Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Nioka ที่ กันยายน 14, 2012, 08:10:21
-
หลังจากเมื่อคืน ประกาศมี QE3 แล้ว นักลงทุนเฮ กันกระจาย
แต่ผลกระทบกับเราๆ เหล่าคนหาเช้ากินค่ำ ระวังให้ดีครับ
น้ำมันพุ้ง เงินเฟ้อพุ้ง หมายความว่าไงเอาเข้าใจง่ายๆ
คือเรามีเงินเท่าเดิมแต่ของแพงขึ้น พวกนักลงทุนนักเกงกำไร เค้าhappy กันมากมาย
สำหรับผม - -" เติมน้ำมันเดือนละ เกือบ20,000 รู้สึกว่า ต้องควักเพิ่มอีกแน่ๆ เตรียมรับสภาพ
-
ทองกระโดดไปเรียบร้อย 26000 แน่ๆ ;D ;D
-
ทองพุ่งไปแล้ว
ทุกอย่างพุ่งตาม
พนักงานประจำแบบผมเศร้า
-
ปลายปีต้องซื้อทองไปขอสาว
ต้องซื้อทองแพงอีกแล้วครับ - -"
-
เซ็งเป็ด ซื้อทองไม่ทัน ตกรถเลยรอบนี้
-
สงสัยต้องมุ่งหน้าไป ดม LPG แล้ว... :'(
-
QE3 มันคืออะไร ยังไงหรอครับ ทำไมมีผลกระทบต่อค่าครองชีพขนาดนั้น
-
แล้วคน ตาดำๆ จะอยู่กันอย่างไร มีแต่นายทุนสร้างผลกระทบ ซื้อ Eco car ก็คงจะลำบากเหมือนกัน
-
เปรียบเหมือนเราทั่วไปเป็นทาสเหล่านายทุนนะครับ รับมือเถอะครับแรงยิ่งกว่าน้ำท่วมอีก
-
QE3 มันคืออะไร ยังไงหรอครับ ทำไมมีผลกระทบต่อค่าครองชีพขนาดนั้น
Quantitative Easing
มันเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องหรือเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจครับ
พูดให้ง่ายๆก็คือการพิมพ์แบงก์ใช้เพิ่มแบบดื้อๆนั่นเอง มันจะส่งผลให้ค่าเงินที่อัดฉีดออกมาอ่อนตัว ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
ดังนั้นCommoditiesที่มีผลกับเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแบบติดจรวด เพราะเงินด้อยค่าลง คนก็ต้องไปหาสินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยจากภาวะเงินเฟ้อ
และรอบนี้ดันมีมาตรการคล้ายๆกันออกมาทั้งจากฝั่งยุโรปและอเมริกาในช่วงติดๆกันซะด้วย
น้ำมันอาจจะแพงขึ้น แต่ก็คงจะพอชดเชยได้บ้างจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเช่นกันครับ
.-_-.
-
ทำไมเวลา นักลงทุนนักเก็งกำไรเฮ เราเจอเงินเฟ้อ ข้าวของแพง
ตอนเขาล้ม เราก็เจอคำว่า เศรษฐกิจไม่ดี ไม่เห็นเจอ ข้าวของถูก บ้างเลย
-
ทำไมเวลา นักลงทุนนักเก็งกำไรเฮ เราเจอเงินเฟ้อ ข้าวของแพง
ตอนเขาล้ม เราก็เจอคำว่า เศรษฐกิจไม่ดี ไม่เห็นเจอ ข้าวของถูก บ้างเลย
เพราะนักลงทุนเวลาบ่นเสียงดังครับ
ถ้าเราเห็นว่าน้ำมันจะขึ้น และมองแนวโน้มว่าเป็นขาขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดเราก็ซื้อกองทุนรวมก็ลงทุนในกองทุนรวมน้ำมันในต่างประเทศเก็บไว้ครับ
-
จริงๆแล้วผมว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่จะมานั่งอุ้มกับแบบนี้นะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ;D
-
QE3 มันคืออะไร ยังไงหรอครับ ทำไมมีผลกระทบต่อค่าครองชีพขนาดนั้น
Quantitative Easing
มันเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องหรือเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจครับ
พูดให้ง่ายๆก็คือการพิมพ์แบงก์ใช้เพิ่มแบบดื้อๆนั่นเอง มันจะส่งผลให้ค่าเงินที่อัดฉีดออกมาอ่อนตัว ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
ดังนั้นCommoditiesที่มีผลกับเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแบบติดจรวด เพราะเงินด้อยค่าลง คนก็ต้องไปหาสินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยจากภาวะเงินเฟ้อ
และรอบนี้ดันมีมาตรการคล้ายๆกันออกมาทั้งจากฝั่งยุโรปและอเมริกาในช่วงติดๆกันซะด้วย
น้ำมันอาจจะแพงขึ้น แต่ก็คงจะพอชดเชยได้บ้างจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเช่นกันครับ
.-_-.
การอัดฉีดสภาพคล่องหรือเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อาจทำได้โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อก่อให้เกิดการลงทุน และเพิ่มเงินในระบบ หรือขายพันธบัตรรัฐบาลครับ
มันก่อให้เกิดเงินเฟ้อแน่ๆ แต่ไม่น่ามากขนาดหน้ามือหลังมือ ตามความคิดผมนะครับ
ถาม จขกท.ครับ ผมไม่เชี่ยวในเรื่อง econ แต่พอรู้บ้าง BOT สามารถพิมพ์แบ็งออกมาดื้อๆเลยหรอครับ ที่เคยเรียนมานี่คือต้องrelate กับทองคำของประเทศรึเปล่าครับ
-
เคยได้ยินว่า ตอนนี้อเมริกา พิมพ์ธนบัตร โดยไม่มีทองคำค้ำประกันครับ
มีความเห็นว่า QE ทำให้เกิดเงินเฟ้อ เพราะเป็นการยืดอายุให้คนเก็งกำไรครับ
คิดว่าจะเดี้ยงกัน QEที่เท่าไรครับ ถึง QE 10 ไหมครับ
-
WTI เกือบแตะ 100 US$ แล้ว
-
สรุปคือ จะมีเงินในโลกมากขึ้น
จึงทำให้เงินเฟ้อเวลาจะซื้ออะไร ราคาก็จะแพงขึ้น
แต่เงินเดือนเท่าเดิม !!!
-
ประเทศไทยมีกฎหมายกำหนดไว้ครับ ว่าถ้าจะพิมพ์ธนบัตร ให้มีทุนสำรองของธนบัตรที่จะพิมพ์ 100% ครับ เพื่อที่จะทำให้ กระดาษใบล่ะ 20 50 100 หรือ 1,000 มีคนเชื่อถือและสามารถแลกกับเงินตราสกุลอื่นๆ ได้ครับ
ส่วนสหรัฐ ไม่มีทรัพย์สินใดเป็นทุนสำรองของธนบัตรทั้งสิ้นครับ เพราะสกุลดอลลาร์ของอเมริกา เป็นที่ยอมรับ เชื่อถือ และเป็นสกุลเงินกลางหลักของโลกครับ ปัญหาเงินเฟ้อจึงเกิดยากครับ เพราะเงินประมาณ 1 ใน 3 หมุนเวียนอยู่ในต่างประเทศครับ
คิดว่าจะเดี้ยงกัน QEที่เท่าไรครับ ถึง QE 10 ไหมครับ
ผมว่าถึง 2020 นู้น กว่ายุโรป อเมริกา จะหายป่วยจริงๆ สักที
คิดเล่นๆ ว่า ตอนนี้อเมริกา คงได้รายได้จาก Apple และ Google เป็นหลัก :D
-
จริงๆแล้วผมว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่จะมานั่งอุ้มกับแบบนี้นะ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ;D
จริงอยู่เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เองตาม ทฤษฎี Invisible Hand ของ Adam Smith ครับ
แต่กว่าจะถึงวันนั้น ประชาชนชั้นแรงงาน นายทุน หรือ นักการเมืองทนรอไม่ไหวหรอกครับ
ตามประโยคที่ว่า "In long run, we all are dead."
จึงต้องมีเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาช่วย ไล่เรียงตั้งแต่ไม้อ่อนอย่าง อัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อ
จนถึงวันนี้ที่จำเป็นจะต้องใช้ไม้แข็งอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบแบบตรงๆแบบนี้เลยครับ
และตอนต้มยำกุ้ง เราไม่ได้รอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเองนะครับ มีเครื่องมือหลายอย่างถูกนำมาใช้
เพียงแต่เราไม่ได้ช่วยสถาบันการเงินที่ล้มไปเท่านั้นครับ
QE3 มันคืออะไร ยังไงหรอครับ ทำไมมีผลกระทบต่อค่าครองชีพขนาดนั้น
Quantitative Easing
มันเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องหรือเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจครับ
พูดให้ง่ายๆก็คือการพิมพ์แบงก์ใช้เพิ่มแบบดื้อๆนั่นเอง มันจะส่งผลให้ค่าเงินที่อัดฉีดออกมาอ่อนตัว ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
ดังนั้นCommoditiesที่มีผลกับเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแบบติดจรวด เพราะเงินด้อยค่าลง คนก็ต้องไปหาสินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยจากภาวะเงินเฟ้อ
และรอบนี้ดันมีมาตรการคล้ายๆกันออกมาทั้งจากฝั่งยุโรปและอเมริกาในช่วงติดๆกันซะด้วย
น้ำมันอาจจะแพงขึ้น แต่ก็คงจะพอชดเชยได้บ้างจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเช่นกันครับ
.-_-.
การอัดฉีดสภาพคล่องหรือเม็ดเงินเข้าไปในระบบเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อาจทำได้โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อก่อให้เกิดการลงทุน และเพิ่มเงินในระบบ หรือขายพันธบัตรรัฐบาลครับ
มันก่อให้เกิดเงินเฟ้อแน่ๆ แต่ไม่น่ามากขนาดหน้ามือหลังมือ ตามความคิดผมนะครับ
ถาม จขกท.ครับ ผมไม่เชี่ยวในเรื่อง econ แต่พอรู้บ้าง BOT สามารถพิมพ์แบ็งออกมาดื้อๆเลยหรอครับ ที่เคยเรียนมานี่คือต้องrelate กับทองคำของประเทศรึเปล่าครับ
อัตราดอกเบี้ยของอเมริกา ต่ำเตี้ย ติดดินมานานแล้วครับ และก็ยังจะคงต่ำกว่านี้ไปอีกเป็นปีๆ
แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นการลงทุน จนมีผลให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นได้ครับ
อัดฉีดเงินเจ้าไปตรงๆ โดยที่หวังว่ามันจะฟื้นขึ้นมาได้บ้างนะครับ
-
QE กระทำโดยมะกันครับ ประเทศ อื่นจะพิมแบงค์ต้องเอาทองไปกอง
แต่พี่กันเข้าโกงไงครับ
หลายคนในกระทู้นี้ให้คำตอบได้ดีครับ
-
เข้ามาร่วมเซ็งด้วยอีกคนครับ และขอบคุณความรู้ + ความเห็นดีๆ ของหลายๆ ท่าน
P.S. ไม่น่าขาย BANPU ไปเมื่อวันก่อนเล๊ยยย