Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HME ที่ กันยายน 23, 2012, 11:37:04
-
จากข่าวนี้
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4444:Audi- (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4444:Audi-)เปิดตัว-เครื่องยนต์เทอร์โบไฟฟ้า-พร้อมแผนรุกรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี-2020&catid=47:worlds-news&Itemid=160
ออดี้จะเอามาใช้ในรถที่ผลิตขายจริง(ในนั้นคือ สามจุดศูนย์ทีดีไอ)
เห็นว่าช่วยให้แรงบิดในรอบต่ำดีขึ้น(ดียังไง ดีเซลล์มันก็แรงบิดมารอบต่ำอยู่แล้ว)
คหสต
- ผมคิดว่าที่ได้ประโยชน์เต็มๆคือเครื่องเบนซินต่างหาก อยากบูสต์เท่าไหร่สั่งได้ดั่งใจแค่โปรแกรมเข้าไป อยากได้แรงบิดรอบต่ำก็อัดบูสต์เข้าไปตั้งกะรอบเดินเบา
- อัตราสิ้นเปลือง 30+ กิโล/ลิตร ของเครื่อง 1.2 น่าจะทำได้โดยเทคโนโลยีนี้
- super charger กลายเป็นเรื่องของพวก racing เท่านั้น(บูสต์หนักเว่อร์เทอร์โบไฟฟ้าคงทำไม่ได้) และสูญพันธุ์ไปจากรถบ้าน เพราะข้อจำกัดเรื่องรอบต่ำๆถูกแก้ไขด้วยเทคโนโลยีนี้
-
ผมกลัวมันจะเจ้งง่าย และเสียงคงดังกว่าเทอโบปกติ
-
สวัสดีครับ สมาชิกใหม่ครับผม กว่าจะสมัครได้แทบแย่ น่าสนใจนะครับเทคโนโลยี่ แต่ต้องดูกันไปครับว่าจะดีหรอป่าว เทคโนโลยี่มีไว้ทดสอบครับ
-
อนาคตวันข้างหน้า เทอร์โบไฟฟ้าคงมาแทนทีเทอร์โบที่ใช้แรงจากไอเสียมาปั่นที่มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง
คหสต อยากให้มีแบบนี้บ้าง ไม่รู้ค่ายไหนคิดจะเอาใช้บ้าง
เทอร์โบไฟฟ้า ก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้ามาปันสร้างแรงอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ แบบไม่ต้องรอรอบ มาทันทีที่กดคันเร่ง มอเตอร์ก็ทำงานทันที
บางที เครืื่อง 3 สูบ 1-1.2 ลิตร ในอนาคต ถ้าใส่เทอร์โบไฟฟ้าอาจแรงได้ถึง 200-250 แรงม้า แรงบิดมาเต็มๆแบบเครื่อง V 6
แรงบิดในรอบต่ำถึงสูงมีให้ใช้ตลอด กดเป็นมา ถ้าเกิดมอเตอร์หมุนด้วยความเร็วคงที่ตลอดเวลา อาจจะ 1 แสนรอบต่อนาทีขึ้นไปก็ำได้ สร้างแรงอัดอากาศได้ตลอด
แบบนี้ปลายไม่มีตกต้นไม่อืด คิดดูจะขับขี่มันแค่ไหน เราอาจไม่รู้จักเทอร์โบแบบไอเสียมาปั่นไปเลยก็ได้ แต่ว่าแล้วใครจะกล้าเอาแทนเทอร์โบแบบธรรมดา
เห็นมีชุดคิดขายตามเวปต่างๆเยอะพอสมควร แต่คุณภาพและการทำงาน ยังห่างไกล Audi BMW ทำอยู่เยอะครับ
-
เป็นอะไรที่น่าจับตามองมากๆ ครับ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาปั่นแทนไอเสีย มันคงจะช่วยลดอาการรอบูสต์ได้ ถึงแม้ตอนนี้จะมีเทอร์โบแปรผันก็เถอะ คงจะมันน่าดู อยากปรับบูสต์เป็นเท่าไหร่ก็เลือกได้ดั่งใจ ตั้งแต่รอบต่ำ ไปหาสูง ป๊าดดดด อยากเห็นเร็วๆ ;D
-
ถ้าเป็นตัวผม ยังชอบอะไรที่เป็น เดิมๆ ไม่ต้องไฟฟ้า กลัวเวลามีปัญหาจะร้องไห้จุกอก ขอแค่ กระจกไฟฟ้าพอเพราะมันปรับง่าย ยิ่งความซับซ้อนน้อยก็ยิ่งประหยัดตังเวลาซ่อม จี้จุดปัญหาได้ไง
-
ผมชอบของเดิมๆมากกว่า
ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าไฟฟ้า ซ่อมยาก แพง M/A ลำบาก แต่อาจจะดีกว่าในหลายๆเรื่อง
-
กำลังนึกถึง super charger ของ hks ที่เป็นแบบโข่งเหมือนเทอร์โบ
ถ้าเอามอเตอร์มาปั่นแทน ก็น่าจะสะดวกตรงที่ไม่ต้องเดินท่อไม่ต้องลากสายพาน มอเตอร์ก็ใช่จะแพงหรือซ่อมยาก... แต่ปัญหาก็ตรงตัวคอนโทรล์นี่แหละ ยุ่งยากแน่นอน...
