Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: honoiuiu ที่ สิงหาคม 08, 2012, 22:45:05
-
เห็นท่านนึงพูดจากกระทู้ข้างล่างผมเลยสงสัยครับแล้วถ้าเป็นเบนซินวิ่งเยอะๆละครับ?มันต่างกันยังไงฮะผมชอบดีเซลนะแต่ไม่รู้เรื่องข้อแตกต่างแบบนี้เท่าไหร่
ขออ้างอิงนะครับจาก
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,23575.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,23575.0.html)
ท่าน V221
"ใช้รถน้อยไม่คุ้มกับดีเซลเลยครับ วิ่งน้อยใช้เบนซินดีกว่าครับ"
ยิ่งเห็นเบนซินขึ้นราคาเอาๆ+กับกระทู้แบบนี้ผมยิ่งยังเลือกรถเบนซินไม่ได้เลยใจมันไปอยู่ที่เจ้านั่นTT
-
กระทู้ไหนหว่า ผมหาไม่เจอ เอิ๊ก *-*
แต่โดยหลักการแล้ว ดีเซลมีอายุการใช้งานยาวกว่าครับ
อย่างเช่น เบนซินอาจจะเฉลี่ยราวๆ 4แสนกิโล แต่ดีเซลอาจได้แถวๆ 6-7แสน (บางท่านวิ่งได้ถึงล้านกิโลก็มีครับ) ถึงจะต้อง Overhaul ครับ
แต่ยังไงก็ขึ้นอยู่กับการขับขี่และดูแลของเราเป็นสำคัญครับ
-
เขาพูดในแง่ความคุ้มค่าหรือเปล่าครับ ส่วนต่างราคาค่าตัวต่างกัน ทำให้เอามาเติมน้ำมันได้หนะครับ
-
ส่วนตัวคิดว่า เครื่องดีเซล ทนกว่าเบนซิล และจุกจิกน้อยกว่า
-
ก็เบนซินมันต้องใช้หัวเทียนในการจุดระเบิด และถ้าจะเร่งให้แรงต้องใช้ในรอบที่สูงกว่า อายุเครื่องก็สั้นกว่าครับ ดีเซลไม่ต้องใช้หัวเทียนเพราะ มันระเบิดได้เอง แรงอัดสูง ถ้าสูงมากๆลูกสูบหนาไม่พอก็อาจแตกได้ = =" แล้วก็เหยียบรอบน้อยๆก็มีแรงออกมาเยอะแล้ว เราไม่ต้องไปเค้นเครื่องมันมาก ก็เลยทนกว่า น่าจะประมาณนี้นะครับ ;)
-
dmaxปี2006 พี่ผมขับ200000โลเครื่องพังแล้ว แต่เพราะมันเป็นรุ่นที่มีปัญหา:(
-
ขอโทษที่อาจจะตอบสั้นไป มิได้ขยายความเพิ่มเติม ความหมายของผมเหมือนกับที่คุณYimmอธิบายไว้ครับว่าไม่คุ้มเพราะBenzดีเซลจะแพงกว่าเบนซินในออปชั่นเท่าๆกันหลายแสนบาททำให้เอาส่วนต่างมาเติมน้ำมันก็ยังเหลือเงินทอนในกระทู้ดังกล่าว รถเจ้าของกระทู้ที่บอกมาเป็นBenz W211 Minor Changeหน้าแหลมซึ่งออกมาหลายปีแล้ววิ่งไปเพียง4หมื่นกิโลเมตรซึ่งถือว่าน้อยมากครับ อีกทั้งรถดีเซลรุ่นนี้เสียงภายในถึงจะเงียบกว่าข้างนอกแต่จะไม่เงียบและรื่นรมย์เหมือนเครื่องเบนซินดังนั้นผมจึงมีความเห็นว่าในกรณีดังกล่าวไม่คุ้มค่าเพราะลงทุนซื้อรถเก๋งระดับนี้มาก็ควรที่จะได้ความสบายมากกว่าที่จะมาทนกับเสียงที่มีอยู่บ้างแบบนี้ครับ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นเช่นกันที่จะเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นรถเครื่องดีเซล6สูบของBenzหรือBMWก็จะเงียบกว่าแบบรับได้และแรงกว่าเบนซินเครื่องเท่าๆกันไม่มีเทอร์โบมากมายแบบนั้นก็น่าสนใจครับ
-
เครีองดีเชลผมว่าไม่จุกจิกมากกกว่าเครีองเบนชีนคับต้องไปดูรถบรรทุก10ล้อหละคับวิ่งแต่หละหนึ่งสัปดาห์วิ่งไม่้ต่ำกว่า5000กีโลเมตรคับของทีไปส่งทีเรียกว่าหนักเปนต้นๆัคับถ้ารักษาดีๆ2ล้านโลแน่ๆๆๆคับ
-
เบนซินค่าบำรุงรักษาระยะยาวแพงกว่าครับ
เรื่องความทนทานดีเซลก็ทนกว่า(ว่ากันเฉพาะบล๊อคเครื่อง ไม่นับเทอร์โบในระบบคอมมอนเรล)
ธรรมชาติของเบนซินจะใช้รอบสูงกว่าดีเซลอยู่แล้ว
รถแข่ง Drag บ้านเราในปัจจุบันจึงเริ่มปรับไปใช้ดีเซลกันมากขึ้น
เพราะเบนซินจะให้ได้แรงบิดก็ต้องรอบสูงๆ พอรอบสูงๆมันก็น๊อคเอาง่ายๆ
แต่ดีเซลรอบต่ำๆก็ได้แรงพอๆกับเบนซิน โดยที่เครื่องไม่น๊อค มันดีมั้ยล่ะ?
