Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Monn ที่ พฤศจิกายน 29, 2012, 22:40:30
-
พอดีแฟนเปลี่ยนใจจาก ดาว เป็น ใบพัด
เลยโทรไปหาเซลส์เดิมที่เคยติดต่อไว้ เขาบอกว่า มี 320i เข้ามา เบนซิน 2.0 แรงม้า 184 เท่าดีเซล แต่แรงบิดคงไม่เท่าแน่ๆ
เป็นเครื่องรุ่นล่าสุด twin turbo เหมือนกัน ทุก option เหมือน 320d เป๊ะๆ แค่เปลี่ยนเครื่อง แต่หาข้อมูลยังไม่มี
ที่สำคัญ ราคา 2.679m ซึ่งถูกกว่า ดีเซล 2.2 แสน ถึงประหยัดน้ำมันกว่า แต่หาก 2.2 แสนคำนวนแล้วก็ต้องวิ่ง 1.5 แสนโลถึงจะคุ้ม
เลยค่อยข้างโดนใจ มีใครมีข้อมูลเพิ่มเติมไหมครับ ขอบคุณครับ ;D
-
ข้อมูลที่คุณมีถูกต้องแล้วครับ รับรถถ้าจำไม่ผิดต้นปีหน้า เมื่อวานถามหลายรุ่น ไม่รู้จำสลับหรือเปล่า แต่ 328i นี่ประมาณเดือนสี่
ส่วนคุ้มไหมอันนี้แล้วแต่ครับ ถูกกว่าเยอะ ม้าเท่ากัน แต่ฟีลการขับเชื่อว่าต่างกันเยอะ แต่ยังไงไปลองขับดูก่อนครับ
เพราะตอนที่บ้านซื้อ E90 ก็ลอง 318i 320i แต่ซื้อ 320d แต่ตอนนี้ 320i มี turbo แล้วก็คงดีขึ้นมาก
-
แรงบิดของ 320i อยู่ที่ 270นิวตัน-เมตร มันไม่เท่า 320d ที่ 380นิวตัน-เมตร แน่ๆครับ เพราะแรงบิดของดีเซลจะมากกว่าเบนซินอยู่แล้ว เบนซิน270 ดีเซล380 นี่ผมว่าเป็นแรงบิดไล่เลี่ยกันน่าดูนะครับ เราไม่มองที่ตัวเลขมันต่างกันขนาดนี้นะ เพราะมันเป็นเบนซิน แต่270ของเบนซินนี่ผมว่าเยอะเอาเรื่องเลย และแรงบิดระดับ270นิวตัน-เมตร ของ320i ผมว่า 0-100 ก็ไม่เป็นรอง320dเท่าไหร่ หรือถ้าอืดกว่า คงไม่เกิน 0.5-1.0วิ แน่ๆครับ
ส่วนตัวตอนนี้ผมใช้ 320dอยู่ครับ อยากบอกว่าเด็ดมาก ถังเดียว57ลิตร ล่อไปได้เกือบ1200โล แถมแรงโครต(สำหรับผมที่เคยขับ FD 2.0 MC มาก่อน) สำหรับผมไม่มีทางหวนกลับไปเล่นเบนซินอย่างแน่นอนครับ ^^ ;D ;D
-
ออพชั่นน่าจะเท่ากันนะครับ ส่วนต่างถ้าคำนวนแล้วคุ้มกว่าก็เอาเบนซินเถอะครับ
ดีเซลแรงบิดเยอะ แต่รอบมันตันที่ 4000 กว่าๆเองครับ คือจะดึงแรงแต่รอบมันแปปเดียวตัดอ่ะครับ
เบนซิน แรงบิดน้อยกว่าแต่นิ่งลากรอบแรงยิ่งมาครับ เครื่องของ BMW รอยค่อนข้างจัดอยู่แล้วครับ เหยียบมันส์ เร้าใจแน่นอนครับ
เสียงเครื่องเบนซินจะเพราะกว่า แต่ดีเซลเสียงก็ใช้ได้นะครับ คือไม่ดังน่ารำคาญ เวลากดเสียงจะออกทุ้มๆหน่อย ไม่ใช่แบบครืนๆเหมือนดีเซลทั่วไปอ่ะครับ(แต่ข้างนอกดังอยู่)
เอาเป็นว่า ยังไงดีเซลและเบนซิน เงียบ+เรียบกว่าแน่นอน แต่ดีเซลก็ยังเงียบ+เรียบกว่า camry ผมซะอีก ต้องชมเลยนะครับว่าเก็บเสียงได้ดีมากๆ
