Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: seamonkey ที่ ตุลาคม 02, 2012, 15:04:07
-
วันนี้ผมลองเอาของข้อมูลของพวกนํ้ามันเครื่องหลายยี่ห้อมาเทียบกันดูเพราะสงสัยว่ามันต่างกันมาขนาดไหน ดูตามตารางข้างล่างครับ
Brand Viscosity@40c(cSt) Viscosity@100c(cSt) Viscosity index Flash point (C) HTHS Viscosity@150c(cP)
PTT 0W-40 n/a 13.1 183 242 n/a
Mobil 1 0W-40 75 13.5 185 230 3.8
Valoline 0W-40 73 13.3 183 226 n/a
Shell 0W-40 75.2 13.6 n/a 215 3.68
Castrol 0W-40 79.3 13.5 n/a n/a 3.7
Viscosity ความหนืด ยิ่งเลขมากก็ยิ่งหนืดมาก
Viscosity index ถ้าเลขน้อย ความหนืดจะลดลงมากเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น, ถ้าเลขมาก ความหนืดจะลดลงน้อยเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
Flashpoint อุณหภูมิตํ่าสุดที่สารจะระเหยแล้วสามารถติดไฟได้ ยิ่งมากยิ่งดี
High-temperature high-shear-rate (HTHS) viscosity is an indicator of an engine oil's resistance to flow in the narrow confines between fast moving parts in fully warmed up engines. The most common test for this is ASTM D 4683 as it closely mimics the conditions found in an engine's crankshaft and connecting rod journal bearings, as well as other narrow regions such as between the cam and follower on flat bucket tappets. This measurement influences such factors as fuel consumption, valve-train wear and bearing protection.
ที่อยากให้ดูก็คือ ต่อให้นํ้ามันเครื่องเกรดเดียวกันก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ ดังนั้นเวลาเลือกซื้อก็ลองดูข้อมูลแบบละเอียดดูครับ อาจจะช่วยอธิบายว่านํ้ามันเครื่องแต่ละยื่ห้อแต่ต่างกันอย่างไร
http://www.mobil.com/USA-English/Lubes/PDS/GLXXENPVLMOMobil_1_0W-40.aspx (http://www.mobil.com/USA-English/Lubes/PDS/GLXXENPVLMOMobil_1_0W-40.aspx)
http://pttweb2.pttplc.com/weblub/Files/Lube/attach/157_tPDS.pdf (http://pttweb2.pttplc.com/weblub/Files/Lube/attach/157_tPDS.pdf)
http://www.valvolineeurope.com/english/products/engine_oils/synpower/cid(611)/synpower_0w-40/product-information (http://www.valvolineeurope.com/english/products/engine_oils/synpower/cid(611)/synpower_0w-40/product-information)
http://www.epc.shell.com/Docs/GPCDOC_GTDS_Shell_Helix_Ultra_0W-40_(SN_CF_A3_B4)_(en)_TDS_v2.pdf (http://www.epc.shell.com/Docs/GPCDOC_GTDS_Shell_Helix_Ultra_0W-40_(SN_CF_A3_B4)_(en)_TDS_v2.pdf)
http://www.castrol.com/liveassets/bp_internet/castrol/castrol_australia/STAGING/local_assets/downloads/e/EDGE0W40_B1971_05.pdf (http://www.castrol.com/liveassets/bp_internet/castrol/castrol_australia/STAGING/local_assets/downloads/e/EDGE0W40_B1971_05.pdf)
-
เวลาทดสอบดู PTT ก็ได้คะแนนไม่ได้ขี้เหร่มาก
แต่ทำไมเวลาใช้แล้วหลายคนบ่นด่า น่าแปลกใจ
แต่ผมก็ไม่ได้ใช้..
