Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Nut_K ที่ มีนาคม 07, 2013, 07:57:54
-
คือตอนนี้กำลังเล็งๆกระบะ 4 ประตูของ 2 ค่ายนี้อยู่ครับ เลยอยากจะถามภาพรวมของ 2 คันนี้ครับว่าคันไหนช่วงล่าง การเก็บเสียง ภาพรวมในการขับขี่ และความสบายของห้องโดยดีกว่ากัน
คันที่ดูไว้คือ Chevrolet Colorado 2.8 LTZ 4 ประตู MT กับ Mazda BT-50 2.2 Hi-Racer 4 ประตู MT ครับ
-
โหวต mazda คับ ดีกว่าเรื่องภายใน และ 0 บริการ
-
ชอบโดยรวมไม่นับศูนย์ colorado ครับ
-
ผมใช้ Colorado2.8 แต่เป็น AT นะครับ เคยเทียบๆกันสามตัวระหว่าง Ranger ,Colorado ,BT50
Ford สวย ชอบ แต่รอหกเดือนอย่างต่ำ. ไม่หละ ผมไม่ง้อใครเพื่อเสียตังหรอก
Mazda คนรอบข้างทุกคนร้องยี้ บอกน่าตามันแป๊ะยิ้มมาก. จบไป
Chevrolet ไปลองแล้วชอบ บอกตรงๆชอบกว่า Ranger อีก ฟีลลิ่งหนักๆมั่นใจดี เึรื่อง2.8 กดครึ่งคันเร่งก้อดึงงง แล้ว
เลยจบตรงนี้
ไปลองของจริงเถอะครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน แต่สามตัวนี้น่าเล่นหมดครับ ;D
-
ผมใช้ Colorado2.8 แต่เป็น AT นะครับ เคยเทียบๆกันสามตัวระหว่าง Ranger ,Colorado ,BT50
Ford สวย ชอบ แต่รอหกเดือนอย่างต่ำ. ไม่หละ ผมไม่ง้อใครเพื่อเสียตังหรอก
Mazda คนรอบข้างทุกคนร้องยี้ บอกน่าตามันแป๊ะยิ้มมาก. จบไป
Chevrolet ไปลองแล้วชอบ บอกตรงๆชอบกว่า Ranger อีก ฟีลลิ่งหนักๆมั่นใจดี เึรื่อง2.8 กดครึ่งคันเร่งก้อดึงงง แล้ว
เลยจบตรงนี้
ไปลองของจริงเถอะครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน แต่สามตัวนี้น่าเล่นหมดครับ ;D
BT-50 ผมลองมาแล้วครับ แต่ผมหา 0 ลอง Colorado ไม่ได้เลยครับ โทรไปแต่ละ 0 บอกตรงกันหมดคือขายตัว test drive ไปแล้ว :'(
-
แล้วแต่ความชอบ ต้องลองขับ ส่วนใหญ่ที่ศูนย์เชฟจะไม่ค่อยมี 4 ประตูให้ลองขับ
ตอนแรกผมก็จะซื้อเชฟ ติดที่ช่วงล่างแข็งไปหน่อย เลยมาออกมาสด้าแทน(ทำใจเรื่องหน้าตาอยู่นานเหมือนกัน)
เกียร์ MT มาสด้าเห็นมีบ่นกันหลายคน ส่วนตัวผมใช้เกียร์ AT เลยไม่มีปัญหา
-
แล้วแต่ความชอบ ต้องลองขับ ส่วนใหญ่ที่ศูนย์เชฟจะไม่ค่อยมี 4 ประตูให้ลองขับ
ตอนแรกผมก็จะซื้อเชฟ ติดที่ช่วงล่างแข็งไปหน่อย เลยมาออกมาสด้าแทน(ทำใจเรื่องหน้าตาอยู่นานเหมือนกัน)
เกียร์ MT มาสด้าเห็นมีบ่นกันหลายคน ส่วนตัวผมใช้เกียร์ AT เลยไม่มีปัญหา
บ่นเรื่องอะไรกันหรอครับ
-
ผมก็อีกคนนึงที่จบกับBT-50 โชคดีของผมที่ไม่ต้องทำใจกับหน้าตามันมาก เพราะผมชอบครับ