สรุปถ้าจะเอาดึงแรงๆ หลังติดเบาะ ดีเซลครับ ถ้าชอบลากรอบ เสียงเพราะๆ เบนซินครับ
ส่วนต่างราคาน่าจะคุ้มทุนแค่ประมาณระยะนึงนะครับ การดูแลรักษาหลัง BSI หมด เบนซินจะมากกว่าครับ
-
เบนซิน ทวิน เทอรฺ์โบหรอเนี่ย คงแรงน่าดู
-
ข้อมูลตัวรถ ตามที่ผมได้มาก่อนหน้านี้ ก็คือ option จะเหมือนตัว 320d ต่างกันที่ตัวเครื่องยนต์ โดยทั้ง 320i และ 320d จะมีแรงม้า
เท่ากันคือ 184 แรงม้า แต่แรงบิดเครื่องดีเซลจะมากกว่าพอสมควรเลย
เทียบอัตราเร่ง 0-100 ของทั้ง 2 รุ่นนี้ แทบจะเท่ากัน (เหมือน ๆ ว่า 320i จะดีกว่านิดนึง) แต่อัตราเร่ง
ที่ 80-120 km/h 320d จะดีกว่าพอสมควร เพราะได้อานิสงค์จากแรงบิดที่สูงกว่า
การตัดสินใจเลือกซื้อ ก็คงจะอยู่ที่ความชอบส่วนตัว ระหว่างเครื่องเบนซินและดีเซล
เพราะถึง เครื่องดีเซลจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่จะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อใช้วิ่งเกิน 1.5 แสนกิโลขึ้นไปครับ
-
320d เลยครับลวกเพ่
-
เบนซินตัวใหม่ก็ไม่เลวนะครับ แรงบิดก็มี แรงม้าก็มี ถึงจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็โอเคสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ
ถามว่าดีเซลประหยัดกว่าไหม ก็ตอบว่าใช่ ดีเซลแรงว่าไหม ก็ตอบว่าใช่ แต่ถามว่าเงินที่เพิ่มขึ้นไปคุ้มไหม ผมเองก็ไม่แน่ใจ
คำตอบนั้นอยู่ที่ตัวคุณครับ แต่สำหรับผม เลือก 528i มาก็ไม่ผิดหวังครับผม
-
เครื่อง 320i กับ 328i ต่างกันตรงไหนบ้างครับ
-
เครื่อง 320i กับ 328i ต่างกันตรงไหนบ้างครับ
คิดว่าน่าจะเป็นการจูน ECU หละมั้งครับ แต่เมืองนอกม้าต่างกันเกือบ 70 ตัวเลยทีเดียวครับ
ตอนนี้อยากปลดปล่อยม้ามากๆ เลย
-
ขอแชร์ด้วยครับ จากประสบการณ์ที่ลอง 520d vs 520i จะบอกว่า 520d ไม่ได้แรงกว่านะครับเพียงแต่ต้นมาเร็วกว่าและดึงกว่าเลยทำให้รู้สึกว่าแรงกว่า แต่ 520i กลางกับปลายมาดีกว่ามากอ่ะครับ จากตัวเลขที่ bmw ให้มา 0-100 520d 8.1 sec แต่ 520i 8 sec ก็พอกันครับแต่ถ้า 0-200km 520i จะกินอยู่ 3-4 sec นะครับ แต่ผมก็ืเลือก 520d ครับเพราะชอบแรงดึง ;D
-
ต้องถามว่า จขกท.ปรกติใช้งานในเมืองหรือ ตจว. หากใช้ในเมืองเป็นหลักแนะนำดีเซลเลยครับ เพราะต้องเร่งออกตัวบ่อย แรงบิดที่มาเยอะในรอบต่ำของดีเซลจะไม่ค่อยกินน้ำมันดท่าไหร่ ส่วนเบนซินในเมืองจะซดพอสมควรเป็นเพราะบีเอ็มจะเซ็ตเครื่องในแบบแรงตั้งแต่รอบกลางถึงปลาย ยิ่งเหยียบยิ่งใหล วิ่งทางไกลร้อยสี่ร้อยหกสบายๆไม่กินเท่าไหร่
