Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Skyline ที่ สิงหาคม 20, 2012, 20:12:47
-
สืบเนื่องจากกระทู้ผม เรื่อง " จะเลือกที่ใจรักหรือเหตุผลดี "
เนื่องจากตอนนี้ C-Segment ยังไม่มีคันไหนที่ผมถูกใจจริงๆ สิ่งที่ชอบที่บ้านก็ไม่ค่อยเชียร์ เเต่ถ้ามองไปกลุ่มที่สูงกว่า D-segment กลับเจอรถที่ชื่นชอบมากมายที่อยากได้เป็นเจ้าของเช่น Teana, All new Camry บวกกับที่พ่อผมมาบอกว่าอย่าไปรีบ หรือกังวลให้มันมากนัก รถซื้อมาตอนนี้ก็เเทบไม่ได้ใช้ ที่บ้านก็มีของน้องอีกคัน เเค่ตอนนี้ถ้าจีบสาวคงต้องนั่งรถเมล์ ไม่ก็เเท็กซี่ ;D นอกนั้นความจำเป็นจะต้องซื้อรถใหม่เเทบไม่มี สู้เก็บตังค์อีกซักปี เลือก D-Segment ที่ชอบจะดีกว่ามั้ย ยอมรับครับเคยคิดจะซื้อ Altis เพราะคิดว่าใช้ไปสัก 4-5 ปี ผ่อนหมด มีตังค์มากพอจะเปลียนเป็นรถ D-segment ที่ชอบสักคัน เเต่อีกใจก็คิดว่าจะซื้อไปทำไมถ้าไม่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เหมือนซื้อไว้ขายมากกว่า สู้เก็บเงินอีกสักหน่อย มากสุดก็ปีนึง เอาไว้ซื้อรถที่ชอบจริงๆ อีกอย่างที่บ้านก็ชอบไปไหนไปกัน ใช้กันนานนนๆๆ ไปเลยไม่ต้องเปลียนบ่อยก็คงดี
ที่ร่ายมาซะยืดยาวก็เเค่อยากจะถามเพื่อนๆที่ใช้รถ D-Segment ครับ ว่าค่าใช้จ่ายนอกจากดาวน์ /ผ่อนเเล้ว ต่อเดือนหมดไปกับค่าน้ำมันประมาณเท่าไร วิ่งเยอะมั้ย มีปัญหาจุกจิกกวนใจมากมั้ยครับ มีค่าใช้จ่ายใดใดที่มากไปว่ารถ Segment ที่ต่ำกว่านี้มั้ย ต้องขออภัยนะครับ กระทู้ผมออกเเนวเวิ่นเว้อยังไงก็ไม่รู้ เเต่เป็นเรื่องที่ผมคิดไม่ตกมากที่สุดในตอนนี้จริงๆครับ
-
ปัญหาก็ไม่จุกจิกเท่าไหร่นิครับ ส่วนค่าน้ำมัน มันก็ย่อมแลกมากับความสะดวก สบาย ปลอดภัย และขับสนุก 55+
-
G7 เติม 91 ทีก็ร่วมๆสามพันแล้วคับ :'(
-
รถพ่อ Camry 03 วิ่งในเมืองเชียงใหม่ก็ 8-9โลลิตรอ่ะครับ พอสมควร
ps ถ้าชอบ Teana ก็รอดู Sylphy ได้หนิครับ หน้าตาพิมพ์เดียวกันเลย
ประหยัดเงิน ประหยัดน้ำมัน
-
รถพ่อ Camry 03 วิ่งในเมืองเชียงใหม่ก็ 8-9โลลิตรอ่ะครับ พอสมควร
ps ถ้าชอบ Teana ก็รอดู Sylphy ได้หนิครับ หน้าตาพิมพ์เดียวกันเลย
ประหยัดเงิน ประหยัดน้ำมัน
ครับคุณ NONT4477 ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่เลยครับ สำหรับเจ้า Sylphy
เเค่คิดเล่นๆไว้ว่าถ้ายังไม่ถูกใจอีก ก็คงรอเเละล่น D-Seg ไปเลย
-
เเวบไปเห็น Altima (New Teana 2013 ) ตกหลุมรักเลย