-
ถ้าเป็นคู่นี้ รุ่นย่อยนี้
ผมเชียร์ Colorado ครับ รุ่น LTZ
อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆมีมาให้มากกว่า
Mazda BT50 Pro ตัว MT ตัดทุกอย่างซะเหี้ยนหมดเลยครับ
-
แล้วแต่ความชอบ ต้องลองขับ ส่วนใหญ่ที่ศูนย์เชฟจะไม่ค่อยมี 4 ประตูให้ลองขับ
ตอนแรกผมก็จะซื้อเชฟ ติดที่ช่วงล่างแข็งไปหน่อย เลยมาออกมาสด้าแทน(ทำใจเรื่องหน้าตาอยู่นานเหมือนกัน)
เกียร์ MT มาสด้าเห็นมีบ่นกันหลายคน ส่วนตัวผมใช้เกียร์ AT เลยไม่มีปัญหา
บ่นเรื่องอะไรกันหรอครับ
ครัทช์แข็ง เกียร์2 ขึ้นเนินไม่ค่อยไหว ประมาณนี้ครับ แต่ที่บ่นก็ติดใจช่วงล่างทุกคน ;D มาสด้าผมว่า 3.2 ดีกว่านะครับ
-
แล้วแต่ความชอบ ต้องลองขับ ส่วนใหญ่ที่ศูนย์เชฟจะไม่ค่อยมี 4 ประตูให้ลองขับ
ตอนแรกผมก็จะซื้อเชฟ ติดที่ช่วงล่างแข็งไปหน่อย เลยมาออกมาสด้าแทน(ทำใจเรื่องหน้าตาอยู่นานเหมือนกัน)
เกียร์ MT มาสด้าเห็นมีบ่นกันหลายคน ส่วนตัวผมใช้เกียร์ AT เลยไม่มีปัญหา
บ่นเรื่องอะไรกันหรอครับ
ครัทช์แข็ง เกียร์2 ขึ้นเนินไม่ค่อยไหว ประมาณนี้ครับ แต่ที่บ่นก็ติดใจช่วงล่างทุกคน ;D มาสด้าผมว่า 3.2 ดีกว่านะครับ
นั่นแหละคืออาการที่ผมเจอใน Ranger ตัวทดลองขับ ผมลงมาจากรถทีขาผมล้าไปพักใหญ่เลยครับ ผมเลยตัด Ranger ทิ้งเลย
-
สำหรับผม BT-50 PRO ครับ ช่วงล่างขับสบายสุดในทุกคันแล้ว
-
bt-50 ขับในเมืองรถติดๆ ตัว6mt เมื่อยมากครับ สับเปลี่ยนเกียร์ถี่เกินไป 1-2-3 อยู่นั่นหล่ะ ระยะเปลี่ยนเกียร์บ่อย ขับรถติดๆ เดินๆ เมื่อยครับ
ลงรถทีนึกว่าพึ่งลงมาจากฟิตเนส.. บริหารขาซ้ายตลอด
-
Colorado คือกระบะ ที่ขับเหมือนกระบะ แต่ดีไซน์ลงตัว อุปกรณ์น่ะเลือกได้ จ่ายมากได้ของมาก
BT50 คือกระบะ ที่ขับเหมือนเก๋งที่สุด อุปกรณ์น้อยเพราะพยายามทำราคาต่ำกว่าล้าน หลายอย่างไม่น่าขาด
ต้องคิดให้ดีว่าความสุขของคุณคืออะไร ถ้าคิดว่าความสุขอยู่ที่การขับและการโดยสาร BT50 ก็ชนะ
แต่ถ้าคิดว่าอยากเน้นอุปกรณ์ความปลอดภัย และความสุขเวลาเห็นหน้ามัน Colorado ดีกว่า
ส่วนเรื่องการขับ Colorado 2.8 มี 5 เกียร์ แต่วิ่งไม่น่าเกลียดนะ ถ้าวิ่งยาวๆ ตรงไหนที่มาสด้า
ได้ 180 Coloradoก็ทำได้เหมือนกัน แต่ตีนต้นออก กับแซง 80-120 BT50 นำอยู่เล็กน้อย
เรียกได้ว่าถ้า Chev กดก่อนแล้วพุ่งก่อนได้สักวิเดียว มาสด้าก็ลำบากแล้ว
-
สำหรับผม Colorado ครับ ถ้าช่วงล่างมันต่างกันไม่มาก และได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วย
