Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: swan ที่ ธันวาคม 21, 2012, 16:30:20
-
โดยเฉพาะรถยุโรป อย่าง BM, MB ขนาด c class หรือ series 3 พอดีวันนี้ทางบริษัทนายหน้าโทรมาแจ้งเบี้ยประกัน 54,000 (320D) ในปีที่สอง ในปีแรกรถก็ไม่เคยเคลมเลย รบกวนเพื่อนๆสมาชิกช่วยแชร์หน่อยครับ
-
ผมทำ 2+ ครับ หมื่นเดียว
-
สมัยก่อนทำชั้น1 ประมาณ4หมื่นนิดหน่อยครับ
ตอนนี้2+ 9พันกว่าบาท
-
2+ กับ 3+ มีรายละเอียดต่างกันยังไงบ้าง?
ผมเคยทำแต่ 3+
-
ผมซ่อมอู่ ครับ หมื่น4ครับ เพราะรถผมไม่มีซ่อมห้างครับมีแค่2ที่แต่อยู่ในกทม. เลยเอาซ่อมห้างดีกว่าถูกกว่าด้วยครับ
-
ตั้งแต่ทำ 2+ ใน FD แล้วมันพลิกมา ไม่คุ้มค่าซ่อมและขาดทุนบานเบลอะ
ในครูซ เลยจัด ชั้น 1 มา 2 ปีแล้ว
ปีแรก ฟรี ศูนย์แถม
ปีสอง จ่ายเอง 22,000 บาท (หักส่วนลด 20% แล้ว) กัดฟันจ่าย
-
E90 ผมโดนไปราว 5 หมื่นบาท
FD โดนไป 23000
ปล. 2+ มีอะไรที่แตกต่างจาก 1 บ้างครับ?
อยากลดภาระบ้างเพราะรถก็ขับแค่ในเมือง
-
2+ เสี่ยงโคตร เอาไปมิด กำแพง นี่ ออกเอง เน้อ
-
ปีสอง 46k ลดแล้วครับ รถ e200cgi
-
สิ่งที่แตกต่างระหว่า 1 กับ 2+ คือ
ป ชั้น 1 ไม่ต้องมีเจ้าทุกข์ หรือไม่ต้องมีคู่กรณี ก็เคลมค่าซ่อมได้
ป ชั้น 2+ ต้องมีเจ้าทุกข์หรือคู่กรณี จึงจะเคลมค่าซ่อมได้
ส่วนสิทธิ์อื่นๆ ไม่ต่างกันครับ
-
ผมกำลังคิดว่า ปีที่สอง ทำชั้นหนึ่ง แบบหมื่นเดียวก็พอครับ แต่ค่า Excess แพงหน่อย 5 พันบาท
สิ่งที่จะได้คือ
- ค่าเบี้ยพอกับ 2+
- เคลมได้ทุกกรณี โดยเฉพาะเมื่อไม่มีคู่กรณี (เผื่อๆไว้) เพียงแต่ต้องจ่ายค่า Excess 5พันบาท ซึ่งถ้าปีนึง จ่ายสองครั้ง เบ็ดเสร็จรวมก็ 2 หมื่น มันก็ยังถูกกว่าชั้นหนึ่ง ธรรมดาอยู่ดี แต่ผมกะว่า ปีนึงคงได้จ่ายแค่ครั้งเดียว (หรืออาจไม่ได้จ่ายเลย) เพราะงั้นน่าจะคุ้มครับ
-
Altis 1.6 ป.1 ซ่อมอู่ ปี2 14,xxx ได้ส่วนลดนิดนึงเพราะชื่อเจ้าของรถ(แม่) เป็นข้าราชการ
-
Benz w202 ปี95 ชั้น1 ปีล่ะ 14,000 แต่ทุน2แสนกว่า
Space Wagon ชั้น1 16,500/ปี (ได้ส่วนลด50%)
Jazz/City ชั้น1 ประมาน 20,000/ปีครับ ;)
-
E90 ผมโดนไปราว 5 หมื่นบาท
FD โดนไป 23000
ปล. 2+ มีอะไรที่แตกต่างจาก 1 บ้างครับ?
