Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mOOzZ ที่ พฤศจิกายน 05, 2012, 14:22:46
-
ถ้าสมมติรถติด 5-10นาทีนี่ ดับเครื่องรอให้ไฟเขียวแล้วค่อยสตาร์ทใหม่ จะประหยัดกว่าสตาร์ททิ้งไว้รึเปล่าครับ
พอดีสงสัย อาจจะต้องใช้เวลาน้ำมันใกล้หมดมากๆ ;D
-
ผมทำนะ ประหยัดจริงแต่ร้อน -*- ส่วนใหญ่จะแบบเห็นไกลๆเลยว่าไม่ขยับแน่ๆ แต่ถ้าไม่ชัวร์ผมเบาแอร์เข้า N
-
ผมว่า 5 นาที ดับเครื่อง ประหยัดนะครับ พอดีรถมี start stop วิ่งในเมืองรถติดๆ พอติดปั้บดับเลย
พอเทียบกับ อาทิตย์ไหนที่ปิดระบบ start stop รู้สึกประหยัดกว่าเลยนะครับ
ระยะทางที่วิ่งปะจำ ประมาณ 16 กิโล ใช้เวลา 1ชั่วโมงนิดๆ เห็นความต่างของระบบ start stop
แต่ที่กลัว คือ ดับๆ ติดๆ บ่อยๆ เครื่องอาจจะมีปัญหาในระยะยาว เลย ยอมให้มันกินน้ำมันดีกว่า T _ T
-
อย่าลืมค่าเสื่อมของเครื่องยนต์ ไดสตาร์ท ด้วยนะครับ
ยังสตาร์ทรถบ่อย ก็ยิ่งเสื่อมเร็วขึ้น
-
รู้สึกพวกรถไฮบริดนี่จากใช้มอเตอร์ start แล้ว คงไม่มีปัญหาเรื่องได แต่พวก มาช อามิร่า นี่ไม่แน่ใจเหมือนกัน
-
ผมว่าปิดแอร์ก็ข่วยประหยัดพลังงานได้แล้วนะครับ
-
ผมว่าแค่ ปิดแอร์พอนะครับ ถ้าน้ำมันหมด
รถอีโคที่มีโหมด start stop ผมไม่แน่ใจ ว่ามี แบทแยกออกไปไหม เพราะเวลาเข้าโหมด แอร์ กับ ไฟฟ้าทุกอย่างยังทำงานอยู่ ถ้าไม่มี รับรอง แบทตารี่เปลี่ยนบ่อยหรือ เสื่อมง่ายแน่นอนครับ
ส่วนถ้าเป็น รถยุโรป เบนซ์ บีเอ็ม เห็นมีวางแบทไว้อีกลูกท้ายรถเผื่อระบบนี้ แต่ก็นั่นอีกแหละ โหมดนี้ใช้ดี แต่เครื่องจะทนไหวไหมผมไม่รู้ เมืองไทยถนนไม่เหมือนชาติใดในโลกซักเท่าไหร่ ติดๆ ขยับๆ
-
เห็นใครเคยบอกแค่13วิก็ประหยัดกว่าแล้ว
-
ถ้ารถระบบไฮบริดกับรถอีโคที่มีระบบStrat stop มันคงไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ถ้ารถทั่วไปที่ใช้กุญแจบิดไดชาร์จจะงอแงก่อนเพื่อนหรือหนักหน่อยก็น้ำมันท่วมเสื้อสูบ แต่ละอย่างนึกภาพแล้วปวดหัว
-
แล้วแต่รถนะครับ
อย่างรถผมในคู่มือมันบอกเลย ว่าเดินเครื่องเบา 30-40 วินาที กินน้ำมันมากกว่า สตาร์ทรถครั้งนึ
--
มาอ่านอีกที คำถามคือ 5-10 นาที ถ้าอย่างนั้น ประหยัดแน่ ๆ ครับ ดับเครื่องไปคุ้มอยู่แล้ว
-
ประหยัด แต่เหงื่อตกกีบแน่นอน
ผมดับเครื่องแค่กรณีเดียวคือ ไม่ทราบสาเหตุของการติด กับเจอขบวนฯ
ซึ่งหลังๆเจอน้อยลงกว่าสมัยก่อนตั้งแต่มีรับสั่งให้กั้นแค่ 5 นาที
-
โดยทั่วไป เครื่องยนต์ พร้อมแอร์ เมื่อทำงาน คิดเป็นค่าใช้จ่ายโดยรวม นาทีละ 2 บาท เป็นพื้นฐาน
นอกจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังมีค่าเสื่อมการสึกหรออื่นๆรวมอยู่ด้วย เช่น น้ำมันเครื่อง,สายพาน,เครื่องยนต์,แอร์,ฯลฯ ที่กำลังทำงานอยู่ ทุกชิ้นส่วน
ติดนานเท่าไร ก็คิดเป็นเงินคูณเข้าไป เช่น 10 นาที ก็ 20 บาท
สัดส่วนมาก/น้อย คิดเป็นเงินเท่าไร ก็คำนวณเพิ่ม/ลด เองแล้วแต่ รุ่นของรถ และ รุ่นของเครื่องยนต์
ถ้าดับเครื่อง
ก็จะ ร้อน เหงื่อตกกีบ !!!