เพราะความเห็นส่วนตัวเจ้า BT-50 ชอบภายในของมันมาก แต่หน้าตากับ บั้นท้าย รับไม่ได้จริงๆ
เลือกรถ ผมค่อนข้างแคร์ภายนอกไม่แพ้ภายใน อิอิ
-
ราคา BT 751,000 บาท โคโล 849,000บาท
ห่างกัน 1 แสน โคโล ได้ option ESC เพิ่ม กับปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย แต่ BT ไม่มีทั้ง 2 อย่างนี้
การขับ จากที่ลอง 0-100 ผมว่า 2.2 ของ BT ทำได้สูสี กับ 2.8 โคโล นะครับ โคโลจะได้ที่ดึงลึก ช่วงปลายจะยืดระยะได้ดีกว่า BT
ถ้าเอาการขับขี่ไม่มอง option ผมว่า BT ดีกว่านะ ... แต่ถ้ามอง option ด้วยผมว่า โคโลก็น่าสนใจ
แต่สิ่งนึงที่ผมไม่ชอบใจ โคโลเลยคือ
วิทยุของเค้า ถ้าเชื่อมต่อ บลูทูธ กับมือถือ จะใช้งานได้แค่โทรศัพท์ .... แต่ถ้าเป็น BT การเชื่อมต่อ บลูทูธ จะสามารถเล่นเพลง ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อต่อบลูทูธได้ทั้งหมดเลย
สุดท้ายลองเลือกดูนะ
-
BT-50 pro หนึ่งเสียงครับ
ช่วงล่างนุ่มดีครับ
และที่ชอบมากที่สุด หัวเกียร์ BT-50 M/T มันสวยมากและสับเกียร์คล่องตัวดี
-
คือตอนนี้กำลังเล็งๆกระบะ 4 ประตูของ 2 ค่ายนี้อยู่ครับ เลยอยากจะถามภาพรวมของ 2 คันนี้ครับว่าคันไหนช่วงล่าง การเก็บเสียง ภาพรวมในการขับขี่ และความสบายของห้องโดยดีกว่ากัน
คันที่ดูไว้คือ Chevrolet Colorado 2.8 LTZ 4 ประตู MT กับ Mazda BT-50 2.2 Hi-Racer 4 ประตู MT ครับ
จากคำถามผมว่า bt50pro น่าจะเป้นตัวเลือกนะครับ เพราะสิ่งที่ จขกท ถามคือ " ช่วงล่าง การเก็บเสียง ภาพรวมในการขับขี่ และความสบายของห้องโดยสาร "
ส่วนเรื่องครั้ชแข็งนั้น ผมว่าถ้าอยากขับสบาย ก็ลองขยับไปเลือก bt50pro 2.2AT ก็ได้นี่ครับ ราคาก็ต่างจากตัว Chevrolet Colorado 2.8 LTZ 4 ประตู ไม่มากเท่าไหร่ครับ
แต่ได้ในสิ่งที่คุณต้องการทั้งหมด
-
รถอะไรก็ไม่รู้ อารมณ์ดีตลอด ยิ้มให้เรามาแต่ไกลเลย
ผมว่าโหงวเฮ้งมันดีนะครับ BT-50
-
ตอบในฐานะ เจ้าของ colorado 2.8 at 4doors 4wd และเคย เปรียบเทียบ ทั้ง ฟอร์ด มาสด้า และเชฟ สุดท้้ายจบที่เชฟ อนากจะบอกว่าถ้าจะเล่นเชฟ อยากให้จบกับเกียร์ออโต้ ครับ แล้วคุณจะฟินเลยแหละ
เกียร์6สปีด ลูกนี้เซ็ตอัตราทดในภาพรวมมาได้ ต่อเนื่องไหลลื่นดีมาก ในความรู้สึกผม เซ็ตมาได้ดีกว่า มาสด้าและฟอร์ดครับ ราคาตัวยกสูง เกียร์ออโต้ จะอยู่ที่ 905000 แพงกว่ามาสด้ายกสูงออโต้ตัวท็อปประมาณ 30000บาท เทียบกับความปลอดภัยในระบบช่วยเหลือของช่วงล่างที่เพิ่มมาก็คุ้มแล้วครับ เพราะของแบบนี้ติดเพิ่มเองไม่ได้ครับ