อยากลดภาระบ้างเพราะรถก็ขับแค่ในเมือง
ประกันชั้น 1 >> ครอบคลุมให้หมดทุกอย่างครับ ตามวงเงินของทุนประกัน
ขับรถชนกำแพง มีใครเอาหินปาใส่ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ไม่ต้องมีคู่กรณีก็เคลมได้หมดครับ
หรือบางทีพูดกันขำๆ ว่าถ้าเบื่อรถแล้ว ขายมือสองเอาเข้าเต๊นท์ บางทียังตีราคาให้ได้น้อยกว่าทุนประกันอีก
ก็เข็นรถตกเขาซะเลย แล้วเคลมทุนประกัน 555 (อันนี้อย่าทำนะครับ แค่พูดเล่นๆ )
ประกันชั้น 2+ >> ซ่อมให้ตามวงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท ถ้าอุบัติเหตุต้องมีคู่กรณี
ไม่ว่าจะเราจะผิด หรือ ถูก ถ้ามีคู่กรณี ประกันก็ซ่อมให้ แต่ถ้าชนต้นไม้ ไม่มีคู่กรณี ก็ซ่อมเองครับ
หรือถ้าไปมิดมา ประกันก็จ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 3 แสนครับ (แต่ต้องมีคู่กรณี)
ประกันชั้น 2+ จะรวมเรื่องรถหาย กับ ไฟไหม้ด้วย
คือ รถหาย จ่ายให้ 3 แสน ไฟไหม้ ก็จ่ายให้ 3 แสน
ประกันชั้น 3+ >> เหมือน 2+ แต่วงเงินซ่อมอาจจะน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเบี้ย
ถ้าเอาเบี้ยถูกๆ ปีละ 7 พันกว่าบาท ก็ซ่อมให้วงเงิน 100,000
อุบัติเหตุต้องมีคู่กรณีเหมือนกัน ไม่ว่าจะผิด หรือ ถูก ก็ซ่อมให้ทั้งคู่
แต่ 3+ จะไม่รวม รถหาย กับ ไฟไหม้ คือ ถ้าโดนขโมยรถ ก็ซวยไป
ประกันชั้น 3 ธรรมดา >> อันนี้ จะดูอุบัติเหตุแล้วว่าใครถูก ใครผิด
ถ้าเราผิด ประกันจะซ่อมให้แต่ของเรา แต่เราต้องรับผิดชอบของคู่กรณี อะไรประมาณนี้ครับ จำรายละเอียดไม่ได้
คร่าวๆ ที่จำได้ประมาณนี้ครับ
สรุป ทำแบบไหนดี ก็แล้วแต่จะบริหารความเสี่ยงครับ
จ่ายเบี้ยประกันปีละ 5 หมื่นกว่า ถ้าทั้งปีขับดี ไม่มีชน ไม่มีเคลม ก็เท่ากับว่าเสียเงินไปฟรีๆ 5 หมื่น
แต่ถ้าไปมิดมา ต้องซ่อมกันหลายแสน ก็โชคดีไป ที่มีประกัน นานาจิตตังครับ
ถ้าคิดว่ารับได้กับความเสี่ยงได้ คิดว่าตัวเองขับรถดี จอดรถในบ้านตลอด ไม่ค่อยได้จอดที่เปลี่ยวๆ
หรือใช้รถที่ไม่ใช่รถตลาด ที่โจรนิยม ทำ 2+ หรือ 3+ ก็ประหยัดไปเยอะครับ
แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงเลย อยากขับรถแบบสบายใจ
ใช้รถตลาดที่โจรชอบ เช่นพวก Fortuner , Vigo ,D-max ก็ทำชั้น 1 โลดครับ
-
รถใหม่ๆทำชั้น1โลดครับ ;D
-
เสียอย่างที่ซื้อรถแบบผ่อนบังคับทำประกันชั้น 1 นี่ล่ะครับ
เบี้ยประกันตั้งแพง ผมล่ะอยากทำแบบถูกๆ หน่อยก็ไม่ได้
-
เสียอย่างที่ซื้อรถแบบผ่อนบังคับทำประกันชั้น 1 นี่ล่ะครับ
เบี้ยประกันตั้งแพง ผมล่ะอยากทำแบบถูกๆ หน่อยก็ไม่ได้
เจอมาสด้า 3 1.6 ราคา 865000แถมประกันภัยสองปี ดอก2.95% เข้าไป จุกเลยครับ
ดอก 20% ผ่อน 5 ปี ดอกเอาไปรวม 102xxx
แพงกว่าซื้อ โฟกัส 2.0 ราคา 959000 อีก ดาว ผ่อนเหมือนกัน ดอก 2.45%
ดอกรวม 93xxx เอง เหอะๆ
เป็นการบังคับทำประกันที่แบบว่า แถมก็เหมือนไม่แถม ต้องเรียกว่า ผ่อนประกัน มากกว่า -.-
-
ตอบมั่ง รถญี่ปุ่น อิอิ
Civic FD 1.8 ประกันชั้น 1( แบบไม่ระบุชื่อ )ซ่อมอู่ รถปี 2010
ประมาณ 16,xxx (ประวัติดี+ส่วนลดอื่นๆ) ;D ;D ;D ;D
-
E90 ผมโดนไปราว 5 หมื่นบาท
FD โดนไป 23000
ปล. 2+ มีอะไรที่แตกต่างจาก 1 บ้างครับ?
