Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ มกราคม 15, 2013, 15:58:27
-
สำหรับผมคำว่า Know how หมายถึงการทำอะไรสักอย่างบนพื้นฐานต้นทุนเท่ากัน แต่สามารถทำได้ดีกว่าคนอื่น
มันคนละเรื่องกับการบอกว่าให้งบไม่จำกัดเพื่อทำรถที่ดีที่สุดออกมา
อยากฟังความเห็นของเพื่อนๆครับว่า Know how ที่ชัดเจนที่สุดแบบสากลของบริษัทรถแต่ละบริษัทคืออะไร ให้เลือกมาแค่อย่างเดียว
ผมมองว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีแทบจะทันกันหมด แต่โนว์ฮาวคือสิ่งที่ทำให้แต่ละบริษัทรถเกิดความแตกต่างกัน
สำหรับความคิดผม...
โตโยต้า - เครื่องยนต์ ดูได้จากโตโยต้ามีเครื่องยนต์ที่ทั่วโลกยอมรับว่าทนที่สุด แถมมีเครื่องไฮบริดเป็นเจ้าแรกและนำคนอื่นไปหลายก้าว
มาสด้า - น่าจะเป็นช่วงล่าง ที่มาสด้ามั่นใจมาตลอดว่าตัวเองทำช่วงล่างได้ดีกว่าคู่แข่งในคลาส (แต่ส่วนตัวผมคิดว่า มาสด้า3ไม่เด่นเรื่องช่วงล่างถ้าเทียบกับคู่แข่ง)
ฮอนด้า - การออกแบบพื้นที่ใช้สอย จุดแข็งนี้ผมคิดว่าไม่มีค่ายไหนเทียบได้แม้แต่ยุโรป
นิสสัน - ??? ไม่ชัดเจนนะในความเห็นผม
บีเอ็ม - โนว์ฮาวด้านเครื่องยนต์ดีเซล
เมอเซเดส - การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน ถ้าไม่นับว่าเป็นผู้นำด้านระบบความปลอดภัย ผมว่าเบนซ์นี่แหละคือสุดยอดค่ายรถที่การออกแบบอยู่เหนืองานวิศวกรรม เราอาจจะตื่นตาตื่นใจกับจากัวร์ แต่มันเป็นเพราะว่าเราไม่ค่อยเห็นจากัวร์ไง แต่เบนซ์ออกแบบรถได้สวยเหนือกาลเวลา ดูหรูหรา ภูมิฐาน ภายในแลดูมีรสนิยมสูงที่สุดเหนือกว่าคู่แข่ง เข้าไปในรถแล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายว่านี่คือยนตกรรมของชนชั้นสูง บีเอ็ม ออดี้ ทำตรงนี้ไม่ได้นะ ในความคิดผม
เพือนๆมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ
-
ข้อแย้ง โตโยต้าครับ เครื่องไม่ได้ทนที่สุด
เครื่องที่ทนๆ มี 4A-FE และ JZ เท่านั้นที่ผมว่าทน
นอกนั้น ไปลองเครื่องมิตซูรุ่นเก๋าๆ หรือ Isuzu ได้ครับ ทนพอๆกัน
ยังไม่นับฮอนด้า พวกบล๊อค B หรือ K รอบสูงๆนะครับ ขับรอบสูงยังไหว รอบต่ำๆ สบายๆ
ไฮบริด เรื่องจริงครับ โตโยต้า ก้าวนำเรื่องไฮบริดที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
..........
