Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NgoH ที่ สิงหาคม 21, 2012, 19:32:58
-
ยอดขายทั้งหมด 7,065 คัน
Mazda2 3,340
Mazda3 763
BT-50 2,959
-
้honda ขายได้ 20000คัน เท่าๆโตโยต้าเลย(เก๋ง)
อะไรจะขายดีขนาดนั้น อยากเห็นยอดขายแบบรุ่นต่อรุ่นของฮอนด้าจังครับ
isuzu คงสู้ vigo ไม่ได้โดนทิ้งขาดเลย
-
มาสด้าขายดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่อยากรู้ยอดขายของ Honda ครับ
ว่าหลังจากโรงงานฟื้น ขายไปได้เท่าไหร่แล้ว
เพราะยอดจอง jazz กับ city ถล่มถลายมาก
-
ไม่น่าจะถึง 13% นะครับ ;D
-
ตราบใดที่มาสด้า3 ยังไม่สามารถพัฒนาเครื่องยนต์เทียบได้กับเจ้าตลาด
(หรือมีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเอามาลงได้)
ยอดขายคงไม่ถึงหลักพันแน่ๆเลย เสียดายรถช่วงล่างและพวงมาลัยดีจริงๆเลย
เพราะผมก็ใช้อยู่ อิอิ
-
มาสด้าประเทศไทย ดูแล้วเทไปทางมาสด้าสองกับบีที อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ เจ้าสามนี่ โปรโมตน้อยมากๆ
-
แต่ผมมองว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ได้มองเรื่องเครื่องเป็นใหญ่นะ เค้าสนใจเรื่องภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของศูนย์เป็นใหญ่ ซึงมาสด้ากำลังทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ลองสังเกตุดูดีๆช่วยนี้มาสด้าโดนด่าน้อยมาก ถือเป็นเรื่องดีที่สั่งสมไปเรื่อยๆครับ :)
-
มาสด้า2 แถว มอผม เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป้นรถคันแรก ของนักศึกษา บอดี้ทรงนี้ โดนใจวันทีน
-
เง้อ ไหงน้อง 3 ดูน้อยจังครับ :-\
-
ไอ้ที่ว่า 13% น่าจะส่วนแบ่งการตลาดของ Mazda2 ใน B-segment นะครับ (YTD)
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=137646:-7--37000---57&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524 (http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=137646:-7--37000---57&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524)
-
แอบเสียดาย mazda 3 นะ
น่าจะมีตัวเครื่องนอก 2.5 D(อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ วานผู้รู้ด้วย)
-
แอบเสียดาย mazda 3 นะ
น่าจะมีตัวเครื่องนอก 2.5 D(อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ วานผู้รู้ด้วย)
ถ้าหมายถึง diesel จะเป็น 2.2 ครับ (แต่ไม่มีเกียร์ AT สำหรับตัวดีเซล และก็ยังไม่ใช่ตัว SkyActiv-D ด้วยนะครับ) ถ้าเบนซินมี 2.5 ด้วยครับ
-
ผมก็เพิ่งออก BT50 เดือนที่แล้ว ส่วนตัวไม่เคยใช้มาสด้าเลย พอลองใช้ก็โอนะสำหรับผม ส่วนศูนย์เป็นยังไงไม่รู้เพราะยังไม่เคยเข้า
-
Overdemand แบบนี้ ใครขายดีขายไม่ดีวัดไม่ได้หรอกครับ
เพราะทุกคนก้อขายได้เต็มกำลังการผลิตที่ตัวเองมีนั่นแหละ
ผมรอตลาดตก ช้อนรถมือสองจากคนที่ผ่อนไม่ไหวดีกว่า อิ อิ
-
Overdemand แบบนี้ ใครขายดีขายไม่ดีวัดไม่ได้หรอกครับ
เพราะทุกคนก้อขายได้เต็มกำลังการผลิตที่ตัวเองมีนั่นแหละ
ผมรอตลาดตก ช้อนรถมือสองจากคนที่ผ่อนไม่ไหวดีกว่า อิ อิ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ "ทุกคนก้อขายได้เต็มกำลังการผลิตที่ตัวเองมี" สมมุติว่ายอดจองเท่ากัน ค่ายหนึ่งกำลังการผลิตน้อยกว่า แต่อีกค่ายกำลังการผลิตเยอะกว่า ก็ย่อมได้ยอดขายที่เยอะกว่า ;D
-
ผมว่าเมืองไทยทำรถมาดีแค่ไหนก็ขายสู้รถเจ้าตลาด2ยี่ห้อไม่ได้ ทำมายังไงก็ขายได้ กั๊กออฟชั่นก็ยังขายระเบิด ;D
-
มาสด้าขายดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่อยากรู้ยอดขายของ Honda ครับ
ว่าหลังจากโรงงานฟื้น ขายไปได้เท่าไหร่แล้ว
เพราะยอดจอง jazz กับ city ถล่มถลายมาก
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2555