อยากลดภาระบ้างเพราะรถก็ขับแค่ในเมือง
ประกันชั้น 1 >> ครอบคลุมให้หมดทุกอย่างครับ ตามวงเงินของทุนประกัน
ขับรถชนกำแพง มีใครเอาหินปาใส่ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ไม่ต้องมีคู่กรณีก็เคลมได้หมดครับ
หรือบางทีพูดกันขำๆ ว่าถ้าเบื่อรถแล้ว ขายมือสองเอาเข้าเต๊นท์ บางทียังตีราคาให้ได้น้อยกว่าทุนประกันอีก
ก็เข็นรถตกเขาซะเลย แล้วเคลมทุนประกัน 555 (อันนี้อย่าทำนะครับ แค่พูดเล่นๆ )
ประกันชั้น 2+ >> ซ่อมให้ตามวงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท ถ้าอุบัติเหตุต้องมีคู่กรณี
ไม่ว่าจะเราจะผิด หรือ ถูก ถ้ามีคู่กรณี ประกันก็ซ่อมให้ แต่ถ้าชนต้นไม้ ไม่มีคู่กรณี ก็ซ่อมเองครับ
หรือถ้าไปมิดมา ประกันก็จ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 3 แสนครับ (แต่ต้องมีคู่กรณี)
ประกันชั้น 2+ จะรวมเรื่องรถหาย กับ ไฟไหม้ด้วย
คือ รถหาย จ่ายให้ 3 แสน ไฟไหม้ ก็จ่ายให้ 3 แสน
ประกันชั้น 3+ >> เหมือน 2+ แต่วงเงินซ่อมอาจจะน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเบี้ย
ถ้าเอาเบี้ยถูกๆ ปีละ 7 พันกว่าบาท ก็ซ่อมให้วงเงิน 100,000
อุบัติเหตุต้องมีคู่กรณีเหมือนกัน ไม่ว่าจะผิด หรือ ถูก ก็ซ่อมให้ทั้งคู่
แต่ 3+ จะไม่รวม รถหาย กับ ไฟไหม้ คือ ถ้าโดนขโมยรถ ก็ซวยไป
ประกันชั้น 3 ธรรมดา >> อันนี้ จะดูอุบัติเหตุแล้วว่าใครถูก ใครผิด
ถ้าเราผิด ประกันจะซ่อมให้แต่ของเรา แต่เราต้องรับผิดชอบของคู่กรณี อะไรประมาณนี้ครับ จำรายละเอียดไม่ได้
คร่าวๆ ที่จำได้ประมาณนี้ครับ
สรุป ทำแบบไหนดี ก็แล้วแต่จะบริหารความเสี่ยงครับ
จ่ายเบี้ยประกันปีละ 5 หมื่นกว่า ถ้าทั้งปีขับดี ไม่มีชน ไม่มีเคลม ก็เท่ากับว่าเสียเงินไปฟรีๆ 5 หมื่น
แต่ถ้าไปมิดมา ต้องซ่อมกันหลายแสน ก็โชคดีไป ที่มีประกัน นานาจิตตังครับ
ถ้าคิดว่ารับได้กับความเสี่ยงได้ คิดว่าตัวเองขับรถดี จอดรถในบ้านตลอด ไม่ค่อยได้จอดที่เปลี่ยวๆ
หรือใช้รถที่ไม่ใช่รถตลาด ที่โจรนิยม ทำ 2+ หรือ 3+ ก็ประหยัดไปเยอะครับ
แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงเลย อยากขับรถแบบสบายใจ
ใช้รถตลาดที่โจรชอบ เช่นพวก Fortuner , Vigo ,D-max ก็ทำชั้น 1 โลดครับ
+1ครับ
-
พอหมดประกันปีเเรกก็ไม่ทำอีกครับ ทำใจไม่ได้ แพงครับ
-
E90 ผมโดนไปราว 5 หมื่นบาท
FD โดนไป 23000
ปล. 2+ มีอะไรที่แตกต่างจาก 1 บ้างครับ?