ส่วนตัวผมเวลาจะเลือกรถ ผมจะดู รูปทรงที่ถูกใจก่อน ตามมาด้วย เครื่อง เกียร์ ส่าขับถูกใจผมมั้ย ระบบช่วยเหลือด้าการทรงตัว ความปลอดภัยต่างๆ
แล้วก็ความสบายในการโดยสาร ซึ่ง ผมว่าภายในเชฟ นั่งสบายกว่า ทั้งมาสด้าและ ฟอร์ดครับ โปร่งกว่า ความกว้าซ้ายไปขวา ภายในห้องโดยสาร มีมากกว่า มาสด้า และฟอร์ดครับ เคยลองเอาตลับเมตรวัดดูแล้ว
ส่วนเรื่อง ฟีลช่วงล่าง แก้กันได้ ไม่ยากครับ ลงเงินซักหมื่นต้นๆ-กลาง เปลี่ยนโช้ค 4ตัว ก็กลายเป็นรถคนละคันแล้วครับ เพราะสิ่งต่างๆที่ผมพูดมาทั้งหมดในตอนต้นคือสิ่งที่ติดรถคันนั้นมา และจะอยู่กันไปตลอดอายุรถ ครับ เพิ่มทีหลังไม่ได้
ส่วนฟิลลิ่งช่วงล่างเดิมๆของทั้งสองคันนั้น
colorado เหมือนขับ suv หนักๆคันโตๆครับ ขับในเมืองไม่สนุกเท่าไร พวกมาลัยหนัก และอัตราทดมาแนวรถขับทางใกลมากกว่าจะใให้ มามุดครับ แต่ถ้าชินแล้วสบายๆครับ
bt 50 ผมว่าความนุ่มในทางตรงใกล้เคียงกันครับ แต่ำอเข้าโค้งมาสด้าเก็บอาการโยนได้ดีกว่าครับ พวงมาลัย ทดมาเหมือนรถเก๋งมากกว่าเชฟครับ ขับคล่องกว่าในเมือง
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผมพูดมาและจับกระบะขับสี่ สี่ประตูมาหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ วีโก้ที่ว่าช่วงล่าง ห่วยๆ ยันฟอร์ดตัวใหม่ที่ว่าช่วงล่างเทพๆ(รถของญาติ) ช่วงล่างต่างกันให้อย่างมากไม่เกิน 5-10% หลอกครับ ถ้าคุณมาอยู่เขาค้อแบบผม คุณจะเห็นวีโก้ขับสี่ช่วงล่างเดิม ขับหวดเข้าโค้งกวด รถเก๋ง d-segment ที่ขึ้นชื่อว่าช่วงล่างเทพๆ ประจำครับ
-
เป็นผมคงเลือกยักษ์ยิ้มครับ ไม่ได้เอาเรื่องรถอะไรมาเกี่ยวเลย อารมณ์ล้วนๆและความเป็นแฟนบอยของค่ายนี้ ;D
-
ตอบในฐานะ เจ้าของ colorado 2.8 at 4doors 4wd และเคย เปรียบเทียบ ทั้ง ฟอร์ด มาสด้า และเชฟ สุดท้้ายจบที่เชฟ อนากจะบอกว่าถ้าจะเล่นเชฟ อยากให้จบกับเกียร์ออโต้ ครับ แล้วคุณจะฟินเลยแหละ
เกียร์6สปีด ลูกนี้เซ็ตอัตราทดในภาพรวมมาได้ ต่อเนื่องไหลลื่นดีมาก ในความรู้สึกผม เซ็ตมาได้ดีกว่า มาสด้าและฟอร์ดครับ ราคาตัวยกสูง เกียร์ออโต้ จะอยู่ที่ 905000 แพงกว่ามาสด้ายกสูงออโต้ตัวท็อปประมาณ 30000บาท เทียบกับความปลอดภัยในระบบช่วยเหลือของช่วงล่างที่เพิ่มมาก็คุ้มแล้วครับ เพราะของแบบนี้ติดเพิ่มเองไม่ได้ครับ
ส่วนตัวผมเวลาจะเลือกรถ ผมจะดู รูปทรงที่ถูกใจก่อน ตามมาด้วย เครื่อง เกียร์ ส่าขับถูกใจผมมั้ย ระบบช่วยเหลือด้าการทรงตัว ความปลอดภัยต่างๆ
