Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MisterSmooth ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2013, 09:41:10
-
ตามหัวข้อเลยครับ คือ ผมเคยลองด้วยตัวเองว่าน้ำมันชนิดเดียวกัน ต่างยี่ห้อ ขับในสภาวะคล้ายกัน ยี่ห้อไหนให้ความรู้สึกที่ดีในการขับขี่และระยะทางที่มากกว่า ซึ่งก็พอเห็นความแตกต่างอยู่บ้าง
เพื่อนๆ เคยลองกันบ้างหรือเปล่าครับ ว่ามันมีความแตกต่างแบบมีนัยสำคัญหรือไม่
ปล. เคยได้ยินมาว่า รถยนต์จากยุโรปบางยี่ห้อแนะนำให้เติมน้ำมันบางยี่ห้อเท่านั้น
-
คุณภาพน้ำมันไม่น่าแตกต่างกัน แต่เครื่องยนต์ชนิดและขนาดเดียวกันก็จริง แต่ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ขณะนั้นเป็นอย่างไร พฤติกรรมคนขับและอารมณ์ และความรู้สึกต่อน้ำมันยี่ห้อนั้นๆน่าจะมีผลต่อความรู้สึกเราที่จะมีต่อน้ำมัน หรือเปล่า ?
-
ต่างกัน แบบรู้สึกได้เลยแหละครับ ถ้าคิดจะวัดกันจริงๆ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึก ที่คิดไปเองแน่ๆ
อย่างแรก เรื่อง ความสะอาดของน้ำมัน แต่ละเจ้ามีการควบคุมมาตราฐานไม่เท่ากันนะครับ
สำหรับผม เคยลองๆ มา caltex gas95 นี่วิ่งได้ไกลสุดครับ ในสภาวะใกล้ๆเคียงกัน
ส่วน gas 91 น่าจะให้ shell นะ
รอท่านอื่นต่อไปว่าไงบ้าง
-
ดีเซล v power เห็นเลยครับว่สเครื่องเงียบขึ้น
ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกสารที่เติมเข้าไปด้วย และถ้ารถยิ่งใช้เทคโนโลยีสูง จะยิ่งเห็นผลมากนะครับ
ลองไปหาดูในยูทูปได้ รู้สึกจะเป็นรายการ fifth gear ของอังกฤษนะครับ
-
ไม่น่าต่างกันมากครับ
แต่การทดสอบของคนทั่วไป โดยการวิ่งในชีวิตจริง มันสรุปไม่ได้นะครับ ปัจจัยเสี่ยงมันเยอะ
อย่างที่เรปแรกบอกครับ และที่สำคัญที่สุดคือ ทัศนะคติต่อปั๊มน้ำมัน....
หลับตาเดาได้ครับว่า หลายคนต้องบอก น้ำมัน ปตท. หมดเร็วที่สุด
เหตุผลไม่ต้องว่ามาก.....รู้กัน
สภาพการทดสอบต้องเหมือนกันทุกอย่าง ต่างเพียงน้ำมัน
ต้องมีแล็ปมาทดสอบ
-
ต่างครับ....อุณภูมิในการจุดระเบิด ความหนืด ความสะอาด ส่วนผสมต่างๆ ถามพ่อค้าแม่ค้าเค้าก็ต้องบอกว่าของเค้าดีครับ ;D
-
สำหรับผมต่างแบบพอรู้สึกได้ครับ แต่ไม่มากขนาดนั้น ผมรู้สึกถึงขนาดบางปั้มคลังเก็บน้ำมันเก่าอ่าครับ มันไม่เหมือนเดิม
-
