Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: F.I.P.G. ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2013, 11:06:32
-
สวัสดีครับทุกท่าน
จากการที่ได้ลองศึกษาเรื่องวงการรถยนต์ไทยมาพักหนึ่ง ผมมีข้อสงสัยจะสอบถามสมาชิกว่า
ในช่วงหนึ่งของวงการรถยนต์ไทย (ยุคก่อนสหัสวรรษใหม่) การขายรถยนต์ของแต่ละยี่ห้อนั้น
จะไม่ได้จัดจำหน่ายด้วยบริษัทแม่โดยตรง แต่จะผ่านทางผู้ถือสิทธิ์ที่คนไทยรับผิดชอบ อาทิ
นิสสัน>>สยามกลการ
มิตซูบิชิ>>เอม เอม ซี สิทธิผล
มาสด้า>>กมลสุโกศล
เมอร์ซีดิส เบนซ์>>ธนบุรีประกอบรถยนต์
เป็นต้น
(ถ้ามีแบรนด์ไหนที่เข้าข่ายลักษณะนี้ รบกวนทุกท่านช่วยเพิ่มเติมข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แก่การเรียนรู้ครับผม :-P)
ทีนี้ผมมีข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใด
.
- กลุ่มผู้ถือสิทธิ์ของแต่ละค่ายดังกล่าว ถึงจางหายไป จนกลายเป็น บริษัทแม่เข้ามาทำ 100 เปอร์เซ็นต์
- กลุ่มถือสิทธิ์เหล่านั้นมีค่ายไหนที่จบสวย และจบไม่สวย บ้างหรือไม่
- ต้นเหตุของการเปลี่ยนผ่านนั้นของแต่ละค่ายนั้นเกิดจากอะไร
- ในปัจจุบันนี้ กลุ่มผู้ถือสิทธิ์เหล่านั้น ได้เปลี่ยนแปลงบทบาทตนเองไปในแนวทางใด หรือ
ยกธงขาวอำลาวงการกัน ครับผม
รบกวนทุกท่านมาแสดงทรรศนะความคิดเห็นกันพลัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนรุ่นหลังกันครับ
(ขออภัยที่สอบถามเยอะเกินไปบ้างครับผม)
-
รู้แต่ว่า Nissan จบไม่สวย
โดนบริษัทแม่บีบ ไม่ยอมป้อนเทคโนโลยีและรถโมเดลใหม่ๆมาให้
จนช่วงนั้นลากขาย Cefiro A33 อยู่นาน จนสุดท้ายก็ต้องยอม
-
เท่าที่ทราบ ถ้าบ แม่เข้ามาเอง ตัวแทนเดิมด็จะลดบทบาทลงเป็นหนึ่งดีลเลอร์ครับ เช่น ยนตรกิจ ตอนนี้เป็นหนึ่งดีลเลอร์ของ BMTH. สิทธิผล เป็นหนึ่งดีลเลอร์ของ MMTH เป็นต้น ครับ
-
จากที่เล่ากันมานี่พอเปลี่ยนให้บริษัทแม่มาทำเองแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งนั้นเลยนะครับ BMW มาสด้า ฟอร์ด นิสสันปัญหาเรื่องรออะไหล่นานมากกกกหมดไปทันทีเลย ยอดขายเองก็พัฒนาสูงขึ้นมากด้วย :)
-
ฮุนได ยังเปลี่ยนตัวแทนเข้ามา บริษัทฮุ่นไดไม่ได้เข้ามาทำตลาดเอง
BMW เปลี่ยนจากยนตรกิจ มาเป็น BMTH
-
แรกๆตลาดบ้านเรายังเล็กครับ (3 - 4แสนคัน/ปี) ไม่คุ้มที่บริษัทแม่จะมาลงทุนเอง เลยให้สิทธิ์การจัดจำหน่ายทั้งประเทศให้กับผู้ใดผู้หนึ่ง โดยจะเรียกว่า distributor
distributor จะสามารถซื้อรถในราคาที่ต่ำกว่ารคาขายส่งมาจากบ.แม่
หลังจากนั้นค่อยมาขายส่งต่อให้กับดีลเลอร์ในประเทศ เพื่อขายปลีกให้ลูกค้าอย่างเราๆต่อไป
คราวนี้พอถึงจุดหนึ่ง ตลาดมีขนาดที่พอจะทำให้บริษัทแม่เข้ามาตั้งสำนักงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเองได้ เหล่าเจ้าของยี่ห้อก็เริ่มสนใจ
เริ่มอยากเข้ามาดูแลตลาดเอง
การจะเข้ามาทำตลาดเองก็ต้องมีข้ออ้างที่จะทำให้เข้ามาได้อย่างชอบธรรม
ซึ่งข้ออ้างที่มักใช้กันก็คือ "บริการหลังการขายลูกค้าได้ไม่ดีพอ" หรือ "ยอดขายรถใหม่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ"
การบริการหลังการขายที่ไม่ดีพอนี่ก็ต้องอาศัยลูกค้าร้องเรียนมาทางหนึ่ง หรืออีกทางหนึ่งก็คือ ตั้งมาตรฐานให้มันเวอร์เข้าไว้
พอdistributorในไทยทำตามไม่ได้ก็เป็นข้อ้างในการที่จะบอกเลิกสัญญา
ส่วนเรื่องยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ก็ตั้งเป้าให้มันโหดๆ เช่น ตลาดโต 10% แต่ฉันขอเพิ่ม 20% นะ มากขึ้นกว่าตลาดแค่ 10% เอง
