Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: gunz13096 ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2013, 19:12:12
-
ที่ผ่านมาน้องๆคอลเซ็นเตอร์โทรยิกๆให้เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอน6เดือน แต่เราดื้อดึงบอกยังไม่ถึงหมื่นโล ไว้หมื่นโลค่อยเปลี่ยน (เขาก็เตือนเราด้วยความหวังดีล่่ะนะ) แต่รถผมตอนนี้วิ่งมา9300กว่าโลละ ตีไว้ประมาณ7เดือนนิดหน่อยเพราะออกรถตอน12 ก.ค55 เข้าศูนย์แค่ครั้งเดียวตอน1,000โล :D ก็เลยอยากจะถามผู้อาวุโสในอายุว่า ;D
1.ต้องรอให้ครบหมื่นโลก่อนดีมั้ยครับ เหตุเพราะช่วงนี้ขายของดีเลยไม่ค่อยว่างไป :-\
2.หรือจะไปเปลี่ยนพรุ่งนี้เลย เหตุเพราะพรุ่งนี้ว่างตอนเช้าแค่4ชั่วโมงกว่าๆ :'(
3.แล้วถ้าเกิดยังไม่เปลี่ยนตอนนี้เครื่องยนต์มันจะงี่เง่ามั้ยครับ (แต่รู้เลยว่าเร่งไม่ออก เพราะกรองคงตันมาก :o)
*ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ไม่ได้ก่อกวนนะครับ อย่าด่าผมเลย :-*)
-
เรื่องเครื่องคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรมากครับ
แต่เรื่องการรับประกันรถ 3 ปี 100,000 โล อาจจะมีผลกระทบบ้างครับ
คือรถมีประวัติว่าเข้าศูนย์เช็คไม่ตรงเวลา อาจจะมีผลต่อการรับประกันในส่วนนี้ที่อาจจะหมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นครับ
เพราะถ้าเป็นมิตซู ขาดการเช็คระยะ 3 ครั้ง (คือไม่ได้เขียนลงในสมุด 3 ครั้ง ไม่ว่าจะเข้าไม่ตรงเวลาหรือไม่เข้าก็ตาม) ประกันขาดทันทีครับ
-
วีออสผมออกห้างป้ายแดง ปี 49 เช้า 0 แค่ 4 ครั้งครับ
เข้าไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกะกรอง
ตอนนี้ วิ่งมา 4หมื่น 1พันโลละครับ
ผมว่าไม่จำเป็นครับ
-
แคมรี่ไฮบริดผม เข้าเช็ค10,000 kmที่ประมาณทุก 9 เดือนครับ
รถแจ๊สอีกคัน ใช้น้อยกว่าอีก ปีนึงวิ่งไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ แต่ผมเปลี่ยนที่ 1 ปีครับ
สรุป....ผมเปลี่ยนทุกหมื่นโลหรือ1ปี แล้วแต่อันไหนถึงก่อน
พูดง่ายๆว่ายีดจาก 6 เดือนเป็น 1 ปีครับ
-
อย่ากังวลเลยครับ ว่างค่อยไป เปลี่ยนทุกหมื่น กม. กำลังดี
-
ถ้าตามรับประกัน ก็ ทุก 6 เดือน หรือ 10000 โล แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ครับ
แต่ถ้าไม่ตามคู่มือ ก็รอให้ถึง 10000 ครับ รถไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
-
ดูตามคู่มือ ว่าระยะใดถึงก่อน ระยะทาง หรือ เวลา
ยืดอายุได้บ้าง แต่อย่านาน
-
ถ้าตามรับประกัน ก็ ทุก 6 เดือน หรือ 10000 โล แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
7เดือนแล้ว รีบเข้า เขอาจผ่อนผันให้ รีบๆๆ
(เปลี่ยน นมค และ กรอง นมค )
-
รอเปลี่ยนที่ 10,000 กม. ก็พอครับ ไม่ต้องรีบร้อน มันไม่เสียหายอะไรง่ายขนาดนั้นครับ
ถ้าวิ่งน้อย ก็ราวๆ ปีนึงค่อยเปลี่ยนก็ได้ครับ 6 เดือนเร็วไป เสียดาย ;D ;D ;D
-
รถผม 5 เดือนกว่าวิ่งไปแค่ 8000 กว่าโลเอง รอถึง 10000 โลก่อนค่อยเข้าเช็คระยะครับ
ตามคู่มือครับ
-
ควรเปลี่ยนตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนดมาครับ โดยสามารถดูได้จากคู่มือ
ระยะการเปลี่ยนถ่ายให้ขึ้นกับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยจะแบ่งเป็น