-
ต้องถามว่า จขกท.ปรกติใช้งานในเมืองหรือ ตจว. หากใช้ในเมืองเป็นหลักแนะนำดีเซลเลยครับ เพราะต้องเร่งออกตัวบ่อย แรงบิดที่มาเยอะในรอบต่ำของดีเซลจะไม่ค่อยกินน้ำมันดท่าไหร่ ส่วนเบนซินในเมืองจะซดพอสมควรเป็นเพราะบีเอ็มจะเซ็ตเครื่องในแบบแรงตั้งแต่รอบกลางถึงปลาย ยิ่งเหยียบยิ่งใหล วิ่งทางไกลร้อยสี่ร้อยหกสบายๆไม่กินเท่าไหร่
เห็นด้วยครับ ถ้าชอบเร่งแซงบ่อยๆ กดมา กดมา ดีเซล
ถ้าชอบสาดยาว วิ่งทางไกล ผมว่าเบนซินดูเป็นต่อกว่าครับ
-
อยากให้คิดตรงราคาขายต่อด้วยครับ 2.2 แสนที่ต่างกัน ผมคิดว่าเวลาเบื่อแล้วขายต่อ
320D ขายได้ราคาดีกว่า 320i เกิน 2.2 แสนแน่นอน ลองดู E90 เป็นตัวอย่างครับ 320D ราคาตกน้อยกว่า 320i มากๆๆๆๆๆ
-
เครื่อง 320i กับ 328i ต่างกันตรงไหนบ้างครับ
driveshafts 28mm vs 35mm, exhaust system คนละตัว อัตตราทดไม่เท่ากัน
320i มีดิสเบรคหน้าเล็กกว่า (อันนี้แล้วแต่ประเทศ)
แต่พวก turbo อะไรตัวเดียวกันหมด แต่ 320i ที่จูนแล้วยังไงก็ไม่แรงเท่า 328i ที่จูนแล้ว
ข้อมูลจากเว็ปไซท ตปท ผิดถูกยังไงขออภัยนะครับ
-
ถ้าแคร์เรื่องแรงบิด อัตราเร่งตีนต้น ผมแนะนำซื้อ 320i มาแล้วมาติดตัวเร่งคันเร่งไฟฟ้า ค่าตัวไม่เกิน 1 หมื่นบาท
มหาคุ้มเลยงานนี้...ตีนต้นแรงมากมายแบบดีเซล แต่ก็ได้ตีนปลายแบบเบนซิน...ทั้งหมดในราคาแค่นี้ เบื่อเมื่อไหร่ถอดออกได้ตลอด
แต่เวลาเอาเข้า BSI ก็เตี๊ยมกับศูนย์นิดนึง มีเอาขนมไปฝาก คุยพูดจาปะสาทะบ้าง แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ
....เรื่องจริง ประสบการณ์ตรง ;)
-
เป็นผมเอาเบนซิลครับ จากใจคนใช้Benz เครื่องดีเซล เวลาขับทางยาวๆเร่งรอบสูงๆเนี่ย เบนซิลมันสุนทรีมีสเหน่กว่ากันเยอะ ยิ่งราคาถูกกว่าด้วยแล้ว เบนซิลดีกว่า แต่ตอนที่ผมออกw211 ตอนนั้นคนยังไม่หันมาเล่นดีเซลกัน ราคาเลยถูกกว่าตัวเบนซิล นั่นคือเหตผลที่เลือก คันต่อไป ผมเอาเบนซิลแน่นอน สำหรับรถเก๋งนะครับ
-
อยากให้คิดตรงราคาขายต่อด้วยครับ 2.2 แสนที่ต่างกัน ผมคิดว่าเวลาเบื่อแล้วขายต่อ
320D ขายได้ราคาดีกว่า 320i เกิน 2.2 แสนแน่นอน ลองดู E90 เป็นตัวอย่างครับ 320D ราคาตกน้อยกว่า 320i มากๆๆๆๆๆ
อือม์ ... แต่ 320i vs 320d บน E90 มันก็สมรรถนะต่างกันเยอะน่ะครับ
-
ดีทั้งคู่เลยคับแต่ ปันหาแค่ว่ายังไงน้ำมัน Gasohal ก้แพงกว่า Diesel
-
