Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoJo-JoJo ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 13:08:56
-
เนื่องจากเครื่องดีเซลเทอโบนั้น กำลังเป็นที่นิยม (หรือเปล่าหว่าาา??)
สาเหตุมาจากความแรงและความประหยัด
แต่สิ่งที่แลกมาคือเสียงเครื่องที่ดัง และเขม่าที่ดำ
ทำให้ข้อดีที่ได้มาทำให้เริ่มยิ้มและพยักหน้า จ้องชะงักเพราะ ความดังและความดำ
ทำให้ความเท่ในรถราคาระดับราคาล้าน+ ลดลงอย่างทันตา
เพราะเสียงและเขม่าดังกล่าวเป็นเอกลักษณ์ของรถกระบะบ้านเราที่เป็นดีเซลเป็นหลัก
เกริ่นมาซะยาว...ข้อมูลถูกบ้างผิดบ้าง ขออภัยครับ (ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ)
เข้าคำถามนะครับ...
1.เนื่องจากยิ่งนานๆไป เขม่าก็จะยิ่งดำ เสียงก็จะยิ่งดัง เราจะมีวิธีดูแลรักษารถที่มีเครื่องดีเซลเทอโบประจำการณ์อย่างไร
ให้ไม่มีเขม่าดำ เสียงไม่ดังขึ้น (ถ้าจะดำขึ้นดังขึ้นก็ขอให้มันน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ละกัน) และอยู่กับเราไปนานๆ แบบที่รถดีเซลกระบะ เค้าวิ่่งกันจนเลขไมล์ตีกลับแล้วยังวิ่งได้อยู่ไปเลยครับ
1.2 แล้วมีวิธีดูแลเทอโบให้อยู่กับเราไปนานๆมั้ยครับ?
2.ผมเคยเห็นคนพูดเรื่อง ถ้าวิ่งมาหนักๆ ควรอย่าเพิ่งดับเครื่อง เพื่อให้เทอโบ หรือเครื่องมันเย็นลงก่อน
อยากทราบรายละเอียดของเรื่องนี้ชัดๆอ่ะครับ
3.ก่อนหน้านี้มีคนพูดถึงเรื่อง ADDITIVE ที่ใช้เติมในถังน้ำมันเลยนั้น มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรมั้ยครับ?
เคยได้ยินว่าการเติมจะทำให้เครื่องสะอาด การเสียดสีน้อย เครื่องแรงขึ้น(ไม่สนใจครับ) บลาๆๆ ครับ
แต่ผมอยากรู้ว่าเติมแล้วมันดีกับเครื่องมั้ย ทำให้เขม่าน้อยลงหรือหายไปจริงมั้ยครับ? และมีข้อเสียกับรถเราหรือไม่ครับ?
(เพราะถ้ามันดีจริง ก็คงมีคน หรือบริษัทรถ แนะนำ+ผลิต ให้ทุกคนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ผมไม่เคยจะได้ยินแหะ จนเพิ่งเริ่มมาสนใจเรื่องรถช่วงหลังๆมานี้
4.น้ำมัน+น้ำมันเครื่องครับ
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ใช้ของอะไรกันอยู่ครับ? มีผลกับรถ หับเครื่องอย่างไรบ้างครับ?
รบกวนทุกท่านด้วยนะครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ(ล่วงหน้า)
ปล. ผมอยากเห็นพี่ๆประจำ HLM มาตอบจังครับ โดยเฉพาะพี่ จิมมี่กับท่านผู้การ เนื่องจากผมจำได้ว่า
กระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่อง ADDITIVE คราวที่แล้ว (หาไม่เจอแล้ว) ไม่เห็นพี่ๆทั้งสองมาตอบทำให้ยิ่งสงสัยครับ
รบกวนด้วยนะครับ...หวังว่าจะเป็นความรู้ใหม่ หรือ เป็นประโยชน์แก่ชาว HLM ไม่มากก็น้่อยครับ แหะๆ ;D
-
ข้อ2 ถ้าอากาศร้อนมากๆ หรือ อัดมาหนักๆ พอเลี้ยวเข้าหมู่บ้านผมจะกดเปิดฝากระโปรงเลยครับลมจะเข้าออกได้มากขึ้น แล้วก็ค่อยๆขับไปจนกว่าจะถึงบ้าน พอถึงบ้านก็เปิดฝากระโปรง1นาทีแล้วก็ดับเครื่องครับ แล้วก็เอาฝากระโปรงลงแต่ยังไม่ปิดสนิท ปล่อยไว้จนกว่าเครื่องจะเย็นครับ วิธีแบบนี้พัดลมทำงานเบาลงไวมากครับ เมื่อก่อนไม่ได้ทำแบบนี้ดับเครื่องพัดลมยังทำงานดังมากต่ออีกนานเลยครับ เพราะเครื่องกับเทอโบยังไม่เย็น แต่เดี๋ยวนี้ดับเครื่องแล้วพัดลมก็ดับ
-
ขอบคุณคุณ -Anonymous- มากนะครับ...
เสียใจจัง ไม่มีคนมาตอบเลย
อยากรู้จริงๆนะเนี่ยๆ!!!!!!!!! T_T
-
ไม่ได้ตอบเพราะไม่ได้ขับ ดีเซลเทอร์โบอะครับ ^^
-
ที่บ้านเก๋งดีเซล 2คันใช้มาจะ10ปีแล้ว ไม่ได้ดูแลอะไรมากเลย ยังปกติดีทุกอย่าง ควันไม่ดำด้วย เสียงดังเท่าเดิมซึ่งดังกระบะ แต่ไม่ได้แคร์ใคร ไม่ได้ไปจอดให้ใครฟังเสียง แต่เจอบนถนนไม่แพ้ใครแน่นอน
รถรุ่นใหม่ๆเสียงเงียบขึ้นเยอะแล้วนะ อย่าง Passat หรือ Serie5
-
ที่บ้านเก๋งดีเซล 2คันใช้มาจะ10ปีแล้ว ไม่ได้ดูแลอะไรมากเลย ยังปกติดีทุกอย่าง ควันไม่ดำด้วย เสียงดังเท่าเดิมซึ่งดังกระบะ แต่ไม่ได้แคร์ใคร ไม่ได้ไปจอดให้ใครฟังเสียง แต่เจอบนถนนไม่แพ้ใครแน่นอน
รถรุ่นใหม่ๆเสียงเงียบขึ้นเยอะแล้วนะ อย่าง Passat หรือ Serie5
นำมั้น อละ น้ำมันเครื่อง ของสถาบันไหนครับ? 5555+
-
ข้อ 2
ถ้ารู้ตัวว่า กำลังจะถึงที่หมาย ขับย่องๆก็พอครับ
บางที เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ขับย่องๆอยู่แล้ว ดับเครื่องได้เลย
ยกเว้นว่าอัดหนักๆมา ให้จอดทิ้งเดินรอบเดินเบาซัก 1-2 นาทีก็พอครับ
ข้อ 3 ตัดทิ้งไปเลยครับ เลิกคิดถึงมันเถอะครับ
มาดูข้อ 4 ดีกว่า
น้ำมัน น้ำมันเครื่อง เติมปกติครับ ไม่ต้องซีเรียส
ผมแนะนำว่า ดูแลรักษา เช็คระยะ ตามคู่มือ
โดยเฉพาะน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามระยะ มันช่วยได้เยอะนะครับ
-
ข้อ 2
ถ้ารู้ตัวว่า กำลังจะถึงที่หมาย ขับย่องๆก็พอครับ
บางที เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ขับย่องๆอยู่แล้ว ดับเครื่องได้เลย
ยกเว้นว่าอัดหนักๆมา ให้จอดทิ้งเดินรอบเดินเบาซัก 1-2 นาทีก็พอครับ
ข้อ 3 ตัดทิ้งไปเลยครับ เลิกคิดถึงมันเถอะครับ
มาดูข้อ 4 ดีกว่า
น้ำมัน น้ำมันเครื่อง เติมปกติครับ ไม่ต้องซีเรียส
ผมแนะนำว่า ดูแลรักษา เช็คระยะ ตามคู่มือ
โดยเฉพาะน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามระยะ มันช่วยได้เยอะนะครับ
ผมยอมเลิกคิดข้อ 3 ครับ แต่ขอเหตุผลนิดนึงได้มั้ยครับ? 55555+
มันสงสัยอ่าาาาาา...5555+
ข้อ 4 นี่ไม่มียี่ห้อแนะนำหรอครับ?
ข้อ 2 นี่ จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยครับ ^^
แต่ก็สงสัยนะ...แบบไหนถึงเรียกว่าอัดนหนักมาครับ?
-
ข้อ 2
ถ้ารู้ตัวว่า กำลังจะถึงที่หมาย ขับย่องๆก็พอครับ
บางที เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ขับย่องๆอยู่แล้ว ดับเครื่องได้เลย
ยกเว้นว่าอัดหนักๆมา ให้จอดทิ้งเดินรอบเดินเบาซัก 1-2 นาทีก็พอครับ
ข้อ 3 ตัดทิ้งไปเลยครับ เลิกคิดถึงมันเถอะครับ
มาดูข้อ 4 ดีกว่า
น้ำมัน น้ำมันเครื่อง เติมปกติครับ ไม่ต้องซีเรียส
ผมแนะนำว่า ดูแลรักษา เช็คระยะ ตามคู่มือ
โดยเฉพาะน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามระยะ มันช่วยได้เยอะนะครับ
ผมยอมเลิกคิดข้อ 3 ครับ แต่ขอเหตุผลนิดนึงได้มั้ยครับ? 55555+
มันสงสัยอ่าาาาาา...5555+
ข้อ 4 นี่ไม่มียี่ห้อแนะนำหรอครับ?
ข้อ 2 นี่ จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยครับ ^^
แต่ก็สงสัยนะ...แบบไหนถึงเรียกว่าอัดนหนักมาครับ?
2500-4000รอบ นานๆ กดๆอัดๆเค้นอัตราเร่งอ่าครับ
-
วิธีดูแลปกติก็คือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/ใส้กรองน้ำมันเครื่องตามกำหนดของบริษัทผู้ผลิต หากเข้าศูนย์บริการเขาก็จะตรวจ/ถ่าย/เปลียนทำความสะอาดกรองดีเซล/กรองอากาศ
หมั่นตรวจดูแลระดับน้ำมันเครื่องไม่ให้ราชสกุลของไม้วัดน้ำมันเครื่อง หากต่ำแสดงว่ามีว่ามีความผิดปกติขึ้นกับเครื่องยนต์อาจมีการรั่วซึม เมื่อน้ำมันเครื่องน้อยเกินไปทำให้ไม่สามารถหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้เพียงพอ อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องเสียหายได้ครับ
ส่วนตัวหากขับทางไกลและใช้ความเร็วเมื่อใกล้ถึงที่หมายจะพยามยามใช้ความเร็วแบบคงที่ไม่กดเร่งรอบเครื่องมากและถ้าเป็นไปได้เมื่อถึงที่หมายจะเปิดฝากระโปรงรถเดนเครื่องเบาปิดแอร์ วิทยุสักพักก่อนดับเครื่อง แต่ไม่ทุกครั้งแล้วแต่โอกาสครับ