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 131,646 คัน เพิ่มขึ้น 80.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 48,460 คัน เพิ่มขึ้น 73.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.8%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 20,508 คัน เพิ่มขึ้น 186.8% ส่วนแบ่งตลาด 15.6%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 16,700 คัน เพิ่มขึ้น 39.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 64,430 คัน เพิ่มขึ้น 99.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,860 คัน เพิ่มขึ้น 76.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 20,150 คัน เพิ่มขึ้น 195.6% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%
อันดับที่ 3 นิสสัน 6,532 คัน เพิ่มขึ้น 57.0% ส่วนแบ่งตลาด 10.1%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 58,868คัน เพิ่มขึ้น 68.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 24,650 คัน เพิ่มขึ้น 75.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,852 คัน เพิ่มขึ้น 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 25.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 7,887 คัน เพิ่มขึ้น 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 5,915 คัน
มิตซูบิชิ 2,908 คัน - โตโยต้า 2,558 คัน- อีซูซุ 388 คัน - ฟอร์ด 61 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 52,953 คัน เพิ่มขึ้น 68.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 22,092 คัน เพิ่มขึ้น 71.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,464 คัน เพิ่มขึ้น 41.0% ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,979 คัน เพิ่มขึ้น 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 67,216 คัน เพิ่มขึ้น 65.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 26,600 คัน เพิ่มขึ้น 70.7% ส่วนแบ่งตลาด 39.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 16,700 คัน เพิ่มขึ้น 39.0% ส่วนแบ่งตลาด 24.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 7,887 คัน เพิ่มขึ้น 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม กรกฎาคม 2555
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 738,169 คัน เพิ่มขึ้น 46.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 289,705 คัน เพิ่มขึ้น 57.2% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 114,024 คัน เพิ่มขึ้น 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 15.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 68,817 คัน เพิ่มขึ้น 28.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 321,940 คัน เพิ่มขึ้น 42.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 127,345 คัน เพิ่มขึ้น 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 67,087 คัน เพิ่มขึ้น 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 20.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 48,802 คัน เพิ่มขึ้น 74.2% ส่วนแบ่งตลาด 15.2%
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 364,161 คัน เพิ่มขึ้น 51.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 150,107 คัน เพิ่มขึ้น 74.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 103,991 คัน เพิ่มขึ้น 23.8% ส่วนแบ่งตลาด 28.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 50,856 คัน เพิ่มขึ้น 43.1% ส่วนแบ่งตลาด 14.0%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 37,586คัน