แล้วก็ความสบายในการโดยสาร ซึ่ง ผมว่าภายในเชฟ นั่งสบายกว่า ทั้งมาสด้าและ ฟอร์ดครับ โปร่งกว่า ความกว้าซ้ายไปขวา ภายในห้องโดยสาร มีมากกว่า มาสด้า และฟอร์ดครับ เคยลองเอาตลับเมตรวัดดูแล้ว
ส่วนเรื่อง ฟีลช่วงล่าง แก้กันได้ ไม่ยากครับ ลงเงินซักหมื่นต้นๆ-กลาง เปลี่ยนโช้ค 4ตัว ก็กลายเป็นรถคนละคันแล้วครับ เพราะสิ่งต่างๆที่ผมพูดมาทั้งหมดในตอนต้นคือสิ่งที่ติดรถคันนั้นมา และจะอยู่กันไปตลอดอายุรถ ครับ เพิ่มทีหลังไม่ได้
ส่วนฟิลลิ่งช่วงล่างเดิมๆของทั้งสองคันนั้น
colorado เหมือนขับ suv หนักๆคันโตๆครับ ขับในเมืองไม่สนุกเท่าไร พวกมาลัยหนัก และอัตราทดมาแนวรถขับทางใกลมากกว่าจะใให้ มามุดครับ แต่ถ้าชินแล้วสบายๆครับ
bt 50 ผมว่าความนุ่มในทางตรงใกล้เคียงกันครับ แต่ำอเข้าโค้งมาสด้าเก็บอาการโยนได้ดีกว่าครับ พวงมาลัย ทดมาเหมือนรถเก๋งมากกว่าเชฟครับ ขับคล่องกว่าในเมือง
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผมพูดมาและจับกระบะขับสี่ สี่ประตูมาหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ วีโก้ที่ว่าช่วงล่าง ห่วยๆ ยันฟอร์ดตัวใหม่ที่ว่าช่วงล่างเทพๆ(รถของญาติ) ช่วงล่างต่างกันให้อย่างมากไม่เกิน 5-10% หลอกครับ ถ้าคุณมาอยู่เขาค้อแบบผม คุณจะเห็นวีโก้ขับสี่ช่วงล่างเดิม ขับหวดเข้าโค้งกวด รถเก๋ง d-segment ที่ขึ้นชื่อว่าช่วงล่างเทพๆ ประจำครับ
55 ยอมวีโก้ขับสี่ครับ
ขับขึ้นเขาช่วง อ.ลอง(แพร่)-อ.แม่ทะ(ลำปาง) ระยะทางขึ้นเขา-ลงเขา สั้นๆ 15 กิโล ครับ
ยอมมัน ผมขับ 120 แต่มันยังจี้ เลยปล่อยให้แซงครับ
ไม่ไหว เดี่ยวได้ตกเหวตาย
-
หน้าดุไปเจ้าโด้ หน้าหวานไป BT 50 อิอิ
-
โดยความเห็นส่วนตัวครับ ที่บ้านมีทั้ง BT 2.2 AT และ COLORADO 2.8 AT
- BT ขึ้นลงไม่เหมาะกับผู้ใหญ่ที่เข่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ ช่วงล่างหนึบดีครับ ติดกระด้างนิดหน่อย เก็บเสียงดีกว่ามาก พวงมาลัยนิ่ง หนัก เหนื่อย ภายในสวยคุ้มราคา เครื่องเสียงโอเค รายละเอียดเก็บงานภายในดีกว่า อัตราเร่งโอเค เกียร์ทำงานประหลาดๆ
- COLO ขึ้นลงสะดวก ช่วงล่างนุ่มกว่า นั่งสบาย แต่โยนตัว เก็บเสียงไม่ได้เรื่อง พวงมาลัยขับสบาย ภายในไม่ไหวจะเคลียร์ เครื่องเสียงไม่เวิร์ค รายละเอียดเก็บงานภายในผมว่าแย่กว่า อัตราเร่งดีกว่าเยอะ เกียร์ดีกว่า
โดยภาพรวมผมว่า BT ดูดีกว่าในทุกๆด้าน ติดเรื่องหน้าตาที่่ค่อนข้างจะเฉพาะทางไปหน่อย ส่วนใหญ่ผู้หญิงชอบ แต่ก็ส่วนใหญ่อีกที่่คนขับกระบะมักจะเป็นชาย