1. Normal Service Condition คือ ใช้งานปกติทั่วไป และระยะการขับขี่เป็นแบบระยะทางยาว ซึ่งบางนิยามจะกำหนดมาไม่เท่ากัน แต่ประมาณ 10km ขึ้นไป ในสภาพแวดล้อมปกติ ใช้กรองเดิมติดรถ ไม่ใช่พวกกรองเปลือย แบบนี้อ้างอิงระยะการเปลี่ยนถ่ายจากเกรดน้ำมันเครื่อง และคู่มือได้เลย
2. Severe Service Condition คือ การใช้งานที่เป็นลักษณะก่อให้เกิดการสึกหรอสูง เช่น ขับรถเป็นระยะทางสั้นๆ มีการติดดับเครื่องยนต์หลายครั้ง ใช้กรองเปลือย เครื่องยนต์มีการปรับแต่งไม่ได้อยู่ในสเปคเดิมของโรงงาน มีการลากจูง หรือทุกของหนัก ติดแก๊ส อยู่ในสภาพการจราจรที่ติดขัด เดี๋ยวเร่ง เดี๋ยวหยุด แบบนี้การสึกหรอสูง ควรลดระยะการเปลี่ยนถ่ายให้สั้นลง เช่นจากปกติ 6 เดือน 10,000km อาจจะเหลือซัก 50-75% หรือจะต่ำกว่านั้นถ้าซัดบ่อยมาก
จากคำถามว่าใช้มา 7 เดือนยังไม่เปลี่ยนเป็นอะไรไหม?
ตอบได้ว่าระยะสั้นไม่เป็นอะไรครับ แต่ระยะยาวถือว่าไม่ดี เพราะ น้ำมันเครื่องเสื่อมอยู่ตลอดเวลา แม้ขณะไม่ได้ใช้งาน เช่น น้ำมันเครื่องที่ผลิตมาจะมี shelf life หรืออายุการใช้งานโดยไม่เปิดขวดประมาณ 3-5 ปี มากกว่าหรือน้อยกว่า แล้วแต่คุณภาพของน้ำมันเครื่องยี่ห้อนั้นๆ แต่ถ้าเปิดใช้แล้ว มีการสัมผัสอากาศ และความชึ้นแล้ว อายุจะสั้นลงอีกมาก และโดยอย่างยิ่งน้ำมันเครื่องที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วง พวก additives ต่างๆ ที่ผสมอยู่ในน้ำมันเครื่องจะถูกใช้งานไปเรื่อยๆ จนคุณสมบัติการปกป้องไม่ดีเหมือนตอนแรกๆ
เรื่องทางเทคนิคของน้ำมันเครื่องหาอ่านได้โดยทั่วไป จริงๆ รายละเอียดเยอะมากๆ ผมไม่สามารถมานั่งพิมพ์ได้ทั้งหมด แต่ก็อยากให้ศึกษาเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จริงๆ ถ้ารถเราสามารถติดเกจวัด oil temp กับ oil pressure ได้ก็จะช่วยบอกได้ว่าคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องที่เราใช้ยังโอเคอยู่หรือเปล่า แต่ก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมี additive ตัวนึงที่ช่วยรักษาสภาพไม่ให้น้ำมันเครื่องเป็นกรดมากัดกร่อนเครื่องยนต์ที่เรารัก โดยที่ไม่มีเกจตัวใดวัดได้ เว้นแต่จะเอามาส่ง lab ตรวจข้างนอก ตัวกรดนี่แหละเป็นตัวตัดสินใจอันดับต้นๆ ในการกำหนดระยะการเปลี่ยนถ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน และสไตล์การขับขี่ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน อันดับถัดมาก็คงจะเป็นพวก particle ต่างๆ เช่น ฝุ่นที่กรองอากาศหลุดเข้ามา โดยเฉพาะพวกที่แรงด้วยกรองเปลือย เนื่องจากยอมให้อากาศเข้ามาได้ดีขึ้น คุณภาพการกรองก็ย่อมด้อยลงเป็นธรรมดา หรือจะเป็นเศษโลหะที่เกิดจากการสึกหรอภายในเครื่องยนต์เองก็ตาม
อธิบายไม่ยาวมากแต่หวังว่าจะเข้าใจได้ในระดับนึง
สรุป
ไม่พังในทันที แต่คนที่ใส่ใจระยะการเปลี่ยนถ่ายจะถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทั้งนี้รวมถึง สารหล่อลื่นส่วนอื่นด้วย เช่น เกียร์ ระบบขับเคลื่อน จารบี ฯลฯ ล้วนมีอายุการใช้งานทั้งสิ้น
-
10000 ค่อยไปครับ
-
รถบ้านผมเปลี่ยนปีละครั้งครับ
ปีนึงประมาณ 10,000 พอดี