โตโยต้า 19,409 คัน - มิตซูบิชิ 15,564 คัน อีซูซุ 2,407 คัน - ฟอร์ด 206 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 326,575 คัน เพิ่มขึ้น 50.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 130,698 คัน เพิ่มขึ้น 67.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 101,584 คัน เพิ่มขึ้น 27.3% ส่วนแบ่งตลาด 31.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 35,292 คัน เพิ่มขึ้น 43.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.8%
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 416,229 คัน เพิ่มขึ้น 49.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 162,360 คัน เพิ่มขึ้น 70.7% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 114,024 คัน เพิ่มขึ้น 23.9% ส่วนแบ่งตลาด 27.4%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 50,856 คัน เพิ่มขึ้น 43.1% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%
ที่มา : http://www.ryt9.com/s/prg/1472637 (http://www.ryt9.com/s/prg/1472637)
-
PJS แซงฟอร์จูนอีกแล้ว
-
ปี 56 57 ลาดรถมือสองจะคึกคักแน่นอน คนเปลี่ยนรถกันเยอะ
-
ผมว่าเมืองไทยทำรถมาดีแค่ไหนก็ขายสู้รถเจ้าตลาด2ยี่ห้อไม่ได้ ทำมายังไงก็ขายได้ กั๊กออฟชั่นก็ยังขายระเบิด ;D
ตาบใด คนไทย ถ้าจะซื้อรถสักคัน คิดว่า ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ เป็นที่ตั้ง ไม่คำนึงถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า และปลอดภัย
มันก็จะผู้ขาดอยู่กับสิ่งเดียวอยู่อย่างนั้น
-
ผมว่าเมืองไทยทำรถมาดีแค่ไหนก็ขายสู้รถเจ้าตลาด2ยี่ห้อไม่ได้ ทำมายังไงก็ขายได้ กั๊กออฟชั่นก็ยังขายระเบิด ;D
ตาบใด คนไทย ถ้าจะซื้อรถสักคัน คิดว่า ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ เป็นที่ตั้ง ไม่คำนึงถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า และปลอดภัย
มันก็จะผู้ขาดอยู่กับสิ่งเดียวอยู่อย่างนั้น
ผมคิดว่า เพราะคนไทยคิดเหมือนที่ เต้ย พูดในโฆษณาวีออส อ่ะครับ ชัดเลย *-*
-
ผมว่าเมืองไทยทำรถมาดีแค่ไหนก็ขายสู้รถเจ้าตลาด2ยี่ห้อไม่ได้ ทำมายังไงก็ขายได้ กั๊กออฟชั่นก็ยังขายระเบิด ;D
ตาบใด คนไทย ถ้าจะซื้อรถสักคัน คิดว่า ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ เป็นที่ตั้ง ไม่คำนึงถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า และปลอดภัย
มันก็จะผู้ขาดอยู่กับสิ่งเดียวอยู่อย่างนั้น
ขอค้านนะครับ
ผมกล้าพูดได้เลยว่าคนไทยยังไงเวลาซื้อรถ ต้องคิดถึง ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ เป็นที่ตั้ง แน่นอน
เพราะอะไร
ถ้าเทียบรถกับบ้าน
เมืองนอกอย่างญี่ป่น บ้านราคา 30ล้าน รถราคาไม่ถึงล้าน แบบนี้จะซื้อรถดูจากคุณภาพ ความคุ้มค่าได้ ไม่ต้องสนใจราคาขายต่อ ศูนย์มากนัก ใช้ๆ ครบ5 ปีก้อเปลี่ยน เพราะภาษีรถเก่าจะแพง
บ้านเรา รถกับบ้านราคาใกล้เคียงกัน เรียกได้ว่าแพงมาก อายุการใช้งานรถเลยยืดออกไปมากกว่า ดังนั้นต้องมองระยะยาว ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ ไว้ก่อนครับ
ตราบใดที่ตลาดรอง ยังขายรถแบบตีหัวเข้าบ้าน หลอกล่อด้วยออฟชั่นที่มากกว่าอย่างเดียว แต่กลับไม่มองการใช้งานระยะยาวให้กับลูกค้า
ยังไงก้อไม่เกิด
รถยนต์ไม่ใช้แค่การขายสินค้า ซื้อขายแล้วจบ
แต่หมายถึงการบริการ ที่ต้องการการดูแลและความใส่ใจ จากผู้ขายครับ
-
ผมซื้อรถมองที่ความชอบส่วนตัวเป็นหลัก คันแรกนานมากเป็น NV กระบะ คันเล็กๆชอบมากมายถ้าไม่โดนน้ำท่วมจนเสียหายหมดไม่ขายแน่นอน ส่วนปิคอัพอีกคันที่บ้านเป็นไมตี้เอ๊กซ์ใช้อยู่4ปีก็ขายราคาดีจริงครับแต่ส่วนตัวเฉยๆกับมัน คันที่เพิ่งขายไปก็วีออสโฉมแรกออกปีแรกที่รถลงตลาดเลยชอบมากมาย ที่จริงจะเก็บไว้แหละแต่ช่วงนี้ต้องการรถปิคอัพยกสูง เงินเก็บก็ซ่อมบ้านหมดไปหลายแล้ว น้องน้ำมารอบนี้มีรถเข้าบ้านแน่นอน