Isuzu สิครับ ถ้าการตลาดในประเทศไทย Know how ของ Isuzu บ้านเรา คือการเข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึง
เครื่องแรง ทน ขนหนัก ประหยัด มีพรีเซ็นเตอร์ดี มีคำพูดน่าหลงไหล(ถึงจะเวอร์นิดๆก็ตาม)
แต่มันใช้ได้จริง
-
โตโยต้า น่าจะเด่นเลือกลดต้นทุนมากกว่าครับ จนหลายๆบริษัทก็เอาวิธีการมาใช้
-
Nissan เรื่องการดีไซน์ภายนอกครับ เทียบกับรถยี่ห้ออื่นระดับเดียวกัน Nissan จะดูเหมือนกับแพงกว่าดูมีคลาสกว่า
ละก็เรื่องทำรถสปอร์ตก็ถือว่าเก่งเลยครับ ดูอย่าง GT-R ทำเอาพวกรถแพงกว่าแบบ Ferrari, Lamborghini, Porsche, MB AMG สะดุ้งได้เลย
GT-R ถือเป็น road car ที่เร็วที่สุดจากญี่ปุ่นแล้วล่ะ
ละก็ BMW มีเรื่องการขับขี่อีกเรื่องครับ MB ยังตามไม่ทันนะตรงนี้
-
ผมคิดว่า
Toyota ด้านการบริหารครับ ถ้าเสียต้องซ่อมได้ อะไหล่ต้องพร้อม แถมมีซัพพอร์ทการขายต่อด้วย
Nissan ประหยัด แต่ต้องไม่ขาดความหรูด้วย
-
ผมว่า Nissan เรื่องสมรรถนะของเครื่องยนตร์น่ะ
Mercedes Benz ผมว่า ความสบายภายใน
Landrover offroad แท้แท้
Volvo อุปกรณ์ความปลอดภัย
-
benz vs bmw ***ว่ากันเรื่องหน้าตา
ผมว่า benz ภายนอกสวยดุ ตา สปอย สวยหรูมีระดับกว่าเห็นๆ แต่
bmw ภายในหนัง ตะเข็บหนัง รูปร่างเบาะ สวยกว่าเห็นๆ
ใช่มะ?
-
mitsubishi สไตล์แรงถูกใจขาซิ่ง ขนาดมิราจพ่แกยังแรงสุดในระดับเดียวกัน และ เรื่องโครงสร้าง แต่แกแรงแบบไม่สนใจราคาน้ำมันเท่าไร
Ford รถยุโรปในราคารถญี่ปุ่น มาตรฐานเซฟตี้ดี เอาจริงๆ ผมว่ารถดีมากกกกก แต่ศูนย์ในเมืองไทย :o
-
พอมาคิดรวมๆหลายๆอย่างผมว่าพอๆกันหมด
มองจากทีมแข่งของทุกยี่ห้อก็แรงและชนะในรายการเดียวกันได้ทั้งนั้น
อยู่ที่นักขับระดับเทพ อยู่ทีมไหน ทีมนั้นแชมป์
คอนเซ็ปท์คาร์ของทุกยี่ห้อ ก็สวยและไฮเทคได้พอๆกันทุกยี่ห้อ
ถ้ามองที่องค์ความรู้ของแต่ละยี่ห้อมี ผมว่าก็น่าจะพอๆกันทุกยี่ห้อ
แต่การเอาใช้ในแต่ละระดับของรถแต่ละรุ่น น่าจะถูกกำหนดด้วยหลายอย่าง
เช่น การตลาด-เศรฐกิจของบริษัทขณะนั้น-การเมืองประเทศนั้นๆ
ยี่ห้อนึง บางรุ่นก็แก๊แก่ บางรุ่นก็เฉี่ยวไฮเทคเกินหน้า
บางรุ่นก็ทน บางรุ่นก็เปราะ บางรุ่นประหยัด บางรุ่นแ...กเช็ด
-
โตโยต้า : เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า hybrid ผมว่าเค้าพยายามจะมาทางนี้ ช่วงหลังเริ่มเน้นช่วงล่างพวงมาลัยที่ดีขึ้น แต่ก็กลางๆ ไม่สปอร์ตไปไม่นิ่มไป
ฮอนด้า : ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรมนัก ดีกลางๆในหลายๆด้านและ เน้นไปทางสปอร์ต ช่วงหลังพยายามจะลดลง ดูภูมิฐานมากขึ้น
นิสสัน : ถ้าไม่นับ GTR เน้นหนักไปทางภูมิฐาน+สะดวกสบายมั้งครับ ช่วงหลังๆ เน้นเรื่องการเก็บเสียงและช่วงล่างแบบสบายๆเป็นพิเศษ และรายนี้ถ้าจะทำรถดีๆมากๆสักคัน ... ทำได้ดีมากด้วย (GTR)
BMW : ชัดเจน Driving performance ทุกๆด้าน และช่วงหลังๆเน้นหนักไปทางประหยัดน้ำมัน .... hybrid ส่วนรถไฮโดรเจน BMW เงียบไปแล้วแฮะ
Benz : ช่วงหลังๆ ชัดเจนว่าจะพยายามไปทาง Sport โดยเสียความสบายน้อยที่สุด ขึ้น เน้น Performance มากขึ้น และเน้นหนักไปทางด้านดีไซน์การออกแบบเป็นหลัก
Lexus : เสียง (เครื่อง)..... และเครื่อง(เสียง) ....