เบนซินตัวนี้ ผมอ่าน ๆ มาไม่ธรรมดานะครับ
เบนซินไปเลยครับ
-
320i & 328i ต่างที่turboครับ 520d & 525d ก็เช่นกัน
ส่วนตัวที่ใช้ 525d แรงผลักต่างกับ 520d ชัดเจนรู้สึกได้ทั้งตีนต้นและตีนปลาย ปลายจะชัดเจนที่180+จะไปต่อได้ถึง200+ได้ง่ายและเร็ว
แต่ก็จะประหยัดได้ไท่เท่า 520d ถึงแม้จะขับโหมด comfort แบบไปเรื่อยๆในเมืองก็ตาม
โดยส่วนตัวที่ได้ซื้อไปแล้วผมแนะนำ 320i ครับเพราะออปชั่นเท่า 320d แต่ราคาถูกกว่าเก็บส่วนต่างไปเติมน้ำมันน่าจะคุ้มกว่า เรื่องกำลังผมว่าเหลือเฟือแล้วครับ ถึงใช้รถออก ตจว ผมว่าก็เพียงพอเพราะต้องอย่าลืมว่ามีระบบเกียร์ช่วยถ้าต้องการกำลังเร่งแซง ;)
-
อ้างอิงจาก BMW UK
320i 0-60mph 7.3วินาที, อัตราสิ้นเปลือง 44.8mpg
320d 0-60mph 7.5วินาที, อัตราสิ้นเปลือง 61.4mpg
แรงพอกัน แต่ดีเซลประหยัดกว่า 27% :D
-
เคยได้ยินคนในวงการรถที่รู้จัก เลือกขับ BMW เครื่องเบนซิน ด้วยเหตุผลที่ว่า ขายได้ราคาดีกว่า กับ เวลาเครื่องหมดสภาพเบนซินจะเยินกว่า แถมบอกด้วยว่า Bmw ถนัดเครื่องเบนซิน จริงเท็จประการใดครับ
ถ้าเทียบ 320i e90 กับ 320d e90 ดีเซลเจ๋งกว่าเยอะ
แต่ตัวปัจจุบัน f30 มันเป็นทวินเทอโบ ดูแล้ว เบนซินไม่ได้ด้อยเลยใช่มั้ยครับ ผมเข้าใจผิดป่าวครับ
-
เครื่อง 320i กับ 328i ต่างกันตรงไหนบ้างครับ
184 กะ 218 ม้า. 328 i มีแต่รุ่นsport line คับ :D
-
เสียงเครื่องเบนซิลตัวใหม่เพราะดีครับ ทาง BMW ทำให้เสียงออกมาคล้ายๆเครื่อง 6 สูบเรียงด้วย
แค่เสียงเครื่องยนต์ก็ทำให้ผมเลือกตัวเบนซิลแล้ว แถม BMW เบนซิลรุ่นใหม่ๆชอบเคลมแรงม้า/แรงบิดต่ำกว่าความเป็นจริงครับ
320i BMW F30 320i 184PK automatic (http://www.youtube.com/watch?v=JL6DExqvfpw#)
320d BMW 3.20d F30 0-220 (http://www.youtube.com/watch?v=tN11h6vkS84#ws)
-
เสียงเครื่องเบนซิลตัวใหม่เพราะดีครับ ทาง BMW ทำให้เสียงออกมาคล้ายๆเครื่อง 6 สูบเรียงด้วย
แค่เสียงเครื่องยนต์ก็ทำให้ผมเลือกตัวเบนซิลแล้ว แถม BMW เบนซิลรุ่นใหม่ๆชอบเคลมแรงม้า/แรงบิดต่ำกว่าความเป็นจริงครับ
320i BMW F30 320i 184PK automatic (http://www.youtube.com/watch?v=JL6DExqvfpw#)
320d BMW 3.20d F30 0-220 (http://www.youtube.com/watch?v=tN11h6vkS84#ws)
เสียงเจ้า i นี่เสนาะหูกว่า d หลายขุมเลย
-
แล้วค่าบำรุงรักษา i กะ d อันไหนน้อยกว่า และจุกจิกกว่าครับ
-
ข้อมูลตัวรถ ตามที่ผมได้มาก่อนหน้านี้ ก็คือ option จะเหมือนตัว 320d ต่างกันที่ตัวเครื่องยนต์ โดยทั้ง 320i และ 320d จะมีแรงม้า