-
ผมว่าต่างค่อยข้างเยอะนะครับ โดยเฉพาะ Viscosity ที่ 100c
ถ้าใช้กับรถบ้านที่ขับแบบทั่วไปก็ไม่น่ามีปัญหา พ่อผมก็ใช้อยู่ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ท่านขับรถแบบไม่เร่งมากแล้วก็เปลี่ยนตามเวลา
แต่ถ้าพวกรถแต่งนี้อาจจะมีปัญหาเพราะ Viscosity@100c ตํ่าและ Viscosity index ก็ตํ่าด้วย ทำให้ที่อุณหภูมิสูงนํ้ามันจะเสียความหนืดเยอะเกินไป
-
เมื่อก่อนผมเคยดูพวกนี้เยอะครับ แต่ว่าต้องดูแหล่งผลิตด้วยครับว่ามันเป็นน้ำมันผลิตที่นั้นรึเปล่า
เคยใช้vavolineสมัยนำเข้ามาบรรจุไทยผลิตอเมริกา มันใช้ดี พอมาผลิตในไทยมันกินน้ำมันเครื่อง
ตอนนี้ผมเลยต้องซื้อน้ำมันนำเข้าครับเพราะพอมีข้อมูลบ้าง และที่ใช้อยู่ยังไม่เจอปัญหาแบบที่เจอกับvavolineอีก
-
น้ำมันความหนืดเดียวกันค่ามันก็ต้องออกมาเท่าๆกัน
แต่คุณภาพเวลาใช้งานจริงมันอีกเรื่องนึง
-
อย่าไปคิดมากเลยครับ ดูไว้เป็นข้อมูลก็พอ
ผมเทใจให้ 2 ยี่ห้อ คือ Castrol กับ Mobil1
Shell ไม่เคยลองแต่เห็นว่าดีเหมือนกัน
แต่ถ้าเอาคุ้มๆ ราคาถูกๆ ปตท ก็ได้ครับ ถ้าขับไม่เกิน 5-6 พันรอบ ปตท ก็เหลือๆแล้วครับ
-
ที่แน่ๆเปลี่ยนจากของ 0 เป็นของ ปตท ลื่นขึ้นเยอะเลย ฮาาา
เห็นในเวปบอกว่าไม่ค่อยดี ไว้รอบหน้าจะลองยี่ห้อเทพดูครับน่าจะได้ความรู้สึกเดียวกับ
ตอนเปลี่ยนจากของ 0 เป็นของ ปตท ;D
-
ค่าเหล่านี้เป็นค่ามาตรฐานครับ เป็นค่าที่ตรวจวัดทันทีทันใด จะเห็นว่าทุกยี่ห้อก็ใกล้เคียงกัน (ถ้าน้ำมันเกรดเดียวกัน เบอร์เดียวกัน)
แต่การใช้งานจริง ไม่เหมือนกันนะครับ เกิน 1,000 -2,000 กม. ค่าเหล่านี้มันจะเปลี่ยนไปในบางยี่ห้อ อุ๊บ... ไม่พูดต่อดีกว่า ;D
-
ที่เค้าบอก ptt ไม่ค่อยดี ผมเหนเค้าบ่นกันว่า ใช้ไปซักพักน้ำมันสูญเสียคุณสมบัติการรักษาความหนืดในอุณภูมิสูงครับ ซึ่งไม่มีการทดสอบให้ดูแน่นอน
ปล. ผมดูมานะครับ เคยใช้แต่ผมไม่เห็นความต่างเท่าไหร่ แต่ตอนเปลี่ยนใหม่จะรู้สึกได้ชัดเจน
-
โรงโม่หินที่ผมเคยทำอยู่มีเครืื่องจักรที่ใช้น้ำมันเครื่องค่อนข้างเยอะ เขาจะมีการส่งน้ำมันเข้า LAB ครับ
น้ำมันยี่ห้อที่ดี ทนทานความร้อน รักษาความหนืดได้คงที่ ไม่ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย มีแค่สองยี่ห้อ
นอกนั้นใช้ได้แค่ครึ่งอายุของยี่ห้ออื่น
แต่นะครับ เครื่องจักรทำงานหนักมาก ๆครับ วิศวะเขาประเมิณไว้ว่าถ้าเป็นรถยนต์ คงราว ๆ 50000 km ถ่ายน้ำมันเครื่องออก ครั้งนึง
แสดงว่า ยี่ห้อถูก ๆ ก็ยังวิ่งได้ 25000 Km เลยครับ
-
ค่าเหล่านี้เป็นค่ามาตรฐานครับ เป็นค่าที่ตรวจวัดทันทีทันใด จะเห็นว่าทุกยี่ห้อก็ใกล้เคียงกัน (ถ้าน้ำมันเกรดเดียวกัน เบอร์เดียวกัน)
แต่การใช้งานจริง ไม่เหมือนกันนะครับ เกิน 1,000 -2,000 กม. ค่าเหล่านี้มันจะเปลี่ยนไปในบางยี่ห้อ อุ๊บ... ไม่พูดต่อดีกว่า ;D
อุ๊บ นึกว่าจะพูดต่อ ;D
-
ตัวเลขพวกนี้ ดูแล้วพาลจะงง ซะเปล่าๆ
ผมดูตัวเลขพวกนี้ แล้วลองน้ำมัน Eneos กับ Mobil1 ตัว 0W40 ทั้งคู่
ถ้าอ้างอิงจากตัวเลข Eneos น่าจะเหนือกว่า แต่หลังจากลองด้วยตัวเอง พบว่า
ช่วงแรก 0-5,000 ก.ม. ลื่นดีทั้งคู่ แทบไม่แตกต่างกัน
ช่วง 5,000 - 10,000 ก.ม. Mobil1 ลื่นกว่านิดๆ
10,000 ก.ม. ขึ้นไป Mobil1 ลื่นกว่าชัดเจนมากครับ (ผมลองถ่ายน้ำมันเครื่องด้วยการลองจนถึง 1.2 หมื่น ก.ม.ครับ)
ส่วนเสียง ผมว่าMobil1 เครื่องจะเรีบบกว่านิดหน่อยครับ
แต่ด้วยได้ราคา Eneos ถูกกว่ากันพอสมควร ก็เพียงพอที่จะทำให้ตัดสินใจใช้ Eneos ต่อไปก่อน(ซื้อไว้ 4 แกลอน)
-
ที่บ้านใช้แต่ PTT มาตลอดเลยครับ