Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ChiLun ที่ สิงหาคม 24, 2012, 14:57:19
-
หัวข้อข่าวครับ
http://manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9550000104275 (http://manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9550000104275)
อยากทราบว่าการปรับภาษีตามการปล่อยคาร์บอนจะทำให้เกิดอะไรขึ้นกับราคารถหรือจะมีผลในด้านอื่นๆอย่างไรบ้างครับ
มีผลดีผลเสียต่อผู้ใช้รถหรือป่าวครับ
-
ตามที่ผมเข้าใจนะครับ
- ของเดิมภาษี = เก็บตามขนาดเครื่องยนต์ (CC) และแรงม้า
- โครงสร้างใหม่ = เงื่อนไขภาษีที่เพิ่ม จะเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซ CO2
ตามมาตรฐานของยุโรป+ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ+เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย
ถ้าโครงสร้างภาษีใหม่ถูกใช้...
ด้านเทคโนโลยี = เทคโนโลยีใหม่ ขนาดเครื่องเล็กลง ประสิทธภาพดีขึ้น = ราคาอาจแพงขึ้น (เซ็งเลย ^^)
ด้านสิ่งแวดล้อม = ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จากรถยนต์ใหม่ + น้ำมันถูกใช้อย่างคุ้มค่า (โอเค เห็นด้วย)
ด้านผู้บริโภค = โดนจุดขาย รถเทคโนโลยีใหม่ ...แต่จะต้องซื้อในราคาแพงรึเปล่า? (ไม่แน่ใจครับ)
-
ความเห็นส่วนตัวผม
มาตรฐานยูโร4 ยูโร5 ที่หลายค่ายเอามาเป็นจุดขาย
ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพขึ้น มันใช้จริงไม่ได้มากเท่าไหร่
เพราะบางส่วน รับรถมาแล้วเลือกที่จะปฏิเสธการใช้
เช่น เอาไปอุดบ้าง ทะลวงแคทบ้าง (เครื่องดีเซล)
ถ้าจะสนับสนุนภาษี ผมว่าเอาไปยกเลิกตัวที่ใช้พลังงานสะอาดดีกว่า
เช่นสนันสนุนระบบไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า หรือ super eco car ...
-
เข้าไปอ่านเนื่อข่าว ปอลิง จขกท.น่าจะเอาเนื้อข่าวมาลงด้วยนะครับ (ที่ทำงานผม เวบผู้จัดการมันอืดเข้าไม่ค่อยได้เลย แอ่ะๆ)
กระทรวงคลัง ชะลอชง ครม. ปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ ห่วงกระทบภาคการผลิต และเพิ่มภาระให้เอกชน
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า กระทรวงจะยังไม่เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ โดยการเปลี่ยนแนวทาง คำนวณภาษีมาคิดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดซ์ออกไซด์ เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่งจะฟื้นจากปัญหาน้ำท่วม จนต้องมีการวางเครื่องจักรสายการผลิตใหม่
ดังนั้น หากรัฐบาลไปออกมาตรการใดเพิ่มเติมจนต้องปรับระบบไลน์การผลิตใหม่ คงสร้างปัญหาให้กับภาคอุตสหากรรมยานยนต์
ทั้งนี้มีรายงานว่า กรมสรรพสามิตได้ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดมากกว่า 3,000 ซีซี เสียภาษี 50% ของขนาดเครื่องยนต์ ส่วนรถที่ใช้เครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,000 ซีซี เสียภาษี 30%
รัฐ เค้าไม่ห่วงอะไรนอกจากท่อนนี้แหละมั้ง
ดังนั้น หากรัฐบาลไปออกมาตรการใดเพิ่มเติมจนต้องปรับระบบไลน์การผลิตใหม่ คงสร้างปัญหาให้กับภาคอุตสหากรรมยานยนต์
ผู้ใช้ก็รอกันต่อไป ผมว่าคงต้องรอรวมเป็น AEC ในปี 58โน่นแหละมั้ง ถึงจะได้ใช้อัตราภาษีใหม่
-
ถ้าปรับแล้วเราก็จะมีโอกาสได้ใช้รถที่เกิน 220 แรงม้าแต่เครื่องไม่เกิน 3000 cc
โดยที่ราคาไม่โดดมากแบบปัจจุบันไงครับ
-
ถ้าตัว Top D-seg ราคาอยู่ที่ไม่เกิน 1.3 ล้าน ก็ OK นะ แต่ถ้าให้ดีราคาเท่าแบบ US เลยดีกว่า ;D
-
จะทำไรก็ทำคร้าบบบ แคมรี่HB ตัว Top option ราคาจะเท่า รถยุโรปแล้วว ::)
-
เก็บตามระยะทางวิ่งไปเลยดีไมนี้ ใครใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย
-
เก็บตามระยะทางวิ่งไปเลยดีไมนี้ ใครใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย
ไม่มีทางที่คนไทยจะยอมรับได้ครับ และสากลก็ไม่มีใครทำกันถึงขนาดนี้
-
เอาไอเสียมาเป็นเกณฑ์ ก็อย่าลืมตามไล่เก็บรถที่ดัดแปลงสภาพตามหลังด้วยหละครับ แต่ก็คงทำเป็นแค่จับปลาหน้าไทรเหมือนๆทุกครั้ง
-
เก็บตามระยะทางวิ่งไปเลยดีไมนี้ ใครใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย
รถตามต่างจังหวัด ไม่ซวยหรอคับ - - บ้านอีกที่ งานอีกที่ โรงเรียนอีกที่ ห้างอีกที่