-
ของผม Camry 2.4 วิ่งในเมือง เฉลี่ยที่ 6 โลลิตร ครับ ทางไกลแล้วแต่น้ำหนักเท้า 10-12 โลลิตร ครับ
-
ของผม Camry 2.4 วิ่งในเมือง เฉลี่ยที่ 6 โลลิตร ครับ ทางไกลแล้วแต่น้ำหนักเท้า 10-12 โลลิตร ครับ
ในเมือง6 โลลิตร!!!? ถ้าจะซดขนาดนี้ ผมเลิกคิดดีกว่าครับ D-Seg ได้รถหล่อเเต่ไส้เเห้ง เเหงมๆ ;D ;D
-
ผมเคยคิดแนวนี้เหมือนกันครับ เปลี่ยนจาก B -> D แต่เมื่อดูค่าใช้จ่าย ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน
สุดท้ายมาลงที่ อัลติส 1.8E ตอนนี้ถังแรกวัดได้ 11.59 กม./ลิตร วิ่งในเมือง รถติดกว่า 75% อีก 25% ไปต่างจังหวัด
ผมว่า D จะแพงตรงค่าน้ำมัน และค่าบำรุง เช่นยางรถยนต์ (ต้องขนาดใหญ่ขึ้น) และอื่นๆ
ผมแนะนำว่า เลือก ฟังก์ชั่นการใช้งานดีกว่าครับ
-
ของผม Camry 2.4 วิ่งในเมือง เฉลี่ยที่ 6 โลลิตร ครับ ทางไกลแล้วแต่น้ำหนักเท้า 10-12 โลลิตร ครับ
ในเมือง6 โลลิตร!!!? ถ้าจะซดขนาดนี้ ผมเลิกคิดดีกว่าครับ D-Seg ได้รถหล่อเเต่ไส้เเห้ง เเหงมๆ ;D ;D
จริงครับ ใช้แอคคอด 2.4 ตัวท๊อปอยู่ขอยืนยันตามนั้นครับ (เฉลี่ย 7-8 กม/ลิตร) แต่วิ่งยาวประหยัดครับได้ 13-14 กิโล/ลิตร ไม่ลองเครื่อง 2.0 ล่ะครับ ในเมืองได้มากกว่า 10 กิโล/ลิตร
-
ผมเคยคิดแนวนี้เหมือนกันครับ เปลี่ยนจาก B -> D แต่เมื่อดูค่าใช้จ่าย ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน
สุดท้ายมาลงที่ อัลติส 1.8E ตอนนี้ถังแรกวัดได้ 11.59 กม./ลิตร วิ่งในเมือง รถติดกว่า 75% อีก 25% ไปต่างจังหวัด
ผมว่า D จะแพงตรงค่าน้ำมัน และค่าบำรุง เช่นยางรถยนต์ (ต้องขนาดใหญ่ขึ้น) และอื่นๆ
ผมแนะนำว่า เลือก ฟังก์ชั่นการใช้งานดีกว่าครับ
ตามที่คุณ MOOINDY ว่าเเหละครับ เเต่เห้อ กิเลสน้อ :-\
-
ลองเก็บตัง รอลุ้น Mazda 6 ไหมครับ เผื่อเข้าไทย >_<
-
ส่วนตัวมีทั้ง C และ D อยู่ในบ้าน ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ
C ขับง่ายในเมือง คล่องตัวกว่า แต่ถ้าออกตจวบ่อยๆ D ก็น่าสนใจกว่า เพราะนั่งสบายกว่ากับความนิ่งจะทำให้ไม่ค่อยเหนื่อย เรื่องค่าซ่อมถ้าออกป้ายแดงผมว่าระยะแรกพอๆกัน แต่ระยะยาว D ย่อมน่าจะซ่อมแพงกว่าแน่ๆครับ
สรุปถ้าใช้ในเมืองเยอะ ขับคนเดียว เลือก C น่าจะเหมาะ แต่ถ้ามีครอบครัว บรรทุกของเยอะ (คนมีลูกแล้วจะทราบดี) ออกตจวบ่อยๆ D ก็น่าสนใจครับ
-
บ้านผมใช้ Accord G8 2.4 EL Navi มา 4 ปี วิ่งไป แสน นิดๆ
ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยครับ
เคยเครื่องสะดุด ก็เข้าศูนย์ไปเปลี่ยนคอยล์ หัวเทียน ก็จบ
ที่เหลือก็ดูแลตามระยะ เข้าศูนย์ทุกหมื่นโล
ขับนอกเมือง ถ้าจะเอาให้ประหยัดจริงๆ ก็ได้ 13-15 กิโลลิตร แต่ที่แน่ๆ เกิน 10
ในเมืองก็ 7-10 ซึ่งผมว่าเฉยๆ เพราะ Fiesta คันเล้กกกกกนิดเดียว ก็อยู่ประมานนี้ :-\
ถ้าเป็นรถญีั่ปุ่น ผมว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรให้ซ่อมเยอะอะครับ จะ B-segment หรือ D-segment ก็ตาม
วันนี้เห็นสัจธรรมเลย วิออส ใช้เวลาถอดโช้คคู่หน้าแค่ไม่ถึง 30 นาที
แต่ถ้าเป็น E39 แค่คู่หน้า อย่างเดียว น่าจะราว ชม นึง
ส่วนคู่หลังนี่ ถอดยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รื้อโคตรเยอะ
เบ็ดเสร็จ เอารถไปเปลี่ยนโช้ค ไปตั้งแต่บ่าย เสร็จทุ่มนึง
-
บ้านผมมีทั้ง B C D Segment เลยครับ
ขับไปไหนมาไหน เจ้าแคมรี่ มันสบายกว่าจริงๆ
ออก ตจว. ขับแคมรี่ 120-130 กินน้ำมัน 13-14 โลลิตร
เอาวีออสไปบ้าง ทางเดียวกัน ได้เท่ากันเป๊ะๆ 13-14 โลลิตร
แต่ขับในเมือง ชานเมือง เจอรถติดบ้าง ติดไฟแดงบ้าง
วีออสได้ 11 โลลิตร แคมรี่ได้ 7 โลลิตร
ส่วน C Segment ที่บ้าน ไม่่ต้องพูดถึง 18-19 โลลิตรที่ชานเมือง
นอกเมือง 21 โลลิตรมาแล้ว เพราะมันคือพรีอุส เหอะๆ
-
เคยคุยกะพี่ที่ใช้แคมรี่ แกบอกว่าคนละเรื่องกับรถเล็กเลยทั้งความนิ่ง หนักแน่น แน่นตึ๊บ ความสบายทั้งคนขับและคนนั่ง รวมไปถึงค่าตัว ค่าน้ำมัน ค่าอะไหล่ แกบอกว่าขับต้องระวังใจเย็นๆเพราะอะไหล่แพงมว๊าก ส่วนตัวแล้ว C-Segment น่าจะลงตัวในหลายๆด้านกว่านะครับ รอดูซัลฟีน่าจะดีคันใหญ่กว่าเจ้าอื่นเล็กน้อย คิดว่าเน้นหรูตามเทียน่าเพราะพี่เค้าจับตลาดแบบนี้แล้ว
-
ปีหน้า ตระกูลพวก D น่าจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่หลายรุ่นนะครับ ผมว่าอาจจะประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม
ดังนั้นจึงควรรอนะครับถ้าจะเล่น D รอได้ก็รอปีหน้าครับ ผมก็รอดูเทียน่าตัวใหม่อยู่ครับเห็นจากรูปมันสวยมากๆ
-
ใช้D segครับ acc G8 2.4 ในเมือง 7-10km/l แต่ถ้าติดหนักๆก็มี6 km/lให้เห็นครับ
วิ่งในเมือง10km/lนี่สุดยอดแล้วครับ ต้องใจเย็นห้าม kick downเลย
คุยกับเพื่อนที่ใช้ G8 2.0ก็ใกล้เคียงกันครับ แตกต่างกันบ้างอย่างไม่มีนัยสำคัญ