Volvo : เน้นเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย เทคโนโลยีในรถต่างๆ ..... เทคโนโลยีช่วยในการขับ (ขับเอง เบรกเอง) และดีไซน์รถมีแนวทางของตัวเองชัดเจนมากและเหมือนจะตั้งใจมากกับ Diesel Hybrid (ซึ่งออกมาดีซะด้วย)
-
ขออนุญาติใช้คำว่า Core-competency ของแต่ละค่ายด้วยนะครับ ในอดีตผมว่า มันคือ
Design = Alfa Romeo
Dynamic = BMW
Comfort = MB
Safety = Volvo
-
ขออนุญาติใช้คำว่า Core-competency ของแต่ละค่ายด้วยนะครับ ในอดีตผมว่า มันคือ
Design = Alfa Romeo
Dynamic = BMW
Comfort = MB
Safety = Volvo
ถ้าอยากได้ทุกสิ่งรวมกัน
ต้องยี่ห้อนี้เลยครับ ;D
audi commercial (http://www.youtube.com/watch?v=350tD8E7htM#)
-
ถ้าดูจาก ตามที่ จขกท. พูดถึง ผมมองว่ามันไม่ค่อยเหมือน Know-How เท่าไหร่ แต่มันเหมือนจะเป็น "จุดขาย"
หรือ "จุดแข็ง" ของรถแต่ละแบรนด์มากกว่า
ถ้าว่ากันที่ Know-How เด่น ๆ ของแต่ละแบรนด์ เอาเท่าที่ผมสังเกตเห็นได้ ก็จะมีประมาณนี้นะครับ
1. Toyota - ระบบ Hybrid ที่ถือเป็นเทคโนโลยีเด่นของค่ายนี้ ที่หลาย ๆ ค่ายแม้แต่แบรนด์ยุโรปยังต้องเอา concept ไปใช้
2. Honda - ระบบ VTEC ที่สร้างชื่อเสียงให้กับยี่ห้อนี้อย่างมาก โดยเฉพาะสมัยที่ยังคงส่งรถเข้าแข่ง F1
3. Benz - เด่นทางด้าน เทคโนโลยี ความปลอดภัย และการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยควบคุมรถ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ระบบเบรค ABS นี่ก็น่าจะเป็น Benz ที่ใช้เป็นเจ้าแรก
4. BMW - โดดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ซึ่งเคยได้รับรางวัลมาหลายครั้งแล้ว (แต่ค่ายอื่นไม่ค่อยทำ ทำแต่เครื่อง V6)