ไม่ต่าง แน่นอน เพราะน้ำมันที่ท่านๆใช้อยู่ บางทีแต่ละปั๊มก็ไม่ได้ไปเอาจากโรงกลั่นยี่ห้อนั้นๆครับ รถน้ำมันที่ไปต่อแถวรอน้ำมันในโรงกลั่นมีทุกยี่ห้อครับ จอดเรียงเพื่อรอน้ำมันที่จ่ายออกมาจ่ายท่อเดียวกันเลย ทั้ง Shell PTT CALTEX ESSO PT สารพัด .... ครับ แล้วแบบนี้มันต่างกันมั้ยละครับ อีกเรื่องคือ สาร additive ที่มีหลายๆคนบอกว่ามีการเอามาเติมใส่ถังทีหลังตามแต่ละยี่ห้อกันไป อันนี้ตั้งแต่จำความได้และที่บ้านทำธุรกิจนี้มากว่า 60 ปี ก็ยังไม่เคยพบเคยเห็นการเติมสาร additive กันเองเลยนะครับ ดังนั้นสบายใจได้ว่าน้ำมันที่ท่านเติมๆกันทุกยี่ห้อ " เหมือนกันหมด" ไม่มีใคร ดีเลว กว่ากัน เพราะแต่ละยี่ห้อต้องผ่านมาตรฐานตรวจสอบอยู่แล้ว
สำหรับน้ำมันประเภทพิเศษเช่น V-Power อันนี้ยอมรับว่าต่างจริง อะไรจริง และจำกัดการขายหน้าโรงกลั่นเฉพาะตัวแทน(ปั๊ม) เชลล์ที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น ! ครับ
***เดี๋ยวรอ พี่ๆ เจ้าของปั๊่มท่านอื่นมาช่วย คอนเฟริ์มอีกทีครับ**
จาก เด็กปั็ม ครับ
-
จับขึ้นไดโน จบ!!! ;D
น้ำมันแต่ละยี่ห้อต่างกันเล็กน้อย (ถ้าไม่ได้มาจากผู้ผลิตเจ้าเดียวกัน) ;D
-
ต่างแน่นอนครับ เพราะแต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมของสารเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่างไม่เหมือนกัน
แต่ใช้งานจริงมันมีปัจจัยและองค์ประกอบหลายอย่างครับ
สำหรับผมพิสูจน์มาแล้ว ปตท.วิ่งได้ระยะทางน้อยกว่าเจ้าอื่นจริงๆครับ
-
อันนี้ประสบพบด้วยตัวเอง
E20 ปตท. วิ่งดีกว่า E20 บางจาก
-
ต่างครับ
ดีเซล ปตท. เติมแล้ว ควันจะดำขึ้นอย่างเห้นได้ชัด แถมรถสั่นขึ้น
ดีเซล บางจาก เติมแล้ว ควันดำลดลด เครื่องเดินลื่นขึ้น
ดีเซล เชล เติมแล้ว แรงขึ้น
-
ยี่ห้อเดียวกันแต่เติมคนละที่ยังต่างกันเลย
ผมจะเติมปั้มประจำตลอด
-
อาจจะต่างหรือไม่ต่าง ถ้าวัดด้วยความรู้สึกก็คงต่าง ถ้าอยากรู้จริงๆต้องขึ้นไดโน่ จัดการทดลอง ควบคุมตัวแปรอื่นๆให้หมด ไม่ใช่วัดจากความรู้สึกครับ
-
สมมุตินะครับว่า ถ้าน้ำมันมันออกมาจากที่เดียวกันเหมือนกันหมดจริง
ผมก็คิดง่ายๆครับ จ่ายเงินค่าน้ำมันเท่ากัน ไม่ว่าจะเติมปั้มไหน แต่เติมปั้มหอยกับดาวแล้วมันรู้สึกสบายใจกับน้ำมันขึ้น แล้วรู้สึกว่ารถมันเหมือนจะแรงขึ้น ทำไมถึงจะไม่ใช้ละครับ
เพราะในความเป็นจริงแล้วก็เห็นๆอยู่ว่าเติมปั้มไหนแล้วปัญหาเยอะกว่า
-
คหสต. แตกต่างชัดเจน จะเลี่ยงเติม ปตท. เน้นเติม BCP. ตลอด
-
น่าจะมีการทดสอบนะครับ ทดสอบรถคันเดียวกัน เส้นทางเดียวกัน ครบทุกยี่ห้อน้ำมัน แล้วให้คนที่บอกว่าแยกออกขับดูแล้วระบุว่า อันไหนแรงกว่าและเป็นของยี่ห้ออะไร ระบุเรียงตามลำดับมาเลย
ผมเชื่อว่าผลการทดสอบได้ไม่เหมือนกันซักคน จะได้รู้ว่าอุปทานหมู่รึเปล่า
-
ต่างกันครับ เดิมเติมเชลล์ v เพราะเห็นได้ชัดว่าพุ่งกว่า แต่แพงกว่าถ้าขับใน กทม.จะเติมเพราะวิ่งๆหยุดๆเห็นผลชัด