-
;D ;Dน่าจะดีกว่าตรงที่ไม่รอรอบนี่ล่ะครับ ::) ::)
-
เห็นบูตส์ติดที่ 1000 rpm
-
ราคาค่าซ่อมจะเท่าไหร่ครับเนี่ย ขนาดพัดลมไฟฟ้ารถยุโรป ราคาก็ไม่ธรรมดาแล้ว
-
อนาคตวันข้างหน้า เทอร์โบไฟฟ้าคงมาแทนทีเทอร์โบที่ใช้แรงจากไอเสียมาปั่นที่มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง
คหสต อยากให้มีแบบนี้บ้าง ไม่รู้ค่ายไหนคิดจะเอาใช้บ้าง
เทอร์โบไฟฟ้า ก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้ามาปันสร้างแรงอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ แบบไม่ต้องรอรอบ มาทันทีที่กดคันเร่ง มอเตอร์ก็ทำงานทันที
บางที เครืื่อง 3 สูบ 1-1.2 ลิตร ในอนาคต ถ้าใส่เทอร์โบไฟฟ้าอาจแรงได้ถึง 200-250 แรงม้า แรงบิดมาเต็มๆแบบเครื่อง V 6
แรงบิดในรอบต่ำถึงสูงมีให้ใช้ตลอด กดเป็นมา ถ้าเกิดมอเตอร์หมุนด้วยความเร็วคงที่ตลอดเวลา อาจจะ 1 แสนรอบต่อนาทีขึ้นไปก็ำได้ สร้างแรงอัดอากาศได้ตลอด
แบบนี้ปลายไม่มีตกต้นไม่อืด คิดดูจะขับขี่มันแค่ไหน เราอาจไม่รู้จักเทอร์โบแบบไอเสียมาปั่นไปเลยก็ได้ แต่ว่าแล้วใครจะกล้าเอาแทนเทอร์โบแบบธรรมดา
เห็นมีชุดคิดขายตามเวปต่างๆเยอะพอสมควร แต่คุณภาพและการทำงาน ยังห่างไกล Audi BMW ทำอยู่เยอะครับ
BM เปิดตัวไปแล้วนิครับ เครื่อง3สูบ แต่ทำได้ถึง 200ม้า ถ้าจำไม่ผิดฟังมาจากรายการ speedtalk นะครับ
-
อนาคตวันข้างหน้า เทอร์โบไฟฟ้าคงมาแทนทีเทอร์โบที่ใช้แรงจากไอเสียมาปั่นที่มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง
คหสต อยากให้มีแบบนี้บ้าง ไม่รู้ค่ายไหนคิดจะเอาใช้บ้าง
เทอร์โบไฟฟ้า ก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้ามาปันสร้างแรงอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ แบบไม่ต้องรอรอบ มาทันทีที่กดคันเร่ง มอเตอร์ก็ทำงานทันที
บางที เครืื่อง 3 สูบ 1-1.2 ลิตร ในอนาคต ถ้าใส่เทอร์โบไฟฟ้าอาจแรงได้ถึง 200-250 แรงม้า แรงบิดมาเต็มๆแบบเครื่อง V 6
แรงบิดในรอบต่ำถึงสูงมีให้ใช้ตลอด กดเป็นมา ถ้าเกิดมอเตอร์หมุนด้วยความเร็วคงที่ตลอดเวลา อาจจะ 1 แสนรอบต่อนาทีขึ้นไปก็ำได้ สร้างแรงอัดอากาศได้ตลอด
แบบนี้ปลายไม่มีตกต้นไม่อืด คิดดูจะขับขี่มันแค่ไหน เราอาจไม่รู้จักเทอร์โบแบบไอเสียมาปั่นไปเลยก็ได้ แต่ว่าแล้วใครจะกล้าเอาแทนเทอร์โบแบบธรรมดา