เท่ากันคือ 184 แรงม้า แต่แรงบิดเครื่องดีเซลจะมากกว่าพอสมควรเลย
เทียบอัตราเร่ง 0-100 ของทั้ง 2 รุ่นนี้ แทบจะเท่ากัน (เหมือน ๆ ว่า 320i จะดีกว่านิดนึง) แต่อัตราเร่ง
ที่ 80-120 km/h 320d จะดีกว่าพอสมควร เพราะได้อานิสงค์จากแรงบิดที่สูงกว่า
การตัดสินใจเลือกซื้อ ก็คงจะอยู่ที่ความชอบส่วนตัว ระหว่างเครื่องเบนซินและดีเซล
เพราะถึง เครื่องดีเซลจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่จะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อใช้วิ่งเกิน 1.5 แสนกิโลขึ้นไปครับ
ผมลองคำนวนดู ตอนแรกใจเอนไปทางดีเซลและคิดว่าจุดคุ้มทุนไม่น่าจะถึง 1.5แสนโล
แต่ที่ไหนได้ พอคำนวนแล้ว เกิน 1.8 แสนโลครับ (คิดที่ V-power diesel & V-power Gasohol 95 และคิดที่อัตราบริโภคน้ำมันที่ 20 และ 14 ตามลำดับ)
ทำให้ลังเลมากครับด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง
ที่ดีเซลได้เปรียบ...
1.ดีเซลเร่งดีกว่า ความเร็วมาที่รอบต่ำน่าจะประหยัดกว่าทั้งความเร็วต่ำและสูง (อีกอย่างผมไม่น่าจะขับเกิน 160 อย่างมากก็ 180 เวลาออกตจว.แบบถนนโล่งมาก)
2.ตัวดีเซลราคาตกน้อยกว่าเบนซิน (สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเดาว่า เป็นเรื่องประหยัดน้ำมันกว่า ทำให้ราคาตกน้อยกว่า)
3.เคยได้ยินว่าเครื่องดีเซลจะทนกว่าเครื่องเบนเซิน ( ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ถ้าทนกว่าแล้วอะไหล่ดีเซลแพงกว่า ก็ไม่น่าจะโอเคนะ)
ที่เบนซินดีกว่า...
1.เสียงที่เงียบ, ไพเราะ , และเหมาะกับความเป็นรถ premium (ว่ามั้ยครับ?)
2.ได้ทุกอย่างเหมือนตัวดีเซล ทั้งเทอโบ ทั้งออพชั่นภายในทั้งหมด ในราคาที่ถูกกว่า
เรื่องราคาตกเฉยๆนะครับ....เพราะผมไม่ขายอยู๋แล้ว แต่คงมีผลกระทบทางจิตใจครับ 5555+
เอาไงดีครับพี่ๆน้องๆ ช่วยผมคิดหน่อยสิครับ ปวดหัวเหลือเกิน T_T
ปล. ขออภัยเจ้าของกระทู้นะครับ แต่เห็นว่าต่อเนื่องกัน (หรือเปล่า?) ^^
-
แล้วค่าบำรุงรักษา i กะ d อันไหนน้อยกว่า และจุกจิกกว่าครับ
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะพอๆ กันครับเพราะยังไงมันก็คือ BMW เหมือนกัน
คันที่ซื้อไปจะเจอ Defect อะไรหรือเปล่า มีอะไรชำรุดหรือไม่
แต่ดีเซลพอนานไปเสียงก็อาจจะดังขึ้นจนไม่สะเนาะหูซึ่งเบนซินจะไม่เป็นแน่นอนครับ
-
แล้วค่าบำรุงรักษา i กะ d อันไหนน้อยกว่า และจุกจิกกว่าครับ