ถ้าวิ่งทางไกลจะไม่เห็นผลแตกต่างกันมากนัก(เผาน้ำมันทิ้งเหมือนกัน 55) ตอนหลังเติม ปิโตรนัส ก็เทียบกันได้ครับ
-
ขนาดลองเติมคนละชนิดกันยังค่อยไม่รู้สึกเลย
ปกติใช้ e20 บางจาก เคยลองเบนซิน 95 ปตท เหยียบเหมือนเดิมความลื่นไม่ต่าง แต่หมดช้ากว่าชัดเจนมาก
-
รายชื่อโรงกลั่นในไทย
Thai Oil Refinery (Thai Oil Company of PTT), 220,000 bbl/d (35,000 m3/d)
IRPC Refinery (IRPC PLC of PTT), 215,000 bbl/d (34,200 m3/d)
PTT Global Chemical Refinery (PTT Global Chemical PLC of PTT), 145,000 bbl/d (23,100 m3/d)
SPRC Refinery (Star Petroleum Refining Company of PTT), 150,000 bbl/d (24,000 m3/d)
Bangchak Refinery (Bangchak Petroleum of PTT), 120,000 bbl/d (19,000 m3/d)
Sri Racha Refinery (ExxonMobil), 170,000 bbl/d (27,000 m3/d)
Rayong Purifier Refinery (Rayong Purifier Company), 17,000 bbl/d (2,700 m3/d)
คิดว่านํ้ามันที่ท่านเติมกันมาจากโรงกลั่นไหนกันครับ ;D
-
น้ำมันก่อนออกจากโรงกลั่น พนักงานขับรถ จะเป็นผู้เติมสาร Additive ลงไปในถังครับ ของเจ้าไหนก็เจ้านั้น แยกยี่ห้อกันไป
ถ้าไม่เติมก็แสดงว่าบริษัทขนส่งน้ำมันนั้นๆ ไม่ได้รับคำสั่งให้เติม หรืออาจไปขายในปั๊มส่วนบุคคลที่มียี่ห้อเป็นของตัวเองครับ
น้ำมันออกจากโรงกลั่นมีคุณภาพที่ดีเท่ากันหมด หรือคือเป็นมาตรฐานสากลเท่ากันทั้งหมด แต่เมื่อออกจากโรงกลั่นไปแล้ว ก็อยู่ที่การควบคุมคุณภาพของบริษัทขนส่งนั้นๆและปั๊มนั้นๆ
ถามว่าน้ำมันยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ตอบยากครับ เพราะออกมาจากโรงกลั่นเดียวกัน แตกต่างกันที่ สารเติมแต่ง ที่ผสมเข้าไป
หรือคุณอาจเล่นเกมส์ทายยี่ห้อน้ำมันก็ได้ครับ ให้แฟนคุณเป็นคนขับรถไปเติมน้ำมัน โดยที่ไม่บอกยี่ห้อคุณ
และให้คุณเป็นคนขับรถไปใช้งานจนน้ำมันหมดถัง แล้วทายว่าน้ำมันที่เติมเข้าไปยี่ห้ออะไร ผมว่ามันคงน่าสนุกดีนะ
ผมขอแชร์ความรู้เล็กๆน้อยๆ เผื่อไว้สังเกตุน้ำมันที่เราเติมเข้าไปนะครับ
1.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งอืด ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีความชื้นปนเปื้อนอยู่
2.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งอืดมาก ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีความชื้นปนเปื้อนอยู่มาก
3.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งเครื่องสะดุด สะอึกหน่อยๆ ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีน้ำปนเปื้อนอยู่
4.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งเครื่องสะดุด สะอึกๆ และดับ ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีน้ำปนเปื้อนอยู่มาก