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานครับ
-
เพิ่งมาถอยวันนี้เอง ของผมเป็นเกียร์ออโต้ BT50
ฟอร์ดชอบภายนอกตัว WT สีส้ม มันดูเป็นสุดยอดรถกระบะยังไงไม่รู้แต่ไม่ชอบภายใน ตัว WT ต้องรอนาน ตัวออโต้ธรรมดาไม่มี USB ให้เลยไม่เอา (สำหรับผมมันสำคัญมาก อิอิอิ) และที่ไปลองมามันก็แข็งกว่า BT อย่างที่คุณจิมมี่ว่าจริง ๆ แถมศูนย์ในจังหวัดผมนี่ขนาดเดียวกับเต็นท์รถเล็ก ๆ เลย แต่เซลบริการดีมาก รถออโต้ต้องรอทุกรุ่น
เชฟไม่เลือกเพราะรู้สึกว่าถ้าจะเอาเชฟคงไปดีแม็กดีกว่า ภายในเหมือนกันคงเลือกที่ศูนย์บริการของ Isuzu เพราะของเค้าดีจริง ๆ ใช้มาก่อน
ได้ไปลอง Dmax มา ฟีลลิ่งภายในเหมือนขับรุ่นเดิมเลย มันเป็นฟีลรถกระบะยกสูงจริง ๆ ไม่เหมือนมาสด้าที่เข้าไปนั่งแล้วเหมือนรถเก๋งมาก ๆ คันนี้ผมคงใช้บ่อยเลยเอาที่มันนั่งแล้วถูกใจที่สุด
BT50 ผมไล่โทรถามตามแต่ละโชว์รูม ที่ไหนมีก็เอาเลย โปรใกล้เคียงกัน เลยได้ออกรถภายในวันเดียว
แนะนำให้ไปลองนั่งลองขับดูครับ รถแต่ละคัน คาแรคเตอร์แตกต่างกันพอดู แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน อย่างผมนี่แค่แว็บแรกที่ขึ้นไปขับเจ้า BT ก็รู้สึกได้เลยว่าคันนี้ล่ะใช่
-
ลองขับแล้วจะติดใจ BT50Pro เหมือนผม จริงๆก่อนซื้อผมไปจอง 2.2WT แล้ว พอดีศูนย์ไทยยานยนต์ขายทั้งฟอร์ดและมาสด้ามีรถเอามาจอดเทียบกัน ตอนนั้นรู้สึกทำไมมันชอบBT50มากกว่า ทั้งภายนอกภายใน มีอย่างเดียวคือราคาเท่ากันตอนนั้น ฟอร์ดได้อุปกรณ์ตกแต่งครบ(2.2WT) เอาไปเอามาจองBT50Proอีกคันบอกเซลล์ว่าคันไหนมาก่อนเอาคันนั้น
ส่วนเชฟเข็ดกับรายจ่ายตอนเข้าศูนย์บริการตั้งแต่ใช้รถเก๋งแล้ว แถมศูนย์ที่เข้าประจำสุขา3 ก็เปลี่ยนไปขายฟอร์ดแทนแล้ว ซื้อฟอร์ดหรือมาสด้าเข้าศูนย์หน้าบ้านสบายกว่า
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro มา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro มา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro มา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
เซลล์ที่ผมจองก็แจ้งมาแบบนี้เช่นกันครับ แต่ถ้าต้องการ 781 จริงๆ แนะนำที่คลับเลยครับ ผมเคยลองติดต่อดูกับเซลล์แถวพหลโยธิน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จองเนื่องจากผมไม่สะดวกในการเดินทางสักเท่าไหร่ สุดท้ายผมก็มาจบที่ 751 ศูนย์ใกล้บ้านนี่ล่ะครับ
