดไปร่วมแสนแล้ว (นี่เข้าอู่นอกนะครับ ถ้าเข้าศูนย์แพงกว่านี้เยอะ) รถรุ่นนี้ระบบไฟจุกจิกมาก ซ่อมให้ดีและจบได้แต่ต้องใช้ความรู้และการหมั่นดูแลบ้างเหมือนกัน คงไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถครับ แต่ถ้าซ่อมจบแล้วขับสบายใจ กำลังรถดี ช่วงล่างดี ของแต่งสวยๆเยอะแยะ
สรุปคือ ผมว่าบอกน้องเค้าไปว่าออกรถ eco car เถอะครับ มีเงินเมื่อไหร่ค่อยซื้อรถยุโรปก็ได้ ;)
-
เบื้องต้นผมให้น้องเขาเข้ามาอ่านทุกประโยค ทุกความเห็นจากทุกท่านเรียบร้อยแล้วครับ
ใจเขาก็เริ่มเขวเข้าหาค่ายญี่ปุ่นบ้างแล้วครับในตอนนี้
-
w124 จะซื้อต้องมีความรู้หน่อยนะครับ รถแปลง อี หลัง มา อี หน้า เยอะ ที่บ้านใช้มา 15 ปีแล้วครับ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ต้องบอกว่ามีซ่อมจุกจิกมาเรื่อยๆ ครับ แม้ว่าราคาอะไหล่มันจะไม่แพงเมื่อเทียบกับ Benz รุ่นใหม่ๆ ก็ตาม อยากจบต้องมีเงิน เก็บทั้งคันหน่อยแล้วมันจะเป็นรถที่ดีมากคันนึง
-
190E เงินสดเลยคับ ;D
เป็นผมถ้าไม่พร้อม ผมจะออกรถมือสองถูกๆไปก่อน
-
ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่า การที่น้องเค้าอยากได้ BENZ,BMW(รุ่นเก่า) เค้าคงไม่ได้อยาก อวดร่ำอวดรวยอะไรหรอกนะครับ
เพียงแต่ว่า น้องเค้าคงอาจะมีความชอบส่วนตัว คิดมาแล้ว ว่าคงคุ้มค่าที่จะเป็นเจ้าของ อยากจะเริ่มหัดเล่นรถก็ไม่แปลก
หรือ การที่น้องเค้าเคยอยู่ต่างจังหวัด อาจะแล้วเห็นว่า รถทั้งสองยี่ห้อที่กล่าวมาใช้ดีใช้ทน ขับแล้วสบายใจ ปลอดภัยต่อชีวิต กว่ารถญี่ปุ่น
เวลาเดินทางกลับไป ต่างจังหวัดก็สบาย
แต่ถ้าจะเล่นรถมือสอง ฝั่งยุโรป ก็ควรที่จะ มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับรถพอสมควร หรือมีอู่ประจำ
น่าจะต้องเลือกรถที่ทำจบมาแล้ว หรือ ไม่ก็ต้องนำมาบซ่อมำรุงให้จบก่อน
เห็นว่า เปิดร้านด้วย น่าจะหารถwagon มาใช้จะได้ ขนเสื้อผ้าไปร้านได้สะดวก(ใช้ทำมาหากินได้ด้วย)
ส่วนถ้ารถเก่าหน่อยจะ วาง JZ,UZ ตามแต่ชอบเลยครับ ด้วยงบขนาดนี้ น่าจะต้องใช้รถที่บริโภค LPG น่าจะคุ้มกว่าเยอะ
รถที่ผมแนะนำ ก็ คงจะเริ่มที่ราคา เบาๆ ก่อนนะครับ
BENZ : W123 TE, W123CE , W124 , W124 TE , W202 , W210
BMW : E34 , E36 , E46(วัยรุ่นคงชอบ)
ขอให้น้องเค้าสมหวังด้วยครับ ;)