5.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่าสตาร์ทรถติดๆดับๆ ติดแหล่ไม่ติดแหล่ ควันขาวออกท่อฟุ้งไปหมด ให้สันนิษฐานว่า เด็กปั๊มเล่นคุณเข้าแล้วครับ
ขอบคุณครับ ^^
-
รายชื่อโรงกลั่นในไทย
Thai Oil Refinery (Thai Oil Company of PTT), 220,000 bbl/d (35,000 m3/d)
IRPC Refinery (IRPC PLC of PTT), 215,000 bbl/d (34,200 m3/d)
PTT Global Chemical Refinery (PTT Global Chemical PLC of PTT), 145,000 bbl/d (23,100 m3/d)
SPRC Refinery (Star Petroleum Refining Company of PTT), 150,000 bbl/d (24,000 m3/d)
Bangchak Refinery (Bangchak Petroleum of PTT), 120,000 bbl/d (19,000 m3/d)
Sri Racha Refinery (ExxonMobil), 170,000 bbl/d (27,000 m3/d)
Rayong Purifier Refinery (Rayong Purifier Company), 17,000 bbl/d (2,700 m3/d)
คิดว่านํ้ามันที่ท่านเติมกันมาจากโรงกลั่นไหนกันครับ ;D
น้ำมันก่อนออกจากโรงกลั่น พนักงานขับรถ จะเป็นผู้เติมสาร Additive ลงไปในถังครับ ของเจ้าไหนก็เจ้านั้น แยกยี่ห้อกันไป
ถ้าไม่เติมก็แสดงว่าบริษัทขนส่งน้ำมันนั้นๆ ไม่ได้รับคำสั่งให้เติม หรืออาจไปขายในปั๊มส่วนบุคคลที่มียี่ห้อเป็นของตัวเองครับ
น้ำมันออกจากโรงกลั่นมีคุณภาพที่ดีเท่ากันหมด หรือคือเป็นมาตรฐานสากลเท่ากันทั้งหมด แต่เมื่อออกจากโรงกลั่นไปแล้ว ก็อยู่ที่การควบคุมคุณภาพของบริษัทขนส่งนั้นๆและปั๊มนั้นๆ
ถามว่าน้ำมันยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ตอบยากครับ เพราะออกมาจากโรงกลั่นเดียวกัน แตกต่างกันที่ สารเติมแต่ง ที่ผสมเข้าไป
หรือคุณอาจเล่นเกมส์ทายยี่ห้อน้ำมันก็ได้ครับ ให้แฟนคุณเป็นคนขับรถไปเติมน้ำมัน โดยที่ไม่บอกยี่ห้อคุณ
และให้คุณเป็นคนขับรถไปใช้งานจนน้ำมันหมดถัง แล้วทายว่าน้ำมันที่เติมเข้าไปยี่ห้ออะไร ผมว่ามันคงน่าสนุกดีนะ
ผมขอแชร์ความรู้เล็กๆน้อยๆ เผื่อไว้สังเกตุน้ำมันที่เราเติมเข้าไปนะครับ
1.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งอืด ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีความชื้นปนเปื้อนอยู่
2.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งอืดมาก ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีความชื้นปนเปื้อนอยู่มาก
3.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งเครื่องสะดุด สะอึกหน่อยๆ ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีน้ำปนเปื้อนอยู่
4.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่ารถวิ่งเครื่องสะดุด สะอึกๆ และดับ ให้สันนิษฐานว่า น้ำมันมีน้ำปนเปื้อนอยู่มาก