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro มา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
เซลล์ที่ผมจองก็แจ้งมาแบบนี้เช่นกันครับ แต่ถ้าต้องการ 781 จริงๆ แนะนำที่คลับเลยครับ ผมเคยลองติดต่อดูกับเซลล์แถวพหลโยธิน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จองเนื่องจากผมไม่สะดวกในการเดินทางสักเท่าไหร่ สุดท้ายผมก็มาจบที่ 751 ศูนย์ใกล้บ้านนี่ล่ะครับ
ไมาทราบว่าคุยกันไปนานหรือยังครับ
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro รึมา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
เซลล์ที่ผมจองก็แจ้งมาแบบนี้เช่นกันครับ แต่ถ้าต้องการ 781 จริงๆ แนะนำที่คลับเลยครับ ผมเคยลองติดต่อดูกับเซลล์แถวพหลโยธิน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จองเนื่องจากผมไม่สะดวกในการเดินทางสักเท่าไหร่ สุดท้ายผมก็มาจบที่ 751 ศูนย์ใกล้บ้านนี่ล่ะครับ
ไมาทราบว่าคุยกันไปนานหรือยังครับ
เมื่อปลายเดือนกุมภานี่เองครับ
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro รึมา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
เซลล์ที่ผมจองก็แจ้งมาแบบนี้เช่นกันครับ แต่ถ้าต้องการ 781 จริงๆ แนะนำที่คลับเลยครับ ผมเคยลองติดต่อดูกับเซลล์แถวพหลโยธิน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จองเนื่องจากผมไม่สะดวกในการเดินทางสักเท่าไหร่ สุดท้ายผมก็มาจบที่ 751 ศูนย์ใกล้บ้านนี่ล่ะครับ
ไมาทราบว่าคุยกันไปนานหรือยังครับ
เมื่อปลายเดือนกุมภานี่เองครับ
ขอบคุณครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองโทรดู ขอให้มีสีที่อยากได้เหลืออยู่เถอะ ขี้เกียจรอ Colorado แบบลมๆแล้งละ
ว่าแต่จากที่ใช้มารุ่นนี้มีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าครับ
-
BT50 Pro Hiracer 2.2 MT มี 2 รุ่นย่อยนะครับ
- Hiracer 2.2 MT No ABS ราคา 751,000
- Hiracer 2.2 MT ABS ราคา 781,000
ตัว 781 จะมีอ็อพชั่นที่เพิ่มมาจาก 751 คือ ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และถุงลม 1 ลูกฝั่งคนขับครับ