ทางไกล 10-14 แล้วแต่เท้าครับ ถ้า 14 นี่ต้องวิ่งไม่เกิน 110km/h ห้ามkick down (โซฮอล 95-เบนซิน 91)
camry 2.5HV ในเมือง 12-15km/l แล้วแต่เส้นทาง รู้สึกวิ่งทางไกล เกิน 120km/h เริ่มไม่รู้สึกว่าต่างจาก D ตัวอื่นๆ
F10 520d ในเมือง 12-15 แล้วแต่เส้นทาง ถ้าวิ่งชานเมืองดูเหมือนประหยัดกว่า HV ทางไกลผมไม่เคยได้ต่ำกว่า16 km/l
ขนาด kick down +ขับโหด
ปล. ถ้าจะซื้อD segส่วนใหญ่เน้นความสบาย ประเด็นค่าน้ำมันผมว่าอย่าไปใส่ใจมากครับ ไม่งั๊นไปC segจะhappyกว่าครับ เพราะ C segบางรุ่นการขับขี่ไม่ต่างจาก D segเลย
-
ส่วนตัวมีทั้ง C และ D อยู่ในบ้าน ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ
C ขับง่ายในเมือง คล่องตัวกว่า แต่ถ้าออกตจวบ่อยๆ D ก็น่าสนใจกว่า เพราะนั่งสบายกว่ากับความนิ่งจะทำให้ไม่ค่อยเหนื่อย เรื่องค่าซ่อมถ้าออกป้ายแดงผมว่าระยะแรกพอๆกัน แต่ระยะยาว D ย่อมน่าจะซ่อมแพงกว่าแน่ๆครับ
สรุปถ้าใช้ในเมืองเยอะ ขับคนเดียว เลือก C น่าจะเหมาะ แต่ถ้ามีครอบครัว บรรทุกของเยอะ (คนมีลูกแล้วจะทราบดี) ออกตจวบ่อยๆ D ก็น่าสนใจครับ
ยังไม่มีบูก แต่แฟนเป็นคนเยอะ ก็เข้าใจได้ครับ !! ;D ;D ;)
-
ใช้ Civic 1.8 FD , Accord G7 3.0 , Accord G8 2.4
ค่าบำรุงไม่ค่อยต่างครับ ที่ต่างมีกินน้ามันมากกว่า 2-3 km/l และ ค่าภาษีประจำปีครับ
ถ้าซื้อได้ ไม่แคร์ค่าน้ำมันเท่าไร โอเคเลยครับ
-
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาตอบคร้าบ ผมเก็บทุกๆกระทู้เลยครับ
จะได้นำมาใช้ในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ขอบคุณมากครับ ;D ;D
-
ทำไมไม่เอา silphy ครับ
-
Sylphy ก้รอดูอยู่ครับ คิดไว้เผื่อม่ถุกใจ ตอนเเรกเห็น spec จีนมีทั้งเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า+ Sunoof + projector
พอเข้าไทยมีเววโดนตัดไปซะงั้น เลยเเอบเซ็งครับ :-\
-
ปีหน้า ตระกูลพวก D น่าจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่หลายรุ่นนะครับ ผมว่าอาจจะประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม
ดังนั้นจึงควรรอนะครับถ้าจะเล่น D รอได้ก็รอปีหน้าครับ ผมก็รอดูเทียน่าตัวใหม่อยู่ครับเห็นจากรูปมันสวยมากๆ
ผมก็คิดเเบบนั้นครับ MZ6 ก็มี Skyactive, ส่วน All new Teana ก็จะได้ เกียร์ CVT ลูกใหม่ อีกทั้งเครื่องยนต์ ที่น่าจะเพิ่มความประหยัดได้มากขึ้น ยิ่งตอนนี้ผมไม่ค่อยมีความจำเป็นต้องใช้รถมาก ก็น่าคิดครับ ว่าจะรอดีมั้ย