แต่ถ้าาดูจริงๆคือ เราต้องเบ่งยอดการเติบโตเป็น 2เท่าของตลาดเลยทีเดียว
หลังจากขอยอดเสร็จ ก็ตัดเครื่ิองไม้เครื่องมือในการช่วยทำยอด
- รถโมเดลใหม่
- โฆษณาใหม่
- งบการตลาด
- global campaign
แค่นี้ก็ทำมาหากินกันเกือบจะไม่ได้แล้วครับ
สุดท้ายก็ต้องยอมคืนแบรนด์ให้เค้าไป
ส่วนบริษัทแม่ก็จะแสดงความใจดีด้วยการยอมให้ distributor เหล่านี้เป็นดีลเลอร์ใหญ่กว่าปกติหน่อยนึง หรือ mega dealer นั่นเอง
โดยจะได้สิทธิ์ในพื้นที่สวยๆ ยอดขายเยอะๆ มีหลายๆสาขา อาจจะมียอดขายประมาณ 10 - 20% ของยอดขายทั้งหมดของยี่ห้อนั้น
เพื่อเป็นการถนอมน้ำใจกันไป
ตลาดบ้านเราตอนนี้มียอดขายอยู่ที่ 1.2 - 1.3 ล้านคัน/ปี และคาดว่าภายในปี 2560 ยอดขายน่าจะเกือบถึง 1.8 - 2ล้านคัน
ทำให้ขนาดตลาดมีไซส์ที่ใหญ่พอจะส่งทีมงานเข้ามาทำตลาดได้เอง
ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างเบนซ์เป็นต้น ปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 6,000 - 7,000 คัน ตกประมาณ 6000 * 3,000,000 = 18,000,000,000 บาท
แค่กำไร 1% ก็ 180 ล้านบาทแล้ว มีพนักงานซัก 100 คน เฉลี่ยเงินเดือนคนละ 40,000 บาท ทั้งปียังจ่ายเงินเดือนแค่ 48,000,000 บาทเอง
แล้วทำไมเค้าจะไม่มาหล่ะครับ......!
-
ผมแถม Volvo----> สวีเดนมอเตอร์อีกอันครับ ปัจจุบัน คือ VCT Volvo car Thailand
-
ขอบพระคุณทุกท่าน สำหรับเกร็ดความรู้ตรงนี้มากๆครับ โดยส่วนตัวเชื่อว่า
ประวัติศาสตร์ในวงการนี้ ถ้าลองหยิบขึ้นมาดู น่าสนใจสำหรับคนรุ่นหลังๆอย่าง
ผมมากๆครับ
รบกวนทุกท่านแสดงความคิดเห็นกันต่อเนื่องเลยครับ ขออนุญาตนั่งปูเสื่อครับผม
-
เพิ่มเติมเรื่อง Brand ครับ
Suzuki ในอดีตเป็นสยามอินเตอร์แนชั่นแนลในกลุ่มสยามกลการครับสำนักงานใหญ่คือโชว์รูมที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ (ปัจจุบันรับหน้าที่เป็น dealer suzuki เหมืิอนเดิมครับ) ส่วนบริษัทแม่คือ Suzuki Motor Thailanad ครับ
- Ford ในอดีตมี autorized dealer 2รายครับ คือ ยนตรกิจหรือที่เรียกว่าฟอร์ดยุโรป (ขายพวก escourt ,siera , granada ,transit ) และนิวเอร่าออโต้หรือฟอรดเอเชีย (ขายพวก laser,telstar.marathon,fesiva,aspire ) หลังจากปี 1997 ที่บริษัทแม่มาเองคือฟอร์ดประเทศไทยยนตรกิจก็ยุติบทบาททุกอย่างเกี่ยวกับฟอร์ดส่วนนิวเอร่ากลายเป็นดีลเลอร์รายหนึ่งคือฟอร์ดรามอินทราครับ
- GM Group ในอดีต GM เข้ามาทำตลาดร่วมกับบริษัทอโศกมอเตอร์ในยุค 1970 ครับแต่หลังจากสงครามเวียดนามยุตื GM ไม่มั่นใจในสถานการณ์จึงถอนตัวไปพร้อมกับยุติบทบาทของอโศกมอเตอร์ต่อมาบริษัทยานยนต์จำกัดในเครือพระนครยนตรการเข้ามาทำตลาด holden และพระนครยนตรการทำตลาด opel ในยุค 80-90 ครับก่อนที่ GM จะกลับเข้ามาตั้ง GM Thailland อีกครั้งในปี 1997 ครับ
-
จากที่เล่ากันมานี่พอเปลี่ยนให้บริษัทแม่มาทำเองแล้วมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งนั้นเลยนะครับ BMW มาสด้า ฟอร์ด นิสสันปัญหาเรื่องรออะไหล่นานมากกกกหมดไปทันทีเลย ยอดขายเองก็พัฒนาสูงขึ้นมากด้วย :)
Fordประเทศไทยก็จัดการกับรถรุ่นเก่าโดยไม่สั่งอะไหล่ฟอร์ดรุ่นเก่าๆเข้ามา :-[
-
อยากรู้ลึกๆ กรณี เสริมสุข กับ แป๊ปซี่ ด้วยครับ. มันคล้ายๆกันกับรถยนต์ ช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อยครับ