Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: cloud ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2013, 17:27:58
-
สมมตว่าถ้าเราๆม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ควรจะซื้อสดหรือผ่อนดีครับ แบบไหนดูฉลาดกว่า
เช่นว่า ดาวน์ดีกว่าเอาเงินก้อนไปลงทุน หรือบางคนไม่อยากโดนดอกเบี้ยก็ซื้อสด
บางคนเลือกผ่อนเพราะคิดว่าดอกเบี้ยที่จะโดนเราก็เอาเงินที่จะซื้อสดไปฝากธนาคาร หักลบกันก็จะเหมือนว่า
ผ่อน0%
ถ้าเป็นเพื่อนๆจะซื้อแบบไหนครับ
-
ถ้ามีหนทางทำให้เงินงอกเงย ควรผ่อน
ถ้ามีเงินเยอะมาก ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร ก็ซื้อสดไปเลย
เพราะการลงทุนบางครั้งไม่ได้ผลลัพในทางบวก ก็อาจทำให้ปวดหัวได้
-
อยู่ที่คิดว่าเงินที่เหลือเอาไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ได้หรือเปล่าครับ ถ้าได้ก็เก็บสภาพคล่องไว้หาผลตอบแทน...เหมือนซื้อรถได้ถูกลง ;D
-
ถ้ามีโปรโมชั่นผ่อน0%ก็ผ่อนครับเก็บเงินสดไว้ดีกว่าครับ หากต้องเสียดอกเบี้ยก็จัดสดไปดีกว่าครับ ;D
-
ขอผ่อนดีกว่าครับ แต่ละเดือนภาระเยอะ
-
ผมจะซื้อรถราคา 4ล้าน ด้วยเงินสด
ถ้ามีเงินก้อน อยู่ในบัญชีสัก 20ล้าน ขึ้นไปครับ
ถ้ามีหลัก 10ล้าน ผมจะผ่อนครับ
พูดจากจินตนาการล้วนๆ เพราะไม่ได้มีเงินระดับนั้นครับผม
-
สดๆ ครับ ;)
แต่ผมต้องมีตัง 100 ล้านขึ้นไปครับ
-
คิดแบบพอเพียงนะครับ ถ้ามีส่วนต่างเหลืออีกมากกว่า4ล้าน ผมซื้อสดเพราะการเป็นหนี้ไม่ใช่ลาภอันประเสริฐ :)
-
ฉลาดไม่ฉลาด อยู่ที่วิธีการครับ ถ้ามีธุรกิจ เอาไปต่อยอดได้ ก็ผ่อนเอา เผลอๆระยะเวลาที่ผ่อนหมด อาจทำเงินได้มากกว่าอีก
แต่ถ้ามีห้องเช่าซักร้อยห้อง หรือเป็นเศรษฐีที่ดินที่ดิน แบบว่ารวยไม่ต้องทำงาน คงซื้อสด ไม่เกี่ยงว่าจะมีเงินเท่าไหร่
เจ้านายเก่าผมมีเงินสดหลักร้อยล้านไม่รวมสินทรัพย์ รถแกก็ผ่อนทุกคัน เอามาหักค่าใช้จ่ายได้ด้วย
-
สดครับ ไม่มีเหตุผล...เพราะมีตังค์
-
เป็นผม ยึดคติพ่อครับ เก็บเงินจนสามารถซื้อสดได้ โดยไม่เดือดร้อน (พ่อไม่เคยซื้อของเงินผ่อนเลย) เงินไม่มีก็ไม่ซื้อครับ (4ล้านขอเก็บสัก20ปีครับ) :D
-
ซื้อสดดิครับถ้าไม่ได้เอาเงินไปลงทุนอะไร ไปเสียดอกเบี้ยทำไมเปล่าๆปีหนึ่งตั้งเกือบแสน แต่ตอนผมซื้อเงินสดไปตอนจ่ายเงินนี่ก็มีหวิวๆเสียดายเงินเหมือนกันครับ ;D
-
สดสิครับ