โดยส่วนตัวพึงถอย BT50 Pro รึมา จากตอนแรกเลยที่ไม่ชอบหน้าตาของมันเอาซะเลย แต่ผ่านมาซักประมาณ 1 ปี เจ้านี้กลับเป็นกระบะที่โดนใจผมสุดๆ รูปร่างหน้าตานี่โอเคเลย หาข้อมูลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้มาขับซะงัั้น ภาพรวมถือว่าโอเคครับ พวงมาลัยตอบสนองดี ช่วงล้างหนึบกำลังดี อาจจะมีในช่วงความเร็วต่ำๆ ที่อาจจะรู้สึกว่ามันแข็งนิดๆ แต่ไม่ดีดไม่เด้งนะ การเข้าเกียร์ MT ต้องใช้แรงนิดนึง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่สิ่งที่อยากจะติอย่างหนึ่งคือการปิดประตูรถโดยเฉพาะประตูคู่หน้าต้องออกแรงเยอะพอสมควร แรกๆอาจจะยังไม่ชินครับ ใช้ไปสักพักน่าจะดีขึ้น
ปล. เป็นครั้งแรกที่ซื้อรถที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาดครับ จนถึงวันนี้ทุกอย่างยังโอเคอยู่ ;)
ที่ผมเล็งไว้คือตัว 781,000 บาทครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่มีถุงลมหมดไปหรือยัง เพราะที่สอบถามเซลล์มาเซลล์บอก stock ที่ 0 ไม่มีแล้วเพราะรุ่นนนี้เป็นรุ่นที่ Mazda ผลิตออกมาผิด spec ประมาณ 500 คัน หลังจากนั้น lot ที่ผลิตออกมาใหม่จะตัดถุงลมทิ้ง แต่ spec อื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างรวมทั้งราคาด้วย
เซลล์ที่ผมจองก็แจ้งมาแบบนี้เช่นกันครับ แต่ถ้าต้องการ 781 จริงๆ แนะนำที่คลับเลยครับ ผมเคยลองติดต่อดูกับเซลล์แถวพหลโยธิน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จองเนื่องจากผมไม่สะดวกในการเดินทางสักเท่าไหร่ สุดท้ายผมก็มาจบที่ 751 ศูนย์ใกล้บ้านนี่ล่ะครับ
ไมาทราบว่าคุยกันไปนานหรือยังครับ
เมื่อปลายเดือนกุมภานี่เองครับ
ขอบคุณครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองโทรดู ขอให้มีสีที่อยากได้เหลืออยู่เถอะ ขี้เกียจรอ Colorado แบบลมๆแล้งละ
ว่าแต่จากที่ใช้มารุ่นนี้มีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าครับ
สมาชิกในคลับก็เห็นมีบ้างนะครับ แต่น้อย ส่วนตัวผมเองยังไมเจอครับ ยังไม่ถึงสัปดาห์เลยครับ แฮ่ๆ หรือถ้าจะมีก็คงเป็นเพราะความใหญ่นี่ละครับ ลำบากนิดนึงในที่แคบ
-
Colorado มีหน้าตาสวย+เน้นดันราง 555 แต่ศูนย์บริการพัฒนาให้แย่ลงเรื่อยๆคับ
BT50 สำหรับผมหน้าตาเหมือนตัวอาไรไม่รุ้ใหญ่ๆที่ไม่ลงตัว เครื่องใช้ได้คับแต่ศูนย์บริการก้ไม่ใช่ว่าจะดีมากคับ
ที่ผมเน้นเรื่องศูนย์บริการเพราะผมเห็นว่ารถกระบะเผื่อใช้งานเยอะนะคับแต่ถ้าไม่ได้แคร์ไรมาก้ไม่ต้องสนคับ 555
-
เป็นผมซื้อเจ้า โด้ ครับ(ความชอบส่วนตัวนะครับ รูปทรง หน้าตา แต่ไม่เคยขับนะ)
ส่วน bt 50 pro ผมว่ามันแปลกๆอะโดยเฉพาะหน้ารถและท้าย
-
ผมไม่ไว้ใจเชฟครับ ตอนนี้ที่ศูนย์หาดใหญ่ มีป้ายแดงจอดซ่อมนับสิบๆคัน จากปัญหาที่ไม่ใช่มาจากอุบัติเหตุ :-X