5.ปั๊มไหนที่เราเติมน้ำมันเข้าไปแล้ว รู้สึกว่าสตาร์ทรถติดๆดับๆ ติดแหล่ไม่ติดแหล่ ควันขาวออกท่อฟุ้งไปหมด ให้สันนิษฐานว่า เด็กปั๊มเล่นคุณเข้าแล้วครับ
ขอบคุณครับ ^^
ตามท่านทั้ง 2 เลยครับ ชัดเจน
-
ที่แน่ๆน้ำมันของ shell กลั่นจากโรงกลั่นระยอง
แต่ไม่แน่ใจว่าเอามาจากโรงกลั่นอื่นอีกด้วยหรือเปล่า
-
เท่าที่ผ่านมา ผมเห็นว่า
ถ้าขับเอาประหยัด เติมยี่ห้อไหน ก็ได้ประมาณเดิมหมด
ถ้าขับเอาอารมณ์ เลือกยี่ห้อฝาหอยครับ :D
-
น้ำมันผลิตออกมาจากที่เดี๋ยวกันก็จริงครับแต่ แต่ละยี่ห้อมีสารเติมแต่งไม่เหมือนทำให้เวลาเอามาขับแล้วรู้สึกต่าง ไม่ได้คิดไปเองกันหรอกครับ แต่ถ้าใช้รถที่มีกำลังมากๆจะรู้สึกชัด
ถ้าเป็นรถบ้าน 1.5 จะรู้สึกน้อย
ผมก็คิดว่าอุปทานไปเองหรือเปล่า แต่ลองหลายรอบแล้วบางยี่ห้อใช้แล้วอืดกว่าอย่างรู้สึกได้
-
มันไม่ได้ต่างเพราะ Additive อย่างเดียวครับ
เทียบกันระหว่าง Esso กับ บางจาก
เบนซินของ Esso มาจากน้ำมันดิบเป็นหลักเลย
แต่ของบางจากได้จาก การแครกกิ้ง เอามาผสมๆกัน
เพราะงั้นในทางทฤษฎี น้ำมันเบนซิน เอสโซ่ ดีกว่าบางจากครับ ถ้าวัดกันที่น้ำมันเพียวๆ
-
มันไม่ได้ต่างเพราะ Additive อย่างเดียวครับ
เทียบกันระหว่าง Esso กับ บางจาก
เบนซินของ Esso มาจากน้ำมันดิบเป็นหลักเลย
แต่ของบางจากได้จาก การแครกกิ้ง เอามาผสมๆกัน
เพราะงั้นในทางทฤษฎี น้ำมันเบนซิน เอสโซ่ ดีกว่าบางจากครับ ถ้าวัดกันที่น้ำมันเพียวๆ
ผมขออธิบายเพิ่มให้ต่อนะครับ ^^
โรงกลั่นน้ำมันในประเทศเรา จะมีโรงกลั่นน้ำมันแท้ๆอยู่แค่ไม่กี่โรง
1.Thai Oil Refinery
2.SPRC Refinery
3.Bangchak Refinery
4.Sri Racha Refinery
นอกนั้นเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตปิโตเคมี บางประเภทสามารถนำมาใช้เป็นน้ำมันได้เลย
และบางประเภทต้องนำมากลั่นอีกเพื่อให้เป็นน้ำมัน(ดีกว่านำไปทิ้งเสียค่ากำจัดอีก)
ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมประเทศเราถึงส่งออกน้ำมันพวกนี้ เพราะว่าส่วนมาก ปั๊มจะรับจากโรงกลั่นแท้ๆเป็นหลักครับ ซึ่งนำเข้าน้ำมันดิบมากลั่น
ถ้ากำลังการใช้น้ำมันภายในประเทศน้อย ส่วนที่เป็นผลพลอยได้ก็ส่งออกขาย แต่ถ้าใช้เยอะ ก็จะนำผลพลอยได้มา Blend กับตัวหลัก
เพื่อให้พอใช้ภายในประเทศก่อนครับ เหลือจึงค่อยขาย ประมาณนั้นครับ ^^
-
ส่วนตัว ปตท.เข้าไปทำธุระห้องน้ำ กับเติมลมยางครับ
ที่เติม เบนซิน 91 ของ คาลแท็ก ดีกว่าเห็น ๆ ๆ เติม เซฟิโร่
รองมา แก็สโซฮอล์ 95 ต้อง เซลล์ เท่านั้น
แต่ วีพาวเวอร์ 95 ของเซลล์ ทำให้รถวิ่งดีกว่าเยอะ เติม สามห่วง