จะเก็บจนกว่าจะมีแล้วซื้อสดครับ ไม่อยากเป็นหนี้ มันไม่มีความสุข
-
ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ก็คงซื้อสดครับ เพราะเบื่อที่จะต้องมานั่งผ่อนในแต่ละงวดๆ แต่ปัญหาตอนนี้ยังไม่มีเงินสดๆให้ซื้อหนะสิ :D :D
-
หลักการของผมคือ รับเงินสด จ่ายเครดิส ครับ ;D
-
ถ้าไม่สามารถทำให้เงินก้อนนั้นงอกเงยได้มากกว่าดอกเบี้ยก็ไม่คุ้มครับ
-
ซื้อสดครับ จะได้ซื้อจบเป็นอย่างๆไปเลย ไม่ต้องมาพะวงกับการจ่ายค่างวดต่างๆนานา
-
คำตอบอยู่ในโจทย์เลย
ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินก็สดคับ ขี้เกียจมาเสียเวลาจ่ายค่างวด ปวดหัว พะว้าพะวัง คำนวณรายจ่าย ฯลฯ
-
ผ่อนครับ ตามหลักการทำธุรกิจพื้นฐาน รับเร็ว จ่ายช้า
สมมุติว่าเราเอาเงิน 4 ล้านไปลงทุนได้กำไรปีละ 10-15% เอาแค่ส่วนต่างกำไรนี้ไปผ่อนรถกับค่าบำรุงรักษา ผ่อนเสร็จเงินอยู่ครบรถก็ได้
-
คิดก่อนว่าผ่อนงวดละเท่าไร ดอกเบี้ยที่จะเสียเท่าไร
ได้เงินเดือนหมุนเวียนเข้ามาเท่าไรในแต่ละเดือน
ถ้าเงินเดือนได้มากกว่าเงินผ่อนสัก50%ขึ้นไปลองคิดดูทำไมต้องจ่ายสดหล่ะ
เงินก้อนที่เรามี4ล้านในสี่ปีคุณคิดว่าจะหาหนทางงอก้งยกว่าดอกหรือไม่
-
สดครับ ไม่อยากเป็นหนี้
ชิวิตไม่มีอะไรแน่นอนครับ เป็นหนี้ทีนี่ ซี้ดเลย
-
ของผมกึ่งสด กึ่งผ่อนครับ เพราะซื้อเงินตัวเอง 50% อีก 50%
ผ่อนกับที่บ้าน โดยให้ดอกเบี้ยอัตราเดียวกับไฟแนนซ์
เพราะคุณแม่เห็นว่าดอกเบี้ยดีกว่าฝากแบงค์ เลยจะขอเอาดอกไว้เอง
ส่วนเงินที่จะผ่อนก็แบ่งส่วนไปลงหุ้นบ้าง กองทุนบ้างให้งอกเงย
มาชดเชยดอกเบี้ยผ่อน
-
เคยมีกระทู้ทำนองนี้อยู่นะ และมีความคิดน่าสนใจเยอะเลย ลองค้นๆดู
ส่วนผมถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน (ตามโจทย์) ก็ซัดสดๆเลยดีกว่า
ไม่แบ่งไปลงทุนอะไรหรอก ไม่ต้องจ่ายดอกก็ถือว่าต่อยอดขำๆแล้ว
ถ้าฉุกละหุกเดือดร้อนขึ้นมาก็ขายทิ้งเอาเงินมาเลยเท่านั้นเอง
-
เท่าที่ผมเห็นมา นักธุรกิจระดับบนๆ หรือนักลงทุนส่วนมาก จะผ่อนหมดครับ เพราะรถเป็นเงินกู้ระยะสั้น ดอกเบี้ยไม่ได้แพงมากเหมือนพวกอสังหา
เค้าจะไม่เอาเงินก้อนใกญ่ๆมาเสี่ยงครับ กระจายฐานความเสี่ยงออกไป เอาเงินก้อนไปลงทุนพวกกองทุน หุ้นปันผล หรืออื่นๆกำไรสี่ปี เกินดอกเบี้ยรถไปมากโขครับ
คนมีเงินเป็นพันล้านเค้ายังผ่อนเลยครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญญาซื้อสด แต่เค้ามีทางเอาเงินไปทำให้มันเติบโตครับ