เห็นมีชุดคิดขายตามเวปต่างๆเยอะพอสมควร แต่คุณภาพและการทำงาน ยังห่างไกล Audi BMW ทำอยู่เยอะครับ
BM เปิดตัวไปแล้วนิครับ เครื่อง3สูบ แต่ทำได้ถึง 200ม้า ถ้าจำไม่ผิดฟังมาจากรายการ speedtalk นะครับ
ใช่ครับ BM เผยแล้ว 3สูบ + โบ
-
รอบต่ำทำงานด้วยไฟฟ้า รอบสูงตัดการทำงานของไฟฟ้า ไปใช้ไอเสียแทน
ผมว่ามันเหมือน supercharge แค่ไม่ใช้สายพานขับเท่านั้นเองครับ
-
มาใหม่ๆใครๆก็ขยาดกลัวกันทั้งนั้น แต่พอนานวันไปก็จะกลายเป็นของธรรมดา สมัยก่อนตั้งแต่สมัยนเครื่อ
งคาร์บูเรเตอร์มาเป็นหัวฉีดคนก็พูดกันว่าไม่ทนทานเดี๋ยวก็พัง แต่ตอนนี้คาร์บูเรเตอร์ไม่มีในรถใหม่แล้ว กล่อง ECU ที่อยู่ในห้องเครื่องร้องร้อนทั้งชื้นเองก้เป็นระบบวงจรไฟฟ้าเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีกันเกลื่อนเยอะแยะ :)
-
เทอรโบไฟฟ้า มันใช้กับรอบต่ำให้มีแรงบิดสูงขึ้นครับ นั่นก็คือ ตัวโข่งมันหมุนรอบไม่กี่พันกี่หมื่นรอบ เอามาทดแทนเทอร์โบจริงๆ ยังไม่ได้หรอกครับ หามอเตอร์ที่ปั่นรอบขนาดนั้นต้องใช้พลังงานสูงมาก และมอเตอร์ต้องทนมากๆ
-
แค่ กระจก ปรับไฟฟ้าเสีย ยังซ่อมอ้วกแตกเลยครับ
อันนี้ ถ้ามาแล้วเสีย ไม่อยากคิด
-
อยากเห็นลงรถจริงๆ
-
มาใหม่ๆใครๆก็ขยาดกลัวกันทั้งนั้น แต่พอนานวันไปก็จะกลายเป็นของธรรมดา สมัยก่อนตั้งแต่สมัยนเครื่อ
งคาร์บูเรเตอร์มาเป็นหัวฉีดคนก็พูดกันว่าไม่ทนทานเดี๋ยวก็พัง แต่ตอนนี้คาร์บูเรเตอร์ไม่มีในรถใหม่แล้ว กล่อง ECU ที่อยู่ในห้องเครื่องร้องร้อนทั้งชื้นเองก้เป็นระบบวงจรไฟฟ้าเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีกันเกลื่อนเยอะแยะ :)
เห็นด้วย
เมื่อก่อน ซูบารุมาเมืองไทยด้วยรถขับเคลื่อนล้อหน้า ติดตัวหนังสือ เบ้อเริ่มท้ายรถ
FRONT WHEEL DRIVE ผมยังจำแม่น ช่างอู่รุ่นใหญ่ (สมัยนั้น) พูดเลย โธ่ มันคิดยังไงของมันวะ
ทำมาแบบนี้ ใช้ไม่นานก็พัง จะไปซ่อมยังไง เพลา เครื่อง เกียร์อยู่รวมกัน คนคิดมัน................หรือเปล่าวะ
ผ่านมา 25 ปี ก็เป็นอย่างที่เห็น ขับหน้าทุกยี่ห้อ เหอๆๆๆ
-
เทอร์โบไฟฟ้า มันปั่นบูสสูงตลอดเวลาไม่ได้หรอกครับ อย่าลืมว่า Compressor กินไฟเยอะมากๆ จะเอาไฟที่ไหนไปป้อนให้มัน
Audi ถึงต้องยังมีเทอร์โบปกติอยู่ไงครับ เพื่อใช้ตอนรอบสูงตามปกติ