อยากลดภาระบ้างเพราะรถก็ขับแค่ในเมือง
ประกันชั้น 1 >> ครอบคลุมให้หมดทุกอย่างครับ ตามวงเงินของทุนประกัน
ขับรถชนกำแพง มีใครเอาหินปาใส่ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ไม่ต้องมีคู่กรณีก็เคลมได้หมดครับ
หรือบางทีพูดกันขำๆ ว่าถ้าเบื่อรถแล้ว ขายมือสองเอาเข้าเต๊นท์ บางทียังตีราคาให้ได้น้อยกว่าทุนประกันอีก
ก็เข็นรถตกเขาซะเลย แล้วเคลมทุนประกัน 555 (อันนี้อย่าทำนะครับ แค่พูดเล่นๆ )
ประกันชั้น 2+ >> ซ่อมให้ตามวงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท ถ้าอุบัติเหตุต้องมีคู่กรณี
ไม่ว่าจะเราจะผิด หรือ ถูก ถ้ามีคู่กรณี ประกันก็ซ่อมให้ แต่ถ้าชนต้นไม้ ไม่มีคู่กรณี ก็ซ่อมเองครับ
หรือถ้าไปมิดมา ประกันก็จ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 3 แสนครับ (แต่ต้องมีคู่กรณี)
ประกันชั้น 2+ จะรวมเรื่องรถหาย กับ ไฟไหม้ด้วย
คือ รถหาย จ่ายให้ 3 แสน ไฟไหม้ ก็จ่ายให้ 3 แสน
ประกันชั้น 3+ >> เหมือน 2+ แต่วงเงินซ่อมอาจจะน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเบี้ย
ถ้าเอาเบี้ยถูกๆ ปีละ 7 พันกว่าบาท ก็ซ่อมให้วงเงิน 100,000
อุบัติเหตุต้องมีคู่กรณีเหมือนกัน ไม่ว่าจะผิด หรือ ถูก ก็ซ่อมให้ทั้งคู่
แต่ 3+ จะไม่รวม รถหาย กับ ไฟไหม้ คือ ถ้าโดนขโมยรถ ก็ซวยไป
ประกันชั้น 3 ธรรมดา >> อันนี้ จะดูอุบัติเหตุแล้วว่าใครถูก ใครผิด
ถ้าเราผิด ประกันจะซ่อมให้แต่ของเรา แต่เราต้องรับผิดชอบของคู่กรณี อะไรประมาณนี้ครับ จำรายละเอียดไม่ได้
คร่าวๆ ที่จำได้ประมาณนี้ครับ
สรุป ทำแบบไหนดี ก็แล้วแต่จะบริหารความเสี่ยงครับ
จ่ายเบี้ยประกันปีละ 5 หมื่นกว่า ถ้าทั้งปีขับดี ไม่มีชน ไม่มีเคลม ก็เท่ากับว่าเสียเงินไปฟรีๆ 5 หมื่น
แต่ถ้าไปมิดมา ต้องซ่อมกันหลายแสน ก็โชคดีไป ที่มีประกัน นานาจิตตังครับ
ถ้าคิดว่ารับได้กับความเสี่ยงได้ คิดว่าตัวเองขับรถดี จอดรถในบ้านตลอด ไม่ค่อยได้จอดที่เปลี่ยวๆ
หรือใช้รถที่ไม่ใช่รถตลาด ที่โจรนิยม ทำ 2+ หรือ 3+ ก็ประหยัดไปเยอะครับ
แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงเลย อยากขับรถแบบสบายใจ
ใช้รถตลาดที่โจรชอบ เช่นพวก Fortuner , Vigo ,D-max ก็ทำชั้น 1 โลดครับ
ชั้น 3 ธรรมดา ฝ่ายเราผิด เราเป็นคนซ่อมให้คู่กรณีครับ รถเราซ่อมเอง (รถเราไม่ดูแลแต่ดูแลรถคู่กรณีครับ)
-
ของผมสรุปว่าทำ ป 1 ซ่อมห้างต่อครับ ไม่อยากเสี่ยง เอาไว้ปีที่สาม-สี่ ค่อยว่ากันใหม่ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
-
March E M/T ผมจ่าย หมื่นสาม รวม พรบ ครับ