-
สำหรับผมนะ การซื้อรถถ้าไม่ได้นำไปใช้่ทำมาหากินโดยตรงเช่น บรรทุกสินค้า ขนส่ง รับจ้าง ฯลฯ คือเพื่อสนองความต้องการ ความสะดวกสบายอย่างเดียว จะสดหรือผ่อน ก็ต้องคอนโทรลประเด็นหลักให้ได้ทั้งนั้นครับ
การซื้อผ่อน ทำให้เรามีแต่กิเลส อันใหม่ มาแทนอันเก่าตลอดเวลา
ผมเห็นมาไม่น้อย ทำงาน มีเงิน มีรายได้เริ่มดี ซื้อรถก่อนซื้อบ้าน กว่า 95% เป็นแบบนี้กันไปหมดไม่รู้เพราะอะไร
และที่หนักกว่านั้น ผ่อนรถ 48 เดือน พอผ่อนหมด รถวิ่งไปซัก 50000 กม. มานั่งคิดอีกแล้วว่า ขายเอาเงินไปดาวน์คันใหม่ดีมั๊ยเนี่ย เดี๋ยวต้องซ่อม เดี๋ยวอุปกรณ์นี้คันเก่าไม่มี คันใหม่มี อยากได้ อยากเปลี่ยน
ถ้าเราจะซื้อรถอะไรก็ตาม ด้วยเงินสด ผมว่ามันช่วยตรงนี้ได้มาก ทำให้เราฟุ้งซ่านน้อยลงได้มาก
ใช้เงินเป็น กับ กล้าใช้เงิน ................ มันคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิงครับ
-
ถ้าตามหัวกระทู้ ซื้อสดครับ
เพราะถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แสดงว่ามีช่องทางหารายได้เยอะอยู่แล้ว
เอาเงินสดไปแลกรถเลย ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ไม่ต้องมายุ่งกับไฟแนนซ์
แล้วไปโฟกัสกับการหารายได้ได้เต็มๆ
แต่ถ้ามีทรัพย์สินรวมๆแค่ 4-5 ล้าน ก็ไม่ควรเอามาลงกับรถราคา 4 ล้านทั้งหมดครับ นอกจากมีรายได้เยอะจริงๆ
-
เท่าที่ผมเห็นมา นักธุรกิจระดับบนๆ หรือนักลงทุนส่วนมาก จะผ่อนหมดครับ เพราะรถเป็นเงินกู้ระยะสั้น ดอกเบี้ยไม่ได้แพงมากเหมือนพวกอสังหา
เค้าจะไม่เอาเงินก้อนใกญ่ๆมาเสี่ยงครับ กระจายฐานความเสี่ยงออกไป เอาเงินก้อนไปลงทุนพวกกองทุน หุ้นปันผล หรืออื่นๆกำไรสี่ปี เกินดอกเบี้ยรถไปมากโขครับ
คนมีเงินเป็นพันล้านเค้ายังผ่อนเลยครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญญาซื้อสด แต่เค้ามีทางเอาเงินไปทำให้มันเติบโตครับ
โดนใจ อยากฟังแบบนี้มานานครับ
-
ผ่อนแน่นอนครับ
ในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครทราบได้
เก็บกระแสเงินสด ไว้ในมือดีกว่าครับ สบายใจๆๆ
-
ถ้าไม่เดือดร้อนสดเลยครับ สบายใจที่สุด
นอกจากมีทางเอาเงินไปลงทุนให้มันงอกเงยกว่าดอกอันนี้ผ่อนก็เป็นทางเลือกที่ดี
ส่วนตัวผมเองผ่อนเอาครับ เพราะเงินมันเพิ่มได้อีกเยอะกว่าที่ไปนอนอยู่ในกระโปรงรถ