ถ้าว่ากันที่ จุดแข็ง หรือ จุดขาย เท่าที่ผมสังเกตเห็นได้ก็ประมาณนี้ครับ
1. Toyota - รถค่อนข้างทนทาน ซ่อมง่าย อะไหล่ถูก (ส่วนหนึ่งคือนิยมเอาของรุ่นเก่ามาเวียนใช้เรื่อย ๆ เปลี่ยนแต่ตัวถัง)
2. Honda - ออกแบบรถได้สวยโฉบเฉี่ยว ดูทันสมัย ทั้งภายใน และภายนอก
3. Mazda - ช่วงล่างหนึบกว่า ในรถระดับเดียวกัน
4. Nissan - ดูหรูหรา มีระดับ ในราคาเท่า ๆ กับเจ้าอื่น
5. Isuzu - อึด ถึก ทน แทบทั้งคัน
6. Benz - หรูหรา มีระดับ แบบ Executive มาพร้อมกับความ นุ่มนวล นั่งสบาย
7. BMW - Sheer Driving Pleasure.
ประมาณนี้ครับ
-
BMW - เก่งด้านการลดพื้นที่ในห้องโดยสารครับ ;D ;D
-
ขอพูดเฉพาะ Nissan ผมว่าสามารถออกแบบให้รถตัวเองส่วนใหญ่ดูดีไม่ตกยุคแม้จะตกรุ่นไปแล้วก็ตาม
มันออกแนวไม่ใช่มองปุ๊บสวยปั๊บ แต่ต้องใช้เวลามองนานๆ แล้วมันจะสวยขึ้นเรื่อยๆ
ดูอย่างพวก A32 A33 หรือ J31 แม้กระทั่ง R32 R33 300ZX นี่ก็ยังดูสวยอยู่เลย
-
ไม่มี Mitsu เลย :'(
-
ไม่มี Mitsu เลย :'(
mitsubishi น่าจะเป็นเครื่องโครงสร้างมั้งครับ เห็น EURONCAP ได้เยอะกว่าพวกญี่ปุ่นระดับเดียวกันตลอดนะ แล้วก็คงเป็นเรื่องของเครื่องเทอร์โบ (จากอีโว)
-
ผมว่า Audi สวยเหนือกาลเวลามากกว่า Benz ครับ
ดูจาก R8 ออกมาโคตรนานแล้ว ผมว่ามันยังสวยอยู่เลย สวยแบบวัยรุ่นชอบ ไม่ใช่แบบคนแก่น่ะครับ >_<
-
ขออนุญาติใช้คำว่า Core-competency ของแต่ละค่ายด้วยนะครับ ในอดีตผมว่า มันคือ
Design = Alfa Romeo
Dynamic = BMW
Comfort = MB
Safety = Volvo
ถ้าอยากได้ทุกสิ่งรวมกัน
ต้องยี่ห้อนี้เลยครับ ;D
audi commercial (http://www.youtube.com/watch?v=350tD8E7htM#)
สุดยอดเลยครับ มาแบบเหนือๆอยู่แล้วค่ายนี้ :o
-
BMW - เก่งด้านการลดพื้นที่ในห้องโดยสารครับ ;D ;D
+1 ครับ 8) ฐานล้อยาวกว่าคนอื่นเขา แต่ไหงที่วางขาน้อยกว่าหล่ะเนี่ย อย่างว่าแหละครับ ต้องการรถที่ขับขี่ดี น้ำหนักต้องกระจายมาข้างหลังมากๆ เลยต้องดันเครื่องมาไว้ข้างหลังหน่อย หน้าเลยยาวยืดส่วนห้องโดยสารแคบลงเนี่ยแหละครับ ก็ถือว่าต้องได้อย่างเสียอย่างกันไปล่ะ
คิดเหมือนท่านบนครับ know-how กับจุดขาย มันคนละอย่าง
know-how
Toyota สมัยนี้ก็ Hybrid ครับ แรง+ประหยัด อ่อ น่าจะออกหนังสือ "ลดต้นทุนอย่างไรให้ยอดขายเพิ่ม" ด้วยนะครับ เพราะหลายๆอย่างเห็นๆก็จริง แต่หลายๆอย่างก็ลดได้เนียนมากๆครับ นี่แหละ know-how ตัวจริง ;D