-
ในราคาที่พอๆกัน
C segment ตัว top จะใกล้กับ D segment ตัวล่างสุด
ค่าเชื้อเพลิง การใช้งานทั่วๆไป C segment จะประหยัดกว่า 2-3 km/l หรือ 20-25%
แต่ D segment ขับสบาย และ นั่งสบายกว่า พอสัมผัสได้
ความคล่องตัว อัตราเร่ง C segment ดีกว่า
แต่ถ้าติด gas ผมว่าไปที่ D segment ครับ
-
ในราคาที่พอๆกัน
C segment ตัว top จะใกล้กับ D segment ตัวล่างสุด
ค่าเชื้อเพลิง การใช้งานทั่วๆไป C segment จะประหยัดกว่า 2-3 km/l หรือ 20-25%
แต่ D segment ขับสบาย และ นั่งสบายกว่า พอสัมผัสได้
ความคล่องตัว อัตราเร่ง C segment ดีกว่า
แต่ถ้าติด gas ผมว่าไปที่ D segment ครับ
ครับผม เทียบง่ายๆ
- All new Camry 2.0G = 1,299,000 กับ Altis 2.0V NAVI = 1,194,000
ส่วนต่าง 105,000 Altis ประหยัดกว่าเห็นๆ เครื่องใหญ่ /ตัวเล็ก เเต่ผมคนนึงละจะไม่ซื้อ Altis ในราคา 6 หลักเเน่นอน ;D ;D
-
ที่บ้านใช้ D Seg อยู่ Camry 2.4 ถ้าใช้ผมบอกเลยว่าค่าอะไหล่ ไม่ได้แพงต่างจาก VIGO ที่บ้าน แล้วมันก็ไม่เสียจุกจิกทั้งๆที่ระบบไฟฟ้าเยอะมากๆ ;D ดังนั้น C SEG ผมเดาคงไม่ถูกไม่แพงไปกว่า D Seg หรอกครับ
เรื่องกินน้ำมันพอๆกับ Vigo 3.0 (Camry 2.4 V ตัวก่อน) ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพราะแม่ผมขับ Vigo ก้ถังนึงวิ่งได้พอๆกับ Camry ค่าดูแลพอๆกัน สุดท้ายบ้านผมเอาน้อง Camry ออกไปเที่ยวบ่อยกว่า
แต่ในเมืองผมว่า C Seg มันได้ความคล่องตัวกระทัดรัด สนุกนิดๆ ถ้าผมโสด คงขอ C SEG ไว้มุดสนุกๆดีกว่า แต่ถ้าเป็นรถที่บ้าน คงเลือก D SEG อะครับ อย่างน้อยก็ได้ความสบายมากกว่า
-
ค่าบำรุงรักษา แพงกว่ารถเล็กไม่เท่าไหร่ครับ
ปัญหาก็ไม่มีอะไรจุกจิกน่ะครับ ผมว่าคุ้มน่ะแลกกับความสบาย ความปลอดภัย และภาพลักษณ์
ตอนแรกที่จะซื้อรถ ผมก็ไปงานเปิดตัวอัลติส ดูไปดูมา เดินเข้าไปจองคัมรี่ ดีกว่า
-
ค่าบำรุงรักษา แพงกว่ารถเล็กไม่เท่าไหร่ครับ
ปัญหาก็ไม่มีอะไรจุกจิกน่ะครับ ผมว่าคุ้มน่ะแลกกับความสบาย ความปลอดภัย และภาพลักษณ์
ตอนแรกที่จะซื้อรถ ผมก็ไปงานเปิดตัวอัลติส ดูไปดูมา เดินเข้าไปจองคัมรี่ ดีกว่า
อารมณ์ประมาณผมครับ จะลองเข้าไปเดินดู ลองนั่ง สำผัสส่วนต่างๆ ถ้าไม่รู้สึกชอบจริงๆ ไม่อยากเสียตังค์เลยครับ เห็นด้วยที่เลือกเเคมรี่ครับ เสียเงินเเล้วได้ในสิ่งที่ชอบมันสุขมากกว่าครับ ;D ;D ;D