ถ้าจะให้ไฟกับ เทอร์โบไฟฟ้าได้มากพอ ก็ต้องมีแบตใหญ่มากๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ใส่มอเตอร์ไฟฟ้าไปเลยดีกว่า เพราะการส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเทียบกับเทอร์โบ มันก็เหมือน เกียร์ธรรมดา กับ เกียร์ออโต้ การสูญเสียกำลังมาันน้อยกว่าเยอะ
มันไม่ง่ายขนาดว่า ใช้เทอร์โบปั่น เอาแรงๆอย่างงั้นหรอกครับ ไม่งั้นรถแบบนี้คงออกมานานแล้ว
-
เริ่มมีแล้วกับฝีมือคนไทย มอเตอร์หมุนได้เกินแสนรอบ (https://www.facebook.com/PhonAutotech)
(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1231453_619307648109609_344796386_n.jpg)
-
"จากประสบการณ์ตรงที่เคยใช้เทอร์โบไฟฟ้า"
เมื่อก่อนเคยใช้เทอร์โบไฟฟ้าฝีมือคนไทย(ยี่ห้อข้างบนนี้) กับ Hyundai Tiburon 2.0 MT & Civic FD 2.0 AT
ขอแชร์ให้ฟัง(เทอร์โบไฟฟ้ารุ่นเมื่อ 4-5 ปีก่อน)
ตอนใช้กับ Tiburon 2.0 ใส่แล้วรู้สึกได้เลยว่ารอบต่ำเครื่องมีกำลังมากขึ้นอย่างชัดเจน เพราะ เทอร์โบไฟฟ้าปั่นอากาศเข้ามารอที่ไอดี รอกลางกำลังต่อเนื่อง รอบสูงรู้สึกเฉยๆ เรื่องความแรงในรอบต่ำถือว่าตอบโจทย์ อารมณ์เหมือนน้องๆซุปเปอร์ชาร์ต(เฉพาะรอบต่ำ) เรื่องประหยัดน้ำมันอาจมีผลดีขึ้นบ้างเล็กน้องเพราะกดคันเร่งลดลงแรงมามากขึ้น(รอบต่ำ)
ตอนใช้กับ Civic FD กลับผลตรงข้ามกัน รอบต่ำรู้สึกเฉยๆ(เหมือนจะแรงขึ้นมานิดเดียว) รอบกลางเฉยๆมากๆรอบปลายแรงตก จากการวิเคราะห์คิดว่าเพราะ Civic 2.0 เป็น K20Z2 มี iVtec ช่วยทำงานรอบสูงอยู่แล้วตัวเทอร์ไฟฟ้า(ในยุคนั้น 4-5ปีที่แล้ว) ปั่นอากาศเข้าได้ไม่ทัน iVtec ทำงาน ทำให้กลับไปขวางทางลมแทน มีการขึ้นไดโนวัดแรงมากผลออกมาแบบนั้นจริงๆ
สรุป ตามประสบการณ์ตรง
ข้อดี
เทอร์ไฟฟ้าช่วยในรอบต่ำและรอบกลาง ได้ดีในระดับนึงสำหรับรถที่มีเครื่องไม่ใหญ่ ต่ำกว่า 1,800cc ลงมา(2.0คงไม่รู้สึกเพราะเครื่องฉลาดขึ้นกว่าเมื่อก่อน) และดีสำหรับเครื่องที่ไม่มีวาร์วแปรผันคอยช่วย (ซึ่งปัจจุบันหลายค่ายก็ใส่ของตัวเองมากับเครื่องเพื่อช่วยอยู่แล้ว) ผมขายต่อเพื่อนสมัยนั้นไปใส่ ซีเดีย 1.6AT รู้สึกวิ่งดีขึ้นในรอบต้ำชัดเจนในสมัยนั้น ประหยัดน้ำมันขึ้นระดับนึง เพราะกดแรงก็มาเลย
ข้อด้อย
เทอร์โบไฟฟ้าสามารถสร้างแรงลมมารอที่ลิ้นไอดีได้ในระดับนึง แต่ไม่สามารถสร้างบูทได้ เครื่องรุ่นใหม่ๆรอบปลายใส่แล้วอาจแรงตก
ปล.ข้อมูลทั้งหมดเป็นการใช้กับตัวเอง ในรุ่นเมื่อ 4-5 ปีก่อน ณ ปัจจุบันอาจพัฒนาขึ้นได้ดีกว่าเดิมรึเปล่าไม่แน่ใจเพราะไม่ได้อัพเดตมานานแล้ว