Honda ก็ VTEC นี่แหละครับที่ฝรั่งเขารู้จักแบรนด์นี้กัน
Mazda ผมว่าช่วงล่างดีที่สุดในรถญี่ปุ่นละครับ ไม่ก็ พวก เครื่องโรตารี่ครับ
Mitsu พัดลม หม้อหุงข้าว เอ้ย...รถแต่งและแรลลี่ครับ(ไปเบียดกับเจ้าพ่อ 4x4 แบบ Subaru เลย)
BMW เครื่องดีเซล และ 6สูบเรียงครับ ไม่มีใครชนะหรือชนะขาดได้เลย ได้รางวัลมานับไม่ถ้วนแล้ว
Benz การออกแบบให้มันทนทานครับ(สมัยนี้หายไปเยอะ) แท็กซี่ในยุโรปวิ่งจนไมล์กลับกันหมดละ (w123 พวกนี้น่ะครับ)
Audi ออกแบบภายในได้สวยน่าใช้ทุกรุ่นครับ
จุดขายก็รู้ๆกันอยู่นี่แหละครับ
ส่วนการออกแบบของ Audi ผมว่า R8 ไม่น่านับรวมนะครับ เพราะมันเป็นรถรุ่นพิเศษไปเลย ถ้าวัดกันที่รถบ้านทั่วๆไป ภายนอกผมให้ BMW ภายใน ให้ Audi ครับ ส่วน Benz ต้องให้เขาเรื่อง เก่าแล้วไม่แก่ครับ ยังไงก็เหมือนเดิม
-
BMW - เก่งด้านการลดพื้นที่ในห้องโดยสารครับ ;D ;D
กร๊ากกกก ประสบการณ์ตรงเปล่าคับ ?
-
ไม่มี Mitsu เลย :'(
mitsubishi น่าจะเป็นเครื่องโครงสร้างมั้งครับ เห็น EURONCAP ได้เยอะกว่าพวกญี่ปุ่นระดับเดียวกันตลอดนะ แล้วก็คงเป็นเรื่องของเครื่องเทอร์โบ (จากอีโว)
เคยเข้าไปอ่านในคลับมิตซูอยู่เหมือนกันครับ เค้าว่าโครงสร้างตัวถังดีมาก มีรูปสมาชิกที่เคยทั้งชนหนัก คว่ำ เเต่ตัวถังคงสภาพพื้นที่ภายในได้ดีมาก
-
ข้อแย้ง โตโยต้าครับ เครื่องไม่ได้ทนที่สุด
เครื่องที่ทนๆ มี 4A-FE และ JZ เท่านั้นที่ผมว่าทน
นอกนั้น ไปลองเครื่องมิตซูรุ่นเก๋าๆ หรือ Isuzu ได้ครับ ทนพอๆกัน
ยังไม่นับฮอนด้า พวกบล๊อค B หรือ K รอบสูงๆนะครับ ขับรอบสูงยังไหว รอบต่ำๆ สบายๆ
ไฮบริด เรื่องจริงครับ โตโยต้า ก้าวนำเรื่องไฮบริดที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
..........
Isuzu สิครับ ถ้าการตลาดในประเทศไทย Know how ของ Isuzu บ้านเรา คือการเข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึง
เครื่องแรง ทน ขนหนัก ประหยัด มีพรีเซ็นเตอร์ดี มีคำพูดน่าหลงไหล(ถึงจะเวอร์นิดๆก็ตาม) ถามต่อนะครับ ทำไมในกลุ่มประเทศอาหรับ แทบหาไม่เจอ มีแค่ โตโยต้า มิซูบิชิ แล้วก็นิสสัน กลับมาเห็นในบ้านเรามากสุด แม้กระทั้ง มาเลเซียเอง ก็แทบจะนับคันได้
แต่มันใช้ได้จริง
-
Chevy หายไปไหนอ่ะ T^T
ขอ Proton ด้วยครับ ^^"
-
Mini - expert in branding ครับ ต้องยอมรับ marketing เขาสุดยอดจริงๆ