วิ่งเยอะๆ ดีเซลค่าน้ำมันก็ถูกกว่าเยอะ
แต่ทั้งนี้ผมออกเบนซินมา วิ่งปีกว่าก็แสนโลแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามีงบบำรุงรักษาพอนะ
-
รู้สึกว่าหลังๆนี้คคห.ของคนส่วนใหญ่จะใ้ห้ ดีเซลยุคใหม่จุกจิกและสิ้นเปลืองค่าบำรุงรักษากว่าเบนซิลแล้วนะครับ
-
จากที่เคยใช้นะครับ
ถ้าวิ่งทางไกล เสียงเครื่องจะไม่ค่อยได้ยินเลย แต่ใช้ในเมือง เสียงจะได้ยินชัดเจน
ความรู้สึกในการขับ เบนซินดีกว่าแน่นอน เทียบกับ BMW benzene อีกคัน
ดีเซลไม่มีความสุนทรีอะไรในการขับ แค่ให้วิ่งได้แรง ประหยัดน้ำมัน ก็เท่านั้น
หลังๆได้ข่าวว่าค่าซ่อมดีเซลก็แพงแล้วนะครับ ไหนจะหัวฉีด เทอร์โบ แคท ยางรองแท่นเครื่องที่เสียง่ายเพราะความสั่นสะเทือนจากเครื่อง หมดนี่รวมเป็นแสนๆ
สมัยเก่าที่ซ่อมถูกเพราะ ไม่มีฉีดตรง เทอร์โบไม่ซับซ้อน สมันใหม่เสียอะไร เปลี่ยนอย่างเดียว ซ่อมไม่ได้ เพราะผู้ผลิตเขากะกินกำไรยาวๆ โดยเฉพาะ benz
สรุป มีได้ มีเสีย ต้องไปลองเอง อย่าเชื่อใครทั้งนั้น อย่าคิดว่าแพงแล้วจะดี
-
ยิ่งเทคโนโลยีสมัยมากเท่าไหร่ ระบบและความซับซ้อนจะตามมาเท่านั้น ส่งผลให้เรื่องกาซ่อมและการบำรุงรักษาลำบากและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น พี่โตเค้ามองตรงนี้รึเปล่าเลยเน้นโลว์เทคแต่ใช้ง่ายซ่อมง่าย
-
การดูแลก็สำคัญครับ
taxi บางคัน (เน้นว่าบางคันเลยครับ) วิ่ง 4 แสน ยังไม่เคยเปิดเครื่องเลยก็มี ขับดีๆ ดูแลดีๆ ผมว่าเบนซินก็ทำได้กับ ล้าน กม. โดยไม่เปลี่ยนเครื่อง :D
-
การดูแลก็สำคัญครับ
taxi บางคัน (เน้นว่าบางคันเลยครับ) วิ่ง 4 แสน ยังไม่เคยเปิดเครื่องเลยก็มี ขับดีๆ ดูแลดีๆ ผมว่าเบนซินก็ทำได้กับ ล้าน กม. โดยไม่เปลี่ยนเครื่อง :D
แท็กซี่เล่นซะเข็มไมล์กลับมาเริ่มใหม่ น่าจะทนนะครับเครื่องเบนซิน
-
สำหรับรถดีเซล ที่แพงกว่ารุ่นเบนซิน ผมจะคิดซะว่า ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มมี 2 เหตุผล
1. ประหยัดน้ำมันกว่า เป็นส่วนต่างค่าน้ำมัน
2. ได้เครื่องแรงกว่า โดยเฉพาะแรงต้น
แต่จะให้วิ่งจนได้กำไรจากส่วนต่างเป็นแสน ผมว่าคงยากครับ ก็เลยต้องมีเหตุผลข้อที่ 2 มาช่วย
ส่วนเรื่องคุณภาพในการขับขี่โดยรวม เช่น เสียงเครื่องที่เพราะกว่า และ รอบเครื่องที่จัดกว่า ของเครื่องเบนซิน อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบครับ