Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2013, 09:22:21
-
ผมว่าบ้านเราตอนนี้น่าเบื่อมากๆ
กล้องจับความเร็ว กล้องตรงแยกไฟแดง
ทำให้การขับรถน่าเบื่อ เช่น ตามแยกที่จับรถฝ่าไฟแดง บางแยกไม่มีเวลาบอก บางช่วงขับมาดีๆ ก็ต้องเบรค แต่รถคันหลังมาอาจจะสอยได้
ส่วนกล้องจับความเร็ว ถ้าตั้งไว้ที่ 100 ผมว่ามันโหดไปหน่อยครับ จากกระทู้ด้านล่าง ความเร็ว 100 นึงเส้นนั้น ผมวิ่งเกินทุกทีครับ
สรุป ซื้อ รถเครื่อง 600 ซีซี ดีกว่าไหมครับ
คิดอย่างไรกัน ;)
-
ผมว่าบ้านเราตอนนี้น่าเบื่อมากๆ
กล้องจับความเร็ว กล้องตรงแยกไฟแดง
ทำให้การขับรถน่าเบื่อ เช่น ตามแยกที่จับรถฝ่าไฟแดง บางแยกไม่มีเวลาบอก บางช่วงขับมาดีๆ ก็ต้องเบรค แต่รถคันหลังมาอาจจะสอยได้
ส่วนกล้องจับความเร็ว ถ้าตั้งไว้ที่ 100 ผมว่ามันโหดไปหน่อยครับ จากกระทู้ด้านล่าง ความเร็ว 100 นึงเส้นนั้น ผมวิ่งเกินทุกทีครับ
สรุป ซื้อ รถเครื่อง 600 ซีซี ดีกว่าไหมครับ
คิดอย่างไรกัน ;)
เรื่องกล้องมันก็แค่เป็นการกระชับกฎหมายครับ เข้มงวดขึ้นเพื่อปลอดภัยขึ้น แยกไฟแดง เรารู้ว่าเป็นแยกก็ต้องชลอครับ ชลอตั้งแต่เนิ่น ๆ ผมเคยเห็นพวกฝ่าไฟแดงทำให้คนอื่นเดือดร้อนมาเยอะ ถึงเวลาจับซะที ก็ดีออกนะครับ
เรื่องความเร็ว อันนี็ผมเห็นด้วย มันจะให้ช้าไปไหน 80 km/hr รึยังงัย ? นอกเมืองควรจะ 100 -110 ได้แล้ว
-
ในเมืองหน่ะ ขับช้าๆ ถูกแล้ว แต่นอกเมือง หรือวิ่งต่างจังหวัด ควรกำหนดมาเลยว่า วิ่งได้ไม่เกิน 120 ไม่ต้องมาบอกว่าวิ่งได้ไม่เกิน 90 ส่วน 120 หน่ะ อนุโลมให้ ไม่ต้องมาอนุลง อนุโลมครับ นอกเมือง หรือขับทางต่างจังหวัด หรือบนทางด่วนในกรุงเทพ ต้องออกกฏหมายว่า วิ่งได้ไม่เกิน 120 อนุโลมให้ 140 ใครขับเลนขวาสุด แต่ช้ากว่า 120 หรือช้ากว่ารถเลนขวาสุด ในกรณีที่ ถนนฝั่งนั้นมี 3 เลนขึ้นไป ผิดกฏหมาย !!! นี่ !!! มันต้องแบบนี้
ป.ล. ความเห็นของผมเป็นแบบนี้ ตลอดไป ย้ำ !!! ตลอดไป
-
ขับได้ กันทุกคันผมว่า 80 ผมว่าปลอดภัยดี แน่นอน วิ่งไปยางแตกผมว่ารถคงไม่เสียหลักน่าจะควบคุมเอาอยู่ แม้แต่มือใหม่
-
ตามแยก ผมสนับสนุนครับติดเยอะๆยิ่งดี. กล้องจับความเร็วส่วนตัวผมไม่สน 555
-
ผมว่ามีกล้องตามแยกหรือจำกัดความเร็วก็ดีอยู่แล้วนะครับ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนเพราะว่าคนไทยขับรถกันผิดกฎหมายเยอะมาก แต่ควรจะมีป้ายบอกให้ชัดเจนแบบเมืองนอกเค้าว่าช่วงนี้ให้ขับไม่เกินเท่าไหร่ ไม่ใช่่ว่าอยากตั้งยิงความเร็วตรงไหนก็ตั้ง โดยไม่มีการใช้ป้ายบอกว่าตรงนี้ให้ใช้ความเร็วเท่าไหร่ ส่วนความเร็วในการขับต่างจังหวัดนั้นผมว่าที่ 120 มันช้าไปหน่อย น่าจะมีช่วงที่ให้แบบว่าไม่จำกัดความเร็วด้วยเพราะถนนบางช่วงมันสามารถใช้ความเร็วได้มากหน่อย ส่วนช่วงไหนที่จำกัดความเร็วก็ควรมีป้ายเตือน
-
ถ้าใช้คำว่าน่าเบื่อ ผมเบื่อจำนวนรถที่เพิ่มขึ้น กับปัญหาจราจร มากกว่าครับ
เงินเกือบแสนล้าน สามารถทำอะไรกับปัญหาจราจรได้เยอะมากๆ ดันเอาไปสนับสนุนให้คนซื้อรถเพิ่ม
พูดไปก็เข้าการเมือง - -''
เอาเป็นว่า เบื่อรถติดครับ ถนนให้วิ่งมันไม่พอจำนวนรถ
-
เรื่องขับเร็วเรื่องนึง เรื่องกล้องก็เรื่องนึงนะครับพี่เต้ เพราะว่าถ้าไม่มีกล้องเยอะๆเนี่ยคนก็จะทำผิดกันมาก มีไว้ดีแล้วครับ บางคนวิ่ง 180-200 ก็มี ผมนั่งรถไปกับคุณแม่ ขับ 130 ยังมีรถขับเร็วๆหวาดเสียวเลยครับ ผมว่าแบบนี้ก็ดีมากๆนะครับ จะได้กำจัดขาซิ่ง
ส่วนเรื่องการขับช้าการขับเร็ว ขึ้นอยู่ในกับว่าเราอยูในเมืองหรือนอกเมือง ถ้าในเมือง ยังไงก็เร็วไม่ได้อยู่แล้วครับเต็มที่ไม่เกิน100 ถ้านอกเมืองก็เร็วได้แต่พยายามอย่าเกิน 120 แต่กระทู้เมื่อวานที่ดักจับที่ 100 มันก็เกินไปครับ
ส่วนเรื่องรถ600ซีซี ถ้ามันมีคนคงซื้อกันเยอะแล้วครับ
กฎหมายมีไว้ให้ทำตาม ไม่ได้มีไว้ให้ขัดนะครับ
-
ทุกวันนี้ ต่างจังหวัดผมก็ขับ 180+ ได้นะครับ ถ้ารู้จักเส้นทางนั้นๆ ว่าตำรวจตั้งด่านตรงไหน ถ้าใกล้จะถึงระยะ 5 กิโลผมจะลดความเร็วลง ส่วนมากถ้ามีด่าน สิบล้อจะเปิดไฟบอก ;D
-
เรื่องกล้องจับความเร็ว ผมสนับสนุน ให้มันมีเป็นล้านตัวเลย แต่ขอให้ติดป้ายบอกให้ชัดเจนด้วยนะ ว่าตรงไหนให้ขับเท่าไหร่กันแน่
แต่สิ่งที่ผมเบื่อที่สุดจริงๆ คือการขับรถไม่มีน้ำใจให้กันเลย มันแล้งน้ำใจกันสุดๆเลยนะใน กทม
-
ผมว่ามีกล้องไม่เสียหายนะครับ
แต่เสียหายที่การกระทำมากกว่า เช่น เรื่องจับความเร็ว จำกัดความเร็วหรือคอยตรวจสอบเป็นสิ่งที่ดี
แต่มันน่าจะแสดงให้ชัดเจนว่า เส้นไหน ช่วงไหน ขับได้เท่าไร จะ 80 120 เอาให้ชัดเจน
-
กฎหมายพวกนี้ใช้มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2522 หรือเมื่อ 33 ปี มาแล้วครับ (พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522)
ตัวบทในบางมาตราตอนนี้มันคือกฎหมายโบราณครับ แต่เพราะเหตุใดจึงไม่ีมีการแก้ไขให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน คุณว่าแปลกไหม ?
คิดดูครับ
สถาพถนนเมื่อ 33 ปี ที่แล้ว ซึ่งถนนส่วนใหญ่เลนจะแคบ และพื้นผิวก็ไม่ดี แถมยังเป็น 2 เลนส่วนอีก แต่ให้วิ่งได้เพื่อความปลอดภัยยังกำหนดไว้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลย
สมรรถณะของรถ เมื่อ 33 ปี ที่แล้ว ซึ่งรถส่วนใหญ่ เอาแบบเครื่องใหญ่ๆ ก็ 1,400 cc แรงไม่เกิน 80 แรงม้า และ ที่สำคัญช่วงล่าง กับ เบรค กับ ยางรถยนต์ ก็ต่างกับปัจจุบันมาก แต่ให้วิ่งได้เพื่อความปลอดภัยยังกำหนดไว้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลย
-
ผมว่าดีครับอยู่ในเมืองจะขับกันทำไม 100+ น่ะผมว่า 80 บ้านเราก็เร็วเกินแล้วมีไม่กี่ประเทศในโลกหรอกครับที่กำหนดให้ขับในเมืองได้ถึง 80 น่ะเห็นอยู่ 60 กันเป็นส่วนมาก
-
เรื่องกล้องจับความเร็ว ผมสนับสนุน ให้มันมีเป็นล้านตัวเลย แต่ขอให้ติดป้ายบอกให้ชัดเจนด้วยนะ ว่าตรงไหนให้ขับเท่าไหร่กันแน่
แต่สิ่งที่ผมเบื่อที่สุดจริงๆ คือการขับรถไม่มีน้ำใจให้กันเลย มันแล้งน้ำใจกันสุดๆเลยนะใน กทม
เห็นด้วยตามนี้แหละครับ
อีกพวกที่ทำให้การขับรถผมน่าเบื่อคือรถแท็กซี่ รถตู้ และมอเตอร์ไซค์ที่ขับกร่างเหมือนตัวเองเป็นรถคันนึง
-
ผมว่า speed limits เราก็ธรรมดานะเทียบกับที่อื่นส่วนใหญ่แล้วลองดู
http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country (http://en.wikipedia.org/wiki/Speed_limits_by_country)
-
บางทีเห็นป้ายว่า 80 แฟนบอกเค้าให้ขับไม่เกิน80 หรือ ห้ามต่ำกว่า 80 อ่ะ นี่มันทางด่วนนี่นา ;Dขำๆนะครับ
-
เพื่อความปลอดภัยของทุกคนนะครับ
-
กฎหมายพวกนี้ใช้มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2522 หรือเมื่อ 33 ปี มาแล้วครับ (พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522)
ตัวบทในบางมาตราตอนนี้มันคือกฎหมายโบราณครับ แต่เพราะเหตุใดจึงไม่ีมีการแก้ไขให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน คุณว่าแปลกไหม ?
คิดดูครับ
สถาพถนนเมื่อ 33 ปี ที่แล้ว ซึ่งถนนส่วนใหญ่เลนจะแคบ และพื้นผิวก็ไม่ดี แถมยังเป็น 2 เลนส่วนอีก แต่ให้วิ่งได้เพื่อความปลอดภัยยังกำหนดไว้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลย
สมรรถณะของรถ เมื่อ 33 ปี ที่แล้ว ซึ่งรถส่วนใหญ่ เอาแบบเครื่องใหญ่ๆ ก็ 1,400 cc แรงไม่เกิน 80 แรงม้า และ ที่สำคัญช่วงล่าง กับ เบรค กับ ยางรถยนต์ ก็ต่างกับปัจจุบันมาก แต่ให้วิ่งได้เพื่อความปลอดภัยยังกำหนดไว้ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลย
รถสมัยก่อนหรือสมัยนี้ ขับ 90 มันก็ชนคนตายอยู่ดีแหละครับ ถ้าเมา หลับใน มันก็เกิดอุบัติเหตุอยู่ดี, โครงสร้างดี ตกทางด่วนก็ยังตายอยู่ดี
บอกว่ารถเบรคดี ผมเห็นรถเก๋งดีๆ เบรคไม่ทันชนท้ายคันหน้าประจำ มากกว่าพวกรถเก่าๆที่ขับเว้นระยะเยอะๆ เพราะรู้ว่าเบรคไม่ดีซะอีก
และถนนหลายๆสายก็อนุโลม ให้ขับเกิน100 อยู่แล้ว ผมว่ามันพอครับ แต่ถ้ารีบจริงๆก็รับความเสี่ยงเอา ต่างประเทศเขาถึงใช้ Radar Detector กันแพร่หลายไงครับ ไม่โทษกฎหมาย แต่ก็หาทางอื่นเอา >_<
โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับคุณ mathician ครับ คือมีกล้องได้ แต่ช่วยบอกตรูหน่อยเหอะ ว่าเส้นนี้อนุโลมให้เท่าไร เดี๋ยวติด Radar Detector จะได้รู้ว่าต้องเบรคเหลือเท่าไร - -
-
เอาเฉพาะเรื่องกล้องนะครับ
ผมเห็นด้วยมากๆ ที่ติดทุกสี่แยกไฟแดง
รำคาญพวกชอบผ่าไฟจราจร
ฝั่งตัวเองแดงแล้วแท้ๆ ยังชอบเสนอพรวดๆออกมาอีก
และที่สำคัญเวลาเกิดอุบัติเหตุ จะได้เอาภาพในกล้องมาช่วยตัดสินและตามคดีได้ครับ
-
น่าเบื่อมันก็แค่ความรู้สึกครับ กฎไม่ได้มีไว้เพื่อให้ใครตื่นเต้นหรือรู้สึกดี แต่มีไว้เพื่อความปลอดภัยและรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมครับ
แล้วที่บอกว่าสัญญาณไฟไม่มีตัวเลขนับถอยหลัง เค้าก้มีไฟเหลืองหนิครับ มีมานานแล้วด้วย โดนคันหลังสอยตูดดีกว่าฝ่าไปแล้วโดนอัดด้านข้างนะครับ อันนั้นไม่ตายก็เจ็บหนักแน่ๆ
ปล.ทุกทีเห็นจขกท.ชอบพูดว่าตัวเองขับรถช้าๆอืดๆไม่ใช่เหรอครับ ไหงตอนนี้นึกอยากขับเร็วฝ่าไฟแดงซะล่ะครับ
-
น่าเบื่อมันก็แค่ความรู้สึกครับ กฎไม่ได้มีไว้เพื่อให้ใครตื่นเต้นหรือรู้สึกดี แต่มีไว้เพื่อความปลอดภัยและรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมครับ
แล้วที่บอกว่าสัญญาณไฟไม่มีตัวเลขนับถอยหลัง เค้าก้มีไฟเหลืองหนิครับ มีมานานแล้วด้วย โดนคันหลังสอยตูดดีกว่าฝ่าไปแล้วโดนอัดด้านข้างนะครับ อันนั้นไม่ตายก็เจ็บหนักแน่ๆ
ปล.ทุกทีเห็นจขกท.ชอบพูดว่าตัวเองขับรถช้าๆอืดๆไม่ใช่เหรอครับ ไหงตอนนี้นึกอยากขับเร็วฝ่าไฟแดงซะล่ะครับ
ผมไม่ได้ฝ่าหรอกครับ แต่กลัวรถหลังมากกว่าที่จะมาชนตูดเรา
ผมขอแค่ ไฟบอกเวลาครับ อยากให้มีทุกแยกเลย จะได้รู้ว่าความเร็วนี้จะวิ่งไปได้่ไหมนะครับ
-
กล้องไฟแดงมีน่ะดีแล้วคับ ฝึกขับให้ปลอดภัยไว้ แต่! กลางคืนแยกไหนโล่งผมแหกไฟแดงตลอด 555+ แต่หยุดก่อนแหกนะคับไม่ใช่ซิ่งผ่านไป
แต่เรื่องความเร็วเนี่ย ไหนจะตำรวจมั่ว ไหนจะกล้องเพี้ยน ไหนจะชอบตั้งกล้องทางลงเขา >:(
และคนที่ต้องวิ่งทางไกลๆมากๆ ให้วิ่ง 80 90 ?? บ้าไปแล้ว รถสมัยนี้มันเข้าไกล้200ม้ามากแล้วนะ
มารผจญบนถนนก็พวกรถใหม่นี่แหละ ช้าแช่ขวามั่ง ปาดแบบไร้ลูกตามั่ง ฯลฯ >:( >:( เห็นป้ายแดงแล้วหงุดหงิด
-
กฏหมายมันโบราณจริงครับ รถสมัยนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่กฏหมายโบราณๆฉบับนี้กำหนดไว้มากเลย
แต่บนถนนปัจจุบันคุณๆผู้มีรถยนต์ประสิทธิภาพสูงๆแบบที่เรียกว่า"140ข้าก็ยังสบาย" ก็ยังใช้ถนนร่วมกับยานพาหนะที่มีอายุพอๆกับกฏหมายฉบับนี้ใช่ไหมล่ะครับ โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะเห็นดาษดื่น
แล้วถ้าปรับกฏหมาย เพิ่มความเร็วขั้นต่ำ แล้วรถเหล่านั้นเขาอยากใช้ความเร็วแบบนั้นทั้งๆที่รถไม่เอื้ออำนวยเลยเขาก็ไม่ได้ทำผิดกฏจราจร แต่ก็คิดถึงผลลัพธ์เอาเองแล้วกันครับ (ไม่นับรวมรถโครงเก่าที่ได้รับการปรับแต่งประสิทธิภาพมานะครับ)
ไว้ให้มีพรก. พรบ. ฯลฯ กำหนดให้รถยนต์ใช้ได้ไม่เกิน10ปี กฏจราจรในหมวดความเร็ว คงได้updateกันทุกๆ10ปีตามใจคุณๆบางคนได้ครับ
ส่วนเรื่องกล้อง มีก็ดีครับ เป็นเครื่องมือทำให้มีหลักฐานมากขึ้น ข้อดีไม่ได้เกิดจากจราจรฝ่ายเดียวหรอกครับ ฝ่ายคนขับก็มี
เช่น ผมเคยโดนจราจรทางหลวงเส้นตจว.ท่านเรียก ทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดอะไรเลย เมื่อผมถามถึงข้อกล่าวหา ท่านว่าขับรถเร็ว ผมแย้งว่าผมก็ขับตามคันอื่นๆมาทำไมท่านไม่เรียกให้หมดทุกคัน ท่านก็บอกว่าผมขับเร็วกว่าคันอื่น!!?? ซึ่งผมขับอยู่ในแถวคันกลางๆมาเป็นกิโลๆ จะไปเร็วกว่าคันอื่นได้อย่างไร ผมเลยบอกท่านไปว่า ผมขอหลักฐานภาพถ่ายจากกล้อง ท่านใบ้รับประทาน ทำเป็นวอ.ไปถามจราจรท่านอื่นๆ แล้วทำมาเป็นขอดูว่ามีใบขับขี่หรือเปล่า พอหาความผิดไม่ได้ก็ต้องปล่อยผมไป
-
กฏหมายมันโบราณจริงครับ รถสมัยนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่กฏหมายโบราณๆฉบับนี้กำหนดไว้มากเลย
แต่บนถนนปัจจุบันคุณๆผู้มีรถยนต์ประสิทธิภาพสูงๆแบบที่เรียกว่า"140ข้าก็ยังสบาย" ก็ยังใช้ถนนร่วมกับยานพาหนะที่มีอายุพอๆกับกฏหมายฉบับนี้ใช่ไหมล่ะครับ โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดจะเห็นดาษดื่น
แล้วถ้าปรับกฏหมาย เพิ่มความเร็วขั้นต่ำ แล้วรถเหล่านั้นเขาอยากใช้ความเร็วแบบนั้นทั้งๆที่รถไม่เอื้ออำนวยเลยเขาก็ไม่ได้ทำผิดกฏจราจร แต่ก็คิดถึงผลลัพธ์เอาเองแล้วกันครับ (ไม่นับรวมรถโครงเก่าที่ได้รับการปรับแต่งประสิทธิภาพมานะครับ)
ไว้ให้มีพรก. พรบ. ฯลฯ กำหนดให้รถยนต์ใช้ได้ไม่เกิน10ปี กฏจราจรในหมวดความเร็ว คงได้updateกันทุกๆ10ปีตามใจคุณๆบางคนได้ครับ
ส่วนเรื่องกล้อง มีก็ดีครับ เป็นเครื่องมือทำให้มีหลักฐานมากขึ้น ข้อดีไม่ได้เกิดจากจราจรฝ่ายเดียวหรอกครับ ฝ่ายคนขับก็มี
เช่น ผมเคยโดนจราจรทางหลวงเส้นตจว.ท่านเรียก ทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดอะไรเลย เมื่อผมถามถึงข้อกล่าวหา ท่านว่าขับรถเร็ว ผมแย้งว่าผมก็ขับตามคันอื่นๆมาทำไมท่านไม่เรียกให้หมดทุกคัน ท่านก็บอกว่าผมขับเร็วกว่าคันอื่น!!?? ซึ่งผมขับอยู่ในแถวคันกลางๆมาเป็นกิโลๆ จะไปเร็วกว่าคันอื่นได้อย่างไร ผมเลยบอกท่านไปว่า ผมขอหลักฐานภาพถ่ายจากกล้อง ท่านใบ้รับประทาน ทำเป็นวอ.ไปถามจราจรท่านอื่นๆ แล้วทำมาเป็นขอดูว่ามีใบขับขี่หรือเปล่า พอหาความผิดไม่ได้ก็ต้องปล่อยผมไป
ในมุมของเจ้าของรถคงเป็นอย่างนั้นด้านบน แต่เขาอาจมองมุมคนเดินถนน มองม๋าตัดหน้ารถ มองอุบัติเหตุ เหตุสุดวิสัย ขับช้าๆไงก็คงอุบัติเหตุร้ายแรงน้อยกว่าขับเร็วๆ
-
ไม่มีกฏหมายฉบับไหน ทำให้ประชาชนพอใจได้หมดทุกคนอยู่แล้ว
ถ้าประชาชนนั้นๆ คำนึงถึงผลกระทบที่ได้รับของตัวเองแต่ฝ่ายเดียว
เป็นเรื่องจริงครับที่ คนเราทุกคนนั้น อย่างไรก็ตามก็ต้องคิดเข้าข้างอารมณ์ และความรู้สึกของตนเองก่อนเป็นธรรมดา แต่การอยู่ร่วมกัน การถูกเบียดเบียนให้รู้สึกว่าเสียเปรียบ หรือ เบื่อ มันมีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่า เราเป็นผู้กระทำ (จะได้รู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) หรือ เป็นผู้ถูกกระทำ
อันไหนที่ดีต่อส่วนรวม เราก็ยอมปรับตัว ปรับใจเราไปดีกว่า เปลี่ยนตัวเราดีกว่าไปคาดหวังให้คนอื่นเปลี่ยนครับ
-
บางอารมณ์มันก็หงุดหงิด แต่เพื่อส่วนรวมเราก็ต้องอยู่กันอย่างมีกฏครับ
-
ผมไม่ได้ชอบกล้องที่จับความเร็ว แต่ผมยอมรับมันครับ เพราะมันมีประโยชน์มากกว่ามีโทษทั้งๆที่โดยมาก การขับขี่ของผมมันเกินวิสัยความเร็วที่อนุญาตอยู่แล้วแต่เพื่อส่วนรวม ทุกอย่างคงจะเอาตามใจเราหมดทุกอย่างไม่ได้ครับ คนเราอยู่กันไม่กี่คนยังมีกฎหมู่ หากบ้านเมืองเราไม่มีกฎหมายคงวุ่นวายน่าดูครับ หากมามองแง่ดีและแง่เสีย ผมยังมองว่ามันมีประโยชน์มากกว่าโทษ ขนาดผมเองเป็นคนที่ทำผิดกฎหมายแต่ผมยังยอมรับและพยายามไม่ฝ่าฝืนและทำตามมากเท่าที่พึงจะทำได้เลยครับ
-
สิงค์โปร์ให้วิ่งบนทางด่านแค่90เอง ไม่มีอะลุ่มอะล่วยแบบบ้านเราด้วย
ไม่เกี่ยวกับสมรรถนะของรถหรอกครับ เป็นเรื่องการบังคับใช้กฏหมายมากกว่า
-
อย่าว่าแต่กล้องเลย ทุกวันนี้ผมจะตาย เพราะ รถซิ่ง รถกระบะที่ชอบปาด รถตู้
ท่องอยู่ตลอด ให้เค้าไปๆ
-
ให้****ตำรวย****ขับแบบปกติเวลามันกลับบ้านมันไปเที่ยว อะไรก็ชั่ง ขับเกิน 80 ตบ+ปรับแมร่งเลย ดูซิมันจะทำกันได้ไหม :-\
-
ผมมาอยู่ซิดนีย์ได้ สามเดือนปรับนิสัยขับขี่ไปเยอะเลยครับ
ผมชอบขับรถที่นี่ ตรงกล้องเยอะดีครับ ส่วนมากในเมืองให้ขับ 50 บางส่วน 60 70 นี่ถนนสามเลนขึ้น 80 แทบไม่มีเลยครับ นอกจาก ขับชาขเมือง คือ 110 ตอนขับไปเมลเบริน
ต่างประเทศคนมีวินัยเยอะดีครับ ผมชอบ ออกตัว กดคันเร่งไปเลย พอถึง ความเร็ว ผมก็ผ่อน แล้วก็แซงกันที่ความเร็ว ตามกฏหมายกำหนดสนุกดีครับ ออกตัวแข่งกับรถแรงๆ สุดท้ายก็วิ่งได้เท่ากัน
ถ้าเป็นช่วงเวลา โรงเรียน แถว รร ให้ขับ 40 คลานกันทั้งถนนเลยรถทุกคัน
ใครข้ามทางม้าลาย เราต้องรีบเบรคคคค
ถ้าเข้าวงเวียน ให้รถทางขวาไปก่อน เป็นสำคัญ เพราะเขาจะพุ่งมาเลย
ผมชอบครับ บ้านเรา คนไร้วินัยมากๆ ที่นี่ ออกใบขับขี่ยากมากๆ
ทำไม เรื่องง่ายๆแค่นี้บ้านเราทำไม่ด้นะครับ ปลอดภัยดี
ผมโดนปรับไปที ยูนเทริน ตรงไฟแดง ก็ไม่เห็นมีป้ายห้าม โดนไปเลย 335 เหรียญ ครับ จอดรถ ข้างทางเลยเวลาไปแปปนึง โดนปรับไป 100 เหรียญ
-
ถ้าบอกว่า กล้องเมืองไทยเยอะ ต้องบอกว่าที่อังกฤษเยอะกว่าเยอะครับ
กล้องช่วย กวดขันวินัยจราจร กำหนดความเร็วเท่าไหน ผมขับตามนั้นเปะ ไม่เหมือนอยู่ ไทย
แต่กล้องจับความเร็ว ของที่อังกฤษ มีป้ายบอกเตือนก่อนและมันมีเส้นขีด บอกรัศมีทีจะจับความเร็วรถเราบนถนน หนะครับ
(http://www.speedorsafety.com/wp-content/uploads/evidence/speed1.jpg)
Credit รูป : http://www.speedorsafety.com (http://www.speedorsafety.com)
-
ที่ US ถนนพวก interstate ก็จำกัดความเร็วไว้ที่ 75 mph (120 kmph) ก็ไม่ต่างจากบ้านเราครับ ขับเร็วเกินเจอกล้องหรือตำรวจก็อ้างอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ขับสบายๆถึงที่หมายเหมือนกันครับ ไปกันสบายๆไม่ต้องรีบกันครับ พี่น้อง ;D
-
บ้านเรามีกล้องโอเค แต่ไม่มีป้ายเตือนว่ากล้องอยู่ไหนนี่สิทุเรศ บ้านเมืองอื่นเค้าเตือนก่อนว่าจับที่เท่าไหร่พร้อมป้ายว่ามีกล้อง แล้วเค้าไปตั้งในจุดที่อันตรายเช่นชุมชน ก่อนแยก ก่อนโค้ง อะไรทำนองนี้
-
กล้องตามแยกผมเห็นด้วยนะกล้องความเร็วไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร ถ้าจะมีก็ขอให้มีป้ายบอกแล้วความเร็วนี่ไม่ต้องบอกหรอกว่ากำหนด 90 แต่อนุโลม 120 อยากให้กำหนดเป็น 120 ก็ 120 ไปเลยเกินก็จับไม่ว่ากันครับ 90 นี่มันก็ช้าเกินไปในการวิ่ง ตจว และบนทางใหญ่ๆ ไม่ต้องมีคำว่าอนุโลมเพระาคำนี้มันเอื้อต่อตำรวจมากๆ แล้วยังทำให้เกิดข้อถกเถียงกันมากมายด้วยครับ
-
กล้องตาม แยก มีได้ แต่อยากให้มีตัวนับถอยหลัง ให้ครบ ทุกแยก
กล้องบนทางด่วน บางจุดโอเค
แต่บางจุด เช่น บางพลี สุขสวัสดิ์ ไม่โอเค เพราะ ยังสงสัยว่า กล้องตั้งจับความเร็ว ที่เท่าไหร่กันแน่ 90 หรือ 120
-
เป็นอะไรมากมั๊ยวะครับเต้
ผมขับรถมาจะมีกล้อง มีตำรวจ มีตรวจจับความเร็ว ฯลฯ ผมไม่ได้มีปัญหากับความสนุกในการขับรถเลยครับ
การขับรถให้สนุก มันขึ้นอยู่กับ "มุมมอง" มากกว่านะ ถ้าเราปฎิบัติตามกฎหมาย(เป็นปกติ) อยู่แล้ว (ซึ่งผมเป็นแบบนั้น)
ผมก็ไม่เห็นมีปัญหาใดๆทั้งสิ้น
วันนี้ผมก็วิ่งบนทางด่วนผมรีบ ผมก็แช่ 120 บ้าง ไหลๆ ไป 130 คนอื่นช้าผมก็แซงซ้ายไม่เห็นจำเป็นต้องบีบแตร ตบไฟใดๆนะ
ผมรีบผมก็มุดไป มุดแม่งเกือบ 20 คันเมื่อเช้า ก็สนุกดี ฝึกทักษะ ชั้นเชิง ลีลา มีเหมือนกันรถเกเร พอเราจะแซงซ้ายก็เร่งมากันขวา
ผมก็ทะลึ่งเสียบเข้าไปแบบนั้น วัดใจครับ สนุกดี ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร บทอยากซิ่ง ผมก็ไป 180 บ้าง 200 บ้าง แต่ตั้งกฎกับตัวเอง
ว่าซิ่งเต็มที่ให้ 200 วันเลยทำ 200 ไป 2 รอบ บนทางด่วนนะ เดี๋ยวกลัวมีคำถามอีกวิ่งที่ไหน ก็วิ่งมันบนทางด่วนแหละ
เพราะข้างล่างถนนมันห่วย เลยวิ่งแค่ 160 พอ...
อย่าไปแคร์อะไรมากนักเลย ชีวิตไม่ลำบากก็อัดกับไปครับ แต่รถน้องน่ะวิ่งเท่าไหร่ถึงเครียดกับมันนักวะ ฮะ???
-
ไม่เบื่อครับ สบายใจมากกว่าอีก
ถ้าเราไม่ทำผิดก็ไม่ต้องคิดมากเลย ถ้าทำผิดก็พร้อมโดนปรับตามกฏหมาย
-
ผมมาอยู่ซิดนีย์ได้ สามเดือนปรับนิสัยขับขี่ไปเยอะเลยครับ
ผมชอบขับรถที่นี่ ตรงกล้องเยอะดีครับ ส่วนมากในเมืองให้ขับ 50 บางส่วน 60 70 นี่ถนนสามเลนขึ้น 80 แทบไม่มีเลยครับ นอกจาก ขับชาขเมือง คือ 110 ตอนขับไปเมลเบริน
ต่างประเทศคนมีวินัยเยอะดีครับ ผมชอบ ออกตัว กดคันเร่งไปเลย พอถึง ความเร็ว ผมก็ผ่อน แล้วก็แซงกันที่ความเร็ว ตามกฏหมายกำหนดสนุกดีครับ ออกตัวแข่งกับรถแรงๆ สุดท้ายก็วิ่งได้เท่ากัน
ถ้าเป็นช่วงเวลา โรงเรียน แถว รร ให้ขับ 40 คลานกันทั้งถนนเลยรถทุกคัน
ใครข้ามทางม้าลาย เราต้องรีบเบรคคคค
ถ้าเข้าวงเวียน ให้รถทางขวาไปก่อน เป็นสำคัญ เพราะเขาจะพุ่งมาเลย
ผมชอบครับ บ้านเรา คนไร้วินัยมากๆ ที่นี่ ออกใบขับขี่ยากมากๆ
ทำไม เรื่องง่ายๆแค่นี้บ้านเราทำไม่ด้นะครับ ปลอดภัยดี
ผมโดนปรับไปที ยูนเทริน ตรงไฟแดง ก็ไม่เห็นมีป้ายห้าม โดนไปเลย 335 เหรียญ ครับ จอดรถ ข้างทางเลยเวลาไปแปปนึง โดนปรับไป 100 เหรียญ
แบบนี้ผมก็ชอบครับ มีแต่คนไทยกันเองนี่แหละที่เพี้ยนเพราะทำอะไรไม่รับผิดชอบ และละเมิดคนอื่นอยู่ตลอดเวลา จะเนิ่นนานยังไง ขับ 80 แต่ขับไม่มีความรับผิดชอบก็เป็นภัยต่อคนอื่นอยู่ดี ทำอะไรตามใจ และเห็นแก่ตัวนี่แหละไทยแท้
-
ผมว่ามันน่าเบื่อ แต่ผมว่ามันดีแล้วกับทุกคนบนถนนครับ
-
ขับได้ กันทุกคันผมว่า 80 ผมว่าปลอดภัยดี แน่นอน วิ่งไปยางแตกผมว่ารถคงไม่เสียหลักน่าจะควบคุมเอาอยู่ แม้แต่มือใหม่
ผมขับ 80 แล้วผมหลับในมาแล้วครับ....
ไม่ต้องอื่นไกล เอาแค่ ขับ 110 นิ่งๆ ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้พวกคุณอ่านกันเนี่ย
ผมยังเคยหลับในเลย ถ้าไม่มีน้องที่นั่งไปด้วยกัน ป่านนี้ลงข้งทางไปแล้วมั้ง
ในชีวิตจริง ใครจะขับแบบนั้นต่อเนื่องกันได้บ้างครับ? ต่อให้จอดแวะพัก ก็ง่วงอยู่ดี
-
^
^
ตามนี้ครับ
// หลายคนที่ว่าขับ 80 ตลอดทางได้นี่แสดงว่าไม่เคยขับทางไกลแน่ๆ ผมวิ่งทางไกลประจำรถเค้าวิ่ง 120-140 กันปกติไม่อันตรายอะไรเลย ที่อันตรายคือรถช้านั่นแหละ ข่าวที่หลับในกันเพราะพวกช้า ซึมๆไปขับรถไม่มีอะไร จุดหมายไม่มี สมองล่องลอยเดี๋ยวก็ลงข้างทาง คนขับรถเร็วผมว่าสติต้องใช้เยอะกว่า มีการไตร่ตรองมากกว่า ขับรถเร็วนี่ไม่ได้หมายถึงขับปาดไปมา อันนั้นอันตรายกว่าเยอะ
-
^
^
^
อาการเหล่านั้นมันอาการของคนที่พักผ่อนไม่พอนะครับนะ
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ขับรถระยะทางไกลๆ คือจาก ถนนพระรามที่3 บางโพงพาง ไป ถนน331 เกาะจันทร์ ชลบุรี บ่อยถึงบ่อยมาก สัปดาห์ละ3ครั้ง และถ้าวันไหนไม่มีธุระด่วน ก็ขับความเร็ว 80-100กม./ชม. ถ้ามีธุระด่วนก็ 115 กม./ชม. การขับที่ย่านความเร็ว 80-100กม./ชม. เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุด ฟังเพลงที่ชอบ มองวิวข้างทางบ้างอะไรบ้าง ผมเห็นด้วยนะสำหรับย่านความเร็วที่กล้องกำหนด ยิ่งหลังๆได้ขับไปเส้นสะพานภูมิพล ไปออกแถวบางนา ระยะหลังๆมานี้ผมมีความรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นนะ รถวิ่งกันประมาณ 90-100 กม./ชม ผมชอบนะ
จากที่ได้เคยไปขับรถเที่ยวนิวซีแลนหนนึงที่นั่นขับกันน่ารักมากๆ 80-90 กม./ชม. และก็ได้ขับรถข้ามรัฐระหว่าง Freeport Pittsburg PA ไป Akron OH อยู่บ่อยๆ ผมว่าคนไทยต้องเริ่มที่จะปรับอุปนิสัยในการใช้ความเร็วกันได้แล้ว เพราะการขับรถไม่ได้หมายความว่าต้องไปถึงจุดหมายในเวลาน้อยที่สุด แต่มันคือช่วงเวลาที่สุนทรีและเป็นส่วนตัวนะผมว่า
พักผ่อนให้เพียงพอและลองขับรถแบบสุนทรีบ้างก็ดีนะ
-
เห็นด้วยกับข้างบน ที่ขับ 80 แล้วง่วงนอน นั่นเป็นเพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอมากกว่า
ถ้านิ่งๆ ตรงอย่างเดียว ต่อให้ 200 ก็หลับ
นอนให้มันเยอะๆ มันจะได้ไม่หลับ
สิ่งนึงที่สำคัญมากๆเลยดั่งที่พระพยอมได้เคยกล่าวไว้ ระแวง ระวัง ระไว ภัยจะไม่มี เซ่อๆ เหม่อ ๆ จะเจอภัยทั้งปี
ให้มีสตินั่นเอง
-
จริงๆแล้วการตั้งกล้องจับความเร็วมันมีผลดีมากกว่าผลเสีย ถ้าปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดทั้งผู้ขับและผู้ควบคุมทางกฎหมาย
แต่ผมก็หงุดหงิดเพราะเกรงว่าเผลอแล้วถูกจับ
-
อย่าคิดว่าประสิทธิภาพรถสมัยนี้ดีขึ้นแล้วควรจะเพิ่มความเร็วเลยครับ ประสิทธิภาพรถดีขึ้นจริงแต่ความสามารถของผู้ขับขี่มันยังอยู่เท่าเดิม ถ้าหากว่าไม่ได้มีการฝึกฝนมาอย่างดีน้อยคนมากจะมีประสาทสัมผัสรับมือกับเหตุการณ์กระทันหันได้ทันการ รถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุลงตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกคันก็ล้วนคิดว่าเอาอยู่ทั้งนั้นแต่น่าเสียดายที่เกินครึ่งของพวกเค้าไม่มีโอกาสที่จะได้ปรับทัศนคติใหม่หลังชนกันไปแล้ว ผมไปต่างจังหวัดจันทบุรีบ่อยๆ ช่วงก่อนเข้าเมืองจันจะมีทางตรงยาวหลายกิโลเมตรที่พื้นผิวเรียบ ไม่มีโค้งนะครับแต่ผมผ่านไปทีไรมีรถลงร่องกลางทางทุกที ทั้งเก๋งทั้งกระบะหรือแม้กระทั่งรถราคาแพงอย่างปราโด้ก็ลงไปกองร่องนี้มาแล้วทั้งนั้น ช่วงปีใหม่ก็มีวีโก้ห่อรอบต้นไม้กลายเป็นทรงVมาคันนึง ดูท่าว่าคนในรถน่าจะตายหมด ล่าสุดอาทิตย์ที่แล้วระหว่างทางกลับมีดีแม็กรุ่นล่าสุดไปห่อต้นไม้เช่นเดียวกันแต่รายนี้โชคดีที่ตรงแคปขนของไปห่อไม่ใช่ห้องโดยสาร ย้ำนะครับว่าทางตรงๆเรียบๆเองนะเนี่ย :-X
ประเทศที่เข้มงวดเรื่องกฏหมายและระเบียบวินัยอย่างอเมริกานี่รถแรงๆเค้าราคาถูกกว่าบ้านเรา3-4เท่าแต่ทุกคันก็ต้องอยู่ภายใต้กฏหมายความเร็วหมดทุกคัน อย่างญี่ปุ่นนี่เองก็เคร่งมากๆในการตัดแต้มและยึดใบขับขี่ เคยอ่านมาเห้นว่าการละเมิดกฏจราจรจะมีการส่งผลมาที่ทำงานเพื่อพิจารณาความประพฤติด้วย เข้มงวดนั่นแหละดีแล้ว ถ้าปล่อยกันให้แล่นเร็วไม่มีข้อกำหนดมันก็จะไม่มีจุดมาตรฐานสิ้นสุดว่าความเร็วขนาดไหนที่มันพอดีเพราะต่างคนต่างก็คิดว่ารับมือสบายๆ รู้ตัวอีกทีชนเละเทะไปแล้วและไม่ได้ชนคันเดียวพาคนอื่นตายไปด้วย อย่างกรณีปอร์ชที่ชนท้ายฟอจูนเนอร์เมื่อปีที่แล้วน่าจะเป้นตัวอย่างได้อย่างดี ปอร์ชคิดว่าขับเร็วแล้วตัวเองเอาอยู่แต่ลืมไปว่าความเร็วเฉีนยดๆ300ของตัวเองนั้นมันไม่เข้ากับความเร็วของรถบ้านๆที่เค้าแล่นกันไม่เป็น160เป็นส่วนใหญ่ ถ้าตอนนั้นมีการคุมเข้าด้านความเร็วและคนขับไม่ละเมิดก็จะไม่มีใครต้องตาย ผมมองว่ากฏระเบียบพวกนี้มันช่วยคุ้มครองชีวิตพวกเราด้วยนะ :)
-
ขออนุญาติยกตัวอย่างอุบัติเหตุจากเว็บข่าว อุบัติเหตุสามารถป้องกันได้ถ้าขับขี่อย่างผลอดภัย
http://www.dailynews.co.th/thailand/182295 (http://www.dailynews.co.th/thailand/182295)
-
ขับช้า ขับเร็ว ผมว่าไม่สำคัญเท่า รักษากฎจราจรนะครับ
อย่างขับช้าแช่ขวานี่ อันตรายมาก รถเร็วกว่าจะมาเสยเอากง่ายๆ
หรือคันที่เร็วกว่า ก็ต้องออกเลนซ้าย ยิ่งเพิ่มความอีตนายมากขึ้นไปอีก
เพราะกลายเป็นรถเลนซ้ายเร็วกว่าเลนขวา
กฏหมายเค้าก็บอกให้คันขับช้ากว่าอยู่เลนซ้าย
ส่วนจะขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนดก็ผิดแน่ ก็ว่ากันไป
ถ้ายังขับกันไร้ระเบียบอย่างนี้ speed limit ตอนนี้ผมก็ว้่าเหมาะสมดี
ถ้ารักษากฎจราจรกันได้ ผมว่าอุบัติน่าจะลดลงเยอะะ
ผมเห็นด้วยกับการติดกล้องนะครับ น่าจะช่วยให้การใช้รถใช้ถนนเป็นระเบียบมากขึ้น
ถ้าใช้รถเป็นระเบียบมากขึ้นแล้ว ค่อยแก้กฏหมายเพิ่ม speed limit ก็จะเหมาะสมกว่า
-
นี่ยังน้อยครับ ไปเจอญี่ปุ่นนี่ เคร่งกว่ามาก มีครั้งนึงผมขับผ่านทางรถไฟ เพื่อนคนญี่ปุ่นตกใจเลย ถามว่าทำไมไม่จอด เดี๋ยวตำรวจตามมาถึงบ้านเลยนะ ผมถามว่าต้องจอดด้วยหรอ เค้าบอกว่า เจอทางรถไฟต้องจอด 5 วินาที เพื่อความปลอดภัย เจอทางม้าลายก็ต้องเว้นเป็นเมตรตามที่กำหนด ขณะเลี้ยวรถถ้ามีคนเดินข้ามซอยต้องจอดให้คนข้ามก่อนถือคนเป็นสำคัญ ผมเคยเกือบโดนรถตู้วินบางกะปิชนเลี้ยวมาไม่ชะลอไม่เปิดไฟเลี้ยว นั่งเบาะตอนหลังก็ต้องคาดเข็มขัดไม่งั้นใบสั่งก็ส่งถึงบ้านครับ ผมยังไม่เคยเจอรถแรงๆ คันไหนที่ญี่ปุ่น ขับบ้าเลือดหวาดเสียวเลยครับ
-
ถ้าอยากตื่นเต้นต้องยอมจ่ายครับ ต่างประเทศโหดกว่านี้มาก แต่เค้าก็ยินดีจ่ายครับ เดือนๆโดยกันหลายรอบ
-
เต้ชอบตั้งกระทู้ดราม่า 5 5 5 ไม่ไหวจะเคลียร์ว่ะ ชีวิตคนมันไม่สามารถวิ่ง 80 ได้ตลอดชีวิต หรือวิ่ง 200 ได้ตลอดชีวิตหรอก
ผมเองเคารพกฎหมายนะ ถ้าผิดจริงว่าไปตามนั้น ลูกผู้ชายแมนๆ ครับ
แต่ถ้าผมอยากเร็วผมก็ไปไวครับ คำว่าไปไว ไม่ได้มุดแบบปาดหน้าชาวบ้านนะ มุดจริงไรจริง ไปแบบนิ่งๆ รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่งครับ
จะมามุดแบบปาดหน้าชาวบ้านเขาเรียกว่าพวกแว๊นท์ คนดีๆ ที่ขับรถเร็วและขับรถ"เป็น" เขาไม่ทำกันหรอก มันมีโอกาสเสียหลัก
แต่ถ้ามุดเทพๆ ไปเร็ว ไม่ละลานใคร และถึงที่หมายปลอดภัย ต้องฝึกและต้องมีสมาธิสูงกว่าคนอื่นๆบนถนน
ที่ว่ายิ่งขับเร็วยิ่งอันตราย ไม่จริงหรอกครับ ขับเร็วแต่มีสติ และรู้ลิมิตรถตัวเองไม่อันตรายหรอก
ผมไปแบบนั้นและขับทุกครั้งที่ต้องการทำเวลา ส่วนจะเกิดกฎหมายกำหนดหรือไม่ ก็อยู่ที่ตำรวจจะพิจารณา
ผมไม่ใช่คนดีโลกสวย ขับแม่ม 80 60 50 40 ผมแล้วแต่สถานการณ์แล้วแต่ถนน แล้วแต่รถ แล้วแต่คน แต่ชีวิตนี้มีตั้งแต่ 20 - 230
ตั้งเป้าตัวเองว่าพยายามไม่ให้เกิน 200 ถ้าไม่จำเป็น แต่เร็วๆนี้ ยังมีคุณน้องที่เคารพรัก มันอัดไปซะ 260 แล้วถ่ายรูปมาโชว์อยู่เลย 5 5 5
ผมมีภาพมาเตือนสติเพื่อนๆก็ละกันว่า ในซอย แต่แท็กซี่มันเมา เมื่อวานมันเกือบเอาขาลูกน้องผมไปข้าง
ในซอย ความเร็วไม่น่าเกิน 40 แต่สามารถทำให้ชีวิตคนเปลี่ยนเพราะอีกคนไม่มีสติในการขับรถ
ผมไม่ได้ดราม่า และไม่ชอบดราม่า แต่ความเป็นจริงโลกมันไม่ใช่ที่พูดกันเท่าไหร่นัก
ยอมรับมันบ้างว่า ชีวิตมันไม่โลกสวยเท่าไหร่
ผมว่าพวกคุณไปรณรงค์ "เมาไม่ขับ" ดีกว่ามั๊ย ? ดีกว่ามาเถียงเรื่องความเร็วไร้สาระบ้าบอที่กำลังพูดกันอยู่ ?
-
เมื่อวานนี้ขับ 90 อยู่เลนกลางแท้ๆ (มี 3เลน) โดน 18 ล้อมันจะรีบไปไหนไม่รู้มันเปิดไฟไล่เอา เลยต้องหนีมันอีก โอ้ยขับช้าก็เสียวก้น