ถ้าร้อน ก็เปิดกระจกซิ
สิ่งจะเสียหายจากการดับเครื่องและติดเครื่องบ่อยก็คือ ไดสตาร์ท
แต่ ไดสตาร์ท ถ้าเสีย ก็สามารถซ่อมได้
สมัยก่อน ผมเคยประหยัดยิ่งกว่านั้นคือ ตอนรถติดๆ ไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน
ไฟหน้าผมก็ดับ กลัวโคมปรอทเสื่อมเร็ว และพลาสติกไฟหน้าหมอง
ที่ปัดน้ำฝนยังปิดเลย กลัวมอเตอร์ และยางพังเร็ว
โดยสรุป
ถ้าติดนานเกิน 3 นาทีดับเครื่องยนต์ ประหยัดกว่าแน่นอน
ไม่งั้น รถรุ่นใหม่ๆ ที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว จะมี Idle Stop ใส่มาให้ทำไมล่ะจ๊ะ
-
ผมกลัวไดสตาร์ทพังก่อนวัยอันควรครับ ;D
-
ผมว่า 5 นาที ดับเครื่อง ประหยัดนะครับ พอดีรถมี start stop วิ่งในเมืองรถติดๆ พอติดปั้บดับเลย
พอเทียบกับ อาทิตย์ไหนที่ปิดระบบ start stop รู้สึกประหยัดกว่าเลยนะครับ
ระยะทางที่วิ่งปะจำ ประมาณ 16 กิโล ใช้เวลา 1ชั่วโมงนิดๆ เห็นความต่างของระบบ start stop
แต่ที่กลัว คือ ดับๆ ติดๆ บ่อยๆ เครื่องอาจจะมีปัญหาในระยะยาว เลย ยอมให้มันกินน้ำมันดีกว่า T _ T
อันนี้ไม่ต้องกลัวครับ ออกแบบมาแล้ว
-
ตอนติดเครื่องรถใหม่ๆ สึกหรอพร้อมทั้งกินน้ำมัน
แต่ถ้าเห็นขึ้นมา 240-300 วินาที ตอนจอดติดไฟแดง ผมก็ดับเครื่องครับ
ดับเครื่อง 1 นาทีเป็นอย่างต่ำ ถึงจะคุ้มกับ Idle Time ที่เสียไป
ยิ่งเครื่องใหญ่ ยิ่งชัด
-
ประหยัดและคุ้มค่ากว่าแน่ๆ ขนาดตุ๊กๆติดแก๊สพี่เค้ายังดับบ่อยๆเลย แต่ผมคงไม่ใช้วิธีนี้หรอกครับเผอิญเป็นคนขี้ร้อน
-
ผมใช้วิธีปิด A/C แอร์ เวลารถติดๆ จะได้ไม่ถึงกับเหงื่อตก
-
ประหยัดกว่าแน่นอน ถ้าไม่ร้อน ไดร์สตาร์ทไม่ได้เสียค่าไฟ
-
หึหึ เมือวานเจอไฟแดงแยกเดียวไป 9 นาที 5 วินาที
ถ้าไม่ได้ดับเครื่องคงเปลืองแย่