ผมว่าเรื่องนี้น่าจะพอๆ กันครับเพราะยังไงมันก็คือ BMW เหมือนกัน
คันที่ซื้อไปจะเจอ Defect อะไรหรือเปล่า มีอะไรชำรุดหรือไม่
แต่ดีเซลพอนานไปเสียงก็อาจจะดังขึ้นจนไม่สะเนาะหูซึ่งเบนซินจะไม่เป็นแน่นอนครับ
ถ้าดังขึ้นกว่านี้อีก...ไปเบนซินดีกว่า
รอเล่นดีเซลตอนพัฒนาไปกว่านี้ดีกว่า...สำหรับผมนะ 555
ตัวใหม่เบนซินกันให้เทอโบมา....อดเล่นดีเซลเลย T_T
-
ขอสั้นๆ
ผมเชียร์ดีเซลครับ
-
กำลังตัดสินใจเหมือนกันครับ เป็นตัวเลือกใหม่. แต่เพิ่ม x1 20d ด้วย
ลอง 320d แล้วนุ่มดี เครื่องเงึยบขึ้นเยอะครับ แต่พอเก่าไม่แน่
-
จองไปเรียบร้อย โรงเรียน BMW ครับ
ไปลองดีเซลมา ดูจาก spec เบนซินพัฒนาขึ้นมาก แรงบิดมารอบไม่เกิน 2000 ซึ่งเชื่อว่าจะกวาดขึ้นได้ไม่ยากตามสไตล์ BMW ครับ
และในราคาที่ถูกกว่ามากกว่า 2 แสน ด้วย option เท่ากันเป๊ะ ผมจัด เบนซินไปแล้ว ถึงแม้ดีเซลจะประหยัดน้ำมันกว่า
แต่อย่างที่คำนวนกันหนะครับ จะต้องเกิน 1.5 แสนโลแน่ๆ ถึงจะคุ้มทุน เลยไม่เอาดีกว่า
ดีเซลผ่อนแพงกว่า จ่ายน้ำมันน้อยกว่า ส่วนเบนซิน ผ่อนถูกกว่า จ่ายน้ำมันมากกว่า สุดท้าย ต่อเดือนคงเท่ากัน
แต่ผมมองว่า ความเงียบ ก็เป็นปัจจัยนึงที่รู้สึกว่า รถ premium ควรต้องเงียบ หรือไม่ครับ อิอิ จองไปแล้ว ดีสุดละครับ เบนซิน
ที่สำคัญ ได้รถเดือนนี้เลย แม่เจ้า เร็วมาก เตรียมเงินทันป่าวไม่รู้ ต้องแคะกระปุกก่อน 5555
-
จองไปเรียบร้อย โรงเรียน BMW ครับ
ไปลองดีเซลมา ดูจาก spec เบนซินพัฒนาขึ้นมาก แรงบิดมารอบไม่เกิน 2000 ซึ่งเชื่อว่าจะกวาดขึ้นได้ไม่ยากตามสไตล์ BMW ครับ
และในราคาที่ถูกกว่ามากกว่า 2 แสน ด้วย option เท่ากันเป๊ะ ผมจัด เบนซินไปแล้ว ถึงแม้ดีเซลจะประหยัดน้ำมันกว่า
แต่อย่างที่คำนวนกันหนะครับ จะต้องเกิน 1.5 แสนโลแน่ๆ ถึงจะคุ้มทุน เลยไม่เอาดีกว่า
ดีเซลผ่อนแพงกว่า จ่ายน้ำมันน้อยกว่า ส่วนเบนซิน ผ่อนถูกกว่า จ่ายน้ำมันมากกว่า สุดท้าย ต่อเดือนคงเท่ากัน
แต่ผมมองว่า ความเงียบ ก็เป็นปัจจัยนึงที่รู้สึกว่า รถ premium ควรต้องเงียบ หรือไม่ครับ อิอิ จองไปแล้ว ดีสุดละครับ เบนซิน
ที่สำคัญ ได้รถเดือนนี้เลย แม่เจ้า เร็วมาก เตรียมเงินทันป่าวไม่รู้ ต้องแคะกระปุกก่อน 5555
ได้รถเดือนนี้หรอครับ!!!!
ศูนย์ไหนอ่ะครับ สีอะไร ไลน์อะไร? รบกวน PM มาบอกหน่อยได้มั้ยครับ อยากได้ๆๆๆๆ
ยังไม่มีเวลาไป Motor expo เลย
ไม่เคยลองทั้งดีเซลและเบนซิน....ช่วยแนะนำหน